Belong to the Truth Jesus Christ

ถ้ามีความรัก...แล้วไม่สมหวังในรัก...
จะทำไงดีคะ ตอนนี้รู้สึกโดดเดี่ยวมากไม่รู้ว่าจะคิดรึว่าจะทำอะไรต่อไปดี.....
มันมาเร็วมากจนตัวเราเองตั้งรับไม่ทัน เลยรู้สึกทั้งเจ็บทั้งเบลอๆ เอ๊ะนี่เราฝันไปรึป่าว?


แต่มันคือความจริง

คิดถึงความรักที่พระองค์ทรงมีให้เราซิครับ
ความรักของพระองค์มั่นคง ไม่เคยเลยที่จะไม่รักเราเลย

เมื่อเปี่ยมล้นไปด้วยความรักของพระองค์
ถึงแม้ว่า ใครบางคนจะไม่รักเรา แต่จงเชื่อเถอะครับ ว่าพระองค์รักเรา

เข้มแข็งนะครับ ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

ยอมรับมันนะคะ  แล้วจะเจ็บน้อยลง  เรายังทรมานอยู่เพราะเรายังรับมันไม่ได้ว่า  มันเกิดขึ้นกับเรา  มันจะเจ็บมาก แต่ถ้าเรายอมรับมัน  เจ็บก็ยอมรับว่าเจ็บ  เค้าจากไปก็ยอมรับว่า  เค้าจากไป  เราจะทรมานน้อยลงนะคะ  และเมื่อเราสงบใจได้แล้ว ไม่ไปคร่ำครวญกับมันแล้ว  ก็สวดขอพระ  ให้พระองค์มารักษาแผลใจเรา  ถ้ามีเวลาไปวัด  ไปนั่งต่อหน้าศีลมหาสนิทก็จะดีมากเลย 

แต่ถ้าทำใจไม่ได้  ยังรับไม่ได้  ก็สวดขอพระให้ทำใจได้

ความรักบางครั้งต้องเจ็บปวด  ความรักเรามีค่า  ไม่สมควรต้องได้รับการตอบแทนแบบนี้  แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว  ก็อย่าให้ใจต้องขมขื่นนะคะ ดูอย่างพระเยซูเจ้าสิ  พระองค์อกหักกับเรามาเท่าไหร่  พระองค์ผิดหวัง  ถูกปฏิเสธมาเท่าไหร่  แต่พระองค์ก็ยังคงรักเรา  พระองค์ทนกับเรา  และพระองค์พร้อมที่จะเข้าใจเรา และรักษาแผลใจและความขมขื่นทั้งหมดของเรา  เพราะพระองค์เองก็มีประสบการณ์เหมือนเรา  ประสบการณ์ของผู้ที่ต้องเดินในทางแห่งรัก 

ใกล้พระให้มากนะคะ  แล้วพระจะรักษา  ปลอบใจ และสอนเราเรื่องความรัก 

ขอพระอวยพรค่ะ 

ไม่โดดเดี่ยวหรอก ร้องหาพระเยซูสิคะ เดี่ยวพระองค์ก็จะมาพาไปพักผ่อนบนทุ่งหญ้าเขียวสด ริมทางน้ำที่สงบไหลเย็น พระเยซู จะปลอบใจคุณเอง ถ้าคุณต้องการและเรียกหาพระองค์

ยอมรับมันนะคะ  แล้วจะเจ็บน้อยลง 

ขอบคุณค่ะ...
ตลอดเวลา 2 ปีที่รู้จักและคบกันเค้าเป็นคนที่ทำให้เราได้รู้จักกับพระเจ้าและทำให้เราอยากจะทำความรู้จักกับพระองค์มากขึ้นๆ แต่เค้าไม่เคยพาเราไปวัดเลยนะ ก็ได้แต่คุยกับพี่ๆน้องๆ ในเวปนี้...อ่านข้อความในนี้เองตลอด

จนเมื่อเดทสุดท้ายเราได้ไปโบสถ์บางนกแขวก (แถวๆ อัมพวา) แต่ได้แค่ไปเที่ยวชมเฉยๆนะ
พอกลับมาได้ 2 วันเค้าก็ขอคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา แล้วก็ขอให้ต่างถอยกลับออกมาคนละก้าวแล้วมองเข้าไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เค้าเกิดแคร์ความผูกพันกับคนรักเก่าที่คบกันมา 10 กว่าปีมาก จนลืมความรู้สึกของเรา ณ ปัจจุบันที่ผ่านมา 2 ปีได้

รึว่าเรายังเข้าใกล้พระเจ้าไม่พอ....ทั้งๆที่ใจคิดภาวนาถึงแต่พระองค์ตลอดเวลาทั้งเมื่อสุข และเมื่อทุกใจ
แล้วเราจะทำยังไงถึงจะใกล้พระได้มากๆ กว่านี้คะ

บางครั้งบางคราว พระองค์ก็อยู่ใกล้เราที่สุด คืออยู่ในหัวใจของเรา

แต่เรากลับไม่รู้สึกว่าพระองค์ใกล้ เป้นเพราะใจเรา จมอยู่ในความทุกข์โศก เกินไป และฟังแต่เสียงร้องไห้ของตัวเอง เลยไมได้ยินเสียงของพระองค์

หาเวลาไปวัดสิคะ ในนี้มีเพื่อนตั้งเยอะ ให้เขาพาคุณไป ไปวัดบ่อย ๆแล้ว คุณจะคุ้นเคยกับเสียงของพระองค์

โวยวายไป  ยังไม่อกหักซักหน่อย   : xemo017 :   มันแค่ถึงจุดที่เค้าจะเริ่มจริงจังนะ  และเกิดไม่แน่ใจ  เลยให้ถอย    และการที่เค้ามีบาดแผลจากความรัก  ทำให้เค้ากลัวความผูกพัน  อันนี้เราต้องเข้าใจเค้านิดนึงนะจ้ะ  ให้เวลาเค้าหน่อย  อย่างน้อยเค้าก็ไม่เห็นแก่ตัว  คบเราเำพื่อรักษาแผลเค้า  พี่ว่า  เค้ารักเราเหมือนกันนะ   ::001::  .... พูดแบบนี้อย่าดีใจไปจนไปตื้อเค้านะ  หรือพยายามเปลี่ยนความคิดเค้านะ ....  ให้เคารพความคิดและการตัดสินใจของเค้า  เค้าบอกให้ห่างก็ห่าง  ร่วมมือกับเค้านิดนึงนะจ้ะ  เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับเราด้วย 

บางครั้งความความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนจำเป็นต้องมีการห่างกันบ้าง  จำเป็นต้องมีการทบทวน  ไม่ใช่เป็นประโยชน์กับเค้าฝ่ายเดียว  เป็นประโยชน์กับเราด้วย  เราเองก็จะได้มีเวลาคิดว่า  เราได้รักเค้าจริงมั้ย  เราไปกันได้จริงหรือเปล่า  ความสุขที่ผ่านมาก็ขอให้เราขอบคุณพระ  แต่อนาคตที่ต้องเดินต่อไปคือการตัดสินใจของเรา   ::001::  เพราะความรักบังคับกันไม่ได้   ::001::

จำในพระคัมภีร์ได้มั้ย  (หลังจากกลับคืนชีพ)  พระเยซูเจ้าต้องถามเปโตรถึง 3  ครั้ง ว่า  รักเราจริงรึเปล่า  พระองค์น่ะรักแน่  แต่เราล่ะ  แต่ความรักระหว่างมนุษย์มันยากกว่านั้นคือ  ทั้งสองฝ่ายไม่รู้หรอกว่า  เรารักกันรึเปล่า  ให้คบไปวันๆน่ะทำได้  ไม่ยาก  แต่เมื่อถึงจุดนึงที่เริ่มจะจริงจังขึ้นมา  มันต้องคิด  ต้องถามตัวเอง  และความรักเราจะโตขึ้น  เราจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น 

ช่วงนี้ก็อยู่กับพระนะ  คนรักเราห่างไป  เราเหงาเป็นธรรมดา  ก็ไปคุยกับพระ  บอกพระองค์ลูกเหงา  และถ้าอยากทบทวนว่า  คนนี้คือคนที่ใช่มั้ย  ตอนนี้คือเวลาที่เราจะได้อยู่กับพระและถามพระว่า  ความสุขทั้งหมดที่ได้มานั้น  มันจริงมั้ย  มันใช่มั้ย  ให้พระองค์ช่วยคิด  อย่าคิดคนเดียว  ถ้าไม่คิดตอนนี้  ต่อไปวันนึงถึงคบกันไป  เราก็ต้องคิดอยู่ดี  ไม่งั้นเราก็จะเหมือนกับหลายๆคนที่แต่งงานเพียงเพราะแค่คบกันนาน  อยู่กันรอดและไม่มีใครมาจีบอีก  ไม่ได้รู้สึกถึงความรักที่แท้จริง 

และถ้าเรายังรักเค้าอยู่  เราสวดให้เค้าได้  ให้เค้ามีความสุข  ออกจากอดีตตัวเอง  (ไม่ใช่ขอให้เรานะ  แต่ขอให้เค้า)  และขอให้เค้าได้เจอคู่ที่ดี  ที่เหมาะกับเค้า  แต่ถ้ายังทำใจขอแบบนั้นไม่ได้  ก็อย่าเพิ่ง  ไม่งั้นเราเองจะถูกประจญจากความเห็นแก่ตัว  คุยกับพระแบบที่แนะไปก่อนนะคะ 

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น  พระองค์เห็นทุกอย่างนะคะ  ไม่ใช่ไม่เห็น  เป็นกำลังใจให้นะคะ   : emo045 :

ที่ว่ารัก รักนั้น มั่นใจหรือ

ที่ว่ารัก รักฤา คือสิ่งไหน

ที่ว่ารัก รักกัน หวั่นอะไร

ที่ว่ารัก แน่ใจ แล้วหรือยัง

[YaiPaan]

ปล. ขอให้เจ้าของกระทู้จงรักต่อไป ยิ่งวันยิ่งรัก การเจ็บปวดทรมานใช่ว่าจะไม่ดี คุณBuddyโพสได้ใจมาก เรยฝากเปงกลอนไว้คงพอ เป็นกำลังใจให้ทุกๆรัก ขอให้ยิ่งวันยิ่งงดงาม

  ขอบคุณนะคะพี่ Buddy และทุกๆ คน

ตอนนี้เราคงขอหยุดคิดเรื่องนี้ (จะพยายามเท่าที่สามารถทำได้)
แล้วคิดแต่เรื่องงาน ทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง...จะได้ไม่ต้องไปง้อใคร 

และถ้าเรื่องนี้มันจะเป็นยังไงต่อไปเราก็รับนะ...
เราเชื่อเหลือเกินว่าการที่เราได้พบกับพี่เค้าก็เพราะพระชักนำเราให้มาเจอกัน...
แล้วเราก็เชื่อนะว่าพระได้กำหนดมาแล้วว่าเราจะเป็นยังไงต่อไป....ที่เหลือก็แค่รอน่ะค่ะ 

การที่เราได้มาเจอใคร  ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง  เป็นการนำของพระทั้งนั้นนะจ้ะ  ทุกอย่างในชีวิตเป็นประสบการณ์เรา  อยู่ที่เราจะต้องเรียนรู้จากมัน  ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์  เพราะนั่นคือกระบวนการเติบโต 

การแยกกันครั้งนี้  ไม่ได้ให้หยุดคิดนะคะ  แต่ให้คิดไตร่ตรองอย่างมีระบบและไม่มีสิ่งกวนใจ  เหมือนที่พี่เค้าบอกให้ถอยมาคนละก้าวและมาทบทวนนั่นแหละ

ขอบคุณพระนะจ้ะ  อืม  แล้วตอนนี้ล้างบาปรึยังคะ  พี่จับประเด็นได้อย่างนึงนะว่า  เราแยกพระกับแฟนไม่ค่อยออก  เหมือนพอความรักจากแฟนหายไป  ก็มาพาลเอากระทบถึงพระ  เป็นแบบนั้นรึเปล่าคะ  (คือไม่ได้คุยกันนะ  อ่านเอาอาจจับใจความได้ไม่ดี)  อาจเกิดขึ้นได้นะถ้าแฟนเรานำเรามาหาพระ  และถ้าเป็นเช่นนั้น  พี่ก็เชื่ออย่างนะว่า  การแยกกันครั้งนี้น่าจะเป็นพระประสงค์ของพระองค์ที่จะทำให้เราใกล้พระมากขึ้น  และทำให้เราแยกออกว่า อันไหนความรักของพระ อันไหนแฟน 

