หน้า 1 จากทั้งหมด 1

+++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 15, 2006 10:54 pm
โดย Holy
ตอนที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กเคยคิดว่า ชีวิตคนเราเกิดมาทำไม? อยู่เพื่ออะไร? วันๆ ก็ต้องดิ้นรน และเป็นเช่นนี้ ทุกวันๆ หากชีวิตคนเรา มีแค่นี้ ถ้าชีวิตนี้ทุกข์นัก ก็ฆ่าตัวตายดีกว่า" แต่ความจริงแล้ว ลึกๆ ของมนุษย์ เรารู้ว่าชีวิต ไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงความตาย ดังนั้นมนุษย์จึงกลัวความตาย เพราะไม่รู้ว่า ตายแล้วจะไปไหน หรือต้องพบกับอะไร?

พื้นเพข้าพเจ้า อยู่ในครอบครัว ที่เป็นชาวจีน ซึ่งมีการกราบไหว้สิ่งต่างๆ มากมาย ข้าพเจ้าไม่ได้รับคำตอบ จากสิ่งที่ข้าพเจ้ายึดถืออยู่ในเวลานั้น ในเรื่องที่เกี่ยวกับ ตายแล้วไปไหน? ข้าพเจ้าพยายามค้นคว้า อ่านหนังสือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปรัชญาศาสนา แต่ก็หาคำตอบที่แน่นอนไม่ได้เลยว่า "ตายแล้วไปไหน?" และตามที่อยู่ในเวลานั้น ก็คิดว่า คนเราเกิดมา เพื่อใช้กรรมเก่า และก็สร้างกรรมใหม่ และก็ตายไป เกิดมาอีก เพื่อใช้กรรมเก่า และก็สร้างกรรมใหม่ เรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด เช่นนี้ใครจะรอดได้? ใครจะหลุดพ้นได้? ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นว่า ชีวิต ไม่มีความหมายอะไรเลย เวลาที่ข้าพเจ้ามีปัญหา ข้าพเจ้าอยากใช้ความตาย ในการจบปัญหานั้นๆ แต่ก็กลัว เพราะไม่รู้ว่าตายแล้วจะไปไหน?

ต่อมาเมื่อข้าพเจ้าจบแพทย์ และมาเป็นอาจารย์ ประจำที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เวลานั้น ข้าพเจ้า อยากไป ศึกษาต่อ ที่ต่างประเทศ จึงคิดอยากจะเรียนเพิ่มเติม ในด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งเวลานั้น มีมิชชั่นนารีท่านหนึ่ง ยินดี ที่จะสอนภาษาอังกฤษ ให้ข้าพเจ้า แต่ต้องใช้พระคริสต์ธรรมคัมภีร์ (Bible) เป็นตำราเรียน ในใจของข้าพเจ้า เวลานั้น ก็คิดว่า "ใช้อะไรสอนก็ไม่เป็นไร คนเราถ้าไม่เชื่อซะอย่างใครจะมาบังคับให้เราเชื่อได้" แต่ก่อน ข้าพเจ้า เป็นคนที่ ไม่ชอบคริสเตียน ข้าพเจ้ามีเพื่อนคนหนึ่ง ที่ชอบพูดเรื่องพระเยซูให้ข้าพเจ้าฟัง ข้าพเจ้าก็ปฏิเสธ โต้เถียง และดูถูกความเชื่อของเขา ข้าพเจ้าคิดว่าศาสนาคริสต์ เป็นเรื่องงมงาย เป็นศาสนาฝรั่ง และไม่สมเหตุสมผล เท่ากับศาสนาที่ถืออยู่ในเวลานั้น แต่จิตใจลึกๆ ของข้าพเจ้า รู้ดีว่า มีคำถามหลายอย่าง ที่ข้าพเจ้า ไม่ได้รับคำตอบ ในศาสนาที่ข้าพเจ้าถืออยู่

5 ปี หลังจากการเรียนภาษาอังกฤษ โดยผ่านทางพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ นอกจากจะทำให้ข้าพเจ้า ได้เรียนรู้ ภาษาอังกฤษแล้ว ข้าพเจ้ายังได้เริ่มเรียนรู้ว่า พระเจ้าของคริสเตียนเป็นใคร? พระเยซูเป็นใคร? แต่ก็ยังไม่ยอมเชื่อ เพราะยังไม่สามารถยอมรับได้ว่า "พระเจ้ามีจริง" จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายแพทย์ จิตร สิทธิอมร (ปัจจุบัน ท่านเป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ท่านได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า "โลกเรามีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ตาเรามองไม่เห็น แต่มันก็มีอยู่จริง เช่น อากาศที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งประกอบด้วย ก๊าซต่างๆ และคลื่นต่างๆ มากมายเหล่านี้ ถึงแม้เราจะสัมผัสหรือ จับต้องมันไม่ได้ แต่มันก็มีอยู่จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มนุษย์ไม่ได้สร้างมันขึ้นมา มนุษย์ เพียงแต่ไปค้นพบ และนำมันมาใช้เท่านั้น" จากคำกล่าวของท่าน ทำให้ข้าพเจ้าเริ่มคิด และมองเห็นว่า สิ่งต่างๆ ในโลกนี้มันมหัศจรรย์เกินกว่าที่จะเกิดขึ้นเองได้ แต่จะต้องมีผู้สร้าง ที่ยิ่งใหญ่ที่สร้างมันขึ้นมา นั่นคือ พระเจ้านั่นเอง

ในที่สุดข้าพเจ้าก็ตัดสินใจยอมรับว่า พระเจ้ามีจริง พระองค์ทรงเป็นผู้สร้าง สรรพสิ่งทั้งปวง รวมทั้ง ชีวิตของข้าพเจ้าด้วย และพระองค์ทรงปรารถนา ที่จะมีความสัมพันธ์กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจ เชิญพระเยซูคริสต์ เข้ามาในชีวิตของข้าพเจ้า ในเวลานั้นครอบครัวของข้าพเจ้า มีปัญหามาก ทำให้เกิดการทะเลาะ ระหว่างข้าพเจ้าและสามีบ่อยครั้ง จนถึงขั้นจะต้องแตกแยกกัน แต่พระเจ้า ก็ทรงช่วยแก้ปัญหา ให้แก่ครอบครัวของข้าพเจ้า แม้นิสัยอารมณ์บางอย่าง ที่ไม่ค่อยเหมาะสม พระองค์ก็ทรงเปลี่ยนแปลง ให้ข้าพเจ้าใหม่ เช่นเดียวกัน และต่อมาไม่นาน สามีของข้าพเจ้าก็ได้ตัดสินใจ ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เป็นพระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัว เหมือนข้าพเจ้าเช่นกัน

หลังจากนั้น ข้าพเจ้าได้ศึกษาพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ที่พระเจ้า ทรงบันทึกเป็นตัวอักษรให้แก่มนุษย์ จึงได้เรียนรู้เรื่องของพระองค์มากขึ้น และได้รับคำตอบหลายอย่าง ที่เคยมืดมนในอดีต ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า มนุษย์มาจากไหน? อยู่ในโลกใบนี้เพื่ออะไร? และกำลังจะไปไหน? ตายไปแล้วจะพบกับอะไร? เวลานี้ข้าพเจ้าไม่อยากตายอีกต่อไป แต่ไม่ใช่หมายความว่ากลัวตาย เวลานี้ความตาย ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว สำหรับข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่ที่ไม่อยากตาย ก็เพราะข้าพเจ้าได้รู้แล้วว่า ชีวิตคนเรามีค่าเพียงไร และเราควรจะใช้ชีวิต ที่ยังอยู่ในโลกนี้ ให้มีคุณค่าได้อย่างไร

พี่น้องที่รักทุกท่าน ข้าพเจ้าอยากจะบอกท่านว่า พระเจ้าไม่เพียงแต่รักและห่วงใย ช่วยเหลือ ประทานสันติสุข ความหวัง และมีส่วนในชีวิตของข้าพเจ้าเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงปรารถนา ที่จะมอบความรัก สันติสุข การช่วยเหลือ ความหวัง และอยากมามีส่วนในชีวิตของท่าน เป็นการส่วนตัวเช่นกัน

เรื่อง "พระเจ้า" เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ไม่ยอมรับหรือ? ท่านทราบไหมว่า นักวิทยาศาสตร์ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน มีอิทธิพลต่อโลก จำนวน 300 คนนั้น มีถึง 262 คน ที่ยอมรับว่าจักรวาลและโลก ถูกสร้างขึ้นโดย พระเจ้า นักปรัชญาชาวเยอรมันคนหนึ่ง ชื่อ อิมมานูเอล คานท์ ได้กล่าวไว้ว่า "การที่จะพิสูจน์ว่า มีพระเจ้ายาก แต่การที่จะพิสูจน์ว่า" ไม่มีพระเจ้า" นั้นยากมากกว่า หลายร้อยพันเท่า" เซอร์ไอแซค นิวตัน นักวิทยาศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงของโลก ได้กล่าวไว้ว่า "ถ้าคุณจะเชื่อว่า สรรพสิ่งทั้งปวงนั้น เกิดขึ้นมาเอง โดยปราศจากการทรงสร้าง และออกแบบของพระเจ้าแล้ว คุณก็ต้องใช้ความเชื่อมากกว่าผม หลายร้อยพันเท่าเลยทีเดียว"

รศ.พญ.นลินทิพย์ ตำนานทอง
อาจารย์ประจำ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

http://webinspirer.com/godwithus/testim ... no=0000039

Re:+++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 15, 2006 11:28 pm
โดย coolmoon
เหตุผลที่เปลี่ยนศาสนาเหมือนผมเลยอะ!

Re:+++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 15, 2006 11:43 pm
โดย yuki
Holy เขียน: ตอนที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กเคยคิดว่า ชีวิตคนเราเกิดมาทำไม? อยู่เพื่ออะไร? วันๆ ก็ต้องดิ้นรน และเป็นเช่นนี้ ทุกวันๆ หากชีวิตคนเรา มีแค่นี้ ถ้าชีวิตนี้ทุกข์นัก ก็ฆ่าตัวตายดีกว่า"
ตั้งแต่จำความได้ผมคิดแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งได้สัมผัสพระองค์

Re:+++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 15, 2006 11:45 pm
โดย yuki
รศ.พญ.นลินทิพย์ ตำนานทอง
อาจารย์ประจำ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

อยากเจออาจารย์คนนี้แล้วสิ

Re:+++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 16, 2006 10:25 am
โดย minnie
ขอบพระคุณพระเจ้า

Re:+++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 16, 2006 8:56 pm
โดย -Rei-
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงประทานความรอดให้แพทย์หญิงผู้นี้เช่นกันค่ะ

Re:+++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 20, 2006 11:41 pm
โดย Batholomew
ขอบพระคุณพระเจ้าครับ

Re: +++แพทย์หญิง กับการค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่+++

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 30, 2011 2:23 pm
โดย rosa-lee
จงขอบพระคุณพระเป็นเจ้า เพราะพระองค์พระทัยดี........ :s005: