+ คริสตชนชาวปาเลสไตน์ - ไม่มีทางออกง่าย ๆ คำพยานของ อิมม์ บาเซ็ม +
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 19, 2009 2:49 am
ไม่มีทางออกง่าย ๆ – อิมม์ บาเซ็ม
พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้าเป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพเพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า (เยเรมีย์ 29:11)
เรามาจากจอร์แดน จะข้ามไปยังอิสราเอล เราพบแต่ทหาร...ทหารเต็มไปหมด มีทหารขึ้นมาบนรถโดยสารของเรา โดยตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัยขณะเรามาถึงทางข้ามแม่น้ำจอร์แดน พวกเขาจับตาดูเราอย่างใกล้ชิดขณะที่รถโดยสารออกจากสถานีปลายทาง ขณะผ่านภูเขามะกอกเทศ เราเห็นกลุ่มทหารคอยดูแลความปลอดภัยที่จุดอันตราย ซึ่งเป็นทางผ่านเพื่อไปยังเบธเลเฮม นี่แหละ...แผ่นดินอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ พื้นที่ซึ่งมีแต่ความไม่แน่นอนทางการเมือง พื้นที่ซึ่งไม่อาจวางใจได้ว่าจะมีสันติภาพได้นาน

โยฮานและฉันตั้งใจจะไปที่วิทยาลัยพระคริสตธรรมเบธเลเฮม ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของการเดินทางไปเยี่ยมประเทศในตะวันออกกลางสามแห่งเป็นเวลาสองสัปดาห์ เราลงจากรถโดยสารและเดินไปที่วิทยาลัย แล้วเที่ยวหาจนพบสำนักงานของอเล็กซ์ อาร์ท ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน เมื่อเขาเห็นเรา ก็ลุกขึ้นมาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“ยินดีต้อนรับ! ดีใจจริง ๆ ที่ได้พบคุณทั้งสอง” เขายิ้มกว้างขณะจับมือทักทายเรา หลังจากที่ได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่เลบานอนและจอร์แดน เราก็เริ่มชินกับการต้อนรับด้วยน้ำใจแบบชาวตะวันออกกลาง เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นอย่างที่เราไม่พบเห็นที่ไหนในโลก
หลังจากที่เรานั่งลงสบาย ๆ ในห้องทำงานของเขาแล้ว เขากล่าวว่า “เอาละช่วยบอกผมหน่อยว่า คุณอยากดูอะไรบ้าง อยากพบใครบ้าง” คำกล่าวของเขาทำให้เรานึกได้ว่า ยังไม่ได้สำรวจอิสราเอลหรือเยรูซาเล็มเลย “เรามีมัคคุเทศก์ที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ที่พร้อมที่จะพาคุณไปทุกแห่งที่อยากไป”
โยฮานยิ้ม “ผมรู้ว่าหลายคนมาเพื่อชมสถานที่สำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์ แต่เรามาเพื่อจะพบกับสิ่งที่คุณเรียกว่า ’ศิลาที่มีชีวิต’ เราอยากพบกับผู้คนจากเวสต์แบงค์ และฟังเรื่องราวชีวิตของเขา”
บราเธอร์แอนดรูว์เคยเล่าถึงความทุกข์ยากของชาวปาเลสไตน์ให้เราฟังมามาก อยู่ได้ไม่นานฉันก็พบว่าวิทยาลัยพระคริสตธรรมแห่งนี้เป้นมากกว่าโรงเรียนสอนพระคัมภีร์ เพราะที่นี่เป็นทั้งที่ลี้ภัย ที่ให้ความช่วยเหลือ และเป็นความหวังของผู้คนในเมืองใกล้ ๆ และคนในค่ายผู้อพยพด้วย
พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้าเป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพเพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า (เยเรมีย์ 29:11)
เรามาจากจอร์แดน จะข้ามไปยังอิสราเอล เราพบแต่ทหาร...ทหารเต็มไปหมด มีทหารขึ้นมาบนรถโดยสารของเรา โดยตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัยขณะเรามาถึงทางข้ามแม่น้ำจอร์แดน พวกเขาจับตาดูเราอย่างใกล้ชิดขณะที่รถโดยสารออกจากสถานีปลายทาง ขณะผ่านภูเขามะกอกเทศ เราเห็นกลุ่มทหารคอยดูแลความปลอดภัยที่จุดอันตราย ซึ่งเป็นทางผ่านเพื่อไปยังเบธเลเฮม นี่แหละ...แผ่นดินอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ พื้นที่ซึ่งมีแต่ความไม่แน่นอนทางการเมือง พื้นที่ซึ่งไม่อาจวางใจได้ว่าจะมีสันติภาพได้นาน

โยฮานและฉันตั้งใจจะไปที่วิทยาลัยพระคริสตธรรมเบธเลเฮม ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของการเดินทางไปเยี่ยมประเทศในตะวันออกกลางสามแห่งเป็นเวลาสองสัปดาห์ เราลงจากรถโดยสารและเดินไปที่วิทยาลัย แล้วเที่ยวหาจนพบสำนักงานของอเล็กซ์ อาร์ท ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน เมื่อเขาเห็นเรา ก็ลุกขึ้นมาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“ยินดีต้อนรับ! ดีใจจริง ๆ ที่ได้พบคุณทั้งสอง” เขายิ้มกว้างขณะจับมือทักทายเรา หลังจากที่ได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่เลบานอนและจอร์แดน เราก็เริ่มชินกับการต้อนรับด้วยน้ำใจแบบชาวตะวันออกกลาง เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นอย่างที่เราไม่พบเห็นที่ไหนในโลก
หลังจากที่เรานั่งลงสบาย ๆ ในห้องทำงานของเขาแล้ว เขากล่าวว่า “เอาละช่วยบอกผมหน่อยว่า คุณอยากดูอะไรบ้าง อยากพบใครบ้าง” คำกล่าวของเขาทำให้เรานึกได้ว่า ยังไม่ได้สำรวจอิสราเอลหรือเยรูซาเล็มเลย “เรามีมัคคุเทศก์ที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ที่พร้อมที่จะพาคุณไปทุกแห่งที่อยากไป”
โยฮานยิ้ม “ผมรู้ว่าหลายคนมาเพื่อชมสถานที่สำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์ แต่เรามาเพื่อจะพบกับสิ่งที่คุณเรียกว่า ’ศิลาที่มีชีวิต’ เราอยากพบกับผู้คนจากเวสต์แบงค์ และฟังเรื่องราวชีวิตของเขา”
บราเธอร์แอนดรูว์เคยเล่าถึงความทุกข์ยากของชาวปาเลสไตน์ให้เราฟังมามาก อยู่ได้ไม่นานฉันก็พบว่าวิทยาลัยพระคริสตธรรมแห่งนี้เป้นมากกว่าโรงเรียนสอนพระคัมภีร์ เพราะที่นี่เป็นทั้งที่ลี้ภัย ที่ให้ความช่วยเหลือ และเป็นความหวังของผู้คนในเมืองใกล้ ๆ และคนในค่ายผู้อพยพด้วย