ใครเคยมีประสบการณ์กับบ้านดูแลผู้ป่วยสูงอายุคามิลเลียนสามพราน

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
ScapeGoat
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 21, 2007 9:21 am

พฤหัสฯ. ก.พ. 01, 2007 3:45 pm

ใครเคยมีประสบการณ์ติดต่อกับบ้่้านผู้สูงอายุคามิลเลียนสามพรานบ้าง
บ้านคามิลเลียนดำเนินงานของนักบวชคามิลเลียนซึ่งทำงานตามจิตตารมณ์ของนักบุญคามิลโล เด แลลลิส ผู้ก่อตั้งคณะ (ค.ศ. 1550 - 1614)  เพื่อรับใช้คนเจ็บคนป่วยที่ยากจน" เจตนารมย์ของคณะนักบุญตั้งขึ้นเพื่อดูแลรับใช้ผู้ป่วย เยี่ยงมารดามีต่อบุตรคนเดียวที่กำลังเจ็บป่วย"เหมือนแม่ที่ดูแลบุตรของตนที่เจ็บป่วย" ในประเทศอิตาลีมาเป็นเวลากว่า 400 ปี และในประเทศไทย ยาวนานถึง 52 ปี  เรามีพี่ที่สนิทกันมากที่ต้องฝากญาติที่เป็นอัมพาตไว้ที่บ้านคามิลเลียนสามพราน เนื่องจากไม่สามารถดูแลเองได้ โดยเขาต้องจ่ายเงินทุกเดือนกว่าหมื่นบาท รวมทั้งของใช้้ส่วนตัวทั้งหมดต้องซื้อไปเอง แต่ทางบ้านคามิลเลียน ซึ่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเป็นคนดูแล จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มตลอดเวลา แม้ว่าของใช้จะเพิ่งเอาไปก็ตาม เวลาเขานัดให้ไปพบต้องไปตามนั้น เจ้าหน้าที่ฯไม่มีการรับฟังว่าพี่เขาลางานไม่ได้ ต้องไปตามแต่จะบัญชามาเท่านั้น ถึงแม้จะอยู่คนละจัังหวัดก็ต้องไปเขาต้องออกแต่เช้าตรู่เพราะไกลจากสามพราน ต้องทำตาม เพราะเขาจะขู่ไม่รับดูแลผู้ป่วยต่อและส่งคืน ซึ่งจะไม่มีใครช่วยดูแลตอนพี่เขาออกไปทำงาน แล้วหัวหน้าวอร์ด(หัวหน้าคนทำความสะอาด) ก็ยังพูดจาตวาดใส่ พูดจาแย่มากๆ เพราะรู้ว่าต้องพึ่งพาเขา ตอนเข้าไปตกลงไว้อย่างแล้วกลับเป็นอีกอย่างแสดงเจตนากลั่้นแกล้งสารพัดเป็นเวลาหลายปี และยังมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่มีการเก็บอย่างไม่สมเหตุสมผล เราเป็นคนเชื่อตลอดเลยว่าคริสตชนส่วนใหญ่เป็นคนดี มีพระเจ้าในจิตใจ เราบอกใครๆแบบนั้นมาตอลดและเล่าเรื่องราวดีๆ ที่เราได้เจอในเวบนี้กับพี่คนนี้ประจำ เราสองคนเป็นคนใกล้วัด ที่บ้านคามิลเลียนสามพรานทำเอาพี่เขาเสื่อมศรัทธาไปเลย  เราเชื่อว่าคุณพ่อบาทหลวงคงไม่เคยรู้เลยว่ามีเรื่องแบบนี้ข้างใน คุณพ่อเป็นฝรั่งมาประจำชั่วคราว และเวียนไปประจำที่ศูนย์อื่น  เท่าที่เคยเห็นคุณพ่อดูท่านใจดไม่น่าจะร้ายๆเหมือนอย่างที่พี่ของเราถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ในศูนย์เลย อยากรู้ว่าคณะสงฆ์กลางมีการตรวจสอบเรื่องนี้มั๊ย รวมทั้งความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาหรือเปล่า แล้วเรื่องแบบนี้ร้องเรียนได้มั๊ย  เราไม่คาดหวังว่าเจ้าหน้าที่ประสานงานท่านั้นซึ่งเป็นสัตบุรุษ เป็นคริสตชนต้องดีตามแบบอบ่างคุณพ่อหรือคณะนักบวชหรอก คงยากไป เพียงแค่สงสัยว่า แม้แค่การเป็นคริสตชน คำสอน ความรักในพระเจ้าก็น่าจะมากพอให้เราเป็นคนดี และมีน้ำ้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นเท่าทีพอจะทำได้ แล้วนี้เป็นที่เขาต้องมาอุทิศเพื่อช่วยเหลือ คนที่ลำบากต้องพึ่งพาเรา ทั้งที่เขาก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขอความช่วยเหลือนั้นด้วยซ้ำไป น่าจะปฏิบัติต่อกันดีๆ บ้าง เขาก็ลำบากหาเงินมาจ่ายอยู่แล้วยังเจอแบบนี้อีก อยากรู้ว่าเคยมีใครถูกทำแบบนี้บ้างมั๊ย 
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. ก.พ. 01, 2007 10:18 pm

