คนต่างชาติเปิดเผยความจริง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 30, 2010 9:59 am
คนต่างชาติเปิดเผยความจริง
โปรดปราน (พีพี)
...โหราจารย์บางท่านเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดวงดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” ( มัทธิว 2:1-2)
สตาร์ สตรีท(Star Street) เป็นถนนที่เป็นเส้นทางธุรกิจเก่าแก่ที่สุดในเมืองเบธเลเฮม ซึ่งไกด์ทัวร์จะพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินตามรอยโหราจารย์เพราะไกด์ยืนยันว่านี่เป็นถนนที่ โหราจารย์เคยใช้เพื่อไปบ้านพระกุมารเยซู ...โหราจารย์หรือนักปราชญ์จากทิศตะวันออกได้พบพระกุมาร นั่นคือปรากฏการณ์ที่พระเจ้าได้ทรงสำแดงองค์แก่คนต่างชาติเป็นครั้งแรก ที่น่าสนใจยิ่ง คนต่างชาติกลุ่มนี้ เป็นผู้มีการศึกษา เคร่งศาสนาเดิม (พวกบูชาไฟ) มีความรู้เรื่องดาราศาสตร์ และเฝ้าติดตามดวงดาวของผู้บารมีของโลก เมื่อพวกเขาได้เห็นดาวผู้มีบารมีดวงนั้นจึงอยากรู้ว่า ท่านผู้นั้นคือใคร เพราะอยากจะไปนมัสการ สักครั้งหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางจากแดนไกล เขาเดินทางมาทำไม คำตอบคือ “หวังมานมัสการ” (ข้อ 2) สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากโหราจารย์ ดังนี้
1.การปรากฏของโหราจารย์ เป็นการประกาศความรอดต่อมนุษย์ทุกคน
“ พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย” (มัทธิว 2:1) “ เบธเลเฮม” แปลว่า “ บ้านแห่งขนมปัง” เดิมชื่อเอฟราธาห์ อยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เช่น เป็นที่ฝังศพของนางราเชลภรรยาของยาโคบ (ปฐมกาล 48:7) เป็นที่อาศัยของนางรูธหลังแต่งงานกับโบอาซและได้ให้กำเนิดโอเบด ผู้เป็นบิดาของเจสซี ซึ่งเป็นบิดาของดาวิด (นางรูธ 1:22) ที่สำคัญยิ่งเบธเลเฮมเป็นเมืองของกษัตริย์ดาวิด (1 ซามูเอล 16:1; 17:12; 20:6) ซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาจะส่ง “ พระผู้ช่วยให้รอด” มาจากเชื้อสายดาวิดและจากเมืองของพระองค์ ดังที่ประกาศกมีคาห์ทำนายไว้ว่า “ เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา” (มีคาห์ 5:2)
นักบุญจัสติน ปิตาจารย์ถือกำเนิดใกล้เมืองเบธเลเฮมราวปี ค.ศ.100 บันทึกไว้ว่าชาวเมืองเบธเลเฮม นิยมเจาะภูเขาเป็นที่พักอาศัย และมักเจาะหินใต้บ้านให้กลวงเป็นถ้ำเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ เป็นไปได้มากว่าพระเยซูเจ้าประสูติในถ้ำหินสำหรับเลี้ยงสัตว์นี้ ( ท่านผู้อ่านที่ได้ไปเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ คงได้ยินไกด์ท้องถิ่นแนะนำถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองเบธเลเฮมว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระกุมารเยซู เป็นแน่ เพราะฉันเองได้ยินไกด์แนะนำ )
