++ เด็กคนนี้คือใคร ++

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 10:25 am

เด็กคนนี้คือใคร
โปรดปราน (พีพี)


คริสต์มาสหรือคริสตสมภพเป็นการเฉลิมฉลองของคนทั้งโลก ศาสนิกชนเกือบทุกศาสนา และเกือบทุกลัทธิ ความเชื่อ ก็ได้ร่วมเฉลิมฉลองคริสตสมภพ... แต่ฉันเคยฟังจากเพื่อนชาวยิว-อเมริกันคนหนึ่งว่าเขาเกลียดการฉลองคริสตสมภพและรู้สึกขมขื่นมาก ยิ่งสมัยเขาเป็นนักเรียนโรงเรียนปิดในโอกาสคริสต์มาสถึงสองสัปดาห์ ฉันได้สืบสาวไปถึงเหตุผลที่เขาเกลียดคริสต์มาส คำตอบจริงๆคือเพราะเขาไม่เชื่อว่า เมื่อกว่าสองพันปีมาแล้วมีเด็กชายคนหนึ่ง ประสูติโดยครรภ์ของหญิงพรหมจารีในโรงสัตว์ และพันผ้าอ้อมนอนในรางหญ้าอันต่ำต้อย ที่มนุษย์ชื่นชมยินดีและเฉลิมฉลองกันทั้งโลกว่าเด็กคนนั้นคือ “พระเมสสิยาห์” ตามที่พระเจ้าทรงสัญญาแก่ชาวยิว และเขายังรอคอยพระเมสสิยาห์ต่อไป
ผู้เขียนจึงขอนำผู้อ่านมาหาคำตอบเรื่องเด็กคนนี้ว่าเขาเป็นใคร ดังนี้

รูปภาพ

1.เด็กคนนี้คือของขวัญจากพระเจ้า ( ลูกา 2.1-7 )

คริสตสมภพเป็นการเฉลิมฉลองวันเกิดของเด็กชายคนหนึ่ง ที่พระเจ้าทรงประทานให้เป็นของขวัญแก่โลก ตามบันทึกในพระวรสารลูกา ว่า “ ในครั้งนั้น พระจักรพรรดิออกัสตัสได้ออกพระราชกฤษฎีกาสั่งให้มีการสำรวจสำมะโนประชากรทั่วจักรวรรดิโรมัน การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งแรกนี้มีขึ้นเมื่อคีรินีอัสเป็นผู้ว่าราชการแคว้นซีเรีย ทุกคนต่างไปลงทะเบียนในเมืองของตน
โยเซฟได้ออกเดินทางจากเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลีไปยังเมืองของกษัตริย์ดาวิดชื่อเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย เพราะโยเซฟสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด ท่านไปลงทะเบียนพร้อมกับพระนางมารีย์ ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ ขณะที่อยู่ที่นั่นก็ถึงกำหนดเวลาที่พระนางมารีย์จะมีพระประสูติกาล พระนางประสูติพระโอรสองค์แรก ทรงใช้ผ้าพันพระวรกายพระกุมารนั้น แล้วทรงวางไว้ในรางหญ้า เนื่องจากไม่มีที่ในห้องพักแรมเลย” (ลูกา 2.1-7 )

รูปภาพ

ข้อ7 “พระนางประสูติพระโอรสองค์แรก..” เป็นภาพของสาวน้อยพรหมจารี ที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายใด คลอดลูกชาย ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ ส่วนขบวนการคลอดคงไม่แตกต่างจากสตรีคนอื่นๆ คือ มีความเจ็บปวดครรภ์เป็นระยะๆ ทุกข์ทรมานมากมายก่อนที่ทารกจะออกมา และเมื่อเด็กคลอดออกมาแล้ว ความเจ็บปวดของมารดาก็หายอย่างปลิดทิ้ง เพราะสายเลือดที่อยู่ในครรภ์ของนางได้ลืมตาดูโลกแล้ว และสำหรับมารดามือใหม่อย่างมารีย์ทารกคนนี้ไม่ใช่ทารกธรรมดา ไม่ใช่จากสายเลือดของมนุษย์ ชาย-หญิง ที่ปฏิสนธิกัน แต่เป็นองค์พระจิตเจ้า ที่ทูตกาเบรียลได้บอกกับมารีย์จะตั้งครรภ์ “ (34) พระนางมารีย์จึงถามทูตสวรรค์ว่า "เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี" ( 35) ทูตสวรรค์ตอบว่า "พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้นบุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ และจะรับนามว่า บุตรของพระเจ้า” (ลก.1.34-35 ) ดังนั้นเมื่อครบกำหนดคลอด ทารกน้อยคนนี้ ก็เกิดในครอบครัวมนุษย์ธรรมดา ถูกคลอดในโรงสัตว์ รางหญ้าคือเปลนอน เขาจึงเป็นมนุษย์ธรรมดา ในสภาพทารกของมนุษย์ ก็ต้องการคนเลี้ยงดูอุ้มชู ให้เติบโต พัฒนาการเหมือน ทารกคนอื่นๆ ทารกคนนี้มีความหิว กระหาย ร้องไห้ ดูดนิ้ว กำมือ คืบ คลาน ตั้งไข่ เดิน ฝึกพูด ต้องการคำปลอบโยน ฯลฯ แน่นอนได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักของพ่อ-แม่ ทารกนี้เกิดในครอบครัวยากจน แต่เชื่อว่า พ่อ-แม่ อย่างโยเซฟและมารีย์ได้เลี้ยงดูสุดความสามารถ ที่ตัวเองสามารถให้กับลูก และคงทนุถนอมอย่างดีเพราะพวกเขารู้อยู่เต็มอกว่า ทารกคนนี้เป็นใคร เขาเป็นเด็กธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะพระเจ้าทรงมีพระประสงค์พิเศษที่ได้ส่งทารกคนนี้มาบังเกิดในโลก ตามคำพยากรณ์ และพระสัญญา
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ พุธ ธ.ค. 26, 2007 7:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 10:27 am

2.เด็กคนนี้คือพระผู้สร้าง (ยอห์น 1.1-3 )

รูปภาพ

พระวรสารนักบุญยอห์นได้กล่าวถึง พระผู้สร้างดังนี้ “ เมื่อแรกเริ่มนั้น พระวจนาตถ์ทรงดำรงอยู่แล้ว พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้า และพระวจนาตถ์ทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ประทับอยู่กับพระเจ้าแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอาศัยพระวจนาตถ์ ไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้าง โดยทางพระวจนาตถ์ ”
เด็กคนนี้ เป็นมากกว่าทารกธรรมดา นั่นคือ เขาเป็นพระผู้สร้าง ซึ่งท่านยอห์นได้สะท้อนจากปฐมกาล “ในปฐมกาลพระเจ้าทรงสร้างสวรรค์และโลก..” ก่อนการสร้างโลก เด็กคนนี้ดำรงอยู่เพราะเขาคือพระวจนาตถ์ พระวจนาตถ์ทรงเป็นพระเจ้า “พระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ และมาประทับอยู่ท่ามกลางเราเราได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ เป็นพระสิริรุ่งโรจน์ที่ทรงมีจากพระบิดา ในฐานะพระบุตรเพียงพระองค์เดียว เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและความจริง” (ข้อ 14 ) พระวจนาตถ์คือพระเยซู พระเยซูทรงอยู่กับพระเจ้ามาตั้งแต่ต้น พระเยซูคือพระเจ้าทรงลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ มีเนื้อหนัง มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ ทรงเป็น อิมมานูเอล (พระเจ้าสถิตกับเรา )พระเยซูทรงเป็นพระผู้สร้าง ดังนั้นเด็กคนนี้คือ “พระผู้สร้าง” แต่ยิ่งกว่านั้น ทารกคนนี้คือ “พระผู้ไถ่” เขาเกิดมาเพื่อช่วยคนบาปให้กลับคืนดีกับพระเจ้า เขาเป็นมหาปุโรหิตหลวง เพราะเขาคือคนกลางระหว่างมนุษย์กับองค์พระผู้เป็นเจ้า


3.เด็กคนนี้คือ พระผู้ไถ่(ลูกา 2.8-12 )


หลังจากมนุษย์คู่แรกได้ทำบาปเพราะการไม่เชื่อฟังได้ตกมาตรฐานของพระเจ้า ความบาปนำไปสู่ความตายทั้งฝ่ายกายและวิญญาณจิต จึงทำให้สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าถูกตัดไป ด้วยความรักของพระเจ้าที่ไม่ยอมให้มนุษย์หลุดไปจากพระอาณาจักรของพระองค์ ดังนั้นพระเจ้าทรงส่งพระบุตรองค์เดียวลงมาเพื่อช่วยไถ่กู้มนุษย์ให้รอด เด็กคนนี้จึงเกิดมา ดังพระวรสารน.ลูกาว่า “ ในบริเวณนั้นมีคนเลี้ยงแกะกลุ่มหนึ่งอยู่กลางแจ้ง กำลังเฝ้าฝูงแกะในยามกลางคืน ทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้าได้ปรากฏองค์ต่อหน้าเขา และพระสิริของพระเจ้าก็ส่องแสงรอบตัวเขา คนเลี้ยงแกะมีความกลัวอย่างยิ่ง แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่เขาว่า "อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมาบอกท่านทั้งหลาย เป็นข่าวดีที่จะทำให้ประชาชนทุกคนยินดีอย่างยิ่ง วันนี้ในเมืองของกษัตริย์ดาวิด พระผู้ไถ่ประสูติเพื่อท่านแล้ว พระองค์คือพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะรู้จักพระองค์ได้จากเครื่องหมายนี้ ท่านจะพบกุมารคนหนึ่ง มีผ้าพันกายนอนอยู่ในรางหญ้า" (ลูกา 2.8-12 )

รูปภาพ

คาดว่าคนเลี้ยงแกะคงตกใจมาก ที่จู่ๆมีทูตของพระเจ้าปรากฏ และประกาศว่าตัวเองนำข่าวดีมาบอก ข่าวดีนั้น คือ พระผู้ไถ่ ประสูติที่เมืองดาวิด หมายสำคัญคือ พบกุมาร (ทารกเพศชาย) พันผ้าอ้อมนอนในรางหญ้า สภาพของการถือกำเนิดของพระผู้ไถ่ ช่างต่ำต้อยจริงๆ ความต่ำต้อยของพระองค์คือการวางแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ “การถ่อม” พระเจ้าทรงถ่อมตัวลงมาเกิดในสภาพที่ต่ำต้อย ในครอบครัวช่างไม้ยากจน ทูตสวรรค์บอกกับคนเลี้ยงแกะว่านี่คือข่าวดี การถ่อมของพระองค์เพื่อแบกบาปผิดของเรา นักบุญเปโตรยืนยันว่า “พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม ด้วยบาดแผลของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย” (1ปต.2.24 ) ทรงรับการแบกบาป นั่นคือ ความตายบนไม้กางเขน ที่เด็กคนนี้จะกระทำในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ทารกคนนี้ไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อทำความดี หรือเพื่อเป็นบรมครูสอน หรือเพื่อเป็นหมอรักษาโรค หรือเพื่อทำการอัศจรรย์มากมาย แต่เด็กคนนี้ได้ถือกำเนิดมาเพื่อรับความทุกข์ทรมานจากใส่ร้ายป้ายสีของเพื่อนร่วมชาติ จากการถูกปฏิเสธในสิ่งที่เขายืนยัน เขาเติบโตขึ้นมาเพื่อ ทำหน้าที่ที่สำคัญที่สุด ที่พระเจ้าทรงมอบไว้ที่เขาคือ การตายอย่างทรมาน ต้องถูกใส่ร้าย ต้องถูกทรยศจากศิษย์ ต้องถูกเหยียดหยามจากทหารโรมัน ต้องถูกเฆี่ยนโบยตี ต้องถูกสวมด้วยหนามมงกุฎ ต้องถูกประจานโดยแบกกางเขนที่จะใช้ตรึงตัวเอง เด็กคนนี้คือ ผู้ที่ต้องตายเพื่อไถ่กู้มนุษยชาติ ความตายของเด็กคนนี้ทำให้ผู้ที่วางใจในเขาไม่พินาศแต่ได้รับชีวิตนิรันดร์ สามารถกลับคืนสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 2:07 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 10:30 am

4.เด็กคนนี้คือองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลัง ( กาลาเทีย 2.20 )

ทำไมคริสตชนถึงต้องประกาศพระบารมีของทารกคนนี้ ทั้งๆที่ถูกเยาะเย้ย ถูกเบียดเบียน บรรดาบรรพชนแห่งความเชื่อและมรณสักขีทั้งหลายยอมตายเพื่อยืนยันถึงเด็กคนนี้ ทั้งๆที่ส่วนใหญ่แต่ละคนไม่ได้มีชีวิตร่วมสมัยของเด็กคนนี้ นั่นเพราะพลังแห่งความศรัทธาในเด็กคนนี้ ซึ่งอัครทูตเปาโลยืนยันว่า “ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า”

