~@พระเยซูทรงสอนเรื่องความรอด@~

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ก.พ. 07, 2005 3:58 am

พระเยซูทรงสอนเรื่องความรอด
โดย โปรดปราน ( พีพี )

หลายปีก่อน มีภาพยนตร์ญี่ปุ่น ฉายที่สถานีโทรทัศน์ช่อง ไอทีวี ชื่อภาษาไทย “ครูซ่า...ปราบขาโจ๋” ฉันสนใจวิธีสอนเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่แสนกวน แสนซนของครู “โอนิสุกะ” ทำให้ฉันเห็นแบบอย่างของคนที่มีวิญญาณของการเป็นครูอย่างแท้จริง โดยให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง มีความอดทน และรักบริสุทธิ์ต่อนักเรียน ยอมเสี่ยงภัยอันตรายเพื่อปกป้องศิษย์ ยอมทนต่อคำกล่าวหา นินทาว่าร้ายต่างๆนาๆ ทนต่อการถูกรังเกียจเหยียดหยามยามที่ถูกเข้าใจผิดจากเพื่อนครูและผู้ปกครอง

....มีประโยคหนึ่งที่ฉันยังจำจนถึงเวลานี้ที่ครูหนุ่มโอนิสุกะกล่าวกับฝ่ายที่เบียดเบียนเขาว่า “ ถึงไม่มีอาคารสถานที่ใต้ฟ้านี้ ที่ไหนๆผมก็สอนได้ ขอให้มีนักเรียนก็เพียงพอแล้ว” ฉันกลับคิดถึง พระอาจารย์ หรือบรมครูที่ยิ่งใหญ่ของโลกนี้ นั่นคือ พระเยซูคริสต์เจ้า ตลอดพระชนม์ชีพที่ทรงทำพันธกิจ พระองค์ทรงเป็นครูตลอดเวลา วิชาเอกที่พระองค์ทรงสอนคือ “วิชาความรอด” หลังจากที่พระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย ก่อนเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์ทรงกำชับให้เหล่าสาวกสอนวิชาความรอดให้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า และจนมาถึงพวกเราที่ต้องรับภาระนี้ต่อไปตามพระมหาบัญชา


ขอนำผู้อ่านพิจารณาพระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ ๘.๒๔-๓๖ เป็นคำสอนเกี่ยวกับความรอด ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์และโดยพระชนม์ชีพของพระองค์ทรงห่วงใยคนบาป คนที่หลงทางจากพระบิดา พระทัยของพระเยซูเจ้าทรงมีภาระต่อคนเหล่านั้นตลอดเวลา

๑. ทรงสอนถึงความจำเป็นเรื่องความรอด

ปัจจัย๔ คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เป็นปัจจัยพื้นฐานฝ่ายกายของมนุษย์ทุกคน แต่มนุษย์มีวิญญาณ ซึ่งต้องคงอยู่ตลอดไป แม้กายจะดับไปแล้ว ดังนั้นเมื่อวิญญาณของมนุษย์จะต้องดำรงอยู่สืบไปจะทำอย่างไร ถึงจะได้อยู่ในส่วนที่พระเจ้าทรงประทับอยู่ด้วย

คริสตชนคงจำได้ดีว่า มนุษย์ถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า อาดัมและเอวาคือมนุษย์คู่แรก พระคัมภีร์บอกว่าผลกระทบของความบาปจากมนุษย์คู่แรก เราจึงแยกจากพระเจ้าตลอดกาล หรืออีกนัยหนึ่ง คือความบาปของมนุษย์คู่แรกส่งผลถึงเราในปัจจุบัน ความบาปในทัศนะของคริสตชนต่างจากหลักคำสอนของ ศาสนา อื่นๆ

