ขอคำภาวนาค่ะ ตอนนี้เครียดมาก
ขอคำภาวนาค่ะ ตอนนี้มีปัญหาชีวิตมากเลย ตัดสินใจลาออกจากงานเพราะนายจ้างโหดร้ายมาก
ด่าว่าอย่างรุนแรง เราก็ทนทำงานจนถึงสิ้นเดือน บอกล่วงหน้าอย่างถูกต้อง 1 เดือนและสอนงานคนใหม่เรียบร้อย
พอถึงเวลาที่สัญญาว่าจะโอนเงินเดือนนายจ้างก็ไม่ยอมโอนเงินเดือนให้ อ้างว่าเราสอนงานคนใหม่ไม่ดี
เขาไม่สามารถทำงานได้ เราโทรไปถามคนใหม่ที่มาแทนแล้ว เขาบอกว่าเขาพูดไปแล้วว่าเขาจำงานไม่ได้ทั้งหมดหรอก
ต้องให้เวลากันบ้าง เขาบอกว่าถ้าด่ามาก ๆ เขาก็จะไม่ทนทำที่นี่เหมือนกัน แต่กลายเป็นว่านายจ้างเขาจะมาโทษเรา
และก็พาลไม่จ่ายเงินเดือน เราโทรปรึกษาพี่ที่ออกไปแล้ว เขาบอกว่านายจ้างทำอย่างนี้กับหลายคนแล้ว
เขาทำเพราะจะได้ความสะใจที่ทำให้เราต้องเดือดร้อน ไปฟ้องร้องให้วุ่นวาย พี่เขาแนะนำว่าให้เรา
ไปฟ้องร้องที่กระทรวงแรงงานได้เลย แต่เราไม่อยากทำ ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต ก็พยายามสวดภาวนาขอให้เขาใจอ่อน
แต่ตอนนี้เงินเก็บเราก็เริ่มร่อยหรอ เพราะมีภาระทางบ้านที่ต้องจ่ายในช่วงต้นปีหลายอย่าง ทำให้เดือดร้อนอย่างมาก
เราไม่อยากฟ้องร้องให้บริษัทเสียชื่อเสียง แต่ทางโน้นเขาก็ไม่ยอมเห็นใจเราบ้างเลย เราควรทำอย่างไรดีคะ
พระสอนให้เรารักแม้ศัตรู แต่ทำไมเขาถึงไม่มีความรักความเมตตาให้กับเพื่อนมนุษย์บ้างเลย ขอคำภาวนาด้วยนะคะ
ตอนนี้สับสนมากไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ด่าว่าอย่างรุนแรง เราก็ทนทำงานจนถึงสิ้นเดือน บอกล่วงหน้าอย่างถูกต้อง 1 เดือนและสอนงานคนใหม่เรียบร้อย
พอถึงเวลาที่สัญญาว่าจะโอนเงินเดือนนายจ้างก็ไม่ยอมโอนเงินเดือนให้ อ้างว่าเราสอนงานคนใหม่ไม่ดี
เขาไม่สามารถทำงานได้ เราโทรไปถามคนใหม่ที่มาแทนแล้ว เขาบอกว่าเขาพูดไปแล้วว่าเขาจำงานไม่ได้ทั้งหมดหรอก
ต้องให้เวลากันบ้าง เขาบอกว่าถ้าด่ามาก ๆ เขาก็จะไม่ทนทำที่นี่เหมือนกัน แต่กลายเป็นว่านายจ้างเขาจะมาโทษเรา
และก็พาลไม่จ่ายเงินเดือน เราโทรปรึกษาพี่ที่ออกไปแล้ว เขาบอกว่านายจ้างทำอย่างนี้กับหลายคนแล้ว
เขาทำเพราะจะได้ความสะใจที่ทำให้เราต้องเดือดร้อน ไปฟ้องร้องให้วุ่นวาย พี่เขาแนะนำว่าให้เรา
ไปฟ้องร้องที่กระทรวงแรงงานได้เลย แต่เราไม่อยากทำ ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต ก็พยายามสวดภาวนาขอให้เขาใจอ่อน
แต่ตอนนี้เงินเก็บเราก็เริ่มร่อยหรอ เพราะมีภาระทางบ้านที่ต้องจ่ายในช่วงต้นปีหลายอย่าง ทำให้เดือดร้อนอย่างมาก
เราไม่อยากฟ้องร้องให้บริษัทเสียชื่อเสียง แต่ทางโน้นเขาก็ไม่ยอมเห็นใจเราบ้างเลย เราควรทำอย่างไรดีคะ
พระสอนให้เรารักแม้ศัตรู แต่ทำไมเขาถึงไม่มีความรักความเมตตาให้กับเพื่อนมนุษย์บ้างเลย ขอคำภาวนาด้วยนะคะ
