Belong to the Truth Jesus Christ

ผมอยู่เชียงใหม่ครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้รับศีลล้างบาปนะครับ โดยส่วนตัวตั้งแต่เรียนจบป.ตรี ทำงาน แล้วไม่ได้ไปวัดนานมาก เพิ่งไปล่าสุดก็สองอาทิตย์ก่อน วัดที่ไปก็วัดพระหฤทัยครับ (ผมเชื่อพระเจ้าตั้งแต่ป.4) ตอนนี้คุณแม่ผมป่วยเป็นมะเร็งแพร่กระจายไปหลายส่วนของร่างกายเป็นระยะสุดท้ายแล้ว มะเร็งแพร่ไปที่ ตับ ปอด และเนื้อเยื่อช่องท่อง ตอนนี้มีอาการน้ำท่วมปอด หายใจลำบาก คุณหมอบอกว่า คาดการณ์ว่าจะอยู่ได้อีกไม่กี่วัน ก็คงราว ๆ 20 เมษายนนี้ ผมก็เห็นอาการทรุดลงทุกวัน มากบ้าง น้อยบ้างก็แล้วแต่

ช่วงสุดท้ายของชีวิตคุณแม่ ก็คงไม่ต่างจากการจมน้ำตายอย่างทรมาน แต่ก็คงทรมานน้อยกว่าสภาพขาดอากาศในน้ำจริง ๆ อันนี้ผมเข้าใจและต้องทำใจรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ในวันแรกที่รู้ผมร้องไห้ แต่ก็ไม่ใครรู้นะครับ เพราะคงจะทำให้คนอื่น ๆ ใจเสียไปด้วย มีเพียงผมและพี่สาว สองคนเท่านั้น ที่รู้ความจริง นอกจากนี้แม้แต่พ่อ ก็ไม่รู้ครับ

เรื่องที่ผมจะปรึกษาก็ คือ ครอบครัวผมทั้งหมดที่อยู่เชียงใหม่ ไม่มีใครเชื่อพระเจ้าเลย เมื่อคุณแม่ผมเสียชีวิต ผมคาดว่าจะต้องโดนคำถามเกี่ยวกับเรื่อง "การบวชหน้าศพ" ซึ่งผมเข้าใจเองว่า เป็นธรรมเนียมของศาสนาพุทธ โดยส่วนตัว ผมไม่ต้องการบวชหน้าศพ และผมก็ไม่รู้ว่าความหมายของการบวชหน้าศพด้วยว่า ทำไปเพื่ออะไร ?

ผมอยากถามคนที่เคยเจอสถานการณ์อย่างนี้ว่า ตอบคนรอบข้างอย่างไร ?

ในความตามพระคัมภีร์ แดนผู้ตายกับคนเป็นแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงหรือเปล่าครับ ? แล้วที่บอกว่า มีวิญญาณคนตายที่รู้จักเรา มาเข้าฝันเรา มาขอให้เราทำบุญ จัดอาหารไปให้ .. วิญญาณนี้พระเจ้าอนุญาตให้เขากลับมาหาเราหรือไม่ครับ ?

ประเพณีทางเหนือที่จะทำหลังจากคนได้ตายไปแล้ว คือ "การลงขอน"  การลงขอนจะต้องให้ลูก หรือ ญาติที่สนิทที่สุด ไปนั่งในพิธี แล้วจะให้ผีเจ้าบินไปโลกคนตายแล้วนำวิญญาณของคนตาย มาสิงร่างของหมอทรงอีกทีหนึ่ง ส่วนวิญญาณของหมอทรงจะถูกถอดออกจากร่าง โดยผีเจ้าจะเก็บไว้ชั่วคราวในที่แห่งหนึ่ง ระหว่างที่วิญญาณคนตายอยู่ในร่างหมอทรงนั้น ก็จะเริ่มทักทายลูกและญาติ ๆ จะบอกคนเป็นที่ยังอยู่ว่า ตัวเองต้องการกินอะไร ทำอะไร ก็จะเขียนสั่งเสียกันเป็นครั้งสุดท้าย และก็จะนั่งกินข้าวร่วมกับลูก ๆ ญาติ ๆ ตรงนั้นเลย (อาหารมื้อสุดท้าย) ใช้เวลาสักพัก วิญญาณคนตายก็จะบอกว่า ผีเจ้าให้ออกจากร่างหมอทรงนี้แล้ว ก็จะร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย ที่ว่าเป็นครั้งสุดท้าย คือ ผีเจ้าจะไม่สามารถบินไปโลกคนตายเพื่อเอาวิญญาณของคนที่เคยมาลงขอน มาเป็นครั้งที่สองได้

ที่ผมเล่าได้อย่างนี้ เพราะผมเคยไปนั่งในพิธีมาสองครั้ง ครั้งแรก คือ คุณย่า , ครั้งที่สอง คือ คุณป้า

แต่ครั้งที่สามนี้ คงเป็นคุณแม่ผมเอง ซึ่งผมลำบากใจมากที่จะต้องไปทำพิธีอะไรอย่างนี้  สองครั้งนั้นคงเพราะจิตใจคิดว่า เป็นคนไกลตัว และก็ไปนั่งเฉย ๆ คนดำเนินพิธีกรรมทั้งสองครั้ง คือ พ่อและแม่ของผม แต่ครั้งที่สามนี้ ต้องเป็นผม ซึ่งญาติ ๆ ก็ต้องกังขาในความเชื่อของผม .. ผมควรจะตอบอย่างไร ? และวางตัวอย่างไรเพื่อรับกับปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่คนรอบข้างต้องมีกับผม

