เหอ เหอ เดี๋ยวก็ลงเวปธรรมฑูต 555 พิมพ์ส่งแย้ว ถึงมือพ่อตั้งกะเมื่อวานนี้†Ecclēsia เขียน:คริคริคริ...ม่ายบอก:+: seraphim :+: เขียน: มันจะนอกสัมภาษณ์ไปมะ ถ้าอยากบอกว่า อยากฟังของน้องเจนอ่ะ หรือพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยก็ได้
คริสตังยืน พลังศรัทธา และความร้อนรน
พี่จะสวดสายประคำพระเมตตาให้น้องหญิงฟิม 1 สายแทนน้องหน่อย "sinner" เอามั้ย..? แต่ไม่ใช่คืนนี้นะ จะสวดให้คืนพรุ่งนี้..:+: seraphim :+: เขียน:sinner เขียน: เหอ เหอ แกล้งแซวหน่อยเดียวอ่ะค่ะ
อิอิ....ไปสวดใช้โทษบาปให้พี่ซะดีดี อย่ารีรอ
หรือคืนวันอาทิตย์ล่ะ เสร็จจากเข้าวัดแล้ว..ตอนกลางคืน เลือกตอนไหน..จ๊ะ
- Ecclēsia
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
อะไรอ่า ไม่รู้เรื่องอ่า... เพี๊ยง! ไฟล์จงเปิดไม่ได้sinner เขียน:เหอ เหอ เดี๋ยวก็ลงเวปธรรมฑูต 555 พิมพ์ส่งแย้ว ถึงมือพ่อตั้งกะเมื่อวานนี้†Ecclēsia เขียน:คริคริคริ...ม่ายบอก:+: seraphim :+: เขียน: มันจะนอกสัมภาษณ์ไปมะ ถ้าอยากบอกว่า อยากฟังของน้องเจนอ่ะ หรือพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยก็ได้
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ignatius เขียน:พี่จะสวดสายประคำพระเมตตาให้น้องหญิงฟิม 1 สายแทนน้องหน่อย "sinner" เอามั้ย..? แต่ไม่ใช่คืนนี้นะ จะสวดให้คืนพรุ่งนี้..:+: seraphim :+: เขียน:sinner เขียน: เหอ เหอ แกล้งแซวหน่อยเดียวอ่ะค่ะ
อิอิ....ไปสวดใช้โทษบาปให้พี่ซะดีดี อย่ารีรอ
หรือคืนวันอาทิตย์ล่ะ เสร็จจากเข้าวัดแล้ว..ตอนกลางคืน เลือกตอนไหน..จ๊ะ
ความรับผิดชอบเท่าดาราราดัง ขอบคุณพี่หญิงเจ้าคะ ตอนไหนก็ได้น้องรับหมด
sinner เขียน:เด๋ว คืนนี้สวดชดใช้ให้ค่ะ:+: seraphim :+: เขียน:sinner เขียน: เหอ เหอ แกล้งแซวหน่อยเดียวอ่ะค่ะ
อิอิ....ไปสวดใช้โทษบาปให้พี่ซะดีดี อย่ารีรอ
ขอบคุณเจ้าคะ ช่วงนี้สะสมคำภาวนา อิอิอิ....
sinner เขียน:เหอ เหอ เดี๋ยวก็ลงเวปธรรมฑูต 555 พิมพ์ส่งแย้ว ถึงมือพ่อตั้งกะเมื่อวานนี้†Ecclēsia เขียน:คริคริคริ...ม่ายบอก:+: seraphim :+: เขียน: มันจะนอกสัมภาษณ์ไปมะ ถ้าอยากบอกว่า อยากฟังของน้องเจนอ่ะ หรือพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยก็ได้
เอามาลงที่นี่ด้วยนะตะเอง อ่านแต่อิสระอ่ะ
:+: seraphim :+: เขียน:Holy เขียน: ว่าจะให้คนพิมพ์แล้วแสกนรูปลงด้วย
ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเอง
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เจ๊ฟิม ต้องมานั่งพิมพ์เอง ตั้งหลายหน้าแน่ะ สงสารจัง ซึ้งน้ำใจแบบสุดๆ
ขอบคุณพี่โอ๋ น้องเท็น น้องเล็กด้วยค่ะ สำหรับการแบ่งปัน ฝ่าฟันกันมาแบบสุดๆ กว่าจะถึงวันนี้
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Buddy เขียน::+: seraphim :+: เขียน:Holy เขียน: ว่าจะให้คนพิมพ์แล้วแสกนรูปลงด้วย
ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเอง
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เจ๊ฟิม ต้องมานั่งพิมพ์เอง ตั้งหลายหน้าแน่ะ สงสารจัง ซึ้งน้ำใจแบบสุดๆ
ยินดีจ้า....
จะบอกว่า ไม่แปลกเลยที่พี่โอ๋เลือกนักบุญอิกญาซิโอมาเป็นองค์อุปถัมภ์ : emo045 : เพราะตอนที่พระเรียกพี่มานั้น เหมือนตอนที่เรียกท่านมาบวชเลยค่ะ คือผิดหวังจากทางโลก และมาเจอพระคัมภีร์ และได้สัมผัสถึง consolation (ตอนที่ต้องป่วย นอนรักษาขา เดินไปไหนไม่ได้น่ะค่ะ)ignatius เขียน:มารายงานตัวแล้วจ้า น้องหญิงฟิม..แหม คณะรักสมุทรไพศาลจะดังก็คราวนี้แหละ..อิอิ:+: seraphim :+: เขียน:Holy เขียน: ว่าจะให้คนพิมพ์แล้วแสกนรูปลงด้วย
ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเอง
มาช้าดีกว่าไม่มานะคะ น้องจัดการพิมพ์ให้เสร็จเรียบร้อยโรงเรียน ไทย จีน คริสต์ อิสลาม ไปหมดแล้ว..
พี่ก็คงได้แต่บอกว่า "สำเนาถูกต้อง" แหละคะ
ของตัวเองจะตรงข้าม ที่บ้านไม่เท่าไหร่ สวดสายประคำคืนเดียวก็หาย เปลี่ยนไปแบบไม่น่าเชื่อ เรียกว่า ตื่นเช้ามาเปลี่ยน ยังกะว่า ตอนกลางคืนที่ทะเลาะกัน โดนผีสิงแบบนั้นเลย พอเช้ามาไม่มีอะไรเกิดขึ้น และก็ออกแนวสนับสนุนอีกด้วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่เคยโดนประจญจากคนพุทธเลย มีแต่จากคริสตังนอน ...:+: seraphim :+: เขียน: มันจะนอกสัมภาษณ์ไปมะ ถ้าอยากบอกว่า อยากฟังของน้องเจนอ่ะ หรือพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยก็ได้
คริสตังนอนเป็นทั้งอุปสรรคและแรงดึงดูด เข้ามาเป็นคาทอลิกเพราะมีเพื่อนคนนึง เป็นคริสตังนอน ไม่เชื่อว่า พระเจ้ามีจริง นั่งว่าพระต่างๆนานา ว่าคนที่เชื่อพระเจ้าต่างๆนานา และขณะที่ด่านั้น มีแรงดึงดูดประหลาดที่อยากให้เราเข้าไปค้นหาว่า คาทอลิกเป็นยังไง ก็เลยเริ่มศึกษา ตอนแรกก็ศึกษาจากคริสตังที่ดูศรัทธา แรกๆก็ดี ต่อมาก็กระแนะกระแหนว่า "แม่พระน่ะ ไม่มีทางที่จะรักคนที่เข้ามาศรัทธาใหม่ มากเท่ากับคริสตังนอนหรอกนะ จะบอกให้" ประมาณนั้น (ตอนนั้นเจ็บแบบสุดๆ แต่ไม่โกรธนะ เพราะตอนนั้นเชื่อไปว่า คงเป็นแบบนั้นจริงๆ... เป็นบาดแผลในใจอยู่นานเหมือนกัน กว่าจะหาย ) และก็เจอพ่อที่สอนคำสอนที่ เค้ามีอคติในใจว่า เราไม่ได้เอาจริง มาแล้วเดี๋ยวก็ไป ไม่ต้องไปจริงจัง ไปสอนอะไรมันมาก (แต่สุดท้ายก็ได้ล้างบาปกับพ่อองค์นี้ล่ะค่ะ) และก็เจอที่ร้ายๆอีกหลายเคสเหมือนกัน ก่อนล้างบาปไม่รู้เป็นไร ไม่เคยเจอคริสตังนอนที่ศรัทธาๆ ..ใจดีๆเลย เจอแต่ร้ายๆ จนไม่ค่อยอยากจะคุยกับใคร หรือถามกับใคร อาศัยอ่านเอง สวดเอง เพราะกลัว ..... มาเจอคนดีๆ ตอนล้างบาปแล้ว แต่สิ่งที่เห็นคืออะไรรู้มั้ยคะ คือความรักของพระที่มีต่อเรา มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน ไม่รู้จะอธิบายยังไง คือเห็นคนที่ร้ายๆแบบนั้นน่ะ เค้าอาจจะร้ายกับเรานะ แต่เรารู้สึกว่า เค้ามีพระอยู่กับเค้า บอกไม่ถูกเหมือนกัน เราจะรู้ว่า เค้าจะพิเศษ ไม่เหมือนกับคนอื่น อธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะ
คือ คริสตังนอนอาจไม่รู้ตัวนะคะว่า ตัวเอง "พิเศษ" แต่คนที่ไม่ได้รับศีลล้างบาป เค้าจะเห็นบางอย่างในคุณ ที่มันพิเศษ ไม่เหมือนคนอื่น ศีลล้างบาปเปลี่ยนเราในระดับวิญญาณ บางคนอาจจะคิดว่า เรามันก็ธรรมดาๆ เงินก็อาจจะไม่ค่อยมี แต่ขอให้รู้ไว้ว่า การเป็นลูกพระนี่ มันพิเศษจริงๆ ชีวิตในพระหรรษทานกับนอกพระหรรษทานนั้น ต่างกันมากๆ
มาแย้วค่ะ ตามคำสัญญา
มารีอา ลอเรนซ์ ฉมามาศ (น้องเจน)
1996-1999 ภาพยนต์เรื่องAmadeus เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของนักดนตรีชื่อ Mozart ภาพยนต์เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักศีลอภัยบาป และด้วยสติปัญญาในตอนนั้นก็คิดว่า เพราะตัวอิจฉาโมสาร์ทที่พระเจ้าอวยพรให้โมสาร์ทมีความสามารถมากกว่า จึงกล่าวหาพระ และในที่สุดเอากางเขนไปเผาไฟ ทิ้งพระเจ้าไปเลย ทำให้ช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาก็อยากฆ่าตัวตาย และไปลงเอยที่โรงพยาบาลบ้าขอให้บาปหลวงมาแก้บาป
2000 พบกับใบปลิวของพี่น้องคริสเตียน ได้รู้เรื่องพระเยซูมากขึ้น เนื่อหาของใบปลิวนั้น มีคำพยานของผู้ชายคนหนึ่งและข้อความที่เขียนว่า เพราะบาปทำให้มีหน้าผาเกิดขึ้น แยกเราจากพระเจ้า และกางเขนของพระเยซูคือสะพานเชื่อมเรากับพระเจ้า ในตอนนั้นเกิดความสนใจจึงเริ่มไม่สวดมนต์ตอนเช้าในโรงเรียน และอาจารย์ก็ไม่เชื่อเพราะนึกว่าเราหาข้ออ้างเพื่อไม่สวดมนต์จึงสั่งห้ามเสมอๆ แต่เราก็ยังแอบทำ ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่โรงเรียนพานักเรียนไปแสดงตนเป็นพุทธมามกะ อาจารย์จึงบังคับให้เข้าร่วมพิธี หลังจากนั้นจึงเป็นช่วงที่ข้าพเจ้าถือตามศาสนาเดิมต่อ
2004 ได้รับการประกาศจากลุ่มพยานพระยะโฮวาโดยมิชชันนารีชาวเอเชียแต่ไม่ใช่คนไทย ที่บ้านของคุณยายที่จ.ชัยภูมิ แต่ในช่วงนั้นอ่านจากเอกสารเขาแจกกับฟังสำเนียงของมิชชันนารีไม่ชัดเจน ในช่วงเวลาเดียวกันได้พบกับอาจารย์สอนเปียโนซึ่งเป็นคริสเตียน ซึ่งในภายหลังอาจารย์ท่านนี้เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่ช่วยปรับความเข้าใจกับคุณพ่อและคุณแม่ และเป็นตัวอย่างที่ดีว่า
