Belong to the Truth Jesus Christ

การที่เรามีความรักเป็นสิ่งที่ดีมากๆ แต่เมื่อชายกับหญิงอยู่ใกล้กันมันก็ทำให้มีความรู้สึกต่อกัน มากหรือน้อยมันยากที่จะกำหนดได้ ในฐานะที่เราเป็นคริสตชนที่ต้องรักษาพระจิตเจ้าที่อยู่ในตัวเรา ในเร่ืองการรู้จักบังคับตน การจับมือ อ้อมกอดกอดที่อบอุ่น หรือการจุมพิตที่แสนหวาน ก็น่าจะเพียงพอแล้วหากยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ปัญหามันก็มีอยู่ตรงที่การรู้จักบังคับตนของตัวเองที่จะไม่ให้เกินเลยไปมากกว่านี้ ได้ดีแค่ไหน เพื่อนๆคนว่าไงกันบ้างครับ 

ความรัก ไม่อาจก่อบาปได้ครับ เพราะความรักเป็นสิ่งบริสุทธิ์

แต่เรารู้ความหมายที่แท้จริง ของความรัก รึเปล่าละครับ :rolleyes:

____________

ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง
ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ
ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง
ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง
(1โครินธ์ 13:4-7)

Love is all we have, the only way/ that each can help the other.

To be able to say how much you love is to love but little.

เราต้องรู้จักควบคุมและข่มใจบังคับอารมณ์ตนเอง
ทางที่ดีคือพูดคุยกันกะคนรักว่าเราเป็นคริสตชนน๊า
เราเกินเลยก่อนแต่งไม่ได้น๊า
ถ้าเค้ารักเรา เค้าต้องเข้าใจเราแน่นอน (ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมชื่นชมในความดี)
นู๋รี่ว่าไม่น่าจะเกินเลยเกินการจุ๊บส์ๆนะงับ
แต่แฟนนู๋รี่ก็เข้าใจน๊า(ลองไม่เข้าใจเด่ มันตายแน่)
แสดงความรักด้วยการด่า ตบหัว โดดเตะ
นู๋รี่ก็แสดงความรักด้วยการไซด์คิก บิดมือ จับทุ่ม จับกดลงไปกะพื้นเวลาแฟนไม่เชื่อฟัง 555+

ยังไงก็ตามก็ขอให้เราระลึกถึงพระเสมอทุกวินาที เพราะพระเจ้าคือองค์ความรักค่ะ

ผมเคยได้รับคำแนะนำจากคุณพ่อท่านหนึ่งว่า การกอดจูบ หรืออะไรๆนั้นอาจไม่ใช่บาป แต่เป็นสิ่งที่สามารถนำไปสู่บาปได้

ดังนั้น เราก็ละเว้นไม่ต้องทำมันจนกว่าจะแต่งงานก็ดีครับ

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เราสามารถมอบความรักให้กับเพื่อนร่วมโลกได้ แต่กับคนรัก เราควรที่จะให้เขาคนนั้นคนเดียวค่ะ

รักมันมีหลายๆเเบบน่ะค่ะ
กอด จูบ มันก็มีหลายๆเเบบเหมือนกัน

เช่น
โป๊ปกอด หรือ โป๊ปจุมพิต

มันย่อมเเตกต่างจาก
เเฟนกอด หรือ เเฟนจุมพิต

เป็นต้น
ดังนั้นเราจึงต้องดู ว่าถ้าทำเช่นนั้นเเล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าเกิดคิดว่าเราอาจจะปล่อยไปเลยตามเลย ก็อย่าทำดีกว่า
การมอบความรักมันมีอีกหลายวิธี....ค่ะ

บทเรียนก่อนวิวาห์

ช. ใกล้ถึงวันวิวาห์แล้วหนา ยอดดวงใจ
ญ. หวั่นไม่หาย น้องหวั่นไม่หายพี่เอย
ช. เจ้าจะหวั่นอะไร ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย
ญ. โธ่ พี่เอ๋ยก็ไม่เคยยังกลัวใจ
ช. วิวาห์พาชื่นกมลอย่ากังวลเลยน้องเอย แม้เจ้าไม่เคยจะเฉลยไม้รู้นัย
ญ. ไหนลองบอกหน่อยเป็นไร
ช. หันมาใกล้ ๆ หน่อยซิแล้วใยน้องพี่เมินเฉย
ญ. น้องกลัวจะมาเกินเลย
ช. แม้ฟังเพียงเอ่ยไฉนจะรู้    ญ. งั้นทำไงเล่าพ่อคนเจ้าชู้
ช. ตามใจครูเป็นไร     ญ. ก็ครูคอยคิดไม่ซื่อ
ช. พุทโธ่ จะถือทำไม     ญ. จมูกอย่าหันมาใกล้
ช. เอ็ดไปเฉยไว้คนดี     ญ.อุ๊ย เบื่อเหลือใจ ขาดทุนร่ำไปทุกที
ช. แม้นอยากรู้ดีก็ควรต้องมียกครู   ญ.เอากำไรเรื่อยไป ฮึ ว่าอย่างไรก็ไม่ฟัง
ช. โธ่ อย่าทำตึงตัง หอมแก้มอีกข้างเถอะโฉมตรู  ญ. ไม่เอานะ
ช. นิดเดียวน่า      ญ. ไม่เอาน่า
ช. นิดเดียวน่า      ญ. ก็จะบอกเรื่องวิวาห์
ช. เดี๋ยวเถิดหนาจงเชื่อครู    ญ. อุ๊ย พอนะ
ช. ประเดี๋ยวซี่      ญ. ฮึ พอน่า
ช. ประเดี๋ยวซี่      ญ. อีกเมื่อไหร่จะรู้ดี
ช. หอมอีกทีเถิดแก้วตา    ญ. โธ่ จะช้ำ
ช. ช่างประไร พี่สอนให้ต้องตามตำรา   ญ. ก็เร็วซิ
ช. ประเดี๋ยวซี่      ญ. เร็ว ๆ ซี่
ช. ประเดี๋ยวซี่      ญ. กว่าจะบอกสักทีน้องเหลือที่จะระอา
ช. จะฟังรึ  ญ. ก็ฟังน่ะซี่  ช. ฟังนะ  ญ. ก็ฟังน่ะซี่
ช. พี่จะบอกวิธี อย่างนี้แหละเริ่มวิวาห์   ญ. อ๋อ กอดกันนิด
ช. จ๊ะ จูบอีกหน่อย จูบฝังรอยรักเป็นพิมพ์ใจ  ญ. ไหนบอกอีกนิด
ช. โอ๊ะ บอกไม่ได้ อดหัวใจไว้รอวันวิวาห์

กำลังนั่งฟังในคอมฯ อยู่พอดี ประทับใจประโยคสุดท้ายที่ผู้ชายพูด อดหัวใจไว้รอวันวิวาห์

Holy เขียน: ผมเคยได้รับคำแนะนำจากคุณพ่อท่านหนึ่งว่า การกอดจูบ หรืออะไรๆนั้นอาจไม่ใช่บาป แต่เป็นสิ่งที่สามารถนำไปสู่บาปได้

ดังนั้น เราก็ละเว้นไม่ต้องทำมันจนกว่าจะแต่งงานก็ดีครับ

เห็นด้วย อย่างยิ่งกับพี่โฮลี่ คร้าบ :cheesy: