Belong to the Truth Jesus Christ

เพิ่งรู้ว่าเรากับเพื่อนเราถูกนินทาลับหลังเสียๆหายๆ
เม้าท์กระจัดกระจายเป็นขบวนการเลยค่ะ

เราก็ไม่เห็นจำได้ว่าเคยไปทำอะไรใคร
แต่กลับถูกเกลียดอย่างไม่มีเหตุผล
ลองแซะๆถามคนที่ร่วมกลุ่มนินทาด้วยว่า
พวกเราทำอะไรผิดเหรอ เค้าก็ตอบไม่ได้เต็มปาก
รู้แต่ว่าถูกเกลียดอยู่นั่นแหละ

สรุปว่าคนมันมีอคติ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ผิดไปซะหมด
พยายามท่องไว้ว่า ให้อภัยๆๆๆ แต่มันก็ยังหงุดหงิดอ่ะ
รู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรใคร
แล้วเค้าจะมาจงเกลียดจงชังเราทำไมนิ

คือถ้าเราทำอะไรผิดแล้วจะให้ขอโทษอ้ะ ไม่เคยล่ะที่จะทิฐิ
แต่ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วโดนเกลียดอย่างไม่มีเหตุผล
จะให้ทำยังไงดี

นี่เพื่อนสนิทเราที่โดนไปด้วยก็ยังไม่รู้เรื่องนะ
แต่เรคิดแล้วว่า ในเมื่อเค้าเกลียดพวกเราอย่างไม่มีเหตุผล
เราแก้ไขอะไรไม่ได้ เราก็ไม่ต้องไปบอกให้เพื่อนกลุ้มใจตามไปด้วยหรอก
เค้าไม่รู้เลยยังจะดีซะกว่า แต่กลายเป็นว่า เรรู้คนเดียวก็หงุดหงิดคนเดียวซะอีกนิ

เฮ้อ.... อธิษฐานขอความเข้มแข็งที่จะให้อภัยคนได้ทุกเรื่องอยู่
แต่ก็ยังทำไม่ได้สักที ขนาดพระเยซูโดนมากกว่าเรายังทรงอภัย
แต่ทำไมเรให้อภัยไม่ได้ซักทีน๊า

- ก็จะมองว่า เราทำตัวแย่รึเปล่า

จะได้ปรับปรุงตัว


แต่ถ้า รู้ว่าเค้าใส่ร้าย ก็ให้อภัยเค้า


แล้วจะมองไปที่ องค์พระเยซูฮะ


พระองค์ดีสุด ก็ยังเจอฟาริสีด่า ว่าโน่นนี่


...ธรรมชาติบาป ในการด่าว่าคนอื่น เป็นธรรมดากระแสโลกครับ

คิดว่า อย่าไปสนใจพวกเจ๊ๆจอมนินทาดีกว่า

อภัยให้เค้าไป ทำลืมๆไปก้อได้ ทำเป็นว่าเราไม่ได้ยิน ก้อทำให้เราสบายใจด้วยอะ

ให้อภัยเค้าครับ แล้วก็สวดให้พวกเค้าด้วยครับ

มีสองส่วนฮับ...

1."ความตั้งใจ" ที่จะให้อภัยฮับ...อันนี้บอกกับพระซื่อ ๆ ฮับ...ว่าลูกให้อภัยกับคนที่นินทาว่าร้ายลูก
และถ้าลูกทำอะไรผิด ลูกก็ยินดีที่จะขอโทษด้วยความเต็มใจ....ประมาณนี้ ...

2. "ความรู้สึก"...อันนี้ต้องใช้เวลาหน่อยนะฮับ เพื่อให้ค่อย ๆ ยอมรับความไม่ยุติธรรมได้
ด้วยการแบ่งปันความรู้สึกนี้กับพระเสมอ....ทำให้มีเรื่องคุยกับพระเรื่อย ๆ งัยฮับ...เดี๋ยวพระจะช่วยเองฮับ

อย่าเอาความ "รู้สึก" มาปนกับ ความ "ตั้งใจ" นะฮับ....มิฉะนั้นเราอาจไม่หลุดกับดักของตัวเองฮับ
คือจะรู้สึกว่าเราไม่ดี..........ที่ยังให้อภัยไม่ได้.........

แต่จริง ๆ เราได้ให้อภัยแล้ว...และพระจะมองดูที่ความ "ตั้งใจ" ของเราเป็นหลัก

ที่เหลือมันเป็นเรื่องของการจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ไปเรื่อย ๆ ฮับ...ทีละเล็กละน้อย เราจะ "รู้สึก" ให้อภัยได้ฮับ

วางเฉย แกล้งเป็นไม่รู้   อธิษฐาน ถ้าพระเจ้าทรงประทานโอกาสให้
ก็ปรับความเข้าใจกับเจ้าตัวต้นตอ

แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญนัก หรือไม่จำเป็นต้องต่อความยาว สาวความยืด ก็เฉยๆเสีย
อย่าไปอารมณ์เสีย  และสำรวจตัวเองว่าอะไรที่ทำให้เขานินทา ถ้าทำดีแล้วก็อย่าไปกังวน
แต่ถ้ามีบางเรื่องส่อให้เขาพูดได้ ก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ

ปีหนึ่งๆ พี่พีพี ถูกนินทาเป็นพันเรื่อง ค่ะ หลายเรื่องมาจากอิจฉา  หลายๆเรื่องมาจากความสามารถที่เขาสู้ไม่ได้ หลายๆเรื่องมาจากการทุ่มเทของเรา บางเรื่องมาจากความไม่เข้าใจและหลายๆเรื่อง พวกเขาตั้งใจใส่ร้าย   บางเรื่องไม่กังวนสักนิดเดียว  คนที่ชอบนินทาส่วนใหญ่เป็นพวกขี้ขลาด เป็นพวกใจแคบ เป็นพวกคิดถึงคนอื่นในแง่ร้ายเสมอ  หรือเป็นพวกความสามารถไม่ถึง

อย่าไปทุกข์ตาม วิงวอนในคำอธิษฐานเสมอๆค่ะ พระเยซูเจ้าจะทรงช่วยให้บรรเทาใจ

เรื่องนินทา นี้เป็นปรกติครับ กับคนอื่นทั่วๆไปที่ไม่ได้รู้จักเราดีไม่เข้าใจเราดีพอ เค้าก็จะเก็บเอาไปนินทาเมื่อเค้าเห็นว่าเราทำหรือเป็นอะไรที่ไม่ถูกใจเค้าแค่นั้นแหล่ะ อันนี้ทำใจครับไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่

ส่วนเจอเพื่อนสนิท(หรือที่เราคิดว่าสนิทมั๊ง) ซึ่งน่าจะเข้าใจเรา แต่กลับเก็บเราไปนินทานี้สิ เจ็บแสบกว่า เพราะคิดว่าเพื่อนกันถ้าเห็นว่าอะไรไม่ถูกต้องก็ควรตักเตือนกันด้วยความรัก รับกันได้ไม่ได้ก็น่าจะจบกันแค่นั้น ไม่น่าเก็บเอาไปนินทากับคนอื่น
เพราะการนินทานั้นนอกจากเป็นที่มันส์ปากและสะใจคนนินทาแล้ว ไม่มีอะไรสร้างสรรค์เลยครับ

ขอบคุณทุกคนค่ะ นีก็กำลังพยายามอยู่

แล้วก็จริงๆด้วยแหละที่รู้สึกว่าเราเองไม่ดี เพราะยังหงุดหงิดกับการถูกนินทา
จะพยายามค่ะ

...ใช่หรือเปล่าว่า  ที่ผ่านมา
คริสตชนถูกสอนให้ท่องจำคำว่า

[quote="boylife"]
...ใช่หรือเปล่าว่า  ที่ผ่านมา
คริสตชนถูกสอนให้ท่องจำคำว่า

ใครได้อ่านบทเรียนชีวิตในห้อง502แล้วมั่งอะ รู้สึกมีหลายคนเหลือเกิน

อันตน เขียน: ใครได้อ่านบทเรียนชีวิตในห้อง502แล้วมั่งอะ รู้สึกมีหลายคนเหลือเกิน

อ่านแล้ว ดีมาก ทำให้เห็นคุณค่าของพระสงฆ์มากขึ้น และสงสารพระสงฆ์ชรามากขึ้น

อย่างแรกคือทำใจ ถ้าผมจะสวดให้ ก็คงสวดให้ไปที่ชอบที่ชอบ

อืม อย่าไปใส่ใจเลย จริงๆไม่นานมานี้ก็มีผู้หญิงที่ผมสนิทมากคนนึง โดนมาแบบนี้เหมือนกัน ทั้งด่าลับหลังทั้งใส่ร้าย  แถมยังโดนใช้อำนาจมืดด้วย

ก็ได้แต่บอกให้ทำใจ ว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ออกมาให้ห่างๆดีกว่าเพราะคนประเภทนี้ถือว่ามีอาการทางจิต ประเภทหนึ่ง จะอยู่ในสังคมปรกติได้ลำบาก จะอยู่ได้เฉพาะบางที่เท่านั้น หากเรายังฝืนอยู่ใกล้ เขาก็ยิ่งทำให้เราเสื่อมเสียมากขึ้นเรื่อยๆ ปล่อยๆเขาไป ข่าวอะไรก็ไม่ต้องไปแก้ ช่างมัน อย่าไปคิดมาก เพลอๆยิ่งถ้าไปแก้ตัวไอ้คนประเภทนี้มันจะยิ่งใส่ร้ายหนักกว่าเดิมอีก 555 ช่างมันเถอะ

เอาน่าแต่ก็ดีแล้ว รู้ตัวแต่เนิ่นๆว่าใครเป็นคนยังไง ดีออก  ส่วนเพื่อนเธอที่โดนไปด้วยก็ถือว่าซวยไปก็แล้วกัน เพราะในโลกใบนี้ พวกที่โรคจิต วิปริต เวลาโกรธใคร หรือไม่ได้ดั่งใจแล้วพาลคนอื่นไปทั่ว หรือไปพาลเอาคนรอบข้างของคนที่เกลียดก็มีเหมือนกัน

ไม่รู้จะพูดยังไงเอาเป็นว่า ลองๆสวดให้ไอ้คนพวกนี้ดูก็แล้วกัน

เนี่ย ก็เลยทำเฉยๆค่ะ
แบบว่ารู้ทั้งรู้ว่าเค้าว่าเราลับหลัง เราก็ยังทำดีกับเค้านะ

ให้มันรู้ไปว่า สักวันหนึ่งคนอื่นๆจะไม่สามารถคิดได้ว่า
คนที่ไม่ได้ตอบโต้เลยสักครั้งแม้จะรู้ว่าถูกว่าร้ายน่ะ
ไม่ได้เป็นคนไม่ดีอย่างที่เค้าเอาไปเที่ยวพูด

พี่เรย์ ก้อนินทาคนนั้นกลับให้รู้แล้วรู้รอดไปโลด 5555 จบ

ข้างบนหนูพูดเล่นแก้เครียด ช่วงสอบ ( ทำข้อสอบไม่ค่อยได้ฮะ )

-Rei- เขียน: เนี่ย ก็เลยทำเฉยๆค่ะ
แบบว่ารู้ทั้งรู้ว่าเค้าว่าเราลับหลัง เราก็ยังทำดีกับเค้านะ

ให้มันรู้ไปว่า สักวันหนึ่งคนอื่นๆจะไม่สามารถคิดได้ว่า
คนที่ไม่ได้ตอบโต้เลยสักครั้งแม้จะรู้ว่าถูกว่าร้ายน่ะ
ไม่ได้เป็นคนไม่ดีอย่างที่เค้าเอาไปเที่ยวพูด

เยสดีแล้ว ยิ่งเราเฉยๆ เดี๋ยวคนอื่นจะเห็นใจคุณเรย์ แล้วก็ยิ่งคนๆนั้นว่าร้ายเธอเท่าไร กรรมก็จะยิ่งสนองเขามากเท่านั้น

ก็ คง ต้องสวดให้เค้าค่ะ สำหรับผู้ที่คิดร้ายต่อเรา
และก็ ขอพระให้เราให้อภัยเค้าได้ในที่สุด
เรื่องแบบนี้ เก๋ว่าทุกคนก็เคยโดน
แต่ว่า ใครที่จะ

ไม่ช่างจดจำความผิดของผู้อื่น เท่านั้นเองค่ะ

ขอความเข้มแข็งจากพระค่ะ พระองค์ช่วยเราได้เสมอ

ยกการถูกนินทานี้ไว้เถิด
แล้วมอบถวายความรู้สึกที่ถูกนินทาแก่พระเป็นเจ้า
ความเศร้า ความเสียใจ เป็นทุกข์
เพื่อระลึกถึงน้ำลายของฟาริสีที่ต้องพระพักตร์พระเยซู
เพื่อระลึกถึงมือของพวกฟาริสีที่ต้องพระพักตร์พระเยซู
เพื่อระลึกถึงพระหฤทัยของพระเยซูที่เที่ยวตรงต่อพระเป็นเจ้าอยู่เสมอ
เพื่อระลึกถึงพระหฤทัยของพระมารดาที่วิงวอนเพื่อเราคนบาปร่ำไป
แล้วจงให้อภัยแก่เขาทั้งหลายที่ข่มเหงท่านด้วยวาจา
วอนขอพระบิดาในสวรรค์ให้เพิกเฉยต่อโทษทัณฑ์ของเขาที่มีต่อเรา
แล้วจงเป็นสุขกับการให้อภัยนั้นเถิด
.....

เส้นแบ่งของการนินทา กับการเล่าสู่กันฟัง อยู่ที่
1. คนเล่าต่อได้เสริมเติมแต่งหรือไม่
2. คนเล่าต่อ และคนฟังได้แสดงความคิดเห็นมากน้อยเพียงใด
3. และคนฟังได้คิดต่อ และเล่าต่ออีกมากน้อยเพียงใด

อย่าคิดมากนะคะ