มารีอา ลอเรนซ์ ฉมามาศ (น้องเจน)
1996-1999 ภาพยนต์เรื่องAmadeus เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของนักดนตรีชื่อ Mozart ภาพยนต์เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักศีลอภัยบาป และด้วยสติปัญญาในตอนนั้นก็คิดว่า เพราะตัวอิจฉาโมสาร์ทที่พระเจ้าอวยพรให้โมสาร์ทมีความสามารถมากกว่า จึงกล่าวหาพระ และในที่สุดเอากางเขนไปเผาไฟ ทิ้งพระเจ้าไปเลย ทำให้ช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาก็อยากฆ่าตัวตาย และไปลงเอยที่โรงพยาบาลบ้าขอให้บาปหลวงมาแก้บาป
2000 พบกับใบปลิวของพี่น้องคริสเตียน ได้รู้เรื่องพระเยซูมากขึ้น เนื่อหาของใบปลิวนั้น มีคำพยานของผู้ชายคนหนึ่งและข้อความที่เขียนว่า เพราะบาปทำให้มีหน้าผาเกิดขึ้น แยกเราจากพระเจ้า และกางเขนของพระเยซูคือสะพานเชื่อมเรากับพระเจ้า ในตอนนั้นเกิดความสนใจจึงเริ่มไม่สวดมนต์ตอนเช้าในโรงเรียน และอาจารย์ก็ไม่เชื่อเพราะนึกว่าเราหาข้ออ้างเพื่อไม่สวดมนต์จึงสั่งห้ามเสมอๆ แต่เราก็ยังแอบทำ ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่โรงเรียนพานักเรียนไปแสดงตนเป็นพุทธมามกะ อาจารย์จึงบังคับให้เข้าร่วมพิธี หลังจากนั้นจึงเป็นช่วงที่ข้าพเจ้าถือตามศาสนาเดิมต่อ
2004 ได้รับการประกาศจากลุ่มพยานพระยะโฮวาโดยมิชชันนารีชาวเอเชียแต่ไม่ใช่คนไทย ที่บ้านของคุณยายที่จ.ชัยภูมิ แต่ในช่วงนั้นอ่านจากเอกสารเขาแจกกับฟังสำเนียงของมิชชันนารีไม่ชัดเจน ในช่วงเวลาเดียวกันได้พบกับอาจารย์สอนเปียโนซึ่งเป็นคริสเตียน ซึ่งในภายหลังอาจารย์ท่านนี้เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่ช่วยปรับความเข้าใจกับคุณพ่อและคุณแม่ และเป็นตัวอย่างที่ดีว่า
[quote="sinner"]
มาแย้วค่ะ ตามคำสัญญา
มารีอา ลอเรนซ์ ฉมามาศ (น้องเจน)
1996-1999 ภาพยนต์เรื่องAmadeus เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของนักดนตรีชื่อ Mozart ภาพยนต์เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักศีลอภัยบาป และด้วยสติปัญญาในตอนนั้นก็คิดว่า เพราะตัวอิจฉาโมสาร์ทที่พระเจ้าอวยพรให้โมสาร์ทมีความสามารถมากกว่า จึงกล่าวหาพระ และในที่สุดเอากางเขนไปเผาไฟ ทิ้งพระเจ้าไปเลย ทำให้ช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาก็อยากฆ่าตัวตาย และไปลงเอยที่โรงพยาบาลบ้าขอให้บาปหลวงมาแก้บาป
2000 พบกับใบปลิวของพี่น้องคริสเตียน ได้รู้เรื่องพระเยซูมากขึ้น เนื่อหาของใบปลิวนั้น มีคำพยานของผู้ชายคนหนึ่งและข้อความที่เขียนว่า เพราะบาปทำให้มีหน้าผาเกิดขึ้น แยกเราจากพระเจ้า และกางเขนของพระเยซูคือสะพานเชื่อมเรากับพระเจ้า ในตอนนั้นเกิดความสนใจจึงเริ่มไม่สวดมนต์ตอนเช้าในโรงเรียน และอาจารย์ก็ไม่เชื่อเพราะนึกว่าเราหาข้ออ้างเพื่อไม่สวดมนต์จึงสั่งห้ามเสมอๆ แต่เราก็ยังแอบทำ ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่โรงเรียนพานักเรียนไปแสดงตนเป็นพุทธมามกะ อาจารย์จึงบังคับให้เข้าร่วมพิธี หลังจากนั้นจึงเป็นช่วงที่ข้าพเจ้าถือตามศาสนาเดิมต่อ
2004 ได้รับการประกาศจากลุ่มพยานพระยะโฮวาโดยมิชชันนารีชาวเอเชียแต่ไม่ใช่คนไทย ที่บ้านของคุณยายที่จ.ชัยภูมิ แต่ในช่วงนั้นอ่านจากเอกสารเขาแจกกับฟังสำเนียงของมิชชันนารีไม่ชัดเจน ในช่วงเวลาเดียวกันได้พบกับอาจารย์สอนเปียโนซึ่งเป็นคริสเตียน ซึ่งในภายหลังอาจารย์ท่านนี้เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่ช่วยปรับความเข้าใจกับคุณพ่อและคุณแม่ และเป็นตัวอย่างที่ดีว่า
มาแย้วค่ะ ตามคำสัญญา
มารีอา ลอเรนซ์ ฉมามาศ (น้องเจน)
1996-1999 ภาพยนต์เรื่องAmadeus เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของนักดนตรีชื่อ Mozart ภาพยนต์เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักศีลอภัยบาป และด้วยสติปัญญาในตอนนั้นก็คิดว่า เพราะตัวอิจฉาโมสาร์ทที่พระเจ้าอวยพรให้โมสาร์ทมีความสามารถมากกว่า จึงกล่าวหาพระ และในที่สุดเอากางเขนไปเผาไฟ ทิ้งพระเจ้าไปเลย ทำให้ช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาก็อยากฆ่าตัวตาย และไปลงเอยที่โรงพยาบาลบ้าขอให้บาปหลวงมาแก้บาป
2000 พบกับใบปลิวของพี่น้องคริสเตียน ได้รู้เรื่องพระเยซูมากขึ้น เนื่อหาของใบปลิวนั้น มีคำพยานของผู้ชายคนหนึ่งและข้อความที่เขียนว่า เพราะบาปทำให้มีหน้าผาเกิดขึ้น แยกเราจากพระเจ้า และกางเขนของพระเยซูคือสะพานเชื่อมเรากับพระเจ้า ในตอนนั้นเกิดความสนใจจึงเริ่มไม่สวดมนต์ตอนเช้าในโรงเรียน และอาจารย์ก็ไม่เชื่อเพราะนึกว่าเราหาข้ออ้างเพื่อไม่สวดมนต์จึงสั่งห้ามเสมอๆ แต่เราก็ยังแอบทำ ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่โรงเรียนพานักเรียนไปแสดงตนเป็นพุทธมามกะ อาจารย์จึงบังคับให้เข้าร่วมพิธี หลังจากนั้นจึงเป็นช่วงที่ข้าพเจ้าถือตามศาสนาเดิมต่อ
2004 ได้รับการประกาศจากลุ่มพยานพระยะโฮวาโดยมิชชันนารีชาวเอเชียแต่ไม่ใช่คนไทย ที่บ้านของคุณยายที่จ.ชัยภูมิ แต่ในช่วงนั้นอ่านจากเอกสารเขาแจกกับฟังสำเนียงของมิชชันนารีไม่ชัดเจน ในช่วงเวลาเดียวกันได้พบกับอาจารย์สอนเปียโนซึ่งเป็นคริสเตียน ซึ่งในภายหลังอาจารย์ท่านนี้เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่ช่วยปรับความเข้าใจกับคุณพ่อและคุณแม่ และเป็นตัวอย่างที่ดีว่า
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
สงสัยเจ้าค่ะ ::029:: คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง ยืนตากลม ::022:: หรือ ยืนตากลม ค่ะ?sinner เขียน:
1 ต.ค. 2006 ตัดสินเข้าใจมาที่วัดอัสสัมชัญ เข้ามิสซารอบ 5 โมงเย็น หลังจากเข้าไปร่วมพิธีด้วยความงงงวย แล้วก็ออกมาพบคุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง ซึ่งยืนตากลมอยู่หน้าวัด จึงเข้าไปสอบถาม คุณพ่อจึงแนะนำให้ไปเรียนคำสอนกับคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์
ขอบคุณคะน้องส้มที่ให้กำลังใจกัน..และหนทางนี้ของเราทุกคนยังอีกไกลBuddy เขียน::+: seraphim :+: เขียน:Holy เขียน: ว่าจะให้คนพิมพ์แล้วแสกนรูปลงด้วย
ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเอง
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เจ๊ฟิม ต้องมานั่งพิมพ์เอง ตั้งหลายหน้าแน่ะ สงสารจัง ซึ้งน้ำใจแบบสุดๆ : xemo023 :
ขอบคุณพี่โอ๋ น้องเท็น น้องเล็กด้วยค่ะ สำหรับการแบ่งปัน ฝ่าฟันกันมาแบบสุดๆ กว่าจะถึงวันนี้ : emo045 :
ก็ต้องได้แรงกำลังใจกัน หนุนใจกันแบบนี้ไปตลอดแหละจ๊ะ ขอบคุณแทนน้องๆอีก 2 คนด้วย..
อ้อ..น้องรวิพรรณ หรือ เท็น ก็น้อง"อัครอี๊ประจำบอร์ดนี้"แหละคะ
สังเกตุได้ว่า เธอเป็นดั่งเกลือดองโลกจริงๆ
มัทธิว 5:13
"ท่านทั้งหลายเป็นเกลือดองแผ่นดิน
ถ้าเกลือจืดไปแล้ว จะเอาอะไรมาทำให้เค็มอีกเล่า
เกลือนั้นย่อมไร้ประโยชน์อะไร นอกจากจะทิ้งให้คนเหยียบยำ่"
ส่วนน้องเล็ก ลลิตา ก็คนกันเอง ไดโนเซารัสประจำคณะรักสมุทรไพศาลไงค่ะ..
Buddy เขียน:ignatius เขียน::+: seraphim :+: เขียน:
ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเอง
มารายงานตัวแล้วจ้า น้องหญิงฟิม..แหม คณะรักสมุทรไพศาลจะดังก็คราวนี้แหละ..อิอิ
มาช้าดีกว่าไม่มานะคะ น้องจัดการพิมพ์ให้เสร็จเรียบร้อยโรงเรียน ไทย จีน คริสต์ อิสลาม ไปหมดแล้ว..
พี่ก็คงได้แต่บอกว่า "สำเนาถูกต้อง" แหละคะ
จะบอกว่า ไม่แปลกเลยที่พี่โอ๋เลือกนักบุญอิกญาซิโอมาเป็นองค์อุปถัมภ์ เพราะตอนที่พระเรียกพี่มานั้น เหมือนตอนที่เรียกท่านมาบวชเลยค่ะ คือผิดหวังจากทางโลก และมาเจอพระคัมภีร์ และได้สัมผัสถึง consolation (ตอนที่ต้องป่วย นอนรักษาขา เดินไปไหนไม่ได้น่ะค่ะ)
ท่านนักบุญอิกญาซีโอ..เป็นต้นฉบับที่พี่ชอบมากๆเลยคะ..ใช่เลยๆ
พี่ว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตพวกเราทุกคนก็คือBuddy เขียน:ของตัวเองจะตรงข้าม ที่บ้านไม่เท่าไหร่ สวดสายประคำคืนเดียวก็หาย เปลี่ยนไปแบบไม่น่าเชื่อ เรียกว่า ตื่นเช้ามาเปลี่ยน ยังกะว่า ตอนกลางคืนที่ทะเลาะกัน โดนผีสิงแบบนั้นเลย พอเช้ามาไม่มีอะไรเกิดขึ้น และก็ออกแนวสนับสนุนอีกด้วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่เคยโดนประจญจากคนพุทธเลย มีแต่จากคริสตังนอน ...แหะ แหะ แบบนี้ พวกเราก็เริ่มมาเจอกันบ้างแล้วคะ..:+: seraphim :+: เขียน: มันจะนอกสัมภาษณ์ไปมะ ถ้าอยากบอกว่า อยากฟังของน้องเจนอ่ะ หรือพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยก็ได้
คริสตังนอนเป็นทั้งอุปสรรคและแรงดึงดูด เข้ามาเป็นคาทอลิกเพราะมีเพื่อนคนนึง เป็นคริสตังนอน ไม่เชื่อว่า พระเจ้ามีจริง นั่งว่าพระต่างๆนานา ว่าคนที่เชื่อพระเจ้าต่างๆนานา และขณะที่ด่านั้น มีแรงดึงดูดประหลาดที่อยากให้เราเข้าไปค้นหาว่า คาทอลิกเป็นยังไง ก็เลยเริ่มศึกษา ตอนแรกก็ศึกษาจากคริสตังที่ดูศรัทธา แรกๆก็ดี ต่อมาก็กระแนะกระแหนว่า "แม่พระน่ะ ไม่มีทางที่จะรักคนที่เข้ามาศรัทธาใหม่ มากเท่ากับคริสตังนอนหรอกนะ จะบอกให้" ประมาณนั้น (ตอนนั้นเจ็บแบบสุดๆ แต่ไม่โกรธนะ เพราะตอนนั้นเชื่อไปว่า คงเป็นแบบนั้นจริงๆ... เป็นบาดแผลในใจอยู่นานเหมือนกัน กว่าจะหาย ) และก็เจอพ่อที่สอนคำสอนที่ เค้ามีอคติในใจว่า เราไม่ได้เอาจริง มาแล้วเดี๋ยวก็ไป ไม่ต้องไปจริงจัง ไปสอนอะไรมันมาก (แต่สุดท้ายก็ได้ล้างบาปกับพ่อองค์นี้ล่ะค่ะ) และก็เจอที่ร้ายๆอีกหลายเคสเหมือนกัน ก่อนล้างบาปไม่รู้เป็นไร ไม่เคยเจอคริสตังนอนที่ศรัทธาๆ ..ใจดีๆเลย เจอแต่ร้ายๆ จนไม่ค่อยอยากจะคุยกับใคร หรือถามกับใคร อาศัยอ่านเอง สวดเอง เพราะกลัว ..... มาเจอคนดีๆ ตอนล้างบาปแล้ว แต่สิ่งที่เห็นคืออะไรรู้มั้ยคะ คือความรักของพระที่มีต่อเรา มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน ไม่รู้จะอธิบายยังไง คือเห็นคนที่ร้ายๆแบบนั้นน่ะ เค้าอาจจะร้ายกับเรานะ แต่เรารู้สึกว่า เค้ามีพระอยู่กับเค้า บอกไม่ถูกเหมือนกัน เราจะรู้ว่า เค้าจะพิเศษ ไม่เหมือนกับคนอื่น อธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะ
ใช่คะ พี่เห็นด้วยนะ พี่เองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
คือ คริสตังนอนอาจไม่รู้ตัวนะคะว่า ตัวเอง "พิเศษ" แต่คนที่ไม่ได้รับศีลล้างบาป เค้าจะเห็นบางอย่างในคุณ ที่มันพิเศษ ไม่เหมือนคนอื่น ศีลล้างบาปเปลี่ยนเราในระดับวิญญาณ บางคนอาจจะคิดว่า เรามันก็ธรรมดาๆ เงินก็อาจจะไม่ค่อยมี แต่ขอให้รู้ไว้ว่า การเป็นลูกพระนี่ มันพิเศษจริงๆ ชีวิตในพระหรรษทานกับนอกพระหรรษทานนั้น ต่างกันมากๆ
ได้มารู้จักและรักพระ เป็น"ลูกพระ" นี่แหละคะ ใช่เลย !
คริคริคริ... มาวันเสาร์ไม่ได้หรอ จะได้ขอแบ่งปันความประทับใจจากคุณลลิตาด้วยคน (โดยเฉพาะไอติม)†Ecclēsia เขียน:คริคริคริ...ม่ายบอก:+: seraphim :+: เขียน: มันจะนอกสัมภาษณ์ไปมะ ถ้าอยากบอกว่า อยากฟังของน้องเจนอ่ะ หรือพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยก็ได้
ปล. อ่านเเล้วประทับใจจังค่ะ (โดยเฉพาะคุณลลิตา วันอาทิตย์นี้เลี้ยงไอติม 555 )
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ เสาร์ ก.ย. 12, 2009 12:32 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
:+: seraphim :+: เขียน:Holy เขียน: ว่าจะให้คนพิมพ์แล้วแสกนรูปลงด้วย
ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเอง
อย่าเลยขอรับท่านพี่หญิงฟิม:+: seraphim :+: เขียน: เฮือก.... พิมพ์เสร็จแล้วปอปอจัดการใส่รูปให้หน่อยนะคะ จริงๆ ไม่ได้ขยันนะเนี่ย แต่รับปากบัดดี้ไว้ต้องทำตามที่บอกอ่ะ
อะเหะๆๆๆ ได้ขอรับ:+: seraphim :+: เขียน: ไม่ได้เจ้าคะ ดาราสาวทั้งสามต้องมาใช้โทษบาปโดยการสวดให้ข้าพจ้อยบัดเดี๋ยวนี้
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ เสาร์ ก.ย. 12, 2009 12:54 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
มาขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยตนเองค่ะBuddy เขียน::+: seraphim :+: เขียน:Holy เขียน: ว่าจะให้คนพิมพ์แล้วแสกนรูปลงด้วย
ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเอง
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เจ๊ฟิม ต้องมานั่งพิมพ์เอง ตั้งหลายหน้าแน่ะ สงสารจัง ซึ้งน้ำใจแบบสุดๆ : xemo023 :
ขอบคุณพี่โอ๋ น้องเท็น น้องเล็กด้วยค่ะ สำหรับการแบ่งปัน ฝ่าฟันกันมาแบบสุดๆ กว่าจะถึงวันนี้ : emo045 :
ignatius เขียน:
อ้อ..น้องรวิพรรณ หรือ เท็น ก็น้อง"อัครอี๊ประจำบอร์ดนี้"แหละคะ
สังเกตุได้ว่า เธอเป็นดั่งเกลือดองโลกจริงๆ
มัทธิว 5:13
"ท่านทั้งหลายเป็นเกลือดองแผ่นดิน
ถ้าเกลือจืดไปแล้ว จะเอาอะไรมาทำให้เค็มอีกเล่า
เกลือนั้นย่อมไร้ประโยชน์อะไร นอกจากจะทิ้งให้คนเหยียบยำ่"
แหม พี่โอ๋ก็...
ignatius เขียน: พี่ว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตพวกเราทุกคนก็คือ
ได้มารู้จักและรักพระ เป็น"ลูกพระ" นี่แหละคะ ใช่เลย !
สำเนาถูกต้องค่ะ
- Ecclēsia
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
สนองสนอง มีข้อเเม้ว่า เลี้ยงตอน17.15 น. นะจ๊ะ หึหึ หึหึViridian เขียน:คริคริคริ... มาวันเสาร์ไม่ได้หรอ จะได้ขอแบ่งปันความประทับใจจากคุณลลิตาด้วยคน (โดยเฉพาะไอติม)†Ecclēsia เขียน:คริคริคริ...ม่ายบอก:+: seraphim :+: เขียน: มันจะนอกสัมภาษณ์ไปมะ ถ้าอยากบอกว่า อยากฟังของน้องเจนอ่ะ หรือพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยก็ได้
ปล. อ่านเเล้วประทับใจจังค่ะ (โดยเฉพาะคุณลลิตา วันอาทิตย์นี้เลี้ยงไอติม 555 )
- Ecclēsia
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
"ตาก" งับ มิใช่ ตา กลมกรอกสมบูรณ์ เขียน:สงสัยเจ้าค่ะ คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง ยืนตากลม หรือ ยืนตากลม ค่ะ?sinner เขียน:
1 ต.ค. 2006 ตัดสินเข้าใจมาที่วัดอัสสัมชัญ เข้ามิสซารอบ 5 โมงเย็น หลังจากเข้าไปร่วมพิธีด้วยความงงงวย แล้วก็ออกมาพบคุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง ซึ่งยืนตากลมอยู่หน้าวัด จึงเข้าไปสอบถาม คุณพ่อจึงแนะนำให้ไปเรียนคำสอนกับคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
มาแล้วเจ้าค่ะ เหอๆ ไม่คิดว่าจะเอาลงจริงๆ นะเจ้าคะ สรุปว่า ดังซะแล้ว:+: seraphim :+: เขียน:ไม่ต้องพิมพ์จ้า... พี่ขอให้แอดมินอิสระส่งต้นฉบับมาให้แล้ว เห็นว่า จะส่งวันนี้ เพราะพ่อที่เมกาขอไปเป็นบทเทศน์ 3 สาวจะโกอินเตอร์ในบทเทศน์ขอพ่อว่าแต่ว่า ทำไมเงียบจัง ไม่มาแสดงตัวกันหน่อยเหรอตะเองHoly เขียน: ว่าจะให้คนพิมพ์แล้วแสกนรูปลงด้วย
จริงๆแล้ว ยังไม่ได้อ่านที่ตัวเองสัมภาษเลยเจ้าค่ะ แหะๆ ขอบพระคุณที่เอามาลงให้ค่ะ เลยได้อ่านซะที
อย่าเลยเจ้าค่า เดี๋ยวจะหลอนทั้งบอร์ด:+: seraphim :+: เขียน: เฮือก.... พิมพ์เสร็จแล้วปอปอจัดการใส่รูปให้หน่อยนะคะ จริงๆ ไม่ได้ขยันนะเนี่ย แต่รับปากบัดดี้ไว้ต้องทำตามที่บอกอ่ะ
รับแซ่บเจ้าค่า พี่หญิงฟิมสุดสวย:+: seraphim :+: เขียน: ไม่ได้เจ้าคะ ดาราสาวทั้งสามต้องมาใช้โทษบาปโดยการสวดให้ข้าพจ้อยบัดเดี๋ยวนี้
ยังอยู่บ้านอยู่เลย วันนี้คงไม่ได้ออกไปไหนอ่ะจ้า พี่เท็นอดๆ†Ecclēsia เขียน:สนองสนอง มีข้อเเม้ว่า เลี้ยงตอน17.15 น. นะจ๊ะ หึหึ หึหึViridian เขียน:คริคริคริ... มาวันเสาร์ไม่ได้หรอ จะได้ขอแบ่งปันความประทับใจจากคุณลลิตาด้วยคน (โดยเฉพาะไอติม)†Ecclēsia เขียน: คริคริคริ...ม่ายบอก
ปล. อ่านเเล้วประทับใจจังค่ะ (โดยเฉพาะคุณลลิตา วันอาทิตย์นี้เลี้ยงไอติม 555 )
ป.ล.พรุ่งนี้แหละเนอะ ว่าแต่เลี้ยงด้วยเหตุอันใดหรือจ๊ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ก.ย. 12, 2009 4:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
ignatius เขียน:
ส่วนน้องเล็ก ลลิตา ก็คนกันเอง ไดโนเซารัสประจำคณะรักสมุทรไพศาลไงค่ะ..
จริงๆในบางครั้ง ผมก็อิจฉาคริสตังนอนเหมือนกัน เพราะได้ซึมซับพระศาสนจักร และพระคัมภีร์มาตั้งแต่เด็กๆ ได้เข้าวัด ได้ร่วมงานต่างๆกับครอบครัว สำหรับผม ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองรึปาว ผมรู้สึกว่า ครอบครัวของผมเริ่มจะเหมือนกับขัดขวางเล็กๆแล้ว
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อย ผมว่าเรื่องคริสตังยืนหรือนอนใครมีความเชื่อร้อนรนกว่ากันเนี่ย แล้วแต่คนหนะ บางคน (ซึ่งผมคิดว่าน้อยคน) ที่เป็นคริสตังนอนจะมีความร้อนรนที่พอเทียบเึคียงกับคริสตังยืนได้
ผมเป็นคริสตังนอนที่่เคยอยู่ในสภาพเดียวกันกับคริสตังหลาย ๆ คน คือ ขาดพลัง มาฟังมิสซา พอจบมิสซาแล้วก็จบกัน ไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับกิจกรรมวัดเท่าไหร่
ผมไม่แน่ใจว่า ผมเริ่มแสวงหาพระเจ้าอย่างจริง ๆ จัง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ น่าจะเป็นช่วงปีสุดท้ายตอนเรียนมหาวิทยาลัย ก็มีเพื่อน พาเข้ากลุ่ม เยาวชนเพื่อพระคริสต์ (YFC หรือ Youth For Christ) กิจกรรมกลุ่มนี้เป็นของกลุ่มฟิลิิปปินส์เสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีของคนไทยด้วย แต่จะอยู่ทางอีสานเสียส่วนใหญ่ครับ กิจกรรมจะไม่เหมือนกับชมรมคาทอลิกที่ผมเข้าสักเท่าไหร่ ถ้าพูดตามตรง กิจกรรมของชมรมคาทอลิก ก็จะเดิม ๆ เช่น ไปเยี่ยมผู้สูงอายุ เยี่ยมเด็กกำพร้า เข้าเงียบ(อยากจะบอกว่า ไม่เงียบสมชื่อเลย 5555) ภาวนาแบบเทเซ่ อะไรทำนองนี้ จะบอกว่าสิ่งที่ชมรมคาทอลิกแบบไทย ๆ เราขาดเป็นอย่างแรงคือ ด้า่น Spiritual ไม่รู้จะแปลเป็นไทยว่ายังไง ก็แปลว่าว่า ด้านจิตวิญญาณก็แล้วกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คาทอลิกในไทยของเราขาดพลัง และไม่กระตือรือล้นนั่นเอง พอเข้ากิจกรรมนั่นนี่ก็จบและไม่ได้มีการนำไปใช้
สิ่งที่ผมได้พบเห็นจากการเข้ากิจกรรมของกลุ่ม YFC คือ เขามีการสรรเสริญนมัสการพระเจ้า (อย่าพึ่งเข้าใจว่าเป็นคริสเตียนนะครับ) มีการล้างในพระจิต มีการร้องเพลงสรรเสริญที่สนุกและซึ้งไปในคราวเดียว และเนื้อหาของกิจกรรมส่วนใหญ่ได้มีการเรียบเรียงเป็นอย่างดีและพร้อมที่จะนำมาใช้ทำกิจกรรมได้เสมอ (ประมาณว่ามีคู่มือทำกิจกรรมเลยก็ว่าได้) และมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกเดือน มีเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจเช่นกัน
บอกตามตรงว่า ที่ผมเข้ากลุ่ม YFC ผมรู้สึกเฉย ๆ ไม่ค่อยสัมผัสจิตใจผมเท่าไหร่นัก คงเป็นเพราะว่า ผมเข้ากลุ่มนี้ตอนอายุเยอะแล้ว YFC จะเหมาะสำหรับวัยรุ่นหรือเยาวชนมากกว่า ในช่วงนั้นผมแสวงหาสิ่งที่ลึกซึ้งและจริงจังมากกว่าที่ YFC เป็น พอหลังจากผมเรียนจบมหาวิทยาลัย เพื่อนผมที่เป็นมิชชันนารี ก็ชวนผมให้เข้ากลุ่ม คนโสดเพื่อพระคริสต์ (SFC หรือ Singles For Christ) กลุ่มนี้จะเหมาะสำหรับคนที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน และเป็นโสด
พอได้เข้า SFC ขอบอกว่าใช่สำหรับผม เนื้อหาในการอบรมเหมาะสำหรับคนทำงานหรือผู้ใหญ่อย่างเรามาก ๆ พอได้เข้าอบรมที่เขาเรียกว่า CLP หรือ Christian Life Program หรือชื่อภาษาไทยก็คือ การอบรมฟื้นฟูชีวิตคริสตชน แต่กลุ่มนี้ยังไม่มีการอบรมเป็นภาษาไทยครับ เพราะคนไทยน้อย ถ้าใครภาษาอังกฤษดี ๆ ก็ชวนเข้ากลุ่มนี้นะครับ ถ้ามีคนไทยเยอะ ๆ แล้วจะได้จัดกิจกรรมเป็นภาษาไทยบ้าง พอผมได้เข้าอบรมและได้เข้าร่วมพิธีล้างในพระจิตแล้วรู้สึกว่าทำให้รักพระมากขึ้น ชีวิตของผมมีความกล้าที่จะประกาศตนการเป็นคริสตชน และมีไฟอยากจะรับใช้พระศาสนจักร และผมเคยคิดอยากจะเป็นคนบรรยายในการอบรมนี้ด้วยซ้ำ
ต่อมาผมก็ได้เข้าอบรมฟื้นฟูชีวิตคริสตชนของกลุ่มคู่สมรสเพื่อพระคริสต์ของกลุ่มคนไทย ก็ได้รู้จักลุง ๆ ป้า ๆ หลายคน และในกลุ่มนี้ได้อาจารย์อารมณ์ (นามสกุลจำไม่ได้) ลุงจิมมี่ เป็นวิทยากร ซึ่งแต่ละคนเยี่ยม ๆ ทั้งนั้นทำให้เก็ตอารมณ์มากกว่ากลุ่มฟิลิปปินส์ แต่ผมว่าเนื้อหาอาจจะไม่แน่นเท่าของกลุ่มฟิลิปปินส์เท่าไหร่ แม้ว่ากลุ่มคนไทยเนื้อหาจะไม่แน่น แต่สิ่งที่เรามีเหนือกว่ากลุ่มฟิลิปปินส์คือ มีพระสังฆราชโยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีล มาเป็นผู้อวยพรศีลทุกครั้งที่มีการอบรม รวมถึงเป็นประธานตอนทำพิธีล้างในพระจิตด้วย ซึ่งทำเอาใครหลาย ๆ คนล้มไปตาม ๆ กัน ผมก็หนึ่งในนั้น รูปกิจกรรมเดี๋ยวผมจะรีบนำมาอัพโหลดให้ดูนะครับ (แอบน้อยใจ อัพโหลดไว้ในเวปอื่นไม่มีคนสนใจ อิ ๆ)
นี่แหละที่ผมจะบอกว่าคริสตังนอนทั้งหลายเนี่ย ขาดการฟื้นฟูพลังของพระจิต ทำให้เราแต่ละคนขาดพลัง ขาดการกระตือรือร้นในกิจกรรมต่าง ๆ พอผมได้รับการฟื้นฟูจากตัวกิจกรรมนี้แล้วทำให้ชีวิตทางความเชื่อของผมร้อนแรงกว่าเก่ามาก ผมก็อยากให้เพื่อน ๆ พี่น้องทุกคนสัมผัสพลังอันเร่าร้อนแบบผมบ้างจัง
ผมเป็นคริสตังนอนที่่เคยอยู่ในสภาพเดียวกันกับคริสตังหลาย ๆ คน คือ ขาดพลัง มาฟังมิสซา พอจบมิสซาแล้วก็จบกัน ไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับกิจกรรมวัดเท่าไหร่
ผมไม่แน่ใจว่า ผมเริ่มแสวงหาพระเจ้าอย่างจริง ๆ จัง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ น่าจะเป็นช่วงปีสุดท้ายตอนเรียนมหาวิทยาลัย ก็มีเพื่อน พาเข้ากลุ่ม เยาวชนเพื่อพระคริสต์ (YFC หรือ Youth For Christ) กิจกรรมกลุ่มนี้เป็นของกลุ่มฟิลิิปปินส์เสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีของคนไทยด้วย แต่จะอยู่ทางอีสานเสียส่วนใหญ่ครับ กิจกรรมจะไม่เหมือนกับชมรมคาทอลิกที่ผมเข้าสักเท่าไหร่ ถ้าพูดตามตรง กิจกรรมของชมรมคาทอลิก ก็จะเดิม ๆ เช่น ไปเยี่ยมผู้สูงอายุ เยี่ยมเด็กกำพร้า เข้าเงียบ(อยากจะบอกว่า ไม่เงียบสมชื่อเลย 5555) ภาวนาแบบเทเซ่ อะไรทำนองนี้ จะบอกว่าสิ่งที่ชมรมคาทอลิกแบบไทย ๆ เราขาดเป็นอย่างแรงคือ ด้า่น Spiritual ไม่รู้จะแปลเป็นไทยว่ายังไง ก็แปลว่าว่า ด้านจิตวิญญาณก็แล้วกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คาทอลิกในไทยของเราขาดพลัง และไม่กระตือรือล้นนั่นเอง พอเข้ากิจกรรมนั่นนี่ก็จบและไม่ได้มีการนำไปใช้
สิ่งที่ผมได้พบเห็นจากการเข้ากิจกรรมของกลุ่ม YFC คือ เขามีการสรรเสริญนมัสการพระเจ้า (อย่าพึ่งเข้าใจว่าเป็นคริสเตียนนะครับ) มีการล้างในพระจิต มีการร้องเพลงสรรเสริญที่สนุกและซึ้งไปในคราวเดียว และเนื้อหาของกิจกรรมส่วนใหญ่ได้มีการเรียบเรียงเป็นอย่างดีและพร้อมที่จะนำมาใช้ทำกิจกรรมได้เสมอ (ประมาณว่ามีคู่มือทำกิจกรรมเลยก็ว่าได้) และมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกเดือน มีเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจเช่นกัน
บอกตามตรงว่า ที่ผมเข้ากลุ่ม YFC ผมรู้สึกเฉย ๆ ไม่ค่อยสัมผัสจิตใจผมเท่าไหร่นัก คงเป็นเพราะว่า ผมเข้ากลุ่มนี้ตอนอายุเยอะแล้ว YFC จะเหมาะสำหรับวัยรุ่นหรือเยาวชนมากกว่า ในช่วงนั้นผมแสวงหาสิ่งที่ลึกซึ้งและจริงจังมากกว่าที่ YFC เป็น พอหลังจากผมเรียนจบมหาวิทยาลัย เพื่อนผมที่เป็นมิชชันนารี ก็ชวนผมให้เข้ากลุ่ม คนโสดเพื่อพระคริสต์ (SFC หรือ Singles For Christ) กลุ่มนี้จะเหมาะสำหรับคนที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน และเป็นโสด
พอได้เข้า SFC ขอบอกว่าใช่สำหรับผม เนื้อหาในการอบรมเหมาะสำหรับคนทำงานหรือผู้ใหญ่อย่างเรามาก ๆ พอได้เข้าอบรมที่เขาเรียกว่า CLP หรือ Christian Life Program หรือชื่อภาษาไทยก็คือ การอบรมฟื้นฟูชีวิตคริสตชน แต่กลุ่มนี้ยังไม่มีการอบรมเป็นภาษาไทยครับ เพราะคนไทยน้อย ถ้าใครภาษาอังกฤษดี ๆ ก็ชวนเข้ากลุ่มนี้นะครับ ถ้ามีคนไทยเยอะ ๆ แล้วจะได้จัดกิจกรรมเป็นภาษาไทยบ้าง พอผมได้เข้าอบรมและได้เข้าร่วมพิธีล้างในพระจิตแล้วรู้สึกว่าทำให้รักพระมากขึ้น ชีวิตของผมมีความกล้าที่จะประกาศตนการเป็นคริสตชน และมีไฟอยากจะรับใช้พระศาสนจักร และผมเคยคิดอยากจะเป็นคนบรรยายในการอบรมนี้ด้วยซ้ำ
ต่อมาผมก็ได้เข้าอบรมฟื้นฟูชีวิตคริสตชนของกลุ่มคู่สมรสเพื่อพระคริสต์ของกลุ่มคนไทย ก็ได้รู้จักลุง ๆ ป้า ๆ หลายคน และในกลุ่มนี้ได้อาจารย์อารมณ์ (นามสกุลจำไม่ได้) ลุงจิมมี่ เป็นวิทยากร ซึ่งแต่ละคนเยี่ยม ๆ ทั้งนั้นทำให้เก็ตอารมณ์มากกว่ากลุ่มฟิลิปปินส์ แต่ผมว่าเนื้อหาอาจจะไม่แน่นเท่าของกลุ่มฟิลิปปินส์เท่าไหร่ แม้ว่ากลุ่มคนไทยเนื้อหาจะไม่แน่น แต่สิ่งที่เรามีเหนือกว่ากลุ่มฟิลิปปินส์คือ มีพระสังฆราชโยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีล มาเป็นผู้อวยพรศีลทุกครั้งที่มีการอบรม รวมถึงเป็นประธานตอนทำพิธีล้างในพระจิตด้วย ซึ่งทำเอาใครหลาย ๆ คนล้มไปตาม ๆ กัน ผมก็หนึ่งในนั้น รูปกิจกรรมเดี๋ยวผมจะรีบนำมาอัพโหลดให้ดูนะครับ (แอบน้อยใจ อัพโหลดไว้ในเวปอื่นไม่มีคนสนใจ อิ ๆ)
นี่แหละที่ผมจะบอกว่าคริสตังนอนทั้งหลายเนี่ย ขาดการฟื้นฟูพลังของพระจิต ทำให้เราแต่ละคนขาดพลัง ขาดการกระตือรือร้นในกิจกรรมต่าง ๆ พอผมได้รับการฟื้นฟูจากตัวกิจกรรมนี้แล้วทำให้ชีวิตทางความเชื่อของผมร้อนแรงกว่าเก่ามาก ผมก็อยากให้เพื่อน ๆ พี่น้องทุกคนสัมผัสพลังอันเร่าร้อนแบบผมบ้างจัง