คริสเตียน กะ คริสต์ตัง คาทอลิก กะปอแตสแต้น
ต่างกันยังไงครับ ผมได้ยินท่านหนึ่งที่เป็นคาทอลิกบอกว่าไม่มาความรอดใดนอกจากคาทอลิก แล้ว ปอแตสแตนละครับ แล้วผมสามารถเข้าร่วมนมัสการทั้งสองนิกายนี้ได้หรือปร่าว พระคัมภีร์เหมือนกันปะ แล้วเจ้าแม่มารีย์ทำไมต้องนมัสการเพราะพระคัมภีร์บอกว่าไม่ใช่พระเจ้าไม่ใช่หรือครับ ทำไมต้องสวดผ่านเจ้าแม่มารีด้วย งั้นแสดงว่าเจ้าแม่มารีย์ใหญ่กว่าพระเยซูหรือพระเจ้าหรือครับ บอกหน่อย
ต่างกันยังไงครับ
คาทอลิก กับ โปรเตสแตนท์ต่างกันตรงไหน
นิกายใหญ่ ของคริสต์ มี 3 นิกาย คือ....เริ่มแรก บรรพชน ของพวกเราก็รวมกันมาไม่ได้มีการแยกนิกายอะไร ต่อมา ศตวรรษที่ 11 มีความขัดแย้ง ระหว่างพระศาสนจักร(คริสตจักร)ตะวันออก และโรม
จึงแยก ตัวออกไป เกิดเป็นนิกายออธอดอคขึ้นมา
และ ต่อมา ในศตวรรษที่16 ในพระศาสนจักร ได้ประสบปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งจากระบบ และความประพฤติของบรรดาบาทหลวง ทางอดีตบาทหลวงมาร์ติน ลูเธอร์ ยื่นประท้วง 95 ข้อ เพื่อขอให้แก้ไข แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมเด็จพระสันตะปาปา เลยถูกขับ และสั่งลงโทษ ( ยุคนั้น พระศาสนจักร มีอำนาจเหนืออาณาจักร ) และได้เกิดนิกายโปรแตสแตนท์ขึ้นมา
ดังนั้นสรุปนิกายใหญ่ๆของคริสตศาสนาได้ดังนี้
1.โรมันคาทอลิก
2.ออเทอดอกซ์ แยกออกไป เมื่อ ปี ค.ศ. 1054
3.โปรเตสแตนต์ แยกออกไป เมื่อ ปี 1517 โดยอดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์
++++++++++++++++++++++++++++++
+โรมันคาทอลิก+
มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกกลุ่มแรก โดยถือว่า นักบุญ เปโตร หรือ เซนต์ปีเตอร์ คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก และสืบทอดมาถึงพระสันตะปาปาเบนนิดิกที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่265
ผู้นับถือคริสตศาสนาทุกนิกายทั่วโลก เรียกเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันว่า คริสเตียน แปลเป็นภาษาไทยคือคริสตชน แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้น นิกายโรมันคาทอลิกถูกนำเข้ามาก่อนสมัยพระนารายณ์มหาราชโดยบาดหลวงชาวโปรตุเกส ดังนั้นการออกเสียงคำว่า คริสเตียนในภาษาโปรตุเกส ออกเสียงว่า "คริสตัง" อย่างจีซัส ก็ออกเสียงว่า "เยซู" จึงทำให้คาทอลิคเรียกผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคว่า คริสตัง ส่วนโปรแตสแตนท์เข้ามาสมัยหมดบลัดเลย์ซึ่งเป็นอเมริกา ดังนั้น โปรแตสแตนท์ไทยจึงเรียกตัวเองว่า คริสเตียน ตามแบบภาษาอังกฤษ สำเนียงอเมริกา แต่คำว่า"เยซู"ก็ใช้ตามที่คาทอลิกและคนไทยได้คุ้นเคยแล้ว
กลับมาที่ลักษณะของคาทอลิกต่อ
คาทอลิกนั้นจะมีนักบวช ที่เรียกว่า บาดหลวง หรือซิสเตอร์
คาทอลิกจะมีการให้เกียรติพระนางมารีย์ แม่ของพระเยซูเป็นพิเศษ เรียกพระนางว่า "แม่พระ" มาจากคำว่า มารดาของพระเจ้า
คาทอลิกจะมีการยกย่องวีรบุรุษ หรือวีรสตรีทางศาสนา หรือเรียกง่ายๆว่า บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูอย่างดีมากจนเรามั่นใจว่าเขาได้ไปสวรรค์แน่นอน(คล้ายๆกรณีพระอรหันต์ในศาสนาพุทธ) เราจะเรียกคนเหล่านี้ ว่าเป็น นักบุญ
ดังนั้นหากเปรียบให้เข้าใจง่าย เรามองว่าพระเยซูคือกษัตริย์ ส่วนแม่พระก็เป็นพระราชชนนี(แบบสมเด็จย่า) เหล่านักบุญก็เหมือนขุนนาง ที่ใกล้ชิดกษัตริย์
คาทอลิกมีความเชื่อว่า ในพิธีมิซซา(พิธีนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์) เมื่อขนมปัง และเหล้าองุ่นถูกเสกในพิธี ก็คือเนื้อ และพระโลหิต เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
โบสถ์คาทอลิกทุกแห่ง ถือเป็น1เดียวกัน ขึ้นตรงต่อกรุงวาติกัน และองค์พระสันตะปาปา ดังนั้น หากคุณเป็นคาทอลิกคุณสามารถไปวัดไหนก็ได้ที่ใกล้บ้าน สามารถเปลี่ยนวัดที่ไปได้ตามแต่สะดวก
+โปรแตสแตนต์+
โปรแตสแตนทต์นั้น หลังจากการแยกนิกายในสมัยมาตินลูเธอร์ หลังจากนั้นได้มีการแยกนิกายย่อยอีกหลานิกาย ดังนั้นโบสถ์หรือคริสตจักรต่างๆ จะไม่ได้ขึ้นกับวาติกันหรือพระสันตะปาปาแต่อย่างใด
แต่สำหรับในประเทศไทย โปรแตสแตน แบ่งเป็น 4 สายใหญ่ๆ คือสายสภาคริสตจักรในประเทศไทย สายสหกิจคริสตจักร และสายสหแบ๊บติสท์ และ เซเวนเดย์แอดเวนทิสท์ และนอกจากนั้นมีคริสตชนที่ไม่มีสังกัด เรียกตัวเองว่าคริสตจักรอิสระ
เท่าที่ทราบมานั้น โบสถ์ใน 4 สายหลักนี้ จะมีโยงใยถึงกัน และมีการตั้งที่เป็นระบบระเบียบ มีการควบคุมดูแลความสอดคล้องในหลักข้อความเชื่อให้ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคริสตจักรที่ไม่มีที่มาที่ไปที่ตั้งขึ้นเอง ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในหลักความถูกต้องต่างๆด้วยตัวเอง ทั้งผู้สอนและผู้เชื่อ
โปรแตสแตนต์ ไม่มีนักบวช แต่มีผู้ถวายตัวรับใช้พระเจ้า เรียกว่า ศาสนจารย์ /ศิษยาภิบาล และผู้ประกาศ ซึ่งอาจแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ การเรียกคำนำหน้าบุคคลเหล่านี้ จะเรียกว่า อาจารย์
โปรแตสแตนต์(โดยทั่วๆไป)จะไม่ให้ความสำคัญพิเศษกับพระนางมารีย์ หรือนักบุญ จะเน้นการเข้าถึงพระเยซูเจ้าโดยตรงด้วยตนเอง แต่สำหรับบางกลุ่มที่สนใจในเรื่องศาสนศาสตร์สตรี จะให้ความสำคัญกับพระนางมารีย์มากขึ้น ในฐานะแบบอย่างของสตรีคริสตชนที่ดี
สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของโปรแตสแตนต์เรียกว่าคริสตจักร ซึ่งคาทอลิคจะเรียกวัด
โดยทั่วไป เมื่อรับเชื่อที่โบสถ์ไหน ก็ต้องร่วมนมัสการที่โบสถ์นั้น
พิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์เรียกว่าพิธีนมัสการ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=2747
5 องค์กรคริสตศาสนา ที่ กรมศาสนารับรอง
1.โรมันคาทอลิก
2.สภาคริสตจักรในประเทศไทย
3.สหกิจคริสเตียน (รวมทั้งแองกลกัน ลูเธอรัน ออร์โธดอกซ์)
4.สหกิจคริสตจักรแบ๊บติสต์
5.เซเว่นเดย์แอดเวนติส
ผมได้ยินท่านหนึ่งที่เป็นคาทอลิกบอกว่าไม่มาความรอดใดนอกจากคาทอลิก
จริงๆเเล้วเราใจดีกว่าที่คิดเยอะ... เเละเชื่อว่ามีความรอดนอกพระศาสนจักร เเม้เเต่ในประมวลคำสอนก็เขียนไว้
แล้วผมสามารถเข้าร่วมนมัสการทั้งสองนิกายนี้ได้หรือปร่าว
ถ้าเป็นวัดคาทอลิกอย่าเดินไปรับศีล ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างบน...
เเต่คุณ astro ปัจจุบันก็เข้าโบสถ์อยู่เเล้วไม่ใช่หรือคะ? :huh:
พระคัมภีร์เหมือนกันปะ
ต้นฉบับมันอันเดียวกัน คนเเยกก็คนเดียวกัน เเต่ของคาทอลิกจะมีสารบบที่สองด้วย
แล้วเจ้าแม่มารีย์ทำไมต้องนมัสการเพราะพระคัมภีร์บอกว่าไม่ใช่พระเจ้าไม่ใช่หรือครับ
เราก็ไม่ได้บอกว่าพระเเม่มารีย์ (ไม่ใช่เจ้าเเม่) เป็นพระเจ้านี่คะ เเต่พระนางเป็นมารดาของพระเจ้า คาทอลิกคนไหนบอกว่าพระนางมารีย์เป็นพระเจ้า
ก็ขอให้เขาไปเรียนคำสอนใหม่ได้เลย มั่วนิ่มเเล้ว
เราให้เกียร์ติพระนางมารีย์ในฐานะ มารดาของพระเจ้า เเละไม่เคยสอนว่า เเม่พระ เป็นพระเจ้า
ลองอ่านบทความนี้ดู http://www.newmana.com/Mother/child01.htm
ทำไมต้องสวดผ่านเจ้าแม่มารีด้วย งั้นแสดงว่าเจ้าแม่มารีย์ใหญ่กว่าพระเยซูหรือพระเจ้าหรือครับ บอกหน่อย
ทำไมสวดผ่านพระเเม่มารีย์ (ไม่ใช่เจ้าเเม่) เเล้วท่านจะต้องใหญ่กว่าพระเยซูด้วยล่ะคะ??? ตอบก่อน...
