Belong to the Truth Jesus Christ

ตั้งให้ตื่นเต้นไปงั้นแหละ จริง ๆก็คืออยากรู้ว่า

ควร จะหนุนใจ  เตือนใจอย่างไรดี เมื่อรู้ว่าสัตบุรุษกำลังจะสิ้งวัด เพราะความประพฤติที่ไม่สู้ดีนัก ของพระสงฆ์

หมายเหตุ*

คือเนื่องจากว่า ได้ยินเรื่องราวที่ไม่ดี ของพระสงฆ์เยอะมาก ตั้งแต่ เรื่องพาผุ้หญิงนอนบ้าน เจ้าชู้ มีแม่ยก ต่อยตี เพราะเงิน และอีก นานาประการ เป็นเหตุให้หลายคนทิ้งวัด แรก ๆ ก็รู้สึกว่าพวกเขาเหล่านี้ ช่างไม่รู้จักแยกแยะ พระสงฆ์ กับพระวาจาเสียเลย อะไรกันแน่ที่ควรยึดถือ

แต่ว่า ตอนนี้ ชักเห็นกับตา และหวั่นเกรงว่า ว่าจะหนักข้อขึ้น ไอ้ลำพังเราเอง ยังพอทน แต่ก็ไม่อยากเห็นคนทิ้งวัดเพราะเรื่องไม่ดีของพระสงฆ์

ควรทำไงดีคะ ควรจะเตือนกันอย่างไรดี     

เตือนตรงๆครับ

สวดให้กับพระสงฆ์มากๆ  ส่วนสัตบุรุษก็บอกอย่าทิ้งวัดด้วยเรื่องนี้  ถ้าเรารักพระศาสนจักรของเรา  เหมือนรักครอบครัวเรา  พอพ่อเราทำผิด  แน่นอนต้องเสียความรู้สึก    แต่...... พ่อก็คือพ่อ  เราจะทิ้งพ่อเราไปได้ยังไง  ถ้ารักกันจริง  ก็ต้องเตือนกัน  ก็บอก  พ่อ ลูกห่วงพ่อนะ  บางทีพูดแค่นี้พ่อก็รู้สึกแล้ว 

และอีกอย่าง  สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด  เพราะฉะนั้น  อย่าเพิ่งตัดสิน  ที่จริงก็คือ  อย่าตัดสินเป็นดีที่สุด  ถ้าสงสัยจริงๆ  ไปบอกพระสังฆราช  หรือพ่อเจ้าคณะ  อย่าปล่อยให้เป็น  rumor ไม่งั้นมีแต่เสียกับเสีย 

สมมติมีคนปล่อยข่าวนะว่า  พ่อองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์นะ  รู้สึกจะมีพระพรพิเศษด้วย  กับอีกคนบอก  พ่อองค์นี้เอาผู้หญิงมานอน  คนก็จะหูผึ่ง  และเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยกับอย่างหลังทันที  ซึ่ง  บางทีก็ไม่ค่อยยุติธรรมกับพระสงฆ์เหมือนกัน  แถมบางทีสามารถหาเหตุผลมาสนับสนุนได้ด้วยนะ 

ที่อเมริกา  เมืองที่อยู่ มีบ้านเณร 2  แห่ง  กำลังจะถูกปิดเพราะสังฆมณฑลแพ้คดี และต้องขายบ้านเณรเพื่อจ่ายค่าชดเชย  ซึ่ง.....  การแพ้คดีทางโลก  ก็ไม่ได้แปลว่าผิดจริง  เพราะบางครั้งคนที่ถูกฟ้อง  ตายไปแล้วอยู่ในหลุมก็มี  ฟังแล้วเศร้า  ปีสาจมันทำงานทีนี่  ได้หลายต่อเลย 

เห็นด้วยกับน้องโฮลี่ และน้องบัดดี้  ถ้าเรื่องจริง ให้เตือนท่านตรงๆ ขอประปัญญาจากพระเจ้า ที่จะมีวิธีบอก ถ้าจริงบอกตรงๆแล้ว ยังไม่เปลี่ยนแปลง บอกระดับ เจ้าคณะ พระคุณเจ้าไปตามลำดับ

ใครที่ได้ยินเรื่องแบบนี้ อย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์ เพราะบ่อยครั้งไม่ใช่เรื่องจริง แต่การเห็นด้วยตา ที่ต้องทำให้คิดลึก ไม่ใช่เป็นการกระทำอย่างที่เราคิดเสมอ    บาทหลวงท่านทำงาน/ทำพันธกิจกับมนุษย์ และส่วนใหญ่ พวกที่ศรัทธา มักจะเป็นสตรี
สตรีส่วนใหญ่ ที่พบปะทำงานร่วมกับบาทหลวง ก็ไม่ได้มีจิตใจปฏิพัทธ์อะไรกันทางชู้สาว แต่ก็โดนเม้าส์ ก็ทำให้เสียหายกันทุกๆฝ่าย เราต้องอย่าลืม ว่าการมุสา ว่าร้ายคนอื่นนั้น ต้องรับผิดชอบต่อพระเจ้าโดยตรงนะคะ

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: แต่ว่า ตอนนี้ ชักเห็นกับตา และหวั่นเกรงว่า ว่าจะหนักข้อขึ้น ไอ้ลำพังเราเอง ยังพอทน แต่ก็ไม่อยากเห็นคนทิ้งวัดเพราะเรื่องไม่ดีของพระสงฆ์

