คุณพ่อคอร์ซี่รักษาปิ่น(เก็จมณี)จากนั่งรถเข็นจนเดินได้
-
- โพสต์: 4
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 18, 2011 1:48 pm
คลิปวิดีโอผมได้บันทึกไว้ที่โทรศัพท์มือถือ พอดีพึ่งค้นพบเจอ ด้วยพระพรจากพระเจ้า เป็นคลิปที่คุณพ่อรักษาคุณปิ่น (เก็จมณี)ที่ป่วยจนเดินไม่ได้ นั่งรถเข็นมารักษากับคุณพ่อคอร์ซี่เมื่อเดือนตุลาคม 2010 ซึ่งเป็นข่าวอันโด่งดังนั้น ก็เนื่องจากความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าและแม่พระ จนทำให้เกิดอัศจรรย์จากป่วยนั่งรถเข็นมาเดินได้ ถ้าเชื่อในพระเจ้าและแม่พระความเจ็บป่วยทุกอย่างจะหายได้ เชื่อผม
มีเรื่องเล่าเสริมครับ อันนี้ได้รวบรวมข้อมูลจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ที่ได้ฟังคุณปิ่นเล่า อาจจะขาดจะเกินบ้าง แต่เนื้อหาใจความหลักๆน่าจะยังตรงความเป็นจริงครับ
คุณปิ่นเองนั้นอาการของเธอหนักมาก กล่าวคือหมอให้ราว90%ว่าไม่หาย เซลล์กระดูกตายไม่สามารถประสานตัวเองได้
เธอบอกว่าสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่ที่ร่างกายแต่ที่จิตใจ เธอไม่สามารถกอดหรือเล่นกับลูกๆได้ เธอไม่สามารถลุกจากรถเข็นได้เลย แม้แต่จะห่มผ้าให้ลูกยังต้องใช้ที่หนีบยาวๆคีบผ้า เพราะลุกจากรถเข็นไม่ได้ เธอร้องไห้ทุกวันตลอด3เดือน
ลองยาและการรักษาทุกแบบและทานยาจนตับและไตเสียหายจนทานยาอะไรไม่ได้แล้ว
เมื่อตอนไปที่วัดมหาไถ่ เธอไปด้วยความไม่เชื่อ แต่เพื่อนที่เป็นคาทอลิกพยายามชักชวนเธอไป เธอไปอย่างเสียไม่ได้ แม้แต่ตอนที่พ่อดึงให้เธอยืนเธอยังสงสัยว่ามันจะได้เหรอ จนเธอลุกขึ้นและเดินไปจนถึงพระแท่นได้
เธอตัดสินใจติดตามไปอีกที่วัดอื่นๆที่คุณพ่อไป เพราะเธอต้องการต้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
จนคุณพ่อได้ให้เธอเป็นผู้ช่วยคือ ช่วยผู้ป่วยหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม คุณพ่อจับมือคุณปิ่นและคุณปิ่นก็จับก้อนเนื้อที่หน้าอกหญิงคนนั้นที่ขนาดเท่าลูกมะนาว เธอบอกว่ารู้สึกถึงพลังซ่านผ่านตัวเธอและก้อนเนื้อนั้นค่อยๆเล็กลงจนหายไปคามือเธอ เหมือนกำก้อนน้ำแข็งที่มันละลายหายไปคามือ
คุณปิ่นกลับบ้านไปด้วยความร้อนรนในจิตวิญญาณ และอัศจรรย์ใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเองจริงๆ
และตอนนี้เธอได้มาเรียนคำสอนที่วัดมหาไถ่ได้2อาทิตย์แล้ว
ขอให้พวกเราสวดภาวนาให้เธอในกระแสเรียกที่พระเจ้าประทานให้เธอ ไม่ใช่เพียงการรักษาเยียวยาฝ่ายกายแต่ที่จิตวิญญาณซึ่งพิเศษกว่าอย่างมาก
