Belong to the Truth Jesus Christ

เมื่อวานกำลังเดินไปที่รถเพื่อกลับบ้าน..มีคนมาขอ2พัน อ้างในหลวง  ยังดีที่มีคนมาแฉ

เมื่อวาน วันศุกร์ ผมกำลังเดินไปที่รถ เพื่อจะกลับบ้าน (ไปเชคเกรดที่มหาลัย (ดีใจผ่านๆๆ อิอิ) )
ก็ระหว่างทาง.. มีชายผู้หนึ่งเดินมา เข้ามาคุยด้วย เรียกน้องๆๆ แล้วก็บ่นไรไม่รู้ ไม่ค่อยได้ยิน สุดท้าย เค้าขอให้เราหยุดยืนคุยด้วย

โอเคหยุด คุยด้วย ... ได้ความที่พอจำได้ดังนี้ 
-เค้าเป็นเรืออากาศเอก หรือพันอากาศเอก อะไรสักอย่าง อ้างทหารหรือนายตำรวจชั้น เอกๆๆ เนี่ยล่ะ ฟังไม่ถนัด
-อ้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในทำนอง..ไหนสักอย่าง ฟังไม่ถนัด .. ว่าเค้าไม่โกหกหรอก เพราะอะไรสักอย่าง...ถวายสัตติญาณ(เขียนถูกป่าวน่ะ)
-จะเอาแหวนแต่งงานมัดจำไว้ (อันนี้ยังไม่เห็นแหวน)
-โชว์กุญแจรถให้ดู แล้วอ้างว่าจอดอยู่ที่สนามบิน
-อ้างว่าจะไปงานสวนสิริกิต แต่ไปไม่ทัน เพราะกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์หาย
-อ้างว่า บ้านอยู่เชียงใหม่
-หน้าตาตี๋ๆ ใส่แว่น แต่งตัวดีใช้ได้

คนมากมาย มันไม่มาหลอก ดันมาหลอกคนใจดีอย่างผม
ทีแรกเห็นเค้าเดือดร้อน เกือบจะให้ แต่มันขอ สองพัน แต่ผมติดตัว เกือบจะถึง โชคดี ถ้ามี มากกว่า คงให้ไปแล้ว
(มันขอให้ไปกดแบ้งค์ด้วย แต่ผมบอก ไม่สะดวก และนึกในใจ ไม่มีมารยาทเลย ไอ้หมอนี่!! )
จริงๆ ผมก็ฟัง คิดว่ามันจะถามทาง ว่าจะไปสวนสิริกิตยังไง (ดีน่ะ มันไม่บอกให้ไปส่ง)

ระหว่างคุยกัน ก็มีชาย2หญิง1 เดินมา โดยชายผู้หนึ่ง(เท่ห์เป็นบ้าเลย) มาพูดว่า หน้าคุ้นๆป่าวเนี่ย เราเคยเจอกันป่าว (พูดกับชายที่ขอตังค์สองพัน)
"หน้าคุ้นๆเนี่ย"  แล้วเค้าก็หันมาถามผมว่า "เค้าอ้างตัวเป็นทหารเป็นตำรวจอะไรเนี่ยใช่มั้ย" ผมตอบ "ใช่ๆ" (งงๆ)
แล้วพี่เท่ห์เป็นบ้าเลย ก็พูดกับเพื่อนว่า "ไอ้เนี่ยเคยหลอกตังค์กรูไปรอบนึงล่ะ"
แล้วชายคนนั้น ก็ไล่ ไอ้ที่มาขอตังค์ ไป ถ้าเมิงไม่ไป ก็จะส่งตำรวจ...  แล้วไอ้หมอนี่ ก็รีบเดินตัดเส้นทางหนีไปเลย....
ผมก็ตะโกนตาม "เห้ยไรฟะ ไม่ส่งตำรวจล่ะ" (โชคดีพี่เท่ห์เป็นบ้าเลย กับ คู่หนุ่มสาวไม่ได้ยิน ไม่งั้นคงมีคดีต่อไป อิอิ)


แล้วชายผู้นั้น(เท่ห์เป็นบ้าเลย) ก็บอก ระวังตัวดีๆนะ แล้วก็ต่างฝ่ายต่างเดินไป

ปล. ที่เท่ห์เป็นบ้าเลย  เนื่องจาก พี่แกแต่งตัวแนวๆๆ นิดนึง


ก็ดูจากการณ์แล้ว พี่เท่ห์เป็นบ้าก็เคยเจอหมอนี่หลอกตังค์ไป
ถ้างั้น ผมคิดว่า ไอ้นายตุ๋นรายนี้ คงไม่ได้เลือกที่คนหน้าวัยเยาว์อย่างผมแล้ว ไม่ได้เจาะจงไปที่กลุ่มผู้หญิง และสตรีมีครรภ์ด้วย
เพราะ กล้าไปขอพี่เท่ห์เป็นบ้าเนี่ย...