ควรทำไงดีคะ ควรจะเตือนกันอย่างไรดี     

ที่ไหนครับ จะได้แจ้งพระสังฆราชได้ถูก

ภาวนาให้ก่อน แล้วค่อยทำตามที่พี่ๆ ทั้งหลายแสดงความคิดเห็น  เมื่อทำทุกอย่างแล้วเราต้องสงบปากคำ อย่าให้ความเสื่อมเสียทั้งหลายมาจากปากของเราเอง  เพราะปากมักจะเป็นที่มาของปัญหา แล้ววิ่งไปที่ใจที่จะอคติตาม

ขอเพิ่มเติมสำหรับสัตบุรุษนะคะ  คนที่คิดจะทิ้งวัดเพราะเรื่ิองนี้เนี่ย  อยากให้เค้าคิดถึงตอนที่เค้าได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อในด้านต่างๆ  โดยเฉพาะด้านวิญญาณ  เวลาคุณตกใบาป  พ่อช่วยคุณ  แต่เวลาพ่อตกในบาป  คุณทิ้งพ่อ  แทนที่คุณจะสวดให้พ่อ  ช่วยพ่อเท่าที่จะช่วยได้  คุณกลับทิ้งพ่อ  ทิ้งพระ  มันแล้งน้ำใจเกินไปมั้ยคะ  การบอกพระสังฆราช  เป็นการช่วยพ่อให้พ่อได้รับความยุติธรรม  พระให้คุณมาเยอะ  แต่พอมีอะไรไม่ได้ดั่งใจ  แทนที่จะสวดขอพระ  กลับทิ้งพระ  เข้าใจว่า  คนเรามีงอนกันได้  แต่ขอร้อง  อย่างอนนาน  หายงอนแล้วให้รีบสวด   : xemo017 :

ที่จริง  พระเป็นเจ้าไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนี้เลย  พระองค์รักพระสงฆ์ของพระองค์  และรักสัตบุรุษด้วย  พระองค์รู้ว่า  เรื่องนี้ เรื่องใหญ่  การภารนาคนเดียว ตัวใครตัวมัน อาจไม่ได้ผล  จึงมี  prayer movement  หลายอย่างเกิดขึ้น  ที่รู้จักก็มี Shepherds of Christ Associates .....  Marian Movement for Priests (Cenacle Prayer)   ที่เมืองไทยก็มีกลุ่มภาวนาเซนาเิกิล ใช่มั้ยคะ  เข้าร่วมภาวนากับกลุ่มเหล่านี้สิคะ   : emo045 :

ตั้งให้ตื่นเต้นไปงั้นแหละ จริง ๆก็คืออยากรู้ว่า

ใจเย็นอีหนู ไม่ใช่เรื่องแปลก เห็นหัวข้อกระทู้รีบเข้ามาแทบไม่ทัน




ควร จะหนุนใจ  เตือนใจอย่างไรดี เมื่อรู้ว่าสัตบุรุษกำลังจะสิ้งวัด เพราะความประพฤติที่ไม่สู้ดีนัก ของพระสงฆ์

หมายเหตุ*

คือเนื่องจากว่า ได้ยินเรื่องราวที่ไม่ดี ของพระสงฆ์เยอะมาก ตั้งแต่ เรื่องพาผุ้หญิงนอนบ้าน เจ้าชู้ มีแม่ยก ต่อยตี เพราะเงิน และอีก นานาประการ เป็นเหตุให้หลายคนทิ้งวัด แรก ๆ ก็รู้สึกว่าพวกเขาเหล่านี้ ช่างไม่รู้จักแยกแยะ พระสงฆ์ กับพระวาจาเสียเลย อะไรกันแน่ที่ควรยึดถือ

แต่ว่า ตอนนี้ ชักเห็นกับตา และหวั่นเกรงว่า ว่าจะหนักข้อขึ้น ไอ้ลำพังเราเอง ยังพอทน แต่ก็ไม่อยากเห็นคนทิ้งวัดเพราะเรื่องไม่ดีของพระสงฆ์

ควรทำไงดีคะ ควรจะเตือนกันอย่างไรดี


ในมุมสัตบุรุษ ควรบอกเขาว่า ไม่ควรยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่าพระ อะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นคุณพ่อทราบดีที่สุด ว่า ตัวเองทำอะไร เขาคงต้องไปรับกับเบื้องบนเอง


ในมุมคุณพ่อ ไม่มีใครฟังหรอกในสิ่งที่เราจะเตือนอ่ะ สิ่งที่บรรดาพวกคุณพ่อกลัวมากที่สุดคือ การมีแม่คนที่ 2 อันนี้ออกจากปากบรรดาคุณพ่อเอง  ทางที่ดีภาวนาให้คุณพ่อกลับใจดีที่สุด (ถ้าเป็นเรื่องจริง)    

แต่ผมเคยนะ คุยตรงๆเตือนตรงๆ มันเป็นสิ่งแรกที่จะทำอ่ะครับ จะบอกก่อนเลยว่า ผมไม่ได้มาด่าพ่อนะ แล้วก็ไม่ได้มาสอน
แต่มาบอกให้พ่อทราบว่า มีข่าวอะไรของพ่อ และคนคิดยังไงกับพ่อ แล้วพ่อจะแก้ไขยังไงก็แล้วแต่พ่อ

ผมว่า บรรดาคุณพ่อไม่ได้กลัวหรอกครับ แม่คนที่2 แต่คงไม่ชอบมากกว่า เพราะภาวะผู้นำในตัวบาทหลวงเองที่ถูกปลูกฝังมาให้เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ เป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ แต่ในขณะเดียวกัน ท่านก็มีคำปฏิญาณไว้ เกี่ยวกับความนบนอบ

ในส่วนของ คริสตชนคงทำหน้าที่ได้แค่ เตือนด้วยความรัก ภาวนาให้ท่าน หากเห็นว่าจะเสียหายมาก ก็คงต้องแจ้ง พระสังฆราชเพราะพระศาสนจักรก็เป็นส่วนร่วมของพวกเราทุกคนมีหน้าที่ต้องทำนุบำรุงด้วย แต่ทั้งหมดขอให้เป็นไปด้วยความรักเป็นสำคัญนะครับ ไม่ใช้อยากให้ทุกอย่างเป็นไปดังใจเรา เราคงทำได้ดีที่สุดแค่นั้นครับ ตามความเห็นของผม

ผมว่าเราช่วยกันสวดภาวนาให้เค้ากลับใจดีกว่านะครับ

เห็นด้วยกับที่คุณ Holy ว่านะ
เป็นผมก็คงจะทำอย่างนั้นเช่นกัน คือไปเรียนให้พ่อท่านนั้นทราบ
ว่ามีคนกำลังพูดถึงท่านเรื่องอะไร เพราะ

1. กรณีที่มันไม่ได้เป็นเรื่องจริง  ก็จะทำให้ท่านได้ระมัดระวังตัวมากขึ้น
     กับพวกปากหอยปากปูพวกนี้ เพื่อไม่ให้เรื่องราวมันยิ่งลามปามออกไปใหญ่
2. กรณีที่มันไม่ได้เป็นเรื่องจริง   และท่านให้คำอธิบายเรื่องราวที่แท้จริงให้เราฟัง
    ก็เป็นประโยชน์กับตัวเราที่จะได้ไม่เก็บไปมีอคติกับท่านส่วนตัวอยู่ตลอดเวลา
    หรือนำไปพูดกับใครให้มันเป็นบาปกับตัวเองเปล่าๆ
    และบางทีก็อาจจะเป็นเรื่องดีด้วย เพราะเราอาจเป็นคนช่วยแก้ข่าวให้กับท่าน
3. กรณีที่มันเป็นเรื่องจริง  อย่างน้อยก็ช่วยเตือนสติท่าน ใครจะไปรู้ได้
    บางทีพระอาจจะใช้เราเป็นเครื่องมือ ช่วยให้พระสงฆ์ท่านหนึ่งได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
    ก็เป็นได้  หรืออย่างน้อย ก็ได้ทำให้ท่านชั่งใจมากขึ้น เพื่อยิ่งไม่เป็นที่สะดุดแก่ผู้อื่น

สุดท้าย ถ้าการเตือนนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ ก็คงจะเขียนไปแจ้งให้พระคุณเจ้าทราบในภายหลัง
หากเรามั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ไปฟังเค้ามาอีกที

สมัยผมเป็นเด็ก จำได้ว่าเคยมีบราเดอร์จากแสงธรรมท่านหนึ่ง มาสอนคำสอนที่วัด
ท่านน่ารักมาก หน้าตาดี และนิสัยดี ทราบมาว่าภายหลังก็ได้เป็นพระสงฆ์อยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง
แต่ปัจจุบันนี้ ก็ไม่ได้มีชื่อพระสงฆ์ท่านนี้อีกแล้วในโผโยกย้ายพระสงฆ์  เฮ้อ...น่าเสียดาย

ดังนั้น ผมจึงเห็นว่าเรื่องแบบนี้ เราไม่ต้องไปเป็นห่วงมากหรอก
พระจัดการคนของพระองค์เองได้   และใครจะไปรู้ได้ หากเป็นแผนการณ์ของพระ
ที่จะให้เวลาคุณพ่อท่านนั้นอีกซักหน่อย เพื่อกลับใจแก้ไขตัวเอง เหมือนที่
พระองค์ก็ได้ให้เวลาเช่นนี้ กับคนบาปอย่างพวกเราทุกคนเหมือนๆ กัน
ไม่ใช่หน้าที่เราต้องรีบไปตัดสิน หรือเล่นงานใคร ผมว่านะ
ควรส่งเรื่องไป และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในพระศาสนจักรดีกว่า

เพียงการเตือนที่สุภาพ และการสวดภาวนาให้กับท่านนี่ล่ะ สมควรทำที่สุด
ถ้าไม่กล้าเข้าไปเตือนต่อหน้า  เขียนไปบอกพระสงฆ์ท่านนั้นก็ยังดี
และที่จริง ที่บอกว่า ได้ยินแต่ข่าวที่ไม่ดีของพระสงฆ์เนี่ย  เยอะมาก
ถามจริงๆเหอะ  มันกี่คน

ที่ผมกลัวก็คือ เมื่อมีใครบางคนที่แค้นเคืองกับพ่อเจ้าวัด ด้วยเรื่องส่วนตัว
แล้วปั้นเรื่องพวกนี้มาสร้างความเสียหายให้กับท่าน โดยใช้เราเป็นเครื่องมือ
กระจายข่าวไปทั่วนี่ล่ะ  เพราะถ้ามันไม่ได้เป็นเรื่องจริง มันก็คงไม่ต่างกับ
กำลังช่วยเค้าทำร้ายคนของพระ ไปซะอีก

อย่างที่คุณพีพีสังเกตนั่นล่ะ ก็ดูว่ามักจะมีแต่สตรีใจศรัทธา
มาช่วยงานวัดซะเป็นส่วนใหญ่  จึงเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าพ่อองค์ไหน
ที่ไม่ค่อยระวังตัว ทำตัวสบายๆๆ เป็นกันเองกับลูกๆเกินไป
ก็อาจจะเกิดศึกกลางเมือง แย่งกัน "นี่พ่อของฉัน .. ของเธอมันคนนู้นคนนี้"
แล้วถ้าไม่ได้ดั่งใจ ก็อาจจะต้องตีข่าวใส่กันให้สะใจกันซะเลย 

มีคนเคยเสนอว่า แล้วทำไมพวกพระสงฆ์ไม่ไปเลือกคุยแต่กับ
คนแก่ และเด็กๆ ไปเลยล่ะ จะได้ปลอดภัยดี ไม่เป็นที่ติฉินนินทา
ก็มานั่งนึกอีกที ก็ไอ้ที่ทำๆบาปกัน มีกิเลสเยอะๆ ก็ดันเป็นพวกหนุ่มสาว
ไม่ก็พวกวัยกลางคนกันทั้งนั้น  ไม่สอนคนพวกนี้จะให้ไปสอนคนพวกไหน

เด็กๆ ก็ยังดูไร้เดียงสาเกินไป คนแก่ๆ ก็เตรียมตัวตายกันหมดแล้ว
มีแต่พวกหนุ่มสาว วัยกลางคนนี่ล่ะ ที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้จักคิด
ไม่ให้พ่อมาสนใจคนพวกนี้ จะรอให้แก่ๆกันหมดก่อนเหรอ แล้วมันจะได้ผลไหมเนี่ย

ส่วนพวกผู้ชาย ก็ไม่ค่อยจะมาวัดกัน หรือมาแล้วก็รีบบึ่งกลับบ้านกันหมด
ยิ่งยุคสมัยนี้ ผมว่าบางที เมื่อพระสงฆ์ระวังตัวเรื่องนี้จนเกินไป อีกหน่อยเราอาจจะ
ต้องมาพะวงกับข่าวที่ว่า พ่อหลายองค์เป็นเกย์แน่ๆ ชอบไปไหนกับหนุ่มๆหล่อๆ
เหมือนที่อเมริกา ก็ดูว่าเคยมีข่าวพวกนี้อยู่บ้าง

สรุป ปีศาจก็คงยังเป็นปีศาจ มีวิธีการเล่นงานคนได้อยู่ตลอด
ตอนนี้ สวดเยอะๆเพื่อพระศาสนจักรของเราอะ ดีที่สุด

อืมม์ เรื่องพระสงฆ์เนี่ย ไม่ห่วงหรอกนะ เพราะเชื่อว่า พระเป็นเจ้าจะจัดการเอง

แต่บรรดาพี่น้องเราเนี่ยสิ ที่อยากจะให้ช่วยกันคิด ว่าทำอย่างไร จะไม่ให้เขาทิ้งวัด เหตุแค่พระสงฆ์ทำตัวไม่ดีเนี่ย ไอ้ครั้นจะอธิบายให้เห็นคุณความดีของพระสงฆ์ก็คงจะป่วยการ เพราะคงมีหลายกรณี ที่พระสงฆ์ ก็ผิดจริง ๆ เห้นกันคาตา ซึ่งอยากให้พวกเราคิดถึงตรงนี้ด้วย ในเมื่อยอมรับว่าเรื่องไม่ดี มีอยู่จริง 

และเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า พระสงฆ์ เวลามีพฤติการร์ที่ส่อไปทางไม่บริสุทธิ์ เนี่ย ชาวบ้าน เขายังให้โอกาสนะ จนผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือมีพฤติกรรมโจ่งแจ้งนั้นแหละ ถึงได้มีการจัดการ แต่ในระหว่างนั้น ก็อาจจะมีคนไม่น้อยเลย ที่อาจจะทิ้งวัดไปแล้ว

อ้อ และอยากจะบอกว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของวัดใดวัดหนึ่ง แต่มันเป็นเรื่องโดยรวม ๆของสังคม คาทอลิก  ก็เลยอยากฟังดู ว่าพวกเรามี่ความเห็นย่างไร จะช่วยกันอย่างไร เท่านั้นเองค่ะ

สำหรับพระสงฆ์ เขาได้เลือกของเขา ผลที่เกิด ขึ้นเขาก็ต้องรับเอง ซึ่งไม่อยากสนใจ เราก็ไม่คุยกันว่า พระสงฆ์ผิดจริงหรือไม่จริงนะคะ