เราขอให้เเม่พระ ช่วยวิงวอนขอพระเยซูอีกเเรงหนึ่งค่ะ
อาการเดียวกับคุณอยากได้จักรยานใหม่ เเล้วให้คุณเเม่ช่วยคุยกับคุณพ่อ...ประมาณนั้น ไม่เห็นจำเป็นว่าเเม่ต้องยิ่งใหญ่กว่าพ่อเลย
ป.ล. เเอบสงสัยว่า เเน่ใจหรือว่าคุณเคยคุยกับคนที่เป็นคาทอลิกมาจริงๆ
ไม่ใช่เเค่ฟังจากใครบางคนที่ไม่ใช่คาทอลิกเเต่เล่าว่าคาทอลิกเป็นอย่างไร
ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
คาทอลิก กับ โปรเตสแตนท์ต่างกันตรงไหน
นิกายใหญ่ ของคริสต์ มี 3 นิกาย คือ....เริ่มแรก บรรพชน ของพวกเราก็รวมกันมาไม่ได้มีการแยกนิกายอะไร ต่อมา ศตวรรษที่ 11 มีความขัดแย้ง ระหว่างพระศาสนจักร(คริสตจักร)ตะวันออก และโรม
จึงแยก ตัวออกไป เกิดเป็นนิกายออธอดอคขึ้นมา
และ ต่อมา ในศตวรรษที่16 ในพระศาสนจักร ได้ประสบปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งจากระบบ และความประพฤติของบรรดาบาทหลวง ทางอดีตบาทหลวงมาร์ติน ลูเธอร์ ยื่นประท้วง 95 ข้อ เพื่อขอให้แก้ไข แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมเด็จพระสันตะปาปา เลยถูกขับ และสั่งลงโทษ ( ยุคนั้น พระศาสนจักร มีอำนาจเหนืออาณาจักร ) และได้เกิดนิกายโปรแตสแตนท์ขึ้นมา
ดังนั้นสรุปนิกายใหญ่ๆของคริสตศาสนาได้ดังนี้
1.โรมันคาทอลิก
2.ออเทอดอกซ์ แยกออกไป เมื่อ ปี ค.ศ. 1054
3.โปรเตสแตนต์ แยกออกไป เมื่อ ปี 1517 โดยอดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์
++++++++++++++++++++++++++++++
+โรมันคาทอลิก+
มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกกลุ่มแรก โดยถือว่า นักบุญ เปโตร หรือ เซนต์ปีเตอร์ คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก และสืบทอดมาถึงพระสันตะปาปาเบนนิดิกที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่265
ผู้นับถือคริสตศาสนาทุกนิกายทั่วโลก เรียกเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันว่า คริสเตียน แปลเป็นภาษาไทยคือคริสตชน แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้น นิกายโรมันคาทอลิกถูกนำเข้ามาก่อนสมัยพระนารายณ์มหาราชโดยบาดหลวงชาวโปรตุเกส ดังนั้นการออกเสียงคำว่า คริสเตียนในภาษาโปรตุเกส ออกเสียงว่า "คริสตัง" อย่างจีซัส ก็ออกเสียงว่า "เยซู" จึงทำให้คาทอลิคเรียกผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคว่า คริสตัง ส่วนโปรแตสแตนท์เข้ามาสมัยหมดบลัดเลย์ซึ่งเป็นอเมริกา ดังนั้น โปรแตสแตนท์ไทยจึงเรียกตัวเองว่า คริสเตียน ตามแบบภาษาอังกฤษ สำเนียงอเมริกา แต่คำว่า"เยซู"ก็ใช้ตามที่คาทอลิกและคนไทยได้คุ้นเคยแล้ว
กลับมาที่ลักษณะของคาทอลิกต่อ
คาทอลิกนั้นจะมีนักบวช ที่เรียกว่า บาดหลวง หรือซิสเตอร์
คาทอลิกจะมีการให้เกียรติพระนางมารีย์ แม่ของพระเยซูเป็นพิเศษ เรียกพระนางว่า "แม่พระ" มาจากคำว่า มารดาของพระเจ้า
คาทอลิกจะมีการยกย่องวีรบุรุษ หรือวีรสตรีทางศาสนา หรือเรียกง่ายๆว่า บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูอย่างดีมากจนเรามั่นใจว่าเขาได้ไปสวรรค์แน่นอน(คล้ายๆกรณีพระอรหันต์ในศาสนาพุทธ) เราจะเรียกคนเหล่านี้ ว่าเป็น นักบุญ
ดังนั้นหากเปรียบให้เข้าใจง่าย เรามองว่าพระเยซูคือกษัตริย์ ส่วนแม่พระก็เป็นพระราชชนนี(แบบสมเด็จย่า) เหล่านักบุญก็เหมือนขุนนาง ที่ใกล้ชิดกษัตริย์
คาทอลิกมีความเชื่อว่า ในพิธีมิซซา(พิธีนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์) เมื่อขนมปัง และเหล้าองุ่นถูกเสกในพิธี ก็คือเนื้อ และพระโลหิต เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
โบสถ์คาทอลิกทุกแห่ง ถือเป็น1เดียวกัน ขึ้นตรงต่อกรุงวาติกัน และองค์พระสันตะปาปา ดังนั้น หากคุณเป็นคาทอลิกคุณสามารถไปวัดไหนก็ได้ที่ใกล้บ้าน สามารถเปลี่ยนวัดที่ไปได้ตามแต่สะดวก
+โปรแตสแตนต์+
โปรแตสแตนทต์นั้น หลังจากการแยกนิกายในสมัยมาตินลูเธอร์ หลังจากนั้นได้มีการแยกนิกายย่อยอีกหลานิกาย ดังนั้นโบสถ์หรือคริสตจักรต่างๆ จะไม่ได้ขึ้นกับวาติกันหรือพระสันตะปาปาแต่อย่างใด
แต่สำหรับในประเทศไทย โปรแตสแตน แบ่งเป็น 4 สายใหญ่ๆ คือสายสภาคริสตจักรในประเทศไทย สายสหกิจคริสตจักร และสายสหแบ๊บติสท์ และ เซเวนเดย์แอดเวนทิสท์ และนอกจากนั้นมีคริสตชนที่ไม่มีสังกัด เรียกตัวเองว่าคริสตจักรอิสระ
เท่าที่ทราบมานั้น โบสถ์ใน 4 สายหลักนี้ จะมีโยงใยถึงกัน และมีการตั้งที่เป็นระบบระเบียบ มีการควบคุมดูแลความสอดคล้องในหลักข้อความเชื่อให้ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคริสตจักรที่ไม่มีที่มาที่ไปที่ตั้งขึ้นเอง ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในหลักความถูกต้องต่างๆด้วยตัวเอง ทั้งผู้สอนและผู้เชื่อ
โปรแตสแตนต์ ไม่มีนักบวช แต่มีผู้ถวายตัวรับใช้พระเจ้า เรียกว่า ศาสนจารย์ /ศิษยาภิบาล และผู้ประกาศ ซึ่งอาจแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ การเรียกคำนำหน้าบุคคลเหล่านี้ จะเรียกว่า อาจารย์
โปรแตสแตนต์(โดยทั่วๆไป)จะไม่ให้ความสำคัญพิเศษกับพระนางมารีย์ หรือนักบุญ จะเน้นการเข้าถึงพระเยซูเจ้าโดยตรงด้วยตนเอง แต่สำหรับบางกลุ่มที่สนใจในเรื่องศาสนศาสตร์สตรี จะให้ความสำคัญกับพระนางมารีย์มากขึ้น ในฐานะแบบอย่างของสตรีคริสตชนที่ดี
สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของโปรแตสแตนต์เรียกว่าคริสตจักร ซึ่งคาทอลิคจะเรียกวัด
โดยทั่วไป เมื่อรับเชื่อที่โบสถ์ไหน ก็ต้องร่วมนมัสการที่โบสถ์นั้น
พิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์เรียกว่าพิธีนมัสการ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=2747
5 องค์กรคริสตศาสนา ที่ กรมศาสนารับรอง
1.โรมันคาทอลิก
2.สภาคริสตจักรในประเทศไทย
3.สหกิจคริสเตียน (รวมทั้งแองกลกัน ลูเธอรัน ออร์โธดอกซ์)
4.สหกิจคริสตจักรแบ๊บติสต์
5.เซเว่นเดย์แอดเวนติส
ผมได้ยินท่านหนึ่งที่เป็นคาทอลิกบอกว่าไม่มาความรอดใดนอกจากคาทอลิก
จริงๆเเล้วเราใจดีกว่าที่คิดเยอะ... เเละเชื่อว่ามีความรอดนอกพระศาสนจักร เเม้เเต่ในประมวลคำสอนก็เขียนไว้
แล้วผมสามารถเข้าร่วมนมัสการทั้งสองนิกายนี้ได้หรือปร่าว
ถ้าเป็นวัดคาทอลิกอย่าเดินไปรับศีล ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างบน...