ผมไม่รู้ว่า ในภาคอื่น ๆ ของไทยเรามีความเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับการบวชหน้าศพ แต่ทางเหนือ โดยเฉพาะอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่เชื่อเรื่องการบวชหน้าศพให้กับคนตายซึ่งจะต้องเป็นคนถือสายสิญจน์ที่โยงกับศพและเดินนำหน้าในขบวนแห่ศพ ซึ่งถือว่าเหมือนมีพระ(หรือบุญ) นำทางไปสู่เมรุเผาศพ จะทำให้วิญญาญคนตายไปสู่สุขคติ

ยาวหน่อย แต่รบกวนตอบหน่อยนะครับ เดี่ยวสักพักผมเข้ามาใหม่นะครับ
ขอบคุณครับ

อ้อ สำหรับผม ความตาย เป็นเรื่องที่ผมเรียนรู้ได้จากพระเจ้า พระเจ้าสอนผมให้ตระหนักถึงเรื่องความตายหลายครั้ง ผมเข้าใจเรื่องการตาย การฟื้นคืนชีพ แต่เรื่องความอาลัยก็คงเป็นธรรมดา ที่พระเจ้าเข้าใจในเรื่องความโศกเศร้าครับ

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ

ผมอยากถามคนที่เคยเจอสถานการณ์อย่างนี้ว่า ตอบคนรอบข้างอย่างไร ?

ลองหาฐาติผู้ชายคนอื่นให้เค้าบวชแทนได้ไหมครับ? อาจจะดีกว่า
แต่ถ้าเรายังไม่ได้รับศีลล้างบาปเป็นคริสตชนเต็มตัว ผมคิดว่าอาจจะบวชไปก็ได้ เพื่อความสบายใจของญาติๆ
จะได้ไม่เกิดการแตกแยกครับ เพราะชาวเหนือค่อนข้างเคร่งเรื่อง"ผี"

ในความตามพระคัมภีร์ แดนผู้ตายกับคนเป็นแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงหรือเปล่าครับ ? แล้วที่บอกว่า มีวิญญาณคนตายที่รู้จักเรา มาเข้าฝันเรา มาขอให้เราทำบุญ จัดอาหารไปให้ .. วิญญาณนี้พระเจ้าอนุญาตให้เขากลับมาหาเราหรือไม่ครับ ?

ต้องตอบว่าทั้งแยกและไม่แยกครับ บนโลกเราก็มีทั้งเทวดาและปีศาจอยู่ทั่วไปเหมือนกัน ตามแต่ที่พระทรงใช้และอนุญาต
เรื่องเข้าฝันก็เป็นไปได้นะครับ แต่เรื่องจัดอาหารไปไหว้หลุมศพนี่ไม่มีประโยชน์เลย เพราะมีแค่ร่างกายที่ตายได้ของเราเท่านั้นที่ต้องการอาหาร สุดท้ายลูกหลานก็กินกันเอง
แต่เราสามารถทำบุญ ขอมิสซา หรือสวดอุทิศให้เค้า นั่นจะเป็นประโยชน์กับเค้ามากกว่าครับ เรื่องวิญญาณกลับมาอีกครั้ง ในพระคัมภีร์ก็เคยปรากฎครับ แต่ก็อยู่ที่ว่าพระจะทรงอนุญาตรึเปล่าเท่านั้นเอง

แต่ครั้งที่สามนี้ คงเป็นคุณแม่ผมเอง ซึ่งผมลำบากใจมากที่จะต้องไปทำพิธีอะไรอย่างนี้  สองครั้งนั้นคงเพราะจิตใจคิดว่า เป็นคนไกลตัว และก็ไปนั่งเฉย ๆ คนดำเนินพิธีกรรมทั้งสองครั้ง คือ พ่อและแม่ของผม แต่ครั้งที่สามนี้ ต้องเป็นผม ซึ่งญาติ ๆ ก็ต้องกังขาในความเชื่อของผม .. ผมควรจะตอบอย่างไร ? และวางตัวอย่างไรเพื่อรับกับปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่คนรอบข้างต้องมีกับผม

เรื่องลงขอนนั้น อาจจะคิดซะว่าเราแค่ไปกินข้าวแค่นั้น เราไม่ได้ไปกินข้าวกับแม่เราจริงๆ แม่เราถูกพระบิดาเรียกกลับไปแล้วครับ

-------------------------------------------------

จะช่วยสวดให้คุณแม่นะครับ เพื่อคุณแม่จะได้สิ้นใจอย่างสงบครับ

ปล. โดยความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าเป็นผม ในช่วงเวลาสุดท้าย ผมจะแอบล้างบาปให้คุณแม่ครับ อย่างน้อยเราก็จะได้แน่ใจว่าคุณแม่ได้ไปสวรรค์อย่างแน่นอน

สวัสดีค่ะน้องแทม พี่ดีใจนะที่น้องแทมรักพระเจ้า น้องแทมเคยไปวัดพระหฤทัยเราอาจเคยเห็นหน้าแต่ไม่รู้จักกัน พี่เป็นสัตบุรุษวัดพระหฤทัยจ๊ะ เคยเรียนคำสอนกับคุณพ่อวุฒิเลิศ ซึ่งเป็นคุณพ่อเจ้าวัด เชื่อมั๊ยคุณพ่อเคยเล่าให้พี่ฟังว่าสมัยพ่อเรียนอยู่บ้านเณร ตอนนั้นคุณยายของคุณพ่อท่านเสียชีวิต ซึ่งแต่เดิมแม่ของคุณพ่อท่านเป็นพุทธ คุณพ่อก็เดินนำหน้าศพโดยใส่ชุดเณรเลยทำตามพิธีในขอบเขต คุณพ่อบอกว่ามันอยู่ที่จิตตารมณ์ของเราทำแล้วใจเราสบายและไม่เบียดเบียนใคร  ถึงตอนนี้ แทมยังไม่ได้รับศีลล้างบาปขอให้แทมทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด พี่ขอสวดภาวนาให้แม่แทมด้วย พี่เชื่อว่าแทมต้องมีจิตใจเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้นเพราะมีพระองค์อยู่เคียงข้าง ถ้าแทมต้องการคำปรึกษาก็ติดต่อพี่ได้นะ และคุณพ่อที่วัดพระหฤทัยทุกท่าน คุณพ่อวุฒิเลิศ คุณพ่ออนุพงษ์ คุณพ่อ
โจเซปเป้ ทุกท่านน่ารักใจดีทุกคนให้คำปรึกษาน้องได้
  ส่วนเรื่อง(ถามเมื่อ)ภาษาพื้นเมืองบ้านแทมเรียกยังงี้รึเปล่าพี่ว่าก็อย่าไปฝืนญาติเขาเลย ถึงแม้จะลงจริงหรือไม่จริงน้องก็สวดภาวนาในใจก็ได้นะ ให้มันผ่านพ้นไปด้วยดี ขอเป็นกำลังใจให้น้องนะ หวังว่าเราคงได้พบกันบ่อยๆที่วัดพระหฤทัยนะจ๊ะ
Sic Nos Amantem(ทรงรักเราถึงเพียงนี้)

เยซู มารีอา ยอแซฟ ข้าพเจ้าขอถวาย ดวงใจ สติปัญญาและชีวิตแด่ท่าน
เยซู มารีอา ยอแซฟ โปรดช่วยข้าพเจ้าเมื่อใกล้จะตาย
เยซู มารีอา ยอแซฟ ขอช่วยให้ข้าพเจ้าสิ้นใจอย่างราบรื่นในศีลในพรของท่าน

ขอบคุณทุกคำตอบครับ ผมกลับไปคุยกับเพื่อนที่เป็นฝรั่งเขาบอกว่า ให้ผมทำล้างบาปให้คุณแม่ โดยเอาน้ำมนต์ (ผมได้จากตอนไปมิสซาเย็นเมื่อช่วงปัสกา) พรมบนหน้าผากของคุณแม่ พร้อมกับบอกว่า ขอล้างบาปให้ในพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต เอเมน

แต่ผมอยากได้บทล้างบาปที่ถูกต้อง

ผมทำได้ไหมครับ ? แม้ว่าผมจะยังไม่ได้รับศีลล้างบาป

ขอบคุณครับ

Elizabeth เขียน: สวัสดีค่ะน้องแทม พี่ดีใจนะที่น้องแทมรักพระเจ้า น้องแทมเคยไปวัดพระหฤทัยเราอาจเคยเห็นหน้าแต่ไม่รู้จักกัน พี่เป็นสัตบุรุษวัดพระหฤทัยจ๊ะ เคยเรียนคำสอนกับคุณพ่อวุฒิเลิศ ซึ่งเป็นคุณพ่อเจ้าวัด เชื่อมั๊ยคุณพ่อเคยเล่าให้พี่ฟังว่าสมัยพ่อเรียนอยู่บ้านเณร ตอนนั้นคุณยายของคุณพ่อท่านเสียชีวิต ซึ่งแต่เดิมแม่ของคุณพ่อท่านเป็นพุทธ คุณพ่อก็เดินนำหน้าศพโดยใส่ชุดเณรเลยทำตามพิธีในขอบเขต คุณพ่อบอกว่ามันอยู่ที่จิตตารมณ์ของเราทำแล้วใจเราสบายและไม่เบียดเบียนใคร  ถึงตอนนี้ แทมยังไม่ได้รับศีลล้างบาปขอให้แทมทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด พี่ขอสวดภาวนาให้แม่แทมด้วย พี่เชื่อว่าแทมต้องมีจิตใจเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้นเพราะมีพระองค์อยู่เคียงข้าง ถ้าแทมต้องการคำปรึกษาก็ติดต่อพี่ได้นะ และคุณพ่อที่วัดพระหฤทัยทุกท่าน คุณพ่อวุฒิเลิศ คุณพ่ออนุพงษ์ คุณพ่อ
โจเซปเป้ ทุกท่านน่ารักใจดีทุกคนให้คำปรึกษาน้องได้
  ส่วนเรื่อง(ถามเมื่อ)ภาษาพื้นเมืองบ้านแทมเรียกยังงี้รึเปล่าพี่ว่าก็อย่าไปฝืนญาติเขาเลย ถึงแม้จะลงจริงหรือไม่จริงน้องก็สวดภาวนาในใจก็ได้นะ ให้มันผ่านพ้นไปด้วยดี ขอเป็นกำลังใจให้น้องนะ หวังว่าเราคงได้พบกันบ่อยๆที่วัดพระหฤทัยนะจ๊ะ
Sic Nos Amantem(ทรงรักเราถึงเพียงนี้)

ขอบคุณมากครับ ผมไปเรียนกับครูสุขใจหนะครับ เรียนเกือบจบ แต่เพราะเหตุได้งานทำเลยหยุดเรียนดื้อ ๆ ตอนนั้นผมเรียนลัด คือ เรียนวันธรรมดาช่วงบ่ายโมงทุกวัน น้องคนที่เรียนพร้อมกันก็รับศีลล้างบาปไปได้จะเป็นปีแล้ว มารู้อีกที ก็คือ ครูสุขใจถึงแก่กรรมแล้ว

ม.ปรีชา รู้จักผมครับ แกคอยช่วยให้ผมได้รับศีลล้างบาปไว ๆ พยายามขอคุณพ่อให้ แต่ว่า .. คุณพ่อแกอยากให้ผมเรียนคำสอนจนจบเสียก่อน ถึงจะให้รับศีลล้างบาปได้ แต่ ม.ปรีชาไม่ได้เรียกผมชื่อนี้นะครับ

โดยส่วนตัวผมรู้จักพระเจ้ามาแต่เด็ก มีประสบการณ์หลายอย่างกับพระเจ้า แต่ว่าผมไม่ค่อยรู้เรื่องวัฒนธรรมแคทอลิกมากนัก เพราะผมไม่ได้คลุกคลีและเรียนคำสอนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว บางศัพท์ผมยังไม่รู้ความหมายเลยว่า มันหมายถึงอะไร , ภาควจนพิธีกรรม ที่โต้ตอบกับคุณพ่อ ผมก็จำได้ไม่หมด แต่ผมไม่ซีเรียสนะครับ , เคยสารภาพบาปแค่ครั้งเดียวเอง ตอนอยู่ ม.3 กับ คุณพ่อคนเก่าที่เสียไปแล้ว ตอนนั้นวัดยังเป็นแบบเก่า ไม่ได้เป็นแบบใหม่

อีกเหตุหนึ่งก็เพราะไปวัดแล้ว ไม่รู้จักใคร นอกจาก ม.ปรีชา ก็เลย .. ไม่รู้จะคุยกับใคร อย่างไร ก็เลยแป๊ก

ตกลงว่า ผมบวชหน้าศพได้ด้วยเหรอครับ ?? แล้วมันจะต้องมีพิธีที่ผมต้องไหว้พระพุทธรูปด้วย ผมไม่เอาดีกว่า เพราะผมเคยไหว้อยู่ช่วงหนึ่ง ด้วยความหลงผิด ผมบอกพี่ได้เลยว่า พระเจ้าตีผมเกือบตาย พระเจ้าไม่ให้ผมในสักสิ่งที่ผมขอ จนผมต้องหันกลับมาหาพระเจ้าและขอโทษพระองค์นั่นแหละ ผมถึงได้รับพระพรของพระเจ้าอีกครั้ง ผมเลือกที่จะไม่บวชหน้าศพแน่นอนครับ แต่ก็ไม่อยากให้คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าเข้าใจคาทอลิกผิดไป

แล้วที่ว่า บวชหน้าศพได้ ? มันจะบาปไหมครับ ? ขออีกสักหน่อยครับ

ขอบคุณทุกคนที่จะช่วยสวดให้คุณแม่ผมสิ้นใจอย่างสงบ คุณแม่ผมเป็นคนบ้านนอก แกเชื่อเรื่องผีมาก อย่างมากที่สุด แกไม่เชื่อพระเจ้าเลย ล่าสุดตอนนอนที่โรงพยาบาล แกบอกผมว่า ขอพระพรหมช่วยต่อชีวิตให้แก ถ้าแกรอดแกจะถวายตัวเป็นลูกของพระพรหม ผมก็ .. ฟังเฉย ๆ แล้วก็คิดว่า สองทาง แกอาจรอดและก็เป็นอะไรที่ออกจากทางของพระเจ้า กับ แกไม่รอดและก็อาจไม่รอดในทางของพระเจ้าด้วย

ผมขอช่วยตอบเรื่องการทำศีลล้างบาปให้คุณแม่ อย่างที่คุณ Sasuke บอก จะแอบทำอย่างไรดีครับ .. ขอบทสวด ขั้นตอน และรายละเอียดทั้งหมดด้วยนะครับ หรือว่าต้องให้คุณพ่อมาทำศีลล้างบาปให้ครับ ??

ขอบคุณครับ

เรื่องการบวชหน้าศพนี่ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมากนะครับ แต่ก่อนที่ผมจะมาเป็นคริสต์ ผมก็เคยบวชตอนที่พ่อเสียชีวิต(ไม่รู้ว่าเป็นการบวชหน้าศพรึเปล่า แต่ที่รู้ๆบวชให้พ่อ และตอนจะเผาผมก็ต้องถือสายสิญจ์ขณะนำศพไปเผาด้วย) ตอนบวชนี้ ต้องมีพิธีกล่าวเป็นบทสวดมนต์ของพุทธ และเขาจะถามถึงเรื่องประมาณความเชื่อด้วยมั้ง(อันนี้ไม่แนะใจนะ มันนานมากแล้ว จำไม่ค่อยได้ว่ามีด้วยเปล่า แต่ที่รู้ๆเขาถามอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ)ถ้าถามผมว่า มันผิดต่อหลักศาสนาคริสต์ไหม ผมว่า มันผิดเต็มประตูเลยนะ เพราะการบวชของพุทธ คล้ายกับ การมอบตัวเองเป็นสาวกในร่มพระพุทธศาสนา

แล้วที่ว่า บวชหน้าศพได้ ? มันจะบาปไหมครับ ? ขออีกสักหน่อยครับ

เรื่องบาปหรือไม่บาปนั้นตัดสินด้วยมโนธรรมและเจตนาครับ
แต่ถ้าจะว่ากันไปตามทฤษฎีก็บาปครับ เพราะเราไหว้พระอื่น แต่กรณีนี้เราทำเพื่อไม่ให้เป้นที่สะดุดแก่คนอื่น เพื่อความสบายใจของญาติพี่น้อง

ผมขอช่วยตอบเรื่องการทำศีลล้างบาปให้คุณแม่ อย่างที่คุณ Sasuke บอก จะแอบทำอย่างไรดีครับ .. ขอบทสวด ขั้นตอน และรายละเอียดทั้งหมดด้วยนะครับ หรือว่าต้องให้คุณพ่อมาทำศีลล้างบาปให้ครับ ??

เรื่องพิธีศีลล้างบาป ความจริงก็มีวจนพิธีกรรมอยู่เหมือนกัน แต่ในกรณีนี้ให้ใช้แค่น้ำก็พอล่ะครับ เป็นการล้างบาปแบบฆาราวาส
ก่อนอื่นก็เลือกนักบุญประจำตัวของแม่นะครับ

บทล้างบาป
"น...(นามนักบุญของแม่) ข้าพเจ้าล้างท่าน ในนามของพระบิดา(เทน้ำลงบนศีรษะครั้งที่1) พระบุตร(เทน้ำลงบนศีรษะครั้งที่2) และพระจิต(เทน้ำลงบนศีรษะครั้งที่3)

บทล้างบาปสำหรับฆาราวาส ใช้เท่านี้ก็พอแล้วครับ
ถ้าคุณแม่เคร่งมากๆ คงจะไม่ยอม แนะนำให้ทำตอนที่คุณแม่ไม่รู้สึกตัวแล้วนะครับ คุณแม่จะไม่เกิดทัศนะคติทางลบ จะได้ไม่ด่าว่าพระครับ

พ่อก็คือพ่อ แม่ก็คือแม่ ทั้งสองท่านมีบุญคุณกับเราอย่างล้นพ้น หาที่เปรียบมิได้

ไม่ว่าท่านจะยังอยู่หรือไม่ก็ตาม การรู้รักกตัญญู และคอยรับใช้ และทำตามความประสงค์ของท่าน ทำให้ท่านสบายใจ ทำให้ท่านสุขใจ ย่อมนับได้ว่าเป็นบุตรที่ดี

ขอแสดงความเสียใจกับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

sasuke เขียน:

แล้วที่ว่า บวชหน้าศพได้ ? มันจะบาปไหมครับ ? ขออีกสักหน่อยครับ

เรื่องบาปหรือไม่บาปนั้นตัดสินด้วยมโนธรรมและเจตนาครับ
แต่ถ้าจะว่ากันไปตามทฤษฎีก็บาปครับ เพราะเราไหว้พระอื่น แต่กรณีนี้เราทำเพื่อไม่ให้เป้นที่สะดุดแก่คนอื่น เพื่อความสบายใจของญาติพี่น้อง

ผมขอช่วยตอบเรื่องการทำศีลล้างบาปให้คุณแม่ อย่างที่คุณ Sasuke บอก จะแอบทำอย่างไรดีครับ .. ขอบทสวด ขั้นตอน และรายละเอียดทั้งหมดด้วยนะครับ หรือว่าต้องให้คุณพ่อมาทำศีลล้างบาปให้ครับ ??

เรื่องพิธีศีลล้างบาป ความจริงก็มีวจนพิธีกรรมอยู่เหมือนกัน แต่ในกรณีนี้ให้ใช้แค่น้ำก็พอล่ะครับ เป็นการล้างบาปแบบฆาราวาส
ก่อนอื่นก็เลือกนักบุญประจำตัวของแม่นะครับ

บทล้างบาป
"น...(นามนักบุญของแม่) ข้าพเจ้าล้างท่าน ในนามของพระบิดา(เทน้ำลงบนศีรษะครั้งที่1) พระบุตร(เทน้ำลงบนศีรษะครั้งที่2) และพระจิต(เทน้ำลงบนศีรษะครั้งที่3)

บทล้างบาปสำหรับฆาราวาส ใช้เท่านี้ก็พอแล้วครับ
ถ้าคุณแม่เคร่งมากๆ คงจะไม่ยอม แนะนำให้ทำตอนที่คุณแม่ไม่รู้สึกตัวแล้วนะครับ คุณแม่จะไม่เกิดทัศนะคติทางลบ จะได้ไม่ด่าว่าพระครับ

แล้วผมจะรู้นามนักบุญของคุณแม่ได้ยังไงครับ ? ขอบคุณครับ

เรื่องพิธิกรรมนี่ผมไม่ค่อยจะรู้แฮะ (ก็คริสเตียนง่ะ)

ยังไงก็ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ แต่....ยังไงเสีย สุดท้ายเราทุกคนก็จะพบกันในอาณาจักรสวรรค์อยู่ดี  อย่าเศร้าไปเลยครับ  :laugh:

so sorry to hear that

ช่วยภาวนาให้ครับพี่

แยกวัฒนธรรมกับความเชื่อในออกจากกันก็ดีนะครับ

(1)ผมก็ไม่รู้ว่าความหมายของการบวชหน้าศพด้วยว่า ทำไปเพื่ออะไร ?
ตอบ:การบวชหน้าศพหรือบวชหน้าไฟ เป็นความเชื่อของคนไทยพุทธ ที่ว่า ให้วิญญาณผู้ตายเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ และเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย(เขาถือว่า การบวช เป็นกุศลที่แรง)

(2)ในความตามพระคัมภีร์ แดนผู้ตายกับคนเป็นแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงหรือเปล่าครับ ? แล้วที่บอกว่า มีวิญญาณคนตายที่รู้จักเรา มาเข้าฝันเรา มาขอให้เราทำบุญ จัดอาหารไปให้ .. วิญญาณนี้พระเจ้าอนุญาตให้เขากลับมาหาเราหรือไม่ครับ ?
ตอบ:
(2.1)ในคาทอลิกการศึกษาเทววิทยาทางนี้มีน้อยมาก นักเทววิทยาทั่วโลกก็ยังไม่อาจสรุปเรื่องนี้จากการอ้างพระคัมภีร์ ลองไปอ่านหนังสือของคุณพ่อ ดร.ฟรังซิส ไกด์ ดูที่พึ่งออกมา เกี่ยวกับภาวะหลังตายของแสงธรรม
(2.2)คาทอลิกก็พบเหตุการณ์ทำนองว่า มีการปรากฎของวิญญาณ หรือ การเข้าฝันอยู่หลายครั้ง แต่เราก็ไม่เคยตั้งคำถามนะว่าเป็นวิญญาณที่พระเป็นเจ้าอนุญาตให้กลับหรือไม่?โดยส่วนตัว เป็นการเร้นลับสำหรับแผนการณ์พระเจ้า

(3)ผมลำบากใจมากที่จะต้องไปทำพิธีอะไรอย่างนี้
ตอบ:มีกระทู้นี้ครับ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7831.0
แต่ผมยังเห็นว่า "วัฒนธรรมการนับถือผี"ของต่างจังหวัด ยังคงอยู่ และจดหมายนี้ไม่ครอบคลุมรายนะครับ ท่านบอกไว้เพียงว่าเป็นแนวทางกว้างๆ ต้องขึ้นกับเจตนานะครับ ขอให้เจตนาเป็นเพื่อความกตัญญูแล้วกัน ผมไม่อยากให้เราลำบากใจกับวัฒนธรรมบางอย่างของไทยครับ

(4)ผมขอช่วยตอบเรื่องการทำศีลล้างบาปให้คุณแม่ อย่างที่คุณ Sasuke บอก จะแอบทำอย่างไรดีครับ .. ขอบทสวด ขั้นตอน และรายละเอียดทั้งหมดด้วยนะครับ หรือว่าต้องให้คุณพ่อมาทำศีลล้างบาปให้ครับ ??
ตอบ:พระศาสนจักรเรามีกฎไว้ว่า ในกรณีเร่งด้วนการล้างบาป(เร่งด่วน)สามารถทำได้ โดยให้เรา(คริสตชน)รินน้ำรดหัวของเขากล่าวว่า "ข้าพเจ้าขอล้างท่าน เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตรและพระจิต" แต่ผมไม่เห็นความจำเป็นที่คุณต้องล้างบาปให้แม่ครับ

(5)ผมบวชหน้าศพได้ด้วยเหรอครับ ?? แล้วมันจะต้องมีพิธีที่ผมต้องไหว้พระพุทธรูปด้วย ผมไม่เอาดีกว่า เพราะผมเคยไหว้อยู่ช่วงหนึ่ง ด้วยความหลงผิด ผมบอกพี่ได้เลยว่า พระเจ้าตีผมเกือบตาย พระเจ้าไม่ให้ผมในสักสิ่งที่ผมขอ จนผมต้องหันกลับมาหาพระเจ้าและขอโทษพระองค์นั่นแหละ ผมถึงได้รับพระพรของพระเจ้าอีกครั้ง ผมเลือกที่จะไม่บวชหน้าศพแน่นอนครับ แต่ก็ไม่อยากให้คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าเข้าใจคาทอลิกผิดไป
ตอบ:
(5.1)เราไหว้ด้วยเจตนาว่าพระพุทธรูปคือพระเจ้า หรือญาติผู้ใหญ่ปัญญาชนที่เราเคารพล่ะ
(5.2)พระเจ้าตีเกือบตาย คงเป็นพระยาห์เวห์ และการที่พระเจ้าไม่ให้สักสิ่งที่ขอ ไม่ใช่พระเจ้าตีนะครับ
(5.3)คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าเข้าใจคาทอลิกผิดไป!เราก็บอกให้เขาเข้าใจสิครับ และส่วนใหญ่ที่คนเข้าใจคาทอลิกผิด เพราะเขาไม่เห็นความรักของพระคริสตเจ้าในตัวเราต่างหาก เขาคิดว่าเราแบ่งพวกแบ่งพันธุ์ในมนุษยชาติ

(6)คุณแม่ผมเป็นคนบ้านนอก แกเชื่อเรื่องผีมาก อย่างมากที่สุด แกไม่เชื่อพระเจ้าเลย ล่าสุดตอนนอนที่โรงพยาบาล แกบอกผมว่า ขอพระพรหมช่วยต่อชีวิตให้แก ถ้าแกรอดแกจะถวายตัวเป็นลูกของพระพรหม ผมก็ .. ฟังเฉย ๆ แล้วก็คิดว่า สองทาง แกอาจรอดและก็เป็นอะไรที่ออกจากทางของพระเจ้า กับ แกไม่รอดและก็อาจไม่รอดในทางของพระเจ้าด้วย
ตอบ:
(6.1)การเชื่อเรื่องผี เป็นวัฒนธรรมไทยเดิมๆแยกไม่ออกกับวัฒนธรรม และไม่มีทางแยกได้
(6.2)สำหรับบุคคลอื่น ๆ ที่อยู่ในเงาในภาพแห่งการแสวงหาพระเป็นเจ้าที่เขาไม่รู้จัก, พระเป็นเจ้าเองก็ทรงไม่ห่างจากคนพวกนี้  เพราะว่าพระองค์ประทานให้ทุก ๆ คนมีชีวิต, มีความดลบันดาลใจและมีสารพัด (เทียบ กิจการ. 17,25-28) และพระผู้กอบกู้ทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์ทุกคนเอาตัวรอด (เทียบ 1ทิโมธี2,4)แต่บางครั้งคนเหล่านี้ไม่รู้ถึงพระวรสารของพระคริสตเจ้า, ไม่รู้ถึงพระศาสนจักรของพระองค์ จึงไม่มีความผิด,ถึงกระนั้นเขาก็แสวงหาพระเป็นเจ้า[ของเขา]ด้วยใจอันสุจริต  และน้ำพระทัยของพระองค์ที่เขาทราบโดยการบอกกล่าวของมโนธรรมและภายใต้อิทธิพลของพระหรรษทาน  เขาพยายามสนองตามนั้นด้วยกิจการของตนตามวัฒนธรรมของตน, เขาก็อาจบรรลุถึงความรอดตลอดนิรันดร์ ทั้งพระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้าก็ไม่เพิกเฉยต่อคนเหล่านั้น พระองค์ประทานความช่วยเหลืออันจำเป็นสำหรับความรอดแก่พวกเหล่านั้นเพราะพวกเขาไม่มีความผิด,
(เอกสารแห่งสภาสังคายวาติกัน ครั้งที่ 2)

