Belong to the Truth Jesus Christ

คือเมื่ออาทิตย์ก่อนมีปัญหากับคนรักทำให้ไม่สบายใจเลยเปิดหนังสือแมพระยุคใหม่อ่าน มีบทขอพรจากพระจิตเจ้า เราก็อธิษฐานจากพระจิตเจ้า 3 คืน ตามที่หนังสือบอกแต่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น  เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราไม่ได้เป็นคาทอลิกเต็มตัวรึเปล่า อันที่จริงเราเคยรับบัพติสมาเป็นโปรแตสแตนท์ แต่ก็ศรัทธาในแม่พระ เพราะเมื่อปีก่อนแม่พระช่วยชีวิตไว้ ต้องโมทนาขอบพระคุณท่านไว้ณ ที่นี้ด้วย ที่ทำงานเก่ามีปัญหาเรื่องความไม่มั่นคง จะปลดคนออกได้ตลอดเวลา ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ สบายกว่ากันเยอะแต่ก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกันเพราะสังคมคนละแบบ มาที่นี่ก็ได้พบแม่พระอีก รู้สึกอบอุ่นเราก็ขอพรให้แม่พระช่วยตลอด เราไม่อยากเปลี่ยนเป็นคาทอลิกเพราะคิดว่ายังไงเราก็มีพระเจ้าองค์เดียวกัน แล้วเวลาไปโบสถ์ก็มีคนรู้จักอยู่ที่นั่น เคยไปวัดคาทอลิกรู้สึกว่าปฏิบัติตัวไม่ถูก กลับเข้าเรื่องเดิมนะคะ ที่อธิษฐานแล้วไม่ได้เพราะความเชื่อยังไม่มากพอหรือเปล่าคะ อยากให้เค้ากลับมาบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นห่วงและรักเค้ามากค่ะ ใครเคยอธิษฐานแล้วได้สมตามความปราถนาช่วยแนะนำด้วยค่ะ / พระเจ้าอวยพระพรทุกคนนะคะ / แอน

ดูตัวอย่างจากพระเยซูนะครับ

"พระบิดา ถ้าเป็นไปได้ขอให้กาลิกนี้ผ่านพ้นลูกไป อย่าเป็นไปตามน้ำใจของลูก ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เถิด "

พระเยซูไม่ได้ขอ  โดยที่คิดว่าจะได้ในสิ่งที่ขอ แต่ทรงคิดว่าจะได้ในสิ่งที่พระบิดาทรงจัดเตรียมไว้ให้
ฉะนั้น เราก็ควรที่จะยอมรับน้ำพระทัย และรับแบกกางเขนอันอ่อนนุ่มที่พระเยซูมอบให้กับเรานะครับ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

หลายๆครั้ง เราชอบคิดว่าพระเจ้าเป็นตู้ ATM ถ้าทำถูกต้องตามประบวนการเงินต้องไหล และต้องไหลทันที

เราลืมไปว่า พระเจ้าของเราคือ พระเจ้าพระบิดา ไม่ใช่ตู้ATM

เวลาพระเจ้าขออะไรจากเรา พระองค์ไม่เคยได้ทันที มักต้องทรงรอแล้วรอเล่า เหมือนพ่อที่รอลูกคนเล็กกลับบ้าน รอมันทุกวัน แต่เวลาเราขออะไรจากพระเราคิดว่าเราต้องได้ทันที ความสะดวกสบายในชีวิตสมัยใหม่ ที่คลิกอะไรก็ได้เลย ทำให้เราเป็นคนรอไม่เป็นไปแล้ว

เวลาพระเจ้าขอมนุษย์ หลายครั้งที่มนุษย์ไม่สนองตอบ หรืออาจต้องทรงรอ แต่เราคิดว่าเราขอเราต้องได้แน่และต้องได้ทันที ดูไปดูมา ไม่รู้ใครเป็นพระเจ้ากันแน่ นะครับ

คุณเอนบอกว่าเวลาไปโบสถ์ที่บัสติสมา รู้สึกมีคนรู้จัก แต่ถามว่าทำไมเราต้องให้ใครมารู้จักเรา เวลาเราไปโบสถ์เราไปหาพระเจ้าไม่ใช่เหรอครับ พระองค์รู้จักเราก็พอแล้ว และที่สำคัญ ผมขออณุญาติถามว่าคุณแอนไปโบสถ์ทุกอาทิตย์หรือเปล่าครับ

บางทีไม่ใช่ว่าเราเป็นโปร หรือเราเป็นคาทอลิค แต่อาจจะเป็นว่า เราเป็นคริสตชนที่ดีและครบถ้วนหรือเปล่า เพราะหลายๆครั้ง คำตอบในชีวิตและสิ่งที่เราต้องการ เราจะได้รับมันโดยอัตโนมัติเมื่อเราดำเนินชีวิตคริสตชนอย่างครบครันนะครับ

คุณเองบอกว่ารักแม่พระ ดังนั้น ลองอ่านสิ่งที่แม่พระสอนเองดูดีไหมครับ ว่าทำไมขอแล้วไม่ได้

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3192.0

++++ ได้ดังประสงค์ แต่ไม่สมปรารถนา ++++


ฉันวอนขอกำลังเพื่อฉันจะได้ประสบความสำเร็จ,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันอ่อนแอเพื่อฉันจะได้รู้จักถ่อมตนยอมนบนอบ

ฉันวอนขอสุขภาพที่ดีเพื่อฉันจะได้กระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันเจ็บป่วยเพื่อฉันจะได้กระทำสิ่งที่ดีกว่า

ฉันวอนขอความร่ำรวยเพื่อฉันจะได้มีความสุข,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันยากจนเพื่อฉันจะได้เป็นคนฉลาด

ฉันวอนขออำนาจเพื่อมนุษย์จะได้ชมเชยฉัน,
แต่พระองค์ทรงประทานความอ่อนแอเพื่อฉันจะได้สำนึกว่าฉันต้องการพระเป็นเจ้า

ฉันวอนขอทุกสิ่งเพื่อฉันจะได้มีความสุขในชีวิต,
แต่พระองค์ทรงประทานชีวิตเพื่อให้ฉันมีความสุขในทุกสิ่ง

ฉันไม่เคยได้รับสิ่งใดที่ฉันขอ แต่กลับได้รับทุกสิ่งที่ปรารถนา
คำภาวนาของฉันได้รับคำตอบ แม้ตัวฉันจะเป็นอุปสรรค
แต่ฉันก็เป็นหนึ่งในจำนวนมนุษย์ที่ได้รับพระพรมากที่สุด

  มันซึ้งมาก กินใจจริงๆ ใช่แล้วครับ เวลาของเรากับพระเจ้าไม่เหมือนกัน เราอาจคิดว่าถึงเวลาแล้วสำหรับเรา แต่กับพระเจ้าพระองค์บอก ยัง
คุณคงได้ยินคำนี้นะครับ พระเจ้าไม่ทรงให้สิ่งที่ดี หรือดีกว่ากับเรา ครับ แต่มรงให้สิ่งที่ดีที่สุด ต่างหาก
สันติสุขจงมีเเด่ท่านครับ

Chanidaporn เขียน:
ที่อธิษฐานแล้วไม่ได้เพราะความเชื่อยังไม่มากพอหรือเปล่าคะ

ลก 17:5-10

เวลานั้น บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า

เห็นด้วยกับความคิดของทุกคนข้างบนนะคะ จีเคยสวดภาวนา อธิษฐานจากพระเจ้า เราต้องใช้ความอดทนในการรอคอยค่ะ แล้วพระเจ้าทรงเมตตาตอบรับคำอธิษฐานและประทานน้ำพระทัยของพระองค์ให้แก่เราเอง ขอให้เราเชื่อมั่น และวางใจในพระองค์  ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่เรารอคอยให้พระองค์ ตอบเรากลับมานั้น อาจจะทำให้เราทุกข์ทรมานบ้าง แต่เมื่อเทียบกับพระพรอันแสนล้ำค่าที่พระองค์จะทรงประทานให้เรานั้น มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด พระองค์อาจจะประสงค์ให้เรารอสักแปป เพื่อให้ระหว่างที่เรารอคอยนั้น เราอาจจะได้ข้อคิดหรืออะไรดี ๆ ก็ได้ เรารู้ว่าทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับพระเจ้า เพราะฉะนั้นเราต้องเชื่อในพระองค์  สิ่งที่ที่จีพยายามเสมอ ก็คือ จีพยายามที่จะสวดภาวนา อธิษฐาน และเชื่อมั่นในพระองค์ จะช่วยภาวนาให้นะคะ ขอให้คุณอดทน เฝ้าอธิษฐาน และวางใจในพระเจ้า และเชื่อว่าพระเจ้ารักเราเสมอค่ะ

พระองค์รู้ดีครับว่าสิ่งที่พวกเราขออะไรเหมาะหรือไม่สมกับเรา บางอย่างอาจจะต้องรอเวลาต้องอดทนก่อนจึงได้มา ถ้าขอแล้วได้เลยงั้นโลกนี้คนมีแต่คนที่สมหวังไม่มีคนที่ไม่สมหวัง สัญชาตญาณของมนุษย์ที่เรียกว่าสัตว์โลกเนี้ย มีความเห็นแก่ตัวสูง ถามว่าถ้าวันนี้คุณถูกแจ๊กพอตซัก 60ล้าน คุณอาจจะเลิกมาวัดก็เป็นได้ อาจจะไปเที่ยวรอบโลกซะงั้นลืมวัดไปแล้วเด๋วค่อยมาทีหลังก็ได้ 5555+ ยังไงซะเมื่อประสบความสำเร็จแล้วก็อย่าลืมขอบคุณพระองค์ก่อนนะคับ

นายต้องดูตัวนายเองก่อนพระเจ้านั้นอยู่ทุกๆที่ พระองค์จะทรงช่วยเธอเมื่อพระองคเห็นสมควร ทุกคนก็เป็นอย่านายนะ เพียงแต่นายต้องมั่นคงต่อพระเป็นเจ้าและแม่พระ สิ่งนี้คือการลองใน และเมื่อเธอทำสำเร็จนั้นคือคำตอบที่นายให้พระเป็นเจ้า และ พระจะให้เธอเอง อย่าบอกว่าพระไม่รักเรา ครั้งก่อนพระองค์ก็ทรงถูกตรึงบนกางเขนเพื่อใครเหล่า?

อ่านที่พี่ๆ และ เพื่อนๆ ช่วยตอบ ของเจ้าของกระทู้
โดนเลยค่ะ ทำให้ได้หันกลับมามองตัวเอง

ขอบคุณค่ะ ที่ทำให้ตาเราสว่างขึ้นเยอะเลย

i_so_blue เขียน: อ่านที่พี่ๆ และ เพื่อนๆ ช่วยตอบ ของเจ้าของกระทู้
โดนเลยค่ะ ทำให้ได้หันกลับมามองตัวเอง

ขอบคุณค่ะ ที่ทำให้ตาเราสว่างขึ้นเยอะเลย

สำเนาถูกต้อง

ผมเคย สวดอ้อนวอนขอพระให้ คนรักกลับคืนมา แต่พระก็ปฎิเสธ พอมาถึงตอนนี้ จึงรู้ว่า ทำไมพระปฎิเสธ เพราะว่า พระองค์ทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีกว่า ชีวิตที่ดีกว่าให้กับเรา  เชื่อผมนะ มันยากที่จะทำใจได้ในตอนนั้น แต่พอมันผ่านไปแล้ว คุณก็จะถึงบางอ้อ ......

พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัย ทุกอย่าง ลองร้องเพลงรอยเท้าบนผืนทรายดูดิ ยามที่เราว้าแว่และหมดแรงพระองค์ก็จะดูแลเรานะ

แม้แต่ตัวเรายังไม่ใช่ของเรา
แล้วเราจะหวังให้สิ่งใดมาเป็นของเรา
. . .
ทุกสิ่งล้วนแต่เป็นของพระเป็นเจ้า
แม้แต่กายใจและจิตวิญญาณของเรา
. . .
พระองค์ทรงเลือกท่านมาแล้ว
จงวางใจในพระเป็นเจ้าของท่าน
. . .
แม้สิ่งที่ต่ำต้อยที่สุดก็จงอย่าได้หวัง
เพราะทุกอย่างจะเป็นไปตามน้ำพระทัย

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกๆคนนะคะ จะว่าไปแล้วชีวิตตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว เพราะได้ไปโบสถ์ ถึงแม้จะไม่สมำเสมอ แต่หลังจากกลับจากโบสถ์ รู้สึก(ใจ)ฟูขึ้น และตั้งใจว่าจะไปโบสถ์ทุกครั้งหลังจากนี้ พระเจ้าคงจะเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้วจริงๆ ซึ่งต้องอดทนและรอคอยจนถึงวันของเรา ขอพระเจ้าอวยพรทุกคนนะคะ

  ดีใจด้วยนะคะ ขอพระเจ้าคุ้มครองค่ะ 

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกคำตอบเป็นกำลังใจมากเลยค่ะ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้ว เพราะได้ทบทวนแล้วว่าพระเจ้ากำลังเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้แล้ว โดยเฉพาะในเวลานี้หน้าที่การงานก็ดี มีเพื่อนที่คอยเป็นกำลังใจให้รวมถึงเพื่อนใหม่ในเว็บนี้ ตอนนี้ตั้งใจแล้วว่าจะไปโบสถ์ให้สม่ำเสมอ ทุกครั้งหลังจากกลับจากโบสถ์จะรู้สึกว่า( ใจ )ฟูขึ้น เพราะเวลามีเรื่องไม่สบายใจจะได้รับฟังสิ่งที่โดนใจเป็นประจำทำให้รู้สึกดีขึ้น ขอพระเจ้าอวยพรทุกคนนะคะ

Let me ask you something.

If someone prays for patience, you think God gives them patience? Or does he give them the opportunity to be patient?

If he prayed for courage, does God give him courage, or does he give him opportunities to be courageous?

If someone prayed for the family to be closer, do you think God zaps them with warm fuzzy feelings, or does he give them opportunities to love each other?

- Evan Almighty

P เขียน: Let me ask you something.

If someone prays for patience, you think God gives them patience? Or does he give them the opportunity to be patient?

If he prayed for courage, does God give him courage, or does he give him opportunities to be courageous?

If someone prayed for the family to be closer, do you think God zaps them with warm fuzzy feelings, or does he give them opportunities to love each other?

- Evan Almighty

แสดงว่า  คนพูดไม่เคยสัมผัส  หรือไม่ก็ไม่เคยเปิดใจให้พระเข้ามาทำงานในเรา  มาเปลี่ยนเรา  (ซึ่งเกิดได้เมื่อเราเปิดใจ  และร่วมมือกับพระองค์)

เค้าไม่เชื่อ inner transformation  ที่มาจากพระ  ไม่เชื่อชีวิตพระหรรษทาน  เชื่อว่า inner transformation  มาจากตัวเอง  และเชื่อว่า  พระทำงานได้แต่ภายนอกตัวเรา 

เรียนเจ้าของกระทู้ครับ

การอธิฐานแล้วพระเจ้าที่เราคิดว่ากรุณาปราณีหาที่สุดมิได้ และต้องให้ตามที่เราภาวนา ไม่ได้ตอบสนองในสิ่งที่เราขอ


ไม่ได้แปลว่าพระเจ้าไม่ได้รักเรานะ

แต่แปลว่าเขารักเรา แต่จะมีวิธีการให้เราแตกต่างจากที่เราต้องการก็เท่านั้นเอง

อย่าโกรธ หรือว่าท้อครับ เพราะสุดท้ายเราก็จะได้เรียนรู้ว่า เรามีชีวิตอยู่ได้ และมีทางออกสำหรับชีวิตเราเสมอ แค่เปิดใจรับหนทางพิสูจน์ของพระเท่านั้น

  "มีมืด จึงมีแจ้ง สว่างแสง แลจำรูญ มีทุขก์ มีอาดูร ก็ย่อมมีสุขานันต์"

     


                                ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงเมตตาคุณเจ้าของกระทู้นะคะ  ขอพระเจ้าอวยพรทุกคนเช่นกันค่ะ 

Buddy เขียน:
แสดงว่า  คนพูดไม่เคยสัมผัส  หรือไม่ก็ไม่เคยเปิดใจให้พระเข้ามาทำงานในเรา  มาเปลี่ยนเรา  (ซึ่งเกิดได้เมื่อเราเปิดใจ  และร่วมมือกับพระองค์)

เค้าไม่เชื่อ inner transformation  ที่มาจากพระ  ไม่เชื่อชีวิตพระหรรษทาน  เชื่อว่า inner transformation  มาจากตัวเอง  และเชื่อว่า  พระทำงานได้แต่ภายนอกตัวเรา 

แสดงว่าส้มไม่เคยดู Evan Almighty ล่ะสิ

(โทษทีครับ .. เพิ่งเห็น)