Belong to the Truth Jesus Christ

สิ่งแรกที่หนูน้อยแบร์นาแด๊ตกระทำสิ่งแรกแบบไม่ต้องคิดเมือได้แลเห็น " สตรีในชุดขาว " โดยที่ยังไม่รู้จักเลยว่าสตรีผู้นั้นเป็นใคร เธอ… "หยิบสายประคำขึ้นมาสวด " ด้วยความหวัง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับแบร์นาแด๊ต ช่วยให้เราทราบว่า การสวดคือการแสดงออกซึ่งความหวัง และการสวดภาวนาคือการคิดคำนึงถึงพระเป็นเจ้านั้น สามารถเกิดขึ้นที่ใดก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใด ๆ

คำพูดของแม่พระที่แบร์นาแด๊ตบันทึกไว้เป็นภาษาท้องถิ่น เมื่อ 24 ตุลาคม ค.ศ.1865 แปลได้ความว่า

" ฉันไม่สัญญาให้เธอมีความสุขในโลกนี้แต่เป็นในโลกหน้า " แต่หากเราคิดรำพึงตามแบร์นาแด๊ตจริง ๆจะเห็นว่า มีหลายสิ่งที่บ่งถึงความสุขที่แบร์นาแด๊ตจะได้รับตั้งแต่ในโลกนี้แล้ว



ความสุขที่ได้ไปที่ถ้ำ

แบร์นาแด๊ตบันทึกไว้ 6 ครั้งถึงความสุขที่ได้ไปที่ถ้ำ แม้จะเป็นการไปโดยไม่ได้รับอนุญาตก็ตาม เพราะเมื่อบวชเป็นซิสเตอร์อยู่ที่เมืองเนอแวรส์แบร์นาแด๊ตมิอาจเดินทางไปที่ถ้ำได้จริง ๆแต่เธอยังคงไปที่ถ้ำถึงเมืองลูร์ดได้ในความคิด…ท่าทีเช่นนี้แสดงให้เร าเห็นว่า แม้หลายครั้งเราไม่อาจไปวัดหรือไปอยู่หรือสถานที่ที่จัดไว้สำหรับการสวดภาวนาหรือเราอาจเจ็บป่วยจนไม่อาจไปวัดได้ เราก็ยังสามารถสวดภาวนาได้เสมอ เพราะร่างการของเรานั่นแหละ คือสถานที่ที่เราสามารถสวดภาวนาและแสดงความรักต่อพระเป็นเจ้าได้

ความสุขและความทุกข์ทรมาน

ตลอดชีวิตแบร์นาแด๊ตมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางเพื่อนมนุษย์ เธอมีความสุขในการใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนซิสเตอร์ในอาราม " ดิฉันมีความสุขเมื่อบอกกับเพื่อน ๆซิสเตอร์ว่า ความทุกข์ทรมานที่สุดของดิฉันคือการที่ไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆได้เหมือนพวกเธอ และไม่สามารถกระทำตามกฎเกณฑ์ของคณะได้เสมอไป " สำหรับเราก็เช่นกัน บางครั้งเมื่อเราเป็นทุกข์ใจ หรือเมื่อประสบความยา กลำบากอย่างมากมักจะมีคนรอบข้างช่วยปลอบใจหรือยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จึงขอให้เราอย่าปิดกั้นตนเองและยอมรับความช่วยเหลือนั้น

ความสุขในการตอบรับกระแสเรียก

เช่นเดียวกับเราทุกคน แบร์นาแด๊ตได้รับกระแสเรียกเป็นการส่วนตัว เธอยอมรับและได้บวชเป็นซิสเตอร์ และได้ " ลิ้มรสแห่งความสุขที่บริสุทธิ์ที่สุด " พระคริสตเจ้าทรงนำทางเธอไปตามเส้นทางแห่งความสุข ดังที่พระองค์ทรงนำเราทุกคนไปตามเส้นทางที่แตกต่างกัน พระองค์มิได้ทรงเรียกเราเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ทรงเรียกซ้ำระหว่างที่เราเดินทางอยู่บ่อย ๆ จึงขอให้เราตั้งใจฟั งเสียงของพระองค์ให้ดี พระองค์ทรงรอให้สนองตอบพระองค์ด้วยความรัก คำตอบของแต่ละคนคงจะไม่เหมือนกัน เพราะเป็นคำตอบสายตรงระหว่างใจของเรากับพระหฤทัยของพระคริสตเจ้าเท่านั้น

ความสุขในการรักพระเป็นเจ้า

แบร์นาแด๊ตเชื้อเชิญทุกคนให้ได้รับความสุข คือการเดินตามทางความรักของพระเป็นเจ้า แบร์นาแด๊ตเขียนจดหมายถึงนิโกเลา ลูกทูนหัวของเธอว่า " ลูกรัก เธอจะมีความสุขโดยเฉพาะเมื่อเธอรักพระเป็นเจ้าผู้ทรงพระทัยดี " เธอเขียนในลักษณะเดียวกันถึงมารีย์ พี่สาวว่า " เป็นความจริงทีเดียว จงรักพระเป็นเจ้าผู้ทรงพระทัยดี ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะนี่คือความสุขสูงสุดที่เราจ ะสามารถมีได้ขณะที่ยังอยู่ในโลกนี้ เพราะพระองค์เพียงผู้เดียวที่ทรงสามารถประทานความสุขนิรันดรในสวรรค์แก่เราได้ "

นอกจากนั้นแบร์นาแด๊ตยังได้เชื้อเชิญเรา ให้ทำตามคำเชิญด้วยการปฏิบัติในชีวิตจริงอีกด้วย " ดิฉันขอแนะนำให้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของคริสตชน เพราะการทำตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น ที่เราจะพบพลังและแสงสว่างเอาชนะความทุกข์และความยากลำบากต่าง ๆ ได้ "

ความสุขจากการับศีลมหาสนิท

เรื่องราวของพระนางมารีย์ ล้วนนำไปสู่รหัสธรรมแห่งพระกายของพระบุตร ผู้ทรงมอบพระองค์เพื่อเราด้วยความรัก โดยทางศีลมหาสนิท แบร์นาแด๊ตเขียนจดหมายถึงปิแอร์ น้องชายเมื่อคราวที่ปิแอร์จะรับศีลมหาสนิทครั้งแรกว่า " แม้แต่เทวดาก็ยังอิจฉาเธอ เพราะเทวดาได้แต่ร้องเพลงสรรเสริญพระเป็นเจ้าเท่านั้น แต่ไม่สามารถถจะรับพระองค์ได้เช่นเรา ดูสิเราช่างโชคดีเสียนี่กระไร ที่พระเยซูเจ้าทรงถ่อมตนยอมมาสนิทอยู่ในร่างกายอันต่ำต้อยของเรา"

ขณะที่แบร์นาแด๊ตกำลังทนทุกข์ทรมาน เธอได้รัความปลอบใจจากศีลมหาสนิท " ทุกครั้งที่คิดว่า กำลังจะได้รับพระเยซูเจ้าในใจ น้ำหนักของกางเขนที่กำลังแบกอยู่จะเบาลง และความทุกข์ทรมานก็น้อยลงด้วย เพราะพระองค์ทรงแบกรับความทุกข์ทรมานร่วมกับผู้ที่กำลังทนทุกข์ทรมานอยู่ และทรงกันแสงร่วมกับผู้ที่กำลังร้องไห้ จะหาเพื่อนสนิทเช่นพระเยซูได้ที่ไหนอีก เพื่อนผู้ช่ว ยแบกรับภาระ ขณะเดียวกับการช่วยปลอบประโลมใจให้อีกด้วย ให้เรารักพระองค์และยึดพระองค์ไว้ในที่สุดจิตใจเถิด "

ความสุขกับรหัสธรรมพระมหาทรมาน

เป็นความจริงทีเดียว ที่ตลอดชีวิตของแบร์นาแด๊ต เธอได้รับความทุกข์ทรมานมากทั้งฝ่ายกายและใจ เธอต้องผ่านการต่อสู้อย่างมากมาย การติดตามชีวิตของแบร์นาแด๊ตจากจดหมายต่าง ๆทำให้เราเห็นบุคลิกที่แท้จริงของเธอ และเห็นเธอมีความสุขเมื่อครอบครัวมาเยี่ยม เมื่อได้บวชเป็นซิสเตอร์ตามกระเแสเรียก เมื่อให้ความรัก เมื่อได้ไปที่ถ้ำ เมื่อรับพระกายของพระคริสตเจ้า…สิ่งเหล่านี้มักช่วยเปลี่ยนความทุกข์ยากในชีวิตประจำวันของเธอ เป็นความสุขที่แท้จริง และความสุขเช่นนี้ คือสิ่งที่เธอเสนอให้แก่เราทุกคน ซึ่งได้แก่ความรักนั่นเอง



http://www.catholic.or.th/article/arcti ... ti005.html

ขอบคุณค่ะ นักบุณท่านนี้สวยจังเลยค่ะ เหมือนท่านกำลังนอนหลับมากกว่า

ขอบพระคุณค่ะ

รักนักบุณแบร์นาแด็ต จัง นักบุณในดวงใจเลย

ซื่อ ตรงไปตรงมาค่ะ

มีชีวิต ปรกติ :D

อ่านแล้วรู้สึกสนใจชีวิตของท่านขึ้นมา
คุ้นๆว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน

วิ่งจู๊ดไปรื้อๆชั้นหนังสือ
อ้าว พี่ HOLY เคยส่งหนังสือชีวประวัติของท่านมาให้นี่นา *inlove

New lamb เขียน: ขอบคุณค่ะ นักบุณท่านนี้สวยจังเลยค่ะ เหมือนท่านกำลังนอนหลับมากกว่า

ครับท่านเป็นศพไม่เน่าเปื่อยที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกครับ

ท่านสวยจังคับ :D

ขอบคุณพี่ปอที่นำเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟัง ;D

นักวิทยาศาสตร์ที่ทรงปัญญาเอ๋ย จงระดมปัญญาและความรู้อันลำพองของตนเพื่ออธิบายสิ่งนี้ดูซิ๊????

Holy เขียน:

New lamb เขียน: ขอบคุณค่ะ นักบุณท่านนี้สวยจังเลยค่ะ เหมือนท่านกำลังนอนหลับมากกว่า

ครับท่านเป็นศพไม่เน่าเปื่อยที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกครับ

แล้วเค้าเก็บศพท่านไว้ที่ไหนคะ ถามเผื่อไว้ค่ะเกิดสักวันใด้มีโอกาศไปแสวงบุญจะใด้แวะไปค่ะ :)

St. Bernadette Soubirous, who saw Our Lady at Lourdes and who now lies in a glass coffin at her convent in Nevers, France.

ขอบคุณค่ะ :D

น้องโฮลี่ กะ น้องจิง ได้มีโอกาสไปเยี่ยมท่านไหมคะ ตอนแสวงบุญ ครั้งที่แล้ว :D

ไม่ได้ไปครับ เพราะอารามไกลจากลูรด์มากทีเดียว

princess of wands เขียน:

นักวิทยาศาสตร์ที่ทรงปัญญาเอ๋ย จงระดมปัญญาและความรู้อันลำพองของตนเพื่ออธิบายสิ่งนี้ดูซิ๊????

และพวกอื่นๆด้วยนะเอ้อ (ที่ลุกลามพวกเราทั้งหลาย)

ผมเคยนำภาพศพนักบุญที่ไม่เน่าเปื่อยไปลงในกระทู้พันธุ์ทิพย์ หลายคนเขาก็หาว่าแค่รูปถ่าย อาจจะเป็นหุ่นขี้ผึ้งก็ได้ หรือเอาคนเป็น ๆ มานอนให้ถ่ายรูปก็ได้ ขนาดภาพก็ชัดมาก พวกนี้คงต้องไปสัมผัสเองด้วยมือหละมั้ง

Andreas เขียน: ผมเคยนำภาพศพนักบุญที่ไม่เน่าเปื่อยไปลงในกระทู้พันธุ์ทิพย์ หลายคนเขาก็หาว่าแค่รูปถ่าย อาจจะเป็นหุ่นขี้ผึ้งก็ได้ หรือเอาคนเป็น ๆ มานอนให้ถ่ายรูปก็ได้ ขนาดภาพก็ชัดมาก พวกนี้คงต้องไปสัมผัสเองด้วยมือหละมั้ง

ถ้าหัวดื้อมากๆ เจ๋งว่า ต่อให้พระเยซูมาเอง มันก็ไม่เชื่อหรอกงับ(แต่ ไม่แน่นะ)

ถ้าพระเยซูเจ้าเสด็จมาเอง พวกที่ไม่เชื่อก็คงอยู่ข้างซ้ายพระบัลลังก์ของพระองค์นั่นแหละครับ เพราะความเชื่อจะมีคุณค่าเมื่อสิ่งที่เชื่อนั้นยังไม่ปรากฏชัด ความเชื่อของศาสนาคริสต์แม้ยากจะพิสูจน์ แต่ว่ามันคือความจริงที่เกินความเข้าใจของมนุษย์

มีข้อมูลอารามมั๊ยคะ พอดีเพื่อนสนิทเพิ่งไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส เผื่อจะให้เค้าไปถ่ายรูปจริงๆมาฝากเพิ่มเติม

SugarRei เขียน: มีข้อมูลอารามมั๊ยคะ พอดีเพื่อนสนิทเพิ่งไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส เผื่อจะให้เค้าไปถ่ายรูปจริงๆมาฝากเพิ่มเติม

อันนี้มีทั้งเวลาเปิดปิดและเบอร์โทร สายรถไฟ ฯลฯ

http://www.sainte-bernadette-nevers.com ... _infos.htm

Espace Bernadette Soubirous-Nevers
34, rue Saint Gildard
58000 Nevers
Tél. 03 86 71 99 50
Fax 03 86 71 99 51
ebsn@wanadoo.fr

Opening Times :
daily,

from november to mars :
7.30am to 12.00 noon
2.00pm to 6.00pm
from april to october :
7.00am to 12.30pm
1.30pm to 7.30pm

อล้วอย่าลืมเอามาลงในนี้นะครับ :)

พระศพนักบุญแบร์นาแด็ต ต้องทาขี้ผึ้งบางๆเคลือบไว้ และต้องเก็บไว้ในโลงแก้ว เพราะถ้าโดนอากาศ , ความชื้น จะทำให้พระศพเป็นสีดำ เหมือนของนักบุญกลารา ที่ตายมา 800 ปี ศพไม่เน่าเปื่อย แต่มีสีดำ เพราะสมัยนั้นยังไม่รู้วิธีรักษา
จริงๆแล้ว ศพนักบุญไม่เน่ามีเยอะมาก เช่น นักบุญ ยวง มารี เวียนเนย์ นักบุญ มาร์การิตา เดอร์ อาลาก๊อก หรือแม้แต่ศพของซิสเตอร์ กาปูชิน ชาวอิตาเลียน ในอารามเมืองไทยบางรูป ที่ตายมาประมาณ 30 ปี พอจะย้ายที่ฝัง แล้วเปิดโลงดูปรากฎว่าไม่เน่าเปื่อย

พี่เคนอ่านนักบุญน้อยอิเมลดารึยังคะ :D

~@Little lamb@~ เขียน: พี่เคนอ่านนักบุญน้อยอิเมลดารึยังคะ :D

กำลังจะคลิกไปอ่านตอนนี้เลยแหละ ;D

ดีคะ พี่จะได้เอาท่านักบุญน้อยขึ้นทำเนียบ นักบุญศพไม่เน่าอีกองค์ ;)

Andreas เขียน: ผมเคยนำภาพศพนักบุญที่ไม่เน่าเปื่อยไปลงในกระทู้พันธุ์ทิพย์ หลายคนเขาก็หาว่าแค่รูปถ่าย อาจจะเป็นหุ่นขี้ผึ้งก็ได้ หรือเอาคนเป็น ๆ มานอนให้ถ่ายรูปก็ได้ ขนาดภาพก็ชัดมาก พวกนี้คงต้องไปสัมผัสเองด้วยมือหละมั้ง

เหอๆๆๆ พวกตามืดบอดใจมืดมนพวกนี้ป่วยการที่จะบอกแล้วละ

สวยมากจริงๆเลยครับ เหมือนท่านนอนหลับจริงๆ

ลองดูนักบุญที่ศพไม่เน่าท่านอื่นๆ

http://www.marypages.com/IncorruptBodies.htm

กจ 2:25
ดังที่กษัตริย์ดาวิดตรัสถึงพระองค์ว่า
“ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าเสมอ
พระองค์ประทับอยู่เบื้องขวา ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหว
ดังนั้น จิตใจของข้าพเจ้าจึงยินดี
ปากของข้าพเจ้ากล่าวถ้อยคำแสดงความเกษมเปรมปรีดิ์
ร่างกายที่ตายได้ของข้าพเจ้า พำนักอยู่ในความหวัง
เพราะพระองค์จะไม่ทรงละทิ้งข้าพเจ้าไว้ในแดนผู้ตาย
และจะไม่ทรงปล่อยผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ให้เน่าเปื่อย
พระองค์ทรงสอนข้าพเจ้าให้รู้จักทางแห่งชีวิต
พระองค์จะทรงทำให้ข้าพเจ้าเปี่ยมด้วยความยินดีเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์”