Belong to the Truth Jesus Christ

เครียด เครียด เครียด
ช่วงนี้เครียดมากค่ะ รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างเครียดไปหมด ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน ต่างๆนานา
กลายเป็นคนเครียดง่าย เครียดนาน ทำให้นอนไม่หลับ เพราะเหมือนสมองคอยคิดอยู่ตลอดเวลา
เหมือนหนูกำลังจะเป็นบ้าแล้วค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี พยายามสวดสายประคำบ่อยๆ เพื่อทำให้จิตใจสงบ
แต่ก็ยังไม่สงบขึ้นเลย ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ เครียดสุดๆ โดยเฉพาะเรื่องเรียน พอนึกทีไรเหมือนทุกอย่างจะถล่มเข้ามาในสมองหนู
เหมือนมันใกล้จะระเบิดเต็มทีแล้วค่ะ หนูก็ยังคงภาวนาให้พระช่วยตลอด พยายามวางใจในพระ
แต่สุดท้ายหนูก็ยังอดคิดไม่ได้อยู่ดีอะคะ

หนูควรจะทำอย่างไรดีค่ะ พี่ๆช่วยหนูด้วย 

ขอให้พระช่วยแล้ว สวดสายปะคำ ก็แล้ว แต่ยังไม่สบายใจ

เหตุที่ไม่สบายใจก็เพราะว่าใจไม่สบาย

ลองเปลี่ยนมุมมองจากภาระที่มี
มามองที่พระเจ้าดูสิครับ

มองแผ่นดินสวรรค์ มองความรอดที่พระองค์ให้เรา มองความรัก

การงาน การใดๆ บนโลกนี้ มันอนิจจังนักนะครับ มันไร้สาระ

เราต้องรู้ก่อนว่า แท้จริงชีวิต ไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียน เพื่อหาเงิน หรือเพื่ออื่นใดเลย แต่เราเกิดมาเพื่อกันและกัน


ลองทำใจให้สบายดูก่อน
"บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข"

พระเจ้าทรงมีมุมมองอย่างไร ให้เราลองมองแบบที่พระองค์มอง
พระองค์ทรงมองกิจการการงานบนโลกอย่างไร ขอให้เรามองเช่นเดียวกับพระองค์มอง


อย่าให้การงาน การใดๆ บนโลก มาทำให้เราต้องเป็นทุกข์
แต่สิ่งที่เราควรทุกข์คือ เราติดสนิทพระองค์น้อยไปไหม (ติดสนิทชิดใกล้ในดวงหทัย)

ยังไง เรื่องงาน เรื่องเรียน ให้เป็นไปตามน้ำพระทัย เราทำหน้าที่ของเรา พระพรของพระองค์จะหลั่งล้นมา
แต่อย่าให้เราเป็นทุกข์ถึงเรื่องอนิจจังเหล่านี้เลยนะครับ

อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้

เมื่อเราก้าวข้ามผ่านไปได้ เราจะรู้ว่า มันง่ายแค่ไหน ถึงจะเจ็บเล็กน้อย ก็จะไม่รู้สึกเจ็บเลย เมื่อเราผ่านมันไป

แนะนำว่าให้ทำทีละอย่างจ๊ะ

ทำพร้อม ๆ กัน  เอามาเทรวมกันอยุ่ตรงหน้า
มันก็มโหฬารแบบนี้แหละ

ค่อย ๆ ทำทีละส่วน  เวลาจัดการส่วนไหน  ก้ไม่ต้องไปคิดถึงส่วนอื่น

แล้วจะดีขึ้น 

ค่อยๆจัดระเบียบสมองนะ
ค่อยมองอะไรทีละอย่าง ทำอะไรทีละอย่าง
เมื่อเราจัดระบบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยๆลงรายละเอียดในสิ่งต่างๆที่เรากำลังให้ความสำคัญกะมันอยู่
และทุ่มเททุกอย่างให้สิ่งนั้น..ทำให้มันสุดๆไปเลย เต็มที่ เต็มความสามารถ...เมื่อเราทำเต็มที่แล้ว ผลที่ตามมาก็ช่างมัน
อย่างเรียนก็เรียนให้มันสุดๆ สอบก็อ่านหนังสือแบบสุดๆ ผลสอบออกมายังไงก็ช่างมัน เราทำดีที่สุดเเล้ว..แต่ส่วนใหญ่ผลออกมาดีเกินคาดหมายนะ
ทำงานก็ทุ่มสุดๆให้มันสุดตัว ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ใครจะมาว่าอะไรเราก็ให้เราฟังและน้อมรับคำตินั้นด้วยใจนบน้อม...
เวลาที่เราเครียดมากนะ เราจะทำอะไรได้ไม่ดีซักอย่าง..ลองไปเฝ้าศีล คุยกะพระให้ใจเรานิ่งก่อน...
แล้วค่อยๆเคลียร์ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเองออกทีละอย่าง...
มีไรก็แอดเรามาได้นะ...ยินดีรับฟังและให้การช่วยเหลือ..ถ้าลองทำตามที่เราแนะนำแล้วยังไม่บังเกิดผลดีแล้วก็ลองปรึกษาจิตแพทย์จิ..ดีที่สุด..

เครียด เครียด เครียด
ช่วงนี้เครียดมากค่ะ รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างเครียดไปหมด ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน ต่างๆนานา
กลายเป็นคนเครียดง่าย เครียดนาน ทำให้นอนไม่หลับ เพราะเหมือนสมองคอยคิดอยู่ตลอดเวลา
เหมือนหนูกำลังจะเป็นบ้าแล้วค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี พยายามสวดสายประคำบ่อยๆ เพื่อทำให้จิตใจสงบ
แต่ก็ยังไม่สงบขึ้นเลย ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ เครียดสุดๆ โดยเฉพาะเรื่องเรียน พอนึกทีไรเหมือนทุกอย่างจะถล่มเข้ามาในสมองหนู
เหมือนมันใกล้จะระเบิดเต็มทีแล้วค่ะ หนูก็ยังคงภาวนาให้พระช่วยตลอด พยายามวางใจในพระ
แต่สุดท้ายหนูก็ยังอดคิดไม่ได้อยู่ดีอะคะ

หนูควรจะทำอย่างไรดีค่ะ พี่ๆช่วยหนูด้วย 

ค่อยๆแก้ทีละอย่างสิครับ
-เริ่มจากปัญหาเกิดจากอะไร อะไรเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหา
-เริ่มคิดหาวิธีการจะแก้ปัญหาด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของเรา
- แต่ละปัญหาจะแก้ด้วยวิธีใด จึงจะเหมาะสมกับปัญหา
-หากปัญหานี้จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ก็อย่าขัดศรัทธาของจิตใจเลยครับ
พระจิตเจ้าทรงมอบปรีชาฌาณให้เราทุกคน เราใช้ความสามารถของเราตรงนั้นดีกว่า

ถ้า ทำทุกอย่างแล้วก็ยังเครียดอยู่ ก็ต้องปล่อยไปแล้วค่ะ

ถ้าเราฝากพระไว้ให้พระจัดการก็ไม่ต้องกังวลสิ่งใด

เพราะหากเราฝากระแล้วเอากลับมาคิดเองก็แปลกๆอยู่นะคะ

หรือไม่ก็ลองภาวนาแบบยกใจขึ้นหาพระเงียบๆ คุยกับพระด้วยใจน่าจะรู้สึกดีขึ้นได้บ้างนะคะ

แล้วจะช่วยสวดให้อีกแรงนะคะ   

Ora pro nobis.

"บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเราและเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข"(มัทธิว 11 ข้อ 28) ฝากทุกอย่างไว้กับพระครับ

"พระเจ้าทรงระลึกถึงข้าพระองค์แล้ว พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งคนที่รักพระองค์เลย" (ดาเนียล 14 ข้อ 38)

แนะนำให้อ่านพระคัมภีร์ค่ะ การอ่านพระคัมภีร์ช่วยให้เรามีจิตใจสงบได้ และยังทำให้เราเข้าใจเรื่องของพระเจ้ามากขึ้นด้วยค่ะ

สวดสายปะคำ ได้ด้วย ก็น่าจะดีนะคับ
ถ้าไม่มีก็สวด ช้าๆ จนใจเย็นนะคับ ช่วยได้เยอะเลย

พระให้กำลังใจคุณอยู่นะครับ  เราต้องผ่านมันไปให้ได้สิ :cheesy:

จริงนะครับ สวดสายประคำ ดีที่สุดนะครับ

ใน condition นี้ เป็นโอกาสของหนูค่ะ
ที่จะได้สวดภาวนาเพื่อผู้ที่ประสบความทุกข์เช่นเดียวกัน
อย่าคิดว่าไม่มีใครค่ะ เรามีพระเป็นเจ้าอยู่กับเราเสมอ

นอกจากหนูจะวางใจในพระแล้วหนูต้องวางใจในต้วหนูเองด้วยนะ เราต้องวางใจในตัวเราเองให้ได้ก่อน แล้วพระเจ้าจะช่วยเหลือเรา พี่ไม่รู้ว่าปัญหาน้องคืออะไร แต่พี่อยากจะจะบอกว่า ให้น้องตั้งสติดีดี แล้วแยกแยะปัญหาออกมาเป็นสองกอง กองที่หนึ่ง ปัญหาที่น้องสามารถแก้ไขเองได้  กองที่สอง ปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ไขเองได้ จากนั้นเราก็มาลุยแก้ปัญหากองที่หนึ่งให้สำเร็จ ส่วนปัญหากองที่สอง เราให้พระเจ้าช่วยเราก็ได้ คนเราทุกวันนี้ที่มันจะบ้ากันตายก็เพราะ คิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์แมนไง จะแก้ปัญหาทั้งหมดให้ได้ ทั้งๆที่ปัญหาบางเรื่องต้องใช้เวลา ขอให้น้องโชคดี พระเจ้าอยู่ในใจเราทุกคน

วางใจในพระบิดา แล้วมองดูโลกอันสวยงามที่พระองค์สร้างขึ้น

แล้วความสงบจะบังเกิด

ผมเองก็เคยเป็นแบบนี้นะครับ แต่มันมีวิธีแก้ด้วยตนเองนะครับ ลองไปทำดูนะ

คิดว่าอะไรที่ทำให้เราเครียด
ถ้าสิ่งที่เราเครียดหรือกังวลอยู่มันเกิดขึ้นจะรับมันอย่างไร(อันนี้ต้องตั้งสติดีๆนะ)
นึกไว้เสอมว่าทุกปัญหามีทางแก้
พยายามพูดกับตัวเองว่าช่าง แม่งเถอะ ใส่อารมณ์เลยก็ได้เพื่อระบายความเก็บกด
หลังจากนั้นก็ให้นึกว่า ฉันจะต้องดีขึ้น พระเจ้าอยู่กับฉัน พระองค์ไม่ทิ้งฉันแน่นนอน พระองค์มองเห็นฉัน
พยามทำใจให้สบายโดยการไปออกกำลังกายตอนเย็นๆ หาอะไรสนุกๆทำ ร้องเพลงหรือเต้นก็ได้ แต่ห้ามกินเหล้าเด็ดขาด เพราะหลังจากนั้นจะเครียดกว่าเดิมนะ
อาบน้ำก่อนนอน
เวลานอนที่ดีคือประมาณสี่ทุ่ม อย่าให้เกินห้าทุ่มนะเพราะอาจจะหลับยาก
ถ้านอนแล้วมันนอนไม่หลับจริงๆ ก็ให้ลุกไปหาอะไรเบาๆทำอย่าอยู่บนเตียง
พอง่วงแล้วก็ค่อยกลับมานอน
ถ้าวิธีที่ผมบอกมาแล้วมันยังช่วยไม่ได้ผมแนะนำให้คุณทำใจยอมรับว่าคุณกำลังเครียดมากจริงๆและไปปรึกษาเภสัชกร หรือถ้าให้ดีไปหาจิตแพทย์เลยก็ได้นะครับ อย่าคิดว่าการไปหาจิตแพทย์จะเป็นเรื่องของคนบ้านะครับ เพราะคุณไม่ใช่คุณยังรู้ว่าตัวเองเครียด มันอาจเป็นภาวะหนึ่งของจิตใจที่ถูกเรื่องราวหรือเหตุการณ์บางอย่างกระทบอย่างรุนแรงและไม่ทันตั้งตัวครับ

ชีวิตในโลกแห่งกตัญญูรูคุณ

จงใช้ชีวิตในโลกของการขอบคุณ

ขอบคุณคนที่ทำร้ายคุณ
เพราะเขาเคี่ยวกรำให้ปณิธานของคุณแข็งแกร่ง

ขอบคุณคนที่หลอกลวงคุณ
เพราะเขาทำให้คุณรู้เท่าทันมากขึ้น

ขอบคุณคนที่ทอดทิ้งคุณ
เพราะเขาสอนให้คุณรู้จักยืนหยัดด้วยตนเอง

ขอบคุณคนที่ทำให้คุณหกล้ม
เพราะเขาทำให้คุณมีความสามารถมากขึ้น

ขอบคุณคนที่ดุด่าคุณ
เพราะเขาทำให้ปัญญาของคุณเพิ่มพูน

ขอบคุณทุก ๆ คน
ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จอย่างมั่งคง