มก 5:21-43 พระเยซูเจ้าทรงรักษาหญิงตกเลือด ทรงปลุกบุตรหญิงของไยรัสให้คืนชีพ
เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงเรือข้ามฟากอีกครั้งหนึ่ง ประชาชนชุมนุมกันเนืองแน่นรอบพระองค์ขณะที่ยังทรงอยู่ริมทะเลสาบ หัวหน้าศาลาธรรมคนหนึ่งชื่อไยรัสเดินมา เมื่อเห็นพระองค์ เขากราบลงที่พระบาท พร่ำวิงวอนว่า “บุตรหญิงเล็ก ๆ ของข้าพเจ้าจวนจะสิ้นใจอยู่แล้ว เชิญพระองค์เสด็จไปปกพระหัตถ์เหนือเขาเถิด เขาจะได้หายจากโรค กลับมีชีวิต” พระเยซูเจ้าจึงเสด็จไปกับเขา ประชาชนกลุ่มใหญ่ติดตามไปและเบียดเสียดพระองค์ ขณะนั้น หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกเลือดมาสิบสองปีแล้ว ได้รับความทรมานมากจากการรักษาของแพทย์หลายคน เสียทรัพย์จนหมดสิ้น โรคก็มิได้บรรเทา ตรงกันข้ามกลับทรุดหนัก นางได้ยินเขาพูดกันถึงเรื่องพระเยซูเจ้า จึงเดินปะปนกับประชาชนเข้ามาเบื้องหลัง และสัมผัสฉลองพระองค์ นางคิดว่า ”ถ้าฉันเพียงได้สัมผัสฉลองพระองค์เท่านั้น ฉันก็จะหายจากโรค” ทันใดนั้น อาการตกเลือดก็หยุด นางรู้สึกว่าร่างกายหายจากโรคแล้ว ขณะเดียวกัน พระเยซูเจ้าทรงรู้สึกว่ามีอิทธิฤทธิ์ออกจากพระองค์ไปจึงทรงหันมายังกลุ่มชน ตรัสว่า “ใครสัมผัสเสื้อของเรา บรรดาศิษย์ทูลว่า “พระองค์ทรงเห็นแล้วว่าผู้คนเบียดเสียดกันเช่นนี้ แล้วยังทรงถามอีกหรือว่า “ใครสัมผัสเรา” พระองค์ทรงหันไปรอบ ๆ เพื่อทอดพระเนตรผู้ที่กระทำเช่นนั้น หญิงคนนั้นรู้สึกกลัวจนตัวสั่นเพราะรู้ดีว่าอะไรได้เกิดขึ้นแก่ตน จึงกราบลงเฉพาะพระพักตร์และทูลให้ทรงทราบความจริงทุกประการ พระองค์จึงตรัสว่า “ลูกเอ๋ย ความเชื่อของท่านช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว จงไปเป็นสุข หายจากโรคเถิด” ขณะกำลังตรัสอยู่นั้น มีคนมาจากบ้านหัวหน้าศาลาธรรม บอกเขาว่า “บุตรหญิงของท่านตายแล้ว ไปรบกวนพระอาจารย์อีกทำไมเล่า” แต่พระเยซูเจ้าทรงได้ยินเขาพูดดังนั้น จึงตรัสแก่หัวหน้าศาลาธรรมว่า “อย่ากลัวเลย จงมีความเชื่อไว้เถิด” พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ใครติดตามไปนอกจากเปโตร ยากอบ และยอห์นน้องชายของยากอบ เมื่อทุกคนมาถึงบ้านหัวหน้าศาลาธรรม พระเยซูเจ้าทรงเห็นความวุ่นวาย และเห็นผู้คนร่ำไห้พิลาปรำพันเป็นอันมาก พระองค์เสด็จเข้าไป ตรัสแก่คนเหล่านั้นว่า “วุ่นวายและร้องไห้ไปทำไม เด็กคนนี้ไม่ตาย เพียงแต่นอนหลับไปเท่านั้น” เขาต่างหัวเราะเยาะพระองค์ พระองค์ทรงไล่เขาออกไปข้างนอก ทรงนำบิดามารดาของเด็กและศิษย์ที่ติดตามเข้าไปยังที่ที่เด็กนอนอยู่ ทรงจับมือเด็ก ตรัสว่า “ทาลิธาคูม” แปลว่า “หนูเอ๋ย เราสั่งให้หนูลุกขึ้น” เด็กหญิงนั้นก็ลุกขึ้นทันที และเดินไปมา เด็กนั้นอายุสิบสองขวบแล้ว คนทั้งหลายต่างประหลาดใจอย่างยิ่ง