รูปภาพ

เด็กคนนี้ได้ตายบนไม้กางเขนเพื่อชำระความผิดบาปของมนุษย์ แล้วได้คืนชีพวันที่สาม ทรงพลังมีชัยชนะเหนือความตาย บัดนี้เด็กคนนี้คือองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลัง พระองค์ทรงประทานสิทธิเหล่านั้นให้กับเราผู้เชื่อในพระองค์ ทุกคนเช่นกัน ดังนั้นเป็นหน้าที่ของเราผู้เชื่อในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน เพราะว่าพระเยซูไม่ได้ช่วยให้เรารอดจากบาปผิด/ยกโทษให้อภัยบาปผิด ที่ทำให้เราสามารถกลับไปคืนดีกับพระเจ้า แต่พระองค์ประทับอยู่ในชีวิตผู้เชื่อ ประทับอยู่ในใจ ทรงเป็นผู้เสริมกำลัง ทรงเป็นผู้ทำให้เราต่อสู้ หรือการดำเนินชีวิต ให้เราหลุดพ้นจากอำนาจความหวาดกลัวต่างๆ ให้มีชีวิตที่ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เพราะเขาได้สัญญาว่าจะอยู่กับเราตลอดไป "...พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราได้ให้แก่ท่าน แล้วจงทราบเถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ.28.18-20 )


5.เด็กคนนี้คือผู้ที่จะกลับมาอย่างจอมกษัตริย์ ( ดู วิวรณ์ 19.11-16 )

เรื่องราวของเด็กคนนี้ที่ถูกประกาศมากว่าสองพันปี ยังไม่จบสิ้น ตั้งแต่แรกเกิดเป็นทารก เติบโตเที่ยวสั่งสอน รักษาโรคและป่าวประกาศเกี่ยวกับพระอาณาจักรของพระเจ้า จนถูกตรึงเพื่อประหารอย่างทุกข์ทรมาน การกลับคืนชีพในวันที่สาม เพื่อยืนยันความเป็นพระเจ้าที่มีชัยชนะอำนาจของความตาย และทรงยืนยันว่าพระองค์จะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคนในแต่ละยุครอคอยการกลับมาครั้งที่สอง “พระองค์ทรงมีพระนามจารึกที่ฉลองพระองค์ และที่ต้นพระอูรุของพระองค์ว่า “จอมกษัตริย์และจอมเจ้านาย” (ข้อ 16 ) เด็กคนนี้คือใคร พระนามที่เรียกคือ “พระวจนาตถ์ของพระเจ้า” (ข้อ 13 ) ในพระวรสารนักบุญยอห์นอธิบายถึงเด็กคนนี้คือผู้ไถ่กู้ แต่พระวจนาตถ์ในวิวรณ์บอกถึงฤทธิ์อำนาจ พระสง่าราศี ได้เห็นอำนาจในข้อ 11 “แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นสวรรค์เปิดออก และ ดูเถิด มีม้าขาวตัวหนึ่ง พระองค์ผู้ทรงม้านั้นมีพระนามว่า 'สัตย์ซื่อและสัตย์จริง' พระองค์พิพากษาและทรงกระทำสงครามด้วยความเป็นธรรม” เด็กคนนี้จะมาเป็นผู้พิพากษา สายตาของ เด็กคนนี้ที่เคยมองพระมารดามารีย์ ด้วยความรัก ห่วงใย ชื่นชม และขอบคุณ สายตานี้เคยร้องไห้สงสารเยรูซาเล็ม บัดนี้สายตาคู่นี้ เต็มไปด้วยเปลวเพลิง มีอำนาจเผาผลาญ ทำลายล้าง ให้ทุกสิ่งมอดไหม้กลายเป็นจุนไปชั่วพริบตา การทำลายล้างของเด็กคนนี้ เรียกว่าการพิพากษาลงโทษ ลงโทษอะไร “ความผิดบาป”เพราะค่าจ้างของความบาปคือความตาย การพิพากษาลงโทษนั้นเพราะความผิดบาปของโลกนี้ที่ทำให้พระพิโรธ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังในสวรรค์เหมือนเสียงของประชาชนจำนวนมากร้องว่า “(1) อัลเลลูยา ความรอดพ้น พระสิริรุ่งโรจน์ พระอานุภาพเป็นของพระเจ้าของเรา (2) เพราะพระองค์ทรงพิพากษาอย่างสัตย์จริงและยุติธรรม พระองค์ทรงพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาผู้เลวร้าย ซึ่งล่วงประเวณี ทำให้แผ่นดินเสื่อมทราม พระองค์ทรงล้างแค้นแทนโลหิตของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งนางได้ประหาร” (3) เสียงนั้นยังร้องอีกว่า “อัลเลลูยา ควันไฟจากนครนั้นจะพลุ่งขึ้นตลอดนิรันดร” (4) บรรดาผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนและผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนกราบนมัสการพระเจ้าผู้ประทับบนพระบัลลังก์ พูดว่า “อาเมน อัลเลลูยา” (5) เสียงหนึ่งดังมาจากพระบัลลังก์ว่า “จงสรรเสริญพระเจ้าของเราเถิด ท่านทั้งหลายผู้รับใช้ของพระองค์ ท่านทั้งหลายทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย ผู้ยำเกรงพระองค์” (6) แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงเหมือนเสียงประชาชนจำนวนมาก เหมือนเสียงน้ำไหลเชี่ยวเหมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้องว่า “อัลเลลูยา องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงครองราชย์แล้ว (7) เราจงชื่นชมและร่าเริงเถิด เราจงถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะงานวิวาห์มงคลของลูกแกะมาถึงแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์เตรียมพร้อมแล้ว” (วิวรณ์ 19.1-7 )

