ตามคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก เราเชื่อว่า พระเยซูคริสตเจ้า องค์พระมหาไถ่ของเรา ทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทจริงๆ เราเชื่อพระวาจาของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระเป็นเจ้า ใกล้ทะเลสาปกาลิลี พระองค์ทรงสัญญาประทานพระกาย และพระโลหิตเป็นอาหารของเรา (ยอห์น 6:48-60) และได้ทำตามพระสัญญานั้นในขณะรับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้าย (มัทธิว 26:26-28; ลูกา 22:19-20; มาระโก 14:22-24; 1 โครินธ์ 11:23-25)
เรายังมีพยานหลักฐานของพระศาสนจักรที่พระองค์ได้ทรงตั้ง สภาสังคายนาแห่งเทรนท์ (Council of Trent) สอนว่า ในมิสซาหลังจากพิธีเสกปังและเหล้าองุ่น พระเยซูคริสตเจ้า พระเป็นเจ้าแท้และมนุษย์แท้ ทรงประทับอยู่จริงๆในแผ่นศีล ภายใต้รูปปังและเหล้าองุ่น
หลายศตวรรษผ่านพ้นไป พระเยซูเจ้าได้เห็นเหมาะสมทำมหัศจรรย์กว่าร้อยครั้งเพื่อยืนยันการประทับของพระองค์อย่างแท้จริงในศีลมหาสนิท จุดมุ่งหมายของมหัศจรรย์เหล่านี้เพื่อประโยชน์อะไร? ก็เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่พระองค์ได้ทรงตรัสเป็นจริงตามคำบอกเล่าในพระคัมภีร์ "ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ" (มาระโก 16:16) พระองค์ต้องการให้เราเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์ และทรงเตือนเราถึงภัยอันตรายถ้าเราไม่เชื่อฟังพระองค์ "ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ" (มาระโก 16:16) พระเป็นเจ้าทรงพระทัยดีประทานสิ่งเหนือธรรมชาติเพื่อช่วยเราให้มีความเชี่ออย่างมั่นคง เพราะพระองค์ทรงปรารถนากอบกู้วิญญาณเรา พระเยซูเจ้ายังตรัสว่า "แต่ถ้าเราทำ แม้ว่าท่านทั้งหลายไม่เชื่อเรา อย่างน้อยก็จงเชื่อในกิจการที่เราทำนั้นเถิด แล้วท่านจะรู้และเข้าใจว่า พระบิดาสถิตในเรา และเราอยู่ในพระบิดา" (ยอห์น 10:38)
ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวมหัศจรรย์ 4 เรื่อง ซึ่งยืนยันการประทับของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
เรื่องที่ 1
ในประเทศสเปน ปีค.ศ. 1392 พระสงฆ์เจ้าวัดที่เมืองมอนคาดา (Moncada) ได้ถวายมิสซา โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น เป็นเวลาหลายปี แต่วันหนึ่งท่านได้ตกเป็นเหยื่อแห่งความสงสัยว่าท่านได้รับศีลบวชอย่างถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่? ในความวิตกกังวล ท่านได้ตัดสินใจขออนุญาตเข้าพบบิชอป โดยไม่รีรอท่านได้ออกเดินทางด้วยเท้าไปยังเมืองวาเลนเซีย (Valencia) ศูนย์กลางของสังฆมณฑล ณ สถานที่แห่งนี้ พระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ พอพระทัยช่วยท่านพ้นจากความทุกข์ยาก พระองค์ประทานความสว่างและสันติสุขแก่ท่านอย่างมหัศจรรย์
พระสงฆ์องค์นั้นได้รับมอบหมายให้ถวายมิสซาในวันคริสต์มาส เมื่อถึงตอนเสกศีล ท่านได้หยิบปังด้วยมือสั่นเทา และสวดบทภาวนาเสกศีลด้วยเสียงสั่นเครือ ขณะที่ท่านชูแผ่นศีลขึ้นเหนือศีรษะ และคุกเข่าแสดงความเคารพด้วยอาการสั่นๆ หนูน้อยอายุ 5 ขวบได้ร้องเสียงดังท่ามกลางสัตบุรุษที่กำลังฟังมิสซาอย่างเงียบกริบว่า "โอ้ คุณแม่ครับ เด็กช่างน่ารักมากๆ! แม่ดูที่นั่นสิครับ เขาอยู่บนพระแท่น" เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ลืมหมดทุกสิ่ง ยืนบนเก้าอี้ และตบมืออย่างร่าเริงยินดี แม่ของเด็กรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่สุด จึงสั่งให้เขานิ่งเงียบ เพราะไม่มีใครมองเห็นภาพอันสวยงามเช่นนั้น นอกจากเด็กไร้เดียงสาเพียงคนเดียว ผู้ซึ่งได้มองเห็นภาพนั้นเมื่อแผ่นศีลถูกยกชูขึ้นในอากาศ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาได้ขอร้องให้แม่ของเขาดู เขากระซิบว่า "คุณแม่ครับ เด็กคนนั้นช่างสวยงามจริงๆ เหมือนกับพระกุมารที่นอนอยู่ในรางหญ้าในถ้ำเลี้ยงสัตว์"
ตอนรุ่งอรุณ แม่ลูกรอฟังมิสซาที่ 2 ซึ่งพระสงฆ์องค์เดียวกันเป็นผู้ถวาย และอีกครั้งหนึ่ง ตอนยกแผ่นศีล เด็กน้อยได้อุทานออกมาว่า "โอ้ พระกุมารอยู่ที่นั่นอีก คุณแม่มองไม่เห็นหรือครับ? พระสงฆ์กำลังอุ้มพระองค์ขึ้นด้วยมือสองข้าง และบัดนี้ได้วางพระองค์ลงบนพระแท่น!" แม่ได้สั่งให้ลูกนิ่งเงียบ เธอมองไม่เห็นอะไรเลย สวรรค์ได้ประทานพระหรรษทานพิเศษนี้แก่ลูกชายเล็กๆของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
ในวันคริสตสมภพพระสงฆ์ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์โดยถวายมิสซาที่ 3 ตอนพระสงฆ์ยกแผ่นศีลขึ้นเหนือศีรษะ เด็กชายคนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเขาได้มองเห็นภาพมหัศจรรย์นั้นอีก แม่ได้เล่าเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นให้คนรู้จักฟัง จากปากหนึ่งไปอีกปากหนึ่ง ในที่สุดเรื่องเล่าก็ไปเข้าหูพระสงฆ์องค์นั้น ผู้ซึ่งคงได้รับความบันเทาใจอย่างใหญ่หลวง อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยทั้งหมดยังไม่อันตรธานหายไปจากความนึกคิดของท่าน ท่านยังสงสัยว่า เด็กอาจถูกปิศาจหลอกลวงก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น ท่านจึงขอสืบสาวราวเรื่องจากเด็กโดยส่วนตัว แต่เขาได้ให้คำตอบแก่ท่านอย่างถูกต้องแม่นยำ จนท่านเชื่อว่ามีสิ่งเหนือธรรมชาติอุบัติขึ้น พระสงฆ์ เปี่ยมด้วยความปิติยินดีและความกตัญญูรู้คุณต่อพระเป็นเจ้า ได้เชิญเด็กน้อยและแม่มาฟังทุกมิสซาที่ท่านถวายเท่าที่เขาทั้งสองสามารถจะทำได้ ทุกครั้งก็มีมหัศจรรย์เกิดขึ้น เนื่องจากข้อสงสัยยังไม่หมดสิ้นในจิตใจ ท่านได้วอนขอเบื้องบน โปรดประทานข้อพิสูจน์ที่ช่วยท่านตัดสินใจในเรื่องนี้
ท่านนำแผ่นปัง 3 แผ่นไปยังพระแท่น วางและเสกสองแผ่นบนจานรองแผ่นศีล และวางแผ่นปังที่ไม่ได้เสกไว้บนพระแท่นใกล้ๆ หลังจากมิสซาจบแล้ว ท่านได้เรียกเด็กน้อยมายังพระแท่น และถามว่าเขาได้มองเห็นพระกุมารในแผ่นศีลแผ่นไหนบ้าง? เขาตอบว่า "โอ้ คุณพ่อครับ พระองค์อยู่ที่นั่น เห็นมั้ยครับ พระองค์กำลังกางพระหัตถ์" ดูเหมือนเด็กน้อยปิติยินดีอย่างเหลือล้น แล้วพระสงฆ์ก็ชี้ไปที่แผ่นปังอีกอันหนึ่ง ถามว่า "แล้วอันนี้ล่ะ พระกุมารทรงสถิตอยู่หรือเปล่า?" เขาตอบว่า "ไม่อยู่ครับ" พระสงฆ์ถามอีกว่า "หนูแน่ใจหรือ?" เขาตอบว่า "แน่ใจสิครับ คุณพ่อ ในแผ่นนั้นไม่มีอะไรเลย" โดยเหตุการณ์มหัศจรรย์อันสุดท้ายนี้ พระสงฆ์ก็เปี่ยมด้วยสันติสุขในจิตใจ ความกังวลและข้อสงสัยทั้งสิ้นได้อันตรธานหายไป ตลอดชีวิตที่เหลือท่านได้รับใช้พระเป็นเจ้าด้วยความรักและความศรัทธาที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
ให้เราภาวนา :
"โอ้ ศีลศักดิ์สิทธิ์! โอ้ ศีลมหัศจรรย์! จงสรรเสริญพระเป็นเจ้า และโมทนาคุณพระองค์ทุกเวลาเทอญ"
เรื่องที่ 2
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1899 รถไปรษณีย์ขนส่งของด่วนจากเมืองบอร์โด (Bordeaux) ถึงกรุงปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส ได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถไฟ บุรุษไปรษณีย์ชื่อ กาเบรียล การ์แกม (Gabriel Gargam) อายุ 30 ปี อยู่ในรถขนส่ง ขณะที่ชนกันดังสนั่นหวั่นไหว รถไฟวิ่งด้วยความเร็วอัตรา 50 ไมล์ต่อชั่วโมง และกาเบรียล การ์แกม (Gabriel Gargam) ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกจากรถเป็นระยะ 32 ฟุต ร่างกายของเขาบอบช้ำทั้งตัว กระดูกหัก กระดุกกระดิกไม่ได้ เขาเป็นอัมพาตจากบั้นเอวลงไป อาการปางตายเมื่อคนแบกเขาขึ้นเปล หามส่งโรงพยาบาล บางครั้งการมีชีวิตของเขาเหมือนตายทั้งเป็น หลังจากเวลาผ่านไป 8 เดือนเขาผอมเหลือหนังหุ้มกระดูก เมื่อก่อนนี้เขาเป็นคนมีรูปร่างใหญ่โต บัดนี้เขาหนักแค่ 78 ปอนด์ เท้าของเขา 2 ข้างลีบ เขากินอาหารแข็งไม่ได้ กินได้แต่อาหารเหลวทางสายยาง แม้โดยวิธีนี้ก็ตาม เขารับประทานวันละครั้งเดียวเท่านั้น
สภาพของกาเบรียล การ์แกม (Gabriel Gargam) ดูแล้วน่าหดหู่ใจที่สุด เขาไม่สามารถช่วยตัวเองแม้แต่ในสิ่งเล็กๆน้อยๆ ตลอดวันและคืนมีนางพยาบาลผลัดกันคอยดูแลเอาใจใส่เขา ก่อนเกิดอุบัติเหตุ เขาได้ทิ้งวัดเป็นเวลานาน 15 ปี ป้าของเขาเป็นนักบวชหญิงคณะพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ (Order of the Sacred Heart) ขอร้องเขาเดินทางไปเมืองลูร์ด (Lourdes) เขาปฏิเสธ ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละเธออ้อนวอนเขาฝากตัวไว้ในการพิทักษ์รักษาของแม่พระเมืองลูร์ด (Our Lady of Lourdes) เขาไม่ฟังคำแนะนำของเธอ หลังจากแม่ของเขาได้ขอร้องเขาติดต่อกันหลายๆครั้ง เขาตกลงเดินทางไปเมืองลูร์ด (Lourdes) อุบัติเหตุได้เกิดขึ้นกับเขา 2 ปีมาแล้ว และเขาไม่เคยลุกออกจากเตียงนอนเลย คนต้องหามเขาขึ้นรถไฟ ความพิการในร่างกาย คือ สาเหตุที่เขาเป็นลมหมดสติ 1 ชั่วโมง คณะร่วมทางเกือบตัดสินใจยกเลิกการเดินทางแสวงบุญ เพราะดูท่าทางเขาอาจสิ้นใจระหว่างทาง แต่แม่ของเขาเป็นผู้คะยั้นคะยอให้การเดินทางดำเนินต่อไป
พอถึงเมืองลูร์ด (Lourdes) คนก็ช่วยกันหามเขาไปยังสระน้ำมหัศจรรย์ และค่อยๆวางเขาลงในน้ำ แทนที่จะเกิดผลดี กลับเกิดผลร้าย เนื่องจากร่างกายของเขาอ่อนเพลียหมดแรง เขาเป็นลมหมดสติ อาการเหมือนคนใกล้ตายอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างเดินทางกลับ คณะร่วมทางได้มองเห็นขบวนแห่ศีลมหาสนิทอันศักดิ์สิทธิ์กำลังเดินใกล้เข้ามา พวกเขาได้หลบเข้าข้างทาง เพื่อให้ขบวนผ่านไปอย่างสะดวกไม่ติดขัด เขาทั้งหลายคิดว่า กาเบรียล การ์แกม (Gabriel Gargam) ได้หมดลมหายใจแล้ว จึงเอาผ้าผืนหนึ่งคลุมตัวเขาไว้
ขณะที่พระสงฆ์ถือรัศมีบรรจุแผ่นศีลมหาสนิท ท่านได้อวยพระพรคณะที่คุกเข่าอยู่รอบๆร่างที่ถูกคลุมไว้ ทันใดนั้นเองภายใต้ผ้าคลุมมีการเคลื่อนไหว คนที่ยืนอยู่เคียงข้างตกตลึง ร่างนั้นลุกขึ้นมานั่ง คนในครอบครัวมองดูด้วยความฉงน พูดไม่ออกบอกไม่ถูก และผู้แสวงบุญจ้องดูอย่างพิศวงงงงวย กาเบรียล การ์แกม (Gabriel Gargam) พูดเสียงดังฟังชัดว่า เขาต้องการลุกขึ้น เขาลุกขึ้นยืนตัวตรง เดินไปข้างหน้า 2-3 ก้าว และพูดว่าเขาหายดีแล้ว ฝูงชนได้เป็นพยานเห็นอัศจรรย์ แล้วคุกเข่าลงโมทนาคุณพระเป็นเจ้า สำหรับหมายสำคัญใหม่แห่งพระฤทธานุภาพของพระองค์ ณ พระวิหารของพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระองค์ ไม่มีอาหารแม้แต่นิดเดียวผ่านริมฝีปากของเขาลงไปในกระเพาะเป็นเวลา 2 ปีเต็ม แต่บัดนี้เขานั่งลงกินอาหารบนโต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย
วันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1901 นายแพทย์ผู้มีชื่อเสียง 60 คนตรวจร่างกายของกาเบรียล การ์แกม (Gabriel Gargam) โดยไม่ได้ระบุผลของการหายจากโรคภัยไข้เจ็บ เขาทั้งหลายได้ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า เขาได้หายจากโรคร้ายแรงอย่างสิ้นเชิง กาเบรียล การ์แกม (Gabriel Gargam) ซึ้งในพระมหาธิคุณขององค์พระเจ้าในศีลมหาสนิทและพระมารดาของพระองค์ จึงถวายตัวอุทิศชีวิตรับใช้คนพิการที่เมืองลูร์ด (Lourdes) 15 ปีแล้ว หลังจากที่เขาได้หายป่วยอย่างอัศจรรย์ เขาก็ยังคงทำงานกุศลอยู่ที่นั่นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเป็นสักขีพยานเหุตการณ์เหนือธรรมชาติเป็นเวลานานหลายๆปี
ให้เราภาวนา :
“จงสรรเสริญ นมัสการ และ รัก อย่างกตัญญูรู้คุณ พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ในศีลมหาสนิทอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ทุกเวลา บนพระแท่นทั่วโลก จนถึงวันสิ้นพิภพเทอญ”
เรื่องที่ 3
หลายปีมาแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่ง เหมือนลูกแกะหลงทาง เป็นชาวยิว ผู้ไม่มีความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า ขณะอยู่ในวัยเยาวชน ดวงใจเขาเต็มไปด้วยความฝันอันรุ่งโรจน์ว่า เขาจะได้เป็นนักดนตรีมีชื่อเสียงในอนาคต เย็นวันหนึ่งเขาได้รับเชิญให้มาเล่นออแกนที่วัดคาทอลิกแห่งหนึ่งในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่นั่นพระเป็นเจ้าทรงเฝ้ารอ และเตรียมตัวเขา ไม่ใช่สำหรับความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่สำหรับความสุภาพถ่อมตน ซึ่งจะนำเขาไปสู่ความรุ่งโรจน์หลายพันเท่า โครงสร้างหลังคาวัดคาทอลิกสะท้อนเสียงเพลงสรรเสริญพระเจ้าจากเครื่องดนตรีออแกนก้องกังวานไพเราะเพราะพริ้งจับใจผู้ฟังที่กำลังสวดรำพึง ทุกคนก้มศีรษะนมัสการพระเป็นเจ้าในศีลมหาสนิทด้วยความเคารพรักสูงสุด และพระองค์ทรงอวยพระพรลูกๆที่คุกเข่าถวายความเคารพแด่พระองค์ นักดนตรีคนเดียวเท่านั้นจ้องมองศีลมหาสนิท ซึ่งองค์พระเจ้าทรงสถิตอยู่และถูกบรรพชนของเขาดูหมิ่นสบประมาท พระหัตถ์อันลึกลับมองไม่เห็น ได้กดศีรษะเขาให้ก้มลง และเขาได้คุกเข่าถวายความเคารพพระเป็นเจ้าในศีลศักดิ์สิทธิ์อย่างสมพระเกียรติ ทันทีมหัศจรรย์แห่งพระหรรษทานได้อุบัติขึ้น ชายหนุ่มได้รับความสว่าง เขาได้คุกเข่าเป็นชาวยิวและลุกขึ้นเป็นชาวคาทอลิก การที่พระเป็นเจ้าทรงประทับอยู่ในแผ่นศีลอันศักดิ์สิทธิ์ได้สกิดดวงใจของเขาอย่างลึกซึ้ง
ต่อมาไม่นาน เขาได้รับศีลล้างบาป และเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่เป็นเสื้อผ้าหยาบๆ ชุดนักบวช เขาได้ละทิ้งความสนุกสนานทางโลกโดยสิ้นเชิง นี่เป็นตัวอย่างแสดงถึงพระฤทธานุภาพของพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท เขาได้เดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง และจากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง ประกาศข่าวดีเรื่องความรักของพระเป็นเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า "วันเศร้าโศกได้จากไปแล้ว ข้าพเจ้าได้พบสันติสุขในจิตใจตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้าได้รับความสุขใจอย่างแท้จริงจากพระเจ้าในตู้ศีล" ถ้าท่านอยากทราบชื่อของชายคนนี้ที่ได้รับพระพรพิเศษ ท่านสอบถามได้ที่อารามคาร์เมล และคนจะบอกท่านว่าเขาชื่อ “คุณพ่อออกัสติน มารีย์ แห่งศีลมหาสนิท (Father Augustine Marie of the Blessed Sacrament)” ถ้าการเฝ้าพระเจ้าในศีลมหาสนิทเพียงครั้งเดียวได้เปลี่ยนชาวยิว ผู้มีใจแข็งกระด้าง เป็นชาวคาทอลิก ผู้มีใจศรัทธา เราจะได้รับพระพรยิ่งใหญ่ขนาดไหนถ้าเราไปเฝ้าศีลมหาสนิทบ่อยๆ ด้วยความศรัทธา?
ให้เราภาวนา :
“โอ้ พระเยซูเจ้า ข้าพเจ้านมัสการพระองค์ในศีลมหาสนิทอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพระเป็นเจ้า พระมหาไถ่ และผู้กอบกู้วิญญาณของข้าพเจ้า”
เรื่องที่ 4
ประมาณปีค.ศ. 1399 ในเมืองพอซนัน (Poznan) ประเทศโปแลนด์ ได้เกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกี่ยวกับศีลมหาสนิท สาวใช้ผู้หนึ่งรับสินบนจากผู้ที่ไม่นับถือศาสนา แอบเข้าไปในวัดน้อยของนักบวชคณะดอมินิกัน (Dominican Order) ขโมยแผ่นศีลเล็กๆ 3 แผ่น ห่อด้วยผ้าลินิน และเอาไปให้สมุนปีศาจ ผู้ได้จ้างเธอมาปฏิบัติงานอันอุบาทว์ชิ้นนี้ คนชั่วได้ทุราจารศีลอย่างน่าเศร้าสลดใจโดยโยนแผ่นศีลบนโต๊ะและสับเป็นชิ้นๆ เลือดสดๆได้ทะลักออกมา ทิ้งรอยเปื้อนไว้ ล้างไม่ออก ในไม่ช้าข่าวนี้ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมือง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นฝูงชนได้แห่กันมาดู หญิงตาบอดได้รบเร้าคนช่วยพาเธอมายังสถานที่เกิดเหตุ ณ ที่แห่งนั้น เธอได้รับการดลใจจากเบื้องบนให้ร้องเสียงดังว่า "ถ้าพระองค์เป็นพระเป็นเจ้าเที่ยงแท้ ที่บรรพบุรุษของเราได้ตรึงบนไม้กางเขน โปรดรักษาดวงตาของข้าพเจ้าให้หายบอดเถิด" ดวงตาของเธอที่มืดสนิทเป็นเวลานานสามารถมองเห็นได้ เธอยินดีปรีดาอย่างท่วมท้น ประกาศอัศจรรย์นี้แก่ประชาชนทั่วไปถึงพระเมตตาขององค์พระเจ้า ผู้ทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทจริงๆ คนลบหลู่องค์ความศักดิ์สิทธิ์ได้ทำผิดอย่างมหันต์ และกลัวว่าโทษทัณฑ์จะตามทัน จึงพยายามทำลายหลักฐานให้หมดสิ้น แต่ต้องประสบความล้มเหลว ในที่สุดพวกเขาได้ทิ้งแผ่นศีลในหนองน้ำแห่งหนึ่ง
ต่อมา ในวันฉลองพระนางมารีย์พรหมจารี คนเลี้ยงสัตว์สองคนพ่อลูกได้นำฝูงวัวมาเล็มหญ้าใกล้ๆบริเวณนั้น ขณะลูกชายเฝ้าฝูงสัตว์ พ่อได้ไปฟังมิสซาที่วัดไม่ไกลจากที่นั่น ด้วยความประหลาดใจ เด็กเลี้ยงวัวได้เห็นวัวเดินเข้าไปใกล้หนองน้ำ คุกเข่า ก้มหัว ในท่าถวายความเคารพแด่พระผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งมวลและทรงดีครบครัน เขาก็เงยหน้ามองฟ้าแลเห็นแผ่นศีลมหาสนิท ฉายแสงเป็นประกาย ลอยอยู่ในอากาศ โดยความพิศวงงงงวย เขารีบคุกเข่า ก้มศีรษะ และกราบลงนมัสการพระเป็นเจ้าสูงสุด ที่พระองค์ทรงสำแดงพระฤทธานุภาพอย่างน่าเกรงขามยิ่งนัก
ในเวลานั้น พ่อได้กลับจากฟังมิสซา พอเห็นพ่อ เด็กก็รีบวิ่งเข้าไปหาตะโกนว่า "คุณพ่อครับ วัวของเรากำลังนมัสการศีลมหาสนิท" พ่อตอบว่า "เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้หรอกลูก!" เด็กคัดค้านเสียงแข็งว่า "คุณพ่อมาดูเองสิครับว่า ผมไม่ได้พูดโกหก" ชายสูงอายุเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เขาต้องหยุดชะงัก เพราะเท้าของเขาก้าวไม่ออก เหมือนติดแน่นอยู่กับพื้นดิน เขาได้เข้าภวังค์ขณะจ้องมองเห็นภาพอันแปลกประหลาด ที่ปลายสุดของหนองน้ำมีลำแสงเล็กๆ 3 ดวงส่องสว่างอยู่ในอากาศ ขณะสัตว์สี่เท้าคุกเข่าหัวติดดิน คนเลี้ยงสัตว์ผู้พ่อหมดข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้นได้ก้มศีรษะลงกราบนมัสการแผ่นปังที่พระสงฆ์ได้เสกแล้ว 3 แผ่น ซึ่งผู้ที่ไม่นับถือศาสนาได้ลบหลู่ความศักดิ์สิทธิ์ หลังจากชายชราสวดภาวนาสักครู่หนึ่ง เขาได้เข้าเมืองกระจายข่าวมหัศจรรย์นี้กับทุกคนที่เขาได้พบ อย่างไรก็ตาม ประชาชนคิดว่า เขาได้เสียสติและจับเขากักขังไว้
อัศจรรย์ครั้งใหม่ล่าสุดได้อุบัติซ้อนขึ้น ประตูห้องขังได้เปิดออกเองปล่อยนักโทษเป็นอิสระ เหตุการณ์ต่างๆที่ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกัน ทำให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต่างตกใจ แล้วการสอบสวนอย่างเป็นทางการได้เริ่มขึ้น บิชอปและคณะสงฆ์ ได้นำขบวนแห่ไปยังที่เกิดเหตุ แผ่นศีลศักดิ์สิทธิ์ในอากาศค่อยๆ ลอยลงมาประทับบนมือของพระสงฆ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ท่านก็อัญเชิญกลับเข้าเมืองอย่างสมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่ศาสนาชั้นผู้ใหญ่ได้ประชุมปรึกษาหารือกันว่า พระศาสนจักรจะตัดสินใจทำอะไรกับแผ่นศีลเหล่านั้น? ขณะการประชุมกำลังดำเนินอยู่ แผ่นศีลได้ลอยขึ้น กลับไปยังหนองน้ำอย่างเดิม พระเป็นเจ้าได้ทรงแสดงพระประสงค์ให้เขาทั้งหลายเห็นอย่างชัดเจน ฉะนั้น ประชาชนได้พร้อมใจกันสร้างพระวิหารตรงที่แห่งนั้น โดยความช่วยเหลือทางการเงินจาก Ladislaus Jagellon กษัตริย์ของประเทศโปแลนด์ หลังจากนั้น นักแสวงบุญจำนวนแสนๆได้มาเยี่ยมชมพระวิหารซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง เพื่อถวายพระเกียรติและพระสิริโรจนาแด่พระเป็นเจ้า ผู้ทรงสถิตอยู่ในแผ่นศีลมหาสนิท ศักดิ์สิทธิ์ และมหัศจรรย์
ให้เราภาวนา
"โอ้ พระหฤทัยอันอ่อนหวานของพระเยซูคริสตเจ้า ข้าพเจ้าอ้อนวอนพระองค์ โปรดประทานพระหรรษทานให้ข้าพเจ้ารักพระองค์เพิ่มขึ้นทุกวัน และให้ดวงใจข้าพเจ้าคล้ายพระหฤทัยของพระองค์เทอญ"
CR. : http://www.geocities.ws/prakobkit/new1/miracle.html
ขอพระเจ้าสถิตกับท่านทุกคนนะครับ
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ศีลมหาสนิท #ศักดิ์สิทธิ์ #มหัศจรรย์ #อัศจรรย์ #อัศจรรย์ศีลมหาสนิท #คำสอน #พระศาสนจักรคาทอลิก #พระศาสนจักร #พระคัมภีร์ #พระกาย #พระโลหิต #แผ่นปัง #เหล้าองุ่น #ไวน์องุ่น #catholic #EucharisticMiracle #miracle #eucharist #HooyCommunion #CatholicChurch #church #bible
CR. : https://www.facebook.com/10006483483555 ... tid=cr9u03