คุณปิ่นเองนั้นอาการของเธอหนักมาก กล่าวคือหมอให้ราว90%ว่าไม่หาย เซลล์กระดูกตายไม่สามารถประสานตัวเองได้
เธอบอกว่าสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่ที่ร่างกายแต่ที่จิตใจ เธอไม่สามารถกอดหรือเล่นกับลูกๆได้ เธอไม่สามารถลุกจากรถเข็นได้เลย แม้แต่จะห่มผ้าให้ลูกยังต้องใช้ที่หนีบยาวๆคีบผ้า เพราะลุกจากรถเข็นไม่ได้ เธอร้องไห้ทุกวันตลอด3เดือน
ลองยาและการรักษาทุกแบบและทานยาจนตับและไตเสียหายจนทานยาอะไรไม่ได้แล้ว
เมื่อตอนไปที่วัดมหาไถ่ เธอไปด้วยความไม่เชื่อ แต่เพื่อนที่เป็นคาทอลิกพยายามชักชวนเธอไป เธอไปอย่างเสียไม่ได้ แม้แต่ตอนที่พ่อดึงให้เธอยืนเธอยังสงสัยว่ามันจะได้เหรอ จนเธอลุกขึ้นและเดินไปจนถึงพระแท่นได้
เธอตัดสินใจติดตามไปอีกที่วัดอื่นๆที่คุณพ่อไป เพราะเธอต้องการต้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
จนคุณพ่อได้ให้เธอเป็นผู้ช่วยคือ ช่วยผู้ป่วยหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม คุณพ่อจับมือคุณปิ่นและคุณปิ่นก็จับก้อนเนื้อที่หน้าอกหญิงคนนั้นที่ขนาดเท่าลูกมะนาว เธอบอกว่ารู้สึกถึงพลังซ่านผ่านตัวเธอและก้อนเนื้อนั้นค่อยๆเล็กลงจนหายไปคามือเธอ เหมือนกำก้อนน้ำแข็งที่มันละลายหายไปคามือ
คุณปิ่นกลับบ้านไปด้วยความร้อนรนในจิตวิญญาณ และอัศจรรย์ใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเองจริงๆ
และตอนนี้เธอได้มาเรียนคำสอนที่วัดมหาไถ่ได้2อาทิตย์แล้ว
ขอให้พวกเราสวดภาวนาให้เธอในกระแสเรียกที่พระเจ้าประทานให้เธอ ไม่ใช่เพียงการรักษาเยียวยาฝ่ายกายแต่ที่จิตวิญญาณซึ่งพิเศษกว่าอย่างมาก
มก 5:21-43 พระเยซูเจ้าทรงรักษาหญิงตกเลือด ทรงปลุกบุตรหญิงของไยรัสให้คืนชีพ
เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงเรือข้ามฟากอีกครั้งหนึ่ง ประชาชนชุมนุมกันเนืองแน่นรอบพระองค์ขณะที่ยังทรงอยู่ริมทะเลสาบ หัวหน้าศาลาธรรมคนหนึ่งชื่อไยรัสเดินมา เมื่อเห็นพระองค์ เขากราบลงที่พระบาท พร่ำวิงวอนว่า “บุตรหญิงเล็ก ๆ ของข้าพเจ้าจวนจะสิ้นใจอยู่แล้ว เชิญพระองค์เสด็จไปปกพระหัตถ์เหนือเขาเถิด เขาจะได้หายจากโรค กลับมีชีวิต” พระเยซูเจ้าจึงเสด็จไปกับเขา