โหราจารย์คือคนนอก เขาไม่ใช่กลุ่มคนที่ห้อมล้อมรางหญ้า พวกเขามาจากต่างแดน แล้วก็กลับไปยังต่างแดน พวกเขาเป็นคนแผ่นดินไหนล่ะ มีข้อสันนิษฐานมากมาย เช่น อาจจะมาจากเปอร์เซียหรืออาหรับ หรือเยเมน (เพราะของขวัญพบที่เยเมนเท่านั้น-บางความเห็น) ที่แน่ๆเขาไม่ใช่คนยิว ในสมัยนั้นเรียกคนที่ไม่ใช่ยิวว่า คนต่างชาติ (Gentiles )คนต่างชาติคือคนที่ไม่ได้เข้าพันธสัญญากับพระเจ้าผ่านท่านอับราฮัม ซึ่งพวกเขารู้เกี่ยวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าน้อยมาก กระนั้นก็ดีเขามีความศรัทธาดวงดาราที่ปรากฏบนฟากฟ้า จึงเดินตามดวงดาวมาจนได้สัมผัสกับพระกุมารเพราะพวกเขา มานมัสการถึงบ้าน แล้วได้ถวายของขวัญ 3 อย่าง คือ 1.ทองคำ 2.กำยาน 3.มดยอบ เมื่อถวายของขวัญเสร็จ พระเป็นเจ้าทรงนำเขากลับแผ่นดินของเขาอีกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้พบกับกษัตริย์เฮโรด การกลับไปของพวกเขา ได้นำเอา ข่าวสำคัญนี้กลับไปด้วย ข่าวนี้เรียกข่าวดี (คริสเตียนใช้ข่าวประเสริฐหมายถึงข่าวดีที่สุดนั่นเอง)ที่ทูตสวรรค์ได้ป่าวประกาศแก่คนเลี้ยงแกะ ข่าวดีนี้ยังเป็นความลับสำหรับกษัตริย์เฮโรด ข่าวดีที่โหราจารย์ได้รับ คือการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า เป็นการมาเพื่อสำแดงความรักและการเสียสละแก่มนุษย์ทุกคน
ความจริงแล้ว โหราจารย์ กลุ่มนี้เป็นตัวแทนของพวกเราได้เลย เพราะว่าทั่วโลก “คริสตชน เป็น คนต่างชาติ ไม่ใช่ยิว” ส่วนคนยิวเองส่วนใหญ่ยังคงปฏิเสธพระเมสสิยาห์ การเปิดเผยเรื่องพระกุมารเยซู ตั้งแต่ไม่มีห้อง ที่โรงแรมในเบธเลเฮม พระเป็นเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ชาวยิวบางกลุ่มเช่น คนเลี้ยงแกะ ส่วนการทรงสำแดงองค์ของพระกุมารเยซูแก่โหราจารย์นั่นคือ พระเจ้าทรงทำตามพระสัญญากับอับราฮัมบิดาแห่งความเชื่อ ที่พระเจ้าทรงใช้อับราฮัมให้เป็นท่อพระพรไปยังนานาชาติ ซึ่งการทรงสำแดงพระบุตรแก่โลกนี้....นั่นคือแก่พวกเราทุกคน ที่เป็นส่วนของคนต่างชาติ ให้ได้รับพระพรของอับราฮัม นั่นคือความรอดกลับสู่พระอาณาจักรพระเจ้า ต่อจากนี้บทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริสตชนคือ การนำข่าวดีแพร่กระจายไปถึงทุกคน
ส่วนในหนังสือเอเฟซัส 3.1-12 ซึ่งเป็นภารกิจของนักบุญเปาโลต่อคนต่างชาติดังนี้
“ 3...พระองค์ได้ทรงสำแดงให้ข้าพเจ้ารู้ข้อล้ำลึก ตามที่ข้าพเจ้าได้เขียนไว้แล้วอย่างย่อๆ 4และโดยคำเหล่านั้น เมื่อท่านอ่านแล้ว ท่านก็รู้ถึงความเข้าใจของข้าพเจ้าในเรื่องความล้ำลึกของพระคริสต์ 5ซึ่งในสมัยก่อนพระองค์ไม่ได้ทรงโปรดสำแดงแก่มนุษย์เหมือนอย่างบัดนี้ ซึ่งทรงโปรดเผยแก่พวกอัครทูตผู้บริสุทธิ์และพวกผู้เผยพระวจนะโดยพระวิญญาณ 6นี่คือคนต่างชาติได้เป็นผู้รับมรดกร่วมกัน และเป็นอวัยวะของกายอันเดียวกัน และมีส่วนได้รับคำสัญญาในพระเยซูคริสต์โดยข่าวประเสริฐนั้น” ( เอเฟซัส 3.3-6 )
เมื่อถึงเวลาความล้ำลึกต่างๆ คือ การลงมาบังเกิด การถูกตรึงบนกางเขน การคืนชีพของพระเยซูเจ้า ถูกเปิดเผยออกมา คือทุกๆคน ไม่ว่าคนยิว คนต่างชาติ ทาส หรือไท เป็นชาย หรือหญิง ทุกสีผิว ขาว ดำ เหลือง น้ำตาล ทุกฐานะ คนรวย หรือคนจน มีความรู้ ไม่มีความรู้ ทุกชนชาติ เป็นคนไทย หรือชาติอื่นๆ เราร่วมกันรับพระพรแห่งความรอดจากพระผู้ไถ่องค์เดียวกัน คือพระกุมารเยซู ผู้เปิดเผยพระองค์ครั้งแรกแก่คนต่างชาติ คือเหล่าโหราจารย์จากตะวันออก
โปรดปราน (พีพี)
...โหราจารย์บางท่านเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดวงดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” ( มัทธิว 2:1-2)
สตาร์ สตรีท(Star Street) เป็นถนนที่เป็นเส้นทางธุรกิจเก่าแก่ที่สุดในเมืองเบธเลเฮม ซึ่งไกด์ทัวร์จะพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินตามรอยโหราจารย์เพราะไกด์ยืนยันว่านี่เป็นถนนที่ โหราจารย์เคยใช้เพื่อไปบ้านพระกุมารเยซู ...โหราจารย์หรือนักปราชญ์จากทิศตะวันออกได้พบพระกุมาร นั่นคือปรากฏการณ์ที่พระเจ้าได้ทรงสำแดงองค์แก่คนต่างชาติเป็นครั้งแรก ที่น่าสนใจยิ่ง คนต่างชาติกลุ่มนี้ เป็นผู้มีการศึกษา เคร่งศาสนาเดิม (พวกบูชาไฟ) มีความรู้เรื่องดาราศาสตร์ และเฝ้าติดตามดวงดาวของผู้บารมีของโลก เมื่อพวกเขาได้เห็นดาวผู้มีบารมีดวงนั้นจึงอยากรู้ว่า ท่านผู้นั้นคือใคร เพราะอยากจะไปนมัสการ สักครั้งหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางจากแดนไกล เขาเดินทางมาทำไม คำตอบคือ “หวังมานมัสการ” (ข้อ 2) สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากโหราจารย์ ดังนี้
1.การปรากฏของโหราจารย์ เป็นการประกาศความรอดต่อมนุษย์ทุกคน
“ พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย” (มัทธิว 2:1) “ เบธเลเฮม” แปลว่า “ บ้านแห่งขนมปัง” เดิมชื่อเอฟราธาห์ อยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เช่น เป็นที่ฝังศพของนางราเชลภรรยาของยาโคบ (ปฐมกาล 48:7) เป็นที่อาศัยของนางรูธหลังแต่งงานกับโบอาซและได้ให้กำเนิดโอเบด ผู้เป็นบิดาของเจสซี ซึ่งเป็นบิดาของดาวิด (นางรูธ 1:22) ที่สำคัญยิ่งเบธเลเฮมเป็นเมืองของกษัตริย์ดาวิด (1 ซามูเอล 16:1; 17:12; 20:6) ซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาจะส่ง “ พระผู้ช่วยให้รอด” มาจากเชื้อสายดาวิดและจากเมืองของพระองค์ ดังที่ประกาศกมีคาห์ทำนายไว้ว่า “ เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา” (มีคาห์ 5:2)
นักบุญจัสติน ปิตาจารย์ถือกำเนิดใกล้เมืองเบธเลเฮมราวปี ค.ศ.100 บันทึกไว้ว่าชาวเมืองเบธเลเฮม นิยมเจาะภูเขาเป็นที่พักอาศัย และมักเจาะหินใต้บ้านให้กลวงเป็นถ้ำเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ เป็นไปได้มากว่าพระเยซูเจ้าประสูติในถ้ำหินสำหรับเลี้ยงสัตว์นี้ ( ท่านผู้อ่านที่ได้ไปเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ คงได้ยินไกด์ท้องถิ่นแนะนำถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองเบธเลเฮมว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระกุมารเยซู เป็นแน่ เพราะฉันเองได้ยินไกด์แนะนำ )
โหราจารย์คือคนนอก เขาไม่ใช่กลุ่มคนที่ห้อมล้อมรางหญ้า พวกเขามาจากต่างแดน แล้วก็กลับไปยังต่างแดน พวกเขาเป็นคนแผ่นดินไหนล่ะ มีข้อสันนิษฐานมากมาย เช่น อาจจะมาจากเปอร์เซียหรืออาหรับ หรือเยเมน (เพราะของขวัญพบที่เยเมนเท่านั้น-บางความเห็น) ที่แน่ๆเขาไม่ใช่คนยิว ในสมัยนั้นเรียกคนที่ไม่ใช่ยิวว่า คนต่างชาติ (Gentiles )คนต่างชาติคือคนที่ไม่ได้เข้าพันธสัญญากับพระเจ้าผ่านท่านอับราฮัม ซึ่งพวกเขารู้เกี่ยวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าน้อยมาก กระนั้นก็ดีเขามีความศรัทธาดวงดาราที่ปรากฏบนฟากฟ้า จึงเดินตามดวงดาวมาจนได้สัมผัสกับพระกุมารเพราะพวกเขา มานมัสการถึงบ้าน แล้วได้ถวายของขวัญ 3 อย่าง คือ 1.ทองคำ 2.กำยาน 3.มดยอบ เมื่อถวายของขวัญเสร็จ พระเป็นเจ้าทรงนำเขากลับแผ่นดินของเขาอีกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้พบกับกษัตริย์เฮโรด การกลับไปของพวกเขา ได้นำเอา ข่าวสำคัญนี้กลับไปด้วย ข่าวนี้เรียกข่าวดี (คริสเตียนใช้ข่าวประเสริฐหมายถึงข่าวดีที่สุดนั่นเอง)ที่ทูตสวรรค์ได้ป่าวประกาศแก่คนเลี้ยงแกะ ข่าวดีนี้ยังเป็นความลับสำหรับกษัตริย์เฮโรด ข่าวดีที่โหราจารย์ได้รับ คือการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า เป็นการมาเพื่อสำแดงความรักและการเสียสละแก่มนุษย์ทุกคน
ความจริงแล้ว โหราจารย์ กลุ่มนี้เป็นตัวแทนของพวกเราได้เลย เพราะว่าทั่วโลก “คริสตชน เป็น คนต่างชาติ ไม่ใช่ยิว” ส่วนคนยิวเองส่วนใหญ่ยังคงปฏิเสธพระเมสสิยาห์ การเปิดเผยเรื่องพระกุมารเยซู ตั้งแต่ไม่มีห้อง ที่โรงแรมในเบธเลเฮม พระเป็นเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ชาวยิวบางกลุ่มเช่น คนเลี้ยงแกะ ส่วนการทรงสำแดงองค์ของพระกุมารเยซูแก่โหราจารย์นั่นคือ พระเจ้าทรงทำตามพระสัญญากับอับราฮัมบิดาแห่งความเชื่อ ที่พระเจ้าทรงใช้อับราฮัมให้เป็นท่อพระพรไปยังนานาชาติ ซึ่งการทรงสำแดงพระบุตรแก่โลกนี้....นั่นคือแก่พวกเราทุกคน ที่เป็นส่วนของคนต่างชาติ ให้ได้รับพระพรของอับราฮัม นั่นคือความรอดกลับสู่พระอาณาจักรพระเจ้า ต่อจากนี้บทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริสตชนคือ การนำข่าวดีแพร่กระจายไปถึงทุกคน
ส่วนในหนังสือเอเฟซัส 3.1-12 ซึ่งเป็นภารกิจของนักบุญเปาโลต่อคนต่างชาติดังนี้
“ 3...พระองค์ได้ทรงสำแดงให้ข้าพเจ้ารู้ข้อล้ำลึก ตามที่ข้าพเจ้าได้เขียนไว้แล้วอย่างย่อๆ 4และโดยคำเหล่านั้น เมื่อท่านอ่านแล้ว ท่านก็รู้ถึงความเข้าใจของข้าพเจ้าในเรื่องความล้ำลึกของพระคริสต์ 5ซึ่งในสมัยก่อนพระองค์ไม่ได้ทรงโปรดสำแดงแก่มนุษย์เหมือนอย่างบัดนี้ ซึ่งทรงโปรดเผยแก่พวกอัครทูตผู้บริสุทธิ์และพวกผู้เผยพระวจนะโดยพระวิญญาณ 6นี่คือคนต่างชาติได้เป็นผู้รับมรดกร่วมกัน และเป็นอวัยวะของกายอันเดียวกัน และมีส่วนได้รับคำสัญญาในพระเยซูคริสต์โดยข่าวประเสริฐนั้น” ( เอเฟซัส 3.3-6 )
เมื่อถึงเวลาความล้ำลึกต่างๆ คือ การลงมาบังเกิด การถูกตรึงบนกางเขน การคืนชีพของพระเยซูเจ้า ถูกเปิดเผยออกมา คือทุกๆคน ไม่ว่าคนยิว คนต่างชาติ ทาส หรือไท เป็นชาย หรือหญิง ทุกสีผิว ขาว ดำ เหลือง น้ำตาล ทุกฐานะ คนรวย หรือคนจน มีความรู้ ไม่มีความรู้ ทุกชนชาติ เป็นคนไทย หรือชาติอื่นๆ เราร่วมกันรับพระพรแห่งความรอดจากพระผู้ไถ่องค์เดียวกัน คือพระกุมารเยซู ผู้เปิดเผยพระองค์ครั้งแรกแก่คนต่างชาติ คือเหล่าโหราจารย์จากตะวันออก