ประสบการณ์การเข้าเงียบกับโครงการฝึกปฏิบัติจิต บ้านเซเวียร์
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 6:54 pm
ประสบการณ์การเข้าเงียบกับโครงการฝึกปฏิบัติจิต "สว่างที่กลางใจ2" 7 - 10 ธันวาคม
ก็ไม่มีอะไรมากครับ...แค่อยากแบ่งปันสิ่งที่ได้จากการพบพระ...(หรอ???)
เนื่องจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ได้รับคำชวน (เรียกซะมากกว่า) จากพี่นัท ประธานศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาคาทอลิคแห่งประเทศไทย (บ้านเซเวียร์)
และพี่นริศ รวมถึงพ่อมหาร์โซโน (คณะเยซูอิต) ให้ไปร่วมฝึกปฏิบัติจิตด้วยกัน หรือที่เราเรียกกันว่า "เข้าเงียบ"
ตอนแรกโครงการนี้รับทั้งหมด 20 คน เพราะต้องการคนจำนวนน้อย ก็ชวนเพื่อนๆ ไปหลายคน
ทั้งคุณยศ และคุณรักษ์ รวมถึงคุณ(หนู)รี่ ....
แต่ผลสุดท้าย...ไปคนเดียวก็ได้ ชิ!
เหตุผลที่เดินทางไป ก็เพราะว่าช่วงนี้ไม่ได้พักผ่อนเลย เหมือนกับว่าเราห่างจากพระมากๆๆ
ทำอะไรไม่มีเหตุมีผล มั่วๆ บ่อยๆ เหมือนจิตใจมันแห้งๆ แล้งๆ พอได้รับคำชวนก็เลย..."ไปครับ" (ใจง่ายอีกแล้ว)
เราก็เลยได้ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด....8 คน (จากที่ตั้งไว้ตอนแรก 20 คน) ฮ่าๆๆๆ
คือ พ่อมหาร์โซโน พี่นริศ พี่แนน(อัครสังฆมณฑล) พี่สมคิด(วัดพระหฤทัย เชียงใหม่) พี่นัท(ประธานศูนย์กลางฯ) พี่ตี้ (อดีตประธานชมรมคาทอลิค มก. และอดีตประธานศูนย์กลาง) พี่ปุ้ย (มก.) และตัวเอชเอง
และมีมาเซอร์จากคณะเซนต์ปอล เดอ ชาร์ต เดินทางมาจากนครปฐมเพื่อมาร่วมกับเราสองท่านคือ ซ.มารี หลุยส์ (แม่พระยุคใหม่) ซ.อักเนสเซ (น่าจะคอนแวนต์ทั้งสองที่)
ขอบคุณน้ำพระทัยของพระที่ทำให้เราทั้งหลายมาเจอกันเพื่อเดินตามน้ำพระทัยของพระ
การเดินทางเริ่มขึ้นที่บ้านเซเวียร์เวลา 18.00 น. (เดินทางจริงเกือบ 2 ทุ่ม)
เราเดินทางไปแสวงหาน้ำพระทัยกันที่
บ้านพรมารี (คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ต) วัดแม่พระแห่งเหรียญอัศจรรย์ จ.ฉะเชิงเทรา
ไปถึงแบบ....หรูมาก....ห้องนอนเดี่ยว ห้องน้ำในตัว สะอาด สะดวก สบาย อาหารอร่อย มาเซอร์แต่ละคนใจดี ยิ้มแย้ม มากๆๆๆๆ สถานที่ธรรมชาติ ชอบๆๆๆ
ก็อ่ะ...เริ่มเข้าเงียบกันคืนนั้นเลย (เราไปถึงกันประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ได้ เดินทางโดยรถตู้ของบ้านเซเวียร์)
อาการแรก....ตัวข้าฯ จะเงียบได้จริงรึ??? ฮ่าๆๆ แต่ก็เหอะ เรามาที่นี่เพื่อแสวงหาน้ำพระทัย ส่วนเหตุผล.....ไม่ขอกล่าว ส่วนตัวๆๆ(หัวใจอีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ)
บางคนก็มาเพราะ..อันตัวข้าเรียนจบแล้วจะบวชดีไหม....หรือบางคนก็เตรียมตัวทำงาน....บางคนก็ปัญหาส่วนตัวมากมาย อยากพักผ่อน...แต่ส่วนใหญ่จะหัวใจข้าช่างทรมาน (เหตุผลยอดนิยม)
หัวข้อที่เราเน้นๆ กันก็มี
พระเจ้าในประวัติชีวิตส่วนตัวของฉัน
คือ การถามตัวเองว่า...ในชีวิตของเรา เราได้พบพระบ้างไหม มีความหมายอะไรกับตัวเรา
แรงบันดาลใจ + จุดหมายของการเกิดมาของฉัน
หาจุดหมายในการเกิดมาของเรา และแรงบันดาลใจในชีวิตต่อไป
จิตเดิมแท้ จุดมุ่งหมายการเกิด
เชื่อว่าทุกคนมีจุดเดิมแท้ในการเกิด เช่น เกิดมาเพื่อเติมเต็ม เกิดมาเพื่อแสวงหา เกิดมาเพื่อแบ่งปัน ฯลฯ
การแยกแยะทางจิตใจ....และการวางตัวต่อสภาพจิตใจ....อันนี้สำคัญมากจะอธิบายอีกที
การแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร ทำลายความสับสน สอนให้เรามีเหตุและผลมากขึ้นในการดำเนินชีวิต
ภารกิจแห่งชีวิต แก่นของภารกิจ
เราทุกคนมีจุดหมาย แต่เราอาจหลงทางไปบ้าง เมื่อเราพบแก่นของมัน เราก็จะเดินตามทางมัน
การอ่านพิศเพ่งรำพึงอย่างลึกซึ้ง
การรำพึงโดยอาศัยบุคคลในพระคัมภีร์
เรื่องราวของภารกิจแห่งการร่วมเดินทางกับพระเยซู
โดยอาศัยพระเยซู เป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิต หรือใช้พระเยซูเป็นแรงบันดาลใจ
ภารกิจแห่งชีวิต "สู่ชีวิตจริง"
ดูว่าเรามีภารกิจอะไรในการเกิดมา เพื่อสรรเสริญ และตามน้ำพระทัยของพระ....แล้วถ้าอย่างนั้นชีวิตของเราล่ะ???
การพิจารณาน้ำพระทัยของพระ สู่หนทางที่มีความหมายต่อชีวิต
พิจารณาว่าอะไรมาจากน้ำพระทัยของพระ อะไรคือการหลงทาง อะไรคือทางที่พระเลือกให้เรา อะไรที่เราเดินผิดทาง
ประมาณนี้....
ส่วนมากแม้จะมีหัวข้อด้วย ...แต่เราก็เน้นวิถีแบบเยซูอิต (มันคืออะไรข้าพเจ้าก็งงๆ)
โดยการเน้นภาวนาด้วยตนเองอย่างเงียบๆ ตามคำชี้แนะของพี่นริศซึ่งทำหน้าที่เป็นจิตตาภิบาล
และพ่อมหาร์โซโน รวมถึงมาเซอร์ทั้งสอง
อาจจะอยู่คนเดียวเงียบๆ หน้าพระแท่นในวัดน้อยที่เงียบสงบ....
หรือเดินเล่นในธรรมชาติรอบๆ บ้านพรมารี นั่งคนเดียวเงียบๆ สวดสายประคำ
แต่เอชเลือกการ....อ่านหนังสือ....เช่นหนังสือประวัติพระเยซู การดำเนินชีวิตของพระองค์ ของนักบุญทั้งหลาย
หนังสือศาสนาที่ให้ข้อคิดต่างๆ
โดยสุดท้ายเราจะมาแบ่งปันสิ่งที่เราได้ให้กันและกันฟัง....
ซึ่งส่งผลให้การเข้าเงียบมีเสียงหัวเราะมาบ่อยๆ (เสียงมาเซอร์ก็ดังใช่เล่นนะ)
ต่อไปนี้คือวิธีการเพ่งจิตเมื่ออารมณ์รุนแรงง่ายๆ ที่เอามาฝากครับ
Conciousness Examination
1. เขียนความรู้สึกรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันนี้ 1 - 2 ความรู้สึก
2. ถามตัวเองว่าความรู้สึกดังกล่าวมาจากไหน
3. ติดตามดูว่าความรู้สึกนี้นำไปสู่อะไร
4. ถ้าไปในทางของความเชื่อ ความหวัง ความรัก ก็ขอบคุณพระ....ถ้านำไปในทางตรงกันข้ามก็ขอโทษพระ
5. ขอพระคุณแห่งความรู้สึก/สติ....ขอพระเจ้าให้สามารถจะรัก จะหวัง จะเชื่อ
มีขั้นตอนหนึ่งที่ช่วยให้คนหมดหวังมีหวังได้...
คือการพบพระในทุกสิ่ง Finding God in All Things
มองอะไรก็ได้รอบๆ ตัวเรา แล้วหาความสุขในนั้น มองหาพระในอะไรก็ได้ แล้วเราจะมีสุข
ชอบประโยคที่ว่า Divine become Human, Human become Divine.
มันทำให้เรารู้สึกว่า...เอ้อ...ผู้ประเสริฐสุดลงมารับสภาพมนุษย์ ทำให้มนุษย์ประเสริฐเช่นกัน...ดังนั้น "เราเป็นตั้งมนุษย์นะ" ดูมีกำลังใจชอบกล
ที่พิมพ์มาทั้งหมด
คงจับเนื้อความกันไม่ได้นัก....เพราะก็ยังงงๆ
เอาเป็นว่าสรุปคือ
การไปเข้าเงียบ (แอบงีบบ้าง) ของเอชครั้งนี้
ไม่ได้ทำให้สงบ หรือเงียบอะไรหรอก
เพียงแต่ทำให้รู้จักใช้เหตุ ใช้ผล ให้เวลาตัวเอง มีสติไตร่ตรอง ด้วยน้ำพระทัยของพระมากขึ้น
รู้สึกว่า....อืม.....อิ่ม อิ่มทางใจน่ะครับ ว่าอย่างน้อยเราก็มีผู้เข้าร่วมเดินทาง
ขอบคุณน้ำพระทัย
*****อธิบายคำว่า "เป็นตั้งมนุษย์"
เราเป็นตั้งมนุษย์ไง
พระเจ้าสร้าง
ดูแลรักษาคุ้มครองสิ่งสร้างได้
แล้วเราเป็นตั้งมนุษย์
ทำไมจะช่วยพระทำงานของพระองค์ไม่ได้
....และมีกำลังใจที่จะทำงานของพระ
คือเราวิเศษที่สุดแล้ว
พระถึงเลือกเรามนุษย์ทั้งหลาย
ให้ทำงานของพระ
ก็ไม่มีอะไรมากครับ...แค่อยากแบ่งปันสิ่งที่ได้จากการพบพระ...(หรอ???)
เนื่องจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ได้รับคำชวน (เรียกซะมากกว่า) จากพี่นัท ประธานศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาคาทอลิคแห่งประเทศไทย (บ้านเซเวียร์)
และพี่นริศ รวมถึงพ่อมหาร์โซโน (คณะเยซูอิต) ให้ไปร่วมฝึกปฏิบัติจิตด้วยกัน หรือที่เราเรียกกันว่า "เข้าเงียบ"
ตอนแรกโครงการนี้รับทั้งหมด 20 คน เพราะต้องการคนจำนวนน้อย ก็ชวนเพื่อนๆ ไปหลายคน
ทั้งคุณยศ และคุณรักษ์ รวมถึงคุณ(หนู)รี่ ....
แต่ผลสุดท้าย...ไปคนเดียวก็ได้ ชิ!
เหตุผลที่เดินทางไป ก็เพราะว่าช่วงนี้ไม่ได้พักผ่อนเลย เหมือนกับว่าเราห่างจากพระมากๆๆ
ทำอะไรไม่มีเหตุมีผล มั่วๆ บ่อยๆ เหมือนจิตใจมันแห้งๆ แล้งๆ พอได้รับคำชวนก็เลย..."ไปครับ" (ใจง่ายอีกแล้ว)
เราก็เลยได้ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด....8 คน (จากที่ตั้งไว้ตอนแรก 20 คน) ฮ่าๆๆๆ
คือ พ่อมหาร์โซโน พี่นริศ พี่แนน(อัครสังฆมณฑล) พี่สมคิด(วัดพระหฤทัย เชียงใหม่) พี่นัท(ประธานศูนย์กลางฯ) พี่ตี้ (อดีตประธานชมรมคาทอลิค มก. และอดีตประธานศูนย์กลาง) พี่ปุ้ย (มก.) และตัวเอชเอง
และมีมาเซอร์จากคณะเซนต์ปอล เดอ ชาร์ต เดินทางมาจากนครปฐมเพื่อมาร่วมกับเราสองท่านคือ ซ.มารี หลุยส์ (แม่พระยุคใหม่) ซ.อักเนสเซ (น่าจะคอนแวนต์ทั้งสองที่)
ขอบคุณน้ำพระทัยของพระที่ทำให้เราทั้งหลายมาเจอกันเพื่อเดินตามน้ำพระทัยของพระ
การเดินทางเริ่มขึ้นที่บ้านเซเวียร์เวลา 18.00 น. (เดินทางจริงเกือบ 2 ทุ่ม)
เราเดินทางไปแสวงหาน้ำพระทัยกันที่
บ้านพรมารี (คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ต) วัดแม่พระแห่งเหรียญอัศจรรย์ จ.ฉะเชิงเทรา
ไปถึงแบบ....หรูมาก....ห้องนอนเดี่ยว ห้องน้ำในตัว สะอาด สะดวก สบาย อาหารอร่อย มาเซอร์แต่ละคนใจดี ยิ้มแย้ม มากๆๆๆๆ สถานที่ธรรมชาติ ชอบๆๆๆ
ก็อ่ะ...เริ่มเข้าเงียบกันคืนนั้นเลย (เราไปถึงกันประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ได้ เดินทางโดยรถตู้ของบ้านเซเวียร์)
อาการแรก....ตัวข้าฯ จะเงียบได้จริงรึ??? ฮ่าๆๆ แต่ก็เหอะ เรามาที่นี่เพื่อแสวงหาน้ำพระทัย ส่วนเหตุผล.....ไม่ขอกล่าว ส่วนตัวๆๆ(หัวใจอีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ)
บางคนก็มาเพราะ..อันตัวข้าเรียนจบแล้วจะบวชดีไหม....หรือบางคนก็เตรียมตัวทำงาน....บางคนก็ปัญหาส่วนตัวมากมาย อยากพักผ่อน...แต่ส่วนใหญ่จะหัวใจข้าช่างทรมาน (เหตุผลยอดนิยม)
หัวข้อที่เราเน้นๆ กันก็มี
พระเจ้าในประวัติชีวิตส่วนตัวของฉัน
คือ การถามตัวเองว่า...ในชีวิตของเรา เราได้พบพระบ้างไหม มีความหมายอะไรกับตัวเรา
แรงบันดาลใจ + จุดหมายของการเกิดมาของฉัน
หาจุดหมายในการเกิดมาของเรา และแรงบันดาลใจในชีวิตต่อไป
จิตเดิมแท้ จุดมุ่งหมายการเกิด
เชื่อว่าทุกคนมีจุดเดิมแท้ในการเกิด เช่น เกิดมาเพื่อเติมเต็ม เกิดมาเพื่อแสวงหา เกิดมาเพื่อแบ่งปัน ฯลฯ
การแยกแยะทางจิตใจ....และการวางตัวต่อสภาพจิตใจ....อันนี้สำคัญมากจะอธิบายอีกที
การแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร ทำลายความสับสน สอนให้เรามีเหตุและผลมากขึ้นในการดำเนินชีวิต
ภารกิจแห่งชีวิต แก่นของภารกิจ
เราทุกคนมีจุดหมาย แต่เราอาจหลงทางไปบ้าง เมื่อเราพบแก่นของมัน เราก็จะเดินตามทางมัน
การอ่านพิศเพ่งรำพึงอย่างลึกซึ้ง
การรำพึงโดยอาศัยบุคคลในพระคัมภีร์
เรื่องราวของภารกิจแห่งการร่วมเดินทางกับพระเยซู
โดยอาศัยพระเยซู เป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิต หรือใช้พระเยซูเป็นแรงบันดาลใจ
ภารกิจแห่งชีวิต "สู่ชีวิตจริง"
ดูว่าเรามีภารกิจอะไรในการเกิดมา เพื่อสรรเสริญ และตามน้ำพระทัยของพระ....แล้วถ้าอย่างนั้นชีวิตของเราล่ะ???
การพิจารณาน้ำพระทัยของพระ สู่หนทางที่มีความหมายต่อชีวิต
พิจารณาว่าอะไรมาจากน้ำพระทัยของพระ อะไรคือการหลงทาง อะไรคือทางที่พระเลือกให้เรา อะไรที่เราเดินผิดทาง
ประมาณนี้....
ส่วนมากแม้จะมีหัวข้อด้วย ...แต่เราก็เน้นวิถีแบบเยซูอิต (มันคืออะไรข้าพเจ้าก็งงๆ)
โดยการเน้นภาวนาด้วยตนเองอย่างเงียบๆ ตามคำชี้แนะของพี่นริศซึ่งทำหน้าที่เป็นจิตตาภิบาล
และพ่อมหาร์โซโน รวมถึงมาเซอร์ทั้งสอง
อาจจะอยู่คนเดียวเงียบๆ หน้าพระแท่นในวัดน้อยที่เงียบสงบ....
หรือเดินเล่นในธรรมชาติรอบๆ บ้านพรมารี นั่งคนเดียวเงียบๆ สวดสายประคำ
แต่เอชเลือกการ....อ่านหนังสือ....เช่นหนังสือประวัติพระเยซู การดำเนินชีวิตของพระองค์ ของนักบุญทั้งหลาย
หนังสือศาสนาที่ให้ข้อคิดต่างๆ
โดยสุดท้ายเราจะมาแบ่งปันสิ่งที่เราได้ให้กันและกันฟัง....
ซึ่งส่งผลให้การเข้าเงียบมีเสียงหัวเราะมาบ่อยๆ (เสียงมาเซอร์ก็ดังใช่เล่นนะ)
ต่อไปนี้คือวิธีการเพ่งจิตเมื่ออารมณ์รุนแรงง่ายๆ ที่เอามาฝากครับ
Conciousness Examination
1. เขียนความรู้สึกรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันนี้ 1 - 2 ความรู้สึก
2. ถามตัวเองว่าความรู้สึกดังกล่าวมาจากไหน
3. ติดตามดูว่าความรู้สึกนี้นำไปสู่อะไร
4. ถ้าไปในทางของความเชื่อ ความหวัง ความรัก ก็ขอบคุณพระ....ถ้านำไปในทางตรงกันข้ามก็ขอโทษพระ
5. ขอพระคุณแห่งความรู้สึก/สติ....ขอพระเจ้าให้สามารถจะรัก จะหวัง จะเชื่อ
มีขั้นตอนหนึ่งที่ช่วยให้คนหมดหวังมีหวังได้...
คือการพบพระในทุกสิ่ง Finding God in All Things
มองอะไรก็ได้รอบๆ ตัวเรา แล้วหาความสุขในนั้น มองหาพระในอะไรก็ได้ แล้วเราจะมีสุข
ชอบประโยคที่ว่า Divine become Human, Human become Divine.
มันทำให้เรารู้สึกว่า...เอ้อ...ผู้ประเสริฐสุดลงมารับสภาพมนุษย์ ทำให้มนุษย์ประเสริฐเช่นกัน...ดังนั้น "เราเป็นตั้งมนุษย์นะ" ดูมีกำลังใจชอบกล
ที่พิมพ์มาทั้งหมด
คงจับเนื้อความกันไม่ได้นัก....เพราะก็ยังงงๆ
เอาเป็นว่าสรุปคือ
การไปเข้าเงียบ (แอบงีบบ้าง) ของเอชครั้งนี้
ไม่ได้ทำให้สงบ หรือเงียบอะไรหรอก
เพียงแต่ทำให้รู้จักใช้เหตุ ใช้ผล ให้เวลาตัวเอง มีสติไตร่ตรอง ด้วยน้ำพระทัยของพระมากขึ้น
รู้สึกว่า....อืม.....อิ่ม อิ่มทางใจน่ะครับ ว่าอย่างน้อยเราก็มีผู้เข้าร่วมเดินทาง
ขอบคุณน้ำพระทัย
*****อธิบายคำว่า "เป็นตั้งมนุษย์"
เราเป็นตั้งมนุษย์ไง
พระเจ้าสร้าง
ดูแลรักษาคุ้มครองสิ่งสร้างได้
แล้วเราเป็นตั้งมนุษย์
ทำไมจะช่วยพระทำงานของพระองค์ไม่ได้
....และมีกำลังใจที่จะทำงานของพระ
คือเราวิเศษที่สุดแล้ว
พระถึงเลือกเรามนุษย์ทั้งหลาย
ให้ทำงานของพระ