ชัยชนะของศีลมหาสนิท จาก "เหตุการณ์ไล่ปีศาจของนิโคลา ออบรีย์ (The Exorcisms of Nicola Aubry)" โดย คุณพ่อ Michael Muller
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 12, 2023 2:26 am
ชัยชนะของศีลมหาสนิท จากบทความ "เหตุการณ์ไล่ปีศาจของนิโคลา ออบรีย์ (The Exorcisms of Nicola Aubry)" โดย คุณพ่อ Michael Muller, C.S.S.R. (คณะพระมหาไถ่ Redemptorists หรือ Congregation of the Most Holy Redeemer) ในนิตยสาร "From the Housetops" ของนักบวชคณะเบเนดิกติน (Benedictine Order) แปลและเรียบเรียงโดย สิริโรจนา
เป็นเรื่องจริงที่น่าพิศวงยิ่งนัก ปีศาจได้ใช้ มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) อดีตนักบวชที่เสียความเชื่อ ยกเลิกพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ และปฏิเสธการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้าในศีลมหาสนิท (ลูเธอร์รันเชื่อว่า พระเยซูเจ้าอยู่ในศีลมหาสนิท แต่ไม่เปลี่ยนสสาร) โดยวิธีเดียวกัน องค์พระเจ้าได้ทรงใช้ ปีศาจ ศัตรูของพระองค์ มาพิสูจน์ถึงการประทับของพระองค์ในศีลมหาสนิท พระองค์ได้บังคับมันประกาศ ซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อหน้ามหาชน ความเชื่อของมันในศีลมหาสนิท ทำให้ความเชื่อของคนที่แยกออกจากพระศาสนจักรสั่นคลอนและสับสนอลหม่าน และมันยอมรับว่า พระเยซูคริสตเจ้าในศีลมหาสนิททรงมีพระฤทธานุภาพ เหนือมันอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้เอง พระเป็นเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ เบลเซบับ (Beelzebub) และปีศาจ 29 ตน เข้ามาสิงในร่างของ “นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry)” ผู้บริสุทธิ์
พิธีไล่ปีศาจได้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1565 จนถึงวันที่ 8 กุมพาพันธ์ ค.ศ. 1566
พ่อแม่ของเธอได้พาเธอไปหาคุณพ่อเดอ มอทตา (Father de Motta) พระสงฆ์คาทอลิกผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเวอร์วินส์ (Vervins) ท่านจะได้ทำพิธีกรรมไล่ปีศาจ ท่านได้พยายามขับไล่จิตชั่วร้าย หลายหน โดยใช้พระธาตุไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ซาตานไม่ยอมออกจากร่าง ในที่สุดโดยการดลใจของพระจิตเจ้า ท่านได้ตัดสินใจไล่ปีศาจ โดยใช้ศีลมหาสนิทที่มีพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า ขณะที่นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) กำลังอยู่ในสภาพที่นอนหลับอย่างผิดธรรมชาติ ท่านได้วางศีลมหาสนิทบนริมฝีปากเธอ ทันใดนั้น เธอได้หลุดออกจากเวทย์มนต์คาถาของอำนาจมืด เธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว และรับศีลมหาสนิทด้วยความศรัทธา เมื่อเธอได้รับพระกายศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ใบหน้าของเธอมีรัศมีเปล่งปลั่งและสวยงามเหมือนใบหน้าของทูตสวรรค์ ทุกคนที่ได้เห็นเธอดีใจ , พิศวง และโมทนาพระคุณพระเป็นเจ้าสิ้นสุดดวงใจ
พระเป็นเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ซาตานกลับเข้ามาสิงในร่างของเธออีก
เมื่อข่าวผีสิงในร่างของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) แพร่หลายไปทุกแห่ง นักเทศน์ลัทธิคาลวิน (Calvinist) หลายคนได้มาพร้อมกับคณะผู้ติดตาม เพื่อ "คุ้ยเขี่ยเรื่องโกหกหลอกลวงชาวบ้าน" เมื่อเขาทั้งหลายเดินผ่านประตู ปีศาจได้ถวายความเคารพอย่างเยาะเย้ย เรียกชื่อทุกคน และบอกว่า เขาทั้งหลายได้มาร่วมพิธี ด้วยความจงรักภักดีต่อมัน นักเทศน์คนหนึ่งได้หยิบหนังสือสวดภาวนาของนิกายโปรแตนแตนต์ออกมา และเริ่มสวดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปีศาจได้หัวเราะใส่เขา และด้วยสีหน้าขบขัน พูดว่า : "โฮ่! โฮ่! เพื่อนรัก แกตั้งใจไล่ข้าด้วยบทสวดและบทเพลงของแกหรือ? แกคิดว่ามันจะสร้างความเจ็บปวดให้ข้าหรือ? แกไม่รู้หรือว่ามันเป็นของข้า? ข้าได้ช่วยแต่งมันขึ้นมา!"
• นักเทศน์พูดอย่างเอาจริงเอาจังว่า : "ข้าพเจ้าจะขับไล่เจ้าในนามของพระเป็นเจ้า"
• ปีศาจพูดอย่างเยาะเย้ยว่า : "แก! แกจะต้องไม่ขับไล่ข้า ในนามของพระเป็นเจ้า หรือในนามของปีศาจ แกเคยได้ยินไหมว่า ปีศาจขับไล่ปีศาจ?"
• นักเทศน์พูดอย่างฉุนๆว่า : "ข้าพเจ้าไม่ใช่ปีศาจ ข้าพเจ้า คือ ผู้รับใช้พระคริสตเจ้า"
• ปีศาจพูดประชดว่า : "ใช่สิ แกคือผู้รับใช้พระคริสตเจ้า! ข้าจะบอกอะไรให้แกรู้ แกแย่ยิ่งกว่าข้าหลายเท่า ข้าเชื่อ แต่แกไม่ยอมเชื่อ แกแน่ใจหรือว่าแกสามารถขับไล่ข้าออกจากร่างของคนที่น่าสงสารนี้? ฮ่า! แกไปเถิด ไปขับไล่จิตชั่วร้ายทั้งหมดที่สิงอยู่ในดวงใจของแกก่อน!"
• นักเทศน์ก็ได้เดินออกไป อารมณ์ค่อนข้างเสีย ขณะกำลังอำลา เขาได้หันหน้ากลับมาสวดว่า : "ข้าแต่พระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าวิงวอนพระองค์ โปรดกรุณาช่วยเหลือคนที่น่าสงสารนี้!"
• ปีศาจได้ร้องเสียงดังว่า : "และข้าวอนขอลูซีเฟอร์อย่าออกจากแกเป็นอันขาด ให้แกตกอยู่ในอำนาจมืดตลอดไป เหมือนอย่างในขณะนี้ ไปทำกิจการของแกเดี๋ยวนี้ แกเป็นของข้าโดยสิ้นเชิง และข้าเป็นเจ้านายของแก"
เมื่อพระสงฆ์คาทอลิกได้มาถึง ชาวโปรแตสแตนต์หลายคนได้กลับไปแล้ว เขาทั้งหลายได้ยินและฟังเกินความต้องการ อย่างไรก็ตาม บางคนยังอยู่และกลัวอย่างสยองขวัญ เมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นปีศาจบิดกายและร้องโหยหวน ด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส ทันทีที่ศีลมหาสนิทถูกนำมา อยู่ใกล้ๆมัน ในที่สุด จิตชั่วร้ายได้จากไป และทิ้งนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) เข้าภวังค์อย่างผิดปกติ ขณะเธออยู่ในสภาพนั้น นักเทศน์หลายคนพยายามเปิดตาเธอ แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ แล้วพระสงฆ์คาทอลิกได้วางศีลมหาสนิท บนริมฝีปากของเธอ ทันทีเธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว
แล้วคุณพ่อเดอ มอทตา (Father de Motta) ได้หันมาทางนักเทศน์ที่พิศวงงงงวย และพูดว่า : "บัดนี้ จงไปเถิด ท่านผู้เป็นนักเทศน์พระคัมภีร์แบบใหม่ ไปเล่าให้คนทุกแห่งฟัง สิ่งที่ท่านได้เห็นและได้ฟัง อย่าปฏิเสธอีกต่อไปว่า พระเยซูคริสตเจ้ามิได้ประทับอยู่ในศีลมหาสนิทบนพระแท่น บัดนี้ จงไปและอย่าให้ความเคารพนับถือของมนุษย์ในตัวท่าน ขัดขวางท่านไม่ให้ประกาศความจริงข้อนี้"
ในพิธีไล่ปีศาจของวันถัดไป ปีศาจถูกบังคับให้สารภาพว่า มันยังคงสิงอยู่ในร่างพร้อมกับจิตชั่วร้าย 29 ตน มี 3 ตัวที่ร้ายกาจมาก คือ เซอร์เบอรัส (Cerberus) , แอสทารอธ (Astaroth) และลีเจียน (Legion)
วันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1556 บิชอปได้มาถึงเมืองเวอร์วินส์ (Vervins) และเริ่มพิธีไล่ปีศาจในวัด ต่อหน้าคนมากมายที่มาร่วมพิธี
• บิชอปพูดกับปีศาจด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า : "ในพระนามและพระฤทธานุภาพของการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกจากร่างเดี๋ยวนี้"
• ในที่สุดซาตานถูกขับไล่ออกไปครั้งที่สองโดยอาศัยศีลมหาสนิท ขณะกำลังออกจากร่าง มันได้ทำให้แขนซ้ายและขาขวา ของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) เป็นอัมพาต และแขนซ้ายของเธอยาวกว่าแขนขวา ไม่มีใครบนแผ่นดินนี้ที่สามารถรักษาความพิการของร่างกายในลักษณะนี้ได้ จนกระทั่ง หลายอาทิตย์หลังจากนั้น ปีศาจได้ถูกขับไล่ออกจากร่างเธอและจะไม่กลับเข้ามาอีกเลย
ตอนนี้นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ได้ถูกพาไปแสวงบุญที่วัดแม่พระในเมืองลิเอส (Liesse) เนื่องจากปีศาจหวาดกลัวสถานที่แห่งนั้นเป็นอย่างมาก
วันรุ่งขึ้นคุณพ่อเดอ มอทตา (Father de Motta) ได้เริ่มพิธีไล่ปีศาจในวัดแม่พระในเมืองลิเอส (Liesse) ท่ามกลางคนที่มาร่วมพิธีอย่างแน่นขนัด ท่านได้ถือศีลมหาสนิทในมือ ชูศีลให้จิตชั่วร้ายเห็น และพูดว่า :
• "ข้าพเจ้าสั่งเจ้า ในพระนามของพระเป็นเจ้าผู้สถิตชั่วนิรันดร อิมมานูเอลผู้ทรงพระฤทธานุภาพ ที่เจ้าได้เห็นพระองค์ประทับอยู่ในแผ่นศีล และที่เจ้าเชื่อในพระองค์"
• ปีศาจได้ร้องดังกรีด: "อ้า ใช่! ข้าเชื่อในพระองค์" แล้วปีศาจได้โหยหวนอีก ขณะมันสารภาพความเชื่อของมันอย่างก้องกังวาน โดยพระฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพ
• พระสงฆ์คาทอลิกพูดว่า: "ในพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกจากร่างเดี๋ยวนี้"
เมื่อปีศาจได้ยินคำเหล่านี้ และโดยเฉพาะ ได้เห็นศีลมหาสนิท มันทรมานอย่างน่ากลัวสยดสยอง ชั่วครู่หนึ่ง ร่างของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ม้วนเป็นลูกบอล แล้วตัวเธอบวมเปล่งอย่างน่ากลัว อีกครู่หนึ่งใบหน้าของเธอยาวผิดธรรมชาติ แล้วกว้างมากเกินไป และบางเวลาก็แดงเข้ม ตาเธอ บางเวลาโปนออกมาอย่าง น่าหวาดกลัว แล้วก็จมลึกลงไปในหัวกะโหลก ลิ้นเธอห้อยลงมาถึงคาง บางครั้งมีสีดำ บางครั้งมีสีแดง และบางครั้งมีจุดๆเหมือนคางคก
• พระสงฆ์คาทอลิกยังไล่ปีศาจและทรมานปีศาจต่อไป ท่านพูดเสียงดังว่า: "จิตที่โดนสาปแช่ง ในพระนามและการประทับอยู่ของพระเยซูคริสตเจ้าขณะนี้ ในศีลมหาสนิท! ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกจากร่างเดี๋ยวนี้"
• ปีศาจร้องโหยหวนว่า: "อ้า ตกลง! เพื่อนข้า 26 ตนจะต้องออกเดี๋ยวนี้ เพราะถูกบังคับให้ออก"
คนที่มาร่วมพิธีในวัดก็เริ่มสวดภาวนาอย่างร้อนรน ทันใดนั้นแขนขาของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) เสียงเปรี๊ยะๆ คล้ายกับว่า กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเธอกำลังแตกออกจากกัน ไอน้ำสกปรกโสโครกได้พุ่งออกมาจากปากเธอ และจิตชั่วร้าย 26 ตนได้ออกจากร่างเธอ และจะไม่กลับเข้ามาอีกเลย แล้วนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) นอนหลับอย่างไม่ได้สติด้วยท่าที่ผิดปกติ ศีลมหาสนิทเท่านั้นสามารถปลุกเธอให้ตื่นได้ เมื่อเธอได้สติกลับคืนมา และรับศีลมหาสนิท ใบหน้าของเธอก็ฉายแสงเหมือนใบหน้าของทูตสวรรค์
• พระสงฆ์คาทอลิกได้ใช้ทุกยุทธวิธีขับไล่ปีศาจต่อไป
• ปีศาจตอบอย่างโมโหว่า: "ข้าจะไม่ออกจนกว่าบิชอปแห่งลีออน (Leon) จะสั่ง"
ตอนนี้ นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ถูกพาไปที่เมืองปีเออร์ปอนท์ (Pierrepont) ที่ซึ่งจิตชั่วร้ายชื่อ ลีเจียน (Legion) ถูกขับไล่ออกไปจากร่างเธอ โดยศีลมหาสนิท เช้าวันรุ่งขึ้นเธอถูกนำกลับมาที่วัด ยังไม่ทันได้ออกจากบ้าน ปีศาจได้เข้าสิงเธออีก
บิชอปผู้ซึ่งได้ถูกขอร้องมาทำพิธีไล่ปีศาจออกจากนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ได้เตรียมตัวอย่างดีสำหรับงานที่น่ากลัวสยองขวัญนี้ ด้วยการสวดภาวนา , การอดอาหาร และการทำกิจใช้โทษบาปอื่นๆ
• เมื่อเธอมาถึงวัด พิธีไล่ปีศาจได้เริ่มขึ้น บิชอปถาม : "เจ้ามีทั้งหมดกี่ตนในร่างนี้?