ความบาป ในความหมายของคริสตชน คือตกจากมาตรฐานของพระเจ้า ส่วนผลลัพธ์ของความบาป ต้องแยกจากพระเจ้าถาวร ความบาปนำไปสู่ความตาย ความตายคือ ถูกแยกจากพระเจ้า ความตายเกิดขึ้นเพราะอาดัมไม่เชื่อฟัง การไม่เชื่อฟังของเขาทำให้เขาตกมาตรฐานที่พระเจ้าตั้งไว้ ( ดูปฐมกาลบทที่ ๓ ) ผลกระทบจากความบาปของอาดัมส่งถึงมนุษย์ทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกชนชั้นวรรณะ ซึ่งทำให้มนุษย์ต้องตาย “เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย” เล็งถึงความตายฝ่ายวิญญาณ และตายนิรันดร์

พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาในโลกนี้เพื่อให้โอกาสแก่มนุษย์ ให้เขาเริ่มต้นจากจุดที่เขายืนอยู่ เขาไม่ต้องแสวงหาวิธีไปพบองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยวิธีอื่นๆ หรือโดยนามของพระ หรือ คำสอน หรือ ข้อปฏิบัติอื่นๆ เพราะพระเยซูเจ้าตรัสชัดเจนว่า “นามอื่นทั่วใต้ฟ้าความรอดไม่มี” ทรงประกาศต่อว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงแห่งชีวิต ไม่มีผู้ใดมาหาพระบิดาได้นอกจากทางเรา” ผู้อ่านคงจะเห็นด้วยกับผู้เขียนว่า พระเยซูคริสต์ทรงสอนอย่างชัดเจนเรื่องความรอด ที่พระเจ้าทรงประทานให้มนุษย์ทั่วใต้ฟ้าว่า ต้องไปหาพระเจ้าโดยนามเยซู เท่านั้น

มีเรื่องเล่าว่ามีชายคนหนึ่งใช้เรือข้ามฟากสม่ำเสมอ วันหนึ่งเขามาสายเรือกำลังถอยออกจากท่าจอด ดังนั้น เขาจึงกระโดดลงเรือเหมือนที่เคยทำประจำ อนิจจาเพราะครั้งนี้เขาพลาด ร่างกายของเขา จึงตกลงไปในแม่น้ำ ที่ลึก และน้ำไหลเชี่ยว ซ้ำร้ายคือเขาว่ายน้ำไม่เป็น ขณะที่ทุกๆคนในเรือตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้ ส่วนชายคนนี้ กำลังต่อสู้กับสายน้ำแสนเชี่ยวนั้น นายท้ายเรือ โยนห่วงยางไปที่ชายคนนั้น และชายคนนั้นรีบคว้าห่วงยางไว้แน่น ทันใดนั้นผู้โดยสารหลายคนได้สติ ก็ช่วยกันดึงห่วงยางที่ชายคนนั้นเกาะมาที่เรือ และผู้โดยสารบางคน ก็ยื่นมือไปฉุดเขาขึ้นมาบนเรือ บางคนหาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าเช็ดตา บางคนโอบไหล่ปลอบใจ บางคนยิ้มให้กำลังใจ

ชายคนนี้รอดตาย เพราะมีห่วงยางช่วยชีวิตเขา และเขาเองยอมรับการช่วยเหลือ ภาพของชายคนนี้ ทำให้ฉันมองภาพของความรอดแบบนี้คือ เมื่อเรายอมรับว่าเป็นคนบาป ตกอยู่ในความบาป และต้องตายเพราะบาป พระเยซูคริสต์ ทรงยื่นห่วงยางแห่งความรอดให้แล้ว ถ้าเรารีบคว้าเกาะไว้ให้แน่น พระองค์จะทรงฉุดพวกเรา ไว้ แล้วเราจะได้รับความรอด เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์แน่นอน “...ท่านจะตายเพราะบาปของท่าน เพราะว่าถ้าท่านมิได้เชื่อว่าเราเป็นผู้นั้น ท่านจะต้องตายในการบาปของตัวเอง” (ยอห์น ๘.๒๔ )
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ก.พ. 07, 2005 4:03 am

๒.ทรงสอนว่าความรอดทำให้มนุษย์เป็นอิสระ

“เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น ๓.๑๖ )

มนุษย์ทุกคนเป็นศูนย์กลาง หรือกลุ่มเป้าหมายของความรอด พระองค์ทรงประทานความรอดให้มนุษย์ทุกๆคนอย่างยุติธรรมกับมนุษย์ทั้งโลก ดังนั้นทุกคนสามารถรับความรอดได้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน มนุษย์ไม่ต้องบนบาน หรือเซ่นไหว้ หรือติดสินบนใดๆ เงื่อนไขคือ “....วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ”

ความรอด: เป็นพระราชกิจของพระเจ้า มนุษย์มิอาจช่วยตัวเองให้พ้นจากกับดักบาปได้ มีพระเจ้าผู้เดียวที่สามารถช่วยเราให้หลุดพ้นได้ ในพระคัมภีร์ใหม่ คำว่า รอด เป็นกริยาในรูปอดีตกาล ปัจจุบันกาล และอนาคตกาล พระเจ้าได้ส่งพระเยซูเข้ามาในโลกเพื่อ “ช่วยชนชาติของท่านให้รอดจากความผิดบาปของเขา” บาปถูกจัดการโดยการสิ้นและคืนพระชนม์ของพระเยซู โดยความเชื่อในพระเยซูเราก็สามารถรับความรอดทันที ซึ่งของขวัญนี้ให้ทุกคนเปล่าๆ ไม่ว่าพื้นเพทางศาสนาเชื้อสายหรือฐานะทางสังคมจะเป็นอย่างไร

เพราะว่า “ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด” คริสตชนได้รับ “ความรอด” แล้วเพราะได้รับการอภัยโทษและชีวิตใหม่ แต่เรายังมิได้บรรลุถึงความรอดอันบริบูรณ์จนกว่าจะถึงยุคสุดท้ายที่พระเยซูเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ขณะที่รอคอยนี้เราได้รับ “ความรอด” ทุกๆ วัน

ในพระคัมภีร์เก่าความรอดมิได้หมายถึงแค่ความรอดด้านวิญญาณจิต พระราชกิจแห่งความรอดอันสำคัญที่สุดคือครั้งที่พระเจ้าปลดปล่อยคนอิสราเอลพ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ พระคัมภีร์ใหม่สอนว่าความรอดของพระเจ้ามีผลไม่เพียงต่อชีวิตจิตวิญญาณเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับชีวิตทุกด้านด้วย ข้อความที่เกี่ยวข้องกับความรอดในพระคัมภีร์ใหม่มีถึงหนึ่งในสามที่กล่าวเจาะจงถึงการรอดพ้นจากความโชคร้าย เช่น การจองจำ โรคภัยไข้เจ็บ และการถูกผีสิง เมื่อผู้ใดมาเป็นของพระคริสต์ ความรอดของพระองค์จะมีผลต่อชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตวิญญาณของเขา ทว่ายังจะไม่บรรลุผลสมบูรณ์จนกว่าพระเยซูเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ( ดูเทียบจากมธ. ๑:๒๑; อฟ. ๒.๘-๙; รม.๑๐.๑๓,๑๓.๑๑; ๑ คร.๑.๑๘; ฟป.๒.๑๒; มธ.๙.๒๑-๒๒; ลก.๘.๓๖ )

ความรอด ทำให้มนุษย์เป็นไท ในสมัยที่พระเยซูเจ้าทรงทำพันธกิจคนยิวตกเป็นทาสของจักรวรรดิโรม พวกเขาพยามเคร่งครัดในการรักษาธรรมบัญญัติ เพื่อจะเป็นคนดีพร้อม สำหรับเรื่องความรอดแล้ว ไม่มีใครดีพร้อมที่จะปลดปล่อยตัวเองจากการเป็นทาสของความบาป ที่นำไปสู่ความตายนิรันดร์ ยกเว้น คนที่ยอมรับการช่วยเหลือ จากชายที่ชื่อ เยซู เพราะว่า “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นทางนั้น ทรงเป็นความจริง และทรงเป็นชีวิตไม่มีใครไปถึงพระบิดาเจ้าได้นอกจากทางพระเยซูคริสต์” คือไม่ต้องตกเป็นทาสของความบาป เป็นอิสระ มีเสรีภาพ พ้นจากการพิพากษาลงโทษเพราะบาป ได้รับเสรีภาพนิรันดร์ ฝ่ายวิญญาณจิตไม่ต้องตาย

