ขอคำภาวนาเเก่อิสรภาพของผม
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 11:41 pm
วันนี้อยากขอคำภาวนาเพื่อชีวิตของผมหน่อยคับ ขอเล่าชีวิตของผมก่อนเเล่ะกัน
ผมเติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลาง แต่ชีวิตของผมนั้นค่อนข้างสะดวกสบายตั้งเเต่เกิดมาก็มีพี่เลี้ยงคอยทำทุกอย่างให้ เพราะลูกคนสุดท้องเเละลูกชายคนเดียวพ่อเเม่เลี้ยงดูผมอย่างเอาใจใส่มากๆเพราะผมอายุห่างจากพี่ๆหลายปีมาก ทุกสิ่งที่เด็กปกติมีผมก็จะมีเเละบางสิ่งที่เด็กปกติไม่มีเเล้วพ่อเเม่ผมสามารถให้ได้ท่านก็จะให้ ท่านจะพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของผม ท่านให้ผมเรียนชั้นประถมที่รร.เอกชนที่มีชื่อเสียง
การที่ผมเรียนที่นี่ ผมต้องยอมรับว่ามันทำให้ผมเป็นเด็กหัวสูงพอสมควร จนพ่อเเม่ผมกลัวว่าผมจะเป็นเหมือนพี่ผมที่ถูกสังคมรร.เอกชนช่วงมัธยมชักจูงจนชีวิตเปลี่ยนไป ดังนั้นพี่ผมทุกคนรวมทั้งผมจึงต้องย้ายมาเรียนรร.รัฐบาลเมื่อเข้าม.ต้น ซึ่งผมรู้ชะตาชีวิตตัวเองมาตลอดว่าจะต้องย้ายรร.เมื่อขึ้นม.ต้น ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงความทุกข์ของผมก็เริ่มมากขึ้นเพราะการที่ผมเป็นคนค่อนข้างเงียบเเละมาจากรร.เอกชน บวกกับการที่เเม่ผมเข้มงวดคือเเม่ไม่ให้ผมไปไหนกับเพื่อนได้เลยไม่ว่าหลังเลิกเรียนหรือว่าวันหยุด ผมเข้าใจว่าเเม่เป็นห่วงผมเเต่การทำอย่างนั้นทำให้เพื่อนเก่าก็เริ่มขาดการติดต่อ เพื่อนใหม่ก็ไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าหาผมเเละผมก็ไม่กล้าเข้าหาคนอื่นเช่นเดียวกัน
ผมต้องเรียนหนังสือโดยไม่มีเพื่อนสนิทเลยเป็นเวลาถึง3ปี ซึ่งชีวิตของผมตั้งเเต่ประถมถึงมัธยมนั้นมีเเต่คำว่าเรียน ผมต้องเรียนพิเศษตอนเย็นทุกวันกับวันเสาร์ตั้งเเต่ป.1 ไม่เคยมีกิจกรรมอื่นๆทั้งสิ้นไม่ว่าดนตรีหรือกีฬา ผมเครียดเเต่ไม่สามารถบอกใครได้ ผมทนกับการขีดเส้นทางเดินชีวิตมานานเหลือเกินจนผมจะบ้าตายหลายครั้ง ผมเหนื่อย จนม.3เเม่ก็เริ่มให้ผมไปเที่ยวกับเพื่อนได้บ้างเเต่มันก็เป็นช่วงเวลาเเค่ไม่นานเพราะพ่อผมเสียชีวิต ทำให้เเม่เริ่มคาดหวังกับตัวผมสูงมากขึ้นอีก ผมยอมที่จะไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนเพื่อจะรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเเม่
เนื่องจากพี่ๆทำงานเลิกดึกกัน ผมต้องกินข้าวเย็นกับเเม่2คนเรื่อยมา เเต่การที่ผมใกล้ชิดกับเเม่มากขึ้นกลับทำให้เเม่ผมยิ่งบังคับกำหนดทุกสิ่งในชีวิตผมมากขึ้น ผมเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ผมไม่รู้ว่าเเม่จะรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เเม่ต้องการให้ลูกเป็นนั้นมันทำให้ชีวิตของลูกเป็นอย่างไร ลูกอาจเรียนได้ดีเหมือนที่เเม่ต้องการเเต่ด้านอื่นล่ะ ทุกคนมองว่าผมเป็นคุณหนูที่มีเเม่มากำหนดทุกย่างก้าวชีวิต
เพื่อนบางคนอาจอิจฉาที่ผมไม่ต้องทำงานกระเสือกกระสนเหมือนคนอื่น มีของเเพงๆใช้ เเต่จริงๆเเล้วข้างในผมกลับว่างเปล่า ผมต้องการความรักเหลือเกินผมอยากได้ครอบครัวที่เข้าใจผม ผมอยากได้ความรักจากคนรอบข้าง พี่ๆผมล้วนเเต่เข้าใจผมเพราะทุกคนเจอมาเหมือนผม เเต่พี่ผมทั้ง3คนอายุติดๆกัน เเม่ผมจึงไม่สามารถเข้มงวดได้อย่างผม พี่ผมเข้าใจผมเเต่ทำไมเเม่ผมถึงไม่เข้าใจบ้างล่ะ ผมคิดมาหลายปีเเล่ะว่าจะมีใครบนโลกที่เข้าใจผมจริงๆบ้าง ผมเชื่อในพระเจ้า ผมเชื่อในพระองค์ เเต่ทุกครั้งที่น้ำตาไหลผมเองก็ไม่เเน่ใจว่าพระองค์จะเข้าใจผมรึป่าว
ผมอายุ18ปีเเล้ว ความจริงอาจจะยังไม่โตเท่าไรเเต่ผมก็ต้องการที่จะมีความคิดเป็นของตนเองบ้างอยากมีอิสระบ้างอยากเป็นเหมือนเพื่อนๆบ้าง ทุกวันนี้ไม่รู้จะปรึกษาใคร ผมไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนผมฟังเท่าไรเพราะเพื่อนส่วนใหญ่จะรู้เพียงว่าเเม่ดุ ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเเม่เพราะท่านคงเสียใจเเละคงไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะเเม่ผมเป็นคนหัวเเข็ง ผมไม่ได้โกรธเกลียดเเม่เพราะผมเข้าใจว่านี่คือความรัก
เพียงเเต่อยากให้เเม่เข้าใจผมบ้าง ขอคำภาวนาเพื่อผมเเละเเม่ด้วยน่ะคับ
ผมเติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลาง แต่ชีวิตของผมนั้นค่อนข้างสะดวกสบายตั้งเเต่เกิดมาก็มีพี่เลี้ยงคอยทำทุกอย่างให้ เพราะลูกคนสุดท้องเเละลูกชายคนเดียวพ่อเเม่เลี้ยงดูผมอย่างเอาใจใส่มากๆเพราะผมอายุห่างจากพี่ๆหลายปีมาก ทุกสิ่งที่เด็กปกติมีผมก็จะมีเเละบางสิ่งที่เด็กปกติไม่มีเเล้วพ่อเเม่ผมสามารถให้ได้ท่านก็จะให้ ท่านจะพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของผม ท่านให้ผมเรียนชั้นประถมที่รร.เอกชนที่มีชื่อเสียง
การที่ผมเรียนที่นี่ ผมต้องยอมรับว่ามันทำให้ผมเป็นเด็กหัวสูงพอสมควร จนพ่อเเม่ผมกลัวว่าผมจะเป็นเหมือนพี่ผมที่ถูกสังคมรร.เอกชนช่วงมัธยมชักจูงจนชีวิตเปลี่ยนไป ดังนั้นพี่ผมทุกคนรวมทั้งผมจึงต้องย้ายมาเรียนรร.รัฐบาลเมื่อเข้าม.ต้น ซึ่งผมรู้ชะตาชีวิตตัวเองมาตลอดว่าจะต้องย้ายรร.เมื่อขึ้นม.ต้น ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงความทุกข์ของผมก็เริ่มมากขึ้นเพราะการที่ผมเป็นคนค่อนข้างเงียบเเละมาจากรร.เอกชน บวกกับการที่เเม่ผมเข้มงวดคือเเม่ไม่ให้ผมไปไหนกับเพื่อนได้เลยไม่ว่าหลังเลิกเรียนหรือว่าวันหยุด ผมเข้าใจว่าเเม่เป็นห่วงผมเเต่การทำอย่างนั้นทำให้เพื่อนเก่าก็เริ่มขาดการติดต่อ เพื่อนใหม่ก็ไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าหาผมเเละผมก็ไม่กล้าเข้าหาคนอื่นเช่นเดียวกัน
ผมต้องเรียนหนังสือโดยไม่มีเพื่อนสนิทเลยเป็นเวลาถึง3ปี ซึ่งชีวิตของผมตั้งเเต่ประถมถึงมัธยมนั้นมีเเต่คำว่าเรียน ผมต้องเรียนพิเศษตอนเย็นทุกวันกับวันเสาร์ตั้งเเต่ป.1 ไม่เคยมีกิจกรรมอื่นๆทั้งสิ้นไม่ว่าดนตรีหรือกีฬา ผมเครียดเเต่ไม่สามารถบอกใครได้ ผมทนกับการขีดเส้นทางเดินชีวิตมานานเหลือเกินจนผมจะบ้าตายหลายครั้ง ผมเหนื่อย จนม.3เเม่ก็เริ่มให้ผมไปเที่ยวกับเพื่อนได้บ้างเเต่มันก็เป็นช่วงเวลาเเค่ไม่นานเพราะพ่อผมเสียชีวิต ทำให้เเม่เริ่มคาดหวังกับตัวผมสูงมากขึ้นอีก ผมยอมที่จะไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนเพื่อจะรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเเม่
เนื่องจากพี่ๆทำงานเลิกดึกกัน ผมต้องกินข้าวเย็นกับเเม่2คนเรื่อยมา เเต่การที่ผมใกล้ชิดกับเเม่มากขึ้นกลับทำให้เเม่ผมยิ่งบังคับกำหนดทุกสิ่งในชีวิตผมมากขึ้น ผมเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ผมไม่รู้ว่าเเม่จะรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เเม่ต้องการให้ลูกเป็นนั้นมันทำให้ชีวิตของลูกเป็นอย่างไร ลูกอาจเรียนได้ดีเหมือนที่เเม่ต้องการเเต่ด้านอื่นล่ะ ทุกคนมองว่าผมเป็นคุณหนูที่มีเเม่มากำหนดทุกย่างก้าวชีวิต
เพื่อนบางคนอาจอิจฉาที่ผมไม่ต้องทำงานกระเสือกกระสนเหมือนคนอื่น มีของเเพงๆใช้ เเต่จริงๆเเล้วข้างในผมกลับว่างเปล่า ผมต้องการความรักเหลือเกินผมอยากได้ครอบครัวที่เข้าใจผม ผมอยากได้ความรักจากคนรอบข้าง พี่ๆผมล้วนเเต่เข้าใจผมเพราะทุกคนเจอมาเหมือนผม เเต่พี่ผมทั้ง3คนอายุติดๆกัน เเม่ผมจึงไม่สามารถเข้มงวดได้อย่างผม พี่ผมเข้าใจผมเเต่ทำไมเเม่ผมถึงไม่เข้าใจบ้างล่ะ ผมคิดมาหลายปีเเล่ะว่าจะมีใครบนโลกที่เข้าใจผมจริงๆบ้าง ผมเชื่อในพระเจ้า ผมเชื่อในพระองค์ เเต่ทุกครั้งที่น้ำตาไหลผมเองก็ไม่เเน่ใจว่าพระองค์จะเข้าใจผมรึป่าว
ผมอายุ18ปีเเล้ว ความจริงอาจจะยังไม่โตเท่าไรเเต่ผมก็ต้องการที่จะมีความคิดเป็นของตนเองบ้างอยากมีอิสระบ้างอยากเป็นเหมือนเพื่อนๆบ้าง ทุกวันนี้ไม่รู้จะปรึกษาใคร ผมไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนผมฟังเท่าไรเพราะเพื่อนส่วนใหญ่จะรู้เพียงว่าเเม่ดุ ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเเม่เพราะท่านคงเสียใจเเละคงไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะเเม่ผมเป็นคนหัวเเข็ง ผมไม่ได้โกรธเกลียดเเม่เพราะผมเข้าใจว่านี่คือความรัก
เพียงเเต่อยากให้เเม่เข้าใจผมบ้าง ขอคำภาวนาเพื่อผมเเละเเม่ด้วยน่ะคับ