โยนาห์ไม่พอใจที่นีนะเวห์กลับใจ (๒)
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 29, 2010 11:10 pm
โยนาห์ไม่พอใจ ที่ นีนะเวห์กลับใจ
โปรดปราน (พีพี)
ประกาศกโยนาห์ บทที่ 3 & 4
ความเดิม ในบทที่ 1 พระเจ้าบัญชาให้โยนาห์ไปนีนะเวห์ เพื่อไปป่าวร้องถึงความบาป ของคนในเมืองนี้ แทนที่เขาจะเดินทางไปทันที แต่โยนาห์ไปที่ท่าเรือ เมืองยัฟฟา ลงเรือมุ่งไปยัง เมือง ทารชิชอยู่บนชายฝั่งของประเทศสเปน การขัดคำสั่งของโยนาห์มีผลทำให้เกิดพายุใหญ่ ทำให้เรือที่เขาโดยสารแทบอัปปางลง ชาวเรือพยายามแก้ไขทุกวิถีทาง มีการจับฉลากจึงรู้ว่าโยนาห์คือต้นเหตุ ฝ่ายโยนาห์ยอมรับว่าเป็นความผิดของตน และแนะวิธีการแก้ไขสถานการณ์ -- คือโยน เขาลงทะเล แล้ว พายุก็สงบ ชาวเรือจึงหันมานมัสการพระเจ้าของอิสราเอล ด้วยเครื่องถวายบูชา และสาบานตนแทน (กลับใจเชื่อพระเจ้าของโยนาห์)
ในบทที่ 2 เป็นเรื่อง "คำภาวนา" ของโยนาห์ วิธีการใช้คำและร้อยกรองในคำภาวนา ของ โยนาห์นั้นคล้ายคลึงกับคำภาวนาของหนังสือสดุดีในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ทั้งในทาง ทฤษฎี และในเนื้อหา แต่คำอธิษฐานภาวนาของโยนาห์ไม่ได้ ตามมาตรฐานของ พระคัมภีร์เลย "คำภาวนา" ของ โยนาห์มีแต่เรื่องของตนเอง หมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ ภัยอันตรายที่ตนเองเผชิญอยู่ เรียกร้องการช่วยกู้ มากกว่ามุ่งไปที่พระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาได้ ที่น่าวิตกคือ ไม่มีคำสารภาพบาปเลย ในคำภาวนามีแต่เรื่องดูถูกคน ต่างชาติ และพยามยามบอกให้พระเจ้ารู้ถึงความชอบธรรมของตนเอง แต่เมื่อโยนาห์ สรรเสริญพระเจ้าที่ช่วยให้เขารอดตาย พระเจ้าจึงสั่งให้ปลามหึมานั้นสำรอกท่าน ลงบนฝั่ง
พอถึงบทที่ 3 และ 4 ท่าทีความกตัญญูก็หายวับไปจากประกาศกหัวแข็งรายนี้ บทที่ 3 และ 4 ที่เขาออกไปป่าวร้องและชาวนีนะเวห์เกิดกลับใจ โยนาห์จึงออกอาการ "โมโหสุดขีด" และความบาปที่น่าชังของเขาจึงเผยโฉมออกมาอย่างแจ่มแจ้ง ในบทที่1 เขาเพียงแต่หนีจากการรับใช้พระเจ้า แต่บทที่ 4 โยนาห์โจมตีพระเจ้า และบอกกับพระเจ้าอย่างโอหัง ว่าเขามีสิทธิ์ที่จะโกรธพระองค์ ในบทที่ 2 โยนาห์ทูลวิงวอนขอให้พระเจ้าช่วยชีวิต แต่ในบทที่ 4 เขากลับภาวนาขอให้พระเจ้าเอาชีวิตไปเสีย
บทที่ 4 ประกาศกโยนาห์โพล่งออกมาถึงสาเหตุที่เขาฝ่าฝืนพระบัญชาไม่ยอมไปประกาศที่ นคร นีนะเวห์ เหตุการณ์ที่อยู่ในบทนี้แสดงให้เห็นถึงความบาปทั้งสิ้นของโยนาห์ ในขณะที่ ผู้อ่านเห็นความบาปของโยนาห์อย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนไม่มีผลกระทบใดๆเกิดขึ้นกับ เขาเรื่องจบลงเฉยๆอย่างห้วนๆ โดยมีคำตักเตือนของพระเจ้าค้างอยู่กลางอากาศ และโยนาห์ก็ยังโกรธพระองค์อยู่
ขอพิจารณา สัมพันธภาพของพระเจ้า ประกาศกโยนาห์ และความรอดของชาวนีนะเวห์ ดังนี้
1.การประกาศของโยนาห์ และ การกลับใจของชาวนีนะเวห์ (ดู บทที่ 3:1-9)
เป็นคำรบสองที่ "พระวาจาของพระเจ้า" มาถึงโยนาห์ "จงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์ นครใหญ่ และประกาศข่าวแก่เมืองนั้นตามที่เราบอกเจ้า" (ข้อ 2) นี่ไม่ใช่คำสั่งใหม่ แต่เป็นคำสั่งซ้ำเหมือนในบทที่ 1 แต่ครั้งนี้ประกาศกโยนาห์ทำตาม ด้วยความจำใจ
ประชากรของนครนีนะเวห์ ถ้าจะรวมถึงปริมณฑลด้วยนั้น คงมากทีเดียว ( 1:2; 3:2; 4:11) เรารู้
ขนาดของเมืองด้วยว่า ถ้าเดินข้ามเมืองก็กินเวลา "สามวัน" (3:3) คำพูดของประกาศกโยนาห์นั้นธรรมดา ตรงประเด็น และน่าตกใจ ที่ว่า "อีกสี่สิบวัน นีนะเวห์จะถูกคว่ำ" (3:4) ชาวนีนะเวห์รับฟังเรื่องการพิพากษาที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างเอาจริงเอาจัง คือ "พวกเขาได้เชื่อฟังพระเจ้า" (3:5) ซึ่งเล็งไปถึง การที่ชาวต่างชาติมีความเชื่อในพระเจ้าของอิสราเอล ไม่ใช่เพียงเพราะกลัวการ พิพากษา เลยทำให้เราเห็นการฟื้นฟูแท้จริงที่เกิดขึ้นเพราะการประกาศของโยนาห์ ดูเหมือนการฟื้นฟูจะ "เริ่มจากเบื้องล่าง" ก่อน แทนที่จะเป็นคำสั่ง "จากเบื้องบน" ลงมา หนังสือบันทึกว่า ชาวนีนะเวห์ได้เชื่อฟังพระเจ้า มีการประกาศให้อดอาหารและห่มผ้า กระสอบ (3:5) ผลตอบรับนั้นเป็นไปอย่างพร้อมเพรียงกัน จากสามัญชนธรรมดา ขึ้นไป จนถึงเจ้าขุนมูลนาย
แทบทั้งเมืองกลับใจไปแล้วก่อนที่เรื่องนี้จะรู้ไปถึงกษัตริย์ และเพราะกษัตริย์ทรงเชื่อคำ เตือนของโยนาห์ด้วย ดังนั้นพระราชาจึงออกคำสั่งเป็นทางการให้ทั้งเมืองกลับใจโดยเริ่มต้นที่ตัว พระองค์ก่อน (3:6) ทรงออกพระราชกฤษฎีกาให้ชาวนีนะเวห์อดอาหารและ งดดื่มน้ำ (3:7) ทั้งคนและสัตว์ต้องนุ่งห่มผ้ากระสอบ ให้ประชากรร้องทูลต่อพระเจ้า และหันกลับเสียจากการประพฤติชั่ว (3:8) แรงจูงใจที่ทำให้ชาวนีนะเวห์หันเสียจากความประพฤติชั่วอยู่ในข้อ 9 "ใครจะรู้ ได้ พระเจ้าอาจจะทรงกลับและเปลี่ยนพระทัย คลายจากพระพิโรธอันรุนแรงเพื่อว่าเรา จะมิได้พินาศ " (3:9)