ดังนั้น.. เค้ามองจากบุคลิก
เพราะแรกๆ ที่เค้าเดินมาตีคู่ คุยด้วย ผมได้ยินว่า น้องทำงานที่บริษัทอะไร... (วันนั้นผมใส่เสื้อคอปกสไตน์คนทำงาน หิ้วโนตบุคเครื่องและกระเป๋าสะพายอีกใบข้างนึง)




ก็มาเตือนพี่น้องนะครับว่า
-คนที่แต่งตัวดูมีตังค์ (อย่าเพิ่งหมั่นไส้ผมน่ะ ผมไม่ได้หรูหราอะไรหรอก)
-คนที่ใช้ของมีราคา (โนตบุค โทรศัพท์ แหวน สร้อย นาฬิกาข้อมือ ฯลฯ)
-คนที่มีทรัพย์สินมีราคาอื่นๆ
-คนที่อยู่ในที่สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม แม้กระทั่งใน วัด!!!!
-สรุป ทุกคนแหละนะ
ให้ระวังตัวกันมากๆเลย ทั้งโจร ทั้งขโมย ทั้งพวกหลอกลวงต้มตุ๋น สารพัด พวกวิ่งราวด้วย
ยุคนี้ พวกไม่มีจะกินเยอะมาก ทำให้พวกอาชีพแย่ๆ มันมีมากขึ้น ลำบากหน่อย

ช่วงเปิดเรียน ผมจะใช้รถเมล์เหมือนกัน ก็อยากจะเตือนพี่น้องด้วย คนที่ใช้รถเมล์ก็ต้องระวัง นักล้วงเยอะมาก เพื่อนผมโดนมาแล้วโทระเฉาะสองหมื่นหายไปแบบมึนๆ
ส่วนผมเองไม่เคยโดนล้วง แต่เคยโดนอย่างอื่น.. พวกเกย์กามๆๆ เห็นเราหน้าตาดีไม่ดี (อึ้ยย ) ไอ้พวกบ้าเนี่ย ประสาทจริงๆ


ก็ยังไง ใช้ชีวิตก็ระวังตัวกันหน่อยครับ






ประเด็นก็คือ อีกหน่อยใครเดือดร้อนจริงๆ เราจะกล้าช่วยมั้ย??
ถ้าเราเจอแบบนี้เราคงไม่กล้าช่วยใคร แล้วถ้าเค้าเดือดร้อนจริงๆ เค้าจะทำไง ลำบากจริงๆเลย

ก็อีกหน่อยก็คงไม่ช่วยใคร คงเดินแนะนำให้ไปโรงพัก โรงพักช่วยได้.. ไม่ก็รถเมล์ฟรีเพื่อประชาชน ไปสักแห่ง โรงพักอะ มีคนช่วยแน่นอน



ตำรวจไทยก็ห่วยแตก เวลาจะเรียกหา ก็หาไม่เจอ

ตอนนั้นหน้าบ้านผม มีงานเข้า โทรเรียกตำรวจ ตั้ง ชั่วโมงนึงได้ กว่ามันจะมา ห่วยแตกจริงๆๆ

ราชการเมืองไทย มีดีมั่งมะเนี่ย นักการเมืองก็...น่ะ ไม่อยากจะพูด

บ่นแค่นี้ล่ะ เซง
งัยก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะครับ พี่น้อง

ขอบคุณที่เตือนครับ

ขอบคุณครับ


ทางออกสำหรับคนที่เดือดร้อนจริง
บอกไปยืมเงินตำรวจ หรือพวกยามที่หน้าธนาคารก็ได้ครับ แล้วให้เขาบันทึกหลักฐานอย่างละเอียดเกี่ยวกับเขาเพื่อกันเชิดเงินหนี
ให้ไปลองขอเงินพวกเขาดูนะ ... ถ้าเป็นโจร มันจะตัวสั่นบ่ายเบี่ยงไม่กล้าไป ...แต่ถ้าเป็นของจริงยังไงเค้าก็บริสุทธิ์ใจ ยังไงแล้วเค้าก็คงต้องไปอยู่ดีแหละครับ
แต่ถ้าเจอกรณีแบบอ้างว่าต้องการเงินด่วน ไม่มีเวลาไปหาตำรวจ ก็บอกไปว่าเดี๋ยวผมไปกดตังค์ที่ธนาคาร จะไปไหม ... ถ้าเค้าตอบว่าไป .. ก็ไปธนาคารกัน
... พอไปแล้วก็ไม่ต้องกดตังค์ ส่งเรื่องให้ยามช่วยต่อเลย เพราะนอกจากมีคนที่เป็นพยานบุคคลที่สามแล้ว เราเข้าไปในเขตธนาคารมีกล้องวงจรปิดจัดการเพิ่มหลักฐานต่ออีกครับ แค่นี้ก็เรียบร้อย ...

บอกเค้าถ้าอยากจะยืมเงินก็ยืมเงินของยามก็ได้ (หรือจะของเราก็ได้) แล้วปั้มนิ้วลายมือพร้อมกับ ขอถ่ายเอกสารบัตรประจำตัว(ที่เครื่องในธนาคาร)
... ถ้ามันทนไม่ได้ในวิธีการที่ยุ่งยากของเราก็ไม่ต้องไปสนใจแล้ว เพราะอุตส่าห์สละเวลามาช่วยแล้ว (ทำให้รู้ว่าเป็นของเทียม ถ้าเป็นของแท้มันจะรอได้)