แต่เห็นด้วยกับทุกท่าน ที่ใช้วิธีเตือนพระสงฆ์ แจ้งพระสังฆราช และสวดภาวนาให้กับท่านค่ะ และ รู้สึกเศร้าใจกับเรื่องที่บัดดี้เล่า เรื่องขายบ้านเณร เนี่ย เจ็บปวดเนอะ ขยาดวัดยังพอทนที่ไหนก็เป็นวัดได้ แต่ขายบ้านเณรที่เจ็บปวดมากเลย แหล่งเพาะเมล็ดพันธุ์ ซีนาปีส โดยแท้ 

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: แต่บรรดาพี่น้องเราเนี่ยสิ ที่อยากจะให้ช่วยกันคิด ว่าทำอย่างไร จะไม่ให้เขาทิ้งวัด เหตุแค่พระสงฆ์ทำตัวไม่ดีเนี่ย ไอ้ครั้นจะอธิบายให้เห็นคุณความดีของพระสงฆ์ก็คงจะป่วยการ
อ้อ และอยากจะบอกว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของวัดใดวัดหนึ่ง แต่มันเป็นเรื่องโดยรวม ๆของสังคม คาทอลิก  ก็เลยอยากฟังดู ว่าพวกเรามี่ความเห็นย่างไร จะช่วยกันอย่างไร เท่านั้นเองค่ะ

เคยเจอแหม่มคนหนึ่ง โตและเรียนในคอนแวนต์
แต่ปัจจุบันทิ้งวัดไปแล้ว เธอให้เหตุผลว่า
คาทอลิกโหดเหี้ยมในการเผยแพร่ศาสนา เช่นในอเมริกาใต้

ที่เล่านี้เพื่อที่จะบอกว่า คนจะทิ้งวัดเขาจะหาเหตุผลมาประกอบ
ต่างๆนานาเพื่อให้การไม่ไปวัดของเขามีเหตุผล แบบของเขา

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: แต่บรรดาพี่น้องเราเนี่ยสิ ที่อยากจะให้ช่วยกันคิด ว่าทำอย่างไร จะไม่ให้เขาทิ้งวัด เหตุแค่พระสงฆ์ทำตัวไม่ดี

อ้อ และอยากจะบอกว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของวัดใดวัดหนึ่ง แต่มันเป็นเรื่องโดยรวม ๆของสังคม คาทอลิก  ก็เลยอยากฟังดู ว่าพวกเรามี่ความเห็นย่างไร จะช่วยกันอย่างไร เท่านั้นเองค่ะ

ก็อาจจะเข้าไปสะกิดถามสัตบุรุษที่ทิ้งวัดคนนั้นว่า
"ตกลงนี่ ความรอดของคุณ มันขึ้นอยู่กับพระสงฆ์องค์นั้นใช่ไหม"
แค่นี้ล่ะ


เผลอๆนะ ใครจะไปรู้ ถ้าพ่อองค์นั้น เกิดมากลับใจทัน แล้วได้เข้าสวรรค์
แต่ตัวคนที่ไปรังเกียจการกระทำของพระสงฆ์องค์นั้น  กลับไม่ได้เข้านี่สิ

เห็นด้วนกับ คุณHoly  น้องBuddy และเจ๊ฟิมค่ะ  สวดให้พวกเค้าเยอะๆ คะ แล้วพระเจ้าจะแก้ไขทุกสิ่งเอง

พระยาเวห์ เป็นความสว่าง และเป็นความรอดของข้าพเจ้า

Q เขียน:
ส่วนพวกผู้ชาย ก็ไม่ค่อยจะมาวัดกัน หรือมาแล้วก็รีบบึ่งกลับบ้านกันหมด
ยิ่งยุคสมัยนี้ ผมว่าบางที เมื่อพระสงฆ์ระวังตัวเรื่องนี้จนเกินไป อีกหน่อยเราอาจจะ
ต้องมาพะวงกับข่าวที่ว่า พ่อหลายองค์เป็นเกย์แน่ๆ ชอบไปไหนกับหนุ่มๆหล่อๆ
เหมือนที่อเมริกา ก็ดูว่าเคยมีข่าวพวกนี้อยู่บ้าง

สรุป ปีศาจก็คงยังเป็นปีศาจ มีวิธีการเล่นงานคนได้อยู่ตลอด
ตอนนี้ สวดเยอะๆเพื่อพระศาสนจักรของเราอะ ดีที่สุด

ชอบคำตอบพี่ Q จัง ยืดยาว ได้เรื่อง ได้ น่าอ่าน และให้ข้อคิดที่ดี
หนูเชื่อว่าให้เราทำส่วนของเราดีที่สุด และแสดงความรักพระเยซูเจ้า
โดยรัก พระสงฆ์ของพระองค์ อุทิศคำภาวนาให้พวกท่าน  โดยเฉพาะถ้าคนไหน
ที่เราฟัง เราเห็นว่ามีปัญหา วิงวอนเพื่อพวกท่านเป็นพิเศษ  ฝ่ายเราคริสเตียนเรียกว่า
การอธิษฐานวิงวอน แก่คนงานของพระ คือการทำสงครามฝ่ายจิตวิญญาณ

วันหนึ่งเราจะดีใจ และภูมิใจ ที่มีส่วนดูแล ห่วงใย สงฆ์ของพระเยซูเจ้า ด้วยคำภาวนา
และไม่ แหกปาก แพร่งพราย ไม่ว่าจริงหรือไม่  และทำตามหลายๆข้อที่พี่ Q เสนอแนะ

