ผมเล่นดนตรีตอนกลางคืน บาปไหมครับ
คือว่า ผมเล่นดนตรี เป็นอาชีพเสริม ตอนกลางวันทำงานประจำ บางคนพูดว่า เงินได้มาจากทางนี้ไม่สะอาด เป็นบาป (เงินที่จ่ายค่าเหล้าของแขก มาจ่ายให้กับผมเป็นค่าจ้าง) ผมอยากจะรู้ว่าบาปหรือเปล่า.
ช่วงหลังๆ ไม่ได้เข้าวัดวันอาทิตย์เลยครับ ซึ่งแต่ก่อนตั้งแต่เด็กๆจะเข้าทุกวันครับ รู้สึกว่าเริ่มเฉื่อยชาในการไปมิสซา แล้วถ้ามีธุระจำเป็นจริงๆ จะต้องทำยังไงเพื่อแก้ไขดีครับ?
ปล.สังสรรค์บาปไหมครับ?
ปล.ขนาดไหนถึงเรียกว่าอุลามกครับ?
ช่วงหลังๆ ไม่ได้เข้าวัดวันอาทิตย์เลยครับ ซึ่งแต่ก่อนตั้งแต่เด็กๆจะเข้าทุกวันครับ รู้สึกว่าเริ่มเฉื่อยชาในการไปมิสซา แล้วถ้ามีธุระจำเป็นจริงๆ จะต้องทำยังไงเพื่อแก้ไขดีครับ?
ปล.สังสรรค์บาปไหมครับ?
ปล.ขนาดไหนถึงเรียกว่าอุลามกครับ?
อันนี้ชัด :evil:DorFinF เขียน: ช่วงหลังๆ ไม่ได้เข้าวัดวันอาทิตย์เลยครับ ซึ่งแต่ก่อนตั้งแต่เด็กๆจะเข้าทุกวันครับ รู้สึกว่าเริ่มเฉื่อยชาในการไปมิสซา
สวด สวด แล้วก็ สวดDorFinF เขียน: แล้วถ้ามีธุระจำเป็นจริงๆ จะต้องทำยังไงเพื่อแก้ไขดีครับ?
ถามจริงๆเถอะ น้องเรียนคำสอนจนได้รับศีลจริงๆแล้วหรือDorFinF เขียน: ปล.สังสรรค์บาปไหมครับ?
ปล.ขนาดไหนถึงเรียกว่าอุลามกครับ?
เป็นสัตบุรุษวัดไหนเอ่ย
อันนั้น ทางพุทธเค้าคิดกันนะคะ ถ้าเราคิดว่า เงินเค้าไม่สะอาด ก็เหมือนเรารังเกียจเค้านะ เราทำงานสุจริต ไม่บาปหรอก กินเหล้า กินได้ แต่ห้ามเมาDorFinF เขียน: บางคนพูดว่า เงินได้มาจากทางนี้ไม่สะอาด เป็นบาป (เงินที่จ่ายค่าเหล้าของแขก มาจ่ายให้กับผมเป็นค่าจ้าง) ผมอยากจะรู้ว่าบาปหรือเปล่า.
