พระศานจักรคิดเห็นอย่างไรกับบรรดานักไล่ผีของคุณพ่อ?
เราได้รับการปฏิบัติอย่างแย่มาก เพื่อนสงฆ์คนหนึ่งของเราที่ได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ถูกมองว่าเป็นคนบ้า โดยทั่วไป พวกเขาต้องอดทนกับพระสังฆราชที่แต่งตั้งพวกเขาเอง
มีตัวอย่างอะไรไหมถึงเรื่องทำนองนี้?
เราจัดประชุมระดับนานาชาติของนักไล่ผีใกล้ๆกับโรม และขออนุญาตเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา ทีแรกดูเหมือนว่าจะได้ แต่แล้วเราก็ได้รับคำบอกจากผู้ดำเนินการว่าเราไม่สามารถเข้าเฝ้าได้ เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ!นี่คือนักไล่ผี 150 คนจาก 5 ทวีป พวกเขาล้วนเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสังฆราชของพวกเขาถูกต้องตามระเบียบกฎหมายพระศาสนจักร ซึ่งบอกว่าพระสงฆ์เหล่านี้จะต้องเป็นนักภาวนา มีความรู้และมีชื่อเสียงดี เป็นหัวกระทิของพวกพระสงฆ์ พวกเขาขอเข้าเฝ้า ไม่ใช่เป็นการเฉพาะกลุ่มด้วยซ้ำ แต่ร่วมกับกลุ่มคนอื่นๆทั่วไป ทว่า พวกเขากลับไม่ได้รับอนุญาต มองสิเออร์ เดอ นิโคโล ผู้ดูแลฝ่ายนี้บอกว่าจะเขียนจดหมายอธิบายเหตุผลให้เราทราบ "อย่างแน่นอน" แต่ตราบจนบัดนี้ ห้าปีเข้าแล้ว พ่อยังรอจดหมายเขาอยู่
แน่นอน ไม่ใช่พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ที่กันเราออก แต่การที่พระสงฆ์ 150 คนถูกกันออกจากการเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาในที่สาธารณะในจัตรุสนักบุญเปโตร ก็บ่งบอกอะไรมากพอดูว่าบรรดานักไล่ผีของพระศาสนจักรของพวกเขาเอง ได้ถูกกั้นขวางการทำงาน และพวกเขาถูกขมวดคิ้วนิ่วหน้าใส่จากบรรดาผู้มีอำนาจในพระศาสนจักรมากเพียงใด
คุณพ่อรบกับปีศาจทุกวัน อะไรที่คุณพ่อเห็นว่าเป็นความสำเร็จที่สุดของซาตาน?
ก็
คือการที่มันได้ทำให้ผู้คนแน่ใจว่ามันไม่มีตัวตนอยู่จริง มันเกือบทำได้สำเร็จ แม้แต่ในพระศาสนจักร ปัจจุบันมีนักบวชพระสงฆ์และสังฆราชที่ไม่เชื่อเรื่องปีศาจ เรื่องการไล่ปีศาจ เรื่องความชั่วร้ายที่ก่อขึ้นโดยปีศาจ หรือในอำนาจของพระเยซูที่มอบให้เราในการขับไล่พวกมัน
เป็นเวลากว่า 300 ปีแล้วที่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกแทบจะยกเลิกการขับไล่ปีศาจอย่างสิ้นเชิง และเพราะว่าพวกเขาไม่ได้ทำพิธีไล่ปีศาจหรือศึกษาเรื่องนี้ และไม่เคยเห็นพวกมัน พวกพระสงฆ์นักบวชก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ ไม่เชื่อเรื่องปีศาจอีกต่อไป เรามีสังฆราชที่พยายามต่อต้านการขับไล่ปีศาจ มีบางประเทศที่ไม่มีนักไล่ผีแล้ว อาทิ เยอรมันนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ สเปน และโปรตุเกส นี่เป็นความหายนะที่น่าอาย
คุณพ่อไม่เอ่ยถึงประเทศฝรั่งเศส สถานการณ์ที่นั่นต่างกันไปหรือไร?
นักไล่ผีที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส อิสิดอร์ ฟรอก เขียนหนังสือชื่อ "นักไล่ผี พวกเขาคือใครและพวกเขาทำอะไร" หนังสือเล่มนี้ไม่กล่าวแม้แต่ครั้งเดียวว่ามีการประกอบพิธีไล่ผีในกรณีใด และผู้เขียนได้พูดในรายการโทรทัศน์ฝรั่งเศสในหลายโอกาสว่าเขาไม่เคยทำพิธีไล่ผีเลย และจะไม่มีวันทำ
ในบรรดานักไล่ผี 100 คนของฝรั่งเศส จะมีเพียง 5 คนที่เชื่อในเรื่องปีศาจและประกอบพิธีไล่ผี คนอื่นๆจะส่งผู้ที่มาหาเขาไปหานักจิตวิเคราะห์ พวกสังฆราชเป็นเหยื่อกลุ่มแรกของสถานการณ์แบบนี้ในศาสนจักรคาทอลิก ความเชื่อของพวกเขาในเรื่องการมีอยู่จริงของปีศาจกำลังลดหาย
เป็นเรื่องขึ้นอยู่กับพระสังฆราชที่จะแต่งตั้งนักไล่ผี?
ถูกแล้ว เมื่อพระสงฆ์คนหนึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสังฆราช เขาจะพบว่ามาตราหนึ่งในกฎหมายพระศาสนจักรให้อำนาจเขาอย่างสิ้นเชิงในการแต่งตั้งนักไล่ปีศาจ ข้อเรียกร้องอย่างน้อยที่สุดที่เราจะขอได้จากพระสังฆราชก็คือให้เขาได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์การไล่ปีศาจสักครั้ง เพราะเขาจะต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญ แต่โชคไม่ดี สิ่งนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้น แต่ถ้าสังฆราชองค์ใด เมื่อมีคำขอร้องอย่างจริงจังให้มีการไล่ผี ซึ่งไม่ใช่เรื่องทางด้านจิตใจ แล้วสังฆราชองค์นั้นไม่ยอมอนุญาต
นั่นก็เป็นบาปหนัก และท่านต้องรับผิดชอบต่อความทุกข์ทรมานแย่ๆที่บุคคลนั้นต้องทนรับ ความทุกข์ทรมานนั้นอาจกินเวลาเป็นปีๆหรือตลอดชีวิตเขาหรือเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังฆราชอาจป้องกันได้
คุณพ่อกำลังพูดว่าสังฆราชโดยส่วนมากของศาสนจักรคาทอลิกอยู่ในสภาวะบาปหนัก?
เมื่อพ่อเป็นเด็ก พ่อเจ้าวัดแก่ๆของพ่อสอนไว้ว่ามีศีลศักดิ์สิทธิ์ที่แปด นั่นก็คือการละเลยเพราะไม่รู้ และศีลประการที่แปดนี้ช่วยผู้คนให้รอดมากกว่าประการอื่นๆทั้งเจ็ดรวมกันเสียอีก การทำบาปหนักหมายถึงทำผิดเรื่องหนักแต่โดยรู้ตัวและเต็มใจ การที่สังฆราชหลายคนไม่ยอมช่วยเหลือนับว่าเป็นเรื่องหนัก แต่เพราะท่านไม่รู้ไม่ทราบในเรื่องนี้ จึงไม่ใช่การรู้ตัวและเต็มใจ
แต่ความเชื่อของบุคคลจะยังครบถ้วนหรือเปล่า อย่างถ้าเราจะพูดว่าความเชื่อเรายังเป็นคาทอลิกไหมถ้าเราไม่เชื่อว่าปีศาจมีตัวตนจริง?
ไม่ พ่อขอเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง เมื่อครั้งแรกที่พ่อพบคุณพ่อเปลเลกริโน แอร์เนตติ นักไล่ผีผู้มีชื่อเสียงที่ทำงานในเวนิสถึง 40 ปี พ่อพูดกับท่านว่า
"ถ้าผมได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปา ผมจะเรียนพระองค์ว่าผมได้พบสังฆราชจำนวนมากเหลือเกินที่ไม่เชื่อเรื่องปีศาจ" บ่ายวันรุ่งขึ้น พ่อแอร์เนตติกลับมาบอกผมว่าเช้าวันนั้นเอง ท่านได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปา ท่านเรียนพระองค์ว่า "มีนักไล่ผีคนหนึ่งในโรม ชื่อคุณพ่ออามอร์ธ ที่อยากจะเรียนพระองค์ว่าเขารู้จักพระสังฆราชจำนวนมากที่ไม่เชื่อเรื่องปีศาจ"
พระสันตะปาปาตรัสตอบทันทีว่า "ใครที่ไม่เชื่อเรื่องปีศาจ ก็ไม่เชื่อในพระวรสาร" นี่คือสิ่งที่พระสันตะปาปาทรงกล่าว และผมขอนำมาเล่าที่นี่
อีกครั้งนะครับ ถ้าเช่นนั้น คุณพ่อกำลังพูดว่าสังฆราชและสงฆ์จำนวนมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ ผลก็คือ ไม่ใช่คาทอลิก?
ขอให้เราพูดแต่เพียงว่าพวกเขาไม่เชื่อในความจริงของพระวรสาร ดังนั้น พ่อจะหยุดพวกเขาไม่ให้ประกาศความเห็นที่เป็นเฮเรติก แต่ขอให้เราชัดเจนในเรื่องนี้
บุคคลใดเป็นเฮเรติกอย่างเป็นทางการเมื่อเขาหรือเธอได้รับข้อกล่าวหาบางสิ่งและยังคงดื้อรั้นในความผิดนั้น ไม่มีใครในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเราพิจารณาสถานการณ์ในพระศาสนจักร จะกล้ากล่าวหาสังฆราชที่ไม่เชื่อในเรื่องปีศาจ หรือเรื่องการเข้าสิงหรือไม่ยอมแต่งตั้งนักไล่ผีเพราะว่าเขาไม่เชื่อ มิหน้ำซ้ำ
พ่อมีรายชื่อของสังฆราชและคาร์ดินัลหลายคนที่เมื่อได้รับการแต่งตั้งเข้าดูแลสังฆมณฑล พวกเขาปลดพวกนักไล่ผีจากอำนาจหน้าที่ประกอบพิธี หรือมีสังฆราชที่พูดอย่างเปิดเผยว่า พวกเขาไม่เชื่อ นั่นเป็นเรื่องคร่ำครึ
ตัวอย่างเช่น?
สังคายนาวาติกันที่ 2 เรียกร้องให้พิจารณาทบทวนบางข้อความ พวกเขากลับไม่เชื่อฟังคำสั่งนี้ แต่เขียนใหม่ขึ้นทั้งหมด โดยไม่มีความคิดเลยว่ากำลังทำให้ย่ำแย่ลงไม่ใช่ดีขึ้น มีหลายพิธีที่ปรากฏออกมาอย่างแย่ๆ มันมาจากความคลั่งที่จะโยนของเก่าทิ้งและทำอะไรใหม่เอี่ยม ราวกับว่าพระศาสนจักรปัจจุบัน มีแต่เฉพาะเวลานี้เท่านั้นที่ได้ถือกำเนิดบรรดาอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ ซุปเปอร์เทววิทยาแมน ซุปเปอร์พระคัมภีร์แมนและซุปเปอร์พิธีกรรมแมน พวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับพระศาสนจักร นี่เป็นการโกหก!
สังคายนาที่ผ่านมาเพียงแต่บอกให้ทบทวนข้อความ ไม่ใช่ทำลาย พิธีขับไล่ปีศาจ ควรจะชำระให้ถูกต้อง ไม่ใช่ เขียนขึ้นใหม่ พิธีนี้มีบทภาวนาที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ถึง 1200 ปี ก่อนจะยกเลิกบทภาวนาเหล่านั้นซึ่งมีอายุโบราณและพิสูจน์มานับศตวรรษว่าใช้ได้ผล เราควรจะคิดให้นานๆและให้ดีๆ แต่พวกเขาไม่ พวกเรานักไล่ผีที่ลองใช้บทภาวนาในพิธีทดลอง ได้ข้อพิสูจน์ว่าไม่ได้ผล
แต่พิธีล้างบาปเด็กยิ่งออกมาเลวร้ายเสียกว่าอีก นั่นก็เป็นการเขียนใหม่และการขับไล่ซาตานก็ถูกตัดหายไป ทั้งที่เป็นสิ่งสำคัญต่อพระศาสนจักร กระทั่งถูกเรียกว่าเป็นการไล่ผีอย่างเล็กๆ พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ก็ทรงท้วงถึงพิธีใหม่นี้ จารีตพิธีใหม่ในการสวดเบเนดิกเตก็ไม่ดีเหมือนกัน พ่ออ่านทุกบรรทัดของ 1200 หน้านั่น และทุกๆข้อความอ้างอิงถูกตัดออก
กระทั่งข้อความที่ว่าพระองค์ทรงปกป้องเราจากซาตาน และเทวดาต้องคุ้มครองเราจากการโจมตีของปีศาจ พวกเขาถอดบทภาวนาสำหรับการเสกบ้านและโรงเรียน ทุกๆอย่างรับการเสกได้และคุ้มครองได้ แต่วันนี้ เราไม่มีการป้องกันตนจากปีศาจอีกแล้ว พระเยซูเองสอนเราให้สวดภาวนาให้รอดพ้นในบทข้าแต่พระบิดา
"ช่วยเราให้พ้นจากซาตาน" และมีการแปลอย่างผิดพลาดว่า
"ช่วยเราให้พ้นจากความชั่วร้าย" อันหมายไปถึงความชั่วร้ายทั่วๆไปที่เราไม่รู้ต้นตอ แต่ความชั่วร้ายที่พระเยซูคริสต์สอนเราให้ต่อสู้คือบุคคลที่เป็นจริง…ซาตาน