ทุกอย่างขึ้นที่ใจครับ
ขจัดความลำบากใจให้เหลือแต่ความสบายใจ
อย่าใส่ใจสัญลักษณ์อะไรต่างๆให้มากเกินน้ำพระทัย
มิเช่นนั้น เราไม่ต่างอะไรกับพวกฟาริสีที่ไม่ยอมให้พระเจ้าทำอัศจรรย์ในวันสะบาโต

ปล.คุณยังไม่ได้ล้างบาปหรือเปล่า ผมว่าบวชไปเถิด(ด้วยเจตนาต่อครอบครัว) ไม่บาป(ความเห็นส่วนตัว)

ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับคุณ Man อย่างยิ่งครับ

ขอบคุณ คุณแมนมากคับ ตอบยาวมาก ๆ แบบกระจ่างดี ผมแอบล้างบาปให้คุณแม่แล้วครับ เรียบร้อย วันนี้หมอเจาะปอดเอาน้ำในปอดออก ตอนนี้หายใจได้มากขึ้น แต่ก็ทำใจได้มากขึ้นทุกวันเหมือนกันครับ ..

นายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: ขอบคุณ คุณแมนมากคับ ตอบยาวมาก ๆ แบบกระจ่างดี ผมแอบล้างบาปให้คุณแม่แล้วครับ เรียบร้อย วันนี้หมอเจาะปอดเอาน้ำในปอดออก ตอนนี้หายใจได้มากขึ้น แต่ก็ทำใจได้มากขึ้นทุกวันเหมือนกันครับ ..

สวดขอ"พระเมตตา"สิครับ
http://uk.geocities.com/palangjai2004/mercyjesus.html

นายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: ขอบคุณ คุณแมนมากคับ ตอบยาวมาก ๆ แบบกระจ่างดี ผมแอบล้างบาปให้คุณแม่แล้วครับ เรียบร้อย วันนี้หมอเจาะปอดเอาน้ำในปอดออก ตอนนี้หายใจได้มากขึ้น แต่ก็ทำใจได้มากขึ้นทุกวันเหมือนกันครับ ..

อย่ากังวลไปเลยครับ รอพบคุณแม่ในสวรรค์ได้เลย
สวดให้คุณแม่เยอะๆนะครับ

ขอพระเจ้าทรงเมตตานะครับ

นายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: ขอบคุณทุกคำตอบครับ ผมกลับไปคุยกับเพื่อนที่เป็นฝรั่งเขาบอกว่า ให้ผมทำล้างบาปให้คุณแม่ โดยเอาน้ำมนต์ (ผมได้จากตอนไปมิสซาเย็นเมื่อช่วงปัสกา) พรมบนหน้าผากของคุณแม่ พร้อมกับบอกว่า ขอล้างบาปให้ในพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต เอเมน

แต่ผมอยากได้บทล้างบาปที่ถูกต้อง

ผมทำได้ไหมครับ ? แม้ว่าผมจะยังไม่ได้รับศีลล้างบาป

ขอบคุณครับ

อันนั้นคือ  การล้างบาปฉุกเฉิน  พี่ไม่แน่ใจว่า  ถ้ายังไม่ได้รับศีลล้างบาป  จะทำได้มั้ย  แต่เคยได้ยินว่า  ในกรณีที่ทำคลอด  แล้วเค้ากลัวเด็กตายก่อนล้างบาป  เค้าจะเอาเขียนบทล้างบาปให้คุณหมอ (I baptize you in the name of the Father and of the Son and of the Holy Spirit.) คือถ้าฉุกเฉินก็ให้หมอสวดเลย

Buddy เขียน:

นายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: ขอบคุณทุกคำตอบครับ ผมกลับไปคุยกับเพื่อนที่เป็นฝรั่งเขาบอกว่า ให้ผมทำล้างบาปให้คุณแม่ โดยเอาน้ำมนต์ (ผมได้จากตอนไปมิสซาเย็นเมื่อช่วงปัสกา) พรมบนหน้าผากของคุณแม่ พร้อมกับบอกว่า ขอล้างบาปให้ในพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต เอเมน

แต่ผมอยากได้บทล้างบาปที่ถูกต้อง

ผมทำได้ไหมครับ ? แม้ว่าผมจะยังไม่ได้รับศีลล้างบาป

ขอบคุณครับ

อันนั้นคือ  การล้างบาปฉุกเฉิน  พี่ไม่แน่ใจว่า  ถ้ายังไม่ได้รับศีลล้างบาป  จะทำได้มั้ย  แต่เคยได้ยินว่า  ในกรณีที่ทำคลอด  แล้วเค้ากลัวเด็กตายก่อนล้างบาป  เค้าจะเอาเขียนบทล้างบาปให้คุณหมอ (I baptize you in the name of the Father and of the Son and of the Holy Spirit.) คือถ้าฉุกเฉินก็ให้หมอสวดเลย