• ปีศาจตอบ : "ข้ามีทั้งหมด 3 ตน" ... "เบลเซบับ (Beelzebub) , เซอร์เบอรัส (Cerberus) และแอสทารอธ (Astaroth)"
• บิชอปถาม : "ได้เกิดอะไรขึ้นกับตัวอื่นๆ?" ... "ใครเป็นคนขับไล่จิตชั่วร้ายเหล่านั้น?"
• ปีศาจขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ร้องออกมา : "ฮ้า! ที่ท่านถือในมือของท่านบนจานรองศีล (paten)" มันหมายถึงองค์พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
แล้วบิชอปชูศีลมหาสนิทใกล้ๆใบหน้าของนิโคลา
ปีศาจบิดกายและโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส : "ฮ้า! ตกลง! ข้าจะออก ข้าจะออก!" มันร้องกรีด : "แต่ข้าจะกลับมาใหม่"
ทันใดนั้น เธอแข็งทั้งตัว และเคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนก้อนหิน บิชอปสัมผัสริมฝีปากของเธอด้วยศีลมหาสนิท ทันทีเธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว รับศีลมหาสนิท และสีหน้าของเธอขณะนี้ฉายแสงแห่งความสวยงามเหนือธรรมชาติอย่างอัศจรรย์
วันรุ่งขึ้นนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ถูกนำกลับมาที่วัดอีกครั้ง และพิธีไล่ปีศาจเริ่มตามปกติ
• บิชอปถือศีลมหาสนิทในมือ ชูศีลใกล้ๆใบหน้าของเธอ และพูดว่า : "ข้าพเจ้าสั่งเจ้าในพระนามขององค์พระเจ้าผู้สถิตชั่วนิรันดร และโดยการประทับขององค์พระเยซูคริสตเจ้าขณะนี้ในศีลมหาสนิทออกจากร่างของคนนี้ที่พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้าง และอย่ากลับเข้ามาอีกเลย"
• ปีศาจได้กรีดร้อง : "ไม่! ไม่! ข้าจะไม่ออก ยังไม่ถึงเวลาของข้า"
• "ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกเดี๋ยวนี้ ไปให้พ้น จิตชั่วร้ายที่ไม่บริสุทธิ์และโดนสาปแช่ง! ไปให้พ้น! และบิชอปชูศีลมหาสนิทใกล้ๆ ใบหน้าของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry)
• ซาตานได้กรีดร้อง : "หยุด! หยุด! ปล่อยข้าเถิด! ข้าจะออก แต่ข้าจะกลับมาใหม่" และทันใดนั้นเธอมีอาการชัก , มือกำ , เท้างอ อย่างน่ากลัวสยดสยอง ควันสีดำพุ่งออกจากปากเธอ และเธอล้มลงเป็นลมหมดสติไป
ระหว่างที่เธออยู่ที่เมืองลีออน (Leon) นายแพทย์ของนิกายคาทอลิก และของนิกายโปรแตสแตนต์ ได้ตรวจร่างกายของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) อย่างละเอียดถี่ถ้วน แขนซ้ายของเธอ ซึ่งปีศาจได้ทำให้เป็นอัมพาต ทั้งแขนหมดความรู้สึก หมอได้กรีดแขนเธอด้วยมีดปลายแหลม , ลนแขนเธอด้วยไฟ และแทงใต้เล็บนิ้วของเธอด้วยเข็มเย็บผ้าและเข็มฉีดยา เธอไม่รู้สึกเจ็บปวด แขนเธอไม่มีความรู้สึกเลย ครั้งหนึ่ง ขณะเธอกำลังนอนหลับอย่างผิดธรรมชาติ หมอให้เธอกินขนมปังชุบเหล้าองุ่น [นี้คือสิ่งที่ชาวโปรแตสแตนต์เรียกว่า พิธีมหาสนิท (communion) หรือ อาหารค่ำมื้อสุดท้าย (Lord's Supper)] , ถูแขนขาของเธออย่างรวดเร็ว , สาดน้ำใส่หน้าเธอ , เจาะลิ้นเธอจนเลือดทะลักออกมา และพยายามทุกวิถีทางที่จะปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ตัวเย็น ไม่เคลื่อนไหว และหนักเหมือนก้อนหิน ในที่สุด พระสงฆ์คาทอลิกแตะริมฝีปากของเธอด้วยศีลมหาสนิท ในทันที เธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว และเริ่มสรรเสริญพระเป็นเจ้า
• เป็นอัศจรรย์ที่มองเห็นและสัมผัสได้ นายแพทย์คนหนึ่งนับถือลัทธิคาลวิน (Calvinist) ผู้ซึ่งยึดมั่นในความคิดเห็นของตนเองเป็นใหญ่ และไม่ยอมฟังผู้อื่น ได้ประณามความเชื่อถือที่หลงผิดของเขา และขอเข้าพระศาสนาคาทอลิก
• หลายๆครั้ง ชาวโปรแตสแตนต์ได้สัมผัสใบหน้าของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ด้วยแผ่นศีลที่ไม่ได้เสก เพราะเป็นแค่แผ่นปังธรรมดา ซาตานไม่สะทกสะท้าน หรือเจ็บปวดทรมานเลย มันกลับเยาะเย้ย , ดูหมิ่น , เหยียดหยามเขาทั้งหลายอย่างสนุกสนาน
วันที่ 27 มกราคม หลังจากได้เดินเข้าวัดพร้อมกับพระสงฆ์คาทอลิกและคริสตชนเป็นขบวนแห่อันสง่างามชวนศรัทธา บิชอปเริ่มพิธีไล่ปีศาจในวัดท่ามกลางมหาชนชาวโปรแตสแตนต์และชาวคาทอลิกที่มาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
ขณะนี้บิชอปได้ชูศีลมหาสนิทใกล้ๆใบหน้าของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ทันใดนั้น ได้เกิดเสียงร้องที่ไม่มีใครเคยได้ยินในโลก เป็นเสียงปีศาจในนรก ที่ดังก้องกังวาลในอากาศ ควันสีดำหนาๆ ได้พุ่งออกมาจากปากเธอ จิตชั่วร้ายชื่อ แอสทารอธ (Astaroth) ได้ถูกขับไล่ออกไปและจะไม่กลับเข้ามาอีกเลย
ระหว่างพิธีไล่ปีศาจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมพาพันธ์ บิชอปพูดว่า :
• "โอ้ จิตที่โดนสาปแช่ง! เนื่องจากบทภาวนา พระคัมภีร์ , พิธีกรรมไล่ผีของพระศาสนจักร และพระธาตุไม่อาจขับไล่เจ้าออกจากร่างนี้ บัดนี้ ข้าพเจ้าจะแสดงแก่เจ้า องค์พระเป็นเจ้าและเจ้านายของเจ้า และโดยพระฤทธานุภาพของพระองค์ ข้าพเจ้าสั่งเจ้า"
ระหว่างพิธีไล่ปีศาจ ซึ่งเกิดขึ้นหลังการถวายพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ บิชอปได้ชูศีลมหาสนิทที่อยู่ในมือ และพูดว่า : "โอ้ จิตที่โดนสาปแช่ง ศัตรูของพระเป็นเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาล! ข้าพเจ้าสั่งเจ้า โดยพระโลหิตประเสริฐของพระเยซูคริสตเจ้าที่ประทับอยู่ในขณะนี้ ออกจากร่างของหญิงน่าสงสารนี้! ออกไป จิตโดนสาปแช่ง ไปลงสู่ไฟที่เผาเจ้าชั่วนิรันดรในนรก!
