พระคำภีร์รายวันประจำเดือน มีนาคม 2555

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 11:40 pm

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2012
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต


บทอ่านจากหนังสือประกาศกเอเสเคียล อสค 37:21-28

พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า“จงบอกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ดูซิ เราจะนำพงศ์พันธุ์อิสราเอลมาจากนานาชาติซึ่งเขาไปอาศัยอยู่ด้วย เราจะรวบรวมเขามาจากทุกแห่ง และจะนำเขามายังแผ่นดินของเขา เราจะทำให้เขาเป็นชนชาติเดียวในแผ่นดิน บนภูเขาทั้งหลายแห่งอิสราเอล จะมีกษัตริย์พระองค์เดียวปกครองเขาทั้งหลาย เขาจะไม่เป็นชนสองชาติ และจะไม่แยกเป็นสองอาณาจักรอีกต่อไป เขาทั้งหลายจะไม่ทำตนให้เป็นมลทินกับรูปเคารพ โดยการกระทำที่น่าสะอิดสะเอียน และการล่วงละเมิดทั้งหลายของเขาอีกต่อไป เราจะช่วยเขาให้พ้นจากการทรยศ ที่เขาได้ทำบาป เราจะชำระเขา แล้วเขาจะเป็นประชากรของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา ดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นกษัตริย์ปกครองเขา จะเป็นผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียวของเขาทุกคน เขาจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของเรา จะรักษาข้อกำหนดของเราและปฏิบัติตาม เขาทั้งหลายจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เราให้แก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรา เป็นแผ่นดินที่บรรพบุรุษของเขาเคยอาศัยอยู่ เขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไป ทั้งตัวเขา ลูก และหลานของเขา ดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นเจ้านายปกครองเขาตลอดไป เราจะทำพันธสัญญาสันติภาพซึ่งจะเป็นพันธสัญญานิรันดรกับเขา เราจะให้เขาตั้งหลักแหล่งและทวีจำนวนขึ้น เราจะตั้งสักการสถานของเราไว้ในหมู่เขาตลอดไป ที่พำนักของเราจะอยู่ในหมู่เขา เราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา แล้วนานาชาติจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์ เราทำให้อิสราเอลศักดิ์สิทธิ์เมื่อสักการสถานของเราจะอยู่ในหมู่เขาตลอดไป’”

พระวรสารนักบุญยอห์น ยน 11:45-57

เวลานั้น ชาวยิวหลายคนที่มาเยี่ยมมารีย์ และเห็นสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ ก็เชื่อในพระองค์ แต่บางคนไปพบชาวฟาริสีเล่าเรื่องที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำให้ฟัง บรรดาหัวหน้าสมณะและชาวฟาริสีจึงเรียกประชุมสภา ปรึกษากันว่า “พวกเราจะทำอย่างไรดี เพราะคนคนนี้ได้ทำเครื่องหมายอัศจรรย์หลายอย่าง” ถ้าเราปล่อยเขาไว้อย่างนี้ ทุกคนจะเชื่อเขา แล้วชาวโรมันก็จะมาทำลายทั้งพระวิหารและชนชาติของเรา”

คนหนึ่งในที่ประชุมชื่อคายาฟาส เป็นมหาสมณะในปีนั้นกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายไม่เข้าใจอะไรเลย ท่านไม่คิดหรือว่า ถ้าคนคนเดียวจะตายเพื่อประชาชน จะเป็นประโยชน์มากกว่าที่ชนทั้งชาติจะต้องพินาศไป”

เขาไม่ได้พูดเช่นนี้ตามใจตนเอง แต่ในฐานะที่เป็นมหาสมณะในปีนั้น เขาประกาศพระวาจาว่า พระเยซูเจ้าจะต้องสิ้นพระชนม์เพื่อชนทั้งชาติ และไม่ใช่เพื่อชนทั้งชาติเท่านั้น แต่เพื่อจะรวบรวมบรรดาบุตรของพระเจ้าทรงกระจัดกระจายอยู่ให้กลับเป็นหนึ่งเดียวกัน ตั้งแต่วันนั้น ที่ประชุมได้ตกลงกันที่จะประหารพระองค์ ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงไม่เสด็จไปที่ใดอย่างเปิดเผยในหมู่ชาวยิวอีกต่อไป แต่เสด็จไปที่เมืองชื่อเอฟราอิม ในเขตแดนใกล้ถิ่นทุรกันดาร และทรงพำนักอยู่ที่นั่นกับบรรดาศิษย์

วันปัสกาของชาวยิวใกล้จะมาถึง ประชาชนจำนวนมากเดินทางจากชนบทขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อชำระตนก่อนวันฉลอง เขาเหล่านั้นเสาะหาพระเยซูเจ้า และขณะที่ยืนอยู่ในพระวิหารก็ถามกันว่า “ท่านทั้งหลายคิดอย่างไร เขาจะมาในวันฉลองหรือไม่”
บรรดาหัวหน้าสมณะและชาวฟาริสีได้ออกคำสั่งว่า ถ้าใครรู้ว่าพระองค์อยู่ที่ไหน ก็ให้มารายงาน เพื่อจะได้จับกุมพระองค์

ข้อคิด

เพราะได้ทรงทำพันธสัญญานิรันดรกับชาวอิสราเอลไว้ พระเจ้าจึงทรงส่งพระเยซูเจ้ามาเพื่อนำพวกเขากลับไปเป็นประชากรของพระองค์ แต่สมาชิกสภาซันเฮดรินกลับเกรงว่าผู้คนยิ่งเชื่อและติดตามพระเยซูเจ้ามากเท่าใด จะยิ่งเป็นอันตรายต่อตำแหน่งและอำนาจทางการเมืองของพวกเขามากขึ้นเท่านั้น พวกเขาจึงตัดสินว่าพระองค์จะต้องสิ้นพระชนม์เพื่อชนทั้งชาติ
เพียงแต่ว่าพระองค์มิได้สิ้นพระชนม์เพื่อชนอิสราเอลทั้งชาติเท่านั้น แต่เพื่อเราทุกคนด้วย !
ตอบกลับโพส