รำพึงพระวาจา วันที่ 1 พ.ย. โดยคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 01, 2012 9:32 am

รำพึงพระวาจาประจำวัน(บทอ่านที่1) โดย คพ.สมเกียรติ ตรีนิกร

วันพฤหัสที่ 1 พฤศจิกายน 2012 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา
“ที่สุด เราต้องสวมใส่พระคริสตเจ้า”... ถ้าเรามีพระองค์เป็นอาภรณ์ เป็นชีวิตของเรา เราจะสามารถเจริญชีวิตได้อย่างมีคุณภาพสูงในการเป็นประชากรของพระเจ้า.... พ่อจำความได้ว่า เวลาเป็นเณรเล็ก พ่อเคยใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขาสั้น เสื้อขาว กางเกงดำ เป็นชุดบ้านเณร มีเข็มบ้านเณรติดที่หน้าอกบนกระเป๋าเสื้อ ภูมิใจและเท่ห์มากครับ ขณะนั้น ก็เป็นรุ่นพี่ๆเขา ม.ปลายใส่กางเกงขายาวผู้เน็คไทล์เท่ห์กว่าอีก เราก็รอๆๆๆๆ อยากได้มีโอกาสขึ้นม.ปลายและจะได้สวมเน็คไทล์ อยากได้อยากสวมใส่ครับ มันหมายถึงเราโตขึ้น ก้าวหน้าขึ้น แบบฟอร์มนี่ความหมายมากเสมอๆเลยครับ พ่ออยู่จนจบม.ต้น ก็ได้สวมเครื่องแบบม.ปลายในที่สุด และเมื่อได้มาก็รอต่อไปอยากได้เป็นมาสเตอร์เณร แม้เครื่องแบบไม่เปลี่ยนแต่สถานและวัยวุฒิก็เปลี่ยน...ชีวิตก็แบบนี้ครับ
ตอนไปบ้านเณรกลางก็ไร้รูปแบบ ไม่มีเครื่องแบบ หลังจากอยู่บ้านเณรเล็กมาเจ็ดปี ก็รอไปโคราช ไปบ้านเณรกลางหนึ่งปี เห็นบ้านเณรใหญ่แล้ว เขาใส่เสื้อมีปลอกคอ เสื้อสีฟ้า เท่ห์ที่สุด อยากได้จริงๆเขาเรียกว่าเสื้อเคอร์ยี่แมน อยากได้อยากสวมใส่มาก แต่ต้องรอต่อไป กลับจากบ้านเณรกลางมาก็ได้ใส่จนได้ มีความสุขมากๆๆๆๆ จริง เป็นเณรใหญ่แล้ว ได้เครื่องแบบเณรใหญ่แล้ว...ต้องใช่เสื้อแบบนี้ไปตลอด มีเข็มบ้านเณรใหญ่ด้วย แต่ก็มองไปที่รุ่นพี่ เขาอยู่บ้านเณรใหญ่มาสี่ปี ขึ้นปีที่ห้า เขาได้สวมเสื้อหล่อขาวยาว ได้รับพิธีแต่งตั้งเป็นผู้อ่านพระคัมภีร์ ก็อยากได้เป็นอีก รอๆๆๆๆ ต่อไปอีกสี่ปี... เรียนจนจบปรัชญาอดทนเรียนและรอคอย... จนได้เสื้อหล่อตัวแรกสีขาวสะอาด ต้องเป็นผู้อ่านพระคัมภีร์ ต้องรักพระคัมภีร์ ต้องอ่านพระคัมภีร์ และต้องพัฒนาตนเองในการเรียนเทววิทยา...ต่อไป ต่อไป มองไปข้างหน้าอีก รอจะได้เป็นผู้ช่วยพิธีกรรม ได้สวมเสื้อสุปรีเสื้อขาวสั้นทับเสื้อหล่อ... รอจนจบปีห้า และปีหกผู้ใหญ่ก็ให้ผ่านได้รับพิธีแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยพิธีกรรม ใกล้แล้ว ได้เสื้อแบบฟอร์มในพิธีใหม่อีกแล้ว.... อ้าวรออีกปีจะได้อัลบาตัวแรกเป็นสังฆานุกรอีกหนึ่งปี ปีที่ 17 แล้วนะ จะได้แบบฟอร์มใหม่อีก และได้สวมชุดดัลมาติกา ขั้นนี้แหละต้องเป็นสังฆานุกร “บวชสังฆานุกร” ต้องสัญญาถือโสดตลอดชีวิต ต้องรับศีลบวช และสัญญาจะนบนอบเชื่อฟังตลอดไป.. เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายเพื่อเหมาะกับหน้าที่หรือที่เรียกว่าตำแหน่งที่ได้รับ ชุดฟอร์มที่ได้รับ เราต้องเจริญชีวิตให้สมกับเป็นสังฆานุกร และเมื่อได้บวชสังฆานุกรก็รอให้ถึงวันนั้น วันบวชเป็นพระสงฆ์....โห รอและดำเนินชีวิตมา 17 ปีเต็ม จนพระเจ้าโปรด เพื่อนๆก็หายไปเกือบหมด เหลือกันเล็กน้อย เราในที่สุดได้บวชเป็นพระสงฆ์ ได้สวมกาซูลาเป็นเครื่องหมายถึงพระคริสตเจ้า.... เราเป็นดังพระคริสตเจ้า เราต้องมีชีวิตเหมือนพระองค์.... เราต้องทำตนให้สมกับชุดที่เราได้ใส่ได้สวม ชีวิตที่เราได้สวม “สวมพระคริสตเจ้านั่นเอง”
พ่อเห็นนักบวชก็เหมือนกัน ชุดสำคัญเหลือเกิน คนที่แต่งงานก็สำคัญที่ชุดเหลือเกินเหมือนกัน ใส่ใจกันสุด ชุดเจ้าสาว เพื่อนเจ้าสาว เจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าบ่าว ฯลฯ เอาเป็นว่า พี่น้องที่รัก พ่อเล่ามาเพื่อให้เราได้ไตร่ตรองถึง “อาภรณ์” ที่คริสตชนทุกคนได้สวมในชีวิต ที่นักบุญเปาโลสอนชาวเอเฟซัส และสอนเราทุกคน พ่อมั่นใจ เราต้องยอมรับความจริง ว่า โดยทางศีลล้างบาป เราได้สวมใส่องค์พระคริสตเจ้า เราได้สวมพระคริสตเจ้าทุกคนเลย สวมพระองค์ในชีวิตของเรา พ่ออยากให้เราอ่านพระวาจาวันนี้และสรุปได้เลยว่า เราต้องภูมิใจและได้ดำเนินชีวิตให้สมกับชุด สมกับชื่อ สมกับพระคริสตเจ้าผู้ประทับอยู่กับชีวิตของเรา
พี่น้องที่รัก พ่อมั่นใจว่า เราคริสตชนต้อง “กล้า” กล้าเจริญชีวิตเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้าในชีวิตของเราครับ ชีวิตเราต้องสวมใส่ “ความจริงและความชอบธรรม สวมความกระตือรือร้น และมั่นคงในความเชื่อ” นะครับ เอาให้เต็มที่เลยครับ เป็นคริสตชนกันให้เต็มที่เลยนะครับ ภูมิใจในเครื่องแบบนิรันดรของเราคือ “สวมใส่พระคริสตเจ้า” ในชีวิตเรา เป็นคริสตชน “ไม่ดีไม่ได้นะครับ” เต็มที่เลยนะครับ... ยืดให้เต็มที่ เครื่องแบบนี้คือชีวิตของเราตลอดไป พระคริสตเจ้าในชีวิตเรานะครับ... พระเจ้าอวยพรนะครับ...