• ด้วยคำพูดเหล่านี้ และโดยเฉพาะ ด้วยภาพศีลมหาสนิท ปีศาจถูกทรมานอย่างน่ากลัวสยดสยอง และรูปร่างหน้าตาของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ช่างน่าเกลียดน่ากลัว และน่าสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด จนคนดูต้องเบือนหน้าหนี ไม่อาจทนดูภาพที่น่ากลัวสยองขวัญ ในที่สุด ได้ยินเสียงถอนหายใจลึกๆ ควันสีดำเหมือนเมฆได้พุ่งออกมาจากปากนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) และจิตชั่วร้ายชื่อ เซอร์เบอรัส (Cerberus) ถูกขับไล่ออกไป
• อีกครั้ง นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ได้เป็นลมหมดสติ , อาการเหมือนคนตาย และถูกทำให้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัวด้วยวิธีเดียว คือ ศีลมหาสนิท
ระหว่างพิธีไล่ผี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมพาพันธ์ บิชอปได้พูดกับซาตานว่า :
• "บอกข้าพเจ้าสิว่า ทำไมเจ้าจึงได้มาเข้าสิงในหญิงชาวคาทอลิกนี้ ผู้ซึ่งเป็นคนที่ซื่อตรงและอยู่ในคุณความดี?"
• "พระเป็นเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ข้าเข้าสิงเธอเพราะบาปของหลายๆคน ข้าต้องการแสดงให้ชาวลัทธิคาลวิน (Calvinist) เห็นว่า ปีศาจมีจริง และเข้าสิงคนได้ ถ้าพระเป็นเจ้าทรงอนุญาต ข้ารู้ พวกเขาไม่ยอมเชื่อเรื่องนี้ แต่ข้าจะแสดงให้เขาทั้งหลายเห็นว่า ข้าคือปีศาจ ข้าได้มาเข้าสิงในหญิงคนนี้ เพื่อทำให้เขาทั้งหลายกลับใจ หรือ เขาทั้งหลายดื้อด้านต่อไปในบาปของตัวเอง และโดยพระโลหิตอันประเสริฐ ข้ากำลังทำงานของข้า"
ทุกคนที่ได้ฟังคำตอบตกใจกลัวอย่างสยองขวัญ บิชอปได้ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า :
• "ใช่แล้ว พระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้มนุษย์ทั้งมวลรวมกันในความเชื่อ ศักดิ์สิทธิ์ เที่ยงแท้ เดียวกัน เนื่องด้วยมีพระเป็นเจ้า แต่พระองค์เดียว ก็ต้องมีศาสนาเที่ยงแท้เพียงศาสนาเดียว ศาสนาที่ชาวโปรแตสแตนต์ได้ตั้งขึ้นมาเอง เป็นการกระทำที่หมิ่นประมาทพระบรมเดชานุภาพของพระเป็นเจ้าจะต้องล่มสลาย ศาสนาที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงตั้งขึ้นเป็นศาสนาเดียวที่เที่ยงแท้ และจะคงอยู่ตลอดไป เป็นศาสนาที่รวมมนุษย์ทั้งมวล เป็นหนึ่งเดียวในอ้อมแขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร เพื่อว่ามีนายชุมพาบาลแต่ผู้เดียวและฝูงแกะแต่ฝูงเดียว นายชุมพาบาลผู้ศักดิ์สิทธิ์นี้ คือ องค์พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ซึ่งเป็นศีรษะที่เรามองไม่เห็นของพระศาสนจักรคาทอลิกอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีศีรษะที่มองเห็นได้ คือ พระสันตะปาปา (Pope) บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ผู้สืบตำแหน่งต่อจากนักบุญเปโตร อัครสาวก (Saint Peter the Apostle)"
• ปีศาจเงียบกริบ เพราะมันถูกทำให้อับอายขายหน้าต่อหน้ามหาชนที่มาร่วมพิธี มันถูกขับออกไปอีกครั้งด้วยศีลมหาสนิท
ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน ปีศาจเริ่มร้อง :
• "อ้า! ฮ้า! แกคิดหรือว่าแกจะสามารถขับไล่ข้าโดยวิธีนี้? แกไม่มีบิชอปมาร่วมพิธี อธิการและหัวหน้าอธิการอยู่ที่ไหน? ตุลาการประจำราชสำนักอยู่ที่ไหน? หัวหน้าผู้พิพากษา ผู้ซึ่งได้ตกใจกลัวเกือบเสียสติ เมื่อคืนนี้ในคุก อยู่ที่ไหน? ผู้ทำหน้าแทนพระราชาอยู่ที่ไหน? ทนายความและที่ปรึกษาของพระองค์อยู่ที่ไหน? เสมียนศาลอยู่ที่ไหน? (ปีศาจได้เอ่ยชื่อแต่ละคน) ข้าจะไม่ออกจนกว่าทุกคนมาชุมนุมกันณที่นี้ ถ้าข้าออกเดี๋ยวนี้ แล้วแกจะเอาอะไรมาเป็นข้อพิสูจน์เพื่อถวายพระราชาสำหรับสิ่งที่ได้เกิดขึ้น? แกคิดหรือว่าคนดูจะเชื่อแกง่ายๆ? ไม่เชื่อหรอก! ไม่เชื่อหรอก! หลายๆคนจะต่อต้านแก หลักฐานของคนพื้นเมืองไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ข้าต้องทรมานที่บอกให้แกรู้ว่าแกจะต้องทำอะไรข้าถูกบังคับให้บอก ฮ้า! ข้าสาปแช่งชั่วโมงที่ข้าได้เข้าสิงหญิงชั่วช้าสารเลวนี้"
• บิชอปได้ตอบว่า : "ข้าพเจ้าไม่เพลิดเพลินกับการพูดจาเรื่อยเปื่อยของเจ้า มีพยานมากพอแล้วในที่นี้ คนที่เจ้าได้กล่าวถึงไม่จำเป็นเลย ออกไปเดี๋ยวนี้ ถวายพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเป็นเจ้า ออกไปเดี๋ยวนี้ ไปสู่ไฟนรก!"
• "ตกลง ข้าจะออก แต่ไม่ใช่วันนี้ ข้ารู้ดีว่าข้าจะต้องออก ข้าได้รับพระบัญชาแล้ว ข้าถูกบังคับให้ออก"
• บิชอปพูดว่า : "ข้าพเจ้าไม่สนใจการพูดจาไร้สาระของเจ้า ข้าพเจ้าจะขับไล่เจ้า โดยพระฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้า โดยพระโลหิตอันประเสริฐของพระเยซูคริสตเจ้า"
• ปีศาจร้องกรีดอกมาว่า : "ตกลง ข้ายอมแพ้แก มันทรมานข้าเหลือเกินที่ข้าต้องให้เกียรตินี้แก่แก“
เป็นเรื่องจริงที่น่าพิศวงยิ่งนัก ปีศาจได้ใช้ มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) อดีตนักบวชที่เสียความเชื่อ ยกเลิกพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ และปฏิเสธการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้าในศีลมหาสนิท (ลูเธอร์รันเชื่อว่า พระเยซูเจ้าอยู่ในศีลมหาสนิท แต่ไม่เปลี่ยนสสาร) โดยวิธีเดียวกัน องค์พระเจ้าได้ทรงใช้ ปีศาจ ศัตรูของพระองค์ มาพิสูจน์ถึงการประทับของพระองค์ในศีลมหาสนิท พระองค์ได้บังคับมันประกาศ ซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อหน้ามหาชน ความเชื่อของมันในศีลมหาสนิท ทำให้ความเชื่อของคนที่แยกออกจากพระศาสนจักรสั่นคลอนและสับสนอลหม่าน และมันยอมรับว่า พระเยซูคริสตเจ้าในศีลมหาสนิททรงมีพระฤทธานุภาพ เหนือมันอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้เอง พระเป็นเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ เบลเซบับ (Beelzebub) และปีศาจ 29 ตน เข้ามาสิงในร่างของ “นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry)” ผู้บริสุทธิ์
พิธีไล่ปีศาจได้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1565 จนถึงวันที่ 8 กุมพาพันธ์ ค.ศ. 1566
พ่อแม่ของเธอได้พาเธอไปหาคุณพ่อเดอ มอทตา (Father de Motta) พระสงฆ์คาทอลิกผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเวอร์วินส์ (Vervins) ท่านจะได้ทำพิธีกรรมไล่ปีศาจ ท่านได้พยายามขับไล่จิตชั่วร้าย หลายหน โดยใช้พระธาตุไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ซาตานไม่ยอมออกจากร่าง ในที่สุดโดยการดลใจของพระจิตเจ้า ท่านได้ตัดสินใจไล่ปีศาจ โดยใช้ศีลมหาสนิทที่มีพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า ขณะที่นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) กำลังอยู่ในสภาพที่นอนหลับอย่างผิดธรรมชาติ ท่านได้วางศีลมหาสนิทบนริมฝีปากเธอ ทันใดนั้น เธอได้หลุดออกจากเวทย์มนต์คาถาของอำนาจมืด เธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว และรับศีลมหาสนิทด้วยความศรัทธา เมื่อเธอได้รับพระกายศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ใบหน้าของเธอมีรัศมีเปล่งปลั่งและสวยงามเหมือนใบหน้าของทูตสวรรค์ ทุกคนที่ได้เห็นเธอดีใจ , พิศวง และโมทนาพระคุณพระเป็นเจ้าสิ้นสุดดวงใจ
พระเป็นเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ซาตานกลับเข้ามาสิงในร่างของเธออีก
เมื่อข่าวผีสิงในร่างของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) แพร่หลายไปทุกแห่ง นักเทศน์ลัทธิคาลวิน (Calvinist) หลายคนได้มาพร้อมกับคณะผู้ติดตาม เพื่อ "คุ้ยเขี่ยเรื่องโกหกหลอกลวงชาวบ้าน" เมื่อเขาทั้งหลายเดินผ่านประตู ปีศาจได้ถวายความเคารพอย่างเยาะเย้ย เรียกชื่อทุกคน และบอกว่า เขาทั้งหลายได้มาร่วมพิธี ด้วยความจงรักภักดีต่อมัน นักเทศน์คนหนึ่งได้หยิบหนังสือสวดภาวนาของนิกายโปรแตนแตนต์ออกมา และเริ่มสวดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปีศาจได้หัวเราะใส่เขา และด้วยสีหน้าขบขัน พูดว่า : "โฮ่! โฮ่! เพื่อนรัก แกตั้งใจไล่ข้าด้วยบทสวดและบทเพลงของแกหรือ? แกคิดว่ามันจะสร้างความเจ็บปวดให้ข้าหรือ? แกไม่รู้หรือว่ามันเป็นของข้า? ข้าได้ช่วยแต่งมันขึ้นมา!"
• นักเทศน์พูดอย่างเอาจริงเอาจังว่า : "ข้าพเจ้าจะขับไล่เจ้าในนามของพระเป็นเจ้า"
• ปีศาจพูดอย่างเยาะเย้ยว่า : "แก! แกจะต้องไม่ขับไล่ข้า ในนามของพระเป็นเจ้า หรือในนามของปีศาจ แกเคยได้ยินไหมว่า ปีศาจขับไล่ปีศาจ?"
• นักเทศน์พูดอย่างฉุนๆว่า : "ข้าพเจ้าไม่ใช่ปีศาจ ข้าพเจ้า คือ ผู้รับใช้พระคริสตเจ้า"
• ปีศาจพูดประชดว่า : "ใช่สิ แกคือผู้รับใช้พระคริสตเจ้า! ข้าจะบอกอะไรให้แกรู้ แกแย่ยิ่งกว่าข้าหลายเท่า ข้าเชื่อ แต่แกไม่ยอมเชื่อ แกแน่ใจหรือว่าแกสามารถขับไล่ข้าออกจากร่างของคนที่น่าสงสารนี้? ฮ่า! แกไปเถิด ไปขับไล่จิตชั่วร้ายทั้งหมดที่สิงอยู่ในดวงใจของแกก่อน!"
• นักเทศน์ก็ได้เดินออกไป อารมณ์ค่อนข้างเสีย ขณะกำลังอำลา เขาได้หันหน้ากลับมาสวดว่า : "ข้าแต่พระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าวิงวอนพระองค์ โปรดกรุณาช่วยเหลือคนที่น่าสงสารนี้!"
• ปีศาจได้ร้องเสียงดังว่า : "และข้าวอนขอลูซีเฟอร์อย่าออกจากแกเป็นอันขาด ให้แกตกอยู่ในอำนาจมืดตลอดไป เหมือนอย่างในขณะนี้ ไปทำกิจการของแกเดี๋ยวนี้ แกเป็นของข้าโดยสิ้นเชิง และข้าเป็นเจ้านายของแก"
เมื่อพระสงฆ์คาทอลิกได้มาถึง ชาวโปรแตสแตนต์หลายคนได้กลับไปแล้ว เขาทั้งหลายได้ยินและฟังเกินความต้องการ อย่างไรก็ตาม บางคนยังอยู่และกลัวอย่างสยองขวัญ เมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นปีศาจบิดกายและร้องโหยหวน ด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส ทันทีที่ศีลมหาสนิทถูกนำมา อยู่ใกล้ๆมัน ในที่สุด จิตชั่วร้ายได้จากไป และทิ้งนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) เข้าภวังค์อย่างผิดปกติ ขณะเธออยู่ในสภาพนั้น นักเทศน์หลายคนพยายามเปิดตาเธอ แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ แล้วพระสงฆ์คาทอลิกได้วางศีลมหาสนิท บนริมฝีปากของเธอ ทันทีเธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว
แล้วคุณพ่อเดอ มอทตา (Father de Motta) ได้หันมาทางนักเทศน์ที่พิศวงงงงวย และพูดว่า : "บัดนี้ จงไปเถิด ท่านผู้เป็นนักเทศน์พระคัมภีร์แบบใหม่ ไปเล่าให้คนทุกแห่งฟัง สิ่งที่ท่านได้เห็นและได้ฟัง อย่าปฏิเสธอีกต่อไปว่า พระเยซูคริสตเจ้ามิได้ประทับอยู่ในศีลมหาสนิทบนพระแท่น บัดนี้ จงไปและอย่าให้ความเคารพนับถือของมนุษย์ในตัวท่าน ขัดขวางท่านไม่ให้ประกาศความจริงข้อนี้"
ในพิธีไล่ปีศาจของวันถัดไป ปีศาจถูกบังคับให้สารภาพว่า มันยังคงสิงอยู่ในร่างพร้อมกับจิตชั่วร้าย 29 ตน มี 3 ตัวที่ร้ายกาจมาก คือ เซอร์เบอรัส (Cerberus) , แอสทารอธ (Astaroth) และลีเจียน (Legion)
วันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1556 บิชอปได้มาถึงเมืองเวอร์วินส์ (Vervins) และเริ่มพิธีไล่ปีศาจในวัด ต่อหน้าคนมากมายที่มาร่วมพิธี
• บิชอปพูดกับปีศาจด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า : "ในพระนามและพระฤทธานุภาพของการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกจากร่างเดี๋ยวนี้"
• ในที่สุดซาตานถูกขับไล่ออกไปครั้งที่สองโดยอาศัยศีลมหาสนิท ขณะกำลังออกจากร่าง มันได้ทำให้แขนซ้ายและขาขวา ของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) เป็นอัมพาต และแขนซ้ายของเธอยาวกว่าแขนขวา ไม่มีใครบนแผ่นดินนี้ที่สามารถรักษาความพิการของร่างกายในลักษณะนี้ได้ จนกระทั่ง หลายอาทิตย์หลังจากนั้น ปีศาจได้ถูกขับไล่ออกจากร่างเธอและจะไม่กลับเข้ามาอีกเลย
ตอนนี้นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ได้ถูกพาไปแสวงบุญที่วัดแม่พระในเมืองลิเอส (Liesse) เนื่องจากปีศาจหวาดกลัวสถานที่แห่งนั้นเป็นอย่างมาก
วันรุ่งขึ้นคุณพ่อเดอ มอทตา (Father de Motta) ได้เริ่มพิธีไล่ปีศาจในวัดแม่พระในเมืองลิเอส (Liesse) ท่ามกลางคนที่มาร่วมพิธีอย่างแน่นขนัด ท่านได้ถือศีลมหาสนิทในมือ ชูศีลให้จิตชั่วร้ายเห็น และพูดว่า :
• "ข้าพเจ้าสั่งเจ้า ในพระนามของพระเป็นเจ้าผู้สถิตชั่วนิรันดร อิมมานูเอลผู้ทรงพระฤทธานุภาพ ที่เจ้าได้เห็นพระองค์ประทับอยู่ในแผ่นศีล และที่เจ้าเชื่อในพระองค์"
• ปีศาจได้ร้องดังกรีด: "อ้า ใช่! ข้าเชื่อในพระองค์" แล้วปีศาจได้โหยหวนอีก ขณะมันสารภาพความเชื่อของมันอย่างก้องกังวาน โดยพระฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพ
• พระสงฆ์คาทอลิกพูดว่า: "ในพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกจากร่างเดี๋ยวนี้"
เมื่อปีศาจได้ยินคำเหล่านี้ และโดยเฉพาะ ได้เห็นศีลมหาสนิท มันทรมานอย่างน่ากลัวสยดสยอง ชั่วครู่หนึ่ง ร่างของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ม้วนเป็นลูกบอล แล้วตัวเธอบวมเปล่งอย่างน่ากลัว อีกครู่หนึ่งใบหน้าของเธอยาวผิดธรรมชาติ แล้วกว้างมากเกินไป และบางเวลาก็แดงเข้ม ตาเธอ บางเวลาโปนออกมาอย่าง น่าหวาดกลัว แล้วก็จมลึกลงไปในหัวกะโหลก ลิ้นเธอห้อยลงมาถึงคาง บางครั้งมีสีดำ บางครั้งมีสีแดง และบางครั้งมีจุดๆเหมือนคางคก
• พระสงฆ์คาทอลิกยังไล่ปีศาจและทรมานปีศาจต่อไป ท่านพูดเสียงดังว่า: "จิตที่โดนสาปแช่ง ในพระนามและการประทับอยู่ของพระเยซูคริสตเจ้าขณะนี้ ในศีลมหาสนิท! ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกจากร่างเดี๋ยวนี้"
• ปีศาจร้องโหยหวนว่า: "อ้า ตกลง! เพื่อนข้า 26 ตนจะต้องออกเดี๋ยวนี้ เพราะถูกบังคับให้ออก"
คนที่มาร่วมพิธีในวัดก็เริ่มสวดภาวนาอย่างร้อนรน ทันใดนั้นแขนขาของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) เสียงเปรี๊ยะๆ คล้ายกับว่า กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเธอกำลังแตกออกจากกัน ไอน้ำสกปรกโสโครกได้พุ่งออกมาจากปากเธอ และจิตชั่วร้าย 26 ตนได้ออกจากร่างเธอ และจะไม่กลับเข้ามาอีกเลย แล้วนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) นอนหลับอย่างไม่ได้สติด้วยท่าที่ผิดปกติ ศีลมหาสนิทเท่านั้นสามารถปลุกเธอให้ตื่นได้ เมื่อเธอได้สติกลับคืนมา และรับศีลมหาสนิท ใบหน้าของเธอก็ฉายแสงเหมือนใบหน้าของทูตสวรรค์
• พระสงฆ์คาทอลิกได้ใช้ทุกยุทธวิธีขับไล่ปีศาจต่อไป
• ปีศาจตอบอย่างโมโหว่า: "ข้าจะไม่ออกจนกว่าบิชอปแห่งลีออน (Leon) จะสั่ง"
ตอนนี้ นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ถูกพาไปที่เมืองปีเออร์ปอนท์ (Pierrepont) ที่ซึ่งจิตชั่วร้ายชื่อ ลีเจียน (Legion) ถูกขับไล่ออกไปจากร่างเธอ โดยศีลมหาสนิท เช้าวันรุ่งขึ้นเธอถูกนำกลับมาที่วัด ยังไม่ทันได้ออกจากบ้าน ปีศาจได้เข้าสิงเธออีก
บิชอปผู้ซึ่งได้ถูกขอร้องมาทำพิธีไล่ปีศาจออกจากนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ได้เตรียมตัวอย่างดีสำหรับงานที่น่ากลัวสยองขวัญนี้ ด้วยการสวดภาวนา , การอดอาหาร และการทำกิจใช้โทษบาปอื่นๆ
• เมื่อเธอมาถึงวัด พิธีไล่ปีศาจได้เริ่มขึ้น บิชอปถาม : "เจ้ามีทั้งหมดกี่ตนในร่างนี้?
