โยนาห์และปลายักษ์ (๑)

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ต.ค. 29, 2010 10:59 pm

โยนาห์ และปลายักษ์ ( 1 )

โดย โปรดปราน (พีพี )


ทุกครั้งที่ฉันเห็นภาพของ(ปลา)วาฬเกยตื้น มักทำให้คิดถึงเรื่องที่คริสเตียนใช้สอนเด็กในชั้นรวีวารศึกษา โดยเฉพาะชั้นอนุบาล หรือประถมเรื่อง “โยนาห์กับปลายักษ์” ผู้สอนและผู้เรียนส่วนมากรู้สึกสนุกสนานอยู่กับการที่โยนาห์ถูกโยนลงทะเล และสนใจเรื่องปลามหึมาที่กลืนโยนาห์ แล้วสงสัยว่าเมื่อโยนาห์อยู่ในท้องปลา 3 วัน ยังมีชีวิตอยู่อย่างไร จนกระทั่งเราพลาดเป้าประสงค์ของพระคัมภีร์เล่มนี้ไปเลย


รูปภาพ

เบื้องหลัง ชื่อโยนาห์แปลว่า นกพิราบ เป็นคนอิสราเอลอยู่ทางภาคเหนือแถบกาลิลี เป็นประกาศกที่มีชื่อเสียง สมัยพระราชาเยโบอัมที่ 2 แนะนำพระราชากระทำตามจึงตีดินแดนของอิสราเอลได้คืนหมด (ดู 2พกษ.14.25) ชาวอิสราเอลรู้จักตัวเองว่าเป็นชนชาติที่ถูกเลือกสรรไว้ พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมและทำพันธสัญญาให้ชนชาติอิสราเอลเป็นผู้นำพระพรไปสู่ประชาชาติ (ปฐก.12.1-3) แต่ตลอดประวัติศาสตร์ของอิสราเอลเขาไม่ได้ทำหน้าที่ของตน จากเรื่องของโยนาห์เป็นหลักฐานว่าพระเจ้าทรงเลือกอิสราเอลเพื่อนำข่าวของความรอดไปสู่ประชาชาติ

หนังสือประกาศกโยนาห์ ต่างจากหนังสือประกาศกเล่มอื่นๆมาก เพราะไม่มีสารจากพระเจ้า ไม่มีคำตักเตือนอิสราเอล หรือประชาชาติแม้แต่คำเดียว เรื่องที่ปรากฏกลับเป็นเรื่องของประกาศกโยนาห์เอง เพราะเขาได้หนีจากการปฏิบัติหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้ทำ และเขาแสดงกริยาโกรธแค้น เมื่อคนต่างชาติกลับใจใหม่หันหลังให้ความผิดบาป ทุกคนในเรื่องนี้ปรากฏว่าเป็นคนดีกว่า ประกาศกโยนาห์เสียอีก โยนาห์ เป็นตัวแทนของคนอิสราเอลที่ใจแคบตาบอดต่อพันธกิจที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้ทำ ดังนั้นจุดประสงค์ของหนังสือประกาศกโยนาห์คือการเขย่าอิสราเอลให้สะเทือนหรือปลุกให้ตื่น เรียกให้กลับใจใหม่ เพื่อเตือนพวกเขาให้ทำหน้าที่ คือการประกาศพระวาจาแก่ประชาชาติ ประกาศถึงพระเมตตาของพระเจ้า การอภัยโทษของพระองค์ ประกาศถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่จะติดตามมนุษย์ไป
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากหนังสือประกาศกโยนาห์บทที่ 1 คือ

1.โยนาห์หลบหนีพระเจ้า (บทที่ 1.1-3)

"จงลุกขึ้นไป ยังนีนะเวห์ นครใหญ่ และร้องกล่าวโทษเมืองนั้น เหตุความชั่วของเขาทั้งหลายได้ขึ้น มาถึงเราแล้ว" พระบัญชาของพระเจ้าต่อ โยนาห์คือต้องไปนีนะเวห์ เมืองที่นิมโรด เป็นผู้สร้างขึ้น (ปฐมกาล 10:11) ที่นีนะเวห์ถูกเรียกว่า"นครใหญ่" พวกเราที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆ เช่นกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หาดใหญ่ คงนึกภาพ " เมืองใหญ่"ออก และความบาปที่นั่นก็ "ใหญ่ " ตาม ไปด้วย ประกาศกโยนาห์ได้รับคำสั่งให้ไปประณามความบาปของเมืองนี้ เพราะเวลาแห่งการพิพากษาใกล้เข้ามา ฝ่ายโยนาห์กลับหลบหนี ลงเรือมุ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม เขาได้ลงไปยังเมืองยัฟฟา และพบเรือลำหนึ่งกำลังไปเมืองทารชิช ดังนั้นโยนาห์ขึ้นเรือเดินทางไปยังเมืองทารชิช ไปให้พ้นจากพระพักตร์พระเจ้า (ข้อ 3) เมืองนีนะเวห์ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำไทกริส ประมาณ 500 ไมล์ไกลจากทางตะวันออกเฉียง เหนือของอิสราเอล แต่โยนาห์ไปทางทิศตะวันตก ปลายทางคือทารชิช ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศสเปน โยนาห์หนี "ให้พ้น พระพักตร์พระเจ้า" … ท่านผู้อ่านเคยหนีให้พ้นพระพักตร์พระเจ้าไหมคะ

2.โยนาห์ต่อสู้กับพระเจ้า (บทที่1:4-9)

พระเจ้าทรงขับกระแสลมใหญ่ในเส้นทางที่โยนาห์ไป กระแสลมรุนแรงชนิดที่ทำ ให้ชาวเรือผู้ช่ำชองเกิดความกลัว เมื่อเรือใกล้จะจมลง ลูกเรือเริ่มโยนสินค้า ลงทะเล เพื่อพยายามช่วยทั้งชีวิตตนเองและเรือไม่ให้ล่ม ในขณะเดียวกันชาวเรือ แต่ละคนก็สวดอ้อนวอนขอพระของตนให้ช่วย ขณะที่ชาวเรือใกล้เสียสติ พยายามช่วยกันประคับประคองเรือและสวดอ้อนวอน แต่ โยนาห์กลับนอนหลับสนิทอยู่ใต้ท้องเรือ กัปตันของเรือลำนี้รู้สึกโมโหที่เห็น โยนาห์นอนหลับ ในขณะที่ลูกเรือคนอื่นๆพยายามสวดอ้อนวอนกันอย่างสุดกำลัง ถึงแม้ โยนาห์ไม่ต้องช่วยโยนสินค้าทิ้ง แต่เขาถูกขอร้องให้ช่วยสวดวิงวอนต่อพระของตน ชาวเรือเห็นเรื่องพายุนี้เป็นเรื่องไม่ปกติธรรมดา พวกเขาวิงวอนพระของเขาให้ช่วย และเมื่อไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกเขาเริ่มหาพระอื่นมาทดแทน แต่เมื่อคำวิงวอน ไม่ได้ผล พวกเขาก็เริ่มสรุปสาเหตุว่า ที่คำวิงวอนที่ไม่ได้รับคำตอบนั้น น่าจะมาจาก ความบาปบางประการที่เป็นสาเหตุทำให้บรรดาพระองค์ใดองค์หนึ่งไม่พอใจ ในที่สุดพวกเขาได้ชักชวนกันว่า ‘มาเถอะให้เราจับฉลากกัน เพื่อเราจะทราบว่า ใครเป็นต้นเหตุแห่งภัยซึ่งเกิดขึ้นแก่เรานี้ ดังนั้นเขาก็จับฉลาก ฉลากนั้นก็ตก แก่โยนาห์ " (ข้อ 7)

รูปภาพ

เรื่องที่น่าอัศจรรย์คือพวกชาวเรือไม่ได้จับโยนาห์โยนลงทะเลทันทีที่ฉลากตกกับเขา แต่ ชาวเรือยังอุตส่าห์ใช้เวลาสอบสวนโยนาห์ ว่า "จงบอกเรามาเถิดว่า! ภัยซึ่งเกิดขึ้นแก่เรานี้ใคร เป็นต้นเหตุ เจ้าหากินทางไหน และเจ้ามาจากไหน ประเทศของเจ้าชื่ออะไร เจ้าเป็นคนชาติไหน" (ข้อ 8 ) พวกชาวเรือกำลังยืนล้อมโยนาห์ และได้ยิงคำถาม เป็นชุด หูของโยนาห์คงอื้ออึงไปด้วยคำถาม เขา ตอบว่า "ข้าพเจ้าเป็นคน ฮีบรู และข้าพเจ้ายำเกรงพระยาเวห์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ผู้ทรง สร้างทะเลและแผ่นดินแห้ง " (ข้อ 9) พอได้ยินประโยคนี้ ทุกอย่างแจ่มชัดขึ้นมาในมโนภาพของชาวเรือ : โยนาห์เป็นประกาศกชาวฮีบรู ผู้กำลังวิ่งหนีพระเจ้า ต้องเป็นโยนาห์แน่นอนที่เป็นสาเหตุแห่งลม พายุ ความบาปของโยนาห์เกือบทำให้คนทั้งลำเรือต้องจบชีวิตลง …ท่านผู้อ่านเคยทำบาปอะไรที่ทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนด้วย ไหมคะ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ต.ค. 29, 2010 11:01 pm

3.โยนาห์ถูกโยนลงทะเล (โยนาห์ 1:10-15)

ชาวเรือคงนึกไม่ถึงว่าโยนาห์จะดื้อดึงหัวแข็งต่อ พระเจ้าได้ขนาดนี้ เมื่อเขาถามว่า "ท่านกระทำอะไรเช่นนี้หนอ" นี่เป็นประกาศกที่มีความตั้งใจแน่วแน่ จนขนาดทำให้ชาวเรือถึงกับช็อค ทะเลเริ่มบ้าคลั่งขึ้นทุกที เวลาก็เหลือน้อยนิด พวกชาวเรือเพียงขอ ร้องให้โยนาห์ทูลขอพระเจ้าให้ทรงละพระอาชญาเสีย เพราะอย่างน้อย เขาก็เป็น ประกาศก "เขาทั้งหลายจึงกล่าวแก่ท่านว่า "เราควรจะทำอย่างไรแก่ท่าน เพื่อทะเลจะได้สงบลงเพื่อเรา " (ข้อ11) ดังนั้นโยนาห์บอกกับพวกชาวเรือให้จับตัวเขาโยนลงทะเล และทะเลจะสงบลง (ข้อ 12) แล้วทำไมโยนาห์ถึงไม่กระโดดลงไปในทะเลเองเล่า ดูเหมือนว่าพวกชาวเรือกำลัง ทำตามคำสั่งของพระเจ้าโดยผ่านทางผู้ประกาศกโยนาห์ การจับโยนาห์โยนลง ทะเลก็เท่ากับส่งท่านไปสู่ความตาย เหมือนกับความบาปที่อิสราเอลมีต่อพระเจ้าก็ กำลังมุ่งไปสู่ความตาย (เลวีนิติ. 24:10-16) ดังนั้นพวกชาวเรือจึงต้องลงมือ จับโยนาห์ และโยนเขาลงทะเล ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบในบาป และการทรยศ ของโยนาห์

รูปภาพ

ในที่สุดโยนาห์ก็ตอบคำถามของชาวเรือ และยอมรับว่าเขาเป็นต้น เหตุของลมพายุนี้ เขาเริ่มตระหนักแล้วว่าความบาปของตัวเองเป็นตัวการก่อให้เกิดพายุ ใหญ่ครั้งนี้ หนทางเดียวที่จะล้มเลิกพระพิโรธของพระเจ้าได้ คือยอม สละตนเองเพื่อรับโทษบาปนั้น การที่โยนาห์ยอมตายเพราะเขารู้สึกสำนึกบาปที่มีต่อพระเจ้า ดังนั้นโยนาห์แสดงให้เห็นถึงการกลับใจอย่างแท้จริง โดยเสียสละตนเองเพื่อเป็นเหมือนเครื่อง บูชาเพื่อผู้อื่นจะไม่ตาย (ข้อ 12)ไม่วิ่งหนีพระเจ้าอีกต่อไป โยนาห์ ยอมจำนนทั้งกาย วิญญาณ และความต้องการให้กับพระเจ้า ...ท่านผู้อ่านเคยจนมุมกับพระเจ้าอย่างไรคะ

4.ทะเลสงบลงแล้ว แต่ไม่ใช่พวกชาวเรือ (โยนาห์ 1:15-16)

“ เขาจึงจับโยนาห์ทิ้งลงไปในทะเล ความปั่นป่วนในทะเลก็สงบลง คนเหล่านั้นก็ยำเกรงพระเจ้ายิ่งนัก เขาทั้งหลายก็ถวายสัตวบูชาแด่ พระเจ้าและสาบานตัวไว้” (ข้อ 15-16 )
ขณะที่ชาวเรือเฝ้าดูโยนาห์จมหายไปในเกลียวคลื่น พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าลมนิ่งลง และทะเลก็สงบลง พวกเขานึกออกทันทีว่า ที่คิดเอาไว้นั้นเป็นความจริง พระเจ้าของโยนาห์น่าจะเป็น พระเจ้าที่เที่ยงแท้เพียงพระองค์เดียว พระองค์ ได้กระทำให้เกิดพายุใหญ่ สาเหตุเพราะ การหนีไปของโยนาห์ผู้เดียว และอย่าง ที่โยนาห์บอกไว้ให้โยนเขาลงไปในทะเล แล้วทะเลก็จะสงบเอง ดังนั้นพระคัมภีร์ตอนนี้จึงจบลงที่เรื่องการนมัสการพระเจ้าของพวกชาวเรือ "คนเหล่านั้นก็ยำเกรงพระเจ้ายิ่งนัก เขาทั้งหลายก็ถวายสัตวบูชาแด่พระเจ้าและสาบานตัวไว้" (ข้อ16) คนต่างชาติกลับกลายเป็นคนชอบธรรม ขณะที่ประกาศกก็ยังหลงหายอยู่ ในความ พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการไปประกาศกับ ชาวนีนะเวห์ แต่โยนาห์กลับประกาศความเชื่อแบบ ไม่ตั้งใจกับชาวเรือแทน และคนพวกนี้ก็ได้มารู้จัก และมีความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว ของโยนาห์...ท่านผู้อ่านเคยนำใครมาเชื่อพระเยซูเจ้าโดยไม่ตั้งใจบ้างไหมคะ

รูปภาพ

5.บทเรียนที่สำคัญ
จากบทแรกของหนังสือโยนาห์นี้ ขอนำข้อ ที่เด่นๆออกมาและดูว่าจะนำมาใช้กับชีวิตของเรา ภาพพจน์ของเราที่เคยมีต่อประกาศกและพวกคนต่างชาติไปกันไม่ได้กับ พระคัมภีร์เล่มนี้ มีผู้วิจารณ์บางรายกล่าวว่า"ภาพพจน์บางอย่างตามอุดมคติของศาสนาฮีบรูถูกเหวี่ยงทิ้งลงเรือไป พร้อมๆกับโยนาห์ เหมือนสร้างความรู้สึกเชิงติดลบต่อประกาศกโยนาห์ เนื้อหาเรื่องนี้นั้นช่างกลับตาลปัตรไปทั้งฝ่ายพระเอกและผู้ร้าย ตอนเริ่มอ่านแรกๆ เราคงเดาว่าโยนาห์นั้นเป็นพระเอกแน่ๆ ขณะที่พวกชาวเรือคนนอก ศาสนาต้องเป็นพวกผู้ร้าย และนี่คือภาพที่สะท้อนชัดเจนของโยนาห์ และคน อิสราเอลที่โยนาห์เป็นเหมือนตัวแทน ในเรื่องชาวเรืออธิษฐานภาวนา ในขณะ ที่โยนาห์ ไม่ได้คิดจะทำอะไร ชาวเรือค้นหาความบาปที่อาจมีอยู่ในเรือ แต่โยนาห์ เปล่า ชาวเรือจบลงที่ได้นมัสการพระเจ้า แต่โยนาห์ก็เปล่าอีก พวกชาวเรือมีความ สงสารในตัวโยนาห์ ในขณะที่เขาไม่ได้แยแสเลยว่าตัวเองเป็น สาเหตุที่ทำให้คนอื่นๆเดือดร้อน เห็นได้ชัดเจนว่าพระคัมภีร์เล่มนี้ พลิกความคาดหมาย ของเรามากทีเดียว

คนอิสราเอลนั้นภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของตนเป็นอย่างยิ่ง และภูมิใจในชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นชนชาติของพระเจ้า พวกเขารู้สึกแตกต่างและโดดเด่นกว่าชาติอื่น และโยนาห์ก็เป็นคนชนชาตินี้ ยิ่งไปกว่านั้นอาชีพของเขายิ่งต้องเป็นที่น่าภาคภูมิใจสักเท่าใด

พระคัมภีร์บทนี้ยังไม่ถึงที่สุดยังมีเรื่องที่สำคัญสำหรับพระเจ้าอีกสอง เรื่อง เรื่องแรกคือ "รักพระเจ้า" เรื่องที่สองคือ "รักเพื่อนมนุษย์" โยนาห์น่าจะสำแดง ความรักที่มีต่อพระเจ้าด้วยการเชื่อฟังพระองค์ โยนาห์ไม่ได้เชื่อฟัง เรื่องที่สองคือโยนาห์ไม่ได้รักเพื่อนมนุษย์ เพราะเขาไม่มีความสงสารต่อชาวเรือเลย พวกชาวเรือได้รับความรอด (เชื่อว่า ทั้งกายและวิญญาณ) เพราะเขาเชื่อฟังสิ่งที่เขา รู้ว่าเป็นน้ำพระทัยพระเจ้า ซึ่งนับเป็น "ข่าวดี" ของพวกเขา พวกเขาได้เรียนรู้ แล้วว่าบรรดา "เทพเจ้า" พวกนั้นไม่ใช่พระเจ้า เพราะไม่สามารถตอบคำอธิษฐาน หรือควบคุมท้องทะเลได้ พวกเขารู้ว่าความบาปนำมาซึ่งการพิพากษา และเรียนรู้ว่า พระเจ้าของชาวอิสราเอลเป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก และรู้อีกด้วยว่าจะรอด ได้ด้วยการ "ตาย" ของโยนาห์ชาวยิวผู้นี้ ขอให้ความเชื่อของพวกชาวเรือนี้เป็นบทเรียนให้พวกเราว่า คริสตชนทุกคนมี หน้าที่รับผิดชอบในการทำตามพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ( อาแมน ) …ท่านผู้อ่านเห็นด้วยไหมคะ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ต.ค. 30, 2010 10:42 am

นี่ก็ภาพประกอบสวยดีๆสุด พี่โฮลี่เลือกมาแปะนะขอรับ :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 4:33 pm

เห็นด้วยถ้าเป็นพระประสงค์ :s012: :s012: :s012:
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 3:17 pm

รูปที่สองคล้ายๆ ภาพยนตร์เรื่องโมบี้ดิ๊ก แต่เป็นเรื่องราวใน BB.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ค. 15, 2011 11:31 am

Joseph เขียน:รูปที่สองคล้ายๆ ภาพยนตร์เรื่องโมบี้ดิ๊ก แต่เป็นเรื่องราวใน BB.
พี่โจแซฟ สบายดีไหมคร้าบ ตอนปลูกต้นอะไรบ้าง
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

อังคาร ม.ค. 07, 2020 11:29 pm

ไม่ได้เข้ามานานเลยไม่ได้เห็นคำตอบครับ ตอนนี้ปลูกมากมายทั้งไม้สวยงาม และไม้กินได้ครับ พระเจ้าประทานที่ดินให้มากมายจนจนร่มรื่นไปหมดครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มี.ค. 14, 2020 9:20 am

:s021: :s021:
ตอบกลับโพส