พี่Q ฮะ ที่พี่ว่า ปัจจุบันไม่เห็นโผโยกย้าย ของพระสงฆ์ท่านนั้น หมายถึงท่านถูกปลดเหรอ ฮะ

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: อืมม์ เรื่องพระสงฆ์เนี่ย ไม่ห่วงหรอกนะ เพราะเชื่อว่า พระเป็นเจ้าจะจัดการเอง

แต่บรรดาพี่น้องเราเนี่ยสิ ที่อยากจะให้ช่วยกันคิด ว่าทำอย่างไร จะไม่ให้เขาทิ้งวัด เหตุแค่พระสงฆ์ทำตัวไม่ดีเนี่ย ไอ้ครั้นจะอธิบายให้เห็นคุณความดีของพระสงฆ์ก็คงจะป่วยการ เพราะคงมีหลายกรณี ที่พระสงฆ์ ก็ผิดจริง ๆ เห้นกันคาตา ซึ่งอยากให้พวกเราคิดถึงตรงนี้ด้วย ในเมื่อยอมรับว่าเรื่องไม่ดี มีอยู่จริง 

และเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า พระสงฆ์ เวลามีพฤติการร์ที่ส่อไปทางไม่บริสุทธิ์ เนี่ย ชาวบ้าน เขายังให้โอกาสนะ จนผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือมีพฤติกรรมโจ่งแจ้งนั้นแหละ ถึงได้มีการจัดการ แต่ในระหว่างนั้น ก็อาจจะมีคนไม่น้อยเลย ที่อาจจะทิ้งวัดไปแล้ว

อ้อ และอยากจะบอกว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของวัดใดวัดหนึ่ง แต่มันเป็นเรื่องโดยรวม ๆของสังคม คาทอลิก  ก็เลยอยากฟังดู ว่าพวกเรามี่ความเห็นย่างไร จะช่วยกันอย่างไร เท่านั้นเองค่ะ

สำหรับพระสงฆ์ เขาได้เลือกของเขา ผลที่เกิด ขึ้นเขาก็ต้องรับเอง ซึ่งไม่อยากสนใจ เราก็ไม่คุยกันว่า พระสงฆ์ผิดจริงหรือไม่จริงนะคะ

แต่เห็นด้วยกับทุกท่าน ที่ใช้วิธีเตือนพระสงฆ์ แจ้งพระสังฆราช และสวดภาวนาให้กับท่านค่ะ และ รู้สึกเศร้าใจกับเรื่องที่บัดดี้เล่า เรื่องขายบ้านเณร เนี่ย เจ็บปวดเนอะ ขยาดวัดยังพอทนที่ไหนก็เป็นวัดได้ แต่ขายบ้านเณรที่เจ็บปวดมากเลย แหล่งเพาะเมล็ดพันธุ์ ซีนาปีส โดยแท้ 

พี่จอมนางจ๋า ให้เราทำส่วนของเราดีที่สุดนะฮะ  อย่าไปวิตกกังวล มอบถวายเรื่องนั้นๆไว้กับพระเจ้า
วิงวอนพระเยซูด้วยนำตาละกัน  แต่ถ้าสัตบุรุษคนไหนทิ้งวัด อ้างว่าเพราะว่าพระสงฆ์
หนูว่าเขา เป็นแค่เมล็ด ที่งอก อยู่ข้างทาง ให้นกกา จิกกิน  เพราะว่า ความ ความรอด
ผ่านความเชื่อและวางใจในพระเยซูคริสต์  ถ้าเขาสะดุดที่วัดนี้ ยังมีอีกหลายวัดให้ไป
ใช่ว่าพระสงฆ์จะเลวไปทุกวัดนี่หรือวัดหนึ่งๆ จะเลวทุกคน นี่หนูไม่อยากให้เราผู้เชื่อ ฝากใจไว้กับมาร
พี่น้องคริสตังยังดีกว่าเราคริสเตียน ยังมีพระรูปของพระเยซูเจ้า มองเข้าไปที่พระพักตร์ จ้องพระเนตรพระองค์
รับรองได้คำตอบ ฮะ : xemo026 :

Jeab Agape เขียน:
ชอบคำตอบพี่ Q จัง ยืดยาว ได้เรื่อง ได้ น่าอ่าน และให้ข้อคิดที่ดี
หนูเชื่อว่าให้เราทำส่วนของเราดีที่สุด และแสดงความรักพระเยซูเจ้า
โดยรัก พระสงฆ์ของพระองค์ อุทิศคำภาวนาให้พวกท่าน  โดยเฉพาะถ้าคนไหน
ที่เราฟัง เราเห็นว่ามีปัญหา วิงวอนเพื่อพวกท่านเป็นพิเศษ  ฝ่ายเราคริสเตียนเรียกว่า
การอธิษฐานวิงวอน แก่คนงานของพระ คือการทำสงครามฝ่ายจิตวิญญาณ

วันหนึ่งเราจะดีใจ และภูมิใจ ที่มีส่วนดูแล ห่วงใย สงฆ์ของพระเยซูเจ้า ด้วยคำภาวนา
และไม่ แหกปาก แพร่งพราย ไม่ว่าจริงหรือไม่   และทำตามหลายๆข้อที่พี่ Q เสนอแนะ

พี่Q ฮะ ที่พี่ว่า ปัจจุบันไม่เห็นโผโยกย้าย ของพระสงฆ์ท่านนั้น หมายถึงท่านถูกปลดเหรอ ฮะ

  " เออ "

(สั้นดีไหมเจี๊ยบ) 

Q เขียน:

Jeab Agape เขียน:


พี่Q ฮะ ที่พี่ว่า ปัจจุบันไม่เห็นโผโยกย้าย ของพระสงฆ์ท่านนั้น หมายถึงท่านถูกปลดเหรอ ฮะ[/color][/b]

   " เออ "

(สั้นดีไหมเจี๊ยบ)   : emo027 :

    " ฮะ "
   
              ( รับทราบฮะ พี่ Q )

อึ๋ย.... ขอแจมคะ

อยู่ต่างจังหวัด มันบ่อมีวัดเข้าได้มากนักเด้อ

และเข้าใจอารมรื เซ็ง ผิดหวัง เบื่อ หดหู่ ตอนแรก ก็นึกไม่ออก พอชักเปิดใจรับฟังมากเข้า และเริ่ม ใกล้ชิดความจริง ก็พอเข้าใจ อารมณ์คน "อยาก" จะทิ้งวัด คงต้องให้เวลาอีกสักพัก หวังว่าจะไม่นานเกินไป

จำเรื่องบุตรสองคนที่พระเยซูเจ้าเล่าให้เราฟังได้ไหม (มธ.21:28-32)
ถ้าพระสงฆ์องค์นั้น เปรียบได้กับลูกชายที่รับปากพ่อว่า จะไปช่วยทำงาน
แต่แล้วกลับไม่ไป  แล้วเราคือลูกอีกคน

เรากลับมานั่งคิดว่า ขนาดไอ้คนที่มันรับปากพ่อ (ผ่านทางศีลบวช)
ยังไม่ไปช่วยพ่อเลย  เราซึ่งไม่ได้รับปาก (แค่ฆราวาสคนหนึ่ง) ไมจะต้อง
ไปเดือดร้อนด้วย  ก็ให้พ่อทำงานในสวนไปคนเดียวเถอะ

ผมคิดว่านะ
ถ้าเรารักพ่อเราจริง   อย่าเอาอะไรมาอ้างดีกว่า
(ถ้าพระสงฆ์ยังเป็นแบบนี้  ฉันไม่ไปหรอกวัดน่ะ)

อย่าเอามาอ้างดีกว่า
เพราะว่า
ไม่สำคัญหรอก ลูกคนไหนจะทำตัวอย่างไร
เราทำตัวเป็นลูกแบบไหนมากกว่า

เพราะถ้าเราไม่เข้าไปช่วยพ่อทำงานในสวน
มันก็คงไม่ได้ต่างจาก พระสงฆ์ที่ทำผิดองค์นั้นหรอก
ความผิดมันก็เท่ากันแหละ  แย่ด้วยกันทั้งคู่

เห็นด้วยกับคุณพี่ Q ฮับ...

ถ้าคนหนึ่งจะต้องไปนรก...แล้วเราทำไมจะต้องตามเขาไปด้วยล่ะฮับ

ชีวิตแต่ละคน ก็เป็นของแต่ละคน เมื่อถึงเวลาต่อหน้าการพิพากษา

อ้างใครไม่ได้หรอกฮับ....เพราะเราแต่ละคน มีสิทธิ์เต็มที่ในการเลือกฮับ

ต่อให้ใครเอาปืนมาจี้ให้ทำชั่ว เราก็ยังมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะไม่เอาด้วยฮับ...และมรณสักขีก็เป็นแบบอย่างมากมาย

เอ่อ แล้วถ้าเขาไปวัด แต่พอพ่อเทศน์ เขาก็ออกมาล่ะ อันนี้ก็ถือว่าพอไหว ไม๊ เพราะว่าอย่างไร สิ่งสำคัญ คือการไปฟังพระวาจา และรับศีล

เห็นด้วยกับ พี่ Q และพี่ Peter ฮะ


มีพี่คนหนึ่งเคยเล่าให้พี่สาวฟังว่า คพ.ท่านหนึ่งในตจว. ได้ทำผิดกับสีกา แบบผิดจริงๆ แล้วมีคนเตือนแล้วเตือนอีก
แต่ทั่นยังทำหูทวนลม  พี่คนนั้นบอกว่า พวกเขาเองก็ยังคงไปวัด ตามปกติ สัตบุรุษ( จำนวนหนึ่ง )
แต่ละคนได้ทุ่มใจอุทิศ เพื่อสงฆ์ของพระเยซูเจ้า................
ในที่สุด วันหนึ่ง คพ.แพ้ภัยตัวเอง คือขณะถวายมิสซานั่น ท่านกระอักออกมา
เป็นโลหิต ออกมา และในที่สุดท่าน ลาสิขาบท ไปครองคู่กับสีกา  

:+: seraphim :+: เขียน: อึ๋ย.... ขอแจมคะ

แจม อะไรเจ๊ : xemo026 :

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: เอ่อ แล้วถ้าเขาไปวัด แต่พอพ่อเทศน์ เขาก็ออกมาล่ะ อันนี้ก็ถือว่าพอไหว ไม๊ เพราะว่าอย่างไร สิ่งสำคัญ คือการไปฟังพระวาจา และรับศีล

อันนี้ ผมไม่เห็นด้วยนะ

เคยได้ยินพ่อท่านหนึ่งสอนว่า
"มาวัดก็ต้องมาให้ทัน    รับศีลแล้วก็ไม่ใช่รีบเดินออก"
เพราะทุกขั้นตอนในพิธีบูชาขอบพระคุณนี้ ล้วนมีความสำคัญ

ตั้งแต่การสำนึกผิดขอโทษพระสำหรับความบกพร่องของตัวใน
ตอนเริ่มพิธีนี่คุณก็ไม่ควรขาดแล้ว อย่าอ้างว่ากำลังหาที่จอดรถอยู่
หรือการอวยพรของพระสงฆ์หลังรับศีลในตอนจบพิธี ล้วนสำคัญหมด

ถ้ามาเพื่อให้รู้แค่นั้นว่าพระวรสารวันนี้เป็นตอนอะไร
ก็ไปเปิดไบเบิ้ลไดอารีอ่านที่บ้านเอาเองก็ได้   ไม่ต้องรีบมาหรอก
แค่มาเอาตอนเค้ากำลังแจกศีลเลย  แล้วก็เดินกลับไปเลยแล้วกัน

ผมเข้าใจดีนะที่สัตบุรุษคนนั้น อาจจะไม่พอใจที่ตัวพระสงฆ์
ไม่อยากได้ยินบทเทศน์หรือคำสอนของคนตลบตะแลงอะไรก็แล้วแต่เถอะ

แต่ผมขอเสนอให้เค้ากลับไปอ่านเรื่องเปรียบเทียบ ในลูกา 18:9-14 ดู
ฟาริสีที่ยโส ขอบคุณพระ  ที่ตัวเองไม่เลวเหมือนกับคนเก็บภาษีคนนั้น
คำสอนเรื่องนี้ มันน่าจะทำให้เราทุกคนได้สำนึกกันให้ดีเวลาเข้ามาหาพระนะ

อย่าไปหมั่นไส้ใครเลย แม้แต่ที่นั่งข้างหน้าคุณจะเป็นเจ้าหนี้หน้าเลือด
ของคุณเองก็ตามเถอะ  หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่คุณคิดว่ารู้ไส้รู้พุงเค้าหมดแล้วก็ตาม

เมื่อคิดจะเข้ามาหาพระ  ขอให้จำไว้ว่า ถ้าเรายังเป็นคนชอบที่จะ
ไปตัดสินการกระทำของคนอื่นอยู่ล่ะก้อ  ระวังตัวไว้ได้เลย
เราอาจจะไม่ได้ต่างจากฟาริสีคนนั้นของพระเยซูเจ้าก็เป็นได้

และอันที่จริง โดยส่วนตัวของผมแล้ว  ผมคิดว่า
ไม่ว่าเครื่องมือชิ้นใดก็ตาม  แม้ว่ามันจะชำรุดบ้าง หรือ จะเสียหาย
ขนาดไหนก็ตาม  แต่เมื่ออยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า  มันก็สามารถ
กลายเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ได้ ไม่มากก็น้อย
เราเองก็ไม่รู้หรอกว่า มีกี่คนแล้วที่ได้กลับใจเพราะพระสงฆ์องค์นี้

งานของพระสามารถเกิดผลได้เสมอล่ะไม่ว่าพระองค์จะใช้ใคร
แม้แต่หญิงโสเภณีที่ผู้คนต่างรังเกียจก็ตามเถอะ   ดังนั้น
อย่าไปแคร์เลยว่าคุณหรือ ใครจะเป็นเครื่องมือที่ดีพร้อมไหม

ขอบคุณพระทุกวันแล้วกัน  ถ้าเรา อย่างน้อย
ได้เป็นเครื่องมือ ที่พระองค์พอจะยังใช้งานได้บ้าง

นี่ กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งใจมาพูดเรื่องคุณพ่อนะ ตั้งใจมาพูดเรื่องสัตบุรุษ ว่าจะมีทางออกแบบไหน ยังไง นอกจากการสวดภาวนา และทำใจอ่ะ แค่นั้นเอง

ถ้าจะตั้งวิจารณ์พระสงฆ์นะ ก็จะตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมมากมารยาท  

แต่จะว่าไป ตอนตั้งกระทู้คงจะมึนไปหน่อย เลยไม่ได้สรุปความให้ชัด ๆ ขออภัย ก็แล้วกัน

พี่ว่าเจ้าเจี๊ยบขึ้นกระทู้ใหม่ดีกว่า จะได้ชัดเจน

ส่วนเรื่องพระสงฆ์กับผู้หญิงไม่ว่าจะศรัทธาหรือไมศรัทธาน่ะ มันห้ามกันยาก มันต่างฝ่ายต่างต้องมีสำนึก ซึ่งบางคนมีบ้างไม่มีบ้าง สำคัญว่า ตัวเราต้องมีสติในการฟัง ในการพิจารณา ในการแยกแยะถูกผิด หนักเบา ให้อภัย ไม่เหมารวม อย่างไร เขาก็เป็นมนุษย์ นอกจากตัวเองจะมีสติในการฟังแล้วก็มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือสัตบุรุษคนอื่น ๆให้มีสติด้วย