บาปคือ ความสัมพันธ์กับพระเป็นเจ้าที่เสียหรือบั่นทอนไป เราไม่ได้ไปวัด ก็เหมือนเราไม่ได้กลับบ้านไปหาพ่อแม่เราน่ะค่ะ หายไปนาน พอกลับไปใหม่ เราก็ต้องใช้เวลาอยู่กับเค้าให้มากขึ้น คุยกับเค้ามากขึ้น (ก็คือการสวดภาวนา) และก็ทำกิจกรรมกับเค้ามากขึ้น (ก็คือ ไปวัด และทำสิ่งที่พ่อแม่เราชอบ ก็คือ การช่วยผู้อื่น การรักผู้อื่น) แต่ก่อนกลับไป ก็ต้องไปคุย ไปขอโทษก่อนว่า ที่หายไปน่ะ ไปไหน ทำอะไรที่พ่อแม่ไม่ชอบบ้าง (ก็คือ การแก้บาปนั่นเอง) และพ่อแม่ก็จะบอกว่า ไม่เป็นไรลูก เราเริ่มใหม่นะ (พระสงฆ์อภัยบาป) เรามากินข้าวกันก่อนนะ อ่ะ นั่งๆ มากินกับพี่ๆน้องๆนี่นะ (ก็คือ การร่วมมิสซา รับศีลมหาสนิทนั่นเอง) พอกินข้าวเสร็จแล้ว ก็ไปคุย ไปเล่นกับพี่ๆน้องๆเค้านะลูก (ก็คือ การที่เรามีความสัมพันธ์ มีความรัก ช่วยเหลือผู้อื่นนั่นเอง ซึ่งเค้าไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นพี่น้องเรานั่นเอง)
อุลามก แค่คิดก็บาปนะคะ ที่บาปเพราะทำให้เรามีความคิดและมีความรักที่บริสุทธิ์กับคนอื่นไม่ได้ คิดในแง่นั้นหมดน่ะค่ะ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เล่นดนตรีตอนกลางคืนไม่บาปหรอกคับ
แต่ไม่ไปวัด บาป ทำตัวไม่ดี บาป
พี่ก็มีน้อง ๆ ในบอร์ดเป็นแดนเซอร์ ต้องเต้นตอนกลางคืนเหมือนกัน
มีงานในผับก็มี แต่พวกเขากล้าสวด ทำสำคัญมหากางเขนก่อนขึ้นเวที
กล้าปฏิเสธเพื่อนที่ช่วยไปในทางไม่ดี ไม่ริ ไม่ลอง
กล้าเป้นพยานในความเชื่อ จนเพื่อนเอ่ยปากว่า
ไม่น่าเชื่อว่าคนคริสต์ที่อยุ่ในสภาพแบบนั้นจะคงตัวเป็นคนดี รักษาความบริสุทธิ์กันได้แบบพวกเขา
แต่ไม่ไปวัด บาป ทำตัวไม่ดี บาป
พี่ก็มีน้อง ๆ ในบอร์ดเป็นแดนเซอร์ ต้องเต้นตอนกลางคืนเหมือนกัน
มีงานในผับก็มี แต่พวกเขากล้าสวด ทำสำคัญมหากางเขนก่อนขึ้นเวที
กล้าปฏิเสธเพื่อนที่ช่วยไปในทางไม่ดี ไม่ริ ไม่ลอง
กล้าเป้นพยานในความเชื่อ จนเพื่อนเอ่ยปากว่า
ไม่น่าเชื่อว่าคนคริสต์ที่อยุ่ในสภาพแบบนั้นจะคงตัวเป็นคนดี รักษาความบริสุทธิ์กันได้แบบพวกเขา
- Moidixmois
- โพสต์: 42
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 17, 2008 7:00 am
- ที่อยู่: In My Memory
- ติดต่อ:
ว้าว เคยคิดจะตั้งกระทู้ถามอยู่
ปกติขัดสนก็ไปทำเป็นระยะๆชิมิ
ปกติขัดสนก็ไปทำเป็นระยะๆชิมิ
ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ให้ความกระจ่างนะครับ
เข้ามาที่นี่แล้วรู้สึกสบายใจครับ มีเพื่อนๆที่เป็นคริสตังเหมือนกัน
ตอนนี้อยู่ที่ทำงานไม่มีใครนับถือคริสต์เลย ส่วนใหญ่ที่เจอที่นี่(ชลบุรี)
ก็เป็นคริสเตียน เลยรู้สึกเคว้งๆ เพราะตัวผมเองก็บ้านเกิดอยู่ตจว.ด้วย
แต่เมื่อวานก็ไปวัดมา รู้สึกดีขึ้น แต่ยังไมได้แก้บาปเลย.. ^_^"a แหะๆ
เข้ามาที่นี่แล้วรู้สึกสบายใจครับ มีเพื่อนๆที่เป็นคริสตังเหมือนกัน
ตอนนี้อยู่ที่ทำงานไม่มีใครนับถือคริสต์เลย ส่วนใหญ่ที่เจอที่นี่(ชลบุรี)
ก็เป็นคริสเตียน เลยรู้สึกเคว้งๆ เพราะตัวผมเองก็บ้านเกิดอยู่ตจว.ด้วย
แต่เมื่อวานก็ไปวัดมา รู้สึกดีขึ้น แต่ยังไมได้แก้บาปเลย.. ^_^"a แหะๆ
แก้ไขล่าสุดโดย DorFinF เมื่อ จันทร์ เม.ย. 21, 2008 9:00 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
DorFinF เขียน: ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ให้ความกระจ่างนะครับ
เข้ามาที่นี่แล้วรู้สึกสบายใจครับ มีเพื่อนๆที่เป็นคริสตังเหมือนกัน
ตอนนี้อยู่ที่ทำงานไม่มีใครนับถือคริสต์เลย ส่วนใหญ่ที่เจอที่นี่(ชลบุรี)
ก็เป็นคริสเตียน เลยรู้สึกเคว้งๆ เพราะตัวผมเองก็บ้านเกิดอยู่ตจว.ด้วย
แต่เมื่อวานก็ไปวัดมา รู้สึกดีขึ้น แต่ยังไมได้แก้บาปเลย.. ^_^"a แหะๆ
ถ้าน้องจะทำงานในที่มืด ก็จงเป็นเทียนที่ส่องสว่างในที่มืดจ๊ะ
อย่าไปร่วมมืดกับเขา ถ้าน้องทำตัวให้เป็นเทียนส่องสว่างไม่ได้
พี่แนะนำว่าให้เราเปลี่ยนงานนะ เพื่อไม่ให้เราเสียวิญญาณไปตามกระแส
~@Little lamb@~ เขียน: เล่นดนตรีตอนกลางคืนไม่บาปหรอกคับ
แต่ไม่ไปวัด บาป ทำตัวไม่ดี บาป
พี่ก็มีน้อง ๆ ในบอร์ดเป็นแดนเซอร์ ต้องเต้นตอนกลางคืนเหมือนกัน
มีงานในผับก็มี แต่พวกเขากล้าสวด ทำสำคัญมหากางเขนก่อนขึ้นเวที
กล้าปฏิเสธเพื่อนที่ช่วยไปในทางไม่ดี ไม่ริ ไม่ลอง
กล้าเป้นพยานในความเชื่อ จนเพื่อนเอ่ยปากว่า
ไม่น่าเชื่อว่าคนคริสต์ที่อยุ่ในสภาพแบบนั้นจะคงตัวเป็นคนดี รักษาความบริสุทธิ์กันได้แบบพวกเขา
สนับสนุนความคิดน้องเทวดาน้อยครับ บางทีต้องทบทวนความหมายของคำว่าบาปสำหรับคริสตังกันใหม่ บาปของคริสตัง หมายถึง กิจกรรมใดๆ ไม่ว่าทางกาย ทางจิตใจ และจิตวิญญาณ ที่นำพาไปสู่การห่างจากความผูกพันจากพระสิริของพระเป็นเจ้า ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความเชื่อ ความคิด และการกระทำ(ที่ไม่ถวายเกียรต์แก่พระ) นั้นแหละครับเรียกว่าบาป บางทีคริสเตียน(บางกลุ่ม) ก็มองว่าการไปเล่นดนตรีในที่แบบนั้น ไม่เหมาะสม จะได้เงินมาจากสิ่งอบายมุข(เงินจากความบาป) แต่ผมว่า พระเป็นเจ้าดูที่จิตใจมากกว่า เราทำมาหากินสุจริต ไม่ได้ไปปล้นไปจี้ใคร แถมเงินที่ได้ก็นำมาเลี้ยงชีพตัวเอง เพื่อมิให้ต้องเป็นภาระแก่ใครในสังคม บางครั้ง บางที มุมมองของการสอนคำสอนเรื่องบาปของบาทหลวงคาทอลิก และอาจารย์พระคัมภีร์โปรแตสแตนน์(บางกลุ่ม)ก็ไปกันคนละแนว คุณบอกว่าเพื่อนส่วนใหญ่ เป็นพุทธ หรือไม่ก็คริสเตียน(โปรแตสแตนด์) อาจทำให้คุณเข้าใจความหมายของคำว่าบาป บิดเบือนไปจากความหมายของคริสตังจริงๆ