ถ้าพระเจ้ามีความตั้งใจที่จะทำลายนีนะเวห์ เหตุใดพระ องค์ต้องใช้ให้คนไปบอกให้รู้ตัวด้วย ? การประกาศที่พระเจ้าทรงใช้ให้โยนาห์ไปทำนั้น เป็นคำเตือน ชาวนีนะเวห์เข้าใจถึงคำประกาศ ของประกาศกโยนาห์เป็นอย่างดี เพราะมีการกลับใจ นี่เป็นสิ่งเดียวกับที่พระเจ้าตรัสไว้ในพระคัมภีร์เก่าเยเรมีห์ บทที่ 18:5-11 พระพรตามพระสัญญาของพระเจ้านั้นอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังของ มนุษย์ และอาจทรงละจากการพิพากษาได้ถ้ามีการกลับใจ เลิกประพฤติชั่ว ฝ่ายชาวนีนะเวห์มีความหวังใจ ว่าพระเจ้าจะทรง "ยับยั้ง" พระพิโรธ
2.นีนะเวห์กลับใจ พระกรุณาของพระเจ้า และความไม่พอใจของโยนาห์ ( ดู บทที่ 3:10–4:11)
เพราะการกลับใจของชาวนีนะเวห์ พระเจ้าทรงเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพวกเขา "หันกลับเสียจากการประพฤติชั่ว" นี่คือการกลับใจที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำพูด ซ้ำซากเช่น "ฉันเสียใจ" แต่การกระทำเป็นตัวที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในจิตใจที่แท้ จริง อย่างที่โยนาห์คาดไว้ ชาวนครนีนะเวห์ได้กลับใจจริงจากความบาปที่เคยกระทำ ดังนั้นพระเจ้าจึงยับยั้งไม่ลงโทษตามที่พระองค์ได้เคยตรัสไว้ เป็นเรื่องน่าสนใจที่ไม่มีคำอธิบายใดๆเรื่องการกลับใจของชาวนีนะเวห์ที่เกิดขึ้น อย่างฉับพลัน พร้อมเพรียงกันและอย่างจริงใจ อาจจะเหมือนพวกชาวเรือที่ต้อง ปฏิบัติตามคำของโยนาห์ก่อนที่การอัศจรรย์จะเกิดขึ้น หรืออาจเป็นเพราะวิธีการปรากฎ ตัวของโยนาห์เอง ซึ่งเป็นหมายสำคัญยิ่งต่อชาวนีนะเวห์ พร้อมที่จะกลับใจ แต่ไม่ได้มีการบันทึกไว้
ตัวอย่าง บทเรียนของประกาศกโยนาห์มีไว้สอนคนอิสราเอลในสมัยของพระเยซูเจ้า ชาว นีนะเวห์กลับใจทันทีที่ได้ยินการประกาศของโยนาห์ ถึงแม้จะมีข้อพิสูจน์เพียงน้อย นิดเมื่อเทียบกับในสมัยของพระเยซูเจ้าที่ชาวอิสราเอลได้เห็น และถ้านำมาเทียบกับพระเยซูเอง โยนาห์แทบไม่มีความสำคัญใดๆเลย พระเยซูเจ้านำเรื่องการกลับใจของชาวนีนะเวห์บันทึกในหนังสือ น.มัทธิวบทที่ 12 มาสอนเพื่อยืนยันและ ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายๆเมื่อได้ยิน พระองค์ทรงตอกย้ำความจริงถึงการที่ชาวนีนะเวห์กลับใจ มาหาพระเจ้า ถึงแม้จะมีข้อพิสูจน์เพียงนิดเดียว แต่ถ้าจิตใจนั้นเปิดออกเพื่อฟังพระวาจา และเรียนรู้ถึงน้ำพระทัยพระองค์แล้ว จิตใจนั้นจะเกิดความเชื่อและตอบสนองในทันที แต่ถ้าจิตใจที่แข็งกระด้าง — เช่นเดียวกับจิตใจแบบโยนาห์ — ก็จะไม่มีวันเปิดรับพระวาจาต่อให้ชัดเจนเพียงใดก็ตาม