• ปีศาจตอบ : "ข้ามีทั้งหมด 3 ตน" ... "เบลเซบับ (Beelzebub) , เซอร์เบอรัส (Cerberus) และแอสทารอธ (Astaroth)"
• บิชอปถาม : "ได้เกิดอะไรขึ้นกับตัวอื่นๆ?" ... "ใครเป็นคนขับไล่จิตชั่วร้ายเหล่านั้น?"
• ปีศาจขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ร้องออกมา : "ฮ้า! ที่ท่านถือในมือของท่านบนจานรองศีล (paten)" มันหมายถึงองค์พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
แล้วบิชอปชูศีลมหาสนิทใกล้ๆใบหน้าของนิโคลา
ปีศาจบิดกายและโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส : "ฮ้า! ตกลง! ข้าจะออก ข้าจะออก!" มันร้องกรีด : "แต่ข้าจะกลับมาใหม่"
ทันใดนั้น เธอแข็งทั้งตัว และเคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนก้อนหิน บิชอปสัมผัสริมฝีปากของเธอด้วยศีลมหาสนิท ทันทีเธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว รับศีลมหาสนิท และสีหน้าของเธอขณะนี้ฉายแสงแห่งความสวยงามเหนือธรรมชาติอย่างอัศจรรย์
วันรุ่งขึ้นนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ถูกนำกลับมาที่วัดอีกครั้ง และพิธีไล่ปีศาจเริ่มตามปกติ
• บิชอปถือศีลมหาสนิทในมือ ชูศีลใกล้ๆใบหน้าของเธอ และพูดว่า : "ข้าพเจ้าสั่งเจ้าในพระนามขององค์พระเจ้าผู้สถิตชั่วนิรันดร และโดยการประทับขององค์พระเยซูคริสตเจ้าขณะนี้ในศีลมหาสนิทออกจากร่างของคนนี้ที่พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้าง และอย่ากลับเข้ามาอีกเลย"
• ปีศาจได้กรีดร้อง : "ไม่! ไม่! ข้าจะไม่ออก ยังไม่ถึงเวลาของข้า"
• "ข้าพเจ้าสั่งเจ้าออกเดี๋ยวนี้ ไปให้พ้น จิตชั่วร้ายที่ไม่บริสุทธิ์และโดนสาปแช่ง! ไปให้พ้น! และบิชอปชูศีลมหาสนิทใกล้ๆ ใบหน้าของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry)
• ซาตานได้กรีดร้อง : "หยุด! หยุด! ปล่อยข้าเถิด! ข้าจะออก แต่ข้าจะกลับมาใหม่" และทันใดนั้นเธอมีอาการชัก , มือกำ , เท้างอ อย่างน่ากลัวสยดสยอง ควันสีดำพุ่งออกจากปากเธอ และเธอล้มลงเป็นลมหมดสติไป
ระหว่างที่เธออยู่ที่เมืองลีออน (Leon) นายแพทย์ของนิกายคาทอลิก และของนิกายโปรแตสแตนต์ ได้ตรวจร่างกายของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) อย่างละเอียดถี่ถ้วน แขนซ้ายของเธอ ซึ่งปีศาจได้ทำให้เป็นอัมพาต ทั้งแขนหมดความรู้สึก หมอได้กรีดแขนเธอด้วยมีดปลายแหลม , ลนแขนเธอด้วยไฟ และแทงใต้เล็บนิ้วของเธอด้วยเข็มเย็บผ้าและเข็มฉีดยา เธอไม่รู้สึกเจ็บปวด แขนเธอไม่มีความรู้สึกเลย ครั้งหนึ่ง ขณะเธอกำลังนอนหลับอย่างผิดธรรมชาติ หมอให้เธอกินขนมปังชุบเหล้าองุ่น [นี้คือสิ่งที่ชาวโปรแตสแตนต์เรียกว่า พิธีมหาสนิท (communion) หรือ อาหารค่ำมื้อสุดท้าย (Lord's Supper)] , ถูแขนขาของเธออย่างรวดเร็ว , สาดน้ำใส่หน้าเธอ , เจาะลิ้นเธอจนเลือดทะลักออกมา และพยายามทุกวิถีทางที่จะปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ตัวเย็น ไม่เคลื่อนไหว และหนักเหมือนก้อนหิน ในที่สุด พระสงฆ์คาทอลิกแตะริมฝีปากของเธอด้วยศีลมหาสนิท ในทันที เธอได้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัว และเริ่มสรรเสริญพระเป็นเจ้า
• เป็นอัศจรรย์ที่มองเห็นและสัมผัสได้ นายแพทย์คนหนึ่งนับถือลัทธิคาลวิน (Calvinist) ผู้ซึ่งยึดมั่นในความคิดเห็นของตนเองเป็นใหญ่ และไม่ยอมฟังผู้อื่น ได้ประณามความเชื่อถือที่หลงผิดของเขา และขอเข้าพระศาสนาคาทอลิก
• หลายๆครั้ง ชาวโปรแตสแตนต์ได้สัมผัสใบหน้าของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ด้วยแผ่นศีลที่ไม่ได้เสก เพราะเป็นแค่แผ่นปังธรรมดา ซาตานไม่สะทกสะท้าน หรือเจ็บปวดทรมานเลย มันกลับเยาะเย้ย , ดูหมิ่น , เหยียดหยามเขาทั้งหลายอย่างสนุกสนาน
วันที่ 27 มกราคม หลังจากได้เดินเข้าวัดพร้อมกับพระสงฆ์คาทอลิกและคริสตชนเป็นขบวนแห่อันสง่างามชวนศรัทธา บิชอปเริ่มพิธีไล่ปีศาจในวัดท่ามกลางมหาชนชาวโปรแตสแตนต์และชาวคาทอลิกที่มาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
ขณะนี้บิชอปได้ชูศีลมหาสนิทใกล้ๆใบหน้าของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ทันใดนั้น ได้เกิดเสียงร้องที่ไม่มีใครเคยได้ยินในโลก เป็นเสียงปีศาจในนรก ที่ดังก้องกังวาลในอากาศ ควันสีดำหนาๆ ได้พุ่งออกมาจากปากเธอ จิตชั่วร้ายชื่อ แอสทารอธ (Astaroth) ได้ถูกขับไล่ออกไปและจะไม่กลับเข้ามาอีกเลย
ระหว่างพิธีไล่ปีศาจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมพาพันธ์ บิชอปพูดว่า :
• "โอ้ จิตที่โดนสาปแช่ง! เนื่องจากบทภาวนา พระคัมภีร์ , พิธีกรรมไล่ผีของพระศาสนจักร และพระธาตุไม่อาจขับไล่เจ้าออกจากร่างนี้ บัดนี้ ข้าพเจ้าจะแสดงแก่เจ้า องค์พระเป็นเจ้าและเจ้านายของเจ้า และโดยพระฤทธานุภาพของพระองค์ ข้าพเจ้าสั่งเจ้า"
ระหว่างพิธีไล่ปีศาจ ซึ่งเกิดขึ้นหลังการถวายพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ บิชอปได้ชูศีลมหาสนิทที่อยู่ในมือ และพูดว่า : "โอ้ จิตที่โดนสาปแช่ง ศัตรูของพระเป็นเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาล! ข้าพเจ้าสั่งเจ้า โดยพระโลหิตประเสริฐของพระเยซูคริสตเจ้าที่ประทับอยู่ในขณะนี้ ออกจากร่างของหญิงน่าสงสารนี้! ออกไป จิตโดนสาปแช่ง ไปลงสู่ไฟที่เผาเจ้าชั่วนิรันดรในนรก!
• ด้วยคำพูดเหล่านี้ และโดยเฉพาะ ด้วยภาพศีลมหาสนิท ปีศาจถูกทรมานอย่างน่ากลัวสยดสยอง และรูปร่างหน้าตาของนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ช่างน่าเกลียดน่ากลัว และน่าสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด จนคนดูต้องเบือนหน้าหนี ไม่อาจทนดูภาพที่น่ากลัวสยองขวัญ ในที่สุด ได้ยินเสียงถอนหายใจลึกๆ ควันสีดำเหมือนเมฆได้พุ่งออกมาจากปากนิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) และจิตชั่วร้ายชื่อ เซอร์เบอรัส (Cerberus) ถูกขับไล่ออกไป
• อีกครั้ง นิโคลา ออบรีย์ (Nicola Aubry) ได้เป็นลมหมดสติ , อาการเหมือนคนตาย และถูกทำให้ฟื้นคืนสติรู้สึกตัวด้วยวิธีเดียว คือ ศีลมหาสนิท
ระหว่างพิธีไล่ผี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมพาพันธ์ บิชอปได้พูดกับซาตานว่า :
• "บอกข้าพเจ้าสิว่า ทำไมเจ้าจึงได้มาเข้าสิงในหญิงชาวคาทอลิกนี้ ผู้ซึ่งเป็นคนที่ซื่อตรงและอยู่ในคุณความดี?"
• "พระเป็นเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ข้าเข้าสิงเธอเพราะบาปของหลายๆคน ข้าต้องการแสดงให้ชาวลัทธิคาลวิน (Calvinist) เห็นว่า ปีศาจมีจริง และเข้าสิงคนได้ ถ้าพระเป็นเจ้าทรงอนุญาต ข้ารู้ พวกเขาไม่ยอมเชื่อเรื่องนี้ แต่ข้าจะแสดงให้เขาทั้งหลายเห็นว่า ข้าคือปีศาจ ข้าได้มาเข้าสิงในหญิงคนนี้ เพื่อทำให้เขาทั้งหลายกลับใจ หรือ เขาทั้งหลายดื้อด้านต่อไปในบาปของตัวเอง และโดยพระโลหิตอันประเสริฐ ข้ากำลังทำงานของข้า"
ทุกคนที่ได้ฟังคำตอบตกใจกลัวอย่างสยองขวัญ บิชอปได้ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า :
• "ใช่แล้ว พระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้มนุษย์ทั้งมวลรวมกันในความเชื่อ ศักดิ์สิทธิ์ เที่ยงแท้ เดียวกัน เนื่องด้วยมีพระเป็นเจ้า แต่พระองค์เดียว ก็ต้องมีศาสนาเที่ยงแท้เพียงศาสนาเดียว ศาสนาที่ชาวโปรแตสแตนต์ได้ตั้งขึ้นมาเอง เป็นการกระทำที่หมิ่นประมาทพระบรมเดชานุภาพของพระเป็นเจ้าจะต้องล่มสลาย ศาสนาที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงตั้งขึ้นเป็นศาสนาเดียวที่เที่ยงแท้ และจะคงอยู่ตลอดไป เป็นศาสนาที่รวมมนุษย์ทั้งมวล เป็นหนึ่งเดียวในอ้อมแขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร เพื่อว่ามีนายชุมพาบาลแต่ผู้เดียวและฝูงแกะแต่ฝูงเดียว นายชุมพาบาลผู้ศักดิ์สิทธิ์นี้ คือ องค์พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ซึ่งเป็นศีรษะที่เรามองไม่เห็นของพระศาสนจักรคาทอลิกอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีศีรษะที่มองเห็นได้ คือ พระสันตะปาปา (Pope) บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ผู้สืบตำแหน่งต่อจากนักบุญเปโตร อัครสาวก (Saint Peter the Apostle)"
• ปีศาจเงียบกริบ เพราะมันถูกทำให้อับอายขายหน้าต่อหน้ามหาชนที่มาร่วมพิธี มันถูกขับออกไปอีกครั้งด้วยศีลมหาสนิท
ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน ปีศาจเริ่มร้อง :
• "อ้า! ฮ้า! แกคิดหรือว่าแกจะสามารถขับไล่ข้าโดยวิธีนี้? แกไม่มีบิชอปมาร่วมพิธี อธิการและหัวหน้าอธิการอยู่ที่ไหน? ตุลาการประจำราชสำนักอยู่ที่ไหน? หัวหน้าผู้พิพากษา ผู้ซึ่งได้ตกใจกลัวเกือบเสียสติ เมื่อคืนนี้ในคุก อยู่ที่ไหน? ผู้ทำหน้าแทนพระราชาอยู่ที่ไหน? ทนายความและที่ปรึกษาของพระองค์อยู่ที่ไหน? เสมียนศาลอยู่ที่ไหน? (ปีศาจได้เอ่ยชื่อแต่ละคน) ข้าจะไม่ออกจนกว่าทุกคนมาชุมนุมกันณที่นี้ ถ้าข้าออกเดี๋ยวนี้ แล้วแกจะเอาอะไรมาเป็นข้อพิสูจน์เพื่อถวายพระราชาสำหรับสิ่งที่ได้เกิดขึ้น? แกคิดหรือว่าคนดูจะเชื่อแกง่ายๆ? ไม่เชื่อหรอก! ไม่เชื่อหรอก! หลายๆคนจะต่อต้านแก หลักฐานของคนพื้นเมืองไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ข้าต้องทรมานที่บอกให้แกรู้ว่าแกจะต้องทำอะไรข้าถูกบังคับให้บอก ฮ้า! ข้าสาปแช่งชั่วโมงที่ข้าได้เข้าสิงหญิงชั่วช้าสารเลวนี้"
• บิชอปได้ตอบว่า : "ข้าพเจ้าไม่เพลิดเพลินกับการพูดจาเรื่อยเปื่อยของเจ้า มีพยานมากพอแล้วในที่นี้ คนที่เจ้าได้กล่าวถึงไม่จำเป็นเลย ออกไปเดี๋ยวนี้ ถวายพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเป็นเจ้า ออกไปเดี๋ยวนี้ ไปสู่ไฟนรก!"
• "ตกลง ข้าจะออก แต่ไม่ใช่วันนี้ ข้ารู้ดีว่าข้าจะต้องออก ข้าได้รับพระบัญชาแล้ว ข้าถูกบังคับให้ออก"
• บิชอปพูดว่า : "ข้าพเจ้าไม่สนใจการพูดจาไร้สาระของเจ้า ข้าพเจ้าจะขับไล่เจ้า โดยพระฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้า โดยพระโลหิตอันประเสริฐของพระเยซูคริสตเจ้า"
• ปีศาจร้องกรีดอกมาว่า : "ตกลง ข้ายอมแพ้แก มันทรมานข้าเหลือเกินที่ข้าต้องให้เกียรตินี้แก่แก“