ถ้าเอาตามกฎเป๊ะๆยังไม่ได้ล้างบาป(และศีลกำลัง)ก็ล้างให้คนอื่นไม่ได้ครับ
ถึงต่อให้ล้างแล้ว ในที่สุดก็ต้องล้างอย่างถูกต้องอีกครั้ง(ใช้ในกรณีฉุกเฉินดังกล่าว)
แต่ในกรณีที่ใจเราร้อนรนมากๆและไม่มีโอกาสอื่นเลย
"สวรรค์น่าจะเห็นใจ"

หัวใจที่มีความเชื่อเท่านั้นที่พระเจ้าพอพระทัย อย่ากังวลสิ่งใดให้มาก อย่าไปยึดถือเรื่องกฏอย่างนู่นอย่างนี้ให้มากไป

พระเยซูเจ้าบอกว่า ข้อบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ สุดกำลังสุดสติปัญญา และรักเพื่อนมนุษย์

รักครอบครัวที่เหลืออยู่ให้มาก ๆ จะได้ไม่ผิดบทบัญญัติเรื่องรักเพื่อนมนุษย์ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณควรต้องทำอย่างไร เพื่อเป็นน้ำใจให้กับทุกคน

ความเชื่อจะเบ่งบาน และจะเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้ายิ่งขึ้น เมื่อความเชื่อนั้นประกอบด้วยปัญญา ผู้ใดนำสันติ ผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า   

เสียใจด้วยกับคุณ "นายแทม ณ เชียงใหม่ " นะคะ
จะช่วยสวด "บทพระเมตตา"อีกแรงนะคะ

อัศจรรย์ครับ



หลังจากที่พี่น้องในเว็บบอร์ดหลายคนได้ช่วยกันสวดภาวนาและสวดสายประคำพระเมตตา และผมเองก็ได้สวดไป 4 สาย (ผมสวดสายประคำพระเมตตาไปเมื่อวันพุธที่ 16 เมษายน) ที่ผ่านมา วันนั้นคุณแม่อาการหนักพอควรครับ ผมสวดให้คุณแม่ พี่สาวก็บอกว่า ผมสวดคาถาใส่แม่ ผมก็ยิ้มครับ บอกว่า ผมสวดสายประคำให้คุณแม่ต่างหาก ..

วันนี้ .. พี่สาวและตัวผมยังแปลกใจเลยครับ คุณแม่เอาเครื่องออกซิเจนที่มีถุงออก หน้าตาสดใสมาก มากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาตั้งแต่คุณแม่ป่วยมากว่า 3 สัปดาห์ กินเยอะมากกว่าทุกวัน พูดมากกว่าทุกวัน

ตอนกลับบ้าน พี่สาวถามผมว่า "แปลกนะ ทำไมวันนี้แม่เหมือนคนละคนกับเมื่อวาน อันนี้หมอไม่ได้รักษาใช่ไหม"
ผมก็ยิ้มแล้วก็บอกว่า "หมอไม่ได้รักษา อันนี้แหละอัศจรรย์จากการสวดสายประคำ"

พี่สาวเงียบแล้วก็ไม่ได้ตอบผม

แต่ในใจผม ผมขอบคุณพระเยซูเจ้า ทุกเสียงในใจของผม ตอบได้เลยว่า พระเยซูบรรเทาอาการป่วยของคุณแม่ ผมอธิษฐานขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์จะทรงให้เป็นไปอย่างไร  วันนี้พระเยซูตอบคำอธิษฐานของผมอย่างชัดเจน สิ่งที่ผมต้องการก็คือให้คุณแม่ทรมานน้อยที่สุด มีความสุขกับช่วงเวลานี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แล้วก็ให้สิ้นใจอย่างสงบในการดูแลของพระเยซู

ผมอยากมาโพสต์บอกว่า ขอบคุณพี่น้องทุกคนครับ สิ่งที่พี่น้องได้สวดให้คุณแม่ของผม ประจักษ์อยู่ตรงหน้าของผมแล้วจริง ๆ คือ พระเยซูของเรา พระเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ไม่ละทิ้งแม้แต่คนที่ไม่ยอมเชื่อพระเยซูอย่างคุณแม่ของผม ผมจึงมาโพสต์ตอบเพื่อเป็นการเสริมความเชื่อให้พี่น้องทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านครับ

สำหรับเรื่องการล้างบาป ผมเคารพพระศาสนจักรครับ เมื่อวันที่ผมได้รับศีลล้างบาปตามขั้นตอนของพระศาสนจักร ผมก็คงเป็นคาทอลิกที่ถูกต้องตามขั้นตอน แต่การล้างบาปให้คุณแม่ ผมก็เชื่อในส่วนตัวของผมลึก ๆ ว่า พระเจ้าคงจะมองข้ามขั้นตอนนั้นไป พระองค์น่าจะทรงโปรดและมีพระกรุณาสำหรับความเชื่อของผม ที่เชื่อพระเจ้า แต่ก็มีความรู้งู ๆ ปลา ๆ เกี่ยวกับพระเจ้า ผมไม่รู้จะเขียนยังไง แต่ในใจผมเชื่อว่า พระเจ้าจะทรงมองข้ามเรื่องขั้นตอนนี้ไป

ไม่รู้จะเขียนยังไง แต่ก็ขอบคุณพระเยซูที่เสด็จมาในโลกนี้ให้รู้จักพระเจ้าใจดีที่สุดอย่างที่ไม่มีพระเจ้าองค์ไหนจะเทียบได้
ขอบคุณพระเจ้าครับ

ขอบคุณพระเจ้าครับ

Deo gratias!!!

พระเจ้ายิ่งใหญ่

ขอบคุณพระเจ้านะครับ

ื nothing can keep us away from his Love

ร้องอัลเลลูยาแด่พระเจ้า :laugh: