ความมั่งคั่งและความยากจน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 26, 2006 12:20 pm
มานาประจำวัน - 2006/7/26
ความมั่งคั่งและความยากจน
อ่าน: สุภาษิต 30:1-9
--------------------------------------------------------------------------------
ขออย่าประทานความยากจน หรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่พอดีแก่ข้าพระองค์ - สุภาษิต 30:8
--------------------------------------------------------------------------------
อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: สดุดี 40-42 กิจการ 27:1-26
ความมั่งคั่งและความยากจนมีโอกาสที่จะทำลาย เราได้เท่าๆกัน การที่จนและรวย จนสุดโต่ง นับว่าอันตราย เพราะคนที่มีมากก็สามารถเผชิญกับความยากลำบากได้พอๆกับคนที่มีน้อย
อากูร์ ผู้เขียนสุภาษิตบทที่ 30 คงจะสัมผัสถึงอันตรายนี้ที่เขาได้อธิษฐานว่า ขอให้ความมุสาและ ความเท็จไกลจากข้าพระองค์ ขออย่าประทาน ความยากจนหรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่พอดีแก่ข้าพระองค์ เกรงว่าข้าพระองค์จะอิ่มและปฏิเสธพระองค์แล้วพูดว่า พระเจ้าเป็นผู้ใดเล่า หรือเกรงว่าข้าพระองค์ จะยากจนและขโมย และกระทำให้พระนามพระเจ้า ของข้าพระองค์เป็นมลทิน (สภษ.30:8-9)
คำขอเช่นนี้พบในบทเพลงสรรเสริญที่ไพเราะเพลงหนึ่ง ซึ่งประพันธ์โดย เบนจามิน ฮาลาน
พระเจ้าข้า....พระนามเลิศประเสริฐอันยิ่งใหญ่
โปรดจารึกในใจมิจางหาย
ไม่ว่าความรุ่งเรืองหรือภยันตราย
ไม่อาจทำลายสายใยรักของพระองค์
สุภาษิตบทที่ 30 เน้นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่เพลงบทนี้เน้นที่สภาพหัวใจของเรา บางทีเราควรจะอธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าทรงปกป้องเราในทั้งสองด้านของชีวิต
ดร.คาร์ลลี่ มาร์เนย์ ศาสนาจารย์ผู้มีชื่อเสียงกล่าวว่า พวกเราต้องแก้ไข นิสัยที่ อยากได้โน่นได้นี่ แทนที่จะเอาแต่ขอเพิ่มขึ้น เราควรจะแสวงหาความพอดีเหมือนในสุภาษิตบทที่ 30 มากกว่า
เมื่อเราเชิญองค์พระผู้เป็นเจ้ามาเป็นผู้ทรงครอบครองชีวิต เท่ากับเรายอมรับการทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นให้แก่เราด้วยพระปัญญาและความรัก
ความมั่งคั่งและความยากจน
อ่าน: สุภาษิต 30:1-9
--------------------------------------------------------------------------------
ขออย่าประทานความยากจน หรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่พอดีแก่ข้าพระองค์ - สุภาษิต 30:8
--------------------------------------------------------------------------------
อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: สดุดี 40-42 กิจการ 27:1-26
ความมั่งคั่งและความยากจนมีโอกาสที่จะทำลาย เราได้เท่าๆกัน การที่จนและรวย จนสุดโต่ง นับว่าอันตราย เพราะคนที่มีมากก็สามารถเผชิญกับความยากลำบากได้พอๆกับคนที่มีน้อย
อากูร์ ผู้เขียนสุภาษิตบทที่ 30 คงจะสัมผัสถึงอันตรายนี้ที่เขาได้อธิษฐานว่า ขอให้ความมุสาและ ความเท็จไกลจากข้าพระองค์ ขออย่าประทาน ความยากจนหรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่พอดีแก่ข้าพระองค์ เกรงว่าข้าพระองค์จะอิ่มและปฏิเสธพระองค์แล้วพูดว่า พระเจ้าเป็นผู้ใดเล่า หรือเกรงว่าข้าพระองค์ จะยากจนและขโมย และกระทำให้พระนามพระเจ้า ของข้าพระองค์เป็นมลทิน (สภษ.30:8-9)
คำขอเช่นนี้พบในบทเพลงสรรเสริญที่ไพเราะเพลงหนึ่ง ซึ่งประพันธ์โดย เบนจามิน ฮาลาน
พระเจ้าข้า....พระนามเลิศประเสริฐอันยิ่งใหญ่
โปรดจารึกในใจมิจางหาย
ไม่ว่าความรุ่งเรืองหรือภยันตราย
ไม่อาจทำลายสายใยรักของพระองค์
สุภาษิตบทที่ 30 เน้นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่เพลงบทนี้เน้นที่สภาพหัวใจของเรา บางทีเราควรจะอธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าทรงปกป้องเราในทั้งสองด้านของชีวิต
ดร.คาร์ลลี่ มาร์เนย์ ศาสนาจารย์ผู้มีชื่อเสียงกล่าวว่า พวกเราต้องแก้ไข นิสัยที่ อยากได้โน่นได้นี่ แทนที่จะเอาแต่ขอเพิ่มขึ้น เราควรจะแสวงหาความพอดีเหมือนในสุภาษิตบทที่ 30 มากกว่า
เมื่อเราเชิญองค์พระผู้เป็นเจ้ามาเป็นผู้ทรงครอบครองชีวิต เท่ากับเรายอมรับการทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นให้แก่เราด้วยพระปัญญาและความรัก