โปรดปราน (พีพี)
ประกาศกโยนาห์ บทที่ 3 & 4
ความเดิม ในบทที่ 1 พระเจ้าบัญชาให้โยนาห์ไปนีนะเวห์ เพื่อไปป่าวร้องถึงความบาป ของคนในเมืองนี้ แทนที่เขาจะเดินทางไปทันที แต่โยนาห์ไปที่ท่าเรือ เมืองยัฟฟา ลงเรือมุ่งไปยัง เมือง ทารชิชอยู่บนชายฝั่งของประเทศสเปน การขัดคำสั่งของโยนาห์มีผลทำให้เกิดพายุใหญ่ ทำให้เรือที่เขาโดยสารแทบอัปปางลง ชาวเรือพยายามแก้ไขทุกวิถีทาง มีการจับฉลากจึงรู้ว่าโยนาห์คือต้นเหตุ ฝ่ายโยนาห์ยอมรับว่าเป็นความผิดของตน และแนะวิธีการแก้ไขสถานการณ์ -- คือโยน เขาลงทะเล แล้ว พายุก็สงบ ชาวเรือจึงหันมานมัสการพระเจ้าของอิสราเอล ด้วยเครื่องถวายบูชา และสาบานตนแทน (กลับใจเชื่อพระเจ้าของโยนาห์)
ในบทที่ 2 เป็นเรื่อง "คำภาวนา" ของโยนาห์ วิธีการใช้คำและร้อยกรองในคำภาวนา ของ โยนาห์นั้นคล้ายคลึงกับคำภาวนาของหนังสือสดุดีในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ทั้งในทาง ทฤษฎี และในเนื้อหา แต่คำอธิษฐานภาวนาของโยนาห์ไม่ได้ ตามมาตรฐานของ พระคัมภีร์เลย "คำภาวนา" ของ โยนาห์มีแต่เรื่องของตนเอง หมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ ภัยอันตรายที่ตนเองเผชิญอยู่ เรียกร้องการช่วยกู้ มากกว่ามุ่งไปที่พระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาได้ ที่น่าวิตกคือ ไม่มีคำสารภาพบาปเลย ในคำภาวนามีแต่เรื่องดูถูกคน ต่างชาติ และพยามยามบอกให้พระเจ้ารู้ถึงความชอบธรรมของตนเอง แต่เมื่อโยนาห์ สรรเสริญพระเจ้าที่ช่วยให้เขารอดตาย พระเจ้าจึงสั่งให้ปลามหึมานั้นสำรอกท่าน ลงบนฝั่ง
พอถึงบทที่ 3 และ 4 ท่าทีความกตัญญูก็หายวับไปจากประกาศกหัวแข็งรายนี้ บทที่ 3 และ 4 ที่เขาออกไปป่าวร้องและชาวนีนะเวห์เกิดกลับใจ โยนาห์จึงออกอาการ "โมโหสุดขีด" และความบาปที่น่าชังของเขาจึงเผยโฉมออกมาอย่างแจ่มแจ้ง ในบทที่1 เขาเพียงแต่หนีจากการรับใช้พระเจ้า แต่บทที่ 4 โยนาห์โจมตีพระเจ้า และบอกกับพระเจ้าอย่างโอหัง ว่าเขามีสิทธิ์ที่จะโกรธพระองค์ ในบทที่ 2 โยนาห์ทูลวิงวอนขอให้พระเจ้าช่วยชีวิต แต่ในบทที่ 4 เขากลับภาวนาขอให้พระเจ้าเอาชีวิตไปเสีย
บทที่ 4 ประกาศกโยนาห์โพล่งออกมาถึงสาเหตุที่เขาฝ่าฝืนพระบัญชาไม่ยอมไปประกาศที่ นคร นีนะเวห์ เหตุการณ์ที่อยู่ในบทนี้แสดงให้เห็นถึงความบาปทั้งสิ้นของโยนาห์ ในขณะที่ ผู้อ่านเห็นความบาปของโยนาห์อย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนไม่มีผลกระทบใดๆเกิดขึ้นกับ เขาเรื่องจบลงเฉยๆอย่างห้วนๆ โดยมีคำตักเตือนของพระเจ้าค้างอยู่กลางอากาศ และโยนาห์ก็ยังโกรธพระองค์อยู่
ขอพิจารณา สัมพันธภาพของพระเจ้า ประกาศกโยนาห์ และความรอดของชาวนีนะเวห์ ดังนี้
1.การประกาศของโยนาห์ และ การกลับใจของชาวนีนะเวห์ (ดู บทที่ 3:1-9)
เป็นคำรบสองที่ "พระวาจาของพระเจ้า" มาถึงโยนาห์ "จงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์ นครใหญ่ และประกาศข่าวแก่เมืองนั้นตามที่เราบอกเจ้า" (ข้อ 2) นี่ไม่ใช่คำสั่งใหม่ แต่เป็นคำสั่งซ้ำเหมือนในบทที่ 1 แต่ครั้งนี้ประกาศกโยนาห์ทำตาม ด้วยความจำใจ
ประชากรของนครนีนะเวห์ ถ้าจะรวมถึงปริมณฑลด้วยนั้น คงมากทีเดียว ( 1:2; 3:2; 4:11) เรารู้
ขนาดของเมืองด้วยว่า ถ้าเดินข้ามเมืองก็กินเวลา "สามวัน" (3:3) คำพูดของประกาศกโยนาห์นั้นธรรมดา ตรงประเด็น และน่าตกใจ ที่ว่า "อีกสี่สิบวัน นีนะเวห์จะถูกคว่ำ" (3:4) ชาวนีนะเวห์รับฟังเรื่องการพิพากษาที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างเอาจริงเอาจัง คือ "พวกเขาได้เชื่อฟังพระเจ้า" (3:5) ซึ่งเล็งไปถึง การที่ชาวต่างชาติมีความเชื่อในพระเจ้าของอิสราเอล ไม่ใช่เพียงเพราะกลัวการ พิพากษา เลยทำให้เราเห็นการฟื้นฟูแท้จริงที่เกิดขึ้นเพราะการประกาศของโยนาห์ ดูเหมือนการฟื้นฟูจะ "เริ่มจากเบื้องล่าง" ก่อน แทนที่จะเป็นคำสั่ง "จากเบื้องบน" ลงมา หนังสือบันทึกว่า ชาวนีนะเวห์ได้เชื่อฟังพระเจ้า มีการประกาศให้อดอาหารและห่มผ้า กระสอบ (3:5) ผลตอบรับนั้นเป็นไปอย่างพร้อมเพรียงกัน จากสามัญชนธรรมดา ขึ้นไป จนถึงเจ้าขุนมูลนาย
แทบทั้งเมืองกลับใจไปแล้วก่อนที่เรื่องนี้จะรู้ไปถึงกษัตริย์ และเพราะกษัตริย์ทรงเชื่อคำ เตือนของโยนาห์ด้วย ดังนั้นพระราชาจึงออกคำสั่งเป็นทางการให้ทั้งเมืองกลับใจโดยเริ่มต้นที่ตัว พระองค์ก่อน (3:6) ทรงออกพระราชกฤษฎีกาให้ชาวนีนะเวห์อดอาหารและ งดดื่มน้ำ (3:7) ทั้งคนและสัตว์ต้องนุ่งห่มผ้ากระสอบ ให้ประชากรร้องทูลต่อพระเจ้า และหันกลับเสียจากการประพฤติชั่ว (3:8) แรงจูงใจที่ทำให้ชาวนีนะเวห์หันเสียจากความประพฤติชั่วอยู่ในข้อ 9 "ใครจะรู้ ได้ พระเจ้าอาจจะทรงกลับและเปลี่ยนพระทัย คลายจากพระพิโรธอันรุนแรงเพื่อว่าเรา จะมิได้พินาศ " (3:9)
ถ้าพระเจ้ามีความตั้งใจที่จะทำลายนีนะเวห์ เหตุใดพระ องค์ต้องใช้ให้คนไปบอกให้รู้ตัวด้วย ? การประกาศที่พระเจ้าทรงใช้ให้โยนาห์ไปทำนั้น เป็นคำเตือน ชาวนีนะเวห์เข้าใจถึงคำประกาศ ของประกาศกโยนาห์เป็นอย่างดี เพราะมีการกลับใจ นี่เป็นสิ่งเดียวกับที่พระเจ้าตรัสไว้ในพระคัมภีร์เก่าเยเรมีห์ บทที่ 18:5-11 พระพรตามพระสัญญาของพระเจ้านั้นอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังของ มนุษย์ และอาจทรงละจากการพิพากษาได้ถ้ามีการกลับใจ เลิกประพฤติชั่ว ฝ่ายชาวนีนะเวห์มีความหวังใจ ว่าพระเจ้าจะทรง "ยับยั้ง" พระพิโรธ
2.นีนะเวห์กลับใจ พระกรุณาของพระเจ้า และความไม่พอใจของโยนาห์ ( ดู บทที่ 3:10–4:11)
เพราะการกลับใจของชาวนีนะเวห์ พระเจ้าทรงเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพวกเขา "หันกลับเสียจากการประพฤติชั่ว" นี่คือการกลับใจที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำพูด ซ้ำซากเช่น "ฉันเสียใจ" แต่การกระทำเป็นตัวที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในจิตใจที่แท้ จริง อย่างที่โยนาห์คาดไว้ ชาวนครนีนะเวห์ได้กลับใจจริงจากความบาปที่เคยกระทำ ดังนั้นพระเจ้าจึงยับยั้งไม่ลงโทษตามที่พระองค์ได้เคยตรัสไว้ เป็นเรื่องน่าสนใจที่ไม่มีคำอธิบายใดๆเรื่องการกลับใจของชาวนีนะเวห์ที่เกิดขึ้น อย่างฉับพลัน พร้อมเพรียงกันและอย่างจริงใจ อาจจะเหมือนพวกชาวเรือที่ต้อง ปฏิบัติตามคำของโยนาห์ก่อนที่การอัศจรรย์จะเกิดขึ้น หรืออาจเป็นเพราะวิธีการปรากฎ ตัวของโยนาห์เอง ซึ่งเป็นหมายสำคัญยิ่งต่อชาวนีนะเวห์ พร้อมที่จะกลับใจ แต่ไม่ได้มีการบันทึกไว้
ตัวอย่าง บทเรียนของประกาศกโยนาห์มีไว้สอนคนอิสราเอลในสมัยของพระเยซูเจ้า ชาว นีนะเวห์กลับใจทันทีที่ได้ยินการประกาศของโยนาห์ ถึงแม้จะมีข้อพิสูจน์เพียงน้อย นิดเมื่อเทียบกับในสมัยของพระเยซูเจ้าที่ชาวอิสราเอลได้เห็น และถ้านำมาเทียบกับพระเยซูเอง โยนาห์แทบไม่มีความสำคัญใดๆเลย พระเยซูเจ้านำเรื่องการกลับใจของชาวนีนะเวห์บันทึกในหนังสือ น.มัทธิวบทที่ 12 มาสอนเพื่อยืนยันและ ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายๆเมื่อได้ยิน พระองค์ทรงตอกย้ำความจริงถึงการที่ชาวนีนะเวห์กลับใจ มาหาพระเจ้า ถึงแม้จะมีข้อพิสูจน์เพียงนิดเดียว แต่ถ้าจิตใจนั้นเปิดออกเพื่อฟังพระวาจา และเรียนรู้ถึงน้ำพระทัยพระองค์แล้ว จิตใจนั้นจะเกิดความเชื่อและตอบสนองในทันที แต่ถ้าจิตใจที่แข็งกระด้าง — เช่นเดียวกับจิตใจแบบโยนาห์ — ก็จะไม่มีวันเปิดรับพระวาจาต่อให้ชัดเจนเพียงใดก็ตาม