แนะนำให้ไปบอกที่บอร์ดนี้โดยตรงนะคะ  เค้าจะได้ทราบปัญหา  และหาทางแก้ไข  ไม่งั้นก็จะได้แต่มาระบายอย่างเดียว .....  คิดว่าปัญหาแบบนี้  ทางคณะคงไม่อยากให้เกิดขึ้นหรอกค่ะ  ::001::

http://board.scriptsby.com/?user=camillian

ขอพระอวยพรนะคะ
ScapeGoat
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 21, 2007 9:21 am

ศุกร์ ก.พ. 02, 2007 8:31 am

ขอบคุณที่ให้คำแนะนำ
อยากทำแบบนั้น แต่คิดว่าคนที่ต้องพึ่งพาที่นั่นอาจจะเดือดร้อน ยิ่งถ้าเขาต้องฝากชีวิตคนหนึ่งไว้ตรงนั้น
มีความโปร่งใสในการร้องเรียนหรือ ที่บ้านเรา อืมม์ มีมั๊ง แต่ยังไม่เจอ  เข้าใจว่าที่นี่จะเป็นที่ปรับทุกข์ หนุนใจและให้ความเข้าใจ เห็นใจมากกว่าน่ะ เลยถามมา  ตามชื่อห้อง เละเผื่ออาจโชคดี มีคนรับรู้หรือเจอปัญหาอย่างเดียวกัน มาแบ่งปัน อาจหวังมากไป แต่ก้อขอบคุณกับคำแนะนำ ขอพระอวยพรเช่นกัน 
God Bless & be with you
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ ก.พ. 02, 2007 11:00 am

ที่นี่ปรับทุกข์ได้เสมอค่ะ  แต่ก็อยากให้ได้รับการแก้ไขด้วยไงคะ  และจริงๆที่นั่นก็ปรับทุกข์ได้ค่ะ  เคยเข้าไปคุยๆ  บราเดอร์  คุณพ่อ  ก็น่ารักกันทั้งนั้น  ::001::

ต้องขอโทษด้วยนะคะ  ที่ทำให้รู้สึกว่า  ขับไสไล่ส่ง  ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะคะ  ::001::  ต้องขอโทษด้วยจริงๆ  : emo031 : ....  คือเราไม่ได้คุยกันตรงๆ  การสื่อสารก็อาจลำบากนิดนึง  แต่เข้าใจความรู้สึกนะคะ

ไม่มีประสบการณ์แบบคุณนะคะ  แต่เคยมีประสบการณ์ดูแล  และเยี่ยมผู้ป่วยเล็กน้อย  (คือทำแบบอาสาสมัครน่ะค่ะ) ในฐานะคนเคยทำตรงนั้น  ก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาแบบนี้น่ะค่ะ   

ทุกคนที่มาทำตรงนี้  ส่วนนึงก็มีความเสียสละ  มีน้ำใจ แต่บางครั้ง  ในความเป็นมนุษย์  ถ้ามีความเห็นแก่ตัวหรืออะไรก็ตามเข้ามา  คนก็เปลี่ยนไปได้เหมือนกัน  เจ้าหน้าที่คนนั้น  ตอนแรกเค้าอาจไม่เป็นแบบนั้นก็ได้  (เท่าที่อ่าน  รู้สึกว่า  เกิดจากคนๆเดียวใช่มั้ยคะ)  ถามว่า  เราคริสตชนเจอแบบนี้จะทำยังไง .......  เราก็จะสวดให้เค้านะคะ  (คือ  ร้องเรียนใครไม่ได้  ก็ร้องเรียนพระ  ::011::)  แล้วทุกอย่างจะดีเอง  ::001::