ด้วยอารมณ์ในตอนนี้  เราบอกไม่ได้หรอกว่า  เค้าคือคนที่ใช่  มันต้องใช้เวลานิดนึง  ตอนนี้ร่าเริงเข้าไว้  อย่าลืมนะว่า  ใกล้คริสตมาสแล้ว 

ทำงานให้ลืมก็เป็นการแก้ปัญหาอย่างนึงนะ  แต่ถ้าลองเข้าหาพระ  เปิดใจกับพระองค์ เล่าให้ฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้น  อันไหนที่เราชอบพี่เค้า  ประทับใจพี่เค้า .......  เช่น  ... ตอนนั้นเค้าจับมือลูก  ลูกประทับใจมาก  อบอุ่นบอกไม่ถูก  .....  (เล่าให้หมดนะ  ไม่ต้องอาย  และไม่ต้องกลัวว่า พระจะมองเรายังไง  พระเข้าใจเราทุกอย่าง  ).....  หรืออันไหนไม่ชอบ  หรืออันไหนที่ฟันฝ่ามาด้วยกัน อะไรก็ตาม  ตอนนี้เรามีพระแล้วนะคะ  เราไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเดิมๆในการจัดการกับความทุกข์อีก  เรามีพระนะ  มีคนที่คอยพูดคุย  แก้ปัญหา  ปรึกษาได้  เราไม่จำเป็นต้องมานั่งบ้างานแบบเดิมนะคะ 

ฝากไว้นะคะ  เพราะเห็นถามว่า  จะใกล้พระทำยังไง  ไม่มีอะไรมาก แค่เปิดใจ 

แบบว่า ทำใจครับ เค้าอาจไม่ใช่คู่เรา ผมอกหักออกบ่อยไป อกหักมาทั้งชีวิตแล้วมั้ง พระน่ะจัดคนไว้ให้เราแล้วครับ ไม่ต้องคิดมาก ตอนแรกอาจทำใจลำบากนิดหน่อย ผมเชื่อว่า ไม่เกิน 10 ปี ทำใจได้แน่นอน (แต่ตอนนี้ ผมก็ยังมำใจเรื่องแฟนเก่าไม่ได้ง่ะ ฮือๆๆๆๆ ทั้งๆที่มันผ่านมาหลายปีแล้วง่ะ )

ปล. การมีความรักต้องไม่ครอบครองครับ ถ้าเห็นเค้ามีความสุข เราน่าจะสุขใจและยินดีด้วยครับ แต่มันก็ทำยากนะ

มารายงานตัวค่ะ...
หลังจากที่ให้หยุดไปแยกกันนอนคิด นั่งคิดแล้ว
ก็ได้คำตอบกลับมาแบบกำกวม.....เหมือนเพลงอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ของทาทาเลย
แบบนี้พระเจ้าจะเข้าข้างใครเนี่ย?....
แต่เราเองกลับรู้สึกเฉยๆนะ ก็สงสารเค้าเหมือนกันที่ต้องอยู่ในภาวะแบบนั้น
ก็เคารพในการตัดสินใจของเค้า และยินดีที่จะให้เค้าได้มีความสุข......เท่านั้นก็สุขใจ...

พี่Buddy เรายังไม่ได้ล้างบาปเลยนะ....ยังไม่เคยแม้แต่จะเข้าวัดแบบจริงจังเลยด้วย
แต่เราก็รักพระและพระแม่ค่ะ

moonlit เขียน: มารายงานตัวค่ะ...
หลังจากที่ให้หยุดไปแยกกันนอนคิด นั่งคิดแล้ว
ก็ได้คำตอบกลับมาแบบกำกวม.....เหมือนเพลงอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ของทาทาเลย
แบบนี้พระเจ้าจะเข้าข้างใครเนี่ย?....

คำตอบเค้าหรือคำตอบเรา    ถ้าเค้ากำกวมก็ปล่อยให้คิดต่อไป 

พระเข้าข้างทุกฝ่ายค่ะ  เพราะพระองค์จะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับทุกคน 

ว่าแต่อยากล้างบาปมั้ยคะ  อยากเรียนคำสอนจริงจังมั้ย   

moonlit เขียน: มารายงานตัวค่ะ...
หลังจากที่ให้หยุดไปแยกกันนอนคิด นั่งคิดแล้ว
ก็ได้คำตอบกลับมาแบบกำกวม.....เหมือนเพลงอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ของทาทาเลย
แบบนี้พระเจ้าจะเข้าข้างใครเนี่ย?....