ผู้เขียนมีโอกาสไปเยี่ยม เพื่อน และหาข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ที่ประเทศกัมพูชาสองครั้ง ทุกครั้งตลอดเวลาที่ พำนักที่นั่นได้รับฟังเรื่องราวความทุกข์ยาก ความเจ็บปวดจากบาดแผลของสงครามกลางเมือง ตลอดเวลา ๒๕ ปี มีการเข่นฆ่า ทารุณกรรมมากมาย ฉันสนใจมากเป็นพิเศษคือช่วงการปกครองของ นายพลพต โดยเฉพาะกรณีทุ่งสังหาร และ มีโอกาสฟังเรื่องเล่าจากสุภาพสตรีเชื้อสายจีน-ขะแมร์ ท่านหนึ่งเล่าถึงครอบครัวของเธอ เองและของคริสเตียนท่านหนึ่งที่พำนักในประเทศไทย ( ซึ่งเมื่อฉันพักในพนมเปญทุกครั้งท่านจะอำนวยความสะดวกเรื่องพาหนะจัดรถและคนขับไว้บริการ ) เรื่องมีอยู่ว่า มีครอบครัวชาวเขมรเชื้อสายจีนสองครอบครัวทำธุรกิจที่เมืองไพลิน ธุรกิจไปได้ดี ฐานะร่ำรวย หัวหน้าครอบครัวทั้งสองฟังข่าวกรองว่า ปีนั้น ( ค.ศ. ๑๙๗๕ )ช่วงสงกรานต์กองทัพเขมรแดงจะบุกทุกเมืองใหญ่ ขณะนั้นบ้านเมืองสงบ ประชาชนสนุกสนานรื่นเริง หัวหน้าครอบครัวแรก (ฉันรู้จักเพราะนมัสการที่คริสตจักรหนึ่งในกรุงเทพฯ ) เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เขา และพี่ๆน้องๆได้เก็บทรัพย์สินที่มีค่าอพยพมาที่ประเทศไทย ส่วนพี่น้องคนอื่นๆอพยพไปที่ประเทศฝรั่งเศสและประเทศออสเตรเลีย ส่วนอีกครอบครัวหัวหน้าครอบครัวไม่เชื่อข่าวนั้น เพราะบ้านเมืองสงบมาก การทำมาหากินไปได้ดี ในที่สุดเมื่อ วันที่ ๑๗ เมษายน ๑๙๗๕ กองทัพเขมรแดงของนายพลพต เข้าล้อม โจมตีเมืองใหญ่ ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว พวกเขาถูกต้อนออกจากเมืองไปชนบท ตลอดเวลา ๕ ปี เกิดการสูญเสียมากมาย เช่นเขาสูญเสียภรรยาเพราะเจ็บป่วยไม่ได้รับการรักษา ลูกบางคนติดคุก บางคนถูกกักกันและต้องทำงานหนักมาก ในปี ๑๙๗๙ เมื่อทหารของเวียดนามเข้าปกครองเขมรแทนกองทัพเขมรแดง ครอบครัวนี้สามารถลี้ภัยเข้าศูนย์อพยพในประเทศไทย และต่อมาได้อพยพไปประเทศที่ ๓

เมื่อฟังเรื่องจริงของชาวเขมรเชื้อสายจีน สองครอบครัวนี้จบ ทำให้ฉันคิดถึงความรอดในพระเยซูคริสต์ ซึ่งพระองค์ ทรงสั่งสอนเรื่องนี้ด้วยพระองค์ เอง และด้วยชีวิตจริง คือ ความตายบนไม้กางเขน ก่อนสิ้นพระชนม์ พระองค์ประกาศว่า “สำเร็จแล้ว” เพราะความตายของพระเยซูคริสต์ในวันนั้น คือการลบล้างความผิดบาป เพื่อมนุษย์จะได้รับความรอด และชีวิตนิรันดร์ ตามเงื่อนไข คือ คนที่เชื่อ และวางใจ ( เชื่อ )จะไม่พินาศ แต่มีสักกี่คนที่เชื่อว่า “ข่าวดี”คือ การวายพระชนม์ของพระเยซูคริสต์นั้นมีผลต่อการอภัยบาปและผู้เชื่อพระองค์ได้รับความรอดเข้าส่วนในชีวิตนิรันดร์นั้นเป็นความจริง

:) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) ;D ;D ;D ;D

( ตีพิมพ์ในอิสระรายปักษ์ ปักษ์หลัง เดือน มกราคม 2005 )

และ http://www.issara.com/article/jesusteach.html
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ก.พ. 07, 2005 4:16 am

พระวรสารยอห์น บทที่ 8 ( สำนวน โปรเตสแตนต์ )

8:24 เราบอกท่านทั้งหลายว่า ท่านจะตายเพราะบาปของท่าน เพราะว่าถ้าท่านมิได้เชื่อว่าเราเป็นผู้นั้น ท่านจะต้องตายในการบาปของตัว"

8:25 เขาถามพระองค์ว่า "ท่านคือใครเล่า" พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นดังที่เราได้บอกท่านทั้งหลายแต่แรกนั้น

8:26 เราก็ยังมีเรื่องอีกมากที่จะพูดและพิพากษาท่าน แต่พระองค์ผู้ทรงใช้เรามานั้นทรงเป็นสัตย์จริง และสิ่งที่เราได้ยินจากพระองค์ เรากล่าวแก่โลก"

8:27 เขาทั้งหลายไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสกับเขาถึงเรื่องพระบิดา

8:28 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "เมื่อท่านทั้งหลายจะได้ยกบุตรมนุษย์ขึ้นไว้แล้ว เมื่อนั้นท่านก็จะรู้ว่าเราคือผู้นั้น และรู้ว่าเรามิได้ทำสิ่งใดตามใจชอบ แต่พระบิดาได้ทรงสอนเราอย่างไร เราจึงกล่าวอย่างนั้น

8:29 และพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาก็ทรงสถิตอยู่กับเรา พระองค์มิได้ทรงทิ้งเราไว้ตามลำพัง เพราะว่าเราทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ"

8:30 เมื่อพระเยซูตรัสดังนี้ ก็มีคนเป็นอันมากวางใจในพระองค์

8:31 พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า "ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง

8:32 และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท"

8:33 เขาทั้งหลายทูลตอบพระองค์ว่า "เราสืบเชื้อสายมาจากอับราฮัม และไม่เคยเป็นทาสใครเลย เหตุไฉนท่านจึงกล่าวว่า "ท่านทั้งหลายจะเป็นไท"

8:34 พระเยซูตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป

8:35 ทาสมิได้อยู่ในครัวเรือนตลอดไป บุตรต่างหากอยู่ตลอดไป

8:36 เหตุฉะนั้นถ้าพระบุตรทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท ท่านก็เป็นไทจริงๆ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ ก.พ. 07, 2005 9:18 am

ขอบคุณครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.พ. 09, 2005 7:42 pm

Lost Lamb เขียน: เข้ามาดู
ไม่อ่านหรือคะ ??? ??? :D
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ก.พ. 09, 2010 11:07 pm

บทความดั้งเดิมค่ะ : emo038 :
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พฤหัสฯ. ก.พ. 18, 2010 4:30 pm

up...... : emo038 :
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ส.ค. 23, 2010 9:49 pm

อัพเดท เผื่อใครๆจะได้อ่านค่ะ :s002:
ตอบกลับโพส