ประสบการณ์หลังความตาย โดย คุณพ่อ Jose Maniyangat ตอนที่ 1 & 2

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
Arttise
โพสต์: 802
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ พ.ย. 14, 2022 10:33 pm

💀 ประสบการณ์หลังความตาย โดย คุณพ่อ Jose Maniyangat ตอนที่ 1

พ่อเกิดที่ประเทศอินเดีย พ่อยังคงจำได้อย่างแม่นยำว่าในวันอาทิตย์ที่ 14 เม.ย. ค.ศ.1985 ในขณะที่พ่อกำลังขับรถมอเตอร์ไซด์จะไปทำมิสซาที่วัดแห่งหนึ่ง พ่อถูกรถจี๊บที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนร่างของพ่ออย่างจัง พ่อถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุออกไปอีกประมาณ 35 ไมล์

ระหว่างทางนั้นเองวิญญาณของพ่อก็ออกจากร่าง พ่อคงตายจริงๆแล้วสินะ พ่อได้พบกับอารักขเทวดาของพ่อ พ่อมองเห็นร่างของพ่อและมีคนกำลังช่วยกันหามไปส่งโรงพยาบาล พ่อได้ยินเสียงพวกเขาร้องไห้กันระงมและสวดขอพระให้พ่อรอดตาย เวลานี้เองอารักขเทวดาบอกพ่อว่า ท่านกำลังจะพาพ่อไปสวรรค์เพราะพระเยซูเจ้าต้องการที่จะพบและคุยกับพ่อ และท่านยังบอกอีกว่าระหว่างทางนั้นท่านจะพาพ่อแวะไปดูนรกและไฟชำระด้วย

แรกเลยท่านอารักขเทวดาพาพ่อไปดูนรก มันช่างเป็นภาพที่น่ากลัวมากเหลือเกิน พ่อเห็นซาตาน ปีศาจ และไฟนรกที่ไม่มีวันดับชั่วนิรันดรซึ่งพ่อกะว่าน่าจะร้อนแรงถึง 2,000 องศาเซลเซียสทีเดียว พ่อเห็นหนอนคลานยั้วเยี้ยเต็มไปหมด มันช่างน่าขยะแขยงเสียเหลือเกิน พ่อได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส พ่อเห็นวิญญาณกำลังทำร้ายและต่อสู้กันเอง พ่อเห็นปีศาจกำลังลงโทษวิญญาณด้วยวิธีต่างๆ ที่โหดร้ายน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

ท่านอารักขเทวดาบอกพ่อว่า ที่ต้องมารับความทุกข์ทรมานขนาดนี้เกิดจากความไม่สำนึกผิดในบาปหนักที่ทำตอนยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ แล้วท่านก็ให้ความสว่างแก่พ่อว่า ระดับของความทุกข์ทรมานในแดนนรกนั้นมีถึง 7 ระดับด้วยกัน ตามประเภทและจำนวนของบาปหนักที่ทำ

วิญญาณเหล่านี้ช่างน่าเกลียด ดูโหดร้าย และน่าขนลุกขนชัน มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวอย่างยิ่งที่พ่อได้เห็นคนที่พ่อรู้จักในนรก แต่พ่อไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยว่าเขาเหล่านั้นเป็นใคร

บาปที่ตัดสินพวกเขาให้ตกนรกส่วนใหญ่ได้แก่ การทำแท้ง , รักร่วมเพศ , การทำการุณฆาต , ความเกลียดชัง , การไม่ให้อภัย , การทุรจารและการการลบหลู่พระเจ้า

ท่านอารักขเทวดาบอกพ่อว่า ถ้าพวกเขากลับใจก่อนตาย แทนที่พวกเขาจะตกนรก พวกเขาก็จะไปใช้โทษบาปในไฟชำระแทน

พ่อยังได้รับความสว่างอีกว่าคนที่กลับใจเหล่านี้อาจถูกชำระให้บริสุทธิ์ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงไม่ไปไฟชำระและตรงไปยังสวรรค์ได้เลย

พ่อรู้สึกแปลกใจที่พ่อได้เห็นในนรกมีคุณพ่อหรือแม้แต่บิชอป พ่อไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นพวกเขาเป็นจำนวนมากมาอยู่ที่นี่เลย เป็นเพราะพวกเขาทำให้ผู้คนผิดความเชื่อ ด้วยการสอนที่ผิดๆ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนั่นเอง

หลังจากการไปเยี่ยมนรกแล้วท่านอารักขเทวดาก็พาพ่อไปยังไฟชำระซึ่งที่นี่ก็มีระดับของความทุกข์ทรมานถึง 7 ระดับเช่นกัน รวมถึงมีไฟชำระที่ไม่อาจดับได้ตลอดกาล แต่อย่างน้อยมันก็เป็นไฟที่ร้อนแรงน้อยกว่าไฟนรกมากมายนัก

ที่นี่ก็ไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีการต่อสู้กัน แต่ความทุกข์ทรมานหลักๆ ของวิญญาณเหล่านี้ก็คือ การที่พวกเขาต้องถูกกันให้ออกห่างจากพระเจ้านั่นเอง

บางคนที่อยู่ในไฟชำระได้ทำบาปหนักไว้ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ได้กลับมาคืนดีกับพระเจ้าก่อนที่พวกเขาจะสิ้นใจ แม้ว่าวิญญาณเหล่านี้จะทุกข์ทรมาน แต่พวกเขาก็มีสันติสุขเพราะตระหนักใจว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้ใกล้ชิดกับพระเจ้าอย่างแน่นอน

พ่อมีโอกาสได้สนทนากับวิญญาณในไฟชำระ พวกเขาไม่สามารถสวดบรรเทาโทษบาปให้ตนเองได้ พวกเขาขอให้พ่อสวดให้เขาและขอให้บอกผู้อื่นต่อไปให้สวดให้พวกเขาด้วยเช่นกัน เพื่อว่าพวกเขาจะได้ไปสวรรค์เร็วขึ้น เมื่อเราสวดให้ดวงวิญญาณเหล่านี้ เขาจะขอบคุณด้วยการสวดให้เรากลับเป็นการตอบแทน และเมื่อพวกเขาได้ไปสวรรค์แล้วเขาก็จะไม่ลืมที่จะสวดให้พวกเราเลย

มันเป็นการยากที่พ่อจะอธิบายความสง่างามของท่านอารักขเทวดาของพ่อ ร่างกายของท่านเรืองรองส่องสว่างสุกใส ท่านคือมิตรแท้ ท่านคือเพื่อนร่วมทางที่ซื่อสัตย์ของพ่อและช่วยพ่อในทุกๆพันธกิจที่พ่อต้องทำ พ่อสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของท่านในทุกหนทุกแห่งที่พ่อไป และพ่อรู้สึกกตัญญูรู้คุณในการที่ท่านได้ปกป้องพ่ออยู่ตลอดเวลาในทุกๆวัน

และแล้วท่านอารักขเทวดาก็พาพ่อไปสู่สวรรค์โดยผ่านทางอุโมงค์ใหญ่สีขาวที่สว่างไสว พ่อไม่เคยสัมผัสกับความสงบและความสุขมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย

ทันใดนั้นเองสวรรค์ก็เปิดออก พ่อได้ยินเสียงเพลงอันสุดแสนไพเราะ พ่อไม่เคยได้ยินเสียงเพลงนี้จากที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต บรรดาเทวดากำลังร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า พ่อเห็นนักบุญทุกๆท่าน โดยเฉพาะแม่พระ นักบุญยอแซฟ บรรดาบิชอป และบรรดาพระสงฆ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ร่างของท่านเหล่านี้ส่องแสงสุขสว่างเหมือนดั่งดวงดาว

เมื่อพ่อมาปรากฏตัวต่อหน้าพระเยซูเจ้า พระองค์ตรัสกับพ่อว่า “เราต้องการให้คุณพ่อกลับไปยังโลกนี้ เราต้องการให้คุณพ่อเป็นเครื่องมือแห่งสันติภาพและทำการรักษาลูกๆที่เจ็บป่วยของเรา คุณพ่อจะต้องเดินทางไปต่างแดนและจะพูดภาษาต่างๆได้ และทุกสิ่งเป็นจริงด้วยพระหรรษทานของเรา”

หลังจากที่พระองค์ตรัสกับพ่อจบ แม่พระก็พูดเสริมกับพ่อว่า “คุณพ่อคะ คุณพ่อกรุณาทำทุกอย่างตามน้ำพระทัยของพระองค์นะคะ และแม่ยินดีที่จะช่วยในพันธกิจต่างๆ ของคุณพ่อเองค่ะ”

ไม่มีคำพูดใดๆ จะอธิบายความสวยงามของสวรรค์ได้ ที่นั่นเราพบความสงบและความสุขมากมายซึ่งเกินจินตนาการของมนุษย์เป็นล้านๆเท่า

พระเยซูเจ้าทรงสง่างามยิ่งกว่าภาพใดๆ ที่มนุษย์ตั้งใจวาดขึ้นมา พระพักตร์ของพระองค์เรืองรองส่องสว่างสุกใสมากกว่าเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นนับพันดวง รูปวาดทั้งหลายของพระองค์ที่เราได้เห็นกันอยู่ในโลกนี้ก็เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเงาแห่งความสง่างามของพระองค์เท่านั้นเอง

แม่พระอยู่เคียงข้างองค์พระผู้เป็นเจ้า แม่พระช่างงดงามและเรืองรองส่องสว่างสุกใสเหลือเกิน ไม่มีภาพใดในโลกนี้สามารถเทียบเคียงได้กับความงดงามอันแท้จริงของแม่พระที่พ่อเห็นในสวรรค์ได้เลย

พ่อได้รับความสว่างว่า สวรรค์คือบ้านแท้ของเรา และเราทุกคนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีโอกาสได้กลับไปสู่สวรรค์และมีความสุขกับพระเจ้าตลอดไป

และแล้วพ่อก็ต้องกลับลงมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่งพร้อมกับท่านอารักขเทวดา ขณะนั้นศพของพ่อยังอยู่ที่โรงพยาบาล หมอได้ทำการชันสูตรศพของพ่อเสร็จแล้ว และวินิจฉัยว่าพ่อตายเพราะสาเหตุที่พ่อเสียเลือดมากเกินไปนั่นเอง

ทางโรงพยาบาลแจ้งข่าวการตายไปยังครอบครัวของพ่อ แต่เนื่องจากพวกเขาอยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลมาก เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจึงตัดสินใจย้ายศพของพ่อไปที่ห้องเก็บศพ เพราะในโรงพยาบาลไม่มีเครื่อง ปรับอากาศ พวกเขาเกรงว่าศพของพ่อจะเน่าเสียก่อนที่ครอบครัวของพ่อจะเดินทางมาถึง

ขณะที่พวกเขากำลังย้ายศพของพ่อไปยังห้องเก็บศพนั้นเอง วิญญาณของพ่อก็ได้กลับมาเข้าสู่ร่างพอดี ทันใดนั้นพ่อรู้สึกเจ็บปวดมากที่สุดในชีวิตเหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆเพราะทั้งตัวพ่อเต็มไปด้วยบาดแผลและมีกระดูกหักมากมาย พ่อน้ำตาไหลและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดแสนจะทนทาน

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างก็กรีดร้องขึ้นมาด้วยเช่นกันเพราะความตกใจกลัวและก็วิ่งหนีไป พวกเขาพากันวิ่งไปหาคุณหมอและก็บอกว่า ศพของพ่อกำลังกรีดร้องอยู่ หมอจึงวิ่งมาตรวจศพพ่ออีกครั้งหนึ่งและพบว่าพ่อกลับเป็นขึ้นมา หมอจึงบอกกับพวกเขาว่าพ่อยังไม่ตาย มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์จริงๆ

หมอพาพ่อกลับเข้าไปในโรงพยาบาลเป็นการด่วน ตอนนี้พ่ออยู่ในโรง พยาบาลแล้ว เขาถ่ายเลือดให้พ่อ และก็นำพ่อไปเข้าห้องผ่าตัดเพื่อจัดการกับกระดูกที่หัก ตั้งแต่กระดูกขากรรไกรด้านล่าง กระดูกซี่โครง กระดูกเชิงกราน ข้อมือ และขาขวาด้านหลัง

สองเดือนหลังจากนั้นหมอก็อนุญาตให้พ่อออกจากโรงพยาบาลได้ แต่หมอผู้เชี่ยวชาญทางกระดูกก็บอกว่าไม่มีทางที่พ่อจะเดินได้อีกแล้ว พ่อจึงตอบหมอไปว่า พระเยซูเจ้าให้ชีวิตแก่พ่อและส่งพ่อกลับมาในโลกนี้อีกครั้ง ดังนั้นพระองค์ก็จะรักษาพ่อเอง

ครอบครัวของพ่อจึงร่วมใจกันสวดขออัศจรรย์จากพระองค์ให้พ่อได้หาย และเมื่อถึงกำหนดวันที่พ่อต้องถอดเผือกออก มันน่าใจหายเพราะในตอนนั้นพ่อเคลื่อนไหวไม่ได้เลย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พ่อไม่เคยทิ้งความเชื่อมั่นในน้ำพระทัยของพระองค์...

อยู่มาวันหนึ่งขณะที่พ่อกำลังสวดอยู่นั้น พ่อรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสตรงบริเวณอุ้งเชิงกราน หลังจากนั้นอีกไม่นานความเจ็บปวดของพ่อก็หายไปอย่างสิ้นเชิง พ่อก็ได้ยินเสียงพูดว่า “เจ้าได้รับการรักษาแล้ว จงลุกขึ้นและเดินเถิด” พ่อรู้สึกถึงความสงบและพลังแห่งพระพรในการรักษาของพระเยซูเจ้า พ่อจึงลุกขึ้นมาแล้วเดินทันที พ่อสรรเสริญและขอบคุณพระองค์สำหรับอัศจรรย์ในครั้งนี้

+++

💀 ประสบการณ์หลังความตาย โดย คุณพ่อ Jose Maniyangat ตอนที่ 2

พ่อไปหาหมอพร้อมกับแจ้งข่าวดีที่พ่อได้รับการรักษาจากพระเยซูเจ้า หมอประหลาดใจมากและก็พูดกับพ่อว่า พระเจ้าของพ่อช่างเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้จริงๆ หมอขอเป็นลูกศิษย์ติดตามพระเจ้าของพ่อได้ไหม หมอเป็นฮินดูและหมอก็ขอให้พ่อสอนคำสอนให้เขา เมื่อหมอเรียนคำสอนจบพ่อก็ได้รับศีลล้างบาปให้หมอเป็นคาทอลิกสมตามความตั้งใจ...

พ่อได้รับเลือกให้เป็นมิชชันนารีมาทำงานที่อเมริกา พ่อทำงานในหลากหลายหน้าที่ และในที่สุดพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายจิตวิญญาณและได้รับอนุญาตให้เดินทางไปนาๆประเทศเพื่อขอพระพรในการรักษาให้ผู้ป่วยด้วยศีลมหาสนิท

คนป่วยที่พ่อขอพระพรในการรักษาให้นั้นมีทั้งทางฝ่ายร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง , เอดส์ , โรคหัวใจ , ปัญหาทางสายตา , ถุงลมโป่งพอง , หอบหืด เป็นต้น และคนที่เจ็บป่วยทางฝ่ายจิตวิญญาณต่างๆ เขาเหล่านั้นได้รับพระพรในการรักษาจนหายขาด

พ่อมักจะเน้นย้ำกับพี่น้องเสมอๆถึงความจำเป็นในการสวดให้กับดวงวิญญาณที่น่าสงสารในไฟชำระ เมื่อพวกเขาได้ไปสวรรค์แล้ว พวกเขาก็จะได้เป็นนักบุญ พวกเขาจะไม่ลืมสวดภาวนาให้พวกเรา แน่นอนที่สุดคำภาวนาของเหล่านักบุญทั้งหลายนั้นมีพลังมากมายมหาศาลทีเดียว

ถอดความจาก : insight856 : Priest Near Death Experience in Hell, Heaven, Purgatory : Youtube

📹 Priest Near Death Experience in Hell, Heaven, Purgatory
https://youtu.be/hexPfkQmpDo

CR. Video : insight856

🖥 เว็บไซต์ Fr. Jose Eucharistic & Charismatic Healing Ministry
http://www.frmaniyangathealingministry.com

รูปภาพ
ตอบกลับโพส