พระองค์ทรงเป็น ความชอบธรรมครับ
พระองค์ไม่ลำเอียงไปข้างไหนหรอก

หากแต่ว่า

เมื่อ เรายินดียอมตามน้ำพระทัยพระองค์

เราก็จะอยู่ข้างเดียวกับพระเป็นเจ้าครับ 

พี่ก็ไม่รู้เพราะไม่เคยคบใครเป็นแฟนมาก่อนเลย ถ้าเขาไม่ใช้คู่เรา เราก็หาใหม่คนที่ดีกว่าได้ น้องมีสังคมทางโลกคงหาเพื่อนไม่ยาก แต่ต้องรักษาพรหมจารีไว้จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน แต่พี่มีแต่สังคมวัด  แล้วอีกอย่างอายุก็ยังน้อยยังหาคนที่ดีอีกได้คบกันดูอย่างพึ่งปักใจรัก ความรักต้องใช้เวลา

เมื่อคู่ฟังสาวคนหนึ่งพูดแล่วสลดใจกับสังคม

เมื่อคู่พี่ก็พึ่งคุยทางเอ็มกับน้องคนหนึ่งพี่ถิ้งเมล์ให้เขาตอนที่น้องมินนี่ให้ลิงค์ที่เว็บนี้ เป็นเว็บหาคู่ในเว็บนั้นพี่ค้นหาคนที่ จบปริญาตรี เป็นคริสต์ เชื่อจีน เราสามารถระบุได้แล้วก็เจอคนหนึ่งหน้าตาสวยน่ารักมาก พี่ก็ถิ้งเมล์ไว้เขาก็add มาคุย คุยกัน 2 - 3 ครั้งแล้วพี่ก็คุยเรื่องฟ้าอากาศทั่วๆไป เมื่อคู่คุยกันก็ถามว่าน้องมีแฟนหรือยัง เขาบอกว่าพึ่งเลิกกับแฟน พี่ถามว่าคบกันนานหรือยัง เขาบอก 2 เดือนเอง แฟนเป็นคนบอกเลิกเอง พี่บอกทำไมเร็วขนาดนั้นแค่ 2 เดือนรู้จักกันยังไง แล้วเขาบอกอีกว่าคุยทางเอ็ม พี่ถามเว็บนั้นใช้ไหม เขาบอกใช้ แถมบอกอีกว่าคุยกัน 2 วันก็นัดเจอกันแล้วก็รวมประเวณีกันเลย(ที่จริงเป็นคำที่หยาบกว่านั้น)  พี่ฟังคำพูดนี้แล้วตกใจไม่คิดว่าจะเจอคำพูดนี้ออกจากปากสาว พี่รู้สึกทำไมสาวๆ ถึงง่ายขนาดนี้ พี่ก็เลยสอนเขานะแต่เขาบอกว่า หนูบอกแล้วไงว่าหนูนิสัยไม่ดีพี่อย่าจีบหนูเลย

พี่คิดว่าแต่นี้ไปพี่จะไม่เข้าเว็บนั้นอีกแล้ว คนคริสต์ก็ไว้ใจไม่ได้โดยเฉพาะคนสวยๆ น่ารักๆ สมัยนี้ พี่อาจอ่อนต่อโลกไปหน่อยที่จริงเรื่องแฟนเรื่องคู่ก็ต้องสวดเยอะๆ อันตรายมากทุกวันนี้

Joseph เขียน: เมื่อคู่ฟังสาวคนหนึ่งพูดแล่วสลดใจกับสังคม
~~~~~~~~~~~
พี่คิดว่าแต่นี้ไปพี่จะไม่เข้าเว็บนั้นอีกแล้ว คนคริสต์ก็ไว้ใจไม่ได้โดยเฉพาะคนสวยๆ น่ารักๆ สมัยนี้ พี่อาจอ่อนต่อโลกไปหน่อยที่จริงเรื่องแฟนเรื่องคู่ก็ต้องสวดเยอะๆ อันตรายมากทุกวันนี้

เรื่องส่วนตั้วส่วนตัวไม่ต้องเล่าละเอียดมากก็ได้ครับ

น้องค่ะถ้าไม่สมหวังในความรักไม่เป้นอะไรหลอกค่ะพยายามรักตัวเองให้มากๆนึกถึงคนที่เขารักเรามีตั้งเยอะแยะสักวันหนึ่งพระเจ้าจะอวยพรให้น้องพบความสุขนะจ๊ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ใช้นึกได้อยู่ที่ความคิดเรา ถ้าเรายังมัวไปจบคิดถึงแต่เขา มัวแต่นึกถึงวันเวลาเก่าๆ ก็ทำให้เราเจ็บโศกเศร้า แต่ถ้าเราถ้าเราสนใจคนใหม่ที่อยู่กับเราตอนนี้คนที่ให้ความสุขกับเรามากกว่าก็ทำให้เรามีสุข สิ่งที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป เหมือนละครเรื่องหนึ่ง ส่งที่จริงมันก็เหมือนไม่จริงเพราะมันจับต้องไม่ได้ สิ่งที่ผ่านไปแล้วถึงเรื่องจริงมันก็ไม่ต่างจากจินตนาการของเราเพราะว่ามันจบต้องไม่ได้ มันเป็นเพียงแต่ความทรงจำ ทั้งสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่เลวร้ายก็กลับไปจับต้องไม่ได้ทั้งสิ้นไม่ต่างกับจินตนาการหรือเราฝันไปเอง แต่คนเราก็มังจะจำความทรงจำที่แสนร้ายๆ ไว้แทนที่จะจำในความทรงจำที่แสนดี ลืมมันไปเถอะครับ มีความสุขกับวันนี้ คิดถึงแต่วันนี้ดีกว่าเพราะมันมีสุขมากกว่าอดีตทีผ่านมาเยอะ

ขอบคุณค่ะสำหรับทุกๆกำลังใจ
ตอนนี้เราก็ดีขึ้น (ระดับนึง) บางทีที่คิดถึงเวลาเก่าๆ ก็มีเศร้าบ้าง...
ยังไงชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป...สู้ๆๆ 

ความรักและความทรงจำเป็นสิ่งสวยงามเสมอนะคะ อยากให้คิดไว้นะคะ
ที่ผ่านมาเราทำดีที่สุดแล้วค่ะ จงอย่ามัวเสียใจกับอดีต...อยู่เพื่อปัจจุบันและอนาคตนะ ชีวิตเรามีคุณค่ามากมายเกินกว่าจะเป็นทุกข์นะคะ...การที่เราอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเรา หรือคนที่เราหลอกตัวเองว่าเขารักเรา เราจะพบความสุขที่แท้จริงหรือคะ...ฝากไว้นะคะ หวังว่าคุณจะดีขึ้น พระองค์ยังอยู่กับเราเสมอ..

ผมเองก็เจ็บปวดอยู่ เคยถามพระเจ้าว่าทำไมต้องให้ผมต้องมาเจอกับเธอในความรักของพระองค์ แล้วต้องให้เราจากกันและให้ผมรักเธอแค่ข้างเดียว ผมเชื่อว่าพรเองค์ทรงมีคำตอบที่ดีรอผมอยู่ในอนาคตอย่างแน่นอน ถึงแม้ตอนนี้เจ็บปวดแทบทนไม่ไหว แต่ผมก็ยังดีใจที่ได้เดินจากออกมาเพื่อคนที่ผมรักจะได้มีความสุขมากยิ่งขึ้น ดีกว่าให้เราไปเหนี่ยวรั้งเค้าไว้ และแน่นอนครับ อย่างน้อยพระองค์ทรงสอนให้ผมรู้จักว่า ความรักนั้นรวมไปถึงการเสียสละ และทนต่อทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก

moonlit เขียน: ขอบคุณค่ะสำหรับทุกๆกำลังใจ
ตอนนี้เราก็ดีขึ้น (ระดับนึง) บางทีที่คิดถึงเวลาเก่าๆ ก็มีเศร้าบ้าง...
ยังไงชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป...สู้ๆๆ 

เป็นกำลังใจให้จ้า  ใกล้คริสตมาสแล้ว  ร่าเริงเข้าไว้นะ  เตรียมรับแสด็จพระคริสตเจ้า 

Kilenfai เขียน: ผมเองก็เจ็บปวดอยู่ เคยถามพระเจ้าว่าทำไมต้องให้ผมต้องมาเจอกับเธอในความรักของพระองค์ แล้วต้องให้เราจากกันและให้ผมรักเธอแค่ข้างเดียว ผมเชื่อว่าพรเองค์ทรงมีคำตอบที่ดีรอผมอยู่ในอนาคตอย่างแน่นอน ถึงแม้ตอนนี้เจ็บปวดแทบทนไม่ไหว แต่ผมก็ยังดีใจที่ได้เดินจากออกมาเพื่อคนที่ผมรักจะได้มีความสุขมากยิ่งขึ้น ดีกว่าให้เราไปเหนี่ยวรั้งเค้าไว้ และแน่นอนครับ อย่างน้อยพระองค์ทรงสอนให้ผมรู้จักว่า ความรักนั้นรวมไปถึงการเสียสละ และทนต่อทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก

โชคดีที่ได้รัก  และโชคดีที่ได้ทำเพื่อคนที่รักอย่างสุดหัวใจ    เป็นกำลังใจให้นะคะ 

ใครว่ามีความรักแล้วดี ..
ก็คงจะดีอยู่หรอก ถ้าเราไม่มีความคาดหวังอะไรเลย
และมันเป็นไปได้หรือ ที่เราจะไม่คาดหวังอะไร 
โดยทั่วไป เรามักจะมีความคาดหวัง ให้เขารักเราอย่างที่เราต้องการ
เราทุ่มเทกับความรักไปมากมายเพื่ออะไร
อย่างน้อยก็เพื่อให้คนที่เรารักมีความสุขใช่หรือไม่
สิ่งนี้คือความคาดหวังอีกเช่นกัน
แล้วอะไรจะเป็นหลักประกันว่า คนรักของเราจะมีความสุขเสมอไป
เรากำลังคาดหวังกับสิ่งที่ไม่แน่นอนใช่หรือไม่ และนี่เอง ทำให้เราเจ็บปวด

ถ้าเช่นนั้น เราควรพิจารณาตัวเองหรือไม่
ความรักควรมีคำว่า พอ ด้วย
พอใจ แค่ได้มอง
พอใจที่ได้แค่ทำอะไรให้
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็พอใจ ที่อย่างน้อย เราก็ได้ทำแล้ว
ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
อย่าไปทุกข์กับมัน 

การที่จะรักใคร
บางครั้งเราอาจต้องถามตัวเองก่อนว่า พร้อมไม๊  ที่จะอดทน
อดทน  อย่างเข้าใจ พอใจที่จะได้อดทน
อดทนในความไว้วางใจในความรักของพระเป็นเจ้า
ความรักที่จริงแท้และแน่นอนที่สุด

ด้วยความรักของพระเป็นเจ้านั้นเอง
พระองค์ปรารถนาให้เราได้เรียนรู้ จากความทุกข์
ความทุกข์ ที่จะทำให้เราได้รู้จักความไว้วางใจ
และความอดทนนั้นเอง ที่จะทำให้เราได้ลิ้มรส ความหอมหวานของความสุข
อย่างอิ่มเอม ...   

ความรักนั้นก็มีดี อยู่ตรงที่มีความทุกข์เจือปนอยู่บ้าง
เพื่อให้เราได้เรียนรู้ในที่สุดว่า ความสุขแท้ของความรัก เป็นอย่างไร

ขอพระเป็นเจ้าช่วยบรรเทาใจของผู้กำลังเจ็บปวดกับความรักทุกคนนะคะ

รัก เครียด กินแห้ว

อันตน เขียน: รัก เครียด กินแห้ว

คิดไป ด้ายยย

อกหัก รักครุด เชืญ กระทู้นี้ 

เค้าห้ามไม่ให้ จีบกันในบอร์ด เพื่อนเลยล่อกระทู้อกหักซะเยย 

mind เขียน: อกหัก รักครุด เชืญ กระทู้นี้ 

เค้าห้ามไม่ให้ จีบกันในบอร์ด เพื่อนเลยล่อกระทู้อกหักซะเยย 

ครายจะไปเหมือนเฮีย แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ช่วงนี้แฮปปี้นะยะ

mind เขียน: อกหัก รักครุด เชืญ กระทู้นี้ 

เค้าห้ามไม่ให้ จีบกันในบอร์ด เพื่อนเลยล่อกระทู้อกหักซะเยย 

น้ำเสียงเหมือนคนกำลังอินเลิฟแบบสุดๆ เลยวุ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย