หากวันพิพากษาโลกมาถึงผู้นับถือศาสนาอื่นจะเป็นอย่างไร
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ความจริงแล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น ที่รู้CRISIS เขียน: หากวันพิพากษาโลกมาถึงผู้ที่นับถือศาสนาอื่นจะเป็นอย่างไรครับ
(เป็นห่วงญาติและเพื่อนที่เป็นชาวพุทธ)

แต่ตามความเชื่อเราคริสเตียน ให้แพร่ธรรม คือประกาศ พระวาจา ให้คนรู้จักพระเยซูคริสต์มากที่สุด
เพราะ เรา เชื่อ ว่า พระเยซูตรัสว่า "เรา เป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาหาพระเจ้าได้นอกจากมาทางเรา"
หรือ "นามอื่นทั่วใต้ฟ้าความรอดไม่มี " ดังนั้นให้เรานำคนมาถึงความรักของพระเยซูคริสต์ ผู้ยอมวายพระชนม์เพื่อมนุษย์ทุกคน จึงดีที่สุด
พระเจ้าทรงความเที่ยงตรงยิ่งนัก 

-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
เราเคยอ่านเรื่องสันญาณเตือนอะ ที่จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนวันสิ้นโลกอะ ใครเคยบ้างอะ
คาทอลิกเชื่อว่า มีความรอดนอกพระศาสนจักรค่ะ
เเต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกน๊าที่จะกลับไปหาพระเจ้า (ไม่งั้นจะต้องพิพากษากันทำไม จริงไหม?)
Dominus vobiscum
เเต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกน๊าที่จะกลับไปหาพระเจ้า (ไม่งั้นจะต้องพิพากษากันทำไม จริงไหม?)

Dominus vobiscum
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
กิจการบทที่16:31 เปาโลกับสิลาสจึงกล่าวว่า "จงเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์เจ้า และท่านจะรอดได้ทั้งครอบครัวของท่านด้วย"
คืออะไรขยายความที่ครับ
คืออะไรขยายความที่ครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ความหมายดังนี้ กรณี ของสิลาส กับเปาโลประกาศกับนายคุกคืนนั้นholy holy holy เขียน: กิจการบทที่16:31 เปาโลกับสิลาสจึงกล่าวว่า "จงเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์เจ้า และท่านจะรอดได้ทั้งครอบครัวของท่านด้วย"
คืออะไรขยายความที่ครับ
1. เมื่อนายคุกได้รับเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์แล้ว ทุกๆคนในครอบครัวของท่านจะวางใจในพระเยซูคริสต์ตามแน่ๆ นั่นคือความรอดทั้ง ครอบครัว
2.เพราะในยุคนั้น เป็นยุค ปิตาธิปไตย = บิดาเป็นใหญ่ในครอบครัว ดังนั้นเมื่อบิดาเชื่ออะไร สมาชิกของครอบครัวต้องเชื่อตามด้วย
ประยุกต์ในปัจจุบัน
1.ใครก็ตามที่เชื่อวางใจในพระเยซูเจ้าแล้ว เขาเป็นผู้นำร่มพระคุณ (ร่มพระพร )ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงครอบครัว นั่นหมายถึงครอบครัวนั้นมีโอกาสได้ฟังข่าวดี มีโอกาสรับความรอดสูง
2.จำไว้เสมอว่า ความรอดเป็นส่วนบุคคล = ความรอดของ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาสนิทมิตรสหาย ไม่สามารถทำให้ลูกหลาน เหลน ญาติมิตร เข้าแผ่นดิสวรรค์ได้ เพราะทุกคน ต้องกลับใจใหม่ วางใจเชื่อพระเยซูคริสต์เองเท่านั้น ถึงจะได้รับความรอด :cheesy:
3.หลักข้อเชื่อของโปรเตสแตนต์ "พระเจ้ามีแต่ลูก" นั่นหมายถึง ทุกๆคน ต้องต้อนรับพระเยซูเป็นพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดด้วยตัวเอง ถึงจะมั่นใจว่าได้รับความรอด
4. ปัญหามีทั่วโลก ทั้งคริสตจักร และพระศาสนจักร คือ "คริสตาม" (ไม่ใช่คริสตัง และไม่ใช่คริสเตียน )
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
เราจะไม่เสียใจในสวรรค์หรือ ที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ครับน่ะครับ
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
ก็เป็นที่น่าเศร้า

แต่ต้องรักพระเจ้ามากที่สุด

แต่ต้องรักพระเจ้ามากที่สุด
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ตอนนี้ก็เป็นเวลา ที่เราจะนำพ่อ แม่ เข้าแผ่นดินของพระอาณาจักรของพระเจ้าด้วย นี่คะholy holy holy เขียน: เราจะไม่เสียใจในสวรรค์หรือ ที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ครับน่ะครับ
น้องต้องภาวนาให้บิดา มารดา นำท่านไปถึงพระเยซูคริสต์ เพื่อให้ท่านมีส่วนบนแผ่นดินด้วย
เพราะความรอด ก็เข้ามาถึงในครอบครัวน้องแล้ว แต่ท่านต้องต้อนรับด้วยปาก ว่าพระเยซูคริสต์ เป็นพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอด :cheesy:
ต่อคิว มีเคาท์เตอร์ถามถึงลัทธิความเชื่อ ศาสนา แล้วแยกประตูกันไปพิพากษากันไปคนละแบบ 555+
- King Zadin
- โพสต์: 419
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 3:53 am
- ติดต่อ:
ก็ยังเชื่อว่าถึงที่สุดพระเมตตาของพระเจ้าใหญ่ยิ่งนัก และความเที่ยงตรงของพระองค์ก็ไม่มีผู้ใดเทียมทัน วางใจในพระองค์
อีกอย่างก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะประกาศพระวาจาของพระองค์ เพื่อเปิดตาและใจของพี่น้องเรา
อีกอย่างก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะประกาศพระวาจาของพระองค์ เพื่อเปิดตาและใจของพี่น้องเรา
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
เราถึงต้องหมั่นสวดภาวนาและ
เร่งแพร่ธรรมให้คนต่างศาสนาได้กลับใจยังไงคะ
เร่งแพร่ธรรมให้คนต่างศาสนาได้กลับใจยังไงคะ
ทุกวันยังภาวนาให้พวกเขา แม้พวกเขาจะล่วงลับไปแล้วก็ตาม
ข้าแต่พระเยซูเจ้าโปรดอภัยบาปของเราโปรดช่วยให้เราให้พ้นจากไฟนรก โปรดนำวิญญาณทุกดวงให้รอดสูงสวรรค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณที่ต้องการพระเมตตาของพระองค์มากที่สุด
ข้าแต่พระเยซูเจ้าโปรดอภัยบาปของเราโปรดช่วยให้เราให้พ้นจากไฟนรก โปรดนำวิญญาณทุกดวงให้รอดสูงสวรรค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณที่ต้องการพระเมตตาของพระองค์มากที่สุด
ไม่ต้องห่วงเพื่อนๆชาวพุทธหรอกครับ พระองค์ทรง"วาง"ชีวิตของพระองค์ลง และรับความทรมานแสนสาหัสเพื่อให้เรารอด คิดเหรอครับว่าพระองค์จะปล่อยให้ชาวบ้าน"ไม่รอด"ไปง่ายๆ ลงทุนขนาดนี้แล้ว
หน้าที่ของเราคือทำตัวให้พระองค์ว่างพอที่จะไปดูแลคนอื่นๆบ้าง แทนที่จะต้องมาเสียเวลาดูแลเราเสียเยอะแยะ เพราะเรารู้จักพระองค์"บ้าง"แล้ว แต่ยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่ยังไม่ได้มีโอกาสดีตรงนี้ครับ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
หน้าที่ของเราคือทำตัวให้พระองค์ว่างพอที่จะไปดูแลคนอื่นๆบ้าง แทนที่จะต้องมาเสียเวลาดูแลเราเสียเยอะแยะ เพราะเรารู้จักพระองค์"บ้าง"แล้ว แต่ยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่ยังไม่ได้มีโอกาสดีตรงนี้ครับ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
พระเจ้า (ระดับพระเจ้า) ต้องมีพระเมตตาสูงอย่างคาดไม่ถึงแน่ๆๆ ผมเชื่อสนิทใจเช่นนั้นนะ
ผมเชื่อว่า ยังไง เราผู้เชื่อคนเดียวในบ้าน ก็เหมือนเอาร่มของพระเยซูมากางกันฝนให้พ่อแม่ด้วย
พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความรัก ผมเชื่อว่า เรารักพ่อแม่แค่ไหน พระองค์เข้าใจดี ถึงวันนั้น ไม่รู้จะเป็นไง แต่ถ้าพระองค์ให้พ่อแม่เรารอด เชื่อว่า พ่อแม่เราต้องซึ้งสะอื้นกันแหละ
------------------------------พูดกันยาก ของอย่างนี้
ในมุมหนึ่ง ตามศาสนศาสตร์ ก็ เรื่องความรอด เป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆ ไม่มีใครทำให้ใครรอดแทนใครได้ เอาใหม่ งง "ไม่มีใครทำแทนคนนั้นให้รอดได้"
แต่พระเจ้า ต้องมีพระเมตตาอย่างมากเลยนะ มากพอที่จะให้เราอยู่ในสวรรค์อย่างไม่เจ็บปวดเพราะพรากจากพ่อแม่ และผมก็เชือ่ว่า ถ้าพ่อแม่ได้รับพระคุณนี้ ต้องรับใช้พระเจ้าได้ดีเยี่ยมไม่แพ้พวกเราแน่นอน
ผมคิดแบบนี้นะ
เอาเป็นว่า ตอนนี้ เราคงไปเปลี่ยนใครไมได้ แต่เราเป็นตะเกียงได้
ถ้าตะเกียงพระเจ้าสว่างอยู่ในบ้านใคร บ้านนั้นก็สันติสุข จริงมั้ยละ
ผมเชื่อว่า ยังไง เราผู้เชื่อคนเดียวในบ้าน ก็เหมือนเอาร่มของพระเยซูมากางกันฝนให้พ่อแม่ด้วย
พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความรัก ผมเชื่อว่า เรารักพ่อแม่แค่ไหน พระองค์เข้าใจดี ถึงวันนั้น ไม่รู้จะเป็นไง แต่ถ้าพระองค์ให้พ่อแม่เรารอด เชื่อว่า พ่อแม่เราต้องซึ้งสะอื้นกันแหละ
------------------------------พูดกันยาก ของอย่างนี้
ในมุมหนึ่ง ตามศาสนศาสตร์ ก็ เรื่องความรอด เป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆ ไม่มีใครทำให้ใครรอดแทนใครได้ เอาใหม่ งง "ไม่มีใครทำแทนคนนั้นให้รอดได้"
แต่พระเจ้า ต้องมีพระเมตตาอย่างมากเลยนะ มากพอที่จะให้เราอยู่ในสวรรค์อย่างไม่เจ็บปวดเพราะพรากจากพ่อแม่ และผมก็เชือ่ว่า ถ้าพ่อแม่ได้รับพระคุณนี้ ต้องรับใช้พระเจ้าได้ดีเยี่ยมไม่แพ้พวกเราแน่นอน
ผมคิดแบบนี้นะ
เอาเป็นว่า ตอนนี้ เราคงไปเปลี่ยนใครไมได้ แต่เราเป็นตะเกียงได้
ถ้าตะเกียงพระเจ้าสว่างอยู่ในบ้านใคร บ้านนั้นก็สันติสุข จริงมั้ยละ
[ก่อนอื่น ผมต้องขอบอกก่อนว่า ผมเป็น มอรมอน
ผมมีความสนใจในเว็ปบอร์ดนี้ โดยเฉพาะเห็นว่ามีคนที่เป็นมอรมอนอยู่ด้วย
ผมจึงได้สมัครสมาชิกเข้ามาครับ
ที่มา http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=6703.0
เนื่องจากผมเห็นหลายๆ คำถามก็อยากมีส่วนร่วมในการตอบบ้างน่ะครับ
หวังว่าคงจะไม่ว่าอะไรนะครับ]
หลังจากความตายแล้ว
ดวงวิญญาณจะไปอยู่ที่โลกแห่งวิญญาณ เพื่อรอการฟื้นคืนชีวิตและการพิพากษาครับ
ซึ่่งในโลกแห่งวิญญาณนั้น จะมี 2 ส่วนคือ รมณีย์ (Paradise) กับ คุกแห่งวิญญาณครับ
ในช่วงเวลานั้น ผู้ืัที่ไม่ได้เรียนรู้พระกิตติคุณจะมีโอกาสที่จะเรียนรู้พระกิตติคุณ และสามารถกลับใจได้ครับ
ดังนั้น ทุกคนจะมีโอกาสได้เรียนรู้พระกิตติคุณครัย :)
ในพระคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาใหม่ ก็ได้มีการกล่าวถึงการสอนพระกิตติคุณในโลกแห่งวิญญาณเช่นกันครับ
1เปโตร3:19-20
"และโดยทางวิญญาณพระองค์ได้เสด็จไปประกาศพระวจนะแก่วิญญาณที่ติดคุกอยู่
ซึ่งในกาลก่อนไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า คราวเมื่อพระเ้จ้าทรงโปรดงดโทษไว้ในสมัยโนอาห์
ขณะที่ท่านกำลังต่อเรือใหญ่นั้นมีน้อยคนคือทางน้ำนั้นแปดคนรอดชีวิตจากน้ำท่วม"
1เปโตร4:5
"คนเหล่านั้นจะต้องให้การแก่พระองค์ ผู้พร้อมแล้วที่จะทรงพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย"
ผมมีความสนใจในเว็ปบอร์ดนี้ โดยเฉพาะเห็นว่ามีคนที่เป็นมอรมอนอยู่ด้วย
ผมจึงได้สมัครสมาชิกเข้ามาครับ
ที่มา http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=6703.0
เนื่องจากผมเห็นหลายๆ คำถามก็อยากมีส่วนร่วมในการตอบบ้างน่ะครับ
หวังว่าคงจะไม่ว่าอะไรนะครับ]
หลังจากความตายแล้ว
ดวงวิญญาณจะไปอยู่ที่โลกแห่งวิญญาณ เพื่อรอการฟื้นคืนชีวิตและการพิพากษาครับ
ซึ่่งในโลกแห่งวิญญาณนั้น จะมี 2 ส่วนคือ รมณีย์ (Paradise) กับ คุกแห่งวิญญาณครับ
ในช่วงเวลานั้น ผู้ืัที่ไม่ได้เรียนรู้พระกิตติคุณจะมีโอกาสที่จะเรียนรู้พระกิตติคุณ และสามารถกลับใจได้ครับ
ดังนั้น ทุกคนจะมีโอกาสได้เรียนรู้พระกิตติคุณครัย :)
ในพระคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาใหม่ ก็ได้มีการกล่าวถึงการสอนพระกิตติคุณในโลกแห่งวิญญาณเช่นกันครับ
1เปโตร3:19-20
"และโดยทางวิญญาณพระองค์ได้เสด็จไปประกาศพระวจนะแก่วิญญาณที่ติดคุกอยู่
ซึ่งในกาลก่อนไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า คราวเมื่อพระเ้จ้าทรงโปรดงดโทษไว้ในสมัยโนอาห์
ขณะที่ท่านกำลังต่อเรือใหญ่นั้นมีน้อยคนคือทางน้ำนั้นแปดคนรอดชีวิตจากน้ำท่วม"
1เปโตร4:5
"คนเหล่านั้นจะต้องให้การแก่พระองค์ ผู้พร้อมแล้วที่จะทรงพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย"
รมณีย์ เป็นคำที่มีความหมายอยู่แล้วนะครับ
แต่ไม่แน่ใจว่าในพจนานุกรมให้ีความหมายว่าอะไร
แต่ในส่วนนี้ รมณีย์ นั้นได้แปลมาจากคำว่า Paradise ครับ
ซึ่งผู้แปลพระคัมภีร์มอรมอนนั้น ในตอนแรกก็ได้งงกับคำว่า Paradise ครับ
แต่ด้วยการสวดอ้อนวอนอย่างหนัก เขาจึงได้ัรับคำตอบจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ครับ
และจึงใช้คำว่า รมณีย์ ครับ
ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ
ในโลกแห่งวิญญาณนั้น จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
รมณีย์ กับ คุกแห่งวิญญาณ
รมณีย์ Paradise เป็นที่อยู่สำหรับวิญญาณที่ผ่านการรับบัพติศมาจากผู้ที่มีอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า
ในที่นี้ดวงวิญญาณจะได้รับการพักผ่อน เพื่อรอคอยการฟื้นคืนชีวิต ซึ่งที่นี่จะมีแต่ความสันติสุขครับ
(เพิ่มเติม http://scriptures.lds.org/gs/p/3?sr=1)
คุกแห่งวิญญาณ Spirit Prison เป็นที่อยู่สำหรับวิญญาณที่ยังไม่ได้รับการบัพติศมาจากผู้ทีี่่มีอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า
ในที่นี้ดวงวิญญาณจะมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้พระกิตติคุณ และสามารถกลับใจได้อีกครั้งหนึ่งครับ
(เพิ่มเติม http://scriptures.lds.org/en/gs/s/87
http://scriptures.lds.org/en/gs/h/26?sr=1)
แต่ไม่แน่ใจว่าในพจนานุกรมให้ีความหมายว่าอะไร
แต่ในส่วนนี้ รมณีย์ นั้นได้แปลมาจากคำว่า Paradise ครับ
ซึ่งผู้แปลพระคัมภีร์มอรมอนนั้น ในตอนแรกก็ได้งงกับคำว่า Paradise ครับ
แต่ด้วยการสวดอ้อนวอนอย่างหนัก เขาจึงได้ัรับคำตอบจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ครับ
และจึงใช้คำว่า รมณีย์ ครับ
ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ
ในโลกแห่งวิญญาณนั้น จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
รมณีย์ กับ คุกแห่งวิญญาณ
รมณีย์ Paradise เป็นที่อยู่สำหรับวิญญาณที่ผ่านการรับบัพติศมาจากผู้ที่มีอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า
ในที่นี้ดวงวิญญาณจะได้รับการพักผ่อน เพื่อรอคอยการฟื้นคืนชีวิต ซึ่งที่นี่จะมีแต่ความสันติสุขครับ
(เพิ่มเติม http://scriptures.lds.org/gs/p/3?sr=1)
คุกแห่งวิญญาณ Spirit Prison เป็นที่อยู่สำหรับวิญญาณที่ยังไม่ได้รับการบัพติศมาจากผู้ทีี่่มีอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า
ในที่นี้ดวงวิญญาณจะมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้พระกิตติคุณ และสามารถกลับใจได้อีกครั้งหนึ่งครับ
(เพิ่มเติม http://scriptures.lds.org/en/gs/s/87
http://scriptures.lds.org/en/gs/h/26?sr=1)