ตอนนี้สับสนมากไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ภาวนาให้เขาครับ
ไว้ใจในพระองค์ ให้พระองค์ทรงนำ
แล้วคุณจะพบกับทางออกครับ
ขอเอาใจช่วยครับ
จะภาวนาให้นะครับ
ไว้ใจในพระองค์ ให้พระองค์ทรงนำ
แล้วคุณจะพบกับทางออกครับ
ขอเอาใจช่วยครับ
จะภาวนาให้นะครับ
สวดพระเมตตานะคะ และก็ยึดพระให้มั่น และที่จริง เรื่องแบบนี้ร้องเรียนได้นะคะ เพราะว่า มันไม่เป็นธรรม เค้าต้องจ่ายเงินเดือนเรา เราไม่ได้ทำอะไรผิด และก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราที่ต้องทำให้คนใหม่ทำงานได้ เราสอนได้มากที่สุด แต่คนใหม่จะรู้เรื่องมั้ยนั้น มันสุดวิสัยเรา
พระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 สอนให้เราสู้เพื่อความยุติธรรม แต่เราจะเกลียดไม่ได้ ทำบาปไม่ได้ แต่เรียกร้องได้ งานนี้ยื่นข้อเสนอไปเลยนะคะว่า ถ้าไม่จ่ายเดือนนี้ ก็จะไม่มาทำงานมันตอนนี้แหละ และจะไปร้องเรียนด้วย ก็ขอให้เลือกเอาระหว่าง จ่ายเงินเดือนและมีคนทำงานให้ สอนงานคนใหม่ให้ กับไม่จ่ายเงินเดือน และคนใหม่ก็ไม่มีใครสอน เลือกเอา ซึ่งถ้านายจ้างลุแก่โทศะถึงขนาดโง่ให้ออกเลยเนี่ย ก็ขอให้ออก แล้วหาอย่างอื่นทำ อย่าไปเสียเวลาทำงานที่ไม่ได้เงินและไม่ได้รับความยุติธรรม อยู่ไปไม่มีประโยชน์ (แต่เชื่อเถอะ เค้าไม่ให้ออกหรอกค่ะ)
อย่าไปยอมเค้านะคะ และก็อย่าไปเกลียด หรือ กลัว หรือมีทัศนคติที่ไม่ดี เพราะเราเป็นลูกพระ .... แต่ขอให้สู้นะคะ และก็สวดด้วยค่ะ
พระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 สอนให้เราสู้เพื่อความยุติธรรม แต่เราจะเกลียดไม่ได้ ทำบาปไม่ได้ แต่เรียกร้องได้ งานนี้ยื่นข้อเสนอไปเลยนะคะว่า ถ้าไม่จ่ายเดือนนี้ ก็จะไม่มาทำงานมันตอนนี้แหละ และจะไปร้องเรียนด้วย ก็ขอให้เลือกเอาระหว่าง จ่ายเงินเดือนและมีคนทำงานให้ สอนงานคนใหม่ให้ กับไม่จ่ายเงินเดือน และคนใหม่ก็ไม่มีใครสอน เลือกเอา ซึ่งถ้านายจ้างลุแก่โทศะถึงขนาดโง่ให้ออกเลยเนี่ย ก็ขอให้ออก แล้วหาอย่างอื่นทำ อย่าไปเสียเวลาทำงานที่ไม่ได้เงินและไม่ได้รับความยุติธรรม อยู่ไปไม่มีประโยชน์ (แต่เชื่อเถอะ เค้าไม่ให้ออกหรอกค่ะ)
อย่าไปยอมเค้านะคะ และก็อย่าไปเกลียด หรือ กลัว หรือมีทัศนคติที่ไม่ดี เพราะเราเป็นลูกพระ .... แต่ขอให้สู้นะคะ และก็สวดด้วยค่ะ
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ลูกตะกั่วสักนัดจบเรื่องดีครับ(ล้อเล่น!!ขำๆ!! อย่าทำจริงนะครับ!!! )
ก็สวดอย่างที่พี่ๆเขาว่านี่แหละ แล้วก็อ่านพระคัมภีร์สักหน่อย ไม่แน่ พระเจ้าอาจจะมีอะไรอยากพูดกับเราก็ได้ครับ
ก็สวดอย่างที่พี่ๆเขาว่านี่แหละ แล้วก็อ่านพระคัมภีร์สักหน่อย ไม่แน่ พระเจ้าอาจจะมีอะไรอยากพูดกับเราก็ได้ครับ
ควรทำนะคะ อย่าเรียกว่าฟ้องร้องเลยค่ะ ฟังดูไม่ค่อยดี เรียกว่าเป็นการเรียกร้องความเป็นธรรม ดีกว่าค่ะลูกแกะหลงทาง เขียน:
พี่เขาแนะนำว่าให้เรา ไปฟ้องร้องที่กระทรวงแรงงานได้เลย แต่เราไม่อยากทำ ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต
และเพื่อเป็นบทเรียนให้นายจ้าง ไม่ไปทำอย่างนี้กับคนอื่นอีกน่ะค่ะ
ขั้นตอนการร้องเรียนก็ไม่ยุ่งยากค่ะ รู้จักมั๊ยคะ ศาลแรงงานกลาง อยู่ถนนพระราม 4 ใกล้หัวลำโพง
มีเจ้าหน้าที่ คอยให้คำปรึกษา ช่วยในเรื่องการเขียนคำร้องด้วยค่ะ
มีอะไร สงสัย ถามได้ค่ะ ตัวเองทำงานดูแลฝ่ายบุคคลด้วยค่ะ เลยทนไม่ได้ ถ้าพนักงานไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขอพระอวยพรค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไปฟ้องเถอะครับ ปกป้องสิทธิ์ของเรา เค้าจะได้ไม่กล่ากับคนอื่นอีกนะครับ
ผมแนะว่า ควรคำนวณก่อนว่าค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องจนจบถ้วนกระบวนความเป็นเท่าไหร่ ลองโทรถามกระทรวงฯดูก่อนก็ได้ว่าต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง จะได้กะคร่าวๆได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าใช้จ่ายยิบย่อยเล็กน้อยให้คิดเผื่อไว้เลยนะครับ เช่น ค่ารถเมล์ เป็นต้น
เสร็จแล้วมาเทียบกับเงินเดือนที่จะได้รับคืน (รวมไปถึงค่าเสียหาย ฯลฯ ที่จะได้รับ ถ้ามี) แล้วดูว่าเหลือเงินเท่าไหร่
ลองเทียบดูว่า คุ้มค่ากับค่าประสาทเสียกับการเดินเรื่อง และค่าเสียเวลาทำมาหากิน หรือไปหางานใหม่ทำ หรือเปล่า (อาจจะคุ้มก็ได้ ผมไม่ทราบฐานเงินเดือนของคุณ) ถ้าคุ้มก็ค่อยทำ ถ้าไม่คุ้ม ก็ลืมซะ แล้วรีบเอาเวลาไปหางานใหม่ทำ หาเงินมาดูแลครอบครัว เพราะตอนนี้เราเสียเงินและเวลาไปมากพอแล้ว ไม่มีเวลาหรือเงินที่จะเสียกับนายคนนี้อีกต่อไป ครอบครัวเราสำคัญกว่า ยังมีคนอีกมากมายที่ต้องพึ่งเรา (อันนี้แนะนำ based on ที่อ่านจากที่บอกว่าทางบ้านเดือดร้อนทางการเงินอยู่นะครับ)
ทีนี้ ถ้าบังเอิญ ยังไงก็ไม่คุ้มแต่อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนอื่น ก็ลองโทรเช็คกกับเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ว่า ปกติเรื่องแบบนี้ต้องฟ้องร้องภายในกี่วัน ถ้าช้าไปมีผลอะไรหรือไม่ แล้วค่อยมาดูว่า พอจะรอได้ไหม ถ้ารอได้ก็รอไปก่อน ไว้หาเงินได้ แก้ปัญหาให้ทางบ้านพอจะยืนได้ก่อนแล้วค่อยกลับมา
ผู้กล้า 10 ปีคิดบัญชีก็ยังไม่สาย (เพื่อคนอื่นนะครับ ไม่ใช่เพื่อตนเอง คนอื่นจะได้ไม่ต้องรับกรรมแบบเราอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจบกระบวนความแล้ว เราจะมีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากแบบนางเอกบ้าง ใครจะว่าอะไรเราได้)
แต่ถ้ารอไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคุณแล้วครับ ว่าจะให้คนที่บ้านหิวก่อน หรือให้คนทำผิดรับกรรมก่อน
รักใครมากกว่ากันล่ะครับ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
เสร็จแล้วมาเทียบกับเงินเดือนที่จะได้รับคืน (รวมไปถึงค่าเสียหาย ฯลฯ ที่จะได้รับ ถ้ามี) แล้วดูว่าเหลือเงินเท่าไหร่
ลองเทียบดูว่า คุ้มค่ากับค่าประสาทเสียกับการเดินเรื่อง และค่าเสียเวลาทำมาหากิน หรือไปหางานใหม่ทำ หรือเปล่า (อาจจะคุ้มก็ได้ ผมไม่ทราบฐานเงินเดือนของคุณ) ถ้าคุ้มก็ค่อยทำ ถ้าไม่คุ้ม ก็ลืมซะ แล้วรีบเอาเวลาไปหางานใหม่ทำ หาเงินมาดูแลครอบครัว เพราะตอนนี้เราเสียเงินและเวลาไปมากพอแล้ว ไม่มีเวลาหรือเงินที่จะเสียกับนายคนนี้อีกต่อไป ครอบครัวเราสำคัญกว่า ยังมีคนอีกมากมายที่ต้องพึ่งเรา (อันนี้แนะนำ based on ที่อ่านจากที่บอกว่าทางบ้านเดือดร้อนทางการเงินอยู่นะครับ)
ทีนี้ ถ้าบังเอิญ ยังไงก็ไม่คุ้มแต่อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนอื่น ก็ลองโทรเช็คกกับเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ว่า ปกติเรื่องแบบนี้ต้องฟ้องร้องภายในกี่วัน ถ้าช้าไปมีผลอะไรหรือไม่ แล้วค่อยมาดูว่า พอจะรอได้ไหม ถ้ารอได้ก็รอไปก่อน ไว้หาเงินได้ แก้ปัญหาให้ทางบ้านพอจะยืนได้ก่อนแล้วค่อยกลับมา
ผู้กล้า 10 ปีคิดบัญชีก็ยังไม่สาย (เพื่อคนอื่นนะครับ ไม่ใช่เพื่อตนเอง คนอื่นจะได้ไม่ต้องรับกรรมแบบเราอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจบกระบวนความแล้ว เราจะมีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากแบบนางเอกบ้าง ใครจะว่าอะไรเราได้)
แต่ถ้ารอไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคุณแล้วครับ ว่าจะให้คนที่บ้านหิวก่อน หรือให้คนทำผิดรับกรรมก่อน
รักใครมากกว่ากันล่ะครับ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ในเรื่องการร้องเรียน ผ่านศาลแรงงานกลาง ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ เพราะ โดยส่วนใหญ่ พนักงาน ลูกจ้างจะมีรายได้น้อย ทางศาลจึงมี เจ้าหน้าที่ นักกฏหมาย ตลอดจนทนาย เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ โดยไม่คิดเงินค่ะ ไม่เหมือนการฟ้องร้องคดี ทั่วๆไปP เขียน:
ผมแนะว่า ควรคำนวณก่อนว่าค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องจนจบถ้วนกระบวนความเป็นเท่าไหร่ ลองโทรถามกระทรวงฯดูก่อนก็ได้ว่าต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง จะได้กะคร่าวๆได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าใช้จ่ายยิบย่อยเล็กน้อยให้คิดเผื่อไว้เลยนะครับ เช่น ค่ารถเมล์ เป็นต้น
แต่เรื่องค่าเดินทาง พวกนี้คงต้องจ่ายเอง ...