เเต่คุณ astro ปัจจุบันก็เข้าโบสถ์อยู่เเล้วไม่ใช่หรือคะ? :huh:
พระคัมภีร์เหมือนกันปะ
ต้นฉบับมันอันเดียวกัน คนเเยกก็คนเดียวกัน เเต่ของคาทอลิกจะมีสารบบที่สองด้วย
แล้วเจ้าแม่มารีย์ทำไมต้องนมัสการเพราะพระคัมภีร์บอกว่าไม่ใช่พระเจ้าไม่ใช่หรือครับ
เราก็ไม่ได้บอกว่าพระเเม่มารีย์ (ไม่ใช่เจ้าเเม่) เป็นพระเจ้านี่คะ เเต่พระนางเป็นมารดาของพระเจ้า คาทอลิกคนไหนบอกว่าพระนางมารีย์เป็นพระเจ้า
ก็ขอให้เขาไปเรียนคำสอนใหม่ได้เลย มั่วนิ่มเเล้ว
เราให้เกียร์ติพระนางมารีย์ในฐานะ มารดาของพระเจ้า เเละไม่เคยสอนว่า เเม่พระ เป็นพระเจ้า
ลองอ่านบทความนี้ดู http://www.newmana.com/Mother/child01.htm
ทำไมต้องสวดผ่านเจ้าแม่มารีด้วย งั้นแสดงว่าเจ้าแม่มารีย์ใหญ่กว่าพระเยซูหรือพระเจ้าหรือครับ บอกหน่อย
ทำไมสวดผ่านพระเเม่มารีย์ (ไม่ใช่เจ้าเเม่) เเล้วท่านจะต้องใหญ่กว่าพระเยซูด้วยล่ะคะ??? ตอบก่อน...
เราขอให้เเม่พระ ช่วยวิงวอนขอพระเยซูอีกเเรงหนึ่งค่ะ
อาการเดียวกับคุณอยากได้จักรยานใหม่ เเล้วให้คุณเเม่ช่วยคุยกับคุณพ่อ...ประมาณนั้น ไม่เห็นจำเป็นว่าเเม่ต้องยิ่งใหญ่กว่าพ่อเลย
ป.ล. เเอบสงสัยว่า เเน่ใจหรือว่าคุณเคยคุยกับคนที่เป็นคาทอลิกมาจริงๆ
ไม่ใช่เเค่ฟังจากใครบางคนที่ไม่ใช่คาทอลิกเเต่เล่าว่าคาทอลิกเป็นอย่างไร
ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ พุธ ก.ค. 23, 2008 6:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
คาทอลิกคนนั้นคงล้าสมัยมากๆทีเดียวastro เขียน: ต่างกันยังไงครับ ผมได้ยินท่านหนึ่งที่เป็นคาทอลิกบอกว่าไม่มาความรอดใดนอกจากคาทอลิก
ในสังคายนาวาติกันครั้งที่2 ได้ประกาศยอมรับ ความรอดนอกพระศาสนจักร
เพราะเราเชื่อว่า พระเจ้าทรงมีแผนการประทานความรอดแก่มนุษย์ทุกคนไม่ว่าศาสนาใดเกินความเข้าใจของเราครับ
เพราะฟ้าสูงกว่าแผ่นดินฉันใด วิถีของเราก็สูงกว่าทางของเจ้า
และความคิดของเรา ก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ค. 24, 2008 7:11 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
น่าจะแก้หัวข้อ ว่า "คริสเตียนกับคริสตังแตกต่างกันอย่างไร" หรือ "โรมันคาทอลิก กับ โปรเตสแตนต์ แตกต่างกันอย่างไร"
ขอให้เข้าไปอ่านที่ลิงก์นี้ดวยครับ
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=503.0
ขอให้เข้าไปอ่านที่ลิงก์นี้ดวยครับ
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=503.0
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ค. 24, 2008 6:52 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แล้วพระคัมภีร์ตอนไหนละครับที่บอกว่าให้อธิษฐานผ่านทางเจ้าแม่มารีย์ก่อน แล้วพระเจ้าจะฟังเราละครับ เห็นในพระคัมภีร์ตัวอย่างที่พระเยซูให้อธิษฐาน ก็ไม่ให้อธิษฐานผ่านพระแม่มารีย์นี่ครับ สรุปแล้วยังไม่เครียร์เลยครับ ว่าพระแม่มารีย์นี่น่ะใมหญ่กว่าพระเยซูหรือปร่าว เพราะถ้าคุณพูดแบบนั้นแสดงว่าถ้าผมอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้วพระเจ้าจะไม่ฟังผมนอกจากพระแม่มารีย์แล้ว แสดงว่าพระเยซูต้องเกรงใจพระแม่มารีย์นะสิครับ และพระคัมภีร์ตอนนึง พระเยซูบอกว่า ไม่มีใครเป็นมารดา หรือเป็นพี่น้องของเรา นอกจากผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระองค์เท่านั้น (จำได้รางๆนะครับว่าตอนนึงนี่แหละ)ผมอ่านพระคัมภีร์มาแล้วรอบนึง ผมว่าขัดๆนะครับ เรื่องพระแม่มรรีย์นี่อะ แต่ขอโทษทีนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด เพียงแต่ผมอยากรู้ข้อเท็จจริงเท่านั้น ถ้าโกรธก็ขออภัยมาณ.ที่นี่ด้วยนะครับ
ไม่โกรธหรอกครับ ก็ขอให้คุณรับรู้ข้อเท็จจริงด้วยละกันตะวัน เขียน: ผมไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด เพียงแต่ผมอยากรู้ข้อเท็จจริงเท่านั้น ถ้าโกรธก็ขออภัยมาณ.ที่นี่ด้วยนะครับ
พระเจ้าแต่องค์เดียว ที่สูงสุดตะวัน เขียน: แล้วพระคัมภีร์ตอนไหนละครับที่บอกว่าให้อธิษฐานผ่านทางเจ้าแม่มารีย์ก่อน แล้วพระเจ้าจะฟังเราละครับ เห็นในพระคัมภีร์ตัวอย่างที่พระเยซูให้อธิษฐาน ก็ไม่ให้อธิษฐานผ่านพระแม่มารีย์นี่ครับ สรุปแล้วยังไม่เครียร์เลยครับ ว่าพระแม่มารีย์นี่น่ะใมหญ่กว่าพระเยซูหรือปร่าว เพราะถ้าคุณพูดแบบนั้นแสดงว่าถ้าผมอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้วพระเจ้าจะไม่ฟังผมนอกจากพระแม่มารีย์แล้ว แสดงว่าพระเยซูต้องเกรงใจพระแม่มารีย์นะสิครับ xemo026 :
แต่พระองค์สดับฟังคำภาวนาของผู้ชอบธรรมครับ
พระองค์ไม่ได้บังคับ ว่าจะต้องสวดผ่านหรือไม่ผ่านพระแม่มารีย์
แต่ก็เป็นความพอใจของแต่ละคนเองที่ จะขอใครอธิษฐานเผื่อเราหนิครับ
งั้นกลับไปอ่านอีกรอบหนึ่งนะครับตะวัน เขียน: และพระคัมภีร์ตอนนึง พระเยซูบอกว่า ไม่มีใครเป็นมารดา หรือเป็นพี่น้องของเรา นอกจากผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระองค์เท่านั้น (จำได้รางๆนะครับว่าตอนนึงนี่แหละ)ผมอ่านพระคัมภีร์มาแล้วรอบนึง ผมว่าขัดๆนะครับ เรื่องพระแม่มรรีย์นี่อะ แต่ขอโทษทีนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด เพียงแต่ผมอยากรู้ข้อเท็จจริงเท่านั้น ถ้าโกรธก็ขออภัยมาณ.ที่นี่ด้วยนะครับ
ว่าพระแม่มารีย์ปฎิบัติตามน้ำพระทัยพระเจ้ามากเพียงใด
พระนางมารีย์จึงกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด"
ลก 1:38
เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าได้ตรัสแก่เธอไว้จะสำเร็จไป
ลก1:45
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ทุกคนเกิดมามีเเม่ และรักเเม่ด้วยกันทุกคน
พระเยซูก็รักเเม่เเละเชื่อฟังเเม่เหมือนกันทุกคน
เพราะฉะนั้นการที่พระเเม่มารีย์ทรงเป็นเอกใน
นิกายคาทอลิกก็เพราะยกย่องเเม่พระทรงเป็นเเบบอย่าง
ที่ดีให้กับเรา
ในการที่นิกายคาทอลิกมีนักบุญ เเสดงให้เห็นว่า
ท่านนักบุญทรงรักเเละเชื่อในพระเจ้าอย่างมากและ
พิสูจน์ตัวท่านเองในหลายอย่างเช่นการตายเพื่อประกาศ
พระนามพระเจ้าเป็นต้น
พระเยซูก็รักเเม่เเละเชื่อฟังเเม่เหมือนกันทุกคน
เพราะฉะนั้นการที่พระเเม่มารีย์ทรงเป็นเอกใน
นิกายคาทอลิกก็เพราะยกย่องเเม่พระทรงเป็นเเบบอย่าง
ที่ดีให้กับเรา
ในการที่นิกายคาทอลิกมีนักบุญ เเสดงให้เห็นว่า
ท่านนักบุญทรงรักเเละเชื่อในพระเจ้าอย่างมากและ
พิสูจน์ตัวท่านเองในหลายอย่างเช่นการตายเพื่อประกาศ
พระนามพระเจ้าเป็นต้น
แล้วพระคัมภีร์ตอนไหนละครับที่บอกว่าให้อธิษฐานผ่านทางเจ้าแม่มารีย์ก่อน แล้วพระเจ้าจะฟังเราละครับ เห็นในพระคัมภีร์ตัวอย่างที่พระเยซูให้อธิษฐาน ก็ไม่ให้อธิษฐานผ่านพระแม่มารีย์นี่ครับ
-----พระเเม่มารีย์ค่ะ ไม่ใช่เจ้าเเม่...
การอธิฐานผ่านเเม่พระ เเล้วพระเจ้าจะฟัง เป็นข้อความเชื่อ ซึ่งสืบทอดมาตั้งเเต่สมัยเเรกเริ่มอยู่เเล้ว สืบทอดมาเรื่อยๆ
จะมีบันทึกไว้ไหม ก็คงมี เเต่ไม่เป็นสาระสำคัญเเละไม่ใช่เรื่องราวของพระเยซูเจ้า จึงไม่ได้นำมาลงในพระคัมภีร์ ค่ะ
ส่วนในพระคัมภีร์ บทที่พระเยซูเจ้าทรงสอนหรือ "ข้าเเต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์......"
เราสวดอยู่เเล้ว เเละที่สำคัญ ไม่มีพระคัมภีร์ตอนใดกล่าวไว้ว่าพระเยซูเจ้าไม่ให้อธิฐานผ่านทางเเม่พระ ดังนั้น เราจึงจะอธิฐานต่อไป
สรุปแล้วยังไม่เครียร์เลยครับ ว่าพระแม่มารีย์นี่น่ะใมหญ่กว่าพระเยซูหรือปร่าว
-----ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่าพระเจ้า
เพราะถ้าคุณพูดแบบนั้นแสดงว่าถ้าผมอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้วพระเจ้าจะไม่ฟังผมนอกจากพระแม่มารีย์แล้ว
-----ไม่มีใครบอกว่า "ถ้าคุณอธิฐานต่อพระเจ้าโดยตรงเเละพระองค์จะไม่ฟัง"
เราบอกไว้ชัดเจนเเล้ว ว่าคาทอลิกขอให้เเม่พระช่วยสวดภาวนาเฉยๆ (หรือใช้คำว่า อธิฐานเผื่อ) ไม่ใช่ให้ไปบังคับพระเยซู(ซึ่งเเน่นอนท่านทำไม่ได้)
แสดงว่าพระเยซูต้องเกรงใจพระแม่มารีย์นะสิครับ และพระคัมภีร์ตอนนึง พระเยซูบอกว่า ไม่มีใครเป็นมารดา หรือเป็นพี่น้องของเรา นอกจากผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระองค์เท่านั้น (จำได้รางๆนะครับว่าตอนนึงนี่แหละ)ผมอ่านพระคัมภีร์มาแล้วรอบนึง ผมว่าขัดๆนะครับ เรื่องพระแม่มรรีย์นี่อะ
-----มัทธิว 12:46-50 พระคัมภีร์ตอนนี้ต้องการจะบอกว่า ความสัมพันธ์ด้านจิตใจ สำคัญกว่าทางสายเลือดค่ะ
ไม่ได้จะบอกว่าพระนางมารีย์ไม่ใช่มารดาของพระองค์
เพราะถ้าเเปลตรงตัวอักษรเเล้ว จะฟังขัดกว่าเดิมอีก เช่นตรงข้อ 49 "เเล้วทรงยื่นพระหัตถ์ชี้บรรดาศิษย์ตรัสว่า "นี่คือมารดาเเละพี่น้องของเรา"
บรรดาศิษย์(ซึ่งเป็นผู้ชาย)คงไม่ใช่มารดาเเท้ๆของพระเยซูหรอกค่า....
ลองอ่านพระคัมภีร์บทนี้ดีกว่า
ยอห์น 19:25
พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระองค์พร้อมกับน้องสาวของพระนาง มารีย์ภรรยาของเคลโอปัส
เเละมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูเจ้าทางเห็นพระมารดาเเละศิษย์ที่รักยืนอยู่ใกล้ๆ จึงตรัสกับพระมารดาว่า "เเม่ นี่คือลูกของเเม่"เเล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า "นี่คือเเม่ของท่าน" นับตั้งเเต่นั้น ศิษย์ผู้นั้นก็รับพระนางเป็นมารดาของตน
จะเห็นได้ว่า พระเยซู ทรงเรียกพระนางมารีย์ว่า "เเม่" (เน้นสีเเดงไว้)จริงๆ
เเละหากเราเป็นศิษย์ของพระเยซู เราจึงต้องถือพระนางมารีย์ดั่งมารดาของเรา เพราะเป็นสิ่งที่พระเยซูตรัสไว้ชัดเจน ในพระคัมภีร์
แต่ขอโทษทีนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด เพียงแต่ผมอยากรู้ข้อเท็จจริงเท่านั้น ถ้าโกรธก็ขออภัยมาณ.ที่นี่ด้วยนะครับ
ไม่ได้โกรธค่ะ เเละหากข้าพเจ้าได้ตอบสิ่งใดไปเเต่อาจจะฟังไม่เสนาะหู ขออภัยมา ณ ที่นี่ค่าๆๆๆ
-----พระเเม่มารีย์ค่ะ ไม่ใช่เจ้าเเม่...
การอธิฐานผ่านเเม่พระ เเล้วพระเจ้าจะฟัง เป็นข้อความเชื่อ ซึ่งสืบทอดมาตั้งเเต่สมัยเเรกเริ่มอยู่เเล้ว สืบทอดมาเรื่อยๆ
จะมีบันทึกไว้ไหม ก็คงมี เเต่ไม่เป็นสาระสำคัญเเละไม่ใช่เรื่องราวของพระเยซูเจ้า จึงไม่ได้นำมาลงในพระคัมภีร์ ค่ะ
ส่วนในพระคัมภีร์ บทที่พระเยซูเจ้าทรงสอนหรือ "ข้าเเต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์......"
เราสวดอยู่เเล้ว เเละที่สำคัญ ไม่มีพระคัมภีร์ตอนใดกล่าวไว้ว่าพระเยซูเจ้าไม่ให้อธิฐานผ่านทางเเม่พระ ดังนั้น เราจึงจะอธิฐานต่อไป
สรุปแล้วยังไม่เครียร์เลยครับ ว่าพระแม่มารีย์นี่น่ะใมหญ่กว่าพระเยซูหรือปร่าว
-----ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่าพระเจ้า
เพราะถ้าคุณพูดแบบนั้นแสดงว่าถ้าผมอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้วพระเจ้าจะไม่ฟังผมนอกจากพระแม่มารีย์แล้ว
-----ไม่มีใครบอกว่า "ถ้าคุณอธิฐานต่อพระเจ้าโดยตรงเเละพระองค์จะไม่ฟัง"
เราบอกไว้ชัดเจนเเล้ว ว่าคาทอลิกขอให้เเม่พระช่วยสวดภาวนาเฉยๆ (หรือใช้คำว่า อธิฐานเผื่อ) ไม่ใช่ให้ไปบังคับพระเยซู(ซึ่งเเน่นอนท่านทำไม่ได้)
แสดงว่าพระเยซูต้องเกรงใจพระแม่มารีย์นะสิครับ และพระคัมภีร์ตอนนึง พระเยซูบอกว่า ไม่มีใครเป็นมารดา หรือเป็นพี่น้องของเรา นอกจากผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระองค์เท่านั้น (จำได้รางๆนะครับว่าตอนนึงนี่แหละ)ผมอ่านพระคัมภีร์มาแล้วรอบนึง ผมว่าขัดๆนะครับ เรื่องพระแม่มรรีย์นี่อะ
-----มัทธิว 12:46-50 พระคัมภีร์ตอนนี้ต้องการจะบอกว่า ความสัมพันธ์ด้านจิตใจ สำคัญกว่าทางสายเลือดค่ะ
ไม่ได้จะบอกว่าพระนางมารีย์ไม่ใช่มารดาของพระองค์
เพราะถ้าเเปลตรงตัวอักษรเเล้ว จะฟังขัดกว่าเดิมอีก เช่นตรงข้อ 49 "เเล้วทรงยื่นพระหัตถ์ชี้บรรดาศิษย์ตรัสว่า "นี่คือมารดาเเละพี่น้องของเรา"
บรรดาศิษย์(ซึ่งเป็นผู้ชาย)คงไม่ใช่มารดาเเท้ๆของพระเยซูหรอกค่า....
ลองอ่านพระคัมภีร์บทนี้ดีกว่า
ยอห์น 19:25
พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระองค์พร้อมกับน้องสาวของพระนาง มารีย์ภรรยาของเคลโอปัส
เเละมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูเจ้าทางเห็นพระมารดาเเละศิษย์ที่รักยืนอยู่ใกล้ๆ จึงตรัสกับพระมารดาว่า "เเม่ นี่คือลูกของเเม่"เเล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า "นี่คือเเม่ของท่าน" นับตั้งเเต่นั้น ศิษย์ผู้นั้นก็รับพระนางเป็นมารดาของตน
จะเห็นได้ว่า พระเยซู ทรงเรียกพระนางมารีย์ว่า "เเม่" (เน้นสีเเดงไว้)จริงๆ
เเละหากเราเป็นศิษย์ของพระเยซู เราจึงต้องถือพระนางมารีย์ดั่งมารดาของเรา เพราะเป็นสิ่งที่พระเยซูตรัสไว้ชัดเจน ในพระคัมภีร์
แต่ขอโทษทีนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด เพียงแต่ผมอยากรู้ข้อเท็จจริงเท่านั้น ถ้าโกรธก็ขออภัยมาณ.ที่นี่ด้วยนะครับ
ไม่ได้โกรธค่ะ เเละหากข้าพเจ้าได้ตอบสิ่งใดไปเเต่อาจจะฟังไม่เสนาะหู ขออภัยมา ณ ที่นี่ค่าๆๆๆ
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
เห็นตอบไปกันมากแล้วastro เขียน: ต่างกันยังไงครับ ผมได้ยินท่านหนึ่งที่เป็นคาทอลิกบอกว่าไม่มาความรอดใดนอกจากคาทอลิก แล้ว ปอแตสแตนละครับ แล้วผมสามารถเข้าร่วมนมัสการทั้งสองนิกายนี้ได้หรือปร่าว พระคัมภีร์เหมือนกันปะ แล้วเจ้าแม่มารีย์ทำไมต้องนมัสการเพราะพระคัมภีร์บอกว่าไม่ใช่พระเจ้าไม่ใช่หรือครับ ทำไมต้องสวดผ่านเจ้าแม่มารีด้วย งั้นแสดงว่าเจ้าแม่มารีย์ใหญ่กว่าพระเยซูหรือพระเจ้าหรือครับ บอกหน่อย
แต่อยากมาเน้นย้ำ
(i)ไม่มีความรอดใดนอกจากคาทอลิก (คำพูดยุคนักบุญไซเปรียนนุส)
ปัจจุบันนี้
"สังคายนาวาติกันครั้งที่2 ได้ประกาศยอมรับ ความรอดนอกพระศาสนจักร
เพราะเราเชื่อว่า พระเจ้าทรงมีแผนการประทานความรอดแก่มนุษย์ทุกคนไม่ว่าศาสนาใดเกินความเข้าใจของเราครับ"
เพราะฟ้าสูงกว่าแผ่นดินฉันใด วิถีของเราก็สูงกว่าทางของเจ้า
และความคิดของเรา ก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น
ผมบอกคุณได้ว่า คนที่อ่านพระคัมภีร์เฉยๆ โดยไม่มีใครชี้นำ ไม่มาจับผิดเรื่องพระแม่มารีย์แบบคุณทำหรอกครับ เพราะคนที่อ่านพระคัมภีร์โดยธรรมชาติ และพระจิตเจ้านำตามธรรมดา จะรู้สึกว่า พระมารดามารีย์คือสตรีที่น่ารัก น่าศรัทธา และน่าเคารพ
ดังนั้นผมขอใช้มาตรฐานเดียวกันกับการพิจารณาที่คุณคงถูกสอนมา ถามคุณกลับบ้าง กรุณาตอบด้วยนะครับ และทุกคำตอบมันจะตอบข้อสงสัยของคุณเอง
บางครั้ง พวกคุณโปรแตสแตนท์ ให้ศิษยาภิบาล อธิษฐานเผื่อ ตกลงศิษยาภิบาลพวกคุณใหญ่กว่าพระเยซูใช่ไหม ทำไมไม่อธิษฐานเอง ไปขอให้คนอื่นซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่งมาอธิษฐานเผื่อทำไม สรุปแล้วยังไม่เครียร์เลยครับ ว่าศิษยาภิบาลคุณนี่น่ะใหญ่กว่าพระเยซูหรือปร่าว เพราะถ้าคุณพูดแบบนั้นแสดงว่าถ้าผมอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้วพระเจ้าจะไม่ฟังผมนอกจากศิษยาภิบาลแล้ว แสดงว่าพระเยซูต้องเกรงใจศิษยาภิบาลน่ะสิครับ
แต่ถ้าถามว่าพระเยซูจะเกรงใจแม่ตัวเองไหม แหม อ่านพระคัมภีร์ซะหลายๆตอนนอกจากตอนจับผิดพระมารดามารีย์แล้ว ไม่เคยอ่านเจอตอนนี้เลยเหรอครับ(หรืออาจจะอ่านเจอแต่ไม่มีใครชี้นำ)
ลก 2:51
พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดาและเชื่อฟังท่านทั้งสอง
---การตีความที่น่าสะพรึงกลัวจากฝ่ายโปรแตสแตนท์ที่ต้องการลดเกียรติพระมารดามารีย์ ที่พยายามเอ่ยอ้างเอาตอนนี้
ลก 8:19-21
พระมารดาและพี่น้องของพระเยซูเจ้ามาเฝ้าพระองค์ แต่ไม่อาจเข้าถึงพระองค์ได้ เพราะมีประชาชนจำนวนมาก มีผู้ทูลพระองค์ว่า
ดังนั้นผมขอใช้มาตรฐานเดียวกันกับการพิจารณาที่คุณคงถูกสอนมา ถามคุณกลับบ้าง กรุณาตอบด้วยนะครับ และทุกคำตอบมันจะตอบข้อสงสัยของคุณเอง
บางครั้ง พวกคุณโปรแตสแตนท์ ให้ศิษยาภิบาล อธิษฐานเผื่อ ตกลงศิษยาภิบาลพวกคุณใหญ่กว่าพระเยซูใช่ไหม ทำไมไม่อธิษฐานเอง ไปขอให้คนอื่นซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่งมาอธิษฐานเผื่อทำไม สรุปแล้วยังไม่เครียร์เลยครับ ว่าศิษยาภิบาลคุณนี่น่ะใหญ่กว่าพระเยซูหรือปร่าว เพราะถ้าคุณพูดแบบนั้นแสดงว่าถ้าผมอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้วพระเจ้าจะไม่ฟังผมนอกจากศิษยาภิบาลแล้ว แสดงว่าพระเยซูต้องเกรงใจศิษยาภิบาลน่ะสิครับ
แต่ถ้าถามว่าพระเยซูจะเกรงใจแม่ตัวเองไหม แหม อ่านพระคัมภีร์ซะหลายๆตอนนอกจากตอนจับผิดพระมารดามารีย์แล้ว ไม่เคยอ่านเจอตอนนี้เลยเหรอครับ(หรืออาจจะอ่านเจอแต่ไม่มีใครชี้นำ)
ลก 2:51
พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดาและเชื่อฟังท่านทั้งสอง
---การตีความที่น่าสะพรึงกลัวจากฝ่ายโปรแตสแตนท์ที่ต้องการลดเกียรติพระมารดามารีย์ ที่พยายามเอ่ยอ้างเอาตอนนี้
ลก 8:19-21
พระมารดาและพี่น้องของพระเยซูเจ้ามาเฝ้าพระองค์ แต่ไม่อาจเข้าถึงพระองค์ได้ เพราะมีประชาชนจำนวนมาก มีผู้ทูลพระองค์ว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 25, 2008 12:17 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
นอกจากนี้ ผมขอถามคำถามอันใสซื่อและตอบง่ายๆมายังเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
คำว่า "บุตรมนุษย์" ที่พระเยซูใช้เรียกตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนมนพระคัมภีร์ ทรงหมายถึงทรงเป็นลูกของมนุษย์คนไหน ยอแซฟหรือ? ตัวคุณหรือ?
คำตอบมีอยู่ใน Reply ที่แล้ว พระวิญญาณตรัสชัดแจ้งในพระคัมภีร์แล้วว่า "มารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" คือใคร และพระเยซูเจ้าเองทรงเป็นองค์เดียวกับพระวิญญาณ ไม่มีวันที่จะทรงตรัสอะไรขัดกับพระวิญญาณไปได้ จึงทรงยืนยันฐานะของพระมารดาของพระองค์ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดานี้ โดยการ เรียกตัวเองว่า บุตรแห่งมนุษย์ นับครั้งไม่ถ้วนในพระคัมภีร์เอง
คุณอุตส่าห์จำคลับคล้ายคลับคลา กับข้อความเดียวที่อาจเข้าใจบิดเบือนว่าพระเยซูไม่นับถือแม่ตัวเอง จนถึงขนาดสับสนอลหม่านไม่เคลียร์
แต่กับข้อความแสนสั้นจำง่ายที่ปรากฎตลอดทั้งช่วงพระคัมภีร์ทำไมกลับจำไม่ได้ซะละครับ
คำว่า "บุตรมนุษย์" ที่พระเยซูใช้เรียกตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนมนพระคัมภีร์ ทรงหมายถึงทรงเป็นลูกของมนุษย์คนไหน ยอแซฟหรือ? ตัวคุณหรือ?
คำตอบมีอยู่ใน Reply ที่แล้ว พระวิญญาณตรัสชัดแจ้งในพระคัมภีร์แล้วว่า "มารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" คือใคร และพระเยซูเจ้าเองทรงเป็นองค์เดียวกับพระวิญญาณ ไม่มีวันที่จะทรงตรัสอะไรขัดกับพระวิญญาณไปได้ จึงทรงยืนยันฐานะของพระมารดาของพระองค์ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดานี้ โดยการ เรียกตัวเองว่า บุตรแห่งมนุษย์ นับครั้งไม่ถ้วนในพระคัมภีร์เอง
คุณอุตส่าห์จำคลับคล้ายคลับคลา กับข้อความเดียวที่อาจเข้าใจบิดเบือนว่าพระเยซูไม่นับถือแม่ตัวเอง จนถึงขนาดสับสนอลหม่านไม่เคลียร์
แต่กับข้อความแสนสั้นจำง่ายที่ปรากฎตลอดทั้งช่วงพระคัมภีร์ทำไมกลับจำไม่ได้ซะละครับ
คุณคนตั้งกระทู้ กรุณาอ่านกระทู้นี้ด้วยครับ
†เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน†
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5477.0
โปรดอ่านให้จบแล้วถามต่อในกระทู้นั้นได้เลย ถ้าไม่ยอมอ่านแล้วเอาแต่หมกหมุ่นในความคิดที่เข้าใจผิด(หรือถูกสอนมาให้เข้าใจคนอื่นแบบผิดๆ)ของตัวเอง เกรงว่า เราจะคุยกันรู้เรื่องได้ลำบากครับ
†เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน†
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5477.0
โปรดอ่านให้จบแล้วถามต่อในกระทู้นั้นได้เลย ถ้าไม่ยอมอ่านแล้วเอาแต่หมกหมุ่นในความคิดที่เข้าใจผิด(หรือถูกสอนมาให้เข้าใจคนอื่นแบบผิดๆ)ของตัวเอง เกรงว่า เราจะคุยกันรู้เรื่องได้ลำบากครับ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ถ้าได้อ่านและรับทราบแล้วรบกวนมาตอบด้วยนะครับ ^^ อย่าทิ้งกระทู้หายไปเฉยๆล่ะ
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่ากระทู้แบบนี้มีเยอะมาก เข้าใจว่าอยากรู้ แต่น่าจะดูให้ดีๆก่อน ไม่ได้มาว่าอะไรหรอก แค่แบบ เอ่อทำไมกระทู้แบบนี้เยอะจัง
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พวกเราเล่นที่พันทิป เรียกกระทู้แบบนี้ว่า ไข่แล้วทิ้งค่ะ บางทีเข้ามาถามแล้ว หลงบอร์ด ไม่รู้ว่าเว็บไหนนะRakkypoko! เขียน: เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่ากระทู้แบบนี้มีเยอะมาก เข้าใจว่าอยากรู้ แต่น่าจะดูให้ดีๆก่อน ไม่ได้มาว่าอะไรหรอก แค่แบบ เอ่อทำไมกระทู้แบบนี้เยอะจัง
พี่น้อง เราต้องตอบโต้หรือความจริงคืออะไรเราตัดสินหรือ มิใช่พระหรือ พวกเรานิ่ดีกว่า คนข้างนอกอ่านแล้วดูยังกะเถียงกัน
-
- โพสต์: 7
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 7:07 pm
- ที่อยู่: http://cat--may.hi5.com
- ติดต่อ:
^^
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