พระวาจาประจำวันที่ 3 พ.ย. โดยคุณพ่อ สมเกียรติ

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

ศุกร์ พ.ย. 02, 2012 10:19 pm

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2012 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา
“ดื้อดึงดันในความดี”... ยากไหมหนอที่จะเจริญชีวิตในโลกปัจจุบัน... ในสังคมปัจจุบัน... เคยได้ยินเขากล่าวกันในสำนวนไทยตั้งแต่พ่อเป็นเด็กๆ และคงจะกล่าวกันมาตลอด “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”... คนไทยเชื่อแบบนี้ เชื่อแบบนี้มายาวนาน... แต่ก็นะ เราก็เห็นกันอยู่ทนโท่ จนเขากล่าวกันเชิงประชดประชันว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน... ทำชั่วได้ดีมีถมไป” เจ้าสำนวนประชดประชันแบบนี้แหละที่ดูว่ามันจริงขึ้นทุกวัน... เราก้าวมาสู่ยุคหนึ่งที่เรียกว่า “กระจายอำนาจ” สู่ท้องถิ่น มาสู่ยุคที่ประชาสัมพันธ์กันเพื่อกระจายอำนาจสู่ถ้องถิ่น พ่อจำได้ติดตา(คาใจ) มีการทำพิธีกดปุ่มคอมพิวเตอร์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลหลายปีมาแล้ว... กดปุ่มปล่อยเงินกองทุนหมู่บ้านพ่อจำได้ว่ากดครั้นนั้นเป็นข่าวใหญ่ซ้ำไปซ้ำมา กดจิ๊ก(ตั้งใจใช้คำว่า “จิ๊ก” เดียว เพราะจิ๊กปัจจุบันหมายถึงจิ๊กกะไบท์ แต่ขณะเดียวกัน “จิ๊ก” แปลว่าลักขโมยหรือคอรัปชั่นด้วยเช่นกัน) กดจิ๊กเดียวครั้งนั้นหกหมื่นกว่าล้านบาท แล้วเงินนั้นก็ไหลไป....
พ่อจำได้ว่ามียุคหนึ่งมีโฆษณาทางทีวี ย้ำๆๆๆ “เงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป” จำได้ไหมครับ อ้อ และปัจจุบันนี้มีโฆษณาทางทีวีทุกวันเป็นโฆษณาอะไรมากที่สุดเคยสังเกตไหม ป้ายโฆษณาอะไรมีมากขึ้นเป็นดอกเห็ด เรามาดูความจริงกัน เอาความจริงมาวางต่อหน้ากันครับ... เรื่องของเรื่องคือ “เงิน เงิน เงิน” ประเภท “เงินติดล้อ เงินด่วน เงินกู้ มีรถมีเงิน ลูกจะเข้าเรียนก็ต้องจ่ายค่าเทอมต้องเอารถไปเปลี่ยนเป็นเงิน เงินด่วน ลูกสาวจะทำงานวันแรก แม่ก็ต้องกดบัตรเงินกู้... และมีคำพูดสวยๆว่า “เรารู้... ทุกการใช้จ่ายของคุณมีเหตุผลเสมอ...” ว้าว ภาษาหรูมาก “เหตุผล” ลูกชายโหนรถเมล์ก็ส่งมอเตอร์ไซค์คันใหม่ให้บิดาที่มีรถอยู่แล้วแต่เก่าหน่อย แต่ลูกก็ใช้เงินกู้หลวงพ่อตู้เอทีเอ็ม... พ่อจะออกรถบ่นว่าจะหาเงินที่ไหนได้ทันเพราะวันนี้วันอาทิตย์... ลูกเล็กๆก็บอกว่าไปที่...ซิ วันอาทิตย์ก็ไม่หยุด... เงิน เงิน เงิน วันอาทิตย์ไม่หยุดธนาคารมาตั้งนานแล้วครับทุกห้างสรรพสินค้า สะดวกซื้อและหลวงพ่อตู้เอทีเอ็ม... ทุกย่างเปลี่ยนเป็นเงินได้หมดครับ... นี่คือกลไกลปัจจุบันพ่อไม่ทราบว่าเราสังเกตกันหรือเปล่า...
ผลตามมาคือ “หนี้” หรือ “ทาส” เงินตรา คนไทยเราปัจจุบัน และอีกหลายประเทศ แต่พ่อว่าไทยแลนด์เนี่ยอาการหนักครับ “หนี้” คนเป็นหนี้เยอะ แทบทุกคนเป็นหนี้ หนี้ประชาชาติก็พุ่งสูงเราเป็นหนี้ตั้งแต่เกิดมาแล้วครับ เมื่อก่อนตอนเด็กๆพ่อจำได้ว่าพ่อเกิดมาก็เป็นหนี้คนละหลักพันบาท แต่ปัจจุบัน เป็นหลักเกือบสองหมื่นแล้วมังครับ... อันนี้หนี้ประชาชาชาติ แต่หนี้บุคคล ในระบบ...เรียกให้หรู นอกระบบ (มาเฟียเงินกู้) อีกมากมาย และทั้งในและนอกระบบก็จับมือกัน... กู้งดงามดูไฮโซ...เวลาตามคืนโลโซมาก ดูโฆษณาพวกไล่ตามหนี้ก็โจรจริงๆนั่นเอง เพราะมีบริษัทชั้นต่ำรับตามหนี้และกินเปอร์เซ็นต์และใช้คนใช้ความรุนแรง กรรโชก ติดตามเงิน สังคมเป็นแบบนี้
เอาเป็นว่า “ทุนนิยม ประชานิยม หรือแม้แต่ประชาธิปไตย” ไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด แต่อาจจะเลวน้อยที่สุด หรือเป็นระบบที่มันกลางๆใช้ได้...แต่ แต่ แต่ จะใช้ได้ดีกับประเทศที่มีประชากรที่ “ดี” ประชาการที่ “มีการศึกษาเพียงพอ” และที่สำคัญที่สุด ประชากรที่ “ไม่โกง ไม่เอาแต่ได้” แต่ความจริงประเทศของเราเป็นเช่นนี้ไหม “เรามีการศึกษาพอไหม” มีกี่คนที่เข้าใจระบบการเงิน บริหารเงิน มีคนที่มีความรู้พอจริงๆ ไหม.. พ่อคิดว่าสังคมไทยและสังคมโลก ก้าวสู่ทางตันขึ้นทุกวัน
ผลตามมาคือ คนที่เอาแต่ได้ คอรัปชั่น ก็รวย รวย รวย ได้ดี การเมืองก็ได้ดีแต่คนที่เป็นคนการเมืองและชิงอำนาจมาได้ (ด้วยเงินและอำนาจที่กระจายออกไป) คนชั้นสูงร่ำรวยคือคนที่ได้อำนาจทางการเมือง และบริวาร... ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น บ้านหลังใหญ่ก็เป็นของนักการเมืองท้องถิ่นอีก... นี่คือประเทศไทย... สังคมที่เข้าใจไม่ยากแต่ยากที่จะเข้าใจจริงๆ
แล้วเราคริสตชนจะต้องทำอย่างไร... จะ “เอากับเขาด้วย” ไหลตามกระแส หรือจะทวนกระแส กระแสโลกนิยม กระแสวัตถุนิยม กระแสการอำนาจนิยม กระแสเชิงนโยบาย(คอรัปชั่น)นิยมที่เรียกหรูว่า “คอรัปชั่นเชิงนโยบาย” ภาษาโบราณหน่อยเขาเรียกว่า “กินตามน้ำ”... เราจะเอาอย่างไรกับเรื่องเหล่านี้ จะเป็นหนี้ไปด้วย จะเป็นทาสไปด้วย หรือจะเป็นอิสระดีหนอ สิ่งทั้งหลายที่พ่อกล่าวมาวันนี้คือสรุปได้ว่านี่แหละคือ “บาป” กระแสของความ “อยาก” อยากได้ อยากมี อยากโกง อยากเอาเปรียบ โฆษณาปัจจุบันมีแต่ปลุกกระแสความบาปทั้งนั้นเลยจริงๆ นะ ภาษาที่ชัด ตรง เก่าหน่อย คือ “บาป” ที่โลกปัจจุบันมักจะบอกว่า “มันก็แล้วแต่” ไม่บาป ไม่มีบาป มีโอกาส ทำได้ “มันแล้วแต่” ที่พระสันตะปาปาเตือนให้ระวัง “สัมพัทธ์นิยม” (Relativism) ไม่มีอะไรผิดหรอก ทำได้ก็ทำ มีโอกาสจะโง่ทำไม สรุปก็คือ “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป”... นั่นแหละคือปัญหาต้นตอของทุกอย่าง ทำอะไรก็ไม่ผิด กินเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณก็ไม่ผิด ค่าลายเซ็นของท่านคือยี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ผิดทั้งที่ก็รับเงินเดือนจากภาษีอยู่แล้ว... นี่งัย “บาป” ของโลกปัจจุบัน...
พ่ออยากให้อ่านพระวาจาวันนี้ และเราจะเห็นว่า เราต้องสู้ทนต่อไป ทวนกระแสต่อไป อย่าหมดอาลัยกับโลกสังคม แต่ต้องยืนหยัดต่อไปในความเชื่อ แต่เราต้องเห็นความจริง มีความรู้ รู้ความจริงและมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปด้วยความเชื่อของเราครับ กล้าหาญ เดินทวนกระแสได้ และไม่ไหลตามไปกับเขาอีกคนนะครับ เพราะเราเป็นคริสตชน เราจะต้องหลีกหนีบาป และไม่ยอมให้กับมันนะครับ... ขอพระเจ้าอวยพรอ่านพระคัมภีร์และช่วยกันกระทำความดีต่อไปนะครับ....

ฟป 1:18-26……..
พระคริสตเจ้าก็ทรงได้รับการประกาศแล้ว เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงมีความยินดี และจะยินดีต่อไป 19ข้าพเจ้ารู้ว่า สิ่งนี้จะทำให้ข้าพเจ้ารอดพ้น ด้วยคำอธิษฐานภาวนาของท่านทั้งหลายและด้วยความช่วยเหลือของพระจิตแห่งพระเยซูคริสตเจ้า 20ตามที่ข้าพเจ้ามุ่งมั่นรอคอยอย่างกระตือรือร้นและหวังว่า ข้าพเจ้าจะไม่อับอายเลย แต่จะพูดอย่างกล้าหาญว่า พระคริสตเจ้าจะทรงได้รับเกียรติในร่างกายของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ เหมือนกับในอดีต ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเป็นหรือตายก็ตาม 21ข้าพเจ้าคิดว่าการมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสตเจ้า และการตายก็เป็นกำไร 22หากการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นโอกาสให้ข้าพเจ้าทำงานได้ผลแล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะเลือกสิ่งใดดี 23ข้าพเจ้ารู้สึกลังเล คือปรารถนาจะพ้นจากชีวิตนี้ไปเพื่ออยู่กับพระคริสตเจ้า ซึ่งจะเป็นการดีกว่ามาก 24แต่การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปก็จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านทั้งหลาย 25เมื่อข้าพเจ้ามั่นใจเช่นนี้แล้วข้าพเจ้าก็รู้ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ต่อไปและอยู่เคียงข้างท่านทุกคน เพื่อช่วยให้ท่านก้าวหน้าและชื่นชมในความเชื่อ 26เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ภูมิใจพระคริสตเยซูยิ่งขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้กลับมาอยู่กับท่านอีกครั้งหนึ่ง
ตอบกลับโพส