โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2549 16:12 น.
ซันเดย์ ไทม์ - อดีตนาวิกโยธินที่มีแม่ชีอุ้มชูอุปถัมภ์มาแต่น้อย และสร้างตัวจากการขายพิซซา เดินหน้าแผนการมูลค่า 540 ล้านดอลลาร์ สร้างเมืองนักบุญแห่งแรกในอเมริกา ที่จะปกครองด้วยหลักการอันเคร่งครัดของนิกายโรมันคาทอลิก
การทำแท้ง ภาพลามกอนาจาร หรือยาคุมกำเนิด จะเป็นสิ่งต้องห้ามในอีฟ มาเรีย เมืองใหม่ของรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ที่เริ่มก่อรูปขึ้นบนพื้นที่ที่เคยเป็นฟาร์มปลูกผักทางตะวันตกเฉียงเหนือของไมอามี
ทอม โมนาแกน ผู้ก่อตั้งเชนโดมิโนพิซซา เรียกเสียงวิจารณ์จากนักเคลื่อนไหวปกป้องสิทธิพลเมืองดังขรม ด้วยการประกาศว่า ร้านขายยาในอีฟ มาเรีย จะไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายถุงยางอนามัยหรือยาเม็ดคุมกำเนิดเด็ดขาด ขณะที่เครือข่ายเคเบิลทีวีก็ต้องงดแพร่ภาพหนังหรือรายการเรต X
หัวใจสำคัญของเมืองอีฟ มาเรียคือ โบสถ์สูง 30 เมตร และมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งแรกที่สร้างขึ้นในสหรัฐฯในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา

นิโคลัส เจ. ฮีลลีย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เปิดเผยว่า นักศึกษาในอนาคตควร ‘ช่วยกันฟื้นนครของพระเจ้า’ ในประเทศที่กำลังเผชิญกับ ‘การล่มสลายทางวัฒนธรรมขั้นเลวร้ายถึงหายนะ’
โมนาแกน วัย 68 ปี ขายกิจการโดมิโน พิซซาในปี 1998 ด้วยสนนราคาประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์

ทอม โมนาแกน เจ้าของโปรเจกต์ ‘เมืองนักบุญ’
บุรุษที่อุทิศตนให้แก่นิกายคาทอลิกผู้นี้ ที่กำลังหว่านเม็ดเงินนับล้านลงในโครงการศาสนามากมาย อาทิ สถานีวิทยุ โรงเรียนประถม และภาควิชาคาทอลิกในรัฐมิชิแกน เพิ่งซื้อที่ดินราว 2,000 เฮกตาร์ที่เดิมเป็นของเกษตรกรผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน

ภาพของการก่อสร้างเมืองที่ถ่ายไว้ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.พ.
ในอนาคต ที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่บนพื้นที่รอบนอกของบึงเอเวอร์เกรดด้านตะวันตก จะเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนประชาชน 30,000 คน โดยที่นักศึกษา 5,000 คนจะอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่รัฐฟลอริดาให้การต้อนรับโครงการเมืองใหม่ของโมแกน โดยระบุว่าเป็นเสมือนรางวัลสำหรับพื้นที่อันซบเซา และเจ๊บ บุช ผู้ว่าการรัฐ เดินทางไปร่วมทำพิธีเปิดโครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยเมื่อต้นเดือน
อย่างไรก็ตาม บรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิพลเมืองและองค์กรตรวจสอบสาธารณะอื่นๆ ต่างกังวลว่า การแบ่งแยกศาสนจักรกับอำนาจรัฐอาจนำไปสู่การฟ้องร้องในอนาคต หากอีฟ มาเรียพยายามนำคำสอนทางศาสนามาบังคับใช้ กระนั้น ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาขัดขวางโมนาแกน ซึ่งแรกทีเดียวพยายามสร้างมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งแรกในสหรัฐฯในรอบ 4 ทศวรรษในรัฐมิชิแกน แต่ติดปัญหาที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ

ต่อข้อถามเรื่องที่อาจถูกฟ้องร้องในอนาคต โมนาแกนตอบง่ายๆ ว่า “ก็ดีสิ จะได้ช่วยประชาสัมพันธ์เมืองของเรา”
ทั้งนี้ โมนาแกนถูกส่งตัวไปยังมูลนิธิเด็กกำพร้าในความอุปถัมภ์ของนิกายคาทอลิกพร้อมพี่ชายภายหลังพ่อเสียชีวิตในวันคริสต์มาสอีฟปี 1941 และหลักจากรับใช้ชาติในสังกัดหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ และลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน โมนาแกนก่อตั้งโดมิโน พิซซาในทศวรรษ 1960 โดยร่วมลงขันกับพี่ชาย ที่ภายหลังขายหุ้นคืนให้เขาเพื่อไปซื้อรถโฟล์คเต่า
หลังจากนั้น โมนาแกนปลุกปั้นจนโดมิโน พิซซากลายเป็นเชนพิซซาใหญ่อันดับ 2 ของเมืองลุงแซม เขาสะสมรถโบราณ ซื้อเรือยอชต์ และกลายเป็นเจ้าของทีมเบสบอล ดีทรอยต์ ไทเกอร์ส
แต่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เขาได้อ่านหนังสือ ‘เมียร์ คริสเตียนิตี้’ ของซีซี ลูอิส “นั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ผมตัดสินใจที่จะมีชีวิตเรียบง่าย ไม่เอาแล้วเครื่องบิน เรือยอชต์ เป็นการปลดปล่อยอันยิ่งใหญ่สำหรับผม”
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000027390