รูปภาพ

เป็นภาพอันน่าชื่นชมยินดีเพราะบรรดาผู้ที่เชื่อ และวางใจในเด็กน้อยที่เกิดในโรงสัตว์คนนี้ จะได้รับมรดกตามพระสัญญา “ เธอได้รับเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียดสีขาวสุกใสเพื่อสวมใส่ ผ้าป่านเนื้อละเอียดนี้คือกิจการดีของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์” ( ข้อ 8 )

ปีแล้วปีเล่าที่ท่านร่วมเฉลิมฉลองวันเกิดของเด็กชายคนนี้ ท่านได้รับความเข้าใจ และ ได้รับความอิ่มเอมอย่างไร เมื่อท่านคุกเข่าก้มจุมพิตพระบาทเด็กน้อยคนนี้ ท่านได้รับคำตอบอย่างไร

******************************************

หมายเหตุ: ตีพิมพ์ในอิสระรายปักษ์ ฉบับ ที่ 98 ปักษ์แรก-หลัง เดือน ธันวาคม 2007 หน้า 6-9

พี่โพสต์ที่พันทิปด้วย ค่ะ ใครมีอมยิ้มพันทิป ช่วยกดโหวตให้ที คนอื่นๆ จะได้อ่านด้วย :cheesy:

http://www.pantip.com/cafe/religious/to ... 58679.html
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ พุธ ธ.ค. 26, 2007 7:19 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 11:02 am

ขอบคุณมากครับพี่พีพี สำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาเสนอ ขอพระปกป้องและอวยพรพี่ตลอดไปครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 11:03 am

เช่นเดียวกันค่ะ น้องแก้ว ถึงเมืองไทยเมื่อไหร่ เจอกันค่ะ : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 5:41 pm

ขอบคุนสำหรับบทความค้ะ
เป็นการอ่านก่อนไปโบสมิซซาคริสมาสพรุ้งนี้
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2010 11:37 pm

เทศกาลรับเสด็จพระเยซูเจ้า อีกครั้งค่ะ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ธ.ค. 02, 2011 10:36 pm

ทบทวนคริสต์มาส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ธ.ค. 29, 2012 4:43 pm

ดึงขึ้นมาอีกครั้งค่ะ :s002:
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2014 10:06 pm

คิดว่าเวลาที่เเม่พระคลอด น่าจะเป็นวิถีที่เหนือธรรมชาติไหมค๊ะ เพราะการคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติน่าจะทำให้สูญเสียพรมจรรย์ และมีนักบุญท่านหนึ่งได้เห็นนิมิตตอนคลอดพระเยซู แม่พระลอยขึ้น มีแสงเจิดจ้า สว่างไสว และ พระเยซู ก็อยู่บนพื้นถ้ำ
ตอบกลับโพส