ประชาชนกลุ่มใหญ่ติดตามไปและเบียดเสียดพระองค์ ขณะนั้น หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกเลือดมาสิบสองปีแล้ว ได้รับความทรมานมากจากการรักษาของแพทย์หลายคน เสียทรัพย์จนหมดสิ้น โรคก็มิได้บรรเทา ตรงกันข้ามกลับทรุดหนัก นางได้ยินเขาพูดกันถึงเรื่องพระเยซูเจ้า จึงเดินปะปนกับประชาชนเข้ามาเบื้องหลัง และสัมผัสฉลองพระองค์ นางคิดว่า ”ถ้าฉันเพียงได้สัมผัสฉลองพระองค์เท่านั้น ฉันก็จะหายจากโรค” ทันใดนั้น อาการตกเลือดก็หยุด นางรู้สึกว่าร่างกายหายจากโรคแล้ว ขณะเดียวกัน พระเยซูเจ้าทรงรู้สึกว่ามีอิทธิฤทธิ์ออกจากพระองค์ไปจึงทรงหันมายังกลุ่มชน ตรัสว่า “ใครสัมผัสเสื้อของเรา บรรดาศิษย์ทูลว่า “พระองค์ทรงเห็นแล้วว่าผู้คนเบียดเสียดกันเช่นนี้ แล้วยังทรงถามอีกหรือว่า “ใครสัมผัสเรา” พระองค์ทรงหันไปรอบ ๆ เพื่อทอดพระเนตรผู้ที่กระทำเช่นนั้น หญิงคนนั้นรู้สึกกลัวจนตัวสั่นเพราะรู้ดีว่าอะไรได้เกิดขึ้นแก่ตน จึงกราบลงเฉพาะพระพักตร์และทูลให้ทรงทราบความจริงทุกประการ พระองค์จึงตรัสว่า “ลูกเอ๋ย ความเชื่อของท่านช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว จงไปเป็นสุข หายจากโรคเถิด” ขณะกำลังตรัสอยู่นั้น มีคนมาจากบ้านหัวหน้าศาลาธรรม บอกเขาว่า “บุตรหญิงของท่านตายแล้ว ไปรบกวนพระอาจารย์อีกทำไมเล่า” แต่พระเยซูเจ้าทรงได้ยินเขาพูดดังนั้น จึงตรัสแก่หัวหน้าศาลาธรรมว่า “อย่ากลัวเลย จงมีความเชื่อไว้เถิด” พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ใครติดตามไปนอกจากเปโตร ยากอบ และยอห์นน้องชายของยากอบ เมื่อทุกคนมาถึงบ้านหัวหน้าศาลาธรรม พระเยซูเจ้าทรงเห็นความวุ่นวาย และเห็นผู้คนร่ำไห้พิลาปรำพันเป็นอันมาก พระองค์เสด็จเข้าไป ตรัสแก่คนเหล่านั้นว่า “วุ่นวายและร้องไห้ไปทำไม เด็กคนนี้ไม่ตาย เพียงแต่นอนหลับไปเท่านั้น” เขาต่างหัวเราะเยาะพระองค์ พระองค์ทรงไล่เขาออกไปข้างนอก ทรงนำบิดามารดาของเด็กและศิษย์ที่ติดตามเข้าไปยังที่ที่เด็กนอนอยู่ ทรงจับมือเด็ก ตรัสว่า “ทาลิธาคูม” แปลว่า “หนูเอ๋ย เราสั่งให้หนูลุกขึ้น” เด็กหญิงนั้นก็ลุกขึ้นทันที และเดินไปมา เด็กนั้นอายุสิบสองขวบแล้ว คนทั้งหลายต่างประหลาดใจอย่างยิ่ง
'ปิ่น' ทึ่ง! บาทหลวงรักษากระดูก กลับมามีชีวิตใหม่ ไม่ต้องผ่าตัด
ปิ่น' ทึ่ง! บาทหลวงรักษากระดูก กลับมามีชีวิตใหม่ ไม่ต้องผ่าตัด พร้อมอุทิศตนเพื่อพระเจ้า ตามบาทหลวงไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ แต่ยังหักโหมไม่ได้...
เจอะหน้าสาว ปิ่น-เก็จมณี วรรธนะสิน นักแสดงชื่อดัง ภรรยาสุดเลิฟของเจ้าพ่อแรพเปอร์เมืองไทย เจ-เจต ริน ที่งาน อีเอฟเอ็มฟันแฟร์ จึงขออัพเดตอาการ ป่วยล่าสุด ซึ่งปิ่นเผยด้วยอาการดีใจว่า ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุตกม้า เผยใช้วิธีรักษาโดยการเยียวยาทางเลือกใหม่ กับบาทหลวงท่านหนึ่ง
อาการ ตอนนี้เป็นอย่างไร "ดีขึ้นเรื่อยๆ เดินได้ ไปไหนมาไหนได้ แต่เดินนานไม่ได้ ขับรถได้ แต่ช่วงสั้นๆ ดีใจที่ไม่ต้องผ่าตัด มันเป็นความเชื่อของปิ่นเอง คือได้รักษาแบบทางเลือกเป็นการเยียวยากับบาทหลวง คอซี่ เป็นการเยียวยาผ่านพลังงานของพระเจ้า ทำให้กระดูกของปิ่นที่ตายไปส่วนใหญ่กลับมามีชีวิตอีก" เดิมต้องเข้ารับการผ่าตัด "ใช่คะไปรักษากับบาทหลวงแล้ว จากนั้นกลับไปหาแพทย์ที่ผ่าตัด แพทย์ไปเอกซเรย์หมอตกใจบอกว่ากระดูกที่ตายไปแล้ว กลับมามีชีวิต หมอก็งง ก็ถามปิ่นว่าไปทำไรมา แต่เราไม่ได้พูดอะไร หมอก็บอกไม่ต้องผ่าตัดแล้วเราก็อยากกรี๊ดมาก ตอนนี้อุทิศตนเพื่อพระเจ้าแล้ว ตามบาทหลวงคอซี่ไปทุกที ท่านเป็นบาทหลวงมาจากฟิลิปปินส์ ปกติจะมาเมืองไทยรักษาปีละสองครั้ง ถ้าท่านมาปิ่นก็ไปช่วยท่านทำงานตรงนี้ทำให้เรารู้ว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร ปิ่นรู้สึกดีเวลาที่ช่วยคนอื่นเขาดีขึ้นก็รู้สึกดีขึ้น"
เกิดอัศจรรย์ในร่างกาย "ปิ่นป่วยมา 6 เดือนเราเหมือนได้รักษาแบบการใช้พลัง เป็นการรักษาตามแบบศาสนาคริสต์ที่มีกันมาหลายชั่วอายุคนทำให้กระดูกที่ตายไปแล้ว ก็กลับมามีชีวิตเหมือนมีเลือดมาหล่อเลี้ยงอัศจรรย์ ไม่เชื่อก็ไม่ได้ ปิ่นไม่ได้เล่นของเชื่อหลักเป็นเหตุเป็นผล เห็นด้วยตามาแล้ว"
ร่างกายตอนนี้หักโหมได้มากขนาดไหน "หักโหมไม่ได้วันหนึ่งทำกิจกรรมได้อย่างเดียว ถ้าใช้งานเยอะกระดูกที่จะต่อก็ไม่ต่อโดยเฉพาะด้านซ้ายที่ได้ผ่าเอาไว้ คือเป็นลักษณะที่เอากระดูกมาปั้นแล้วติดกาวเอาไว้ ผ่าตัดข้างเดียว ซ้าย แต่ก็ไม่ต้องผ่าแล้วถ้าไม่ได้ไปหกล้ม"
ฟังเสียงสัมภาษณ์ ปิ่น-เก็จมณี ได้ที่โทร. *7172193 ค่าบริการนาทีละ 3
บาท (ไม่ร่วมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) สำหรับลูกค้าเครือข่ายดีแทค
ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/ent/126978
ปิ่น' ทึ่ง! บาทหลวงรักษากระดูก กลับมามีชีวิตใหม่ ไม่ต้องผ่าตัด พร้อมอุทิศตนเพื่อพระเจ้า ตามบาทหลวงไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ แต่ยังหักโหมไม่ได้...
เจอะหน้าสาว ปิ่น-เก็จมณี วรรธนะสิน นักแสดงชื่อดัง ภรรยาสุดเลิฟของเจ้าพ่อแรพเปอร์เมืองไทย เจ-เจต ริน ที่งาน อีเอฟเอ็มฟันแฟร์ จึงขออัพเดตอาการ ป่วยล่าสุด ซึ่งปิ่นเผยด้วยอาการดีใจว่า ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุตกม้า เผยใช้วิธีรักษาโดยการเยียวยาทางเลือกใหม่ กับบาทหลวงท่านหนึ่ง
อาการ ตอนนี้เป็นอย่างไร "ดีขึ้นเรื่อยๆ เดินได้ ไปไหนมาไหนได้ แต่เดินนานไม่ได้ ขับรถได้ แต่ช่วงสั้นๆ ดีใจที่ไม่ต้องผ่าตัด มันเป็นความเชื่อของปิ่นเอง คือได้รักษาแบบทางเลือกเป็นการเยียวยากับบาทหลวง คอซี่ เป็นการเยียวยาผ่านพลังงานของพระเจ้า ทำให้กระดูกของปิ่นที่ตายไปส่วนใหญ่กลับมามีชีวิตอีก" เดิมต้องเข้ารับการผ่าตัด "ใช่คะไปรักษากับบาทหลวงแล้ว จากนั้นกลับไปหาแพทย์ที่ผ่าตัด แพทย์ไปเอกซเรย์หมอตกใจบอกว่ากระดูกที่ตายไปแล้ว กลับมามีชีวิต หมอก็งง ก็ถามปิ่นว่าไปทำไรมา แต่เราไม่ได้พูดอะไร หมอก็บอกไม่ต้องผ่าตัดแล้วเราก็อยากกรี๊ดมาก ตอนนี้อุทิศตนเพื่อพระเจ้าแล้ว ตามบาทหลวงคอซี่ไปทุกที ท่านเป็นบาทหลวงมาจากฟิลิปปินส์ ปกติจะมาเมืองไทยรักษาปีละสองครั้ง ถ้าท่านมาปิ่นก็ไปช่วยท่านทำงานตรงนี้ทำให้เรารู้ว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร ปิ่นรู้สึกดีเวลาที่ช่วยคนอื่นเขาดีขึ้นก็รู้สึกดีขึ้น"
เกิดอัศจรรย์ในร่างกาย "ปิ่นป่วยมา 6 เดือนเราเหมือนได้รักษาแบบการใช้พลัง เป็นการรักษาตามแบบศาสนาคริสต์ที่มีกันมาหลายชั่วอายุคนทำให้กระดูกที่ตายไปแล้ว ก็กลับมามีชีวิตเหมือนมีเลือดมาหล่อเลี้ยงอัศจรรย์ ไม่เชื่อก็ไม่ได้ ปิ่นไม่ได้เล่นของเชื่อหลักเป็นเหตุเป็นผล เห็นด้วยตามาแล้ว"
ร่างกายตอนนี้หักโหมได้มากขนาดไหน "หักโหมไม่ได้วันหนึ่งทำกิจกรรมได้อย่างเดียว ถ้าใช้งานเยอะกระดูกที่จะต่อก็ไม่ต่อโดยเฉพาะด้านซ้ายที่ได้ผ่าเอาไว้ คือเป็นลักษณะที่เอากระดูกมาปั้นแล้วติดกาวเอาไว้ ผ่าตัดข้างเดียว ซ้าย แต่ก็ไม่ต้องผ่าแล้วถ้าไม่ได้ไปหกล้ม"
ฟังเสียงสัมภาษณ์ ปิ่น-เก็จมณี ได้ที่โทร. *7172193 ค่าบริการนาทีละ 3
บาท (ไม่ร่วมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) สำหรับลูกค้าเครือข่ายดีแทค
ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/ent/126978
-
- โพสต์: 4
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 18, 2011 1:48 pm
ขอพรพระเยซูเจ้าและอำนาจพระจิตโปรดบันดาลให้ผู้ป่วยทุกคนหายจากทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยด้วยเถิด คลิปวีดีโอของผมนี้ส่วนดีที่ทำให้ทุกคนเชื่อในพระเจ้า ขอมอบให้กับผู้ที่เชื่อในพระเจ้าครับ
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
อัลเลลูยา สรรเสริญพระเจ้า
มีพี่ที่เป็นหมอกระดูก บอกให้เขารับรู้เรื่องนี้ เขาบอกว่าคนไข้สามารถหายได้โดยการทำกายภาพบำบัด ซึ่งอาจจะประจวบเหมาะพอดี เฮ้อคนที่ไม่เชื่อจะพูด จะบอกยังไงเขาก็ไม่เชื่อ พี่เขาไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่เชื่อเรื่องการนั่งสมาธิเพื่อที่จะรู้อนาคต เพื่อที่จะรู้ว่าชาติที่แล้วเกิดเป็นอะไร แต่พี่เขาเป็นคนดีมาก ประสบความสำเร็จในชีวิต พี่เขาก็ดีกับเรามาก
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
คุณพ่อมาที่เมืองไทย โดยมีกำหนดการที่แน่นอนครับ
โดยท่านจะไปตามวัดต่าง ๆ เพื่อเป็นท่อธารพระหรรษทานจากพระเจ้า
ลองติดตามข่าวสารจากคณะพระเมตตานะครับ
ทุกอย่าง เป็นไปได้ทั้ง สำหรับผู้มีความเชื่อ
โดยท่านจะไปตามวัดต่าง ๆ เพื่อเป็นท่อธารพระหรรษทานจากพระเจ้า
ลองติดตามข่าวสารจากคณะพระเมตตานะครับ
ทุกอย่าง เป็นไปได้ทั้ง สำหรับผู้มีความเชื่อ
ช่วงปาสกานี้ คุณพ่อคอร์ซี่จะมาเมืองไทยนะครับ
ระหว่างวันที่ 10-19 เม.ย. 2012 (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)
...วันอังคารที่ 10 เม.ย. วัดอัสสัม พัทยา
โดยพระคุณเจ้าเทียนชัยเป็นประธาน เริ่ม 13.00 น.
...วันพุธ ที่ 11 เม.ย. วัดน.โทมัน ไควนัส ราคำแหง มีนบุรี เวลา 9.00 น.
...วันอังคาร 17 เม.ย. วัดเซนต์หลุยส์ สาทร กทม. เวลา 13.00 น.
...วันพุธทีที่ 18 เม.ย. วัดอัครเทวดามีคาแอล ดอนกระเบื้อง บ้านโป่ง ราชบุรี เวลา 13.00 น.
...วันพฤหัสฯที่ 19 เม.ย. วัดซางตาครู้ส (วัดกุฏีจีน) เวลา 13.00 น.
ขอบคุณfacebook โบสถ์คาทอลิกบางแสนที่ช่วยกระจายข่าว
____
แถมคลิปคำพยานปิ่น รายการ ราตรีสโมสร
ระหว่างวันที่ 10-19 เม.ย. 2012 (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)
...วันอังคารที่ 10 เม.ย. วัดอัสสัม พัทยา
โดยพระคุณเจ้าเทียนชัยเป็นประธาน เริ่ม 13.00 น.
...วันพุธ ที่ 11 เม.ย. วัดน.โทมัน ไควนัส ราคำแหง มีนบุรี เวลา 9.00 น.
...วันอังคาร 17 เม.ย. วัดเซนต์หลุยส์ สาทร กทม. เวลา 13.00 น.
...วันพุธทีที่ 18 เม.ย. วัดอัครเทวดามีคาแอล ดอนกระเบื้อง บ้านโป่ง ราชบุรี เวลา 13.00 น.
...วันพฤหัสฯที่ 19 เม.ย. วัดซางตาครู้ส (วัดกุฏีจีน) เวลา 13.00 น.
ขอบคุณfacebook โบสถ์คาทอลิกบางแสนที่ช่วยกระจายข่าว
____
แถมคลิปคำพยานปิ่น รายการ ราตรีสโมสร