+++วิธีสวดสายประคำอัศจรรย์ สำหรับคริสตชนทุกนิกาย+++
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 21, 2007 7:20 pm
วัตถุประสงค์ และความเป็นมา
สายประคำอัศจรรย์เพื่อคริสตชนทุกนิกายถูกเผยแพร่ครั้งแรกบนระบบเครือข่ายในเดือนกุมภาพันธ์ คศ.1999
สายประคำนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสายประคำศักดิ์สิทธิ์ต้นฉบับ
ซึ่งเป็นการจัดวางบทภาวนาต่างๆและการรำพึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆในพันธสัญญาใหม่
บทภาวนาเหล่านี้ จะถูกนับและภาวนาในแต่ละเม็ดประคำ
ขณะที่สวดบทภาวนาและนับเม็ดประคำนั้น เราจะรำพึงในภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ จากพระคัมภีร์ ซึ่งเรียกว่าธรรมล้ำลึก
สายประคำจะกล่าวเรื่องราวของพระเยซู นับแต่การบังเกิด การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ตลอดจนการคืนชีพและสเด็จขึ้นสวรรค์
โดยผู้ที่คิดค้นขึ้นคือ นักบุญโดมินิก ในศตวรรษที่13
ข้าพเจ้าเป็นลูเธอรันที่ได้สมรสกับคาทอลิค จึงได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องสายประคำจาก กลุ่มสมาชิกคู่สรมรสคาทอลิค
ข้าพเจ้าได้ตกตะลึงในอำนาจของการสวดสายประคำ เพราะ การสวดสายประคำทำให้เราสามารถรำพึงถึงธรรมล้ำลึกต่างๆ ขณะที่ท่องบทภาวนา
คริสตชนที่มีประสบการ์สวดสายประคำแล้ว สามารถอธิษฐานวอนขอได้ในขณะที่ท่องบทภาวนาและรำพึงถึงเหตุการณ์อัศจรรย์ต่างๆ
สายประคำคือรูปแบบการภาวนาที่ทรงพลังเพราะ สายประคำได้นำเราหลีกพ้นความน่าเบื่อของการภาวนาที่ไร้รูปแบบ
และยังทำให้คริสตชนสามารถใช้เวลามากขึ้นในการสรรเสริญแสดงความรักค่อพระเจ้า เช่นเดียวกับการอธิษฐานกับพระเจ้าโดยตรง
สายประคำอัศจรรย์นี้ ได้ใช้บทข้าแต่พระบิดาฯและบทภาวนาอื่นๆที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากในประสบการณ์ส่วนตัวด้านศรัทธา
ข้าพเจ้าเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำเอกสัมพันธ์"
เพราะบทภาวนาและข้อรำพึง"อัศจรรย์"ต่างๆได้ยึด/ดัดแปลงจากพระคัมภีร์โดยตรง
เพื่อที่ทุกคริสตจักรจะสามารถท่องบทภาวนาและรำพึงเหตุการณ์อัศจรรย์ได้อย่างสะดวก
ข้าพเจ้ายังเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำอัศจรรย์"
เพราะข้อรำพึงทั้งหมดได้กล่าวถึงอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำทั้งก่อนและหลังการเสด็จกลับฟื้นคืนชีพ
ข้าพเจ้าไม่อาจยืนยันแต่ก็เชื่อว่า การภาวนาโดยกิจศรัทธานี้จะนำอัศจรรย์ของพระเจ้า มาสู่ชีวิตของเรายิ่งๆขึ้นไป
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องคาทอลิคจะให้ความสนใจสายประคำนี้เช่นเดียวกับกิจศรัทธาที่ใช้สายประคำแบบทั่วไป
เช่นเดียวกับ สายประคำพระเมตตา ซึ่งนักบุญโฟสติน่าได้เผยแพร่
ข้าพเจ้าอยากให้เข้าใจด้วยว่า สายประคำอัศจรรย์มิได้นำมาแทนที่สายประคำศักดิ์สิทธิ์
และนั่นเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าใช้บทภาวนาและข้อรำพึงที่ต่างออกไป
เพื่อเพ่งพินิจในอัศจรรย์ต่างๆที่พระคริสตเจ้าได้ทรงกระทำขณะดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องโปรแตสแตนท์ จะมองสายประคำนี้เป็น หนทางในการดำลึกในชีวิตการภาวนา
โดยการรำพึงในสิ่งที่พระเยซูได้ทำเพื่อเรา และในความจริงเรื่องการกลับคืนชีพของพระองค์
ข้าพเจ้ามีเป้าหมายที่จะแบ่งปัน สายประคำนี้แก่คริสตชนต่างๆที่มิใช่คาทอลิค
เพื่อสร้างเสริมความเป็นเอกภาพของทุกคริสตจักร
ข้าพเจ้าหวังว่าสายประคำนี้จะถูกใช้ในกลุ่มเอกสัมพันธ์เช่นเดียวกับการตื่นเฝ้าในวันคริสต์มาสและอีสเตอร์ ฯลฯของกลุ่มด้วย
http://www.ecumenicalrosary.org/default.htm
[hr]
1.กางเขน สวด "หลักข้อเชื่อสภานิเชีย" (ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว)
2.เม็ดใหญ่ สวด "บทข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
3.เม็ดเล็ก 3 เม็ด แต่ละเม็ดสวด "บัญญัติเอก"
4.เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก"
5.สวด 5ข้อรำพึง โดยแต่ละข้อรำพึงสวด 1ทศ คือ:
เม็ดใหญ่ สวด "ข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
เม็ดเล็ก 10เม็ด สวด "บัญญัติเอก "10บท
เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก" และเริ่มสวดข้อรำพึงต่อไป
6. ประตูสวรรค์ เมื่อครบ5ข้อรำพึง สวด "บทภาวนาพระเยซู"
+++++++++++++++++
หลักข้อเชื่อสภานิเชีย
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว : พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า: ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า: เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง
ทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้: มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา
อาศัยพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา : เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์ จากพระนางมารีย์พรหมจารี ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า :และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
สมัยปอนทิอัส ปิลาต พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อเรา :พระองค์สิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้
ทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์ :เสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย :รัชสมัยของพระองค์จะไม่สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต :ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร :พระองค์ดำรัสทางประกาศก
ข้าพเจ้าเชื่อว่า มีพระศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากลและสืบเนื่องจากอัครสาวก :ข้าพเจ้าประกาศยืนยันว่า มีศีลล้างบาปหนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับคืนชีพ :และคอยชีวิตในโลกหน้า อาแมน
บัญญัติเอก
ข้าแต่พระเยซูผู้อ่อนหวาน ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจและวิญญาณ
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปรนนิบัติรับใช้พี่น้องเพื่อนมนุษย์ ที่ข้าพเจ้าได้พบในวันนี้เทอญ (มัทธิว 22:34-40)
บัญชาเอก
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปฎิบัติตามคำสอนของพระองค์
และนำไปแบ่งปันแก่ผู้อื่น เพื่อเขาจะได้รู้จักและรักพระองค์เช่นกันเทอญ (มัทธิว28:16-20)
บทภาวนาพระเยซู
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า โปรดทรงเมตตาเราคนบาปเทอญ
สายประคำอัศจรรย์เพื่อคริสตชนทุกนิกายถูกเผยแพร่ครั้งแรกบนระบบเครือข่ายในเดือนกุมภาพันธ์ คศ.1999
สายประคำนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสายประคำศักดิ์สิทธิ์ต้นฉบับ
ซึ่งเป็นการจัดวางบทภาวนาต่างๆและการรำพึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆในพันธสัญญาใหม่
บทภาวนาเหล่านี้ จะถูกนับและภาวนาในแต่ละเม็ดประคำ
ขณะที่สวดบทภาวนาและนับเม็ดประคำนั้น เราจะรำพึงในภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ จากพระคัมภีร์ ซึ่งเรียกว่าธรรมล้ำลึก
สายประคำจะกล่าวเรื่องราวของพระเยซู นับแต่การบังเกิด การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ตลอดจนการคืนชีพและสเด็จขึ้นสวรรค์
โดยผู้ที่คิดค้นขึ้นคือ นักบุญโดมินิก ในศตวรรษที่13
ข้าพเจ้าเป็นลูเธอรันที่ได้สมรสกับคาทอลิค จึงได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องสายประคำจาก กลุ่มสมาชิกคู่สรมรสคาทอลิค
ข้าพเจ้าได้ตกตะลึงในอำนาจของการสวดสายประคำ เพราะ การสวดสายประคำทำให้เราสามารถรำพึงถึงธรรมล้ำลึกต่างๆ ขณะที่ท่องบทภาวนา
คริสตชนที่มีประสบการ์สวดสายประคำแล้ว สามารถอธิษฐานวอนขอได้ในขณะที่ท่องบทภาวนาและรำพึงถึงเหตุการณ์อัศจรรย์ต่างๆ
สายประคำคือรูปแบบการภาวนาที่ทรงพลังเพราะ สายประคำได้นำเราหลีกพ้นความน่าเบื่อของการภาวนาที่ไร้รูปแบบ
และยังทำให้คริสตชนสามารถใช้เวลามากขึ้นในการสรรเสริญแสดงความรักค่อพระเจ้า เช่นเดียวกับการอธิษฐานกับพระเจ้าโดยตรง
สายประคำอัศจรรย์นี้ ได้ใช้บทข้าแต่พระบิดาฯและบทภาวนาอื่นๆที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากในประสบการณ์ส่วนตัวด้านศรัทธา
ข้าพเจ้าเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำเอกสัมพันธ์"
เพราะบทภาวนาและข้อรำพึง"อัศจรรย์"ต่างๆได้ยึด/ดัดแปลงจากพระคัมภีร์โดยตรง
เพื่อที่ทุกคริสตจักรจะสามารถท่องบทภาวนาและรำพึงเหตุการณ์อัศจรรย์ได้อย่างสะดวก
ข้าพเจ้ายังเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำอัศจรรย์"
เพราะข้อรำพึงทั้งหมดได้กล่าวถึงอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำทั้งก่อนและหลังการเสด็จกลับฟื้นคืนชีพ
ข้าพเจ้าไม่อาจยืนยันแต่ก็เชื่อว่า การภาวนาโดยกิจศรัทธานี้จะนำอัศจรรย์ของพระเจ้า มาสู่ชีวิตของเรายิ่งๆขึ้นไป
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องคาทอลิคจะให้ความสนใจสายประคำนี้เช่นเดียวกับกิจศรัทธาที่ใช้สายประคำแบบทั่วไป
เช่นเดียวกับ สายประคำพระเมตตา ซึ่งนักบุญโฟสติน่าได้เผยแพร่
ข้าพเจ้าอยากให้เข้าใจด้วยว่า สายประคำอัศจรรย์มิได้นำมาแทนที่สายประคำศักดิ์สิทธิ์
และนั่นเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าใช้บทภาวนาและข้อรำพึงที่ต่างออกไป
เพื่อเพ่งพินิจในอัศจรรย์ต่างๆที่พระคริสตเจ้าได้ทรงกระทำขณะดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องโปรแตสแตนท์ จะมองสายประคำนี้เป็น หนทางในการดำลึกในชีวิตการภาวนา
โดยการรำพึงในสิ่งที่พระเยซูได้ทำเพื่อเรา และในความจริงเรื่องการกลับคืนชีพของพระองค์
ข้าพเจ้ามีเป้าหมายที่จะแบ่งปัน สายประคำนี้แก่คริสตชนต่างๆที่มิใช่คาทอลิค
เพื่อสร้างเสริมความเป็นเอกภาพของทุกคริสตจักร
ข้าพเจ้าหวังว่าสายประคำนี้จะถูกใช้ในกลุ่มเอกสัมพันธ์เช่นเดียวกับการตื่นเฝ้าในวันคริสต์มาสและอีสเตอร์ ฯลฯของกลุ่มด้วย
http://www.ecumenicalrosary.org/default.htm
[hr]
1.กางเขน สวด "หลักข้อเชื่อสภานิเชีย" (ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว)
2.เม็ดใหญ่ สวด "บทข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
3.เม็ดเล็ก 3 เม็ด แต่ละเม็ดสวด "บัญญัติเอก"
4.เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก"
5.สวด 5ข้อรำพึง โดยแต่ละข้อรำพึงสวด 1ทศ คือ:
เม็ดใหญ่ สวด "ข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
เม็ดเล็ก 10เม็ด สวด "บัญญัติเอก "10บท
เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก" และเริ่มสวดข้อรำพึงต่อไป
6. ประตูสวรรค์ เมื่อครบ5ข้อรำพึง สวด "บทภาวนาพระเยซู"
+++++++++++++++++
หลักข้อเชื่อสภานิเชีย
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว : พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า: ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า: เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง
ทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้: มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา
อาศัยพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา : เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์ จากพระนางมารีย์พรหมจารี ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า :และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
สมัยปอนทิอัส ปิลาต พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อเรา :พระองค์สิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้
ทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์ :เสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย :รัชสมัยของพระองค์จะไม่สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต :ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร :พระองค์ดำรัสทางประกาศก
ข้าพเจ้าเชื่อว่า มีพระศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากลและสืบเนื่องจากอัครสาวก :ข้าพเจ้าประกาศยืนยันว่า มีศีลล้างบาปหนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับคืนชีพ :และคอยชีวิตในโลกหน้า อาแมน
บัญญัติเอก
ข้าแต่พระเยซูผู้อ่อนหวาน ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจและวิญญาณ
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปรนนิบัติรับใช้พี่น้องเพื่อนมนุษย์ ที่ข้าพเจ้าได้พบในวันนี้เทอญ (มัทธิว 22:34-40)
บัญชาเอก
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปฎิบัติตามคำสอนของพระองค์
และนำไปแบ่งปันแก่ผู้อื่น เพื่อเขาจะได้รู้จักและรักพระองค์เช่นกันเทอญ (มัทธิว28:16-20)
บทภาวนาพระเยซู
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า โปรดทรงเมตตาเราคนบาปเทอญ