ยังไงก็อยากให้ไปเรียนให้คุณพ่อทราบนะคะ  เป็นจดหมายน้อยไปบอกท่านก็ยังดี  (จะได้ช่วยคนอื่นไปด้วยไงคะ)  ::001::  คือ  คิดว่า  ถ้าคุณพ่อจะจัดการอะไร  ไม่น่าจะให้ต้องพระทบกับผู้สูงอายุที่นั่นนะคะ  หรือถ้ากลัวก็อาจจะกำชับไปก็ได้  คิดว่า  คุณพ่อมีวิธีแก้ไขค่ะ  ::001:: ....  ไม่อย่างนั้น  ผู้สูงอายุก็ต้องมีชีวิตแบบนั้นไปตลอด  ยิ่งน่าสงสารกว่านะคะ  ::001::
mary army
โพสต์: 693
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 29, 2007 2:07 pm
ที่อยู่: เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ

ศุกร์ ก.พ. 02, 2007 11:46 am

คุณ Scapegoat คะ

ลองส่งคำร้องเรียนตรงไปที่ http://www.camilliansampran.org/ ดูซิค่ะ ถ้าอธิบายด้วยเหตุผล คิดว่าเรื่องนี้จะต้องถึงคุณพ่อที่ดูแลโดยตรงได้แน่นอนคะ
องค์กรนี้เป็นองค์กรศาสนา ส่วนหนึ่งช่วยเหลือสังคมเพื่อประกาศข่าวดี การกระทำไม่ดีต่อผู้ทุกข์ยาก จะเป็นการบ่อนทำลายศาสนานะคะ เราไม่ควรนิ่งเฉย แต่ถ้าเกรงว่าจะเกิดผลกระทบ ก็ต้องปรึกษาคุณพ่อที่ดูแลว่าจะป้องกันได้อย่างไร

ถ้าไม่สะดวกที่จะแจ้ง จะให้เราช่วยแจ้งและติดตามให้ก็ได้ เพราะเรารับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้จริงๆ

Mary Army
ScapeGoat
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 21, 2007 9:21 am

ศุกร์ ก.พ. 02, 2007 12:29 pm

ขอบคุณที่สุด
เคยอยากบอกคุณพ่อท่านที่เป็นฝรั่งมาก เพราะเชื่อมั่นว่าคุณพ่อและคณะภราดา ทุกท่านไม่ทราบแน่นอน ว่ามีเรื่องดังกล่าวนี้ เขียนไปที่ เวบ คนที่รับไม่ใช่คุณพ่อแน่ๆ แต่เป็นผู้ที่รับเรื่องคนเดียวกันนี้  อยากไปพบคุณพ่อด้วยซ้ำ
การทำงานด้านนี้อาศัยความเสียสละอย่างมหาศาล เคยเป็นอาสาสมัครเหมือนกัน ให้ที่โบสถ์ใกล้บ้าน และที่มหาวิทยาลัย รู้ดีว่ายากลำบากเพียงใด สิ่งที่ทำให้อยู่ได้ คือศรัทธาอย่างเดียว เห็นด้วยว่าคริสตชนท่านนั้นก้อคงไม่ได้เป็นแบบนี้ทีแรก ใครๆก้ออยากเป็นคนดี แต่เรื่องเงินคงทำให้เปลี่ยนคนได้ ถ้าจิตผ่ายดีไม่หนักแน่นพอ ... จะลองหาวิธีติดต่อคุณพ่อให้ได้ เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น ขอบคุณ พลมารี และ คุณ Buddy

May GOD Bless all with His Love and His Grace.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.พ. 02, 2007 1:55 pm

เห็นด้วยกับพี่ทั้งสอง  เราต้องเป็นเสียงให้กับเหยื่อ ( Voice for the Victim ) เจี๊ยบเคยเรียนวิชานี้ เมนวิชาสอนให้เรารับผิดชอบต่อสังคม
ต่อผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะเหยื่อไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เราจึงต้องเป็นกระบอกเสียง  ถ้าเรารู้แล้วไม่ทำ เท่ากะเราทำผิด
ต่อน้ำพระทัยพระเจ้า และพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์ที่เสด็จเข้ามาในโลก ฮะ

ขอพระเจ้าสรรพานุภาพ ทรงประทานสติปัญญาและความรักอันเหลือล้นให้พี่แพะรับบาปด้วย  อาเมน
คนเคยทุกข์

พุธ ก.ค. 02, 2008 1:16 pm

::018::สวัสดีคะ
            เราไดเอ่านเรื่องราวของคุณแล้วน่าเห็นใจนะคะ  โดยเฉพาะการทำงานของคุณที่เวลาที่  บ้านพักโทร.มาหากว่าคุณไม่มีเวลาคุณก็ต้องมีเวลาให้ได้ไม่อย่างงั้นเขาจะด่าสารพัด  โดยเฉพาะผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงที่อยู่ในห้องธุรการ  ทุกคนและคนที่ว่าได้เจ็บปวดที่สุดคือคุณ....(ทิพย์)  คะ  คุณต้องระวังให้ดีนะ  ไม่งั้นเขาจะส่งญาติของคุณกลับบ้านเลยนะ  ไม่เข้าใจว่าคณะนักบวชทำไมให้คนที่ไม่มีจิตวิญญาณของนักบวชมาบริหารได้อย่างไร  ไม่รู้ว่าเขาจะฆ่าสังคม  หรือช่วยสังคมกันแน่  ระวังให้ดีนะคะ  เพราะเราเคยผ่านประสบการณ์ร้ายๆ  มาก่อนคะ  ตอนนี้คุณตาท่านก็ไปสบายแล้วคะ  เชื่อได้เลยว่าพวกนักบวชท่านมิแต่เวลาภาวนาแต่ท่านไม่มาสนใจหรอกเพราะอำนาจอยู่ที่  .....(อย่างที่รู้กันนะคะ)
...............ลาคะ................
goat of God
โพสต์: 127
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 20, 2008 1:18 pm

พุธ ก.ค. 02, 2008 4:29 pm

ทุกศาสนาก็มี ศาสนบริกร ที่ดีและไม่ดีปนกัน หากเจอคนไม่ดี เราอาจจะต้องลองแก้ไข หากไม่สำก็คงต้องฝากไว้ที่พระ นะคะ
สุ

ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 9:45 am

ดิฉันอ่านกระทู้แล้วรู้สึกเห็นใจคะ  ต้องการแนะนำคนดูแลผู้ป่วยสูงอายุ
คือ คุณแม่ของดิฉันป่วยเป็นอัมพาต ต้องให้อาหารทางสายยาง มาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว  ใน4เดือนแรกดิฉันต้องดูแลคุณแม่เองด้วยทำงานไปด้วย บ้านอยู่ปากเกร็ดแต่ทำงานที่กรมชลประทาน ศรีย่าน เหนื่อยมากจนหมดสติไปเลย ระหว่างนั้นก็หาคนดูแลไปด้วย แต่ดิฉันก็เป็นคนค่อนข้างเลือก เพราะต้องการคนดูแลที่ดีจริงๆไม่ต้องการหาบ่อย ก่อนที่เธอคนนี้มาดิฉันได้ลงทุนติดตั้งกล้องวงจรปิดเองทั่วทั้งบ้าน  ระยะแรกก็คอยสังเกตและบันทึกวีดีโอพฤติกรรมของเธอตลอดระยะเวลา 3 เดือนโดยได้นำภาพมาให้เธอดูและคอยแนะนำให้เธอดูแลได้อย่างถูกต้องและจนวางใจ  เธออายุ 42 ปี เป็นคนเพชรบูรณ์ ไม่มีพันธะ  ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท  กิน อยู่ กับดิฉัน  นอนในห้องกับคุณแม่ดูแล 24 ชั่วโมง จริงๆแล้วดิฉันอนุญาตให้เธอกลับบ้านไปเยี่ยมญาติได้ แต่เธอไม่เคยกลับบ้านหรือขอออกไปไหนเลย ตลอดระยะเวลา 4 ปี เธอบอกว่าจะขออยู่ดูแลคุณแม่จนวาระสุดท้าย จนกระทั่งบัดนี้ คุณแม่ดิฉันได้เสียชีวิตอย่างสุขสงบเมื่อ 28 พ.ค.2552  ด้วยความดีของเธอดิฉันตั้งใจไว้ว่าหากคุณแม่เสียชีวิตไปแล้ว ดิฉันจะแนะนำเธอให้แก่คนที่มีความจำเป็นต้องดูแลบุพการีต่อไป
สอบถามดิฉันได้ 
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mminnano
โพสต์: 221
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 06, 2007 10:24 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 11:56 am

เข้าใจเลยค่ะ แต่บางทีผู้บริหารก็ไม่ใช่คาทอลิกก็เยอะนะคะ ยังไงจะภาวนาให้ค่ะ
ตอบกลับโพส