จริงๆแล้ว ศาลแรงงานกลาง มีขึ้นมาเพื่อคุ้มครอง สิทธิประโยชน์ของลูกจ้างค่ะ ดังนั้นในการฟ้องร้องแต่ละครั้ง จะเป็นที่รู้กันว่า พนักงาน ลูกจ้างจะได้รับความเห็นใจจากทางศาลมากกว่านายจ้างน่ะค่ะ ...
ลองดูนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
ถ้าจะให้ดี ลองถามเพื่อนร่วมงานว่ามีใครเค้าเคยเจอแบบนี้มั้ย และรวบรวมฟ้องร้องหลายคน จะได้ผลดีกว่าคนเดียวนะค่ะRegina Rosary เขียน:ในเรื่องการร้องเรียน ผ่านศาลแรงงานกลาง ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ เพราะ โดยส่วนใหญ่ พนักงาน ลูกจ้างจะมีรายได้น้อย ทางศาลจึงมี เจ้าหน้าที่ นักกฏหมาย ตลอดจนทนาย เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ โดยไม่คิดเงินค่ะ ไม่เหมือนการฟ้องร้องคดี ทั่วๆไปP เขียน:
ผมแนะว่า ควรคำนวณก่อนว่าค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องจนจบถ้วนกระบวนความเป็นเท่าไหร่ ลองโทรถามกระทรวงฯดูก่อนก็ได้ว่าต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง จะได้กะคร่าวๆได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าใช้จ่ายยิบย่อยเล็กน้อยให้คิดเผื่อไว้เลยนะครับ เช่น ค่ารถเมล์ เป็นต้น
แต่เรื่องค่าเดินทาง พวกนี้คงต้องจ่ายเอง ...
จริงๆแล้ว ศาลแรงงานกลาง มีขึ้นมาเพื่อคุ้มครอง สิทธิประโยชน์ของลูกจ้างค่ะ ดังนั้นในการฟ้องร้องแต่ละครั้ง จะเป็นที่รู้กันว่า พนักงาน ลูกจ้างจะได้รับความเห็นใจจากทางศาลมากกว่านายจ้างน่ะค่ะ ...
ลองดูนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
สู้ๆนะค่ะ และจะภาวนาให้ค่ะ
ขอบคุณทุกคำภาวนา และทุกคำแนะนำนะคะ ตอนนี้เขาโอนเงินเดือนเดือนที่ผ่านมาให้แล้วค่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือ เรายื่นใบลาออกตั้งแต่ 24 ธ.ค. และออกจากงานเมื่อ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยนายจ้างขอร้องว่าถ้าคนใหม่ยังทำงานไม่ได้ จะขอให้เราเข้ามาสอนงานเพิ่มเติมในวันที่เราว่าง
และจะโอนเงินเดือนของเดือนม.ค. - 5 ก.พ. ให้ในวันที่ 11 ก.พ. แต่พอถึงเวลาเขากลัวเราไม่เข้าไปสอนงาน
เลยยังไม่โอนเงินเดือนให้ แต่เราได้รับปากเขาไปแล้วว่าจะเข้าไปสอนงานให้สัปดาห์หน้าในวันที่เราไม่มีนัดสัมภาษณ์งาน
เพราะพี่คนใหม่เขาทำงานไม่ได้เนื่องจากใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ไม่คล่อง สุดท้ายเขาก็โอนเงินให้
เพราะกลัวเราจะไปฟ้องแรงงาน แอบถามพี่ ๆ ที่ลาออกไปแล้ว เขาบอกว่ามีลูกจ้างไปฟ้องมาหลายคนแล้วค่ะ
พอมีจม.จากแรงงานมาปุ๊บเขาก็โอนเงินให้ทันที เขาแค่เล่นแง่ จ่ายช้าเท่านั้น นี่คิดว่าพวกเพื่อน ๆ ที่ทำงานคงจะไปบอกว่าเราเตรียมจะ
ไปฟ้องแรงงาน เขาเลยโอนเงินเดือนให้เลย แต่โอนให้แค่ 31 ม.ค. อีก 5 วันของเดือนนี้ที่เราไปทำงานให้เขายังไม่ยอมจ่ายให้
คงจะให้เราเข้าไปรับเป็นเงินสดวันที่เราเข้าไปสอนงานให้ เราก็ตัดใจแล้วค่ะ ได้เงินเดือนเดือนสุดท้ายก็ดีมากแล้ว
อีก 5 วันถ้าไม่จ่าย เราก็ถือว่าทำงานช่วยเขาฟรีละกัน เพราะที่เขาให้เข้าไปสอนงานคนใหม่ให้ เขาก็ไม่ได้พูดสักคำ
ว่าจะให้เงินเดือนในวันที่เข้าไปสอนงาน แต่ตอนนี้ที่กลุ้มก็คือ วันที่เข้าไปสอนงานคนใหม่ เรากับนายจ้างคนนี้ (ลูกสาวของเจ้าของ)
คงจะมองหน้ากันไม่ติดแน่ ๆ และคิดว่าเขาต้องพูดจาประชดประชันอะไรเราอีกมากมาย แต่เราก็คงต้องอดทน
เพราะรับปากไปแล้วว่าจะไปช่วย แต่ถ้าเขาพูดจาไม่ดีมาก ๆ เราก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเดินกลับบ้านเลย เพราะถือว่าเข้าไปทำงานให้ฟรี
และก็ไม่ได้ผิดคำพูดที่สัญญาไว้ ถ้ายังมาด่าเราอีก เราก็คงไม่จำเป็นจะต้องทน ถูกไหมคะ
ตอนนี้เราก็เริ่มมีนัดสัมภาษณ์งานมาเรื่อย ๆ แล้ว ก็หวังว่าพระจะช่วยให้เราได้งานดี ๆ โดยเร็ว ไม่ต้องเจอนายจ้างแบบนี้อีก
ขอบคุณทุกคำภาวนาอีกครั้ง ขอพระเจ้าโปรดตอบแทนน้ำใจดีของทุก ๆ ท่านค่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือ เรายื่นใบลาออกตั้งแต่ 24 ธ.ค. และออกจากงานเมื่อ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยนายจ้างขอร้องว่าถ้าคนใหม่ยังทำงานไม่ได้ จะขอให้เราเข้ามาสอนงานเพิ่มเติมในวันที่เราว่าง
และจะโอนเงินเดือนของเดือนม.ค. - 5 ก.พ. ให้ในวันที่ 11 ก.พ. แต่พอถึงเวลาเขากลัวเราไม่เข้าไปสอนงาน
เลยยังไม่โอนเงินเดือนให้ แต่เราได้รับปากเขาไปแล้วว่าจะเข้าไปสอนงานให้สัปดาห์หน้าในวันที่เราไม่มีนัดสัมภาษณ์งาน
เพราะพี่คนใหม่เขาทำงานไม่ได้เนื่องจากใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ไม่คล่อง สุดท้ายเขาก็โอนเงินให้
เพราะกลัวเราจะไปฟ้องแรงงาน แอบถามพี่ ๆ ที่ลาออกไปแล้ว เขาบอกว่ามีลูกจ้างไปฟ้องมาหลายคนแล้วค่ะ
พอมีจม.จากแรงงานมาปุ๊บเขาก็โอนเงินให้ทันที เขาแค่เล่นแง่ จ่ายช้าเท่านั้น นี่คิดว่าพวกเพื่อน ๆ ที่ทำงานคงจะไปบอกว่าเราเตรียมจะ
ไปฟ้องแรงงาน เขาเลยโอนเงินเดือนให้เลย แต่โอนให้แค่ 31 ม.ค. อีก 5 วันของเดือนนี้ที่เราไปทำงานให้เขายังไม่ยอมจ่ายให้
คงจะให้เราเข้าไปรับเป็นเงินสดวันที่เราเข้าไปสอนงานให้ เราก็ตัดใจแล้วค่ะ ได้เงินเดือนเดือนสุดท้ายก็ดีมากแล้ว
อีก 5 วันถ้าไม่จ่าย เราก็ถือว่าทำงานช่วยเขาฟรีละกัน เพราะที่เขาให้เข้าไปสอนงานคนใหม่ให้ เขาก็ไม่ได้พูดสักคำ
ว่าจะให้เงินเดือนในวันที่เข้าไปสอนงาน แต่ตอนนี้ที่กลุ้มก็คือ วันที่เข้าไปสอนงานคนใหม่ เรากับนายจ้างคนนี้ (ลูกสาวของเจ้าของ)
คงจะมองหน้ากันไม่ติดแน่ ๆ และคิดว่าเขาต้องพูดจาประชดประชันอะไรเราอีกมากมาย แต่เราก็คงต้องอดทน
เพราะรับปากไปแล้วว่าจะไปช่วย แต่ถ้าเขาพูดจาไม่ดีมาก ๆ เราก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเดินกลับบ้านเลย เพราะถือว่าเข้าไปทำงานให้ฟรี
และก็ไม่ได้ผิดคำพูดที่สัญญาไว้ ถ้ายังมาด่าเราอีก เราก็คงไม่จำเป็นจะต้องทน ถูกไหมคะ
ตอนนี้เราก็เริ่มมีนัดสัมภาษณ์งานมาเรื่อย ๆ แล้ว ก็หวังว่าพระจะช่วยให้เราได้งานดี ๆ โดยเร็ว ไม่ต้องเจอนายจ้างแบบนี้อีก
ขอบคุณทุกคำภาวนาอีกครั้ง ขอพระเจ้าโปรดตอบแทนน้ำใจดีของทุก ๆ ท่านค่ะ
ใช่ค่ะ คงต้องอดทน เพราะรับปากไปแล้ว ... อันนี้ คงต้องสวดเยอะๆ แล้วล่ะค่ะลูกแกะหลงทาง เขียน:
แต่ตอนนี้ที่กลุ้มก็คือ วันที่เข้าไปสอนงานคนใหม่ เรากับนายจ้างคนนี้ (ลูกสาวของเจ้าของ)
คงจะมองหน้ากันไม่ติดแน่ ๆ และคิดว่าเขาต้องพูดจาประชดประชันอะไรเราอีกมากมาย แต่เราก็คงต้องอดทน
เพราะรับปากไปแล้วว่าจะไปช่วยค่ะ
ขอเอาใจช่วย ให้ได้งานที่ดี ที่ถูกใจนะคะ
ขอพระอวยพรค่ะ
- Nicolas.Not
- โพสต์: 306
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2007 1:47 pm
- ติดต่อ:
ใจเย็นๆที่ ถ้าเรามั่นใจว่าเราไม่ผิด เป็นสิทธิที่เราควรจะได้รับก็ทำเลยพี่ คนแบบนีผมก็ไม่ชอบขาดสามัญสำนึกของความเป็นคน