อฟ 6:10-20
10สุดท้ายนี้ ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้เข้มแข็งในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงตักตวงพลังจากพระพลานุภาพของพระองค์ 11จงสวมใส่อาวุธครบชุดของพระเจ้า เพื่อท่านจะยืนหยัดต่อต้านเล่ห์กลของปีศาจได้ 12เพราะเรามิได้ต่อสู้กับพลังมนุษย์ แต่ต่อสู้กับเทพนิกรเจ้า และเทพนิกรอำนาจ ต่อสู้กับผู้ปกครองพิภพแห่งความมืดมนนี้ ต่อสู้กับบรรดาจิตแห่งความชั่วร้ายที่อยู่บนท้องฟ้า 13เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงสวมใส่อาวุธครบชุดของพระเจ้า เพื่อจะต้านทานทุกสิ่งได้ในวันเลวร้าย และยืนหยัดอยู่ได้จนถึงที่สุด
14จงยืนหยัดมั่นคง จงคาดสะเอวด้วยความจริง จงสวมความชอบธรรมเป็นเสื้อเกราะ 15จงสวมความกระตือรือร้นที่จะประกาศพระวรสารแห่งสันติเป็นรองเท้า 16จงถือความเชื่อเป็นโล่ไว้เสมอ เพื่อใช้ดับธนูไฟของมาร
17จงใช้ความรอดพ้นเป็นเกราะป้องกันศีรษะ จงถือดาบของพระจิตเจ้าคือพระวาจาของพระเจ้าไว้ 18จงอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ ขอพระจิตเจ้าทรงดลใจคำอธิษฐานวอนขอต่าง ๆ ทุกโอกาส จงตื่นเฝ้า อย่าท้อถอยที่จะวอนขอเพื่อบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและเพื่อข้าพเจ้าด้วย 19พระองค์จะได้ประทานถ้อยคำให้ข้าพเจ้ามีโอกาสเปิดปากพูด และประกาศธรรมล้ำลึกแห่งพระวรสารได้อย่างองอาจ 20ข้าพเจ้าเป็นทูตที่ถูกจองจำเพราะพระวรสารนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความกล้าหาญที่จะพูดอย่างเหมาะสมด้วยเถิด
ตอบกลับโพส