ผมว่า สิ่งดี สิ่งไม่ดี บาปไม่บาป มันอยู่ที่ตัวเรา ใจเรา และความคิดเราครับ อย่าไปกำหนดจากสิ่งรอบข้าง และภาพที่เห็น และที่สังคมกำหนดเลย มีเวลาว่างลองเรียนคำสอนกับคุณพ่อนะครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ปล.ผมคือคริสตังที่ความเชื่อห่วยที่สุดในบอรด์ และหากวัดในระดับความศรัทธาในพระเจ้าและพระศาสนจักร อยู่ในระดับLowที่สุดในบอรด์นี้ แต่ก็ประคับประคอง และพยายามที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการเป็นคริสตังที่ดีคนหนึ่ง กราบขอบคุณครับ
มันก็ไม่บาปหลอกุนแต่ไอ้ที่มันบาปหนะคือคุณไม่ไปวัดเเค่นั้นเอง
เอ้า...คิดได้ก็ขอโทษพระซะนะ เปนกำลังจายห้ายเน้อ
เอ้า...คิดได้ก็ขอโทษพระซะนะ เปนกำลังจายห้ายเน้อ
mama_yamyam_vaivai เขียน: มันก็ไม่บาปหลอกุนแต่ไอ้ที่มันบาปหนะคือคุณไม่ไปวัดเเค่นั้นเอง
เอ้า...คิดได้ก็ขอโทษพระซะนะ เปนกำลังจายห้ายเน้อ
เห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์ครับ ไม่ไปวัด ไม่ไปแก้บาป ไม่ไปรับศีล ไม่สวดภาวนา นี้แหละ บาปแน่ๆครับ พระเป็นเจ้าดูที่หัวใจมนุษย์ครับ หากหัวใจยังผูกพันอยู่กับพระ และสัมผัสพระองค์ในกิจกรรม และความรู้สึกทางวิญญาณเสมอ อยู่ที่ไหน มันก็ไม่หลงหายหรอกครับ คริสตังควรไปวัดทุกวันอาทิตย์(เป็นอย่างน้อย) ก็คือการสร้างความผูกพันตรงนี้ขึ้นมานี้แหละครับ พระคงไม่พอใจหรอก หากลูกของพระองค์ต้องมากล้วนู้น ติดนี้ ทำไอ้นู้นก็ไม่ได้ ทำไอ้นี้ก็ไม่ได้ เด๋วบาป เด๋วผิด จนสุดท้าย อดตาย ไม่มีข้าวกิน แบบนั้นคงไม่ใช่พระเป็นเจ้าแบบที่เรารู้จักกันแล้วล่ะครับ ใจพระ กับใจมนุษย์ไม่เหมือนกันครับ ขอบคุณครับ
หากเชื่อพระเจ้า ดำเนินชีวิตตามพระวรสารแบบพระเยชู และมองภาพแบบพระเป็นเจ้ามอง แล้วชีวิตมีความทุกข์ ติดนู้น ติดนั้น ไม่มีความสุข(ความทุกข์ในที่นี้ ไม่เกี่ยวกับการทดลองความเชื่อและความวางใจในพระนะครับ หรือการแบกกางเขนร่วมกับองค์พระเยชู แต่ผมหมายถึงความทุกข์ในการดำเนินชีวิตคริสตังที่ดีคนหนึ่ง ตามแนวทางคำสอนและตามแนวทางของพระ) แสดงว่าคุณเชื่อพระเป็นเจ้าในทางที่ผิดแล้วครับ ขนาดคริสตัง(คาทอลิก)กับคริสเตียน(โปรแตสแตนด์บางกลุ่ม)เรายังมีข้อความเชื่อและแนวคิดไม่เหมือนกันเลย พระเจ้าที่เรารู้จัก ไม่มาแคร์เรื่องบ้าๆบอ ว่าทำนู้นไม่ได้ นี้ไม่ได้หรอกครับ เพราะพระดูที่จิตใจมากกว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์ ก็มีไว้เพื่อในเรา
1.รู้จักพระ
2.รู้คำสอนพระ
3.รู้ที่จะรัก และให้อภัย รวมทั้งเมตตาต่อผู้อื่น แบบพระเมตตาต่อเรา
ศาสนาเรา คัมภืร์เรานั้น เป็นแนวทางและพระวาจาของพระ ที่ทำให้เรารู้ตัว และมีสติ ว่าเราเป็นใคร ทำอย่างไร และมีพระอยู่กับเรา(ในหัวใจ)นะครับ ไม่ใช่หนังสือกฎหมายที่ต้องตีตามตัวอักษร หรือแบบอ้ลกุรอ่าน ที่ต้องตามตัวอักษรเดะๆแบบอิสลามนะครับ โปรดเข้าใจด้วย ผมว่าคุณไปเรียนคำสอนกับคุณพ่อบาทหลวงคาทอลิก(จริงๆ)ดีกว่าครับ หรือบราเดอร์คาทอลิกดีกว่าครับ เพราะถามพวกคริสเตียนบางกลุ่ม(โปรแตสแตนด์บางกลุ่ม) ก็อาจให้คำตอบเรื่องนี้ไม่เหมือนกับทางเรา ยิ่งคนพุทธนั้น เรื่องทางเรา พวกเขาแทบไม่รู้เลย(จริงๆ) พวกเขารู้แค่เพียงคริสเตียนต้องทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนาและอ้างพระคัมภีร์ อ้างพระเจ้าเท่านั้น เรื่องรักๆ ลึกๆ แบบที่พี่น้องคริสตังคาทอลิกเราสัมผัสกันทางลึกในจิตใจ เขาอาจไม่เข้าใจ(แต่เขาไม่ได้ผิดอะไรนะ แต่เพียงเขาอาจจะให้คำปรึกษาตรงนี้กับคุณไม่ได้) แค่มองว่าเงินมาจากกิจกรรมบาป เงินบาปเนี่ย แค่นี้ก็เชื่อกันทางคนละเส้นทางกันแล้ว สุจริตใจ ไม่ได้ไปปล้นไปจึ้ใครเขา และได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง และไม่ได้มีเบียดเบียนใครเขามา ก็น่าจะโอเคแล้วสำหรับลูกของพระเป็นเจ้าที่ดี ขอบคุณครับ
จะดี จะชั่ว จะบาป จะเลว มันอยู่ที่ตัวคุณเองครับ ขนาดพระยังไม่สามารถบังคับให้คุณมาวัดได้เลย เพราะพระให้ปรีชาญาณ(Wisdom) ในการเลือกวิถีทางดำเนินชิวิตครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
- ~KaThaRoS~
- โพสต์: 792
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
- ที่อยู่: Bkk
- ติดต่อ:
ว่าแต่เล่นแถวไหนง่ะ ว่างๆจะได้แว๊บๆไปดู
เล่นแนวไหนอ่ะค่ะพี่....
แล้วไปวัดไหนเหรอ...
เล่นแนวไหนอ่ะค่ะพี่....
แล้วไปวัดไหนเหรอ...
~KaThaRoS~ เขียน: ว่าแต่เล่นแถวไหนง่ะ ว่างๆจะได้แว๊บๆไปดู
เล่นแนวไหนอ่ะค่ะพี่....
แล้วไปวัดไหนเหรอ...
นั้นสิ เล่นแถวไหนครับ จะได้ไปฟ้ง แล้วเล่นแนวอะไรครับ หากเล่นแนวคันทรี่ โฟลต์ซอง ร็อก หรือเพื่อชีวิต ผมจะไปเป็นลูกค้าประจำเลยครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ปล.ร้านคุณมีสาวเชียร์เบียร์ไฮเนเก้น หรือสาวเชียร์เบียร์ เชียร์เหล้า ยี่ห้ออื่นๆที่สวยๆเอ็กซ์ๆหรือเปล่าครับ?????????????
เราก็เคยเป็นนักดนตรีผับค่ะ ทำงานกลางวันไปด้วย เหมือนกันเลยค่ะ
เล่นหมดทั่วกทม. ทั้งข้าวสาร RCA เอกมัย ทองหล่อ สยาม
ถามว่าบาปมั้ย...เราว่าอยู่ที่เจตนาค่ะ เพราะว่า พระเจ้าดูที่ท่าที นะคะ
ถ้าเราเล่นเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง มอบความสุขให้คนอื่น มันก็เจตนาดีค่ะ
แต่เราก็จะไม่เชียร์ให้แขกเปิดเหล้าเพิ่ม จะไม่แบบ "เอ้า ทุกคน..หมดแก้ววว!!"
เรื่องขายเหล้าให้เป็นหน้าที่ของเด็กเสิร์ฟไป
แต่...ถึงมันจะไม่บาป แต่มันก็เสี่ยงค่ะ
เราทำงานในผับมาเกือบ 6 ปี เห็นแต่เรื่องเสื่อมๆ อ่ะค่ะ คนดีก็มีนะคะ แต่น้อย
และทุกอย่างมันพยามล่อลวงเราออกจากพระเจ้าทั้งนั้น นอกจาเหล้า บางทีเช้าวันอาทิตย์ตื่นไม่ไหว
บ่ายติดซ้อม ไปโบสถ์ไม่ได้อีก อะไรอย่างงี้
สุดท้ายเราก็เลยเลิกเล่นค่ะ เพราะสุขภาพด้วย และเพราะไม่อยากเสี่ยงด้วย
แต่ถ้าคุณยังต้องทำต่อไป ก็ขอให้เข้มแข็งกับพระเจ้ามากๆ ค่ะ สวดให้เยอะเข้าไว้
ยิ่งทำงานกลางคืนยิ่งต้องชิดสนิทกับพระเจ้าเยอะๆ ไม่งั้นเสร็จแน่ค่ะ
พระเจ้าอวยพรนะคะ
ปล. เมื่อก่อนเราจะร้องเพลง "ก่อน" ของ modern dog เป็นเพลงแรกนะ เพราะเรารู้สึกว่ามัน
เหมือนแต่งให้พระเจ้าดีค่ะ
เล่นหมดทั่วกทม. ทั้งข้าวสาร RCA เอกมัย ทองหล่อ สยาม
ถามว่าบาปมั้ย...เราว่าอยู่ที่เจตนาค่ะ เพราะว่า พระเจ้าดูที่ท่าที นะคะ
ถ้าเราเล่นเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง มอบความสุขให้คนอื่น มันก็เจตนาดีค่ะ
แต่เราก็จะไม่เชียร์ให้แขกเปิดเหล้าเพิ่ม จะไม่แบบ "เอ้า ทุกคน..หมดแก้ววว!!"
เรื่องขายเหล้าให้เป็นหน้าที่ของเด็กเสิร์ฟไป
แต่...ถึงมันจะไม่บาป แต่มันก็เสี่ยงค่ะ
เราทำงานในผับมาเกือบ 6 ปี เห็นแต่เรื่องเสื่อมๆ อ่ะค่ะ คนดีก็มีนะคะ แต่น้อย
และทุกอย่างมันพยามล่อลวงเราออกจากพระเจ้าทั้งนั้น นอกจาเหล้า บางทีเช้าวันอาทิตย์ตื่นไม่ไหว
บ่ายติดซ้อม ไปโบสถ์ไม่ได้อีก อะไรอย่างงี้
สุดท้ายเราก็เลยเลิกเล่นค่ะ เพราะสุขภาพด้วย และเพราะไม่อยากเสี่ยงด้วย
แต่ถ้าคุณยังต้องทำต่อไป ก็ขอให้เข้มแข็งกับพระเจ้ามากๆ ค่ะ สวดให้เยอะเข้าไว้
ยิ่งทำงานกลางคืนยิ่งต้องชิดสนิทกับพระเจ้าเยอะๆ ไม่งั้นเสร็จแน่ค่ะ
พระเจ้าอวยพรนะคะ
ปล. เมื่อก่อนเราจะร้องเพลง "ก่อน" ของ modern dog เป็นเพลงแรกนะ เพราะเรารู้สึกว่ามัน
เหมือนแต่งให้พระเจ้าดีค่ะ
- ~*Little`Child*~
- ~@
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 11:52 pm
ยึดมั่นในพระองค์คะ หากกลัวว่าเราจะหลงไป
หากกลัวในสิ่งที่ทำอยู่ หากกลัวความผิดพลั้ง
รู้สึกว่าจิตใจไม่ดี เรียกหาพระองค์ในขณะนั้นเลยคะ
ภาวนากับพระองค์ สวดในใจ ตั้งสมาธิไว้กับพระองค์
เชื่อมั่นในพระจิตด้วยความบริสุทธิ์ใจ
พระเจ้าอวยพรคะ
หากกลัวในสิ่งที่ทำอยู่ หากกลัวความผิดพลั้ง
รู้สึกว่าจิตใจไม่ดี เรียกหาพระองค์ในขณะนั้นเลยคะ
ภาวนากับพระองค์ สวดในใจ ตั้งสมาธิไว้กับพระองค์
เชื่อมั่นในพระจิตด้วยความบริสุทธิ์ใจ
พระเจ้าอวยพรคะ