บทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน มิสซาวันอาทิตย์
วันอาทิตย์ที่ 20 ของเทศกาลธรรมดา 20 สิงหาคม 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของสังฆานุกรแทรี่ ( Deacon Terry) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 56:1, 6-7
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ จงรักษาความถูกต้องและปฏิบัติความชอบธรรม เพราะความรอดพ้นของเราเข้ามาใกล้แล้ว และความเที่ยงธรรมของเรากำลังจะถูกเปิดเผย บรรดาชนต่างชาติที่ยึดมั่นต่อพระยาห์เวห์ เพื่อรับใช้พระองค์และรักพระนามพระยาห์เวห์ และเป็นผู้รับใช้พระองค์ ทุกคนที่รักษาวันสะบาโต มิได้ทำให้เป็นมลทิน และยึดมั่นพันธสัญญาของเราไว้ เราจะนำเขาไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา จะทำให้เขามีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยม ในบ้านของเรา เพื่อการอธิษฐานภาวนา เครื่องเผาบูชาและสักการบูชาของเขา จะเป็นที่โปรดปรานบนแท่นบูชาของเราเพราะบ้านของเราจะได้ชื่อว่า “บ้านสำหรับประชากรทั้งหลายเพื่อการอธิษฐานภาวนา”
บทอ่านที่สอง โรม 11:13-15, 29-32
ข้าพเจ้าขอพูดกับพวกท่านที่เป็นคนต่างชาติว่า ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นธรรมทูตมายังชนต่างชาติ ข้าพเจ้ามีความภาคภูมิใจในศาสนบริการนี้ โดยหวังจะยั่วยุพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าให้เกิดความอิจฉา และดังนี้ก็จะช่วยพวกเขาบางคนให้รอดพ้นได้
เพราะการที่พระเจ้าทรงทอดทิ้งพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าเป็นเหตุให้มนุษยโลกกลับคืนดีกับพระองค์ การที่พระองค์ทรงรับพวกเขากลับมาอีกเป็นสิ่งใด ถ้าไม่ใช่เป็นชีวิตที่คืนมาจากบรรดาผู้ตาย ทั้งนี้ เพราะพระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนพระทัยเพิกถอนทั้งของประทานที่ทรงให้เปล่าและพระกระแสเรียกของพระองค์ ท่านทั้งหลายเคยไม่เชื่อฟังพระเจ้า แต่บัดนี้ได้รับพระกรุณาเพราะชาวอิสราเอลมิได้เชื่อฟังฉันใด บัดนี้ชาวอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระเจ้า แต่ในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับพระกรุณา ดังที่ได้ทรงแสดงพระกรุณาต่อท่านฉันนั้น เพราะพระเจ้าทรงปล่อยให้มนุษย์ทุกคนไม่เชื่อฟังพระองค์ เพื่อจะได้แสดงพระกรุณา
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 15:21-28
พระเยซูเจ้าเสด็จจากที่นั่น มุ่งไปเขตเมืองไทระและเมืองไซดอน ทันใดนั้น หญิงชาวคานาอันคนหนึ่งจากเขตแดนนี้ ร้องว่า “โอรสกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วยเถิด บุตรสาวของข้าพเจ้าถูกปีศาจสิงต้องทรมานมาก” แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบประการใด บรรดาศิษย์จึงเข้ามาทูลพระองค์ว่า “โปรดประทานตามที่นางทูลขอเถิด เพราะนางร้องตะโกนตามหลังพวกเรามา” พระองค์ทรงตอบว่า “เราถูกส่งมาเพื่อแกะที่พลัดหลงของวงศ์วานอิสราเอลเท่านั้น” แต่นางเข้ามากราบพระองค์ทูลว่า “พระเจ้าข้า โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด” พระองค์ทรงตอบว่า “ไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูก มาโยนให้ลูกสุนัขกิน” นางทูลว่า “ถูกแล้วพระเจ้าข้า แต่แม้แต่ลูกสุนัขก็ยังได้กินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของนาย” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย ความเชื่อของเจ้ายิ่งใหญ่ จงเป็นไปตามที่เจ้าปรารถนาเถิด” และบุตรหญิงของนางก็หายเป็นปกติตั้งแต่บัดนั้น
สังฆานุกรแทรี่ ( อดีตอาจารย์ใหญ่): ผมเป็นอดีตอาจารย์ติดนิสัยที่ต้องทบทวนบทเรียนอาทิตย์ที่แล้วก่อนจะเริ่มบทเรียนอาทิตย์ใหม่ มีใครจําได้บ้างว่าพระวรสารวันอาทิตย์ที่แล้วได้กล่าวถึงอะไร?
ลูกวัด: สงบนิ่งเพราะจําไม่ได้ ในที่สุดก็มีคนหนึ่งเอ่ยแบบแผ่วเบาว่า " นักบุญโปโตรจะจมนํ้า"
สังฆานุกรแทรี่: ดีมากครับ พระวรสารวันนี้ขัดแย้งกับพระวรสารอาทิตย์ที่แล้วในเรื่องความเชื่อ นักบุญโปโตร ตอนแรกเชื่อในพระเยซูเจ้า เดินบน นํ้าไปหาพระองค์ได้แต่เมื่อเห็นคลื่นลมแรงก็เสียความเชื่อ และพระองค์ตรัสว่า "ท่านช่างมีความเชื่อน้อย สงสัยทําไมเล่า" ผิดกับหญิงชาวคานาอันที่มีความเชื่อในพระองค์ นางรู้ว่าพระองค์คือพระเป็นเจ้า ให้เกียรติเรียกพระองค์ว่าโอรสกษัตริย์ดาวิด แม้ว่านางเป็นคนต่างเผ่าและไม่ถูกกันกับเชื้อสายชาวอิสราเอลเช่นพระองค์ เมื่อพระองค์นิ่งไม่ตอบ นางก็มีความเพียร ขอต่ออีก เมื่อพระองค์ทรงบอกว่า พระองค์ทรงมาเพื่อช่วยชาวอิสราเอลเท่านั้น ไม่สมควรจะให้อาหารของลูกมาให้สุนัขกิน นางตอบว่าแม้แต่สุนัขก็ยังได้กินอาหารที่ตกจากโต๊ะนาย พระองค์ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย ความเชื่อของเจ้ายิ่งใหญ่ จงเป็นไปตามที่เจ้าปรารถนาเถิด” และบุตรหญิงของนางก็หายเป็นปกติตั้งแต่บัดนั้น
มีกี่ครั้งที่เราสวดขอพระเป็นเจ้าให้ทรงช่วย เมื่อพระองค์นิ่งเฉย เราก็เลิกสวด มีกี่ครั้งที่พวกเราไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเพราะเรา" เหนื่อยชากับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่"
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 56:1, 6-7
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ จงรักษาความถูกต้องและปฏิบัติความชอบธรรม เพราะความรอดพ้นของเราเข้ามาใกล้แล้ว และความเที่ยงธรรมของเรากำลังจะถูกเปิดเผย บรรดาชนต่างชาติที่ยึดมั่นต่อพระยาห์เวห์ เพื่อรับใช้พระองค์และรักพระนามพระยาห์เวห์ และเป็นผู้รับใช้พระองค์ ทุกคนที่รักษาวันสะบาโต มิได้ทำให้เป็นมลทิน และยึดมั่นพันธสัญญาของเราไว้ เราจะนำเขาไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา จะทำให้เขามีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยม ในบ้านของเรา เพื่อการอธิษฐานภาวนา เครื่องเผาบูชาและสักการบูชาของเขา จะเป็นที่โปรดปรานบนแท่นบูชาของเราเพราะบ้านของเราจะได้ชื่อว่า “บ้านสำหรับประชากรทั้งหลายเพื่อการอธิษฐานภาวนา”
บทอ่านที่สอง โรม 11:13-15, 29-32
ข้าพเจ้าขอพูดกับพวกท่านที่เป็นคนต่างชาติว่า ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นธรรมทูตมายังชนต่างชาติ ข้าพเจ้ามีความภาคภูมิใจในศาสนบริการนี้ โดยหวังจะยั่วยุพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าให้เกิดความอิจฉา และดังนี้ก็จะช่วยพวกเขาบางคนให้รอดพ้นได้
เพราะการที่พระเจ้าทรงทอดทิ้งพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าเป็นเหตุให้มนุษยโลกกลับคืนดีกับพระองค์ การที่พระองค์ทรงรับพวกเขากลับมาอีกเป็นสิ่งใด ถ้าไม่ใช่เป็นชีวิตที่คืนมาจากบรรดาผู้ตาย ทั้งนี้ เพราะพระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนพระทัยเพิกถอนทั้งของประทานที่ทรงให้เปล่าและพระกระแสเรียกของพระองค์ ท่านทั้งหลายเคยไม่เชื่อฟังพระเจ้า แต่บัดนี้ได้รับพระกรุณาเพราะชาวอิสราเอลมิได้เชื่อฟังฉันใด บัดนี้ชาวอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระเจ้า แต่ในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับพระกรุณา ดังที่ได้ทรงแสดงพระกรุณาต่อท่านฉันนั้น เพราะพระเจ้าทรงปล่อยให้มนุษย์ทุกคนไม่เชื่อฟังพระองค์ เพื่อจะได้แสดงพระกรุณา
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 15:21-28
พระเยซูเจ้าเสด็จจากที่นั่น มุ่งไปเขตเมืองไทระและเมืองไซดอน ทันใดนั้น หญิงชาวคานาอันคนหนึ่งจากเขตแดนนี้ ร้องว่า “โอรสกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วยเถิด บุตรสาวของข้าพเจ้าถูกปีศาจสิงต้องทรมานมาก” แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบประการใด บรรดาศิษย์จึงเข้ามาทูลพระองค์ว่า “โปรดประทานตามที่นางทูลขอเถิด เพราะนางร้องตะโกนตามหลังพวกเรามา” พระองค์ทรงตอบว่า “เราถูกส่งมาเพื่อแกะที่พลัดหลงของวงศ์วานอิสราเอลเท่านั้น” แต่นางเข้ามากราบพระองค์ทูลว่า “พระเจ้าข้า โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด” พระองค์ทรงตอบว่า “ไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูก มาโยนให้ลูกสุนัขกิน” นางทูลว่า “ถูกแล้วพระเจ้าข้า แต่แม้แต่ลูกสุนัขก็ยังได้กินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของนาย” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย ความเชื่อของเจ้ายิ่งใหญ่ จงเป็นไปตามที่เจ้าปรารถนาเถิด” และบุตรหญิงของนางก็หายเป็นปกติตั้งแต่บัดนั้น
สังฆานุกรแทรี่ ( อดีตอาจารย์ใหญ่): ผมเป็นอดีตอาจารย์ติดนิสัยที่ต้องทบทวนบทเรียนอาทิตย์ที่แล้วก่อนจะเริ่มบทเรียนอาทิตย์ใหม่ มีใครจําได้บ้างว่าพระวรสารวันอาทิตย์ที่แล้วได้กล่าวถึงอะไร?
ลูกวัด: สงบนิ่งเพราะจําไม่ได้ ในที่สุดก็มีคนหนึ่งเอ่ยแบบแผ่วเบาว่า " นักบุญโปโตรจะจมนํ้า"
สังฆานุกรแทรี่: ดีมากครับ พระวรสารวันนี้ขัดแย้งกับพระวรสารอาทิตย์ที่แล้วในเรื่องความเชื่อ นักบุญโปโตร ตอนแรกเชื่อในพระเยซูเจ้า เดินบน นํ้าไปหาพระองค์ได้แต่เมื่อเห็นคลื่นลมแรงก็เสียความเชื่อ และพระองค์ตรัสว่า "ท่านช่างมีความเชื่อน้อย สงสัยทําไมเล่า" ผิดกับหญิงชาวคานาอันที่มีความเชื่อในพระองค์ นางรู้ว่าพระองค์คือพระเป็นเจ้า ให้เกียรติเรียกพระองค์ว่าโอรสกษัตริย์ดาวิด แม้ว่านางเป็นคนต่างเผ่าและไม่ถูกกันกับเชื้อสายชาวอิสราเอลเช่นพระองค์ เมื่อพระองค์นิ่งไม่ตอบ นางก็มีความเพียร ขอต่ออีก เมื่อพระองค์ทรงบอกว่า พระองค์ทรงมาเพื่อช่วยชาวอิสราเอลเท่านั้น ไม่สมควรจะให้อาหารของลูกมาให้สุนัขกิน นางตอบว่าแม้แต่สุนัขก็ยังได้กินอาหารที่ตกจากโต๊ะนาย พระองค์ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย ความเชื่อของเจ้ายิ่งใหญ่ จงเป็นไปตามที่เจ้าปรารถนาเถิด” และบุตรหญิงของนางก็หายเป็นปกติตั้งแต่บัดนั้น
มีกี่ครั้งที่เราสวดขอพระเป็นเจ้าให้ทรงช่วย เมื่อพระองค์นิ่งเฉย เราก็เลิกสวด มีกี่ครั้งที่พวกเราไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเพราะเรา" เหนื่อยชากับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่"
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 21 ของเทศกาลธรรมดา 27 สิงหาคม 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ ( Father Clement) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 22:19-23
เราจะถอดท่านจากหน้าที่ และจะดึงท่านลงมาจากตำแหน่ง วันนั้น เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรา เอลียาคิม บุตรของฮิลคียาห์ เราจะให้เขาสวมเสื้อของท่าน ให้เขาคาดผ้าคาดสะเอวของท่าน เราจะมอบอำนาจของท่านไว้ในมือของเขา เขาจะเป็นดังบิดาของชาวกรุงเยรูซาเล็ม และของพงศ์พันธุ์ยูดาห์ เราจะวางกุญแจพระราชวังของกษัตริย์ดาวิดไว้บนบ่าของเขา ถ้าเขาเปิด จะไม่มีผู้ใดปิด ถ้าเขาปิด จะไม่มีผู้ใดเปิดได้ เราจะทำให้ตำแหน่งของเขามั่นคง เหมือนตอกหมุดไว้ในที่มั่นคง และเขาจะเป็นเหมือนบัลลังก์มีเกียรติแห่งครอบครัวบิดาของเขา
บทอ่านที่สอง โรม 11:33-36
พระเจ้าทรงพระปรีชาและทรงรอบรู้ลึกล้ำเพียงใด คำตัดสินของพระองค์สุดที่จะหยั่งรู้ได้ และมรรคาของพระองค์สุดที่จะเข้าใจได้ ใครเล่าจะล่วงรู้พระดำริขององค์พระผู้เป็นเจ้า ใครเล่าเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ ใครเล่าเคยถวายสิ่งใดแด่พระองค์ พระองค์จึงจะต้องประทานตอบแทนเขา เพราะทุกสิ่งล้วนมาจากพระองค์ โดยทางพระองค์และเพื่อพระองค์ ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระองค์ตลอดนิรันดร อาเมน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 16: 13-20
พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเขตเมืองซีซารียาแห่งฟีลิปและตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร” เขาทูลตอบว่า “บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเอลียาห์ บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์หรือประกาศกองค์ใดองค์หนึ่ง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร”
ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านเป็นศิลา และบนศิลานี้ เราจะสร้างพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” แล้วพระองค์ทรงกำชับบรรดาศิษย์มิให้บอกใครว่า พระองค์คือพระคริสตเจ้า
ผู้อ่านบทอ่านที่หนึ่งและที่สอง: เป็นชายอายุประมาน 60 กว่าปี แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ยืนสํารวมจิตตั้งสมาธิแล้วสายตากวาดมองทุกคน เริ่มเอ่ยพูดบทอ่านแบบไม่มองบทอ่าน เสียงดังฟังชัดทุกถ้อยคำ ไม่ผิดเพี้ยนจากบทอ่าน สาธุชนตะลึง นิ่งเงียบ ตั้งใจฟังทั้งวัด ทึ่งในความทรงจําเหมือนกล้องจับภาพ ( photographic memory) หลังมิสซาจบ ผมและภรรยาเอ่ยชมว่ามีพระพรของความทรงจําพิเศษ เรียกร้องความสนใจของพวกเราทุกคน ผมบอกสุภาพบุรุษผู้นั้นว่า เขาเป็นบุคคลที่สองของผู้อ่านในมิสซาที่มีความทรงจําเหมือนกับกล้องจับภาพ ที่เป็นลูกวัดนักบุญยอห์น อัครสาวกและผู้แพร่ธรรมที่เมืองมิลิลานี่ รัฐฮาวาย ( Saint John Apostle and Evangelist, Mililani, Hawaii) ที่ผมและภรรยาเป็นลูกวัดร่วมสามปี เขาน้อมรับคําชมด้วยความถ่อมตัว แล้วเราก็กล่าวคำอําลา แยกตัวออกจากวัด
คุณพ่อเคลเมนท์: พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ก่อตั้งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกของเรา นักบุญโปโตรและอัครสาวกสืบต่อเนื่องจากพระองค์มาตลอดกว่าสองพันปี จงมีความภาคภูมิใจในความจริงอันนี้ จงถามตัวเองว่า "ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร” ความเชื่อของเราไม่ใช่ของพระสันตะปาปา พระสังฆราช พระสงฆ์ เป็นความเชื่อของพระเยซูเจ้าที่ทรงเชิญเราให้มีความสัมพันธ์กับพระองค์ด้วยความเชื่อ ความรัก ความนอบน้อม ความเป็นเพื่อนกัน และทําพระประสงค์ของพระองค์ ไม่ใช่ของเรา
ในความสัมพันธ์นี้ เรามีหน้าที่ของการประกาศข่าวดีของพระองค์ให้กับผู้อื่น ให้ผู้อื่นเป็นสานุศิษย์ของพระองค์เช่นกัน เป็นข้อผูกมัดเมื่อเรารับศีลล้างบาป ไม่ใช่ปล่อยให้พระสันตะปาปา พระสังฆราช พระสงฆ์ ซิสเตอร์ นักบวชชายหญิงทํากันเท่านั้น
คุณพ่อหยุดเทศน์ มองหน้าพวกเรา แล้วกล่าวว่าเมื่อพระสังฆราชส่งพ่อมาที่วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์นี้ ท่านบอกพ่อ: อย่าเป็นนักธุรกิจ จงเป็นผู้ช่วยวิญญาณให้รอดพ้น
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด เสียงกระหึ่มดังลั่น: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด สนั่นลั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 22:19-23
เราจะถอดท่านจากหน้าที่ และจะดึงท่านลงมาจากตำแหน่ง วันนั้น เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรา เอลียาคิม บุตรของฮิลคียาห์ เราจะให้เขาสวมเสื้อของท่าน ให้เขาคาดผ้าคาดสะเอวของท่าน เราจะมอบอำนาจของท่านไว้ในมือของเขา เขาจะเป็นดังบิดาของชาวกรุงเยรูซาเล็ม และของพงศ์พันธุ์ยูดาห์ เราจะวางกุญแจพระราชวังของกษัตริย์ดาวิดไว้บนบ่าของเขา ถ้าเขาเปิด จะไม่มีผู้ใดปิด ถ้าเขาปิด จะไม่มีผู้ใดเปิดได้ เราจะทำให้ตำแหน่งของเขามั่นคง เหมือนตอกหมุดไว้ในที่มั่นคง และเขาจะเป็นเหมือนบัลลังก์มีเกียรติแห่งครอบครัวบิดาของเขา
บทอ่านที่สอง โรม 11:33-36
พระเจ้าทรงพระปรีชาและทรงรอบรู้ลึกล้ำเพียงใด คำตัดสินของพระองค์สุดที่จะหยั่งรู้ได้ และมรรคาของพระองค์สุดที่จะเข้าใจได้ ใครเล่าจะล่วงรู้พระดำริขององค์พระผู้เป็นเจ้า ใครเล่าเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ ใครเล่าเคยถวายสิ่งใดแด่พระองค์ พระองค์จึงจะต้องประทานตอบแทนเขา เพราะทุกสิ่งล้วนมาจากพระองค์ โดยทางพระองค์และเพื่อพระองค์ ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระองค์ตลอดนิรันดร อาเมน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 16: 13-20
พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเขตเมืองซีซารียาแห่งฟีลิปและตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร” เขาทูลตอบว่า “บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเอลียาห์ บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์หรือประกาศกองค์ใดองค์หนึ่ง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร”
ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านเป็นศิลา และบนศิลานี้ เราจะสร้างพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” แล้วพระองค์ทรงกำชับบรรดาศิษย์มิให้บอกใครว่า พระองค์คือพระคริสตเจ้า
ผู้อ่านบทอ่านที่หนึ่งและที่สอง: เป็นชายอายุประมาน 60 กว่าปี แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ยืนสํารวมจิตตั้งสมาธิแล้วสายตากวาดมองทุกคน เริ่มเอ่ยพูดบทอ่านแบบไม่มองบทอ่าน เสียงดังฟังชัดทุกถ้อยคำ ไม่ผิดเพี้ยนจากบทอ่าน สาธุชนตะลึง นิ่งเงียบ ตั้งใจฟังทั้งวัด ทึ่งในความทรงจําเหมือนกล้องจับภาพ ( photographic memory) หลังมิสซาจบ ผมและภรรยาเอ่ยชมว่ามีพระพรของความทรงจําพิเศษ เรียกร้องความสนใจของพวกเราทุกคน ผมบอกสุภาพบุรุษผู้นั้นว่า เขาเป็นบุคคลที่สองของผู้อ่านในมิสซาที่มีความทรงจําเหมือนกับกล้องจับภาพ ที่เป็นลูกวัดนักบุญยอห์น อัครสาวกและผู้แพร่ธรรมที่เมืองมิลิลานี่ รัฐฮาวาย ( Saint John Apostle and Evangelist, Mililani, Hawaii) ที่ผมและภรรยาเป็นลูกวัดร่วมสามปี เขาน้อมรับคําชมด้วยความถ่อมตัว แล้วเราก็กล่าวคำอําลา แยกตัวออกจากวัด
คุณพ่อเคลเมนท์: พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ก่อตั้งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกของเรา นักบุญโปโตรและอัครสาวกสืบต่อเนื่องจากพระองค์มาตลอดกว่าสองพันปี จงมีความภาคภูมิใจในความจริงอันนี้ จงถามตัวเองว่า "ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร” ความเชื่อของเราไม่ใช่ของพระสันตะปาปา พระสังฆราช พระสงฆ์ เป็นความเชื่อของพระเยซูเจ้าที่ทรงเชิญเราให้มีความสัมพันธ์กับพระองค์ด้วยความเชื่อ ความรัก ความนอบน้อม ความเป็นเพื่อนกัน และทําพระประสงค์ของพระองค์ ไม่ใช่ของเรา
ในความสัมพันธ์นี้ เรามีหน้าที่ของการประกาศข่าวดีของพระองค์ให้กับผู้อื่น ให้ผู้อื่นเป็นสานุศิษย์ของพระองค์เช่นกัน เป็นข้อผูกมัดเมื่อเรารับศีลล้างบาป ไม่ใช่ปล่อยให้พระสันตะปาปา พระสังฆราช พระสงฆ์ ซิสเตอร์ นักบวชชายหญิงทํากันเท่านั้น
คุณพ่อหยุดเทศน์ มองหน้าพวกเรา แล้วกล่าวว่าเมื่อพระสังฆราชส่งพ่อมาที่วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์นี้ ท่านบอกพ่อ: อย่าเป็นนักธุรกิจ จงเป็นผู้ช่วยวิญญาณให้รอดพ้น
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด เสียงกระหึ่มดังลั่น: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด สนั่นลั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 22 ของเทศกาลธรรมดา 3 กันยายน 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อราโมส ( Father Ramos) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง เยเรมีย์ 20:7-9
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงล่อลวงข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ยอมให้ถูกล่อลวง พระองค์ทรงพลังเหนือข้าพเจ้าและทรงมีชัยชนะ ข้าพเจ้าเป็นที่น่าหัวเราะวันยังค่ำ ทุกคนเยาะเย้ยข้าพเจ้า ทุกครั้งที่พูด ข้าพเจ้าต้องร้องขอความช่วยเหลือ ตะโกนว่า “แย่แล้ว ตายแน่ ๆ” เพราะพระวาจาของพระยาห์เวห์ เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าต้องอับอายและถูกเยาะเย้ยอยู่ตลอดวัน แม้ข้าพเจ้าจะพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่คิดถึงพระองค์ และจะไม่พูดในพระนามของพระองค์อีก” แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีไฟเผาอยู่ในใจ อัดอยู่ในกระดูกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามควบคุมไฟอยู่ในกระดูกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามควบคุมไฟนี้ไว้จนอ่อนเปลี้ย แต่ก็ควบคุมไว้ไม่ไหว
บทอ่านที่สอง โรม 12:1-2
พี่น้อง เพราะเห็นแก่พระกรุณาธิคุณของพระเจ้า ข้าพเจ้าอ้อนวอนท่านทั้งหลายให้ถวายร่างกายของท่านเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พอพระทัยแด่พระเจ้า นี่เป็นคารวกิจด้วยจิตใจของท่าน อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้ แต่จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิดขึ้นใหม่ เพื่อจะได้รู้จักวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดี และสิ่งใดเป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อม
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 16:21-27
ตั้งแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มแจ้งแก่บรรดาศิษย์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อรับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ จะถูกประหารชีวิต แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม เปโตรนำพระองค์แยกออกไป ทูลทัดทานว่า “ขอเถิด พระเจ้าข้า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน”
แต่พระองค์ทรงหันมาตรัสแก่เปโตรว่า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์” พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิต มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้สิ่งใดเพื่อแลกกับชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา “บุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา
คุณพ่อราโมส: พวกเรามีชีวิตเพราะพระเป็นเจ้า เรากราบขอบพระคุณพระองค์ที่ประทานชีวิตให้เรา และนี่ก็คือเหตุผลที่เรามาร่วมบูชามิสซาที่วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์นี้ พวกเราต้องขอบคุณคุณพ่อคณะเบเนดิกตินที่สร้างวัดนี้ให้พวกเราด้วยนะ
ชีวิตคือการเดินทางที่มีการจบ นี่ก็คือคําเทศน์สั้นๆของวันอาทิตย์นี้
พ่อต้องการให้พวกคุณจดจําสี่ข้อที่พ่อจะพูดให้ฟัง 1) คุณสมบัติไม่ขึ้นอยู่กับฐานะการเงิน 2) ความใจดีต่อทุกคน 3) ความรักต่อพระเป็นเจ้าและต่อทุกคน 4) คิดระดับโลกแต่ทําระดับท้องถิ่น
ไม่ใช่สิ่งที่เรามีแต่เป็นการกระทําในสิ่งที่เรามี นับพระพรที่เราได้รับไม่ใช่บ่นในสิ่งที่เราไม่มี การไปสวรรค์ก็คือการไปสู่พระหฤทัยของพระเป็นเจ้านั่นเอง!
เอาละ พ่อต้องการให้ทุกคนมอบความรักกับผู้คนที่อยู่รอบตัวเราในวัดนี้ อย่ามองหน้าพ่อ! มองคนรอบตัวแล้วมอบความรักให้แก่กันและกัน
เพลงเปิดพิธีบูชามิสซา: จงมา ตามเราเถิด/ Come, Follow Me by Gael Berberick ( ASCAP) and Barney Walker (ASCAP) ยูทูปขับร้องโดยคริส บรูเนล ( Chris Brunelle)
*จงมา ตามเราและมีชีวิต จงอย่ากลัว จงเชื่อและวางใจในเรา ความเชื่อของลูกจะให้พลังแก่ลูก จงละทิ้งความหวาดกลัวทั้งมวลไว้เบื้องหลังลูก จงให้อิสระแก่หัวใจของลูกเพื่อให้พ่อเป็นผู้นำทางลูก โอ จงมา และตามเราเถิด
1. จงมาตามรอยเท้าเหล่านี้ พ่อจะนําลูกกลับบ้านแบบนุ่มนวล ไม่มีที่พักพิง อาหาร หรือเงิน ที่ลูกต้องมีบนเส้นทางนี้
*
2. จงมา เดินข้ามนํ้า วางความเชื่อของลูกในพ่อ สลัดทิ้งความสงสัยทั้งมวลไว้เบื้องหลังลูกให้กับลมและทะเลคลั่ง
*
3. ถ้าลูกดํารงอยู่ในพ่อ พระวาจาของพ่อดํารงอยู่ในลูก สิ่งใดที่ลูกต้องการขอจากพ่อ นั่นคือสิ่งที่พ่อจะทํา
*
https://youtu.be/sLbLPNtwRts?si=qsGTQqr_rR2bm8F2
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง เยเรมีย์ 20:7-9
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงล่อลวงข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ยอมให้ถูกล่อลวง พระองค์ทรงพลังเหนือข้าพเจ้าและทรงมีชัยชนะ ข้าพเจ้าเป็นที่น่าหัวเราะวันยังค่ำ ทุกคนเยาะเย้ยข้าพเจ้า ทุกครั้งที่พูด ข้าพเจ้าต้องร้องขอความช่วยเหลือ ตะโกนว่า “แย่แล้ว ตายแน่ ๆ” เพราะพระวาจาของพระยาห์เวห์ เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าต้องอับอายและถูกเยาะเย้ยอยู่ตลอดวัน แม้ข้าพเจ้าจะพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่คิดถึงพระองค์ และจะไม่พูดในพระนามของพระองค์อีก” แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีไฟเผาอยู่ในใจ อัดอยู่ในกระดูกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามควบคุมไฟอยู่ในกระดูกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามควบคุมไฟนี้ไว้จนอ่อนเปลี้ย แต่ก็ควบคุมไว้ไม่ไหว
บทอ่านที่สอง โรม 12:1-2
พี่น้อง เพราะเห็นแก่พระกรุณาธิคุณของพระเจ้า ข้าพเจ้าอ้อนวอนท่านทั้งหลายให้ถวายร่างกายของท่านเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พอพระทัยแด่พระเจ้า นี่เป็นคารวกิจด้วยจิตใจของท่าน อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้ แต่จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิดขึ้นใหม่ เพื่อจะได้รู้จักวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดี และสิ่งใดเป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อม
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 16:21-27
ตั้งแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มแจ้งแก่บรรดาศิษย์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อรับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ จะถูกประหารชีวิต แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม เปโตรนำพระองค์แยกออกไป ทูลทัดทานว่า “ขอเถิด พระเจ้าข้า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน”
แต่พระองค์ทรงหันมาตรัสแก่เปโตรว่า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์” พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิต มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้สิ่งใดเพื่อแลกกับชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา “บุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา
คุณพ่อราโมส: พวกเรามีชีวิตเพราะพระเป็นเจ้า เรากราบขอบพระคุณพระองค์ที่ประทานชีวิตให้เรา และนี่ก็คือเหตุผลที่เรามาร่วมบูชามิสซาที่วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์นี้ พวกเราต้องขอบคุณคุณพ่อคณะเบเนดิกตินที่สร้างวัดนี้ให้พวกเราด้วยนะ
ชีวิตคือการเดินทางที่มีการจบ นี่ก็คือคําเทศน์สั้นๆของวันอาทิตย์นี้
พ่อต้องการให้พวกคุณจดจําสี่ข้อที่พ่อจะพูดให้ฟัง 1) คุณสมบัติไม่ขึ้นอยู่กับฐานะการเงิน 2) ความใจดีต่อทุกคน 3) ความรักต่อพระเป็นเจ้าและต่อทุกคน 4) คิดระดับโลกแต่ทําระดับท้องถิ่น
ไม่ใช่สิ่งที่เรามีแต่เป็นการกระทําในสิ่งที่เรามี นับพระพรที่เราได้รับไม่ใช่บ่นในสิ่งที่เราไม่มี การไปสวรรค์ก็คือการไปสู่พระหฤทัยของพระเป็นเจ้านั่นเอง!
เอาละ พ่อต้องการให้ทุกคนมอบความรักกับผู้คนที่อยู่รอบตัวเราในวัดนี้ อย่ามองหน้าพ่อ! มองคนรอบตัวแล้วมอบความรักให้แก่กันและกัน
เพลงเปิดพิธีบูชามิสซา: จงมา ตามเราเถิด/ Come, Follow Me by Gael Berberick ( ASCAP) and Barney Walker (ASCAP) ยูทูปขับร้องโดยคริส บรูเนล ( Chris Brunelle)
*จงมา ตามเราและมีชีวิต จงอย่ากลัว จงเชื่อและวางใจในเรา ความเชื่อของลูกจะให้พลังแก่ลูก จงละทิ้งความหวาดกลัวทั้งมวลไว้เบื้องหลังลูก จงให้อิสระแก่หัวใจของลูกเพื่อให้พ่อเป็นผู้นำทางลูก โอ จงมา และตามเราเถิด
1. จงมาตามรอยเท้าเหล่านี้ พ่อจะนําลูกกลับบ้านแบบนุ่มนวล ไม่มีที่พักพิง อาหาร หรือเงิน ที่ลูกต้องมีบนเส้นทางนี้
*
2. จงมา เดินข้ามนํ้า วางความเชื่อของลูกในพ่อ สลัดทิ้งความสงสัยทั้งมวลไว้เบื้องหลังลูกให้กับลมและทะเลคลั่ง
*
3. ถ้าลูกดํารงอยู่ในพ่อ พระวาจาของพ่อดํารงอยู่ในลูก สิ่งใดที่ลูกต้องการขอจากพ่อ นั่นคือสิ่งที่พ่อจะทํา
*
https://youtu.be/sLbLPNtwRts?si=qsGTQqr_rR2bm8F2
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
อาทิตย์ที่ 23 ในเทศกาลธรรมดา ( วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2023)
บทอ่านที่หนึ่ง เอเสเคียล 33:7-9
บัดนี้ บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราแต่งตั้งท่านให้เป็นคนยามสำหรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล ท่านได้ยินถ้อยคำจากปากของเราเมื่อใด ท่านก็จงตักเตือนเขาแทนเราเถิด ถ้าเราบอกคนชั่วร้ายว่า “คนชั่วร้ายเอ๋ย ท่านจะต้องตายแน่ ๆ” แต่ท่านไม่พูดตักเตือนคนชั่วร้ายให้ละทิ้งความประพฤติของเขา คนชั่วร้ายนั้นจะต้องตายเพราะความผิดของตน แต่เราจะเอาผิดกับท่านเพราะความตายของเขา แต่ถ้าท่านได้ตักเตือนคนชั่วร้ายให้ละทิ้งความประพฤติของตน แล้วเขาไม่ยอมกลับใจ เขาจะต้องตายเพราะความผิดของตน แต่ท่านจะรอดชีวิต’ ”
โรม 13: 8-10
อย่าเป็นหนี้ผู้ใด นอกจากเป็นหนี้ความรักซึ่งกันและกัน ผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ก็ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว พระบัญญัติกล่าวว่า อย่าผิดประเวณี อย่าฆ่าคน อย่าลักขโมย อย่าโลภ และถ้ามีบทบัญญัติอื่นอีกก็สรุปได้ในข้อความนี้ว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ความรักไม่ทำความเสียหายแก่เพื่อนมนุษย์ ความรักเป็นการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกามัทธิว 18: 15-20
“ถ้าพี่น้องของท่านทำผิด จงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา
ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย คำพูดของพยานสองคนหรือสามคนจะได้จัดเรื่องราวให้เรียบร้อย ถ้าเขาไม่ยอมฟังพยาน จงแจ้งให้หมู่คณะทราบ ถ้าเขาไม่ยอมฟังหมู่คณะอีก จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนา หรือคนเก็บภาษีเถิด เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดิน จะผูกไว้ในสวรรค์ และทุกสิ่งที่ท่านจะแก้บนแผ่นดิน ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย เราบอกความจริงแก่ท่านอีกว่า ถ้าท่านสองคนบนแผ่นดินพร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้ "
คุณพ่อเคลเมนท์: เราต้องกล้าพูดเมื่อเห็นความผิดเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา อย่านิ่งเฉย ต้องให้เขาได้ยินเสียงของเราด้วยความรัก ให้อภัยเพราะความรักสําคัญสุด
ในทวีปอัฟริกามีคําพูด "ฉันเป็นเช่นนี้ก็เพราะพวกคุณ พวกคุณเป็นเช่นนี้ก็เพราะฉัน" ( I am because you are, you are because I am)
ความรักของพระเจ้าเป็นนิรันดร พระองค์พร้อมจะให้อภัยและให้คืนดีกับพระองค์ตลอดเวลา ถ้าเราจริงใจ ตั้งใจจะไม่ทําบาปอีก
คุณพ่อ: พระเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเจ้าดี
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง เอเสเคียล 33:7-9
บัดนี้ บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราแต่งตั้งท่านให้เป็นคนยามสำหรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล ท่านได้ยินถ้อยคำจากปากของเราเมื่อใด ท่านก็จงตักเตือนเขาแทนเราเถิด ถ้าเราบอกคนชั่วร้ายว่า “คนชั่วร้ายเอ๋ย ท่านจะต้องตายแน่ ๆ” แต่ท่านไม่พูดตักเตือนคนชั่วร้ายให้ละทิ้งความประพฤติของเขา คนชั่วร้ายนั้นจะต้องตายเพราะความผิดของตน แต่เราจะเอาผิดกับท่านเพราะความตายของเขา แต่ถ้าท่านได้ตักเตือนคนชั่วร้ายให้ละทิ้งความประพฤติของตน แล้วเขาไม่ยอมกลับใจ เขาจะต้องตายเพราะความผิดของตน แต่ท่านจะรอดชีวิต’ ”
โรม 13: 8-10
อย่าเป็นหนี้ผู้ใด นอกจากเป็นหนี้ความรักซึ่งกันและกัน ผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ก็ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว พระบัญญัติกล่าวว่า อย่าผิดประเวณี อย่าฆ่าคน อย่าลักขโมย อย่าโลภ และถ้ามีบทบัญญัติอื่นอีกก็สรุปได้ในข้อความนี้ว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ความรักไม่ทำความเสียหายแก่เพื่อนมนุษย์ ความรักเป็นการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกามัทธิว 18: 15-20
“ถ้าพี่น้องของท่านทำผิด จงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา
ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย คำพูดของพยานสองคนหรือสามคนจะได้จัดเรื่องราวให้เรียบร้อย ถ้าเขาไม่ยอมฟังพยาน จงแจ้งให้หมู่คณะทราบ ถ้าเขาไม่ยอมฟังหมู่คณะอีก จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนา หรือคนเก็บภาษีเถิด เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดิน จะผูกไว้ในสวรรค์ และทุกสิ่งที่ท่านจะแก้บนแผ่นดิน ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย เราบอกความจริงแก่ท่านอีกว่า ถ้าท่านสองคนบนแผ่นดินพร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้ "
คุณพ่อเคลเมนท์: เราต้องกล้าพูดเมื่อเห็นความผิดเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา อย่านิ่งเฉย ต้องให้เขาได้ยินเสียงของเราด้วยความรัก ให้อภัยเพราะความรักสําคัญสุด
ในทวีปอัฟริกามีคําพูด "ฉันเป็นเช่นนี้ก็เพราะพวกคุณ พวกคุณเป็นเช่นนี้ก็เพราะฉัน" ( I am because you are, you are because I am)
ความรักของพระเจ้าเป็นนิรันดร พระองค์พร้อมจะให้อภัยและให้คืนดีกับพระองค์ตลอดเวลา ถ้าเราจริงใจ ตั้งใจจะไม่ทําบาปอีก
คุณพ่อ: พระเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเจ้าดี
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 28 ของเทศกาลธรรมดา 15 ตุลาคม 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของ คุณพ่อราโมส( Father Ramos) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 25: 6-10
พระยาห์เวห์จอมจักรวาลทรงจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลอง สำหรับประชากรทุกชาติบนภูเขานี้ เป็นงานเลี้ยงที่มีอาหารนานาชนิด เป็นงานเลี้ยงที่มีเหล้าองุ่นชั้นดี มีอาหารเลิศรสและเหล้าองุ่นที่เลือกสรรแล้ว บนภูเขานี้ พระองค์จะทรงทำลายผ้าคลุม ที่คลุมหน้าประชากรทั้งหลาย และจะทรงทำลายม่านซึ่งกางอยู่เหนือนานาชาติ พระองค์จะทรงทำลายความตายตลอดไป องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์จะทรงเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของทุกคน จะทรงช่วยประชากรของพระองค์ ให้พ้นจากการถูกลบหลู่ทั่วแผ่นดิน เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสแล้ว วันนั้น เขาจะพูดกันว่า “นี่คือพระเจ้าของเรา เราเคยหวังว่าพระองค์จะทรงช่วยเราให้รอดพ้น นี่คือพระยาห์เวห์ เราเคยมีความหวังในพระองค์ เราจงชื่นชมยินดีที่พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นเถิด” เพราะพระหัตถ์พระยาห์เวห์จะพักอยู่บนภูเขานี้
บทอ่านที่สอง ฟิลิปปี 4:12-14, 19-20
ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะพอใจในสภาพของตน รู้จักมีชีวิตอยู่อย่างอดออม และรู้จักมีชีวิตอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะเผชิญกับทุกสิ่งทุกกรณี เผชิญกับความอิ่มท้องและความหิวโหย เผชิญกับความมั่งคั่งและความขัดสน ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า แต่ท่านทำดีแล้วที่มาร่วมทุกข์กับข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงตอบแทนโดยประทานทุกสิ่งที่ท่านต้องการอย่างสมศักดิ์ศรีกับความมั่งคั่งของพระองค์ในพระคริสตเยซู ดังนั้น ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเจ้า พระบิดาของเราตลอดนิรันดรเทอญ อาเมน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว22:1-10
พระเยซูเจ้าทรงเล่าเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับกษัตริย์พระองค์หนึ่งซึ่งทรงจัดงานอภิเษกสมรสให้พระโอรส ทรงส่งผู้รับใช้ไปเรียกผู้รับเชิญให้มาในงานวิวาห์ แต่พวกเขาไม่ต้องการมา พระองค์จึงทรงส่งผู้รับใช้อื่นไปอีก รับสั่งว่า ‘จงไปบอกผู้รับเชิญว่า บัดนี้เราได้เตรียมการเลี้ยงไว้พร้อมแล้ว ได้ฆ่าวัวและสัตว์อ้วนพีแล้ว ทุกสิ่งพร้อมสรรพ เชิญมาในงานวิวาห์เถิด’ แต่ผู้รับเชิญมิได้สนใจ คนหนึ่งไปที่ทุ่งนา อีกคนหนึ่งไปทำธุรกิจ คนที่เหลือได้จับผู้รับใช้ของกษัตริย์ ทำร้ายและฆ่าเสีย กษัตริย์กริ้ว จึงทรงส่งกองทหารไปทำลายฆาตกรเหล่านั้นและเผาเมืองของเขาด้วย แล้วพระองค์ตรัสแก่ผู้รับใช้ว่า ‘งานวิวาห์พร้อมแล้ว แต่ผู้รับเชิญไม่เหมาะสมกับงานนี้
จงไปตามทางแยก พบผู้ใดก็ตาม จงเชิญมาในงานวิวาห์เถิด’ บรรดาผู้รับใช้จึงออกไปตามถนน เชิญทุกคนที่พบมารวมกัน ทั้งคนเลวและคนดี แขกรับเชิญจึงมาเต็มห้องงานอภิเษกสมรส กษัตริย์เสด็จมาทอดพระเนตรแขกรับเชิญ ทรงเห็นคนหนึ่งไม่สวมเสื้อสำหรับงานวิวาห์ จึงตรัสแก่เขาว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ท่านไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานวิวาห์ แล้วเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร’ คนนั้นก็นิ่ง กษัตริย์จึงตรัสสั่งผู้รับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าของเขา เอาไปทิ้งในที่มืดข้างนอกเถิด ที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง เพราะผู้รับเชิญมีมาก แต่ผู้รับเลือกมีน้อย’”
คุณพ่อราโมส: นักบุญเปโตรเป็นผู้แพร่ธรรมของชาวยิวและนักบุญเปาโลเป็นผู้แพร่ธรรมของชาวต่างศาสนาซึ่งก็คือพวกเรานั่นเอง
บทอ่านที่หนึ่งพูดถึงความใจดีของพระเจ้า ทรงจัดงานเลี้ยงสําหรับทุกคนทุกเชื้อชาติ มีอาหารนานาชนิดอาจจะมียําวุ้นเส้นของชาวเกาหลีและปลาดิบของชาวญี่ปุ่น เหล้าองุ่นไม่ใช่แต่แบบธรรมดา เป็นเหล้าองุ่นที่ได้รับการคัดเลือก อาจจะมีเบียร์ที่พวกคุณชอบด้วย
บทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลบอกพวกเราให้รู้จักพอใจในสิ่งที่เรามี ฟังท่านแล้วทําตาม พระเจ้าจะทรงตอบแทนพวกเรา
พระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงบอกพวกเราว่าพระองค์ทรงพระทัยดีเชิญทุกคนมาในงานเลี้ยง หลายคนปฏิเสธ หลายคนที่มาไม่ได้เป็นแขกที่ดีไม่มีคุณธรรม เหมือนกับไม่สวมเสื้อวันวิวาห์ จึงถูกขับไล่ออกจากงานเลี้ยงและถูกลงโทษ
พวกเราต้องทําตัวเป็นแขกรับเชิญที่ดีด้วยการกลับใจและสํานึกเสียใจในบาป เมื่อรับศีลอภัยโทษบาปแล้วก็ร่วมบูชามิสซา รับศีลมหาสนิท บินไปหาพระเจ้า
มีใครเคยเห็นนกที่บินได้ด้วยปีกข้างเดียวมั้ย? ไม่มี! จงจําให้ขึ้นใจ: การกลับใจและสํานึกเสียใจในบาป เมื่อจบพิธีบูชามิสซาจงป่าวประกาศให้ผู้อื่นได้รู้ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม อินเทอร์เน็ต ฯลฯ เพราะผู้รับเชิญมีมาก แต่ผู้รับเลือกมีน้อย
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ข้างบน
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 25: 6-10
พระยาห์เวห์จอมจักรวาลทรงจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลอง สำหรับประชากรทุกชาติบนภูเขานี้ เป็นงานเลี้ยงที่มีอาหารนานาชนิด เป็นงานเลี้ยงที่มีเหล้าองุ่นชั้นดี มีอาหารเลิศรสและเหล้าองุ่นที่เลือกสรรแล้ว บนภูเขานี้ พระองค์จะทรงทำลายผ้าคลุม ที่คลุมหน้าประชากรทั้งหลาย และจะทรงทำลายม่านซึ่งกางอยู่เหนือนานาชาติ พระองค์จะทรงทำลายความตายตลอดไป องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์จะทรงเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของทุกคน จะทรงช่วยประชากรของพระองค์ ให้พ้นจากการถูกลบหลู่ทั่วแผ่นดิน เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสแล้ว วันนั้น เขาจะพูดกันว่า “นี่คือพระเจ้าของเรา เราเคยหวังว่าพระองค์จะทรงช่วยเราให้รอดพ้น นี่คือพระยาห์เวห์ เราเคยมีความหวังในพระองค์ เราจงชื่นชมยินดีที่พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นเถิด” เพราะพระหัตถ์พระยาห์เวห์จะพักอยู่บนภูเขานี้
บทอ่านที่สอง ฟิลิปปี 4:12-14, 19-20
ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะพอใจในสภาพของตน รู้จักมีชีวิตอยู่อย่างอดออม และรู้จักมีชีวิตอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะเผชิญกับทุกสิ่งทุกกรณี เผชิญกับความอิ่มท้องและความหิวโหย เผชิญกับความมั่งคั่งและความขัดสน ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า แต่ท่านทำดีแล้วที่มาร่วมทุกข์กับข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงตอบแทนโดยประทานทุกสิ่งที่ท่านต้องการอย่างสมศักดิ์ศรีกับความมั่งคั่งของพระองค์ในพระคริสตเยซู ดังนั้น ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเจ้า พระบิดาของเราตลอดนิรันดรเทอญ อาเมน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว22:1-10
พระเยซูเจ้าทรงเล่าเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับกษัตริย์พระองค์หนึ่งซึ่งทรงจัดงานอภิเษกสมรสให้พระโอรส ทรงส่งผู้รับใช้ไปเรียกผู้รับเชิญให้มาในงานวิวาห์ แต่พวกเขาไม่ต้องการมา พระองค์จึงทรงส่งผู้รับใช้อื่นไปอีก รับสั่งว่า ‘จงไปบอกผู้รับเชิญว่า บัดนี้เราได้เตรียมการเลี้ยงไว้พร้อมแล้ว ได้ฆ่าวัวและสัตว์อ้วนพีแล้ว ทุกสิ่งพร้อมสรรพ เชิญมาในงานวิวาห์เถิด’ แต่ผู้รับเชิญมิได้สนใจ คนหนึ่งไปที่ทุ่งนา อีกคนหนึ่งไปทำธุรกิจ คนที่เหลือได้จับผู้รับใช้ของกษัตริย์ ทำร้ายและฆ่าเสีย กษัตริย์กริ้ว จึงทรงส่งกองทหารไปทำลายฆาตกรเหล่านั้นและเผาเมืองของเขาด้วย แล้วพระองค์ตรัสแก่ผู้รับใช้ว่า ‘งานวิวาห์พร้อมแล้ว แต่ผู้รับเชิญไม่เหมาะสมกับงานนี้
จงไปตามทางแยก พบผู้ใดก็ตาม จงเชิญมาในงานวิวาห์เถิด’ บรรดาผู้รับใช้จึงออกไปตามถนน เชิญทุกคนที่พบมารวมกัน ทั้งคนเลวและคนดี แขกรับเชิญจึงมาเต็มห้องงานอภิเษกสมรส กษัตริย์เสด็จมาทอดพระเนตรแขกรับเชิญ ทรงเห็นคนหนึ่งไม่สวมเสื้อสำหรับงานวิวาห์ จึงตรัสแก่เขาว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ท่านไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานวิวาห์ แล้วเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร’ คนนั้นก็นิ่ง กษัตริย์จึงตรัสสั่งผู้รับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าของเขา เอาไปทิ้งในที่มืดข้างนอกเถิด ที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง เพราะผู้รับเชิญมีมาก แต่ผู้รับเลือกมีน้อย’”
คุณพ่อราโมส: นักบุญเปโตรเป็นผู้แพร่ธรรมของชาวยิวและนักบุญเปาโลเป็นผู้แพร่ธรรมของชาวต่างศาสนาซึ่งก็คือพวกเรานั่นเอง
บทอ่านที่หนึ่งพูดถึงความใจดีของพระเจ้า ทรงจัดงานเลี้ยงสําหรับทุกคนทุกเชื้อชาติ มีอาหารนานาชนิดอาจจะมียําวุ้นเส้นของชาวเกาหลีและปลาดิบของชาวญี่ปุ่น เหล้าองุ่นไม่ใช่แต่แบบธรรมดา เป็นเหล้าองุ่นที่ได้รับการคัดเลือก อาจจะมีเบียร์ที่พวกคุณชอบด้วย
บทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลบอกพวกเราให้รู้จักพอใจในสิ่งที่เรามี ฟังท่านแล้วทําตาม พระเจ้าจะทรงตอบแทนพวกเรา
พระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงบอกพวกเราว่าพระองค์ทรงพระทัยดีเชิญทุกคนมาในงานเลี้ยง หลายคนปฏิเสธ หลายคนที่มาไม่ได้เป็นแขกที่ดีไม่มีคุณธรรม เหมือนกับไม่สวมเสื้อวันวิวาห์ จึงถูกขับไล่ออกจากงานเลี้ยงและถูกลงโทษ
พวกเราต้องทําตัวเป็นแขกรับเชิญที่ดีด้วยการกลับใจและสํานึกเสียใจในบาป เมื่อรับศีลอภัยโทษบาปแล้วก็ร่วมบูชามิสซา รับศีลมหาสนิท บินไปหาพระเจ้า
มีใครเคยเห็นนกที่บินได้ด้วยปีกข้างเดียวมั้ย? ไม่มี! จงจําให้ขึ้นใจ: การกลับใจและสํานึกเสียใจในบาป เมื่อจบพิธีบูชามิสซาจงป่าวประกาศให้ผู้อื่นได้รู้ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม อินเทอร์เน็ต ฯลฯ เพราะผู้รับเชิญมีมาก แต่ผู้รับเลือกมีน้อย
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ข้างบน
วันอาทิตย์ที่ 29 ของเทศกาลธรรมดา 22 ตุลาคม 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของ สังฆานุกร แทรี่ ( Deacon Terry) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 45:1, 4-6
พระยาห์เวห์ตรัสกับกษัตริย์ไซรัส ผู้รับเจิมของพระองค์ว่า “เราจับมือขวาของท่านไว้ เพื่อปราบชนหลายชาติให้อยู่ใต้อำนาจ ปลดอาวุธจากบั้นเอวของบรรดากษัตริย์ เปิดประตูที่อยู่ต่อหน้าท่าน ไม่มีประตูเมืองใดปิดอยู่ได้ เพราะเห็นแก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรา เราออกชื่อของท่าน เรียกท่านมา เราให้ตำแหน่งแก่ท่าน แม้ท่านไม่รู้จักเรา เราเป็นพระยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก นอกจากเรา ไม่มีพระเจ้า แม้ท่านไม่รู้จักเรา เราก็จะคาดอาวุธให้ท่าน เพื่อคนทั้งหลายจากทิศตะวันออก และจากทิศตะวันตก จะได้รู้ว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา เราเป็นพระยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
บทอ่านที่สอง 1 เธสะโลนิกา 1:1-5
จากเปาโล สิลวานัสและทิโมธี ถึงพระศาสนจักรที่เมืองเธสะโลนิกา ซึ่งอยู่ในพระเจ้าพระบิดา และในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระหรรษทานและสันติสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด เราขอบพระคุณพระเจ้าทุกเวลาเพื่อท่านทุกคน ระลึกถึงท่านในคำภาวนา เราวอนขอเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าพระบิดา เฝ้าระลึกอยู่เสมอถึงกิจการซึ่งแสดงความเชื่อของท่าน และระลึกถึงการงานที่แสดงความรักและความพากเพียรซึ่งเกิดจากความหวังในพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พี่น้องทั้งหลายผู้เป็นที่รักของพระเจ้า เรารู้ว่าท่านได้รับเลือกสรร เพราะข่าวดีที่เราประกาศมาถึงท่าน มิใช่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ด้วยพระอานุภาพเดชะพระจิตเจ้า และด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ท่านทั้งหลายรู้ว่า เราปฏิบัติตนอย่างไรในหมู่ท่านเพราะเห็นแก่ท่าน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 22:15-21
ครั้งนั้น ชาวฟาริสีปรึกษากันเพื่อจับผิดพระวาจาของพระเยซูเจ้า จึงส่งศิษย์ของตนพร้อมกับคนที่เป็นฝ่ายของกษัตริย์เฮโรดมาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์ พวกเรารู้ว่าท่านเป็นคนเที่ยงตรง สั่งสอนวิถีทางของพระเจ้าตามความจริง โดยไม่ลำเอียง เพราะท่านไม่เห็นแก่หน้าใคร ดังนั้น โปรดบอกเราเถิดว่า ท่านมีความเห็นว่าการเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์เป็นการถูกต้องหรือไม่” พระเยซูเจ้าทรงหยั่งรู้เจตนาร้ายของเขา จึงตรัสว่า “พวกคนหน้าซื่อใจคด เจ้ามาทดลองเราทำไม จงนำเงินที่ใช้เสียภาษีมาให้ดูสักเหรียญหนึ่ง” เขาก็นำเงินเหรียญมาถวาย พระองค์จึงตรัสถามว่า “รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร” เขาตอบว่า “เป็นของพระจักรพรรดิซีซาร์” พระองค์จึงตรัสว่า “ของของซีซาร์ จงคืนให้ซีซาร์ และของของพระเจ้า ก็จงคืนให้พระเจ้าเถิด”
สังฆานุกรแทรี่: ยกมือชูสูงให้ทุกคนในวัดเห็นใบธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ ประกาศเสียงก้องว่า ประเทศเราเป็นประเทศเดียวที่ธนบัตรและเหรียญทุกอันมีคําว่า "ในพระเจ้า เราวางใจ" ( In GOD WE TRUST) พวกฟาริสีทําตัวเหมือนแมงมุม ชักใยตั้งใจจะจับแมลง
แต่หารู้ไม่ว่าพระเยซูเจ้าทรงชักใยจับพวกเขาเช่นกัน ถ้าพระองค์ตอบว่า การเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์นั้นเป็นการถูกต้อง ประชาชนชาวยิวก็จะเลิกเชื่อฟังพระองค์เพราะพระผู้ไถ่ ( ในความเชื่อทางโลกของพวกเขา) ต้องกอบกู้พวกเขาให้พ้นจากอํานาจของชาวโรมัน ถ้าพระองค์ตอบว่าการเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์นั้นไม่เป็นการถูกต้อง พวกเขาก็จะฟ้องผู้ปกครองประเทศชาวโรมันว่าพระองค์เป็นกบฎ โทษถึงตาย
เมื่อเรารับศีลล้างบาป พระเป็นเจ้าทรงประทับตราให้เราเป็นธนบัตรเพื่อครอบครัวญาติมิตรพี่น้องและผู้อื่น ตัวอย่าง:
บุญราศรี คุณพ่อ เจอซี่ โพพิสโลสโก (Father Jerzy Popieluszko 14 กันยายน 1947-19 ตุลาคม 1984 อายุ 37 ปี) ชาวโปแลนด์ ท่านเป็นคุณพ่อผู้ปรึกษาของกลุ่มความสามัคคี ( Solidarity) ของคนงานในประเทศโปแลนด์ยุคคอมมิวนิสต์ ท่านสนับสนุนความเป็นธรรมของคนงาน ท่านถูกฆ่าตายด้วยนํ้ามือของตํารวจลับสามคนของรัฐบาล เป็นเรื่องราวใหญ่โต สามคนถูกจับและถูกลงโทษ
นักประวัติศาสตร์บ่งว่า การเยี่ยมประเทศโปแลนด์บ้านเกิดของนักบุญโป๊ปจอห์นพอลที่สอง เดือน มิถุนายน 1979 เรียกร้องความเป็นธรรมของคนงานเป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ความสามัคคีของคนงานในโปแลนด์เพื่อความเป็นธรรม
ประเทศโปแลนด์เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตย 27 ตุลาคม 1991
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 45:1, 4-6
พระยาห์เวห์ตรัสกับกษัตริย์ไซรัส ผู้รับเจิมของพระองค์ว่า “เราจับมือขวาของท่านไว้ เพื่อปราบชนหลายชาติให้อยู่ใต้อำนาจ ปลดอาวุธจากบั้นเอวของบรรดากษัตริย์ เปิดประตูที่อยู่ต่อหน้าท่าน ไม่มีประตูเมืองใดปิดอยู่ได้ เพราะเห็นแก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรา เราออกชื่อของท่าน เรียกท่านมา เราให้ตำแหน่งแก่ท่าน แม้ท่านไม่รู้จักเรา เราเป็นพระยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก นอกจากเรา ไม่มีพระเจ้า แม้ท่านไม่รู้จักเรา เราก็จะคาดอาวุธให้ท่าน เพื่อคนทั้งหลายจากทิศตะวันออก และจากทิศตะวันตก จะได้รู้ว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา เราเป็นพระยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
บทอ่านที่สอง 1 เธสะโลนิกา 1:1-5
จากเปาโล สิลวานัสและทิโมธี ถึงพระศาสนจักรที่เมืองเธสะโลนิกา ซึ่งอยู่ในพระเจ้าพระบิดา และในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระหรรษทานและสันติสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด เราขอบพระคุณพระเจ้าทุกเวลาเพื่อท่านทุกคน ระลึกถึงท่านในคำภาวนา เราวอนขอเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าพระบิดา เฝ้าระลึกอยู่เสมอถึงกิจการซึ่งแสดงความเชื่อของท่าน และระลึกถึงการงานที่แสดงความรักและความพากเพียรซึ่งเกิดจากความหวังในพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พี่น้องทั้งหลายผู้เป็นที่รักของพระเจ้า เรารู้ว่าท่านได้รับเลือกสรร เพราะข่าวดีที่เราประกาศมาถึงท่าน มิใช่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ด้วยพระอานุภาพเดชะพระจิตเจ้า และด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ท่านทั้งหลายรู้ว่า เราปฏิบัติตนอย่างไรในหมู่ท่านเพราะเห็นแก่ท่าน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 22:15-21
ครั้งนั้น ชาวฟาริสีปรึกษากันเพื่อจับผิดพระวาจาของพระเยซูเจ้า จึงส่งศิษย์ของตนพร้อมกับคนที่เป็นฝ่ายของกษัตริย์เฮโรดมาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์ พวกเรารู้ว่าท่านเป็นคนเที่ยงตรง สั่งสอนวิถีทางของพระเจ้าตามความจริง โดยไม่ลำเอียง เพราะท่านไม่เห็นแก่หน้าใคร ดังนั้น โปรดบอกเราเถิดว่า ท่านมีความเห็นว่าการเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์เป็นการถูกต้องหรือไม่” พระเยซูเจ้าทรงหยั่งรู้เจตนาร้ายของเขา จึงตรัสว่า “พวกคนหน้าซื่อใจคด เจ้ามาทดลองเราทำไม จงนำเงินที่ใช้เสียภาษีมาให้ดูสักเหรียญหนึ่ง” เขาก็นำเงินเหรียญมาถวาย พระองค์จึงตรัสถามว่า “รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร” เขาตอบว่า “เป็นของพระจักรพรรดิซีซาร์” พระองค์จึงตรัสว่า “ของของซีซาร์ จงคืนให้ซีซาร์ และของของพระเจ้า ก็จงคืนให้พระเจ้าเถิด”
สังฆานุกรแทรี่: ยกมือชูสูงให้ทุกคนในวัดเห็นใบธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ ประกาศเสียงก้องว่า ประเทศเราเป็นประเทศเดียวที่ธนบัตรและเหรียญทุกอันมีคําว่า "ในพระเจ้า เราวางใจ" ( In GOD WE TRUST) พวกฟาริสีทําตัวเหมือนแมงมุม ชักใยตั้งใจจะจับแมลง
แต่หารู้ไม่ว่าพระเยซูเจ้าทรงชักใยจับพวกเขาเช่นกัน ถ้าพระองค์ตอบว่า การเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์นั้นเป็นการถูกต้อง ประชาชนชาวยิวก็จะเลิกเชื่อฟังพระองค์เพราะพระผู้ไถ่ ( ในความเชื่อทางโลกของพวกเขา) ต้องกอบกู้พวกเขาให้พ้นจากอํานาจของชาวโรมัน ถ้าพระองค์ตอบว่าการเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์นั้นไม่เป็นการถูกต้อง พวกเขาก็จะฟ้องผู้ปกครองประเทศชาวโรมันว่าพระองค์เป็นกบฎ โทษถึงตาย
เมื่อเรารับศีลล้างบาป พระเป็นเจ้าทรงประทับตราให้เราเป็นธนบัตรเพื่อครอบครัวญาติมิตรพี่น้องและผู้อื่น ตัวอย่าง:
บุญราศรี คุณพ่อ เจอซี่ โพพิสโลสโก (Father Jerzy Popieluszko 14 กันยายน 1947-19 ตุลาคม 1984 อายุ 37 ปี) ชาวโปแลนด์ ท่านเป็นคุณพ่อผู้ปรึกษาของกลุ่มความสามัคคี ( Solidarity) ของคนงานในประเทศโปแลนด์ยุคคอมมิวนิสต์ ท่านสนับสนุนความเป็นธรรมของคนงาน ท่านถูกฆ่าตายด้วยนํ้ามือของตํารวจลับสามคนของรัฐบาล เป็นเรื่องราวใหญ่โต สามคนถูกจับและถูกลงโทษ
นักประวัติศาสตร์บ่งว่า การเยี่ยมประเทศโปแลนด์บ้านเกิดของนักบุญโป๊ปจอห์นพอลที่สอง เดือน มิถุนายน 1979 เรียกร้องความเป็นธรรมของคนงานเป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ความสามัคคีของคนงานในโปแลนด์เพื่อความเป็นธรรม
ประเทศโปแลนด์เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตย 27 ตุลาคม 1991
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 30 ของเทศกาลธรรมดา 29 ตุลาคม 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของ คุณพ่อทิม ( Father Tim) เจ้าอาวาส วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง อพยพ 22:20-26
ท่านจะต้องไม่ข่มเหงหรือรังแกคนต่างชาติ เพราะท่านทั้งหลายก็เคยเป็นคนต่างชาติในแผ่นดินอียิปต์ ท่านจะต้องไม่ข่มเหงหญิงม่ายหรือลูกกำพร้า ถ้าท่านข่มเหงเขา เขาจะร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราจะฟังเสียงร้องขอของเขาอย่างแน่นอน เราจะโกรธมาก และจะฆ่าท่านในสงคราม ภรรยาของท่านจะต้องเป็นม่าย และลูกของท่านจะเป็นกำพร้า ถ้าท่านให้ประชากรยากจนคนใดคนหนึ่งของเรา ซึ่งอาศัยอยู่กับท่านขอยืมเงิน ท่านจะต้องไม่ทำเหมือนคนออกเงินกู้ที่เรียกร้องให้เขาเสียดอกเบี้ย ถ้าท่านยึดเสื้อคลุมของเพื่อนไว้เป็นประกัน ท่านจะต้องคืนให้เขาก่อนตะวันตกดิน เพราะเสื้อคลุมเป็นผ้าห่มกายผืนเดียวที่เขามี เขาจะใช้สิ่งใดป้องกันความหนาวเมื่อนอน ถ้าเขาร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราก็จะฟังคำร้องขอของเขา เพราะเราเป็นผู้มีเมตตากรุณา
บทอ่านที่สอง 1 เธสะโลนิกา 1:5c-10
เพราะข่าวดีที่เราประกาศมาถึงท่าน มิใช่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ด้วยพระอานุภาพเดชะพระจิตเจ้า และด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ท่านทั้งหลายรู้ว่า เราปฏิบัติตนอย่างไรในหมู่ท่านเพราะเห็นแก่ท่าน
และท่านก็ได้ทำตามอย่างเราและตามแบบฉบับขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยท่านได้รับพระวาจาด้วยความทุกข์ยากหลายประการ แต่ท่านก็ยังมีความปิติยินดีที่มาจากพระจิตเจ้า ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็นแบบอย่างให้กับผู้มีความเชื่อทุกคนในแคว้นมาซิโดเนียและแคว้นอาคายา พระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าดังก้องมาจากท่าน ไม่เพียงแต่ในแคว้นมาซิโดเนียและแคว้นอาคายาเท่านั้น ความเชื่อของท่านในพระเจ้ายังเลื่องลือไปทั่วทุกหนทุกแห่ง จนเราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก เพราะคนเหล่านั้นพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเราว่า เราได้เริ่มงานในหมู่ท่านอย่างไร และท่านกลับใจละทิ้งรูปเคารพมาหาพระเจ้าอย่างไร เพื่อรับใช้พระเจ้าแท้จริงผู้ทรงชีวิต
และรอคอยให้พระบุตรของพระองค์เสด็จมาจากสวรรค์คือพระเยซูเจ้า ผู้ทรงช่วยเราให้พ้นจากพระพิโรธ ที่จะมาถึง พระเยซูเจ้านี้ พระเจ้าทรงบันดาลให้กลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
พระวารสาร โดย นักบุญมัทธิว 22: 34-40
เมื่อชาวฟาริสีได้ยินว่าพระเยซูเจ้าทรงทำให้ชาวสะดูสีนิ่งอึ้งไป จึงมาชุมนุมพร้อมกัน มีคนหนึ่งเป็นบัณฑิตทางกฎหมายได้ทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ บทบัญญัติข้อใดเป็นเอกในธรรมบัญญัติ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่าน นี่คือบทบัญญัติเอกและเป็นบทบัญญัติแรก บทบัญญัติประการที่สองก็เช่นเดียวกัน คือท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศกก็ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติสองประการนี้”
ก่อนเทศน์ สังฆานุกร รอนนี่ (Deacon Ronnie) ประกาศข่าวดีให้พวกเรารู้ว่า มีผู้สมัครต้องการเป็นโรมันคาทอลิกเหมือนพวกเราถึง 30 คน (ผู้ใหญ่ชายหญิง 17 คน 1 คนได้รับศีลล้างบาปในคริสตศาสนาแล้ว เพราะฉะนั้นจะเตรียมรับศีลมหาสนิทและศีลกําลังเลย) ทุกคนจะรับศีลล้างบาปและรับศีลมหาสนิทในวันอิสเตอร์ 31 มีนาคม 2024
ท่านเรียกชื่อแต่ละคนให้ยืนขึ้น แล้วทะยอยเดินไปหน้าพระแท่นพร้อมกับพ่อแม่ทูลหัวให้พวกเราเห็น คุณพ่อทิมอวยพรโดยมีพ่อแม่ทูลหัวแตะตําแหน่งของร่างกาย : ตาให้เห็น หูให้ได้ยิน หัวใจให้เปิดรับพระเจ้า เมื่อเสร็จการอวยพร พวกเราก็ตบมือแสดงความยินดีต้อนรับพวกเขาทุกคน
คุณพ่อทิม: เมื่อคุณขับรถออกจากบ้านมาร่วมมิสซา คุณพบว่ามีคนจอดรถที่คุณจอดเป็นประจําก่อนหน้าคุณแล้ว คุณเข้ามาในวัดก็พบว่าที่นั่งที่คุณสํารองไว้ได้มีคนนั่งก่อนแล้ว อารมณ์เริ่มหงุดหงิด เมื่อคุณฟังพระวรสารที่พระเยซูเจ้าทรงบอกให้รักเพื่อนบ้านซึ่งก็คือทุกคนนั่นเอง คุณก็คิดว่ามันยากมาก รักพระเจ้าอย่างสิ้นสุดจิตใจสิ้นสุดวิญญาณสิ้นสุดสติปัญญานั้นพอจะทําได้ กับภรรยาบางครั้งมันยากแบบสุดจะทน เพื่อนบ้าน คุณไม่รู้จักจะรักเหมือนตัวเองได้อย่างไร ทําไม่ลง พอจบมิสซาคุณก็แห่กันออกจากวัดแข่งกันขับรถกลับบ้าน
กลับบ้านคุณก็นั่งดูทีวีถ่ายทอดสดของฟุตบอลทีมซีฮ้อก ( Seahawks = เหยี่ยวทะเล ทีมดังของรัฐวอชิงตัน เคยเป็นแชมป์ซูเปอร์โบว์ลของสหรัฐอเมริกา) คุณนั่งบนเก้าอี้ของคุณที่ไม่มีใครกล้าแย่ง คุณวิพากษ์วิจารณ์นักกีฬาว่าไม่น่าจะพลาดเพราะค่าตัวเป็นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เมื่อถึงช่วงพักครึ่ง คุณก็ทําความผิดพลาด ดันเปิดดูข่าวนักการเมืองที่มีแต่เรื่องฉาวโฉ่ มันทําให้คุณคิดว่า ผู้นิพนธ์พระวรสารอาจจะเขียนผิด ควรจะ"บางคน" ไม่ใช่ "ทุกคน" ที่พระเยซูเจ้าทรงบอกให้รัก โดยเฉพาะต้องรักนักการเมือง คุณรู้สึกละอายใจทันทีตามแบบฉบับของโรมันคาทอลิกทุกคน แล้วพระจิตเจ้าก็ทรงบอกกับคุณว่า ต้องรักทุกคน รวมทั้งนักการเมือง
พระจิตเจ้าทรงถามคุณว่า ต้องการให้พระองค์เตือนความจำของบาปที่คุณได้กระทําและพระองค์ทรงให้อภัยคุณมั้ย? คุณตอบพระองค์ว่า อย่าเลยพระเจ้าข้า พระจิตเจ้าทรงบอกคุณว่า กาอินฆ่าน้องชายอาแบลเพราะความอิจฉาโกรธแค้น และพระองค์ทรงบอกเขาว่า "ถ้าท่านทำดี ท่านย่อมเงยหน้าขึ้นได้ แต่ถ้าท่านทำไม่ดี บาปกำลังหมอบอยู่ที่ประตู คอยตะครุบตัวท่าน แต่ท่านจะต้องเอาชนะมันให้ได้” คุณตอบพระองค์ว่า มันยากมากที่จะรักทุกคนเหมือนกับรักตัวเอง พระจิตเจ้าทรงตอบคุณว่า พระองค์จะทรงประทับอยู่กับคุณและช่วยคุณด้วยการทําร่วมกัน...
สาธุชน: ตบมือหัวเราะสนั่นลั่นวัด
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง อพยพ 22:20-26
ท่านจะต้องไม่ข่มเหงหรือรังแกคนต่างชาติ เพราะท่านทั้งหลายก็เคยเป็นคนต่างชาติในแผ่นดินอียิปต์ ท่านจะต้องไม่ข่มเหงหญิงม่ายหรือลูกกำพร้า ถ้าท่านข่มเหงเขา เขาจะร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราจะฟังเสียงร้องขอของเขาอย่างแน่นอน เราจะโกรธมาก และจะฆ่าท่านในสงคราม ภรรยาของท่านจะต้องเป็นม่าย และลูกของท่านจะเป็นกำพร้า ถ้าท่านให้ประชากรยากจนคนใดคนหนึ่งของเรา ซึ่งอาศัยอยู่กับท่านขอยืมเงิน ท่านจะต้องไม่ทำเหมือนคนออกเงินกู้ที่เรียกร้องให้เขาเสียดอกเบี้ย ถ้าท่านยึดเสื้อคลุมของเพื่อนไว้เป็นประกัน ท่านจะต้องคืนให้เขาก่อนตะวันตกดิน เพราะเสื้อคลุมเป็นผ้าห่มกายผืนเดียวที่เขามี เขาจะใช้สิ่งใดป้องกันความหนาวเมื่อนอน ถ้าเขาร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราก็จะฟังคำร้องขอของเขา เพราะเราเป็นผู้มีเมตตากรุณา
บทอ่านที่สอง 1 เธสะโลนิกา 1:5c-10
เพราะข่าวดีที่เราประกาศมาถึงท่าน มิใช่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ด้วยพระอานุภาพเดชะพระจิตเจ้า และด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ท่านทั้งหลายรู้ว่า เราปฏิบัติตนอย่างไรในหมู่ท่านเพราะเห็นแก่ท่าน
และท่านก็ได้ทำตามอย่างเราและตามแบบฉบับขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยท่านได้รับพระวาจาด้วยความทุกข์ยากหลายประการ แต่ท่านก็ยังมีความปิติยินดีที่มาจากพระจิตเจ้า ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็นแบบอย่างให้กับผู้มีความเชื่อทุกคนในแคว้นมาซิโดเนียและแคว้นอาคายา พระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าดังก้องมาจากท่าน ไม่เพียงแต่ในแคว้นมาซิโดเนียและแคว้นอาคายาเท่านั้น ความเชื่อของท่านในพระเจ้ายังเลื่องลือไปทั่วทุกหนทุกแห่ง จนเราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก เพราะคนเหล่านั้นพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเราว่า เราได้เริ่มงานในหมู่ท่านอย่างไร และท่านกลับใจละทิ้งรูปเคารพมาหาพระเจ้าอย่างไร เพื่อรับใช้พระเจ้าแท้จริงผู้ทรงชีวิต
และรอคอยให้พระบุตรของพระองค์เสด็จมาจากสวรรค์คือพระเยซูเจ้า ผู้ทรงช่วยเราให้พ้นจากพระพิโรธ ที่จะมาถึง พระเยซูเจ้านี้ พระเจ้าทรงบันดาลให้กลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
พระวารสาร โดย นักบุญมัทธิว 22: 34-40
เมื่อชาวฟาริสีได้ยินว่าพระเยซูเจ้าทรงทำให้ชาวสะดูสีนิ่งอึ้งไป จึงมาชุมนุมพร้อมกัน มีคนหนึ่งเป็นบัณฑิตทางกฎหมายได้ทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ บทบัญญัติข้อใดเป็นเอกในธรรมบัญญัติ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่าน นี่คือบทบัญญัติเอกและเป็นบทบัญญัติแรก บทบัญญัติประการที่สองก็เช่นเดียวกัน คือท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศกก็ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติสองประการนี้”
ก่อนเทศน์ สังฆานุกร รอนนี่ (Deacon Ronnie) ประกาศข่าวดีให้พวกเรารู้ว่า มีผู้สมัครต้องการเป็นโรมันคาทอลิกเหมือนพวกเราถึง 30 คน (ผู้ใหญ่ชายหญิง 17 คน 1 คนได้รับศีลล้างบาปในคริสตศาสนาแล้ว เพราะฉะนั้นจะเตรียมรับศีลมหาสนิทและศีลกําลังเลย) ทุกคนจะรับศีลล้างบาปและรับศีลมหาสนิทในวันอิสเตอร์ 31 มีนาคม 2024
ท่านเรียกชื่อแต่ละคนให้ยืนขึ้น แล้วทะยอยเดินไปหน้าพระแท่นพร้อมกับพ่อแม่ทูลหัวให้พวกเราเห็น คุณพ่อทิมอวยพรโดยมีพ่อแม่ทูลหัวแตะตําแหน่งของร่างกาย : ตาให้เห็น หูให้ได้ยิน หัวใจให้เปิดรับพระเจ้า เมื่อเสร็จการอวยพร พวกเราก็ตบมือแสดงความยินดีต้อนรับพวกเขาทุกคน
คุณพ่อทิม: เมื่อคุณขับรถออกจากบ้านมาร่วมมิสซา คุณพบว่ามีคนจอดรถที่คุณจอดเป็นประจําก่อนหน้าคุณแล้ว คุณเข้ามาในวัดก็พบว่าที่นั่งที่คุณสํารองไว้ได้มีคนนั่งก่อนแล้ว อารมณ์เริ่มหงุดหงิด เมื่อคุณฟังพระวรสารที่พระเยซูเจ้าทรงบอกให้รักเพื่อนบ้านซึ่งก็คือทุกคนนั่นเอง คุณก็คิดว่ามันยากมาก รักพระเจ้าอย่างสิ้นสุดจิตใจสิ้นสุดวิญญาณสิ้นสุดสติปัญญานั้นพอจะทําได้ กับภรรยาบางครั้งมันยากแบบสุดจะทน เพื่อนบ้าน คุณไม่รู้จักจะรักเหมือนตัวเองได้อย่างไร ทําไม่ลง พอจบมิสซาคุณก็แห่กันออกจากวัดแข่งกันขับรถกลับบ้าน
กลับบ้านคุณก็นั่งดูทีวีถ่ายทอดสดของฟุตบอลทีมซีฮ้อก ( Seahawks = เหยี่ยวทะเล ทีมดังของรัฐวอชิงตัน เคยเป็นแชมป์ซูเปอร์โบว์ลของสหรัฐอเมริกา) คุณนั่งบนเก้าอี้ของคุณที่ไม่มีใครกล้าแย่ง คุณวิพากษ์วิจารณ์นักกีฬาว่าไม่น่าจะพลาดเพราะค่าตัวเป็นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เมื่อถึงช่วงพักครึ่ง คุณก็ทําความผิดพลาด ดันเปิดดูข่าวนักการเมืองที่มีแต่เรื่องฉาวโฉ่ มันทําให้คุณคิดว่า ผู้นิพนธ์พระวรสารอาจจะเขียนผิด ควรจะ"บางคน" ไม่ใช่ "ทุกคน" ที่พระเยซูเจ้าทรงบอกให้รัก โดยเฉพาะต้องรักนักการเมือง คุณรู้สึกละอายใจทันทีตามแบบฉบับของโรมันคาทอลิกทุกคน แล้วพระจิตเจ้าก็ทรงบอกกับคุณว่า ต้องรักทุกคน รวมทั้งนักการเมือง
พระจิตเจ้าทรงถามคุณว่า ต้องการให้พระองค์เตือนความจำของบาปที่คุณได้กระทําและพระองค์ทรงให้อภัยคุณมั้ย? คุณตอบพระองค์ว่า อย่าเลยพระเจ้าข้า พระจิตเจ้าทรงบอกคุณว่า กาอินฆ่าน้องชายอาแบลเพราะความอิจฉาโกรธแค้น และพระองค์ทรงบอกเขาว่า "ถ้าท่านทำดี ท่านย่อมเงยหน้าขึ้นได้ แต่ถ้าท่านทำไม่ดี บาปกำลังหมอบอยู่ที่ประตู คอยตะครุบตัวท่าน แต่ท่านจะต้องเอาชนะมันให้ได้” คุณตอบพระองค์ว่า มันยากมากที่จะรักทุกคนเหมือนกับรักตัวเอง พระจิตเจ้าทรงตอบคุณว่า พระองค์จะทรงประทับอยู่กับคุณและช่วยคุณด้วยการทําร่วมกัน...
สาธุชน: ตบมือหัวเราะสนั่นลั่นวัด
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 31 ของเทศกาลธรรมดา 5 พฤศจิกายน 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของ คุณพ่อทิม ( Father Tim) เจ้าอาวาส วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง มาลาคี 1:14b-2:2b, 8-10
พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส นามของเราน่าเกรงขามในหมู่นานาชาติ บัดนี้ บรรดาสมณะเอ๋ย พระบัญชานี้สำหรับท่านทั้งหลาย ถ้าท่านไม่ยอมฟัง ไม่ใส่ใจที่จะถวายเกียรติแก่นามของเรา พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส เราจะส่งคำสาปแช่งมาเหนือท่าน เราจะเปลี่ยนพระพรที่ท่านหวังจะได้รับให้เป็นคำสาปแช่งอันที่จริง เราได้สาปแช่งพระพรนี้แล้ว เพราะท่านไม่ได้ใส่ใจจริง ดูซิ เคนจะแสวงหาคำสั่งสอนจากปากของเขา เพราะเขาเป็นผู้ถือสารของพระยาห์เวห์จอมจักรวาล แต่ท่านทั้งหลายได้หันไปจากทางนั้น ท่านเป็นเหตุให้หลายคนต้องสะดุดเพราะคำสั่งสอนของท่าน ท่านได้บิดเบือนพันสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเลวี พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส เราทำให้ท่านเป็นที่ดูหมิ่นและเหยียดหยามต่อหน้าประชากรทั้งหมด เพราะท่านไม่ได้ดำเนินตามหนทางของเรา แต่ได้ลำเอียงในการใช้ธรรมบัญญัติ เราทุกคนมีบิดาคนเดียวมิใช่หรือ พระเจ้าพระองค์เดียวทรงสร้างพวกเรามิใช่หรือ แล้วทำไมเราจึงไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน และล่วงละเมิดพันธสัญญาที่ทรงทำไว้กับบรรพบุรุษของเราเล่า
บทอ่านที่สอง 1 เธสะโลนิกา 2:7b-9, 13
ทั้ง ๆ ที่เราอาจจะเรียกร้องเกียรติยศชื่อเสียงได้ในฐานะที่เป็นอัครสาวกของพระคริสตเจ้า ตรงกันข้าม เราทำตนเป็นคนอ่อนโยนในหมู่ท่านทั้งหลาย เสมือนแม่ดูแลลูกน้อยของตน เราห่วงใยท่าน จึงปรารถนาจะมอบให้ท่าน ไม่เพียงแต่ข่าวดีของพระเจ้าเท่านั้น แต่เราปรารถนาจะมอบชีวิตของเราแก่ท่านด้วย เพราะท่านทั้งหลายเป็นที่รักยิ่งของเรา
พี่น้องทั้งหลาย ท่านคงจำได้ถึงความเหน็ดเหนื่อยและความยากลำบากของเรา ขณะที่เราทำงานทั้งกลางวันกลางคืน เพื่อไม่ต้องเป็นภาระแก่ผู้ใดในบรรดาท่านทั้งหลาย เราประกาศข่าวดีของพระเจ้าให้ท่าน ด้วยเหตุนี้เราขอบพระคุณพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะเมื่อเราประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้ท่านฟัง ท่านฟังแล้วก็รับไว้ มิใช่เช่นวาจาของมนุษย์ แต่เช่นที่เป็นจริงคือ “พระวาจาของพระเจ้า” ซึ่งกำลังแสดงพลังอยู่ในท่านที่มีความเชื่อ
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 23:1-12
ครั้งนั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่ประชาชนและบรรดาศิษย์ว่า “พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนั่งบนธรรมาสน์ของโมเสส ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด ท่านจงปฏิบัติตามเถิด แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แต่ไม่ปฏิบัติ เขามัดสัมภาระหนักวางบนบ่าคนอื่น แต่เขาเองไม่ปรารถนาแม้แต่จะขยับนิ้วไปยกขึ้น เขาทำกิจการทุกอย่างเพื่อให้คนเห็น เช่น เขาขยายกลักบรรจุพระวาจาให้ใหญ่ขึ้น ผ้าคลุมของเขามีพู่ยาวกว่าของคนอื่น เขาชอบที่นั่งมีเกียรติในงานเลี้ยง ชอบนั่งแถวหน้าในศาลาธรรม
ชอบให้ผู้คนคำนับตามลานสาธารณะ ชอบให้ทุกคนเรียกว่า ‘รับบี’ “ส่วนท่านทั้งหลายอย่าให้ผู้ใดเรียกว่า ‘รับบี’ เพราะอาจารย์ของท่านมีเพียงผู้เดียวและทุกคนเป็นพี่น้องกัน ในโลกนี้อย่าเรียกผู้ใดว่า ‘บิดา’ เพราะว่าพระบิดาของท่านมีเพียงพระองค์เดียวคือพระบิดาในสวรรค์ อย่าให้ผู้ใดเรียกท่านว่า ‘อาจารย์’ เพราะพระอาจารย์ของท่านมีเพียงพระองค์เดียวคือพระคริสตเจ้า ในกลุ่มของท่าน ผู้ใดเป็นใหญ่จะต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น ผู้ใดที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”
คุณพ่อทิม: พระวรสารวันนี้เพื่อพระสงฆ์ แต่ก็เพื่อสาธุชนเช่นกัน การแต่งกายของทุกคนมีการกําหนดว่าควรจะแต่งกายอย่างไร ในสภาพใด พนักงาน คนใช้แรงงาน แม้กระทั่งการมาวัดร่วมมิสซา ก็ต้องให้เรียบร้อย สุภาพ
เราต้องการสร้างความประทับใจให้ผู้อื่นด้วยการแต่งกาย แม้กระทั่งมาร่วมมิสซา บางคนอาจจะใช้เวลานานในการแต่งหน้าแต่งตัว และถ้าเป็นโสดก็ต้องการให้คนโสดต่างเพศในวัดเห็นแล้วประทับใจ เราต้องการสร้างความประทับใจให้พ่อแม่ของเราด้วยการเรียน หัวหน้าของเราด้วยการทํางานขยันขันแข็งเพื่อจะได้เงินเดือนเพิ่มหรือเลื่อนตําแหน่งขึ้น
พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีต้องการสร้างความประทับใจให้ผู้คนได้เห็นเพื่อความอยากได้หน้าได้ตา
พระวรสารวันนี้ทําให้พ่อนึกถึง ชาวฟาริสีและคนเก็บภาษีในพระวิหาร ชาวฟาริสีโอ้อวดตัวเอง แต่คนเก็บภาษีก้มหน้ากราบขอโทษพระเป็นเจ้า
เพราะสํานึกตัวว่าเป็นคนบาปและพระเป็นเจ้าก็ให้อภัยโทษบาปของเขา
พวกเราต้องระวังตัวอย่าเป็นเหมือนชาวฟาริสีที่เดินบนเส้นทางผิดซึ่งจะนําไปสู่การถูกลงโทษจากพระเป็นเจ้า
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง มาลาคี 1:14b-2:2b, 8-10
พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส นามของเราน่าเกรงขามในหมู่นานาชาติ บัดนี้ บรรดาสมณะเอ๋ย พระบัญชานี้สำหรับท่านทั้งหลาย ถ้าท่านไม่ยอมฟัง ไม่ใส่ใจที่จะถวายเกียรติแก่นามของเรา พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส เราจะส่งคำสาปแช่งมาเหนือท่าน เราจะเปลี่ยนพระพรที่ท่านหวังจะได้รับให้เป็นคำสาปแช่งอันที่จริง เราได้สาปแช่งพระพรนี้แล้ว เพราะท่านไม่ได้ใส่ใจจริง ดูซิ เคนจะแสวงหาคำสั่งสอนจากปากของเขา เพราะเขาเป็นผู้ถือสารของพระยาห์เวห์จอมจักรวาล แต่ท่านทั้งหลายได้หันไปจากทางนั้น ท่านเป็นเหตุให้หลายคนต้องสะดุดเพราะคำสั่งสอนของท่าน ท่านได้บิดเบือนพันสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเลวี พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส เราทำให้ท่านเป็นที่ดูหมิ่นและเหยียดหยามต่อหน้าประชากรทั้งหมด เพราะท่านไม่ได้ดำเนินตามหนทางของเรา แต่ได้ลำเอียงในการใช้ธรรมบัญญัติ เราทุกคนมีบิดาคนเดียวมิใช่หรือ พระเจ้าพระองค์เดียวทรงสร้างพวกเรามิใช่หรือ แล้วทำไมเราจึงไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน และล่วงละเมิดพันธสัญญาที่ทรงทำไว้กับบรรพบุรุษของเราเล่า
บทอ่านที่สอง 1 เธสะโลนิกา 2:7b-9, 13
ทั้ง ๆ ที่เราอาจจะเรียกร้องเกียรติยศชื่อเสียงได้ในฐานะที่เป็นอัครสาวกของพระคริสตเจ้า ตรงกันข้าม เราทำตนเป็นคนอ่อนโยนในหมู่ท่านทั้งหลาย เสมือนแม่ดูแลลูกน้อยของตน เราห่วงใยท่าน จึงปรารถนาจะมอบให้ท่าน ไม่เพียงแต่ข่าวดีของพระเจ้าเท่านั้น แต่เราปรารถนาจะมอบชีวิตของเราแก่ท่านด้วย เพราะท่านทั้งหลายเป็นที่รักยิ่งของเรา
พี่น้องทั้งหลาย ท่านคงจำได้ถึงความเหน็ดเหนื่อยและความยากลำบากของเรา ขณะที่เราทำงานทั้งกลางวันกลางคืน เพื่อไม่ต้องเป็นภาระแก่ผู้ใดในบรรดาท่านทั้งหลาย เราประกาศข่าวดีของพระเจ้าให้ท่าน ด้วยเหตุนี้เราขอบพระคุณพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะเมื่อเราประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้ท่านฟัง ท่านฟังแล้วก็รับไว้ มิใช่เช่นวาจาของมนุษย์ แต่เช่นที่เป็นจริงคือ “พระวาจาของพระเจ้า” ซึ่งกำลังแสดงพลังอยู่ในท่านที่มีความเชื่อ
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 23:1-12
ครั้งนั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่ประชาชนและบรรดาศิษย์ว่า “พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนั่งบนธรรมาสน์ของโมเสส ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด ท่านจงปฏิบัติตามเถิด แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แต่ไม่ปฏิบัติ เขามัดสัมภาระหนักวางบนบ่าคนอื่น แต่เขาเองไม่ปรารถนาแม้แต่จะขยับนิ้วไปยกขึ้น เขาทำกิจการทุกอย่างเพื่อให้คนเห็น เช่น เขาขยายกลักบรรจุพระวาจาให้ใหญ่ขึ้น ผ้าคลุมของเขามีพู่ยาวกว่าของคนอื่น เขาชอบที่นั่งมีเกียรติในงานเลี้ยง ชอบนั่งแถวหน้าในศาลาธรรม
ชอบให้ผู้คนคำนับตามลานสาธารณะ ชอบให้ทุกคนเรียกว่า ‘รับบี’ “ส่วนท่านทั้งหลายอย่าให้ผู้ใดเรียกว่า ‘รับบี’ เพราะอาจารย์ของท่านมีเพียงผู้เดียวและทุกคนเป็นพี่น้องกัน ในโลกนี้อย่าเรียกผู้ใดว่า ‘บิดา’ เพราะว่าพระบิดาของท่านมีเพียงพระองค์เดียวคือพระบิดาในสวรรค์ อย่าให้ผู้ใดเรียกท่านว่า ‘อาจารย์’ เพราะพระอาจารย์ของท่านมีเพียงพระองค์เดียวคือพระคริสตเจ้า ในกลุ่มของท่าน ผู้ใดเป็นใหญ่จะต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น ผู้ใดที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”
คุณพ่อทิม: พระวรสารวันนี้เพื่อพระสงฆ์ แต่ก็เพื่อสาธุชนเช่นกัน การแต่งกายของทุกคนมีการกําหนดว่าควรจะแต่งกายอย่างไร ในสภาพใด พนักงาน คนใช้แรงงาน แม้กระทั่งการมาวัดร่วมมิสซา ก็ต้องให้เรียบร้อย สุภาพ
เราต้องการสร้างความประทับใจให้ผู้อื่นด้วยการแต่งกาย แม้กระทั่งมาร่วมมิสซา บางคนอาจจะใช้เวลานานในการแต่งหน้าแต่งตัว และถ้าเป็นโสดก็ต้องการให้คนโสดต่างเพศในวัดเห็นแล้วประทับใจ เราต้องการสร้างความประทับใจให้พ่อแม่ของเราด้วยการเรียน หัวหน้าของเราด้วยการทํางานขยันขันแข็งเพื่อจะได้เงินเดือนเพิ่มหรือเลื่อนตําแหน่งขึ้น
พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีต้องการสร้างความประทับใจให้ผู้คนได้เห็นเพื่อความอยากได้หน้าได้ตา
พระวรสารวันนี้ทําให้พ่อนึกถึง ชาวฟาริสีและคนเก็บภาษีในพระวิหาร ชาวฟาริสีโอ้อวดตัวเอง แต่คนเก็บภาษีก้มหน้ากราบขอโทษพระเป็นเจ้า
เพราะสํานึกตัวว่าเป็นคนบาปและพระเป็นเจ้าก็ให้อภัยโทษบาปของเขา
พวกเราต้องระวังตัวอย่าเป็นเหมือนชาวฟาริสีที่เดินบนเส้นทางผิดซึ่งจะนําไปสู่การถูกลงโทษจากพระเป็นเจ้า
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 32 ของเทศกาลธรรมดา 12 พฤศจิกายน 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของ คุณพ่อเคลเมน ( Father Clement) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง ปรีชาญาณ 6:12-16
ปรีชาญาณแจ่มใส ไม่มัวหมอง ผู้รักปรีชาญาณก็จะแลเห็นได้โดยง่าย ผู้แสวงหาปรีชาญาณก็จะพบ
ปรีชาญาณแสดงตนให้เป็นที่รู้จักอยู่แล้วก่อนที่ผู้ใดจะปรารถนา.ผู้ลุกขึ้นแสวงหาปรีชาญาณตั้งแต่รุ่งอรุณจะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย เขาจะพบปรีชาญาณนั่งอยู่หน้าประตูบ้าน.การไตร่ตรองถึงปรีชาญาณเป็นความรอบรู้อย่างสมบูรณ์ ผู้ตั้งตาคอยปรีชาญาณจะพ้นความกังวลโดยเร็ว ปรีชาญาณจะเดินไปแสวงหาผู้สมควรได้รับด้วย แสดงตนอย่างอ่อนโยนแก่เขาตามทาง ไปพบเขา ไม่ว่าเขากำลังคิดจะทำสิ่งใด
บทอ่านที่สอง 1เธสะโลนิกา 4:13-18
พี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านขาดความรู้ความเข้าใจถึงเรื่องผู้ล่วงหลับคือผู้ที่ตายไปแล้วเพื่อท่านจะได้ไม่โศกเศร้าเหมือนคนอื่นที่ไม่มีความหวัง เราเชื่อว่าพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพ เราจึงเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงนำบรรดาผู้หลับอยู่มากับพระองค์โดยทางพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกัน ตามพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราขอบอกท่านว่า เราผู้ยังมีชีวิตและรออยู่จนถึงวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะไม่ได้เปรียบบรรดาผู้ที่ล่วงหลับไปแล้ว เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จลงมาจากสวรรค์ตามพระบัญชา เมื่อมีเสียงหัวหน้าทูตสวรรค์และเสียงแตรของพระเจ้า บรรดาผู้ตายในพระคริสตเจ้าจะกลับคืนชีพก่อน ต่อจากนั้น เราผู้ยังมีชีวิตอยู่จะถูกรับขึ้นไปในกลุ่มเมฆพร้อมกับพวกเขา ไปพบองค์พระผู้เป็นเจ้าในท้องฟ้าเราจะได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป
จงใช้ถ้อยคำเช่นนี้ปลอบใจกันเถิด
พระวรสาร โดย นักบุญมัทธิว 25:1-13
“อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับหญิงสาวสิบคนถือตะเกียงออกไปรอรับเจ้าบ่าว ห้าคนเป็นคนโง่ อีกห้าคนเป็นคนฉลาด หญิงโง่นำตะเกียงไป แต่มิได้นำน้ำมันไปด้วย ส่วนหญิงฉลาด นำน้ำมันใส่ขวดไปพร้อมกับตะเกียง ทุกคนต่างง่วงและหลับไปเพราะเจ้าบ่าวมาช้า ครั้นเวลาเที่ยงคืน มีเสียงตะโกนบอกว่า ‘เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกไปรับกันเถิด’ หญิงสาวทุกคนจึงตื่นขึ้นแต่งตะเกียง หญิงโง่พูดกับหญิงฉลาดว่า ‘ขอน้ำมันให้เราบ้าง เพราะตะเกียงของเราจวนจะดับแล้ว’ หญิงฉลาดจึงตอบว่า ‘ไม่ได้ เพราะน้ำมันอาจไม่พอสำหรับเราและสำหรับพวกเธอด้วย จงไปหาคนขายแล้วซื้อเอาเองดีกว่า’ ขณะที่หญิงเหล่านั้นกำลังไปซื้อน้ำมัน เจ้าบ่าวก็มาถึง หญิงสาวที่เตรียมพร้อมจึงเข้าไปในห้องงานแต่งงานพร้อมกับเจ้าบ่าว แล้วประตูก็ปิด ในที่สุด พวกหญิงโง่ก็มาถึง พูดว่า ‘นายเจ้าขา นายเจ้าขา เปิดรับพวกเราด้วย’ แต่เขาตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราไม่รู้จักท่าน’ ดังนั้น จงตื่นเฝ้าระวังไว้เถิด เพราะท่านไม่รู้วันและเวลา”
คุณพ่อเคลเมน: พระเป็นเจ้าคือบ่อเกิดของปรีชาญาณ พวกเราต้องพร้อมตลอดเวลา ต้องสวดภาวนาเสมอ ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือมีความสุข ต้องอ่านพระคัมภีร์ไบเบิล ประวัตินักบุญต่างๆ แล้วทําตาม มีไฟไหม้บ้านในหมู่บ้านของพ่อ ข้าวของ ทุกสิ่งทุกอย่างโดนไฟไหม้ทําลาย เจ้าของบ้านเดินไปห้องนอนชั้นบนตรวจความเสียหาย แล้วก็พบว่าพระคําภีร์ไบเบิล เป็นสิ่งเดียวในบ้านที่ไม่ถูกเผาทําลาย ขอบมีรอยไหม้นิดๆ ...พระวาจาศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
ก่อนที่คุณพ่อจะให้พรจบมิสซา แขกรับเชิญของวัดก็แนะนำตัวเอง เขาเป็นประธานและผู้บริหารของสถานีวิทยุ "พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์" มี 5 สถานีในรัฐวอชิงตัน 1 สถานีในรัฐอลาสกา เอเอมและเอฟเอม ก่อตั้งเมื่อปีคศ 1922 ( 101 ปีที่แล้ว) โดยคุณพ่อซีแบสเชี่ยน รู้ธ (Father Sebastian Ruth, Benedictine Monk) มหาวิทยาลัยเซนต์มาร์ติน เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน ( Saint Martin's University) ก่อตั้งปีคศ 1895 (128 ปีที่แล้ว) เป็นหนึ่งในสถานีวิทยุที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา บริการ 4.5 ล้านคน ค่าใช้จ่าย $670,000 ต่อปี (฿23 ล้านครึ่ง) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ทุนได้รับจากผู้ฟังและพี่น้องชาวโรมันคาทอลิก เขาขอให้พวกเราช่วยด้วยเงินเท่าที่จะทําได้ เอาใบปลิวกรอกข้อความแจ้งความประสงค์จะบริจาค อีกประมาณอาทิตย์จะได้รับจดหมายจากองค์กรของเขาเป็นหลักเป็นฐาน
แขกรับเชิญ: ผมพบกับสัตบุรุษของวัดที่นี่สองคนก่อนเริ่มมิสซา เขาทั้งสองบอกผมว่าเพราะเขารับฟังสถานีวิทยุของเรา เขาจึงจะเป็นโรมันคาทอลิกเหมือนพวกเรา กำลังเรียนคําสอนอยู่ เขาพบอีกคนหนึ่งที่บอกเขาว่า อดีตเป็นโปรเตสแต้นท์ ฟังสถานีวิทยุของเราแล้วกลับใจเป็นโรมันคาทอลิกที่สืบต่อจากอัครสาวกเปโตร อีกคนบอกเขาว่า ช่วงโควิด-19 ไปไหนมาไหนไม่ได้ กลุ้มใจ หงุดหงิด ฟังสถานีวิทยุของเราแล้วสบายใจ ช่วยเหลือบํารุงจิตใจมาตลอด
มิสซาจบ ผมกับภรรยา เตรียมขับรถกลับบ้าน แล้วเปิดสถานีวิทยุในรถ ปรากฏว่า เป็นหนึ่งในสถานีที่ผมได้เก็บไว้แล้ว ผมกับภรรยามองหน้ากันแล้วหัวเราะหึหึ...
กลับบ้านก็เห็นหนังสือครบรอบ 100 ปีของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ที่ผมกับครอบครัวเป็นสมาชิกในทะเบียนวัด มีรูปภาพของคุณพ่อ ทีมงาน พวกเรา ที่มาถ่ายรูป เป็นอนุสรณ์ 320 ครอบครัว แต่จริงๆแล้วคงกว่า 400 ครอบครัว ประมาณ 2,000 กว่าคน
จิตใจสดชื่นแจ่มใส ภาคภูมิใจในความเป็นโรมันคาทอลิก เราทุกคนร่วมแรงร่วมใจร่วมทุนทรัพย์ร่วมสวดภาวนาสนับสนุนการแพร่ธรรมประกาศข่าวดีพระวาจาศักดิ์สิทธิ์ ประทานชีวิตตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดาสหพันธ์นักบุญทุกท่าน...
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง ปรีชาญาณ 6:12-16
ปรีชาญาณแจ่มใส ไม่มัวหมอง ผู้รักปรีชาญาณก็จะแลเห็นได้โดยง่าย ผู้แสวงหาปรีชาญาณก็จะพบ
ปรีชาญาณแสดงตนให้เป็นที่รู้จักอยู่แล้วก่อนที่ผู้ใดจะปรารถนา.ผู้ลุกขึ้นแสวงหาปรีชาญาณตั้งแต่รุ่งอรุณจะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย เขาจะพบปรีชาญาณนั่งอยู่หน้าประตูบ้าน.การไตร่ตรองถึงปรีชาญาณเป็นความรอบรู้อย่างสมบูรณ์ ผู้ตั้งตาคอยปรีชาญาณจะพ้นความกังวลโดยเร็ว ปรีชาญาณจะเดินไปแสวงหาผู้สมควรได้รับด้วย แสดงตนอย่างอ่อนโยนแก่เขาตามทาง ไปพบเขา ไม่ว่าเขากำลังคิดจะทำสิ่งใด
บทอ่านที่สอง 1เธสะโลนิกา 4:13-18
พี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านขาดความรู้ความเข้าใจถึงเรื่องผู้ล่วงหลับคือผู้ที่ตายไปแล้วเพื่อท่านจะได้ไม่โศกเศร้าเหมือนคนอื่นที่ไม่มีความหวัง เราเชื่อว่าพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพ เราจึงเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงนำบรรดาผู้หลับอยู่มากับพระองค์โดยทางพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกัน ตามพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราขอบอกท่านว่า เราผู้ยังมีชีวิตและรออยู่จนถึงวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะไม่ได้เปรียบบรรดาผู้ที่ล่วงหลับไปแล้ว เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จลงมาจากสวรรค์ตามพระบัญชา เมื่อมีเสียงหัวหน้าทูตสวรรค์และเสียงแตรของพระเจ้า บรรดาผู้ตายในพระคริสตเจ้าจะกลับคืนชีพก่อน ต่อจากนั้น เราผู้ยังมีชีวิตอยู่จะถูกรับขึ้นไปในกลุ่มเมฆพร้อมกับพวกเขา ไปพบองค์พระผู้เป็นเจ้าในท้องฟ้าเราจะได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป
จงใช้ถ้อยคำเช่นนี้ปลอบใจกันเถิด
พระวรสาร โดย นักบุญมัทธิว 25:1-13
“อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับหญิงสาวสิบคนถือตะเกียงออกไปรอรับเจ้าบ่าว ห้าคนเป็นคนโง่ อีกห้าคนเป็นคนฉลาด หญิงโง่นำตะเกียงไป แต่มิได้นำน้ำมันไปด้วย ส่วนหญิงฉลาด นำน้ำมันใส่ขวดไปพร้อมกับตะเกียง ทุกคนต่างง่วงและหลับไปเพราะเจ้าบ่าวมาช้า ครั้นเวลาเที่ยงคืน มีเสียงตะโกนบอกว่า ‘เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกไปรับกันเถิด’ หญิงสาวทุกคนจึงตื่นขึ้นแต่งตะเกียง หญิงโง่พูดกับหญิงฉลาดว่า ‘ขอน้ำมันให้เราบ้าง เพราะตะเกียงของเราจวนจะดับแล้ว’ หญิงฉลาดจึงตอบว่า ‘ไม่ได้ เพราะน้ำมันอาจไม่พอสำหรับเราและสำหรับพวกเธอด้วย จงไปหาคนขายแล้วซื้อเอาเองดีกว่า’ ขณะที่หญิงเหล่านั้นกำลังไปซื้อน้ำมัน เจ้าบ่าวก็มาถึง หญิงสาวที่เตรียมพร้อมจึงเข้าไปในห้องงานแต่งงานพร้อมกับเจ้าบ่าว แล้วประตูก็ปิด ในที่สุด พวกหญิงโง่ก็มาถึง พูดว่า ‘นายเจ้าขา นายเจ้าขา เปิดรับพวกเราด้วย’ แต่เขาตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราไม่รู้จักท่าน’ ดังนั้น จงตื่นเฝ้าระวังไว้เถิด เพราะท่านไม่รู้วันและเวลา”
คุณพ่อเคลเมน: พระเป็นเจ้าคือบ่อเกิดของปรีชาญาณ พวกเราต้องพร้อมตลอดเวลา ต้องสวดภาวนาเสมอ ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือมีความสุข ต้องอ่านพระคัมภีร์ไบเบิล ประวัตินักบุญต่างๆ แล้วทําตาม มีไฟไหม้บ้านในหมู่บ้านของพ่อ ข้าวของ ทุกสิ่งทุกอย่างโดนไฟไหม้ทําลาย เจ้าของบ้านเดินไปห้องนอนชั้นบนตรวจความเสียหาย แล้วก็พบว่าพระคําภีร์ไบเบิล เป็นสิ่งเดียวในบ้านที่ไม่ถูกเผาทําลาย ขอบมีรอยไหม้นิดๆ ...พระวาจาศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
ก่อนที่คุณพ่อจะให้พรจบมิสซา แขกรับเชิญของวัดก็แนะนำตัวเอง เขาเป็นประธานและผู้บริหารของสถานีวิทยุ "พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์" มี 5 สถานีในรัฐวอชิงตัน 1 สถานีในรัฐอลาสกา เอเอมและเอฟเอม ก่อตั้งเมื่อปีคศ 1922 ( 101 ปีที่แล้ว) โดยคุณพ่อซีแบสเชี่ยน รู้ธ (Father Sebastian Ruth, Benedictine Monk) มหาวิทยาลัยเซนต์มาร์ติน เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน ( Saint Martin's University) ก่อตั้งปีคศ 1895 (128 ปีที่แล้ว) เป็นหนึ่งในสถานีวิทยุที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา บริการ 4.5 ล้านคน ค่าใช้จ่าย $670,000 ต่อปี (฿23 ล้านครึ่ง) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ทุนได้รับจากผู้ฟังและพี่น้องชาวโรมันคาทอลิก เขาขอให้พวกเราช่วยด้วยเงินเท่าที่จะทําได้ เอาใบปลิวกรอกข้อความแจ้งความประสงค์จะบริจาค อีกประมาณอาทิตย์จะได้รับจดหมายจากองค์กรของเขาเป็นหลักเป็นฐาน
แขกรับเชิญ: ผมพบกับสัตบุรุษของวัดที่นี่สองคนก่อนเริ่มมิสซา เขาทั้งสองบอกผมว่าเพราะเขารับฟังสถานีวิทยุของเรา เขาจึงจะเป็นโรมันคาทอลิกเหมือนพวกเรา กำลังเรียนคําสอนอยู่ เขาพบอีกคนหนึ่งที่บอกเขาว่า อดีตเป็นโปรเตสแต้นท์ ฟังสถานีวิทยุของเราแล้วกลับใจเป็นโรมันคาทอลิกที่สืบต่อจากอัครสาวกเปโตร อีกคนบอกเขาว่า ช่วงโควิด-19 ไปไหนมาไหนไม่ได้ กลุ้มใจ หงุดหงิด ฟังสถานีวิทยุของเราแล้วสบายใจ ช่วยเหลือบํารุงจิตใจมาตลอด
มิสซาจบ ผมกับภรรยา เตรียมขับรถกลับบ้าน แล้วเปิดสถานีวิทยุในรถ ปรากฏว่า เป็นหนึ่งในสถานีที่ผมได้เก็บไว้แล้ว ผมกับภรรยามองหน้ากันแล้วหัวเราะหึหึ...
กลับบ้านก็เห็นหนังสือครบรอบ 100 ปีของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ที่ผมกับครอบครัวเป็นสมาชิกในทะเบียนวัด มีรูปภาพของคุณพ่อ ทีมงาน พวกเรา ที่มาถ่ายรูป เป็นอนุสรณ์ 320 ครอบครัว แต่จริงๆแล้วคงกว่า 400 ครอบครัว ประมาณ 2,000 กว่าคน
จิตใจสดชื่นแจ่มใส ภาคภูมิใจในความเป็นโรมันคาทอลิก เราทุกคนร่วมแรงร่วมใจร่วมทุนทรัพย์ร่วมสวดภาวนาสนับสนุนการแพร่ธรรมประกาศข่าวดีพระวาจาศักดิ์สิทธิ์ ประทานชีวิตตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดาสหพันธ์นักบุญทุกท่าน...
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 33 ของเทศกาลธรรมดา 19 พฤศจิกายน 2023 บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของ สังฆานุกรเรย์ ( Deacon Rey) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง หนังสือสุภาษิต 31:10-13, 19-20, 30-31
ใครจะพบภรรยาที่มีคุณธรรมได้ เธอประเสริฐกว่าไข่มุกยิ่งนัก จิตใจของสามีก็วางใจเธอ เขาจะไม่ขาดกำไร เธอทำให้เขามีความสุข ไม่ก่อความทุกข์ให้เขาเลยตลอดชีวิตของเธอ เธอไปหาขนแกะและป่าน มาทอเป็นผืนผ้าด้วยมืออย่างเต็มใจ เธอยื่นมือจับไนปั่นด้าย นิ้วมือของเธอหมุนเครื่องกรอด้าย เธอเหยียดมือช่วยเหลือคนยากจน ยื่นมือช่วยเหลือคนขัดสน เสน่ห์เป็นสิ่งหลอกลวง ความสวยงามก็ไม่จีรังยั่งยืน แต่สตรีที่ยำเกรงพระเจ้าสมควรได้รับคำสรรเสริญ จงให้เธอได้รับผลจากมือของเธอ การงานของเธอจงสรรเสริญเธอที่ประตูเมือง
บทอ่านที่สอง 1เธสะโลนิกา 5:1-6
พี่น้องทั้งหลาย ไม่จำเป็นที่จะเขียนบอกท่านเรื่องวันเวลาที่กำหนด ท่านรู้อยู่แล้วว่า วันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเหมือนขโมยที่มาตอนกลางคืน เมื่อใดที่กล่าวกันว่า “มีสันติและความปลอดภัยแล้ว” เมื่อนั้นความพินาศจะอุบัติแก่เขาโดยฉับพลันเหมือนความเจ็บปวดของหญิงมีครรภ์ แล้วเขาจะหนีไม่พ้น ส่วนท่าน พี่น้องทั้งหลาย อย่าดำรงชีวิตในความมืด เพราะวันนั้นจะมาถึงโดยไม่รู้ตัวเหมือนขโมย ทุกท่านเป็นบุตรแห่งความสว่างและบุตรแห่งทิวากาล เรามิได้อยู่ฝ่ายราตรีกาลหรือความมืด ดังนั้น เราอย่าหลับใหลเหมือนคนอื่น จงตื่นอยู่เสมอและจงรู้จักประมาณตน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 25:14-30
“อาณาจักรสวรรค์ยังจะเปรียบได้กับบุรุษผู้หนึ่งกำลังจะเดินทางไกล เรียกผู้รับใช้มามอบทรัพย์สินให้ ให้คนที่หนึ่งห้าตะลันต์ ให้คนที่สองสองตะลันต์ ให้คนที่สามหนึ่งตะลันต์ ตามความสามารถของแต่ละคน แล้วจึงออกเดินทางไป คนที่รับห้าตะลันต์รีบนำเงินนั้นไปลงทุน ได้กำไรมาอีกห้าตะลันต์
คนที่รับสองตะลันต์ก็ได้กำไรมาอีกสองตะลันต์เช่นเดียวกัน แต่คนที่รับหนึ่งตะลันต์ไปขุดหลุมซ่อนเงินของนายไว้ หลังจากนั้นอีกนาน นายของผู้รับใช้พวกนี้ก็กลับมาและตรวจบัญชีของพวกเขา คนที่รับห้าตะลันต์เข้ามา นำกำไรอีกห้าตะลันต์มาด้วย กล่าวว่า ‘นายขอรับ ท่านให้ข้าพเจ้าห้าตะลันต์ นี่คือเงินอีกห้าตะลันต์ที่ข้าพเจ้าทำกำไรได้’ นายพูดว่า ‘ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย เราจะให้เจ้าจัดการในเรื่องใหญ่ๆ จงมาร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’ คนที่รับสองตะลันต์เข้ามารายงานว่า ‘นายขอรับ ท่านให้ข้าพเจ้าสองตะลันต์ นี่คือเงินอีกสองตะลันต์ที่ข้าพเจ้าทำกำไรได้’ นายพูดว่า ‘ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย เราจะให้เจ้าจัดการในเรื่องใหญ่ๆ จงมาร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’ คนที่รับหนึ่งตะลันต์เข้ามารายงานว่า ‘นายขอรับ ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านเป็นคนเข้มงวด เก็บเกี่ยวในที่ที่ท่านไม่ได้หว่าน เก็บรวบรวมในที่ที่ท่านไม่ได้โปรย ข้าพเจ้ามีความกลัว จึงนำเงินของท่านไปฝังดินซ่อนไว้ นี่คือเงินของท่าน’ นายจึงตอบว่า ‘ผู้รับใช้เลวและเกียจคร้าน เจ้ารู้ว่าข้าเก็บเกี่ยวในที่ที่ข้ามิได้หว่าน เก็บรวบรวมในที่ที่ข้ามิได้โปรย เจ้าก็ควรนำเงินของข้าไปฝากธนาคารไว้ เมื่อข้ากลับมาจะได้ถอนเงินของข้าพร้อมกับดอกเบี้ย จงนำเงินหนึ่งตะลันต์จากเขาไปให้แก่ผู้ที่มีสิบตะลันต์ เพราะผู้ที่มีมาก จะได้รับมากขึ้น และเขาจะมีเหลือเฟือ แต่ผู้ที่มีน้อย สิ่งเล็กน้อยที่เขามีก็จะถูกริบไปด้วย ส่วนผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์นี้ จงนำไปทิ้งในที่มืดข้างนอก ที่นั่นจะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง’”
สังฆานุกรเรย์: มีคํากลอนของเด็กๆว่า คนทําเกือกม้าทําเกือกม้าไม่ดี ทําให้เสียนายพล เมื่อเสียนายพลก็ทําให้เสียศึก คํากลอนนี้ใช้ได้กับพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่เพราะถ้าเราไม่ทําหน้าที่ความรับผิดชอบ ผลเสียก็จะเป็นแบบลูกโซ่ตามกันมา
เงินตะลันต์ในพระวรสารมีค่าในปัจจุบันประมาณ ($15,000=525,000 บาท) เป็นเงินจํานวนมากที่นายให้คนรับใช้ คนแรก ห้าตะลันต์ ( 2,625,000 บาท) คนที่สอง สองตะลันต์ (1,050,000 บาท) และคนที่สาม หนึ่งตะลันต์ ( 525,000 บาท) มันก็คือพรสวรรค์ ที่เราแต่ละคนได้รับจากพระเป็นเจ้านั่นเอง เราทุกคนต้องนําพระพร ความรู้ ความสามารถที่พระองค์ประทานให้ มาทําให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ครอบครัว ญาติมิตร และพระศาสนจักร ทําศาสนกิจที่เราถนัด ต้องร่วมกันคนละไม้คนละมือ หลังมิสซา เดินไปที่โต๊ะทางเข้าออกของวัดแล้วก็ถามทีมงานวัดว่าจะให้ช่วยอะไร ทีมงานมีรายการของศาสนกิจหลายอย่างที่คุณดูแล้วก็สมัครทําได้ตามความสามารถ...
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ข้างบน
บทอ่านที่หนึ่ง หนังสือสุภาษิต 31:10-13, 19-20, 30-31
ใครจะพบภรรยาที่มีคุณธรรมได้ เธอประเสริฐกว่าไข่มุกยิ่งนัก จิตใจของสามีก็วางใจเธอ เขาจะไม่ขาดกำไร เธอทำให้เขามีความสุข ไม่ก่อความทุกข์ให้เขาเลยตลอดชีวิตของเธอ เธอไปหาขนแกะและป่าน มาทอเป็นผืนผ้าด้วยมืออย่างเต็มใจ เธอยื่นมือจับไนปั่นด้าย นิ้วมือของเธอหมุนเครื่องกรอด้าย เธอเหยียดมือช่วยเหลือคนยากจน ยื่นมือช่วยเหลือคนขัดสน เสน่ห์เป็นสิ่งหลอกลวง ความสวยงามก็ไม่จีรังยั่งยืน แต่สตรีที่ยำเกรงพระเจ้าสมควรได้รับคำสรรเสริญ จงให้เธอได้รับผลจากมือของเธอ การงานของเธอจงสรรเสริญเธอที่ประตูเมือง
บทอ่านที่สอง 1เธสะโลนิกา 5:1-6
พี่น้องทั้งหลาย ไม่จำเป็นที่จะเขียนบอกท่านเรื่องวันเวลาที่กำหนด ท่านรู้อยู่แล้วว่า วันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเหมือนขโมยที่มาตอนกลางคืน เมื่อใดที่กล่าวกันว่า “มีสันติและความปลอดภัยแล้ว” เมื่อนั้นความพินาศจะอุบัติแก่เขาโดยฉับพลันเหมือนความเจ็บปวดของหญิงมีครรภ์ แล้วเขาจะหนีไม่พ้น ส่วนท่าน พี่น้องทั้งหลาย อย่าดำรงชีวิตในความมืด เพราะวันนั้นจะมาถึงโดยไม่รู้ตัวเหมือนขโมย ทุกท่านเป็นบุตรแห่งความสว่างและบุตรแห่งทิวากาล เรามิได้อยู่ฝ่ายราตรีกาลหรือความมืด ดังนั้น เราอย่าหลับใหลเหมือนคนอื่น จงตื่นอยู่เสมอและจงรู้จักประมาณตน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 25:14-30
“อาณาจักรสวรรค์ยังจะเปรียบได้กับบุรุษผู้หนึ่งกำลังจะเดินทางไกล เรียกผู้รับใช้มามอบทรัพย์สินให้ ให้คนที่หนึ่งห้าตะลันต์ ให้คนที่สองสองตะลันต์ ให้คนที่สามหนึ่งตะลันต์ ตามความสามารถของแต่ละคน แล้วจึงออกเดินทางไป คนที่รับห้าตะลันต์รีบนำเงินนั้นไปลงทุน ได้กำไรมาอีกห้าตะลันต์
คนที่รับสองตะลันต์ก็ได้กำไรมาอีกสองตะลันต์เช่นเดียวกัน แต่คนที่รับหนึ่งตะลันต์ไปขุดหลุมซ่อนเงินของนายไว้ หลังจากนั้นอีกนาน นายของผู้รับใช้พวกนี้ก็กลับมาและตรวจบัญชีของพวกเขา คนที่รับห้าตะลันต์เข้ามา นำกำไรอีกห้าตะลันต์มาด้วย กล่าวว่า ‘นายขอรับ ท่านให้ข้าพเจ้าห้าตะลันต์ นี่คือเงินอีกห้าตะลันต์ที่ข้าพเจ้าทำกำไรได้’ นายพูดว่า ‘ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย เราจะให้เจ้าจัดการในเรื่องใหญ่ๆ จงมาร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’ คนที่รับสองตะลันต์เข้ามารายงานว่า ‘นายขอรับ ท่านให้ข้าพเจ้าสองตะลันต์ นี่คือเงินอีกสองตะลันต์ที่ข้าพเจ้าทำกำไรได้’ นายพูดว่า ‘ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย เราจะให้เจ้าจัดการในเรื่องใหญ่ๆ จงมาร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’ คนที่รับหนึ่งตะลันต์เข้ามารายงานว่า ‘นายขอรับ ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านเป็นคนเข้มงวด เก็บเกี่ยวในที่ที่ท่านไม่ได้หว่าน เก็บรวบรวมในที่ที่ท่านไม่ได้โปรย ข้าพเจ้ามีความกลัว จึงนำเงินของท่านไปฝังดินซ่อนไว้ นี่คือเงินของท่าน’ นายจึงตอบว่า ‘ผู้รับใช้เลวและเกียจคร้าน เจ้ารู้ว่าข้าเก็บเกี่ยวในที่ที่ข้ามิได้หว่าน เก็บรวบรวมในที่ที่ข้ามิได้โปรย เจ้าก็ควรนำเงินของข้าไปฝากธนาคารไว้ เมื่อข้ากลับมาจะได้ถอนเงินของข้าพร้อมกับดอกเบี้ย จงนำเงินหนึ่งตะลันต์จากเขาไปให้แก่ผู้ที่มีสิบตะลันต์ เพราะผู้ที่มีมาก จะได้รับมากขึ้น และเขาจะมีเหลือเฟือ แต่ผู้ที่มีน้อย สิ่งเล็กน้อยที่เขามีก็จะถูกริบไปด้วย ส่วนผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์นี้ จงนำไปทิ้งในที่มืดข้างนอก ที่นั่นจะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง’”
สังฆานุกรเรย์: มีคํากลอนของเด็กๆว่า คนทําเกือกม้าทําเกือกม้าไม่ดี ทําให้เสียนายพล เมื่อเสียนายพลก็ทําให้เสียศึก คํากลอนนี้ใช้ได้กับพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่เพราะถ้าเราไม่ทําหน้าที่ความรับผิดชอบ ผลเสียก็จะเป็นแบบลูกโซ่ตามกันมา
เงินตะลันต์ในพระวรสารมีค่าในปัจจุบันประมาณ ($15,000=525,000 บาท) เป็นเงินจํานวนมากที่นายให้คนรับใช้ คนแรก ห้าตะลันต์ ( 2,625,000 บาท) คนที่สอง สองตะลันต์ (1,050,000 บาท) และคนที่สาม หนึ่งตะลันต์ ( 525,000 บาท) มันก็คือพรสวรรค์ ที่เราแต่ละคนได้รับจากพระเป็นเจ้านั่นเอง เราทุกคนต้องนําพระพร ความรู้ ความสามารถที่พระองค์ประทานให้ มาทําให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ครอบครัว ญาติมิตร และพระศาสนจักร ทําศาสนกิจที่เราถนัด ต้องร่วมกันคนละไม้คนละมือ หลังมิสซา เดินไปที่โต๊ะทางเข้าออกของวัดแล้วก็ถามทีมงานวัดว่าจะให้ช่วยอะไร ทีมงานมีรายการของศาสนกิจหลายอย่างที่คุณดูแล้วก็สมัครทําได้ตามความสามารถ...
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ข้างบน
วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2023 สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของ สังฆานุกรรอนนี่ ซาน นิโคลัส ( Deacon Ronnie San Nicolas) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา Sacredness Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง เอเสเคียล 34:11-12,15-17
เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ‘ดูซิ เราจะตามหาและจะแสวงหาฝูงแกะของเราเอง ผู้เลี้ยงแกะอยู่กับฝูงแกะและรวบรวมแกะที่กระจัดกระจายไปฉันใด เราก็จะรวบรวมแกะของเราฉันนั้น เราจะช่วยแกะให้พ้นจากสถานที่ที่แกะได้กระจัดกระจายไปอยู่ในวันที่มีเมฆและมีความมืดทึบ
เราจะนำแกะของเราออกนอนลงบนทุ่งหญ้าที่ดี และเขาจะเล็มหญ้าอยู่ตามทุ่งหญ้าอุดมบนภูเขาแห่งอิสราเอล เราเองจะเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา เราจะให้เขานอนพัก พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส เราจะตามหาแกะที่สูญหายไป เราจะนำแกะที่หลงทางกลับมา เราจะพันแผลของแกะที่บาดเจ็บ เราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย เราจะดูแล แกะที่อ้วนและแข็งแรง เราจะเลี้ยงเขาอย่างยุติธรรม
พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ‘ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นฝูงแพะแกะของเราเอ๋ย ดูซิ เราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ ระหว่างแกะเพศผู้กับแพะเพศผู้'
บทอ่านที่สอง 1 โครินธ์ 15:20-26,28
ความจริง พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงหลับไปแล้ว ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น มนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น
แต่จะเป็นไปตามลำดับของแต่ละคน พระคริสตเจ้าทรงเป็นผลแรก ต่อไปก็คือผู้ที่เป็นของพระคริสตเจ้า เมื่อพระองค์จะเสด็จมา แล้วจะถึงวาระสุดท้าย เวลานั้นพระองค์จะทรงมอบพระอาณาจักรให้แก่พระเจ้าพระบิดา หลังจากทรงทำลายการปกครอง อำนาจและอานุภาพทั้งหลาย เพราะพระคริสตเจ้าจะต้องทรงครองราชย์จนกว่าพระเจ้าจะทรงปราบศัตรูทั้งมวลให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์ ศัตรูสุดท้ายที่จะถูกทำลายคือความตาย เพราะพระเจ้าทรงปราบทุกสิ่งให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์ เมื่อทุกสิ่งถูกปราบอยู่ใต้อำนาจของพระคริสตเจ้าแล้ว พระบุตรก็จะทรงอยู่ใต้อำนาจของพระเจ้า ผู้ทรงปราบทุกสิ่งให้อยู่ใต้อำนาจของพระองค์ เพื่อพระเจ้าจะได้ทรงเป็นทุกสิ่งในทุกคน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 25:31-46
“เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ พระองค์จะประทับเหนือพระบัลลังก์อันรุ่งโรจน์ บรรดาประชาชาติจะมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์ พระองค์จะทรงแยกเขาออกเป็นสองพวก ดังคนเลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ ให้แกะอยู่เบื้องขวา ส่วนแพะอยู่เบื้องซ้าย
แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสแก่ผู้ที่อยู่เบื้องขวาว่า ‘เชิญมาเถิด ท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา เชิญมารับอาณาจักรเป็นมรดกที่เตรียมไว้ให้ท่านแล้วตั้งแต่สร้างโลก เพราะว่า เมื่อเราหิว ท่านให้เรากิน เรากระหาย ท่านให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ต้อนรับ เราไม่มีเสื้อผ้า ท่านก็ให้เสื้อผ้าแก่เรา เราเจ็บป่วย ท่านก็มาเยี่ยม เราอยู่ในคุก ท่านก็มาหา’ “บรรดาผู้ชอบธรรมจะทูลถามว่า ‘พระเจ้าข้า เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงหิว แล้วถวายพระกระยาหาร หรือทรงกระหาย แล้วถวายให้ทรงดื่ม เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้า แล้วต้อนรับ หรือทรงไม่มีเสื้อผ้า แล้วถวายให้ เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ประชวรหรือทรงอยู่ในคุกแล้วไปเยี่ยม’ พระมหากษัตริย์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา’ แล้วพระองค์จะตรัสกับพวกที่อยู่เบื้องซ้ายว่า ‘ท่านทั้งหลายที่ถูกสาปแช่ง จงไปให้พ้น ลงไปในไฟนิรันดรที่ได้เตรียมไว้ให้ปีศาจและพรรคพวกของมัน เพราะว่า เมื่อเราหิว ท่านไม่ให้อะไรเรากิน เรากระหาย ท่านไม่ให้อะไรเราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ไม่ต้อนรับ เราไม่มีเสื้อผ้า ท่านก็ไม่ให้เสื้อผ้า เราเจ็บป่วยและอยู่ในคุก ท่านก็ไม่มาเยี่ยม’ พวกนั้นจะทูลถามว่า ‘พระเจ้าข้า เมื่อใดเล่าที่ข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงหิว ทรงกระหาย ทรงเป็นแขกแปลกหน้า หรือไม่มีเสื้อผ้า เจ็บป่วย หรืออยู่ในคุก และไม่ได้ช่วยเหลือ’ พระองค์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านไม่ได้ทำสิ่งใดต่อผู้ต่ำต้อยของเราคนหนึ่งท่านก็ไม่ได้ทำสิ่งนั้นต่อเรา’ แล้วพวกนี้ก็จะไปรับโทษนิรันดร ส่วนผู้ชอบธรรมจะไปรับชีวิตนิรันดร”
สังฆานุกร รอนนี่: วันอาทิตย์นี้เป็นวันสิ้นสุดของปฎิทินพิธีกรรมปีคศ 2023 ของพวกเราโรมันคาทอลิก
บทอ่านที่หนึ่ง พระเจ้าทรงตรัสกับประกาศก เอเสเคียลโดยใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง "เรา" พระเจ้าจะทรงตามหา ดูแล เลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์
บทอ่านที่สอง พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงหลับไปแล้ว ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น มนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น
พวกเราต้องจําไว้ว่าพระวรสารวันนี้เป็นช่วงเวลาที่พระเยซูเจ้าและอัครสาวกกําลังเดินทางไปเมืองเยรูซาเล็มเตรียมฉลองวันปัสกาและที่นั่นพระองค์จะถูกทรยศถูกคุมขังและถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อไถ่กู้พวกเรามวลมนุษยชาติ
โป๊ปไพอัส ที่11 ทรงสถาปนาวันสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาลเมื่อปี 1925 (Pope Pius II , 31 พฤษภาคม 1857- 10 กุมภาพันธ์ 1938, 94 ปีมาแล้ว) เพื่อประกาศยืนยันและเสริมสร้างศรัทธาของโรมันคาทอลิกในยุคที่พระศาสนจักรถูกเบียดเบียนทําร้ายเข่นฆ่าจากประเทศเม็กซิโก นาซี และ รัสเซีย รวมทั้งความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในยุคนั้น พระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้โลกมีสันติสุขแบบถาวร
ปัจจุบันมีสถาบันกษัตริย์อยู่หลายประเทศที่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ อาทิเช่น สหราชอาณาจักร ( United Kingdom) ประเทศทองก้า ( Tonga) และประเทศฮอลแลนด์ /เนเธอร์แลนด์ ( Holland/ Netherlands )
พระราชินีวิลเฮมมินา ( Queen Wilhelmina) ย่าของกษัตริย์เนเธอร์แลนด์องค์ปัจจุบัน ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชินีเมื่อวัยเด็ก พระแม่ต้องเป็นผู้ครองราชการให้ ประชาชนเรียกร้องขอดูตัวพระราชินีองค์น้อย เมื่อทรงเห็นประชาชนจํานวนมหาศาลมากมายมาถวายพระพร พระองค์ถามพระแม่ว่า คนเหล่านี้ทุกคนเป็นของพระองค์หรือ? พระแม่ตอบว่า ไม่ใช่ ลูกเป็นของคนเหล่านี้! พระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาลเป็นของเรามวลมนุษยชาติทุกคน!
เมื่อมรณสักขีคุณพ่อมิเกล อกัสติน โพร ( Father Miguel Agustin Pro, 13 มกราคม 1891-23 พฤศจิกายน 1927, อายุ 36 ปี ชาวเม็กซิกัน, นักบุญโป๊ปจอห์นพอลที่สอง สถาปนาเป็นมรณสักขี 25 กันยายน 1988) ถูกรัฐบาลเม็กซิโกยัดเยียดข้อหาวางระเบิดและจะฆ่าประธานาธิบดี อัลเวโร โอเบรกอน ( President Alvaro Obregon) ก่อนจะถูกยิงเป้า ท่านขอคุกเข่าสวดภาวนามือถือกางเขนและสายประคํา อวยพรให้พวกทหารที่จะฆ่าท่าน ให้อภัยทุกคนและขอพระเป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกเขา ถูกยิงแต่ไม่ตาย มือสังหารเอาปืนจ่อหัวยิงในระยะประชิดตัว ก่อนตายท่านตะโกน " ขอทรงมีพระชนมชีพยืนยาว พระคริสตเจ้ากษัตริย์ ( Viva Cristo Rey! Long live Christ the King!)
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง เอเสเคียล 34:11-12,15-17
เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ‘ดูซิ เราจะตามหาและจะแสวงหาฝูงแกะของเราเอง ผู้เลี้ยงแกะอยู่กับฝูงแกะและรวบรวมแกะที่กระจัดกระจายไปฉันใด เราก็จะรวบรวมแกะของเราฉันนั้น เราจะช่วยแกะให้พ้นจากสถานที่ที่แกะได้กระจัดกระจายไปอยู่ในวันที่มีเมฆและมีความมืดทึบ
เราจะนำแกะของเราออกนอนลงบนทุ่งหญ้าที่ดี และเขาจะเล็มหญ้าอยู่ตามทุ่งหญ้าอุดมบนภูเขาแห่งอิสราเอล เราเองจะเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา เราจะให้เขานอนพัก พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส เราจะตามหาแกะที่สูญหายไป เราจะนำแกะที่หลงทางกลับมา เราจะพันแผลของแกะที่บาดเจ็บ เราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย เราจะดูแล แกะที่อ้วนและแข็งแรง เราจะเลี้ยงเขาอย่างยุติธรรม
พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ‘ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นฝูงแพะแกะของเราเอ๋ย ดูซิ เราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ ระหว่างแกะเพศผู้กับแพะเพศผู้'
บทอ่านที่สอง 1 โครินธ์ 15:20-26,28
ความจริง พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงหลับไปแล้ว ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น มนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น
แต่จะเป็นไปตามลำดับของแต่ละคน พระคริสตเจ้าทรงเป็นผลแรก ต่อไปก็คือผู้ที่เป็นของพระคริสตเจ้า เมื่อพระองค์จะเสด็จมา แล้วจะถึงวาระสุดท้าย เวลานั้นพระองค์จะทรงมอบพระอาณาจักรให้แก่พระเจ้าพระบิดา หลังจากทรงทำลายการปกครอง อำนาจและอานุภาพทั้งหลาย เพราะพระคริสตเจ้าจะต้องทรงครองราชย์จนกว่าพระเจ้าจะทรงปราบศัตรูทั้งมวลให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์ ศัตรูสุดท้ายที่จะถูกทำลายคือความตาย เพราะพระเจ้าทรงปราบทุกสิ่งให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์ เมื่อทุกสิ่งถูกปราบอยู่ใต้อำนาจของพระคริสตเจ้าแล้ว พระบุตรก็จะทรงอยู่ใต้อำนาจของพระเจ้า ผู้ทรงปราบทุกสิ่งให้อยู่ใต้อำนาจของพระองค์ เพื่อพระเจ้าจะได้ทรงเป็นทุกสิ่งในทุกคน
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 25:31-46
“เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ พระองค์จะประทับเหนือพระบัลลังก์อันรุ่งโรจน์ บรรดาประชาชาติจะมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์ พระองค์จะทรงแยกเขาออกเป็นสองพวก ดังคนเลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ ให้แกะอยู่เบื้องขวา ส่วนแพะอยู่เบื้องซ้าย
แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสแก่ผู้ที่อยู่เบื้องขวาว่า ‘เชิญมาเถิด ท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา เชิญมารับอาณาจักรเป็นมรดกที่เตรียมไว้ให้ท่านแล้วตั้งแต่สร้างโลก เพราะว่า เมื่อเราหิว ท่านให้เรากิน เรากระหาย ท่านให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ต้อนรับ เราไม่มีเสื้อผ้า ท่านก็ให้เสื้อผ้าแก่เรา เราเจ็บป่วย ท่านก็มาเยี่ยม เราอยู่ในคุก ท่านก็มาหา’ “บรรดาผู้ชอบธรรมจะทูลถามว่า ‘พระเจ้าข้า เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงหิว แล้วถวายพระกระยาหาร หรือทรงกระหาย แล้วถวายให้ทรงดื่ม เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้า แล้วต้อนรับ หรือทรงไม่มีเสื้อผ้า แล้วถวายให้ เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ประชวรหรือทรงอยู่ในคุกแล้วไปเยี่ยม’ พระมหากษัตริย์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา’ แล้วพระองค์จะตรัสกับพวกที่อยู่เบื้องซ้ายว่า ‘ท่านทั้งหลายที่ถูกสาปแช่ง จงไปให้พ้น ลงไปในไฟนิรันดรที่ได้เตรียมไว้ให้ปีศาจและพรรคพวกของมัน เพราะว่า เมื่อเราหิว ท่านไม่ให้อะไรเรากิน เรากระหาย ท่านไม่ให้อะไรเราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ไม่ต้อนรับ เราไม่มีเสื้อผ้า ท่านก็ไม่ให้เสื้อผ้า เราเจ็บป่วยและอยู่ในคุก ท่านก็ไม่มาเยี่ยม’ พวกนั้นจะทูลถามว่า ‘พระเจ้าข้า เมื่อใดเล่าที่ข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงหิว ทรงกระหาย ทรงเป็นแขกแปลกหน้า หรือไม่มีเสื้อผ้า เจ็บป่วย หรืออยู่ในคุก และไม่ได้ช่วยเหลือ’ พระองค์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านไม่ได้ทำสิ่งใดต่อผู้ต่ำต้อยของเราคนหนึ่งท่านก็ไม่ได้ทำสิ่งนั้นต่อเรา’ แล้วพวกนี้ก็จะไปรับโทษนิรันดร ส่วนผู้ชอบธรรมจะไปรับชีวิตนิรันดร”
สังฆานุกร รอนนี่: วันอาทิตย์นี้เป็นวันสิ้นสุดของปฎิทินพิธีกรรมปีคศ 2023 ของพวกเราโรมันคาทอลิก
บทอ่านที่หนึ่ง พระเจ้าทรงตรัสกับประกาศก เอเสเคียลโดยใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง "เรา" พระเจ้าจะทรงตามหา ดูแล เลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์
บทอ่านที่สอง พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงหลับไปแล้ว ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น มนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น
พวกเราต้องจําไว้ว่าพระวรสารวันนี้เป็นช่วงเวลาที่พระเยซูเจ้าและอัครสาวกกําลังเดินทางไปเมืองเยรูซาเล็มเตรียมฉลองวันปัสกาและที่นั่นพระองค์จะถูกทรยศถูกคุมขังและถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อไถ่กู้พวกเรามวลมนุษยชาติ
โป๊ปไพอัส ที่11 ทรงสถาปนาวันสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาลเมื่อปี 1925 (Pope Pius II , 31 พฤษภาคม 1857- 10 กุมภาพันธ์ 1938, 94 ปีมาแล้ว) เพื่อประกาศยืนยันและเสริมสร้างศรัทธาของโรมันคาทอลิกในยุคที่พระศาสนจักรถูกเบียดเบียนทําร้ายเข่นฆ่าจากประเทศเม็กซิโก นาซี และ รัสเซีย รวมทั้งความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในยุคนั้น พระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้โลกมีสันติสุขแบบถาวร
ปัจจุบันมีสถาบันกษัตริย์อยู่หลายประเทศที่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ อาทิเช่น สหราชอาณาจักร ( United Kingdom) ประเทศทองก้า ( Tonga) และประเทศฮอลแลนด์ /เนเธอร์แลนด์ ( Holland/ Netherlands )
พระราชินีวิลเฮมมินา ( Queen Wilhelmina) ย่าของกษัตริย์เนเธอร์แลนด์องค์ปัจจุบัน ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชินีเมื่อวัยเด็ก พระแม่ต้องเป็นผู้ครองราชการให้ ประชาชนเรียกร้องขอดูตัวพระราชินีองค์น้อย เมื่อทรงเห็นประชาชนจํานวนมหาศาลมากมายมาถวายพระพร พระองค์ถามพระแม่ว่า คนเหล่านี้ทุกคนเป็นของพระองค์หรือ? พระแม่ตอบว่า ไม่ใช่ ลูกเป็นของคนเหล่านี้! พระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาลเป็นของเรามวลมนุษยชาติทุกคน!
เมื่อมรณสักขีคุณพ่อมิเกล อกัสติน โพร ( Father Miguel Agustin Pro, 13 มกราคม 1891-23 พฤศจิกายน 1927, อายุ 36 ปี ชาวเม็กซิกัน, นักบุญโป๊ปจอห์นพอลที่สอง สถาปนาเป็นมรณสักขี 25 กันยายน 1988) ถูกรัฐบาลเม็กซิโกยัดเยียดข้อหาวางระเบิดและจะฆ่าประธานาธิบดี อัลเวโร โอเบรกอน ( President Alvaro Obregon) ก่อนจะถูกยิงเป้า ท่านขอคุกเข่าสวดภาวนามือถือกางเขนและสายประคํา อวยพรให้พวกทหารที่จะฆ่าท่าน ให้อภัยทุกคนและขอพระเป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกเขา ถูกยิงแต่ไม่ตาย มือสังหารเอาปืนจ่อหัวยิงในระยะประชิดตัว ก่อนตายท่านตะโกน " ขอทรงมีพระชนมชีพยืนยาว พระคริสตเจ้ากษัตริย์ ( Viva Cristo Rey! Long live Christ the King!)
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2023 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม อิลเกน ( Father Tim Ilgen) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา Sacredness Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 63:16-17, 64: 2-7
ข้าแต่พระยาห์เวห์ เหตุไฉนจึงทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย หลงไปจากวิถีทางของพระองค์ เหตุไฉนจึงทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีใจดื้อด้านจนไม่ยำเกรงพระองค์ โปรดทรงกลับมาเพราะเห็นแก่ผู้รับใช้พระองค์ และเห็นแก่ตระกูลที่เป็นมรดกของพระองค์เถิด เมื่อพระองค์ทรงทำสิ่งน่าสะพรึงกลัวที่ข้าพเจ้าทั้งหลายคาดไม่ถึง พระองค์เสด็จลงมา ภูเขาทั้งหมดก็สั่นสะเทือนเฉพาะพระพักตร์ ไม่มีผู้ใดเคยได้ยินเช่นนี้มาก่อนเลย หูไม่เคยได้ยิน ดวงตาไม่เคยเห็นว่า พระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ เคยทำเช่นนี้สำหรับผู้ที่วางใจในพระองค์ พระองค์เสด็จมาพบผู้ที่ยินดีปฏิบัติความยุติธรรม และระลึกถึงพระองค์โดยเดินตามหนทางของพระองค์ แต่บัดนี้พระองค์กริ้ว เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป ข้าพเจ้าทั้งหลายจะรอดพ้นโดยเดินตามหนทางที่เคยเดินนานมาแล้ว ข้าพเจ้าทุกคนเป็นเหมือนผู้มีมลทิน แม้แต่การกระทำที่ชอบธรรมของข้าพเจ้าทั้งหลายก็เป็นเหมือนผ้าสกปรกที่เปื้อนเลือด ข้าพเจ้าทุกคนเหี่ยวแห้งไปเหมือนใบไม้ ความผิดพัดพาข้าพเจ้าทั้งหลายไปเหมือนลม ไม่มีผู้ใดเรียกขานพระนาม ไม่มีผู้ใดกระตือรือร้นขอให้พระองค์ทรงช่วย เพราะทรงซ่อนพระพักตร์จากข้าพเจ้าทั้งหลาย ทรงปล่อยให้ความผิดมีอำนาจเหนือข้าพเจ้าทั้งหลาย บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเหมือนดินเหนียว พระองค์ทรงเป็นผู้ปั้น ข้าพเจ้าทุกคนเป็นผลงานจากฝีพระหัตถ์
บทอ่านที่สอง 1 โครินธ์ 3-9
ขอพระหรรษทานและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าอยู่เสมอเพื่อท่านทั้งหลาย เพราะพระหรรษทานซึ่งพระเจ้าประทานแก่ท่านเดชะพระคริสตเยซู ท่านได้รับพระพรทุกด้านและทุกประการเดชะพระองค์ คือการประกาศพระวาจาและความรู้ทุกอย่าง ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าอย่างเข้มแข็งจนถึงที่สุด จนกระทั่งท่านไม่ขาดพระคุณใดในขณะที่รอคอยการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระองค์จะทรงค้ำจุนท่านให้มั่นคงจนถึงวาระสุดท้าย ไม่มีที่ติในวันที่พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมา พระเจ้าทรงเรียกท่านให้สนิทสัมพันธ์กับพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแล้ว พระองค์ทรงมั่นคงในการรักษาคำสัญญา
พระวรสาร โดย นักบุญมาระโก 13:33-37
“จงระวัง จงตื่นเฝ้าเถิด เพราะท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าวันเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไร เหมือนกับชายคนหนึ่งที่ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านได้มอบอำนาจให้กับผู้รับใช้ ให้แต่ละคนมีงานของตนและยังสั่งคนเฝ้าประตูให้คอยตื่นเฝ้าไว้ ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร อาจจะมาเวลาค่ำ เวลาเที่ยงคืน เวลาไก่ขัน หรือเวลารุ่งเช้า ถ้าเขากลับมาโดยไม่คาดคิด อย่าให้เขาพบท่านกำลังหลับอยู่ สิ่งที่เราบอกท่าน เราก็บอกทุกคนด้วยว่า จงตื่นเฝ้าเถิด”
คุณพ่อทิม: ปีพิธีกรรมของโรมันคาทอลิกของเรา ปิดด้วยการเตรียมพร้อมรอรับพระเจ้า ดําเนินชีวิตในพระหรรษทาน วันอาทิตย์ที่แล้ว สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 25:31-46 “เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ พระองค์จะประทับเหนือพระบัลลังก์อันรุ่งโรจน์ บรรดาประชาชาติจะมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์ พระองค์จะทรงแยกเขาออกเป็นสองพวก ดังคนเลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ.." และเริ่มปีพิธีกรรมใหม่ด้วยการเตรียมพร้อมรอรับพระเจ้า พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก
เมื่อโควิด 19 เริ่มระบาด พวกคุณคงจำได้ว่า ทุกคนเตรียมพร้อมด้วยการซื้ออาหาร ของใช้ และกระดาษชําระ ( ลูกวัดฮาตึง) พ่อมีเพื่อนอาศัยอยู่เมืองเซนทรัลเลี่ย ( Centralia) เขาและภรรยาซื้อกระดาษชําระกักตุนในห้องพิเศษห้องหนึ่ง มากถึงขนาดใช้ได้หลายปี พ่อรู้ว่าเวลากระดาษชําระขาดตลาดพ่อจะไปหาใคร ( ลูกวัดฮาตึงอีกครั้ง)
มีบางคนในพวกคุณที่มาวัดร่วมบูชามิสซาวันอาทิตย์ พอออกจากวัดก็ลืมพระ วุ่นกับเรื่องราวอื่นๆ ไม่มีเวลาให้พระ ใกล้ชิดพระองค์ และเตรียมพร้อมรอรับพระองค์ การหลับในพระวรสารวันนี้ ไม่ใช่การหลับตามตัวอักษร แต่เป็นการหลับของจิตวิญญานที่ไม่ได้ยินเสียงของพระองค์...
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม อิลเกน ( Father Tim Ilgen) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา Sacredness Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 63:16-17, 64: 2-7
ข้าแต่พระยาห์เวห์ เหตุไฉนจึงทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย หลงไปจากวิถีทางของพระองค์ เหตุไฉนจึงทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีใจดื้อด้านจนไม่ยำเกรงพระองค์ โปรดทรงกลับมาเพราะเห็นแก่ผู้รับใช้พระองค์ และเห็นแก่ตระกูลที่เป็นมรดกของพระองค์เถิด เมื่อพระองค์ทรงทำสิ่งน่าสะพรึงกลัวที่ข้าพเจ้าทั้งหลายคาดไม่ถึง พระองค์เสด็จลงมา ภูเขาทั้งหมดก็สั่นสะเทือนเฉพาะพระพักตร์ ไม่มีผู้ใดเคยได้ยินเช่นนี้มาก่อนเลย หูไม่เคยได้ยิน ดวงตาไม่เคยเห็นว่า พระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ เคยทำเช่นนี้สำหรับผู้ที่วางใจในพระองค์ พระองค์เสด็จมาพบผู้ที่ยินดีปฏิบัติความยุติธรรม และระลึกถึงพระองค์โดยเดินตามหนทางของพระองค์ แต่บัดนี้พระองค์กริ้ว เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป ข้าพเจ้าทั้งหลายจะรอดพ้นโดยเดินตามหนทางที่เคยเดินนานมาแล้ว ข้าพเจ้าทุกคนเป็นเหมือนผู้มีมลทิน แม้แต่การกระทำที่ชอบธรรมของข้าพเจ้าทั้งหลายก็เป็นเหมือนผ้าสกปรกที่เปื้อนเลือด ข้าพเจ้าทุกคนเหี่ยวแห้งไปเหมือนใบไม้ ความผิดพัดพาข้าพเจ้าทั้งหลายไปเหมือนลม ไม่มีผู้ใดเรียกขานพระนาม ไม่มีผู้ใดกระตือรือร้นขอให้พระองค์ทรงช่วย เพราะทรงซ่อนพระพักตร์จากข้าพเจ้าทั้งหลาย ทรงปล่อยให้ความผิดมีอำนาจเหนือข้าพเจ้าทั้งหลาย บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเหมือนดินเหนียว พระองค์ทรงเป็นผู้ปั้น ข้าพเจ้าทุกคนเป็นผลงานจากฝีพระหัตถ์
บทอ่านที่สอง 1 โครินธ์ 3-9
ขอพระหรรษทานและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าอยู่เสมอเพื่อท่านทั้งหลาย เพราะพระหรรษทานซึ่งพระเจ้าประทานแก่ท่านเดชะพระคริสตเยซู ท่านได้รับพระพรทุกด้านและทุกประการเดชะพระองค์ คือการประกาศพระวาจาและความรู้ทุกอย่าง ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าอย่างเข้มแข็งจนถึงที่สุด จนกระทั่งท่านไม่ขาดพระคุณใดในขณะที่รอคอยการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระองค์จะทรงค้ำจุนท่านให้มั่นคงจนถึงวาระสุดท้าย ไม่มีที่ติในวันที่พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมา พระเจ้าทรงเรียกท่านให้สนิทสัมพันธ์กับพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแล้ว พระองค์ทรงมั่นคงในการรักษาคำสัญญา
พระวรสาร โดย นักบุญมาระโก 13:33-37
“จงระวัง จงตื่นเฝ้าเถิด เพราะท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าวันเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไร เหมือนกับชายคนหนึ่งที่ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านได้มอบอำนาจให้กับผู้รับใช้ ให้แต่ละคนมีงานของตนและยังสั่งคนเฝ้าประตูให้คอยตื่นเฝ้าไว้ ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร อาจจะมาเวลาค่ำ เวลาเที่ยงคืน เวลาไก่ขัน หรือเวลารุ่งเช้า ถ้าเขากลับมาโดยไม่คาดคิด อย่าให้เขาพบท่านกำลังหลับอยู่ สิ่งที่เราบอกท่าน เราก็บอกทุกคนด้วยว่า จงตื่นเฝ้าเถิด”
คุณพ่อทิม: ปีพิธีกรรมของโรมันคาทอลิกของเรา ปิดด้วยการเตรียมพร้อมรอรับพระเจ้า ดําเนินชีวิตในพระหรรษทาน วันอาทิตย์ที่แล้ว สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 25:31-46 “เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ พระองค์จะประทับเหนือพระบัลลังก์อันรุ่งโรจน์ บรรดาประชาชาติจะมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์ พระองค์จะทรงแยกเขาออกเป็นสองพวก ดังคนเลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ.." และเริ่มปีพิธีกรรมใหม่ด้วยการเตรียมพร้อมรอรับพระเจ้า พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก
เมื่อโควิด 19 เริ่มระบาด พวกคุณคงจำได้ว่า ทุกคนเตรียมพร้อมด้วยการซื้ออาหาร ของใช้ และกระดาษชําระ ( ลูกวัดฮาตึง) พ่อมีเพื่อนอาศัยอยู่เมืองเซนทรัลเลี่ย ( Centralia) เขาและภรรยาซื้อกระดาษชําระกักตุนในห้องพิเศษห้องหนึ่ง มากถึงขนาดใช้ได้หลายปี พ่อรู้ว่าเวลากระดาษชําระขาดตลาดพ่อจะไปหาใคร ( ลูกวัดฮาตึงอีกครั้ง)
มีบางคนในพวกคุณที่มาวัดร่วมบูชามิสซาวันอาทิตย์ พอออกจากวัดก็ลืมพระ วุ่นกับเรื่องราวอื่นๆ ไม่มีเวลาให้พระ ใกล้ชิดพระองค์ และเตรียมพร้อมรอรับพระองค์ การหลับในพระวรสารวันนี้ ไม่ใช่การหลับตามตัวอักษร แต่เป็นการหลับของจิตวิญญานที่ไม่ได้ยินเสียงของพระองค์...
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2023 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของสังฆานุกร รอนนี่ ซาน นิโคลัส ( Deacon Ronnie San Nicolas) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา Sacredness Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 40:1-5, 9-11
พระเจ้าของท่านทั้งหลายตรัสว่า “จงปลอบโยน จงปลอบโยนประชากรของเราเถิด จงพูดกับกรุงเยรูซาเล็มให้ประทับใจ จงร้องบอกเมืองนั้นว่า เวลาการเป็นทาสสิ้นสุดแล้ว ความผิดของเมืองนั้นได้รับการอภัย เมืองนั้นได้รับโทษจากพระหัตถ์พระยาห์เวห์ เป็นสองเท่าแล้วเพราะบาปทั้งหมดของตน” เสียงหนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางของพระยาห์เวห์ในถิ่นทุรกันดาร จงเปิดทางตรงในทุ่งเวิ้งว้าง สำหรับพระเจ้าของเราเถิด จงถมหุบเขาทุกแห่งให้เต็ม จงปรับภูเขาและเนินเขาทุกแห่งให้เรียบ ที่ขรุขระจะราบเสมอกัน ที่สูง ๆ ต่ำ ๆ จะราบเรียบ แล้วพระยาห์เวห์จะทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ให้ปรากฏ มนุษย์ทุกคนจะได้เห็นทั่วกัน เพราะพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ตรัสไว้ดังนี้” ท่านผู้นำข่าวดีมายังศิโยนเอ๋ย จงขึ้นไปบนภูเขาสูงเถิด ท่านผู้นำข่าวดีมาให้กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องตะโกนให้สุดเสียงเถิด จงร้องตะโกน อย่ากลัวเลย จงประกาศแก่เมืองต่าง ๆ แห่งแคว้นยูดาห์ว่า ‘พระเจ้าของท่านทรงอยู่ที่นี่’ ดูซิ พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาด้วยพระอานุภาพ พระกรของพระองค์ทรงอำนาจปกครอง ดูซิ รางวัลชัยชนะอยู่กับพระองค์ ประชากรที่ทรงกอบกู้เดินนำหน้าพระองค์ พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์เช่นคนเลี้ยงแกะ ทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมพระกร ทรงอุ้มไว้แนบพระอุระ และทรงนำแม่แกะอย่างทะนุถนอม”
บทอ่านที่สอง 2 เปโตร 3:8-14
ท่านที่รักทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องไม่ลืม คือสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพียงหนึ่งวันก็เหมือนกับหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนกับหนึ่งวัน องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงรีรอที่จะปฏิบัติตามพระสัญญาดังที่บางคนคิด แต่พระองค์ทรงอดกลั้นต่อท่านทั้งหลาย ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้ใดต้องพินาศ แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจเปลี่ยนวิถีชีวิต วันขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึงอย่างไม่รู้ตัวเหมือนขโมย วันนั้นท้องฟ้าจะอันตรธานสูญสิ้นไปด้วยเสียงกึกก้อง โลกธาตุจะลุกเป็นไฟแตกแยกจากกัน แผ่นดินและสรรพสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะมอดไหม้สูญสิ้นไป
พระวรสาร โดย นักบุญมาระโก: 1:1-8
การเริ่มต้นข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า มีเขียนไว้ในหนังสือประกาศกอิสยาห์ว่า ดูซิ เราส่งผู้นำสารของเราไปข้างหน้าท่าน เพื่อเตรียมทางสำหรับท่าน คนคนหนึ่งร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด เพื่อให้ข้อความนี้เป็นจริง ยอห์นจึงทำพิธีล้างในถิ่นทุรกันดาร เทศน์สอนเรื่องพิธีล้าง ซึ่งแสดงการกลับใจเพื่อจะได้รับการอภัยบาป ประชาชนจากทั่วแคว้นยูเดีย และชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหลายไปพบเขา รับพิธีล้างจากเขาในแม่น้ำจอร์แดนโดยสารภาพบาปของตน ยอห์นแต่งกายด้วยผ้าขนอูฐ ใช้หนังสัตว์คาดสะเอว กินตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า
และประกาศว่า “มีอีกผู้หนึ่งกำลังมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะก้มลงแก้สายรัดรองเท้าของเขา ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่เขาจะทำพิธีล้างให้ท่าน เดชะพระจิตเจ้า”
สังฆานุกร รอนนี่: เราต้องจําว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นเหตุผลที่มีเทศกาลนี้ ( Jesus is the reason for the season) เมื่อมีกษัตริย์องค์ใหม่ ประชาชนต่างก็มุ่งหวังของการมีวิหารใหม่ การอภัยโทษ ฯลฯ แต่กษัตริย์องค์นี้ทรงเกิดในความยากจน
ยอห์นผู้ทำพิธีล้างด้วยนํ้า แต่งกายด้วยผ้าขนอูฐ ใช้หนังสัตว์คาดสะเอว กินตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า คงจะมีกลิ่นตัว และประชาชนบางคนคงนึกว่าท่านแต่งกายประหลาด แต่ก็หลั่งไหลไปหาท่านที่แม่นํ้าจอร์แดนเพื่อรับพิธีล้างในที่ทุรกันดารเพราะการเทศน์ของท่านที่ตรงแบบขวานผ่าซากให้สํานึกเสียใจในบาปและเตรียมพร้อมรอพระผู้ไถ่ พิธีล้างของท่านไม่ใช่พิธีล้างบาปของเราโรมันคาทอลิกเพราะของเราล้างด้วยเดชะพระจิตเจ้า
การสํานึกเสียใจในบาปของเราต้องมีการกระทําสามอย่างตามมาด้วย: 1) สวดภาวนา สวดทั้งครอบครัว อาจจะเป็นการสวดสายประคําทั้งสายหรือหนึ่งข้อ รําพึงถึงรหัสธรรมของแต่ละข้อ ฯลฯ 2) ต้องร่วมมือทําศาสนกิจ มิสซา อาสาสมัคร ฯลฯ 3) จัดลําดับความสําคัญ วันพระเจ้าต้องมาก่อน การทํางานของความเมตตา การช่วยเหลือคนยากจน ถ้าไม่มีเงินให้ ก็ออกแรงช่วย หรือสวดภาวนาให้ผู้ที่ช่วยและผู้ได้รับการช่วย
( Three P: Prayer, Participation and Prioritize)
ก่อนให้พร จบมิสซา คุณพ่อทิมบอกพวกเราให้ช่วยพี่น้องโรมันคาทอลิกของเราในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอลด้วยการซื้อเครื่องศาสภัณฑ์ ที่ทําโดยจิตรกร นักปั้น นักสลัก ของโรมันคาทอลิกของเราในเยรูซาเล็ม ขายในห้องประชุมใหญ่ของวัดของเราหลังมิสซา โรมันคาทอลิกในเยรูซาเล็มนี้ แต่ก่อนมี 22% ของพลเมือง ปัจจุบันมีแค่ 1% การทําและขายศาสนภัณฑ์เป็นรายได้หลักของพวกเขาที่ทําสืบทอดกันมาเป็นหลายร้อยศตวรรษ
( หลังจากที่ผมและภรรยาได้ซื้อศาสนภัณฑ์ ขับรถกลับบ้าน ผมก็จําได้ว่า เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ก่อนโควิด 19 คุณพ่อทิมพาลูกวัดไปแสวงบุญที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ( Holy Land) ในอิสราเอล ท่านบอกพวกเราว่า ชาวยิวที่นั่นอุดหนุนแต่ชาวยิวด้วยกันเท่านั้น ชาวมุสลิมที่นั่นอุดหนุนชาวมุสลิมด้วยกันเท่านั้น พวกเราโรมันคาทอลิกต้องอุดหนุนพวกเราและคริสตชนที่นั่นก่อน...น่าเศร้า)
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของสังฆานุกร รอนนี่ ซาน นิโคลัส ( Deacon Ronnie San Nicolas) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา Sacredness Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 40:1-5, 9-11
พระเจ้าของท่านทั้งหลายตรัสว่า “จงปลอบโยน จงปลอบโยนประชากรของเราเถิด จงพูดกับกรุงเยรูซาเล็มให้ประทับใจ จงร้องบอกเมืองนั้นว่า เวลาการเป็นทาสสิ้นสุดแล้ว ความผิดของเมืองนั้นได้รับการอภัย เมืองนั้นได้รับโทษจากพระหัตถ์พระยาห์เวห์ เป็นสองเท่าแล้วเพราะบาปทั้งหมดของตน” เสียงหนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางของพระยาห์เวห์ในถิ่นทุรกันดาร จงเปิดทางตรงในทุ่งเวิ้งว้าง สำหรับพระเจ้าของเราเถิด จงถมหุบเขาทุกแห่งให้เต็ม จงปรับภูเขาและเนินเขาทุกแห่งให้เรียบ ที่ขรุขระจะราบเสมอกัน ที่สูง ๆ ต่ำ ๆ จะราบเรียบ แล้วพระยาห์เวห์จะทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ให้ปรากฏ มนุษย์ทุกคนจะได้เห็นทั่วกัน เพราะพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ตรัสไว้ดังนี้” ท่านผู้นำข่าวดีมายังศิโยนเอ๋ย จงขึ้นไปบนภูเขาสูงเถิด ท่านผู้นำข่าวดีมาให้กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องตะโกนให้สุดเสียงเถิด จงร้องตะโกน อย่ากลัวเลย จงประกาศแก่เมืองต่าง ๆ แห่งแคว้นยูดาห์ว่า ‘พระเจ้าของท่านทรงอยู่ที่นี่’ ดูซิ พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาด้วยพระอานุภาพ พระกรของพระองค์ทรงอำนาจปกครอง ดูซิ รางวัลชัยชนะอยู่กับพระองค์ ประชากรที่ทรงกอบกู้เดินนำหน้าพระองค์ พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์เช่นคนเลี้ยงแกะ ทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมพระกร ทรงอุ้มไว้แนบพระอุระ และทรงนำแม่แกะอย่างทะนุถนอม”
บทอ่านที่สอง 2 เปโตร 3:8-14
ท่านที่รักทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องไม่ลืม คือสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพียงหนึ่งวันก็เหมือนกับหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนกับหนึ่งวัน องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงรีรอที่จะปฏิบัติตามพระสัญญาดังที่บางคนคิด แต่พระองค์ทรงอดกลั้นต่อท่านทั้งหลาย ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้ใดต้องพินาศ แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจเปลี่ยนวิถีชีวิต วันขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึงอย่างไม่รู้ตัวเหมือนขโมย วันนั้นท้องฟ้าจะอันตรธานสูญสิ้นไปด้วยเสียงกึกก้อง โลกธาตุจะลุกเป็นไฟแตกแยกจากกัน แผ่นดินและสรรพสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะมอดไหม้สูญสิ้นไป
พระวรสาร โดย นักบุญมาระโก: 1:1-8
การเริ่มต้นข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า มีเขียนไว้ในหนังสือประกาศกอิสยาห์ว่า ดูซิ เราส่งผู้นำสารของเราไปข้างหน้าท่าน เพื่อเตรียมทางสำหรับท่าน คนคนหนึ่งร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด เพื่อให้ข้อความนี้เป็นจริง ยอห์นจึงทำพิธีล้างในถิ่นทุรกันดาร เทศน์สอนเรื่องพิธีล้าง ซึ่งแสดงการกลับใจเพื่อจะได้รับการอภัยบาป ประชาชนจากทั่วแคว้นยูเดีย และชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหลายไปพบเขา รับพิธีล้างจากเขาในแม่น้ำจอร์แดนโดยสารภาพบาปของตน ยอห์นแต่งกายด้วยผ้าขนอูฐ ใช้หนังสัตว์คาดสะเอว กินตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า
และประกาศว่า “มีอีกผู้หนึ่งกำลังมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะก้มลงแก้สายรัดรองเท้าของเขา ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่เขาจะทำพิธีล้างให้ท่าน เดชะพระจิตเจ้า”
สังฆานุกร รอนนี่: เราต้องจําว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นเหตุผลที่มีเทศกาลนี้ ( Jesus is the reason for the season) เมื่อมีกษัตริย์องค์ใหม่ ประชาชนต่างก็มุ่งหวังของการมีวิหารใหม่ การอภัยโทษ ฯลฯ แต่กษัตริย์องค์นี้ทรงเกิดในความยากจน
ยอห์นผู้ทำพิธีล้างด้วยนํ้า แต่งกายด้วยผ้าขนอูฐ ใช้หนังสัตว์คาดสะเอว กินตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า คงจะมีกลิ่นตัว และประชาชนบางคนคงนึกว่าท่านแต่งกายประหลาด แต่ก็หลั่งไหลไปหาท่านที่แม่นํ้าจอร์แดนเพื่อรับพิธีล้างในที่ทุรกันดารเพราะการเทศน์ของท่านที่ตรงแบบขวานผ่าซากให้สํานึกเสียใจในบาปและเตรียมพร้อมรอพระผู้ไถ่ พิธีล้างของท่านไม่ใช่พิธีล้างบาปของเราโรมันคาทอลิกเพราะของเราล้างด้วยเดชะพระจิตเจ้า
การสํานึกเสียใจในบาปของเราต้องมีการกระทําสามอย่างตามมาด้วย: 1) สวดภาวนา สวดทั้งครอบครัว อาจจะเป็นการสวดสายประคําทั้งสายหรือหนึ่งข้อ รําพึงถึงรหัสธรรมของแต่ละข้อ ฯลฯ 2) ต้องร่วมมือทําศาสนกิจ มิสซา อาสาสมัคร ฯลฯ 3) จัดลําดับความสําคัญ วันพระเจ้าต้องมาก่อน การทํางานของความเมตตา การช่วยเหลือคนยากจน ถ้าไม่มีเงินให้ ก็ออกแรงช่วย หรือสวดภาวนาให้ผู้ที่ช่วยและผู้ได้รับการช่วย
( Three P: Prayer, Participation and Prioritize)
ก่อนให้พร จบมิสซา คุณพ่อทิมบอกพวกเราให้ช่วยพี่น้องโรมันคาทอลิกของเราในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอลด้วยการซื้อเครื่องศาสภัณฑ์ ที่ทําโดยจิตรกร นักปั้น นักสลัก ของโรมันคาทอลิกของเราในเยรูซาเล็ม ขายในห้องประชุมใหญ่ของวัดของเราหลังมิสซา โรมันคาทอลิกในเยรูซาเล็มนี้ แต่ก่อนมี 22% ของพลเมือง ปัจจุบันมีแค่ 1% การทําและขายศาสนภัณฑ์เป็นรายได้หลักของพวกเขาที่ทําสืบทอดกันมาเป็นหลายร้อยศตวรรษ
( หลังจากที่ผมและภรรยาได้ซื้อศาสนภัณฑ์ ขับรถกลับบ้าน ผมก็จําได้ว่า เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ก่อนโควิด 19 คุณพ่อทิมพาลูกวัดไปแสวงบุญที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ( Holy Land) ในอิสราเอล ท่านบอกพวกเราว่า ชาวยิวที่นั่นอุดหนุนแต่ชาวยิวด้วยกันเท่านั้น ชาวมุสลิมที่นั่นอุดหนุนชาวมุสลิมด้วยกันเท่านั้น พวกเราโรมันคาทอลิกต้องอุดหนุนพวกเราและคริสตชนที่นั่นก่อน...น่าเศร้า)
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์, วันอาทิตย์ 31 ธันวาคม 2023
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง บุตรสิรา 3:2-6, 12-14
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรารถนาให้บิดาได้รับเกียรติจากบุตร ทรงกำหนดให้มารดาได้รับความเคารพจากบุตร บุตรที่ยำเกรงบิดาก็ชดเชยบาปของตน
บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เหมือนกับสะสมทรัพย์สมบัติไว้ ผู้ที่ยำเกรงบิดาก็มีความสุขจากบุตรของตน เมื่อเขาอธิษฐานภาวนา พระเจ้าก็จะทรงฟังเขา
บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน บุตรที่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ ลูกเอ๋ย จงดูแลบิดาของท่านในวัยชรา อย่าให้เขาเศร้าโศกตลอดชีวิต แม้สติปัญญาของบิดาจะเสื่อมลง ก็จงสงสารเขา อย่าดูหมิ่นเขาขณะที่ท่านยังแข็งแรงอยู่ เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงลืมความเมตตาของท่านต่อบิดา พระองค์จะทรงนับว่าความเมตตานั้นเป็นการใช้โทษบาปของท่าน
บทอ่านที่สอง โคโลสี 3:12-21
ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน จงผ่อนหนักผ่อนเบากัน หากมีเรื่องผิดใจกันก็จงยกโทษกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยอย่างนั้นเถิด แต่เหนือสิ่งใดจงมีความรัก ซึ่งรวมเราไว้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองดวงใจของท่าน พระเจ้าทรงเรียกท่านทั้งหลายให้รวมเป็นกายเดียวกัน ก็เพื่อจะได้บรรลุถึงสันติสุขนี้เอง จงระลึกถึงพระคุณนี้เถิด ขอพระวาจาของพระคริสตเจ้าสถิตในท่านอย่างเต็มเปี่ยม จงสอนและตักเตือนกันด้วยปรีชาญาณ จงขอบพระคุณพระเจ้าโดยการขับร้องบทเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญ และบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จากใจจริง ท่านจะพูดเรื่องใดหรือทำกิจการใด ก็จงพูดจงทำในพระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยทางพระองค์เถิดภรรยา จงอยู่ใต้อำนาจของสามีตามสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า สามี จงรักภรรยาและอย่าทำให้นางรู้สึกขมขื่น บุตร จงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า บิดาก็จงอย่าขัดใจบุตรเกินไป จนเขาท้อแท้หมดกำลังใจ
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 2:21, 39-40
เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้สำเร็จทุกประการแล้ว ก็กลับไปที่นาซาเร็ธ เมืองของตนในแคว้นกาลิลี
พระกุมารทรงเจริญวัยแข็งแรงขึ้น ทรงพระปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์
คุณพ่อเคลเมนท์: วันนี้เป็นวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ การแต่งงานศักดิ์สิทธิ์ สามีภรรยาต้องรักษาคําสัญญาที่ศักดิ์สิทธิ์ ทําตัวให้ศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน...
เมื่อพ่อไปเยี่ยมบ้านพักคนชรา : พวกเขาร้องไห้ รู้สึกถูกทอดทิ้งจากลูกๆ ไม่ไปเยี่ยม ไม่โทรไปหา ไม่เขียนจดหมายถึง ทั้งๆที่พวกเขาเป็นผู้ให้กําเนิด...
พ่อมาจากประเทศมาลาวี ทวีปแอฟริกา พวกคุณมาจากหลายประเทศทั่วโลก มาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีบ้านหรูหราใหญ่โต มีรถคันงาม มีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ ฯลฯ พ่อดีใจกับพวกคุณ แต่อย่าลืมว่า พวกคุณมาจากไหน พ่อแม่ของคุณอาจไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีอาหารกิน คุณมาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ก็เพราะพ่อแม่ช่วยคุณ อย่าลืมว่าคุณมาจากไหน...
วันนี้เป็นวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นโอกาสที่เปิดให้พวกคุณคืนดีกับพ่อแม่และพี่น้องของคุณ ถ้าพวกเขาล่วงลับไปแล้ว พวกเขาอาจจะไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางเพราะกําลังรอการให้อภัยของพวกคุณ...
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง บุตรสิรา 3:2-6, 12-14
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรารถนาให้บิดาได้รับเกียรติจากบุตร ทรงกำหนดให้มารดาได้รับความเคารพจากบุตร บุตรที่ยำเกรงบิดาก็ชดเชยบาปของตน
บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เหมือนกับสะสมทรัพย์สมบัติไว้ ผู้ที่ยำเกรงบิดาก็มีความสุขจากบุตรของตน เมื่อเขาอธิษฐานภาวนา พระเจ้าก็จะทรงฟังเขา
บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน บุตรที่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ ลูกเอ๋ย จงดูแลบิดาของท่านในวัยชรา อย่าให้เขาเศร้าโศกตลอดชีวิต แม้สติปัญญาของบิดาจะเสื่อมลง ก็จงสงสารเขา อย่าดูหมิ่นเขาขณะที่ท่านยังแข็งแรงอยู่ เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงลืมความเมตตาของท่านต่อบิดา พระองค์จะทรงนับว่าความเมตตานั้นเป็นการใช้โทษบาปของท่าน
บทอ่านที่สอง โคโลสี 3:12-21
ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน จงผ่อนหนักผ่อนเบากัน หากมีเรื่องผิดใจกันก็จงยกโทษกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยอย่างนั้นเถิด แต่เหนือสิ่งใดจงมีความรัก ซึ่งรวมเราไว้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองดวงใจของท่าน พระเจ้าทรงเรียกท่านทั้งหลายให้รวมเป็นกายเดียวกัน ก็เพื่อจะได้บรรลุถึงสันติสุขนี้เอง จงระลึกถึงพระคุณนี้เถิด ขอพระวาจาของพระคริสตเจ้าสถิตในท่านอย่างเต็มเปี่ยม จงสอนและตักเตือนกันด้วยปรีชาญาณ จงขอบพระคุณพระเจ้าโดยการขับร้องบทเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญ และบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จากใจจริง ท่านจะพูดเรื่องใดหรือทำกิจการใด ก็จงพูดจงทำในพระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยทางพระองค์เถิดภรรยา จงอยู่ใต้อำนาจของสามีตามสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า สามี จงรักภรรยาและอย่าทำให้นางรู้สึกขมขื่น บุตร จงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า บิดาก็จงอย่าขัดใจบุตรเกินไป จนเขาท้อแท้หมดกำลังใจ
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 2:21, 39-40
เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้สำเร็จทุกประการแล้ว ก็กลับไปที่นาซาเร็ธ เมืองของตนในแคว้นกาลิลี
พระกุมารทรงเจริญวัยแข็งแรงขึ้น ทรงพระปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์
คุณพ่อเคลเมนท์: วันนี้เป็นวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ การแต่งงานศักดิ์สิทธิ์ สามีภรรยาต้องรักษาคําสัญญาที่ศักดิ์สิทธิ์ ทําตัวให้ศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน...
เมื่อพ่อไปเยี่ยมบ้านพักคนชรา : พวกเขาร้องไห้ รู้สึกถูกทอดทิ้งจากลูกๆ ไม่ไปเยี่ยม ไม่โทรไปหา ไม่เขียนจดหมายถึง ทั้งๆที่พวกเขาเป็นผู้ให้กําเนิด...
พ่อมาจากประเทศมาลาวี ทวีปแอฟริกา พวกคุณมาจากหลายประเทศทั่วโลก มาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีบ้านหรูหราใหญ่โต มีรถคันงาม มีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ ฯลฯ พ่อดีใจกับพวกคุณ แต่อย่าลืมว่า พวกคุณมาจากไหน พ่อแม่ของคุณอาจไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีอาหารกิน คุณมาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ก็เพราะพ่อแม่ช่วยคุณ อย่าลืมว่าคุณมาจากไหน...
วันนี้เป็นวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นโอกาสที่เปิดให้พวกคุณคืนดีกับพ่อแม่และพี่น้องของคุณ ถ้าพวกเขาล่วงลับไปแล้ว พวกเขาอาจจะไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางเพราะกําลังรอการให้อภัยของพวกคุณ...
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
สวัสดีครับ วันนี้ยังเป็นวันจันทร์ (1/1/2024) ของสหรัฐอเมริกา เป็นวันสมโภชพระนางมารีย์ พระชนนีพระเจ้า ผมกับภรรยาได้ไปร่วมมิสซา ที่วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน แล้วฟังคําเทศน์ของสังฆานุกร แทรี่ ( อดีตอาจารย์ใหญ่)
ฟังแล้วเห็นภาพพจน์: ท่านเดินลงจากพระแท่น เอามือชี้ที่รูปปั้นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์หน้าพระแท่น บอกเราว่าพระเจ้าประทับอยู่กับเรา นักบุญโยเซฟจูงลาที่พระแม่มารีย์ทรงครรภ์จวนคลอดออกจากบ้านที่เมืองนาซาเร็จไปยังเมืองเบธเลเฮม ( ห่างกัน 151 กิโลเมตร เดินหรือนั่งบนลา 4 วัน) ตามพระราชกฤษฎีกาของจักรพรรดิออกัสตัสแห่งอาณาจักรโรมันอันเกรียงไกร ( Emperor Augustus) ให้ทุกคนลงทะเบียนที่บ้านเกิดของตัวเอง ลาเดินเสียงกุกกัก กุกกัก นักบุญโยเซฟคอยดูแลถามไถ่พระแม่มารีย์ แล้วถามเจ้าของโรงแรมตามทางว่ามีที่ให้ครอบครัวของตนพักหรือเปล่า โรงแรมเต็ม ต้องถามไปเรื่อยๆ จนมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่เจ้าของบอกมีที่ให้พักแต่เป็นคอกเลี้ยงสัตว์ ไม่สะอาดนัก ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจเข้าพัก แล้วพระแม่มารีย์ก็ทรงคลอดพระเยซูเจ้า เอาผ้าห่อหุ้มไม่ให้หนาว แล้ววางบนฟางในรางเลี้ยงสัตว์ พระเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ไม่ได้เลือกเกิดในพระราชวัง ท่ามกลางความมั่งมี ทรงเกิดในความยากจน ถ่อมตัวสูงสุด...
ผมฟังแล้วรู้สึกประทับใจไม่ลืม แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2023 สถานีโทรทัศน์ฟ๊อกนิวส์ ( Fox News ) อันดับหนึ่งของเคเบิลนิวส์ในสหรัฐอเมริกา ได้เสนอ "God is With Us/ พระเจ้าประทับอยู่กับเรา" สารคดีที่พาผู้ชมไปดูจุดสําคัญๆในชีวประวัติและการแพร่ธรรมของพระเยซูเจ้าในประเทศอิสราเอล ซึ่งผมได้บันทึกไว้ และจะเสนอให้ผู้อ่านได้อ่าน
1) เมืองเบธเลเฮม: ทรงบังเกิด
2) ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน: ทรงรับพิธีล้างจากนักบุญยอห์น ผู้ล้าง เตรียมการแพร่ธรรม ประกาศอาณาจักรสวรรค์
3) ถิ่นทุรกันดารในแคว้นยูดาห์: ทรงถูกผจญจากปีศาจ หลังจากทรงอดอาหาร 40 วัน 40 คืน หิวและเพลีย อาดัมแพ้ พระเยซูเจ้าทรงชนะเพราะทรงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ก้อนหินเป็นอาหาร- พระวาจาของพระเจ้าเป็นอาหารเช่นกัน โดดลงจากยอดหลังคาพระวิหาร- อย่าทดสอบพระเจ้า และกราบนมัสการมันเพื่อแลกกับอาณาจักรต่างๆของโลก- จงกราบนมัสการพระเจ้าเท่านั้น
4) นาซาเร็จ: เริ่มแพร่ธรรมในซินากอก/ วัดชาวอิสราเอล ชาวยิวไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าคือพระผู้ไถ่ที่พวกเขาได้รอ เพราะเป็นลูกช่างไม้ พากันจับกุมพระองค์ลากไปบนเขาจะทุ่มพระองค์ลงหน้าผา
5) กาลิลีและริมฝั่งทะเลกาลิลี: จุดแพร่ธรรมสําคัญเพราะเป็นชุมทางการค้า การคมนาคม มีทุ่งหญ้า เนินเขาเล็กๆ ที่เหมาะต่อการชุมนุมคนเป็นพันๆ ไม่ต้องมีไมโครโฟน ทุกคนได้ยินถนัด
- บทภาวนาของพระเยซูเจ้า/ The Lord'sPrayer = ข้าแต่พระบิดา/ Our Father
-บทเทศน์บนภูเขา/ The Beautitude = ความสุขแท้จริง ( หัวใจของคําสอนของพระเยซูเจ้า ความหมายของการเป็นสานุศิษย์ของพระองค์)
-เลือกสานุศิษย์ จากชาวประมงจับปลาเป็นชาวประมงจับคน
- ทรงเดินบนนํ้า
- ทรงสยบทะเลคลั่ง
- ทรงให้ปลาแก่โปโตรจนอวนแทบขาด
- ชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนมากมายสนใจรับฟังและเป็นสานุศิษย์
6) เมืองคาเปอรนาอุมริมฝั่งทะเลกาลิลี: เมืองการแพร่ธรรมส่วนใหญ่ของพระเยซูเจ้า
- บ้านอัครสาวกเปโตร ทรงรักษาแม่ยายเปโตร
- ทรงรักษาคนง่อยที่ถูกหย่อนลงจากหลังคา รักษาทั้งร่างกายและจิตใจ ( ทรงอภัยโทษบาป ผู้นำศาสนาไม่พอใจว่าพระองค์เทียบตัวเองเสมอพระเจ้า)
- ทรงบอกว่าพระองค์เป็นปังแห่งชีวิต ใครกินแล้วจะมีชีวิตนิรันดร สานุศิษย์บางคนไม่เข้าใจ รับไม่ได้ เลิกติดตามพระองค์
7) เมืองเยรูซาเล็ม: ทรงสิ้นพระชนม์ ไถ่กู้มวลมนุษยชาติ เหตุการณ์ที่มีผลกระทบโลกมากที่สุด
กราบขอบพระคุณ : พระเป็นเจ้า ( พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
เครดิต: สังฆานุกรแทรี่, Fox News, Google, พระคัมภีร์คาทอลิก
ฟังแล้วเห็นภาพพจน์: ท่านเดินลงจากพระแท่น เอามือชี้ที่รูปปั้นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์หน้าพระแท่น บอกเราว่าพระเจ้าประทับอยู่กับเรา นักบุญโยเซฟจูงลาที่พระแม่มารีย์ทรงครรภ์จวนคลอดออกจากบ้านที่เมืองนาซาเร็จไปยังเมืองเบธเลเฮม ( ห่างกัน 151 กิโลเมตร เดินหรือนั่งบนลา 4 วัน) ตามพระราชกฤษฎีกาของจักรพรรดิออกัสตัสแห่งอาณาจักรโรมันอันเกรียงไกร ( Emperor Augustus) ให้ทุกคนลงทะเบียนที่บ้านเกิดของตัวเอง ลาเดินเสียงกุกกัก กุกกัก นักบุญโยเซฟคอยดูแลถามไถ่พระแม่มารีย์ แล้วถามเจ้าของโรงแรมตามทางว่ามีที่ให้ครอบครัวของตนพักหรือเปล่า โรงแรมเต็ม ต้องถามไปเรื่อยๆ จนมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่เจ้าของบอกมีที่ให้พักแต่เป็นคอกเลี้ยงสัตว์ ไม่สะอาดนัก ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจเข้าพัก แล้วพระแม่มารีย์ก็ทรงคลอดพระเยซูเจ้า เอาผ้าห่อหุ้มไม่ให้หนาว แล้ววางบนฟางในรางเลี้ยงสัตว์ พระเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ไม่ได้เลือกเกิดในพระราชวัง ท่ามกลางความมั่งมี ทรงเกิดในความยากจน ถ่อมตัวสูงสุด...
ผมฟังแล้วรู้สึกประทับใจไม่ลืม แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2023 สถานีโทรทัศน์ฟ๊อกนิวส์ ( Fox News ) อันดับหนึ่งของเคเบิลนิวส์ในสหรัฐอเมริกา ได้เสนอ "God is With Us/ พระเจ้าประทับอยู่กับเรา" สารคดีที่พาผู้ชมไปดูจุดสําคัญๆในชีวประวัติและการแพร่ธรรมของพระเยซูเจ้าในประเทศอิสราเอล ซึ่งผมได้บันทึกไว้ และจะเสนอให้ผู้อ่านได้อ่าน
1) เมืองเบธเลเฮม: ทรงบังเกิด
2) ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน: ทรงรับพิธีล้างจากนักบุญยอห์น ผู้ล้าง เตรียมการแพร่ธรรม ประกาศอาณาจักรสวรรค์
3) ถิ่นทุรกันดารในแคว้นยูดาห์: ทรงถูกผจญจากปีศาจ หลังจากทรงอดอาหาร 40 วัน 40 คืน หิวและเพลีย อาดัมแพ้ พระเยซูเจ้าทรงชนะเพราะทรงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ก้อนหินเป็นอาหาร- พระวาจาของพระเจ้าเป็นอาหารเช่นกัน โดดลงจากยอดหลังคาพระวิหาร- อย่าทดสอบพระเจ้า และกราบนมัสการมันเพื่อแลกกับอาณาจักรต่างๆของโลก- จงกราบนมัสการพระเจ้าเท่านั้น
4) นาซาเร็จ: เริ่มแพร่ธรรมในซินากอก/ วัดชาวอิสราเอล ชาวยิวไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าคือพระผู้ไถ่ที่พวกเขาได้รอ เพราะเป็นลูกช่างไม้ พากันจับกุมพระองค์ลากไปบนเขาจะทุ่มพระองค์ลงหน้าผา
5) กาลิลีและริมฝั่งทะเลกาลิลี: จุดแพร่ธรรมสําคัญเพราะเป็นชุมทางการค้า การคมนาคม มีทุ่งหญ้า เนินเขาเล็กๆ ที่เหมาะต่อการชุมนุมคนเป็นพันๆ ไม่ต้องมีไมโครโฟน ทุกคนได้ยินถนัด
- บทภาวนาของพระเยซูเจ้า/ The Lord'sPrayer = ข้าแต่พระบิดา/ Our Father
-บทเทศน์บนภูเขา/ The Beautitude = ความสุขแท้จริง ( หัวใจของคําสอนของพระเยซูเจ้า ความหมายของการเป็นสานุศิษย์ของพระองค์)
-เลือกสานุศิษย์ จากชาวประมงจับปลาเป็นชาวประมงจับคน
- ทรงเดินบนนํ้า
- ทรงสยบทะเลคลั่ง
- ทรงให้ปลาแก่โปโตรจนอวนแทบขาด
- ชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนมากมายสนใจรับฟังและเป็นสานุศิษย์
6) เมืองคาเปอรนาอุมริมฝั่งทะเลกาลิลี: เมืองการแพร่ธรรมส่วนใหญ่ของพระเยซูเจ้า
- บ้านอัครสาวกเปโตร ทรงรักษาแม่ยายเปโตร
- ทรงรักษาคนง่อยที่ถูกหย่อนลงจากหลังคา รักษาทั้งร่างกายและจิตใจ ( ทรงอภัยโทษบาป ผู้นำศาสนาไม่พอใจว่าพระองค์เทียบตัวเองเสมอพระเจ้า)
- ทรงบอกว่าพระองค์เป็นปังแห่งชีวิต ใครกินแล้วจะมีชีวิตนิรันดร สานุศิษย์บางคนไม่เข้าใจ รับไม่ได้ เลิกติดตามพระองค์
7) เมืองเยรูซาเล็ม: ทรงสิ้นพระชนม์ ไถ่กู้มวลมนุษยชาติ เหตุการณ์ที่มีผลกระทบโลกมากที่สุด
กราบขอบพระคุณ : พระเป็นเจ้า ( พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
เครดิต: สังฆานุกรแทรี่, Fox News, Google, พระคัมภีร์คาทอลิก
วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2024 วันสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 60:1-6
เยรูซาเล็มเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด จงฉายแสงเจิดจ้า เพราะความสว่างของเจ้ามาแล้ว พระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์ทอแสงเหนือเจ้า ดูซิ ความมืดปกคลุมแผ่นดิน และความมืดทึบปกคลุมประชาชาติทั้งหลาย แต่พระยาห์เวห์จะทรงทอแสงเหนือเจ้า ทุกคนจะเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์เหนือเจ้า นานาชาติจะเดินมาหาความสว่างของเจ้า บรรดากษัตริย์จะทรงพระดำเนินมาสู่ความสดใสที่ทอแสงเหนือเจ้า จงเงยหน้าขึ้นมองไปโดยรอบเถิด เขาเหล่านั้นทุกคนมาชุมนุมกันและเดินมาพบเจ้า บุตรชายทั้งหลายของเจ้ามาจากที่ไกล บุตรหญิงของเจ้าก็ถูกอุ้มมาด้วย เมื่อเจ้าเห็นดังนี้ก็จะปลาบปลื้ม ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและยินดี เพราะความมั่งคั่งของทะเลจะกลับมาหาเจ้า ทรัพย์สมบัติของนานาชาติจะมายังเจ้า ฝูงอูฐจะมาอยู่เต็มถนนของเจ้า รวมทั้งคาราวานอูฐจากมีเดียนและเอฟาห์ ทุกคนจะมาจากเชบา นำทองคำและกำยานมาด้วย และจะสรรเสริญพระยาห์เวห์ต่อหน้าคนทั้งหลาย
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 3:2-3, 5-6
ท่านคงรู้แล้วถึงพระหรรษทานซึ่งพระเจ้าประทานให้ข้าพเจ้าประกอบพันธกิจเพื่อประโยชน์ของท่าน
ข้าพเจ้ารู้ธรรมล้ำลึกนี้เพราะพระเจ้าทรงเปิดเผยดังที่ข้าพเจ้าเขียนไว้ก่อนหน้านี้โดยสังเขป ธรรมล้ำลึกนี้พระองค์มิได้ทรงเปิดเผยให้มนุษย์ในอดีตรู้ แต่บัดนี้พระเจ้าทรงเปิดเผยเดชะพระจิตเจ้าให้แก่บรรดาอัครสาวกและประกาศกผู้ศักดิ์สิทธิ์รู้ว่า คนต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในกองมรดกเดียวกันร่วมเป็นกายเดียวกัน ร่วมรับพระสัญญาเดียวกันในพระคริสตเยซู อาศัยข่าวดี
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 2:1-12
ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา” ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร
เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
คุณพ่อทิม: ฮอลลีวูดสร้างหนังของการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ผู้คนต้องลุกขึ้นต่อสู้เพื่อเอาชนะความชั่ว การต่อสู้นี้มีมาเมื่ออาดัมและเอวาได้เลือกทําตามการหลอกล่อของปีศาจ...
มนุษย์ถูกสร้างในพระฉายาของพระเจ้า อันรวมถึง การรู้จักใช้เหตุผลและนํ้าใจอิสระ ( reasoning and free will) พระเจ้าทรงให้เลือก ทําตามพระประสงค์ของพระองค์หรือเลือกทําตามนํ้าใจอิสระของตัวเอง...
ถ้าทําตามพระประสงค์ของพระองค์ แม้ว่าการตัดสินใจทํานั้นดูเหมือนไม่มีค่า และการตัดสินใจทําตามนํ้าใจอิสระของตัวเอง จะมีผลที่เรียกกันว่า " ผลของลูกฟุตบอลหิมะ" ( snowball effect) ที่กลิ้งตัวลงจากเนินเขา เริ่มจากก้อนเล็กๆแล้วกลายเป็นก้อนใหญ่โตมโหฬาร...
เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆเกิดขึ้น บางคนโทษพระเจ้าว่า เมื่อทรงรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น ทําไมพระองค์อนุญาตให้มันเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพราะ น้ำใจอิสระของมนุษย์ที่เลือกจะทําเอง...
โหราจารย์สามคนใช้เหตุผลและนํ้าใจอิสระให้ทําพระประสงค์ของพระเจ้า ตัดสินใจ เดินตามดาว ค้นหาพระคริสต์ เมื่อกษัตริย์เฮโรดบอกให้ไปที่เมืองเบธเลเฮม พวกเขาก็ไป แล้วดาวก็นําทางไปถึงที่ประทับของพระกุมารและพระแม่มารีย์ ได้พบกับพระคริสต์สมปรารถนา เมื่อพระเจ้าทรงเตือนพวกเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด พวกเขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น...
กษัตริย์เฮโรดเป็นคนชั่วร้าย แทนที่จะดีใจในการบังเกิดของพระคริสต์ที่เกิดมาเพื่อพวกเขาชาวอิสราเอลและชาวโลก เลือกทําตามนํ้าใจอิสระของตัวเอง หลอกล่อโหราจารย์ให้กลับมาบอกว่าพระองค์อยู่ที่ใด จะได้ให้ทหารไปฆ่า เพราะหวงอํานาจ การครอบครอง และความเป็นกษัตริย์ เมื่อโหราจารย์ไม่กลับมาบอก พระองค์ก็ทําบาปเพิ่มอีกด้วยการฆ่าเหล่าทารกผู้บริสุทธิ์ ป้องกันไม่ให้พระองค์แย่งอํานาจ การครอบครอง และความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ ผลของลูกฟุตบอลหิมะ...
ในตัวเราทุกคนมีสงครามเกิดขึ้นทุกวัน: เลือกทําพระประสงค์ของพระเจ้าหรือเลือกทําตามนํ้าใจอิสระ ที่จะกลายเป็นความเคยชิน เป็นนิสัย เป็นผลของลูกฟุตบอลหิมะ
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 60:1-6
เยรูซาเล็มเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด จงฉายแสงเจิดจ้า เพราะความสว่างของเจ้ามาแล้ว พระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์ทอแสงเหนือเจ้า ดูซิ ความมืดปกคลุมแผ่นดิน และความมืดทึบปกคลุมประชาชาติทั้งหลาย แต่พระยาห์เวห์จะทรงทอแสงเหนือเจ้า ทุกคนจะเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์เหนือเจ้า นานาชาติจะเดินมาหาความสว่างของเจ้า บรรดากษัตริย์จะทรงพระดำเนินมาสู่ความสดใสที่ทอแสงเหนือเจ้า จงเงยหน้าขึ้นมองไปโดยรอบเถิด เขาเหล่านั้นทุกคนมาชุมนุมกันและเดินมาพบเจ้า บุตรชายทั้งหลายของเจ้ามาจากที่ไกล บุตรหญิงของเจ้าก็ถูกอุ้มมาด้วย เมื่อเจ้าเห็นดังนี้ก็จะปลาบปลื้ม ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและยินดี เพราะความมั่งคั่งของทะเลจะกลับมาหาเจ้า ทรัพย์สมบัติของนานาชาติจะมายังเจ้า ฝูงอูฐจะมาอยู่เต็มถนนของเจ้า รวมทั้งคาราวานอูฐจากมีเดียนและเอฟาห์ ทุกคนจะมาจากเชบา นำทองคำและกำยานมาด้วย และจะสรรเสริญพระยาห์เวห์ต่อหน้าคนทั้งหลาย
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 3:2-3, 5-6
ท่านคงรู้แล้วถึงพระหรรษทานซึ่งพระเจ้าประทานให้ข้าพเจ้าประกอบพันธกิจเพื่อประโยชน์ของท่าน
ข้าพเจ้ารู้ธรรมล้ำลึกนี้เพราะพระเจ้าทรงเปิดเผยดังที่ข้าพเจ้าเขียนไว้ก่อนหน้านี้โดยสังเขป ธรรมล้ำลึกนี้พระองค์มิได้ทรงเปิดเผยให้มนุษย์ในอดีตรู้ แต่บัดนี้พระเจ้าทรงเปิดเผยเดชะพระจิตเจ้าให้แก่บรรดาอัครสาวกและประกาศกผู้ศักดิ์สิทธิ์รู้ว่า คนต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในกองมรดกเดียวกันร่วมเป็นกายเดียวกัน ร่วมรับพระสัญญาเดียวกันในพระคริสตเยซู อาศัยข่าวดี
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 2:1-12
ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา” ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร
เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
คุณพ่อทิม: ฮอลลีวูดสร้างหนังของการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ผู้คนต้องลุกขึ้นต่อสู้เพื่อเอาชนะความชั่ว การต่อสู้นี้มีมาเมื่ออาดัมและเอวาได้เลือกทําตามการหลอกล่อของปีศาจ...
มนุษย์ถูกสร้างในพระฉายาของพระเจ้า อันรวมถึง การรู้จักใช้เหตุผลและนํ้าใจอิสระ ( reasoning and free will) พระเจ้าทรงให้เลือก ทําตามพระประสงค์ของพระองค์หรือเลือกทําตามนํ้าใจอิสระของตัวเอง...
ถ้าทําตามพระประสงค์ของพระองค์ แม้ว่าการตัดสินใจทํานั้นดูเหมือนไม่มีค่า และการตัดสินใจทําตามนํ้าใจอิสระของตัวเอง จะมีผลที่เรียกกันว่า " ผลของลูกฟุตบอลหิมะ" ( snowball effect) ที่กลิ้งตัวลงจากเนินเขา เริ่มจากก้อนเล็กๆแล้วกลายเป็นก้อนใหญ่โตมโหฬาร...
เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆเกิดขึ้น บางคนโทษพระเจ้าว่า เมื่อทรงรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น ทําไมพระองค์อนุญาตให้มันเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพราะ น้ำใจอิสระของมนุษย์ที่เลือกจะทําเอง...
โหราจารย์สามคนใช้เหตุผลและนํ้าใจอิสระให้ทําพระประสงค์ของพระเจ้า ตัดสินใจ เดินตามดาว ค้นหาพระคริสต์ เมื่อกษัตริย์เฮโรดบอกให้ไปที่เมืองเบธเลเฮม พวกเขาก็ไป แล้วดาวก็นําทางไปถึงที่ประทับของพระกุมารและพระแม่มารีย์ ได้พบกับพระคริสต์สมปรารถนา เมื่อพระเจ้าทรงเตือนพวกเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด พวกเขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น...
กษัตริย์เฮโรดเป็นคนชั่วร้าย แทนที่จะดีใจในการบังเกิดของพระคริสต์ที่เกิดมาเพื่อพวกเขาชาวอิสราเอลและชาวโลก เลือกทําตามนํ้าใจอิสระของตัวเอง หลอกล่อโหราจารย์ให้กลับมาบอกว่าพระองค์อยู่ที่ใด จะได้ให้ทหารไปฆ่า เพราะหวงอํานาจ การครอบครอง และความเป็นกษัตริย์ เมื่อโหราจารย์ไม่กลับมาบอก พระองค์ก็ทําบาปเพิ่มอีกด้วยการฆ่าเหล่าทารกผู้บริสุทธิ์ ป้องกันไม่ให้พระองค์แย่งอํานาจ การครอบครอง และความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ ผลของลูกฟุตบอลหิมะ...
ในตัวเราทุกคนมีสงครามเกิดขึ้นทุกวัน: เลือกทําพระประสงค์ของพระเจ้าหรือเลือกทําตามนํ้าใจอิสระ ที่จะกลายเป็นความเคยชิน เป็นนิสัย เป็นผลของลูกฟุตบอลหิมะ
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
อาทิตย์ที่ 2 ในเทศกาลธรรมดา 14 มกราคม 2024
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง 1ซามูเอล 3:3-10, 19
หนุ่มซามูเอลรับใช้พระยาห์เวห์อยู่ในความดูแลของเอลี ในสมัยนั้น มีพระดำรัสของพระยาห์เวห์น้อยมาก และไม่ค่อยมีนิมิตจากพระองค์ คืนหนึ่ง เอลีซึ่งบัดนี้นัยน์ตามืดมัวจนเกือบจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว นอนอยู่ในห้องของตน ดวงประทีปในสักการสถานของพระเจ้ายังไม่ดับ ซามูเอลกำลังนอนอยู่ในสักการสถานของพระยาห์เวห์ ที่มีหีบพันธสัญญาของพระเจ้าประดิษฐานอยู่ พระยาห์เวห์ทรงเรียก ซามูเอล เขาทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่” แล้ววิ่งไปถามเอลีว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” แต่เอลีตอบว่า “พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ” ซามูเอลก็กลับไปนอน พระยาห์เวห์ตรัสเรียกอีกว่า “ซามูเอล” ซามูเอลก็ลุกขึ้นไปหาเอลี ถามว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” เอลีตอบว่า “ลูกเอ๋ย พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ” ซามูเอลยังไม่รู้ว่าพระยาห์เวห์ทรงเรียกเขาเพราะพระยาห์เวห์ยังไม่ทรงเปิดเผยพระวาจาแก่เขามาก่อน พระยาห์เวห์ทรงเรียกซามูเอลอีกเป็นครั้งที่สาม เขาก็ลุกขึ้นไปหาเอลีแล้วถามว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” เอลีจึงเข้าใจว่า พระยาห์เวห์ตรัสเรียกเด็กนั้น เอลีบอกซามูเอลว่า “กลับไปนอนเถอะ ถ้ามีเสียงเรียกลูกอีกก็จงตอบว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่’” ซามูเอลจึงกลับไปนอนในที่ของตน พระยาห์เวห์เสด็จมาประทับที่นั่น ตรัสเรียกเช่นครั้งก่อนว่า “ซามูเอล ซามูเอล” ซามูเอลทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่” ซามูเอลเจริญวัยขึ้น พระยาห์เวห์สถิตกับเขา และทรงทำให้คำพูดทุกคำของซามูเอลเป็นจริง
บทอ่านที่สอง โครินธ์ 6:13-15, 17-20
ร่างกายมิได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับร่างกาย พระเจ้าผู้ทรงปลุกองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ จะทรงปลุกเราให้กลับคืนชีพด้วยพระอานุภาพของพระองค์เช่นเดียวกัน ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นส่วนประกอบของพระวรกายของพระคริสตเจ้า จงหลีกหนีการล่วงประเวณี บาปทั้งหลายนั้นมนุษย์ทำนอกร่างกาย แต่ผู้ที่ล่วงประเวณีทำบาปต่อร่างกายของตนเอง ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นพระวิหารของพระจิตเจ้าผู้สถิตอยู่ในท่าน ท่านได้รับพระจิตนี้จากพระเจ้า ท่านจึงไม่เป็นเจ้าของของตนเอง พระเจ้าทรงซื้อท่านไว้ด้วยราคาแพง ดังนั้นจงใช้ร่างกายของท่านถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด
พระวรสาร ยอห์น 1: 35-42
วันรุ่งขึ้น ยอห์นกำลังยืนอยู่ที่นั่นกับศิษย์สองคน เมื่อเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จผ่านไป จึงพูดว่า “นี่คือลูกแกะของพระเจ้า” เมื่อศิษย์ทั้งสองคนได้ยินยอห์นพูดดังนี้จึงติดตามพระเยซูเจ้าไป พระเยซูเจ้าทรงหันพระพักตร์มาทอดพระเนตรเห็นเขากำลังติดตามพระองค์ จึงตรัสถามว่า “ท่านทั้งหลายแสวงหาอะไร” เขาทูลตอบว่า “รับบี” แปลว่า พระอาจารย์ “พระองค์ทรงพำนักอยู่ที่ไหน” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “มาดูซิ” เขาจึงไปดู เห็นที่ประทับของพระองค์ และพักอยู่กับพระองค์ในวันนั้น ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายสี่โมง อันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรเป็นคนหนึ่งในสองคนที่ได้ยินคำพูดของยอห์น และตามพระเยซูเจ้าไป อันดรูว์พบซีโมนพี่ชายเป็นคนแรก จึงพูดว่า “เราพบพระเมสสิยาห์แล้ว” พระเมสสิยาห์ หรือพระคริสตเจ้า แปลว่า ผู้รับเจิม เขาพาพี่ชายไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นเขา จึงตรัสว่า “ท่านคือซีโมนบุตรของยอห์น ท่านจะมีชื่อว่า เคฟาส” แปลว่า “เปโตร” หรือ “ศิลา"
คุณพ่อทิม: วันนี้เป็นวันรับศีลกําลังของสมาชิกของวัดเราสี่คน เป็นชาวเกาหลีสามคนและชาวเม็กซิกันหนึ่งคน ปกติพระสังฆราชจะมีคําถามต่อผู้ต้องการรับศีลกําลัง พ่อไม่ใช่พระสังฆราช จะไม่ถามพวกคุณ พวกคุณสบายใจได้แล้ว ( ลูกวัดฮาตึง) พ่อได้รับอนุญาตให้ทําพิธีรับศีลกําลังจากท่านให้พวกคุณทั้งสี่ พวกเรามีการรับฟังที่เรียกว่า"การเลือกฟัง"( selective hearing) ฟังแต่สิ่งที่เราต้องการ สามีเลือกฟังจากภรรยา ภรรยาเลือกฟังจากสามี ลูกเลือกฟังจากพ่อแม่ พ่อแม่เลือกฟังจากลูกๆ...
พ่อไปเยี่ยมน้องสาวกับสามีของเธอ เรานั่งหลังบ้าน หมาของครอบครัวของเธอนอนบนพื้นข้างๆเธอ เธอออกคําสั่งให้หมา หมานอนนิ่ง เธอขึ้นเสียง ออกคําสั่งอีก หมานิ่งเฉย พ่อกระซิบกับเธอว่าพ่อขอพูดกับหมาของเธอเอง แล้วพ่อก็พูดเสียงเบาๆ ว่ามีกระรอกหน้าสนามบ้าน หมาพุ่งพรวด เห่าเสียงดังสนั่นหูวิ่งลิ่วไปหน้าบ้านไวเหมือนจรวด...หมาเลือกฟังเหมือนกัน... ลูดวัดฮาตึง!
บทอ่านแรกเป็นการเล่นคําเพราะชื่อ "เอลี" มีความหมายว่า "พระเจ้า" และชื่อ "ซามูเอล" มีความหมายว่า "ผู้ได้ยินพระเจ้า/ พระเจ้าได้รับการได้ยิน" เมื่อเราได้ยินพระเจ้า เราต้องให้แน่ใจว่าเป็นพระองค์ มีคนช่วยบอกเรา เหมือนเอลีบอกซามูเอล แล้วซามูเอลทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่”
ในพระวรสารวันนี้ ยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ชี้พระเยซูเจ้าให้ศิษย์เห็นแล้วบอกว่า "นี่คือลูกแกะของพระเจ้า” ลูกแกะในพันธสัญญาเก่าคือลูกแกะที่ถูกฆ่าแล้วเอาเลือดป้ายประตูของชาวอิสราเอลที่เป็นทาสของชาวอียิปต์ไม่ให้ถูกฆ่าเหมือนลูกหัวปีของชาวอียิปต์ในคืน*ปัสกา ( Passover) ศิษย์สองคนฟังแล้วก็ติดตามพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าไม่ได้ถามพวกเขาว่าตามมาทําไม? ทรงถามว่าพวกเขาแสวงหาอะไร? ไม่ใช่ทักทายสวัสดีกันแล้วจากไป แต่พวกเขาต้องการความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับพระองค์ให้มากขึ้น...
พวกคุณทั้งสี่ได้ยินเสียงของพระเจ้า มีคนชี้นํามา พวกคุณได้รับศีลล้างบาปและปราถนาจะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้ามากขึ้น พระจิตเจ้าของพระองค์จะนำทางพวกคุณให้ได้มีความสัมพันธ์กับพระองค์มากขึ้นเมื่อได้รับศีลกําลังในวันนี้
*ผู้เขียน: หลุดเป็นทาสแล้วเริ่มเดินทางไปดินแดนแห่งพันธสัญญา เมื่อ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ข้างบน
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง 1ซามูเอล 3:3-10, 19
หนุ่มซามูเอลรับใช้พระยาห์เวห์อยู่ในความดูแลของเอลี ในสมัยนั้น มีพระดำรัสของพระยาห์เวห์น้อยมาก และไม่ค่อยมีนิมิตจากพระองค์ คืนหนึ่ง เอลีซึ่งบัดนี้นัยน์ตามืดมัวจนเกือบจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว นอนอยู่ในห้องของตน ดวงประทีปในสักการสถานของพระเจ้ายังไม่ดับ ซามูเอลกำลังนอนอยู่ในสักการสถานของพระยาห์เวห์ ที่มีหีบพันธสัญญาของพระเจ้าประดิษฐานอยู่ พระยาห์เวห์ทรงเรียก ซามูเอล เขาทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่” แล้ววิ่งไปถามเอลีว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” แต่เอลีตอบว่า “พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ” ซามูเอลก็กลับไปนอน พระยาห์เวห์ตรัสเรียกอีกว่า “ซามูเอล” ซามูเอลก็ลุกขึ้นไปหาเอลี ถามว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” เอลีตอบว่า “ลูกเอ๋ย พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ” ซามูเอลยังไม่รู้ว่าพระยาห์เวห์ทรงเรียกเขาเพราะพระยาห์เวห์ยังไม่ทรงเปิดเผยพระวาจาแก่เขามาก่อน พระยาห์เวห์ทรงเรียกซามูเอลอีกเป็นครั้งที่สาม เขาก็ลุกขึ้นไปหาเอลีแล้วถามว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” เอลีจึงเข้าใจว่า พระยาห์เวห์ตรัสเรียกเด็กนั้น เอลีบอกซามูเอลว่า “กลับไปนอนเถอะ ถ้ามีเสียงเรียกลูกอีกก็จงตอบว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่’” ซามูเอลจึงกลับไปนอนในที่ของตน พระยาห์เวห์เสด็จมาประทับที่นั่น ตรัสเรียกเช่นครั้งก่อนว่า “ซามูเอล ซามูเอล” ซามูเอลทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่” ซามูเอลเจริญวัยขึ้น พระยาห์เวห์สถิตกับเขา และทรงทำให้คำพูดทุกคำของซามูเอลเป็นจริง
บทอ่านที่สอง โครินธ์ 6:13-15, 17-20
ร่างกายมิได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับร่างกาย พระเจ้าผู้ทรงปลุกองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ จะทรงปลุกเราให้กลับคืนชีพด้วยพระอานุภาพของพระองค์เช่นเดียวกัน ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นส่วนประกอบของพระวรกายของพระคริสตเจ้า จงหลีกหนีการล่วงประเวณี บาปทั้งหลายนั้นมนุษย์ทำนอกร่างกาย แต่ผู้ที่ล่วงประเวณีทำบาปต่อร่างกายของตนเอง ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นพระวิหารของพระจิตเจ้าผู้สถิตอยู่ในท่าน ท่านได้รับพระจิตนี้จากพระเจ้า ท่านจึงไม่เป็นเจ้าของของตนเอง พระเจ้าทรงซื้อท่านไว้ด้วยราคาแพง ดังนั้นจงใช้ร่างกายของท่านถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด
พระวรสาร ยอห์น 1: 35-42
วันรุ่งขึ้น ยอห์นกำลังยืนอยู่ที่นั่นกับศิษย์สองคน เมื่อเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จผ่านไป จึงพูดว่า “นี่คือลูกแกะของพระเจ้า” เมื่อศิษย์ทั้งสองคนได้ยินยอห์นพูดดังนี้จึงติดตามพระเยซูเจ้าไป พระเยซูเจ้าทรงหันพระพักตร์มาทอดพระเนตรเห็นเขากำลังติดตามพระองค์ จึงตรัสถามว่า “ท่านทั้งหลายแสวงหาอะไร” เขาทูลตอบว่า “รับบี” แปลว่า พระอาจารย์ “พระองค์ทรงพำนักอยู่ที่ไหน” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “มาดูซิ” เขาจึงไปดู เห็นที่ประทับของพระองค์ และพักอยู่กับพระองค์ในวันนั้น ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายสี่โมง อันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรเป็นคนหนึ่งในสองคนที่ได้ยินคำพูดของยอห์น และตามพระเยซูเจ้าไป อันดรูว์พบซีโมนพี่ชายเป็นคนแรก จึงพูดว่า “เราพบพระเมสสิยาห์แล้ว” พระเมสสิยาห์ หรือพระคริสตเจ้า แปลว่า ผู้รับเจิม เขาพาพี่ชายไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นเขา จึงตรัสว่า “ท่านคือซีโมนบุตรของยอห์น ท่านจะมีชื่อว่า เคฟาส” แปลว่า “เปโตร” หรือ “ศิลา"
คุณพ่อทิม: วันนี้เป็นวันรับศีลกําลังของสมาชิกของวัดเราสี่คน เป็นชาวเกาหลีสามคนและชาวเม็กซิกันหนึ่งคน ปกติพระสังฆราชจะมีคําถามต่อผู้ต้องการรับศีลกําลัง พ่อไม่ใช่พระสังฆราช จะไม่ถามพวกคุณ พวกคุณสบายใจได้แล้ว ( ลูกวัดฮาตึง) พ่อได้รับอนุญาตให้ทําพิธีรับศีลกําลังจากท่านให้พวกคุณทั้งสี่ พวกเรามีการรับฟังที่เรียกว่า"การเลือกฟัง"( selective hearing) ฟังแต่สิ่งที่เราต้องการ สามีเลือกฟังจากภรรยา ภรรยาเลือกฟังจากสามี ลูกเลือกฟังจากพ่อแม่ พ่อแม่เลือกฟังจากลูกๆ...
พ่อไปเยี่ยมน้องสาวกับสามีของเธอ เรานั่งหลังบ้าน หมาของครอบครัวของเธอนอนบนพื้นข้างๆเธอ เธอออกคําสั่งให้หมา หมานอนนิ่ง เธอขึ้นเสียง ออกคําสั่งอีก หมานิ่งเฉย พ่อกระซิบกับเธอว่าพ่อขอพูดกับหมาของเธอเอง แล้วพ่อก็พูดเสียงเบาๆ ว่ามีกระรอกหน้าสนามบ้าน หมาพุ่งพรวด เห่าเสียงดังสนั่นหูวิ่งลิ่วไปหน้าบ้านไวเหมือนจรวด...หมาเลือกฟังเหมือนกัน... ลูดวัดฮาตึง!
บทอ่านแรกเป็นการเล่นคําเพราะชื่อ "เอลี" มีความหมายว่า "พระเจ้า" และชื่อ "ซามูเอล" มีความหมายว่า "ผู้ได้ยินพระเจ้า/ พระเจ้าได้รับการได้ยิน" เมื่อเราได้ยินพระเจ้า เราต้องให้แน่ใจว่าเป็นพระองค์ มีคนช่วยบอกเรา เหมือนเอลีบอกซามูเอล แล้วซามูเอลทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่”
ในพระวรสารวันนี้ ยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ชี้พระเยซูเจ้าให้ศิษย์เห็นแล้วบอกว่า "นี่คือลูกแกะของพระเจ้า” ลูกแกะในพันธสัญญาเก่าคือลูกแกะที่ถูกฆ่าแล้วเอาเลือดป้ายประตูของชาวอิสราเอลที่เป็นทาสของชาวอียิปต์ไม่ให้ถูกฆ่าเหมือนลูกหัวปีของชาวอียิปต์ในคืน*ปัสกา ( Passover) ศิษย์สองคนฟังแล้วก็ติดตามพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าไม่ได้ถามพวกเขาว่าตามมาทําไม? ทรงถามว่าพวกเขาแสวงหาอะไร? ไม่ใช่ทักทายสวัสดีกันแล้วจากไป แต่พวกเขาต้องการความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับพระองค์ให้มากขึ้น...
พวกคุณทั้งสี่ได้ยินเสียงของพระเจ้า มีคนชี้นํามา พวกคุณได้รับศีลล้างบาปและปราถนาจะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้ามากขึ้น พระจิตเจ้าของพระองค์จะนำทางพวกคุณให้ได้มีความสัมพันธ์กับพระองค์มากขึ้นเมื่อได้รับศีลกําลังในวันนี้
*ผู้เขียน: หลุดเป็นทาสแล้วเริ่มเดินทางไปดินแดนแห่งพันธสัญญา เมื่อ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ข้างบน
อาทิตย์ที่ 3 ในเทศกาลธรรมดา 21 มกราคม 2024
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของสังฆานุกร รอนนี่ ( Deacon Ronnie San Nicolas) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง โยนาห์ 3:1-5,10
พระยาห์เวห์ตรัสกับโยนาห์อีกครั้งหนึ่งว่า “จงลุกขึ้นไปยังกรุงนีนะเวห์นครใหญ่ และประกาศเรื่องที่เราจะบอกแก่เมืองนั้น” โยนาห์ก็ลุกขึ้นไปยังกรุงนีนะเวห์ตามพระวาจาของพระยาห์เวห์ กรุงนีนะเวห์เป็นนครใหญ่มากถ้าจะเดินข้ามเมืองก็กินเวลาสามวัน โยนาห์เริ่มเดินเข้าไปในเมืองเป็นระยะทางเดินหนึ่งวัน ร้องประกาศว่า “อีกสี่สิบวันกรุงนีนะเวห์จะถูกทำลาย” ชาวกรุงนีนะเวห์เชื่อฟังพระเจ้า และประกาศให้อดอาหาร สวมเสื้อผ้ากระสอบทุกคน ตั้งแต่คนใหญ่ที่สุดจนถึงคนต่ำต้อยที่สุด พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นความพยายามของเขา ที่จะกลับใจไม่ประพฤติชั่วอีกต่อไป พระเจ้าทรงพระเมตตาไม่ลงโทษตามที่ตรัสไว้ว่าจะทรงลงโทษเขา
บทอ่านที่สอง 1โครินธ์ 7:29-31
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า เวลานั้นสั้นนัก ตั้งแต่นี้ไปผู้ที่มีภรรยาจงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่มีภรรยา ผู้ที่ร้องไห้จงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่ร้องไห้ ผู้ที่มีความสุขจงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่มีความสุข ผู้ที่ซื้อจงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่มีสิ่งใดเป็นกรรมสิทธิ์ และผู้ที่ใช้ของของโลกนี้จงเป็นเสมือนผู้ที่มิได้ใช้เพราะโลกดังที่เป็นอยู่กำลังจะผ่านไป
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 1:14
หลังจากที่ยอห์นถูกจองจำ พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงประกาศเทศนาข่าวดีของพระเจ้า ตรัสว่า “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด” ขณะที่ทรงพระดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นซีโมนกับอันดรูว์น้องชายกำลังทอดแห เขาเป็นชาวประมง พระเยซูเจ้าตรัสสั่งว่า “จงตามเรามาเถิด เราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์” ซีโมนกับอันดรูว์ก็ทิ้งแหไว้ แล้วตามพระองค์ไปทันที เมื่อทรงพระดำเนินไปอีกเล็กน้อย พระองค์ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรของเศเบดี และยอห์นน้องชายกำลังซ่อมแหอยู่ในเรือ พระองค์ทรงเรียกเขาทั้งสองคนก็ละทิ้งเศเบดีบิดาของตนไว้ในเรือกับลูกจ้าง แล้วตามพระองค์ไปทันที
สังฆานุกร รอนนี่: เมื่อปีคศ 2019 โป๊ปฟรานซิสทรงกําหนดวันอาทิตย์ที่สามในเทศกาลธรรมดาเป็นวันอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและการสวดภาวนาเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของคริสตชน
บทอ่านที่หนึ่ง: พระเจ้าทรงสั่งให้ประกาศกโยนาห์
ไปที่นครนีนะเวห์เมืองหลวงของอาณาจักรแอสซีเรียที่กว้างใหญ่ขนาดต้องเดินสามวันถึงจะข้ามเมือง บอกให้กลับใจก่อนที่พระองค์จะลงโทษเพราะนครนีนะเวห์เป็นเมืองที่มีการกระทำบาปแทบทุกประเภท ชั่วอันดับหนึ่งของอาณาจักรแอสซีเรีย พวกเขากลับใจเลยไม่ถูกลงโทษ...
บทอ่านที่สอง: นักบุญเปาโลไปเมืองโครินธ์ที่ขึ้นชื่อลือชาในการทําบาปแทบทุกประเภทในอาณาจักรโรมัน ให้กลับใจเลิกทําบาปก่อนที่จะสายเกินไป...
พระวรสาร: พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สี่คนแรกที่เป็นชาวประมง ชวนไปเป็นชาวประมงหามนุษย์ซึ่งมีค่ากว่าการหาปลา และพวกเราในยุคปัจจุบันก็ต้องทําตามเช่นกัน เพราะเมื่อเรารับศีลล้างบาป เรามีพันธสัญญากับพระองค์เช่นกัน รัก รู้จัก รับใช้พระองค์ และพาผู้อื่นมาหาพระองค์เช่นกัน
พระคัมภีร์ไบเบิล/ BIBLE: เป็นคําแนะนำขั้นพื้นฐานก่อนจากโลก/ Basic Instruction Before Leaving Earth เป็นพระวาจาของพระเจ้า พระองค์พูด เราฟัง
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของสังฆานุกร รอนนี่ ( Deacon Ronnie San Nicolas) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง โยนาห์ 3:1-5,10
พระยาห์เวห์ตรัสกับโยนาห์อีกครั้งหนึ่งว่า “จงลุกขึ้นไปยังกรุงนีนะเวห์นครใหญ่ และประกาศเรื่องที่เราจะบอกแก่เมืองนั้น” โยนาห์ก็ลุกขึ้นไปยังกรุงนีนะเวห์ตามพระวาจาของพระยาห์เวห์ กรุงนีนะเวห์เป็นนครใหญ่มากถ้าจะเดินข้ามเมืองก็กินเวลาสามวัน โยนาห์เริ่มเดินเข้าไปในเมืองเป็นระยะทางเดินหนึ่งวัน ร้องประกาศว่า “อีกสี่สิบวันกรุงนีนะเวห์จะถูกทำลาย” ชาวกรุงนีนะเวห์เชื่อฟังพระเจ้า และประกาศให้อดอาหาร สวมเสื้อผ้ากระสอบทุกคน ตั้งแต่คนใหญ่ที่สุดจนถึงคนต่ำต้อยที่สุด พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นความพยายามของเขา ที่จะกลับใจไม่ประพฤติชั่วอีกต่อไป พระเจ้าทรงพระเมตตาไม่ลงโทษตามที่ตรัสไว้ว่าจะทรงลงโทษเขา
บทอ่านที่สอง 1โครินธ์ 7:29-31
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า เวลานั้นสั้นนัก ตั้งแต่นี้ไปผู้ที่มีภรรยาจงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่มีภรรยา ผู้ที่ร้องไห้จงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่ร้องไห้ ผู้ที่มีความสุขจงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่มีความสุข ผู้ที่ซื้อจงเป็นเสมือนผู้ที่ไม่มีสิ่งใดเป็นกรรมสิทธิ์ และผู้ที่ใช้ของของโลกนี้จงเป็นเสมือนผู้ที่มิได้ใช้เพราะโลกดังที่เป็นอยู่กำลังจะผ่านไป
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 1:14
หลังจากที่ยอห์นถูกจองจำ พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงประกาศเทศนาข่าวดีของพระเจ้า ตรัสว่า “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด” ขณะที่ทรงพระดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นซีโมนกับอันดรูว์น้องชายกำลังทอดแห เขาเป็นชาวประมง พระเยซูเจ้าตรัสสั่งว่า “จงตามเรามาเถิด เราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์” ซีโมนกับอันดรูว์ก็ทิ้งแหไว้ แล้วตามพระองค์ไปทันที เมื่อทรงพระดำเนินไปอีกเล็กน้อย พระองค์ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรของเศเบดี และยอห์นน้องชายกำลังซ่อมแหอยู่ในเรือ พระองค์ทรงเรียกเขาทั้งสองคนก็ละทิ้งเศเบดีบิดาของตนไว้ในเรือกับลูกจ้าง แล้วตามพระองค์ไปทันที
สังฆานุกร รอนนี่: เมื่อปีคศ 2019 โป๊ปฟรานซิสทรงกําหนดวันอาทิตย์ที่สามในเทศกาลธรรมดาเป็นวันอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและการสวดภาวนาเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของคริสตชน
บทอ่านที่หนึ่ง: พระเจ้าทรงสั่งให้ประกาศกโยนาห์
ไปที่นครนีนะเวห์เมืองหลวงของอาณาจักรแอสซีเรียที่กว้างใหญ่ขนาดต้องเดินสามวันถึงจะข้ามเมือง บอกให้กลับใจก่อนที่พระองค์จะลงโทษเพราะนครนีนะเวห์เป็นเมืองที่มีการกระทำบาปแทบทุกประเภท ชั่วอันดับหนึ่งของอาณาจักรแอสซีเรีย พวกเขากลับใจเลยไม่ถูกลงโทษ...
บทอ่านที่สอง: นักบุญเปาโลไปเมืองโครินธ์ที่ขึ้นชื่อลือชาในการทําบาปแทบทุกประเภทในอาณาจักรโรมัน ให้กลับใจเลิกทําบาปก่อนที่จะสายเกินไป...
พระวรสาร: พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สี่คนแรกที่เป็นชาวประมง ชวนไปเป็นชาวประมงหามนุษย์ซึ่งมีค่ากว่าการหาปลา และพวกเราในยุคปัจจุบันก็ต้องทําตามเช่นกัน เพราะเมื่อเรารับศีลล้างบาป เรามีพันธสัญญากับพระองค์เช่นกัน รัก รู้จัก รับใช้พระองค์ และพาผู้อื่นมาหาพระองค์เช่นกัน
พระคัมภีร์ไบเบิล/ BIBLE: เป็นคําแนะนำขั้นพื้นฐานก่อนจากโลก/ Basic Instruction Before Leaving Earth เป็นพระวาจาของพระเจ้า พระองค์พูด เราฟัง
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
าทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลธรรมดา 28 มกราคม 2024
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเม้นท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Father Clement Sacred Heart Paris. Lacey, Washington State, U.S.) และ สารของพระเยซูเจ้าจากการรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งพระเมตตา ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลิ นาริวาส ( The Great Crusade of Mercy, Catalina Rivas, CM-21-4)
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15-20
พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน จะทรงบันดาลให้ประกาศกเหมือนข้าพเจ้าเกิดขึ้นสำหรับท่านจากบรรดาพี่น้องของท่าน ท่านจะต้องเชื่อฟังเขา เมื่อท่านมาชุมนุมกันที่ภูเขาโฮเรบ ท่านวอนขอพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านว่า “ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้าอีก หรือเห็นไฟกองใหญ่นี้อีกต่อไป เกรงว่าข้าพเจ้าจะต้องตาย” พระยาห์เวห์จึงตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “ที่เขาขอร้องมาก็ถูกต้อง เราจะบันดาลให้ประกาศกคนหนึ่งเหมือนท่านเกิดขึ้นจากบรรดาพี่น้องของเขา เราจะใส่ถ้อยคำของเราไว้ในปากของเขา และเขาจะพูดทุกอย่างที่เราสั่ง ใครที่ไม่ยอมฟังถ้อยคำของเราที่ประกาศกจะพูดในนามของเรา เราจะลงโทษเขา แต่ถ้าประกาศกคนใดบังอาจพูดในนามของเราโดยที่เราไม่ได้สั่ง หรือพูดในนามของเทพเจ้าอื่น ประกาศกผู้นั้นจะถูกประหารชีวิต”
บทอ่านที่สอง 1โครินธ์ 7:32-35
ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านปราศจากความกังวล ผู้ที่มิได้แต่งงานย่อมสาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า หาวิธีทำให้พระองค์พอพระทัย ผู้ที่แต่งงานก็ย่อมสาละวนกับการงานของโลก หาวิธีทำให้ภรรยาพอใจ เป็นความกังวลหลายด้าน หญิงที่ไม่แต่งงานและสาวพรหมจารีนั้น ย่อมสาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะได้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนหญิงที่แต่งงานแล้วย่อมสาละวนอยู่กับการงานของโลก หาวิธีทำให้สามีพอใจ ท่าน แต่เพื่อให้ท่านดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง อุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้โดยปราศจากความกังวล
มาระโก: 1:21-28
พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ เมื่อถึงวันสับบาโต พระองค์เสด็จเข้าไปในศาลาธรรม และทรงเริ่มสั่งสอน คำสั่งสอนของพระองค์ทำให้ผู้ฟังรู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะทรงสอนเขาอย่างทรงอำนาจไม่เหมือนกับบรรดาธรรมาจารย์ ขณะนั้น ในศาลาธรรมชายคนหนึ่งซึ่งปีศาจสิงอยู่ร้องตะโกนว่า “ท่านมายุ่งกับเราทำไม เยซู ชาวนาซาเร็ธ ท่านมาทำลายเราใช่ไหม เรารู้ว่าท่านเป็นใคร ท่านคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า” พระเยซูเจ้าทรงดุปีศาจและตรัสสั่งว่า “จงเงียบ ออกไปจากผู้นี้” เมื่อปีศาจทำให้ชายผู้นั้นชักและร้องเสียงดังแล้ว มันก็ออกไปจากเขา ทุกคนต่างประหลาดใจจึงถามกันว่า “นี่มันเรื่องอะไร เป็นคำสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจ เขาสั่งแม้กระทั่งปีศาจและมันก็เชื่อฟัง” แล้วกิตติศัพท์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทุกแห่งตลอดทั่วแคว้นกาลิลีทันที
สังฆานุกร แทรี่: ก่อนที่คุณพ่อจะเทศน์ ผมขอบอกกับทุกคนว่า วันนี้เป็นวันร่วมใจสวดภาวนาเพื่อโรงเรียนคาทอลิกของเราในสหรัฐอเมริกา
คุณพ่อเคลเม้นท์: พระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้า พระองค์ทรงเทศน์ด้วยอํานาจไม่เหมือนกับบรรดาธรรมาจารย์ ทรงขับไล่ปีศาจให้ออกจากชายที่มันสิ่ง พวกเราผู้ติดตามพระองค์ทุกคนต้องทําตัวให้ศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระองค์...
เมื่อสองสามวันก่อนมีสุภาพสตรีชาวเม็กซิกันมาระบายความในใจกับพ่อว่าเธอแต่งงานมา 15 ปี แล้วเอามือปาดเหงื่อที่หน้าผากสบัดสามครั้ง ร้องวู้! พ่อบอกเธอว่า พ่อเป็นพระสงฆ์ 20 กว่าปี แล้วเอามือปาดเหงื่อที่หน้าผากสบัดสามครั้ง ร้องวู้! ลูกวัดฮาลั่น... คุณพ่อมองสบตาพวกเราทุกคนแล้วถามว่า การเป็นพระสงฆ์ การแต่งงานมีคู่ครอง และการเป็นโสด อะไรศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน ลูกวัดหลายคนบอก การเป็นพระสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คุณพ่อส่ายหน้า " การเป็นพระสงฆ์ การแต่งงานมีคู่ครอง และการเป็นโสดมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากัน!" จงทําตัวให้ศักดิ์สิทธิ์ในทางเดินของชีวิตที่ได้เลือก..และจงจําว่า พระเจ้าไม่เคยขับไล่ผู้ใดที่มาขออภัยโทษจากพระองค์ถ้าเขาผู้นั้นถ่อมตัว จริงใจ และสํานึกเสียใจในบาปที่ได้กระทํา...
คุณพ่อ: พระเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเจ้าดี
ก่อนคุณพ่ออวยพรจบมิสซา: คุณแอน ครูสอนนักเรียนชั้นประถมสองของโรงเรียนพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของเราก็ประกาศข่าวดีว่าปีหน้าสังฆมณฑลซีแอ้ทเทิ้ลจะรับโรงเรียนของเราให้เป็นหนึ่งในโรงเรียนของสังฆมณฑล ค่าเรียนจะได้ถูกลง ถ้าพวกคุณมีลูกมีหลานพามาเป็นนักเรียนของเรานะคะ จุดประสงค์ของเราคือ: ปลูกฝังความเชื่อ ให้ความรู้เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย และรับใช้สังคม
ลูกวัดฮือฮาตื่นเต้น ผมฟังแล้วนึกถึงเรื่องขําขันที่พี่ชายผมเล่าให้ฟัง พี่ส่งลูกชายลูกสาวสองคนเมื่อยังเล็กๆ เข้าโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาขอนแก่น วันหนึ่งนั่งกินข้าวกับเพื่อน เพื่อนบ่นว่าค่าเรียนของโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาขอนแก่น แพงกว่าโรงเรียนเอกชนอื่นๆ คงเป็นเพราะเป็นคนพุทธ์ไม่ใช่คนคริสต์ คนคริสต์คงได้ส่วนลดพิเศษ ต้องเรียกโรงเรียนนี้ว่า " โรงเรียนพระมหาไถ" ฟังแล้วแสบทรวง! พี่ชายผมใจเย็น บอกเพื่อนว่า มีลูกเป็นนักเรียนที่นั่นเช่นกัน แล้วเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลว่าเสียค่าเล่าเรียนเท่าไร คิดเป็นเทอม ฯลฯ ปรากฏว่า เสียเท่ากัน เพื่อนเลยบอกขอบใจ โล่งอก ....
จากการรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งพระเมตตา ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลิ นาริวาส ( The Great Crusade of Mercy, Catalina Rivas, CM-21-4)
4) มันไม่เป็นอย่างนั้นหรือเมื่อพ่อเปลี่ยนนํ้าให้เป็นเหล้าองุ่นและในการมอบให้พวกเขาดื่ม พ่อไม่ได้แสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และพลังของพ่อดอกหรือ? ที่เมืองนาอินพ่อไม่ได้คืนชีวิตให้กับลูกชายของแม่หม้ายดอกหรือ? ในถิ่นทุรกันดารของแคว้นจูเดีย ในแคว้นซามาเรีย ในแคว้นกาลิลี และในเมืองคาเปอรนาอุม พ่อไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจและพระเมตตาของพ่อหรือไร?
From "The Great Crusade of Mercy" Testimony of Catalina Rivas (CM - 21:4)
4) Is it not so that I transformed the water into wine and, by giving it to the people to drink, did I not show My grace and My power? In the city of Nain did I not bring back to life the son of a widow? In the wilderness of Judea, in Samaria, in Galilee, and in Capernaum, did I not show My compassion and my mercy.
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเม้นท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Father Clement Sacred Heart Paris. Lacey, Washington State, U.S.) และ สารของพระเยซูเจ้าจากการรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งพระเมตตา ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลิ นาริวาส ( The Great Crusade of Mercy, Catalina Rivas, CM-21-4)
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15-20
พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน จะทรงบันดาลให้ประกาศกเหมือนข้าพเจ้าเกิดขึ้นสำหรับท่านจากบรรดาพี่น้องของท่าน ท่านจะต้องเชื่อฟังเขา เมื่อท่านมาชุมนุมกันที่ภูเขาโฮเรบ ท่านวอนขอพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านว่า “ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้าอีก หรือเห็นไฟกองใหญ่นี้อีกต่อไป เกรงว่าข้าพเจ้าจะต้องตาย” พระยาห์เวห์จึงตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “ที่เขาขอร้องมาก็ถูกต้อง เราจะบันดาลให้ประกาศกคนหนึ่งเหมือนท่านเกิดขึ้นจากบรรดาพี่น้องของเขา เราจะใส่ถ้อยคำของเราไว้ในปากของเขา และเขาจะพูดทุกอย่างที่เราสั่ง ใครที่ไม่ยอมฟังถ้อยคำของเราที่ประกาศกจะพูดในนามของเรา เราจะลงโทษเขา แต่ถ้าประกาศกคนใดบังอาจพูดในนามของเราโดยที่เราไม่ได้สั่ง หรือพูดในนามของเทพเจ้าอื่น ประกาศกผู้นั้นจะถูกประหารชีวิต”
บทอ่านที่สอง 1โครินธ์ 7:32-35
ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านปราศจากความกังวล ผู้ที่มิได้แต่งงานย่อมสาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า หาวิธีทำให้พระองค์พอพระทัย ผู้ที่แต่งงานก็ย่อมสาละวนกับการงานของโลก หาวิธีทำให้ภรรยาพอใจ เป็นความกังวลหลายด้าน หญิงที่ไม่แต่งงานและสาวพรหมจารีนั้น ย่อมสาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะได้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนหญิงที่แต่งงานแล้วย่อมสาละวนอยู่กับการงานของโลก หาวิธีทำให้สามีพอใจ ท่าน แต่เพื่อให้ท่านดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง อุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้โดยปราศจากความกังวล
มาระโก: 1:21-28
พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ เมื่อถึงวันสับบาโต พระองค์เสด็จเข้าไปในศาลาธรรม และทรงเริ่มสั่งสอน คำสั่งสอนของพระองค์ทำให้ผู้ฟังรู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะทรงสอนเขาอย่างทรงอำนาจไม่เหมือนกับบรรดาธรรมาจารย์ ขณะนั้น ในศาลาธรรมชายคนหนึ่งซึ่งปีศาจสิงอยู่ร้องตะโกนว่า “ท่านมายุ่งกับเราทำไม เยซู ชาวนาซาเร็ธ ท่านมาทำลายเราใช่ไหม เรารู้ว่าท่านเป็นใคร ท่านคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า” พระเยซูเจ้าทรงดุปีศาจและตรัสสั่งว่า “จงเงียบ ออกไปจากผู้นี้” เมื่อปีศาจทำให้ชายผู้นั้นชักและร้องเสียงดังแล้ว มันก็ออกไปจากเขา ทุกคนต่างประหลาดใจจึงถามกันว่า “นี่มันเรื่องอะไร เป็นคำสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจ เขาสั่งแม้กระทั่งปีศาจและมันก็เชื่อฟัง” แล้วกิตติศัพท์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทุกแห่งตลอดทั่วแคว้นกาลิลีทันที
สังฆานุกร แทรี่: ก่อนที่คุณพ่อจะเทศน์ ผมขอบอกกับทุกคนว่า วันนี้เป็นวันร่วมใจสวดภาวนาเพื่อโรงเรียนคาทอลิกของเราในสหรัฐอเมริกา
คุณพ่อเคลเม้นท์: พระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้า พระองค์ทรงเทศน์ด้วยอํานาจไม่เหมือนกับบรรดาธรรมาจารย์ ทรงขับไล่ปีศาจให้ออกจากชายที่มันสิ่ง พวกเราผู้ติดตามพระองค์ทุกคนต้องทําตัวให้ศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระองค์...
เมื่อสองสามวันก่อนมีสุภาพสตรีชาวเม็กซิกันมาระบายความในใจกับพ่อว่าเธอแต่งงานมา 15 ปี แล้วเอามือปาดเหงื่อที่หน้าผากสบัดสามครั้ง ร้องวู้! พ่อบอกเธอว่า พ่อเป็นพระสงฆ์ 20 กว่าปี แล้วเอามือปาดเหงื่อที่หน้าผากสบัดสามครั้ง ร้องวู้! ลูกวัดฮาลั่น... คุณพ่อมองสบตาพวกเราทุกคนแล้วถามว่า การเป็นพระสงฆ์ การแต่งงานมีคู่ครอง และการเป็นโสด อะไรศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน ลูกวัดหลายคนบอก การเป็นพระสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คุณพ่อส่ายหน้า " การเป็นพระสงฆ์ การแต่งงานมีคู่ครอง และการเป็นโสดมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากัน!" จงทําตัวให้ศักดิ์สิทธิ์ในทางเดินของชีวิตที่ได้เลือก..และจงจําว่า พระเจ้าไม่เคยขับไล่ผู้ใดที่มาขออภัยโทษจากพระองค์ถ้าเขาผู้นั้นถ่อมตัว จริงใจ และสํานึกเสียใจในบาปที่ได้กระทํา...
คุณพ่อ: พระเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเจ้าดี
ก่อนคุณพ่ออวยพรจบมิสซา: คุณแอน ครูสอนนักเรียนชั้นประถมสองของโรงเรียนพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของเราก็ประกาศข่าวดีว่าปีหน้าสังฆมณฑลซีแอ้ทเทิ้ลจะรับโรงเรียนของเราให้เป็นหนึ่งในโรงเรียนของสังฆมณฑล ค่าเรียนจะได้ถูกลง ถ้าพวกคุณมีลูกมีหลานพามาเป็นนักเรียนของเรานะคะ จุดประสงค์ของเราคือ: ปลูกฝังความเชื่อ ให้ความรู้เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย และรับใช้สังคม
ลูกวัดฮือฮาตื่นเต้น ผมฟังแล้วนึกถึงเรื่องขําขันที่พี่ชายผมเล่าให้ฟัง พี่ส่งลูกชายลูกสาวสองคนเมื่อยังเล็กๆ เข้าโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาขอนแก่น วันหนึ่งนั่งกินข้าวกับเพื่อน เพื่อนบ่นว่าค่าเรียนของโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาขอนแก่น แพงกว่าโรงเรียนเอกชนอื่นๆ คงเป็นเพราะเป็นคนพุทธ์ไม่ใช่คนคริสต์ คนคริสต์คงได้ส่วนลดพิเศษ ต้องเรียกโรงเรียนนี้ว่า " โรงเรียนพระมหาไถ" ฟังแล้วแสบทรวง! พี่ชายผมใจเย็น บอกเพื่อนว่า มีลูกเป็นนักเรียนที่นั่นเช่นกัน แล้วเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลว่าเสียค่าเล่าเรียนเท่าไร คิดเป็นเทอม ฯลฯ ปรากฏว่า เสียเท่ากัน เพื่อนเลยบอกขอบใจ โล่งอก ....
จากการรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งพระเมตตา ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลิ นาริวาส ( The Great Crusade of Mercy, Catalina Rivas, CM-21-4)
4) มันไม่เป็นอย่างนั้นหรือเมื่อพ่อเปลี่ยนนํ้าให้เป็นเหล้าองุ่นและในการมอบให้พวกเขาดื่ม พ่อไม่ได้แสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และพลังของพ่อดอกหรือ? ที่เมืองนาอินพ่อไม่ได้คืนชีวิตให้กับลูกชายของแม่หม้ายดอกหรือ? ในถิ่นทุรกันดารของแคว้นจูเดีย ในแคว้นซามาเรีย ในแคว้นกาลิลี และในเมืองคาเปอรนาอุม พ่อไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจและพระเมตตาของพ่อหรือไร?
From "The Great Crusade of Mercy" Testimony of Catalina Rivas (CM - 21:4)
4) Is it not so that I transformed the water into wine and, by giving it to the people to drink, did I not show My grace and My power? In the city of Nain did I not bring back to life the son of a widow? In the wilderness of Judea, in Samaria, in Galilee, and in Capernaum, did I not show My compassion and my mercy.
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
อาทิตย์ที่ 5 ในเทศกาลธรรมดา 4 กุมภาพันธ์ 2024 พระวรสาร บทเทศน์เด็ด และสารของพระเยซูเจ้า จาก "หีบพันธสัญญาใหม่"
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ขององคุณพ่อทิมวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.) และ สารของพระเยซูเจ้า จาก "หีบพันธสัญญาใหม่" ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลิ นาริวาส ( The Ark of the New Covenant, Catalina Rivas, ARK -77:4)
บทอ่านที่หนึ่ง โยบ 7:1-4,6-7
ชีวิตมนุษย์บนแผ่นดินเป็นการถูกเกณฑ์ทหาร ชีวิตของเขาเป็นเหมือนชีวิตของลูกจ้าง ทาสโหยหาเวลาเย็น ลูกจ้างรอคอยค่าจ้างฉันใด แต่ละเดือนในชีวิตของข้าพเจ้าก็ผ่านไปโดยไร้ความหมาย แต่ละคืนก็มีแต่ความทุกข์ฉันนั้น เมื่อนอนลงข้าพเจ้าก็พูดว่า “ข้าพเจ้าจะลุกขึ้นเมื่อไร” แต่กลางคืนก็ยาว และข้าพเจ้าก็พลิกตัวไปมาจนรุ่งเช้า ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงระลึกว่าชีวิตของข้าพเจ้าเป็นเหมือนลมวูบเดียว ตาของข้าพเจ้าจะไม่เห็นอะไรดีอีกเลย
บทอ่านที่สอง 1 โครินธ์ 9: 16-19, 22-23
แต่ในการประกาศข่าวดีข้าพเจ้าไม่รู้สึกภูมิใจแม้แต่น้อย เพราะข้าพเจ้าจำเป็นต้องประกาศอยู่แล้ว หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ เพราะถ้าข้าพเจ้าสมัครใจทำเอง ข้าพเจ้าก็จะได้รับค่าจ้าง แต่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้สมัครใจทำก็หมายความว่า ข้าพเจ้าเพียงแต่ทำงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
18 ข้าพเจ้าจะได้รางวัลใดเล่า รางวัลสำหรับข้าพเจ้าก็คือความภูมิใจที่ข้าพเจ้าประกาศข่าวดีให้โดยไม่ใช้สิทธิต่างๆ จากการประกาศข่าวดีนั้น แม้ว่าข้าพเจ้าเป็นอิสระ ข้าพเจ้าก็ยอมเป็นทาสรับใช้ทุกคน เพื่อเอาชนะใจผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ข้าพเจ้าทำตนเป็นผู้อ่อนแอเพื่อชนะใจผู้อ่อนแอ ข้าพเจ้าเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ใช้ทุกวิถีทางช่วยบางคนให้รอดพ้น ข้าพเจ้าทำทุกอย่างเพราะเห็นแก่ข่าวดี เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนรับพระพรจากข่าวดีนี้ร่วมกับเขาเหล่านั้นด้วย
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 1:29-39
ทันทีที่ออกจากศาลาธรรม พระองค์เสด็จเข้าไปในบ้านของซีโมนและอันดรูว์พร้อมกับยากอบและยอห์น มารดาของภรรยาซีโมนกำลังนอนป่วยเป็นไข้อยู่ เขาจึงทูลพระองค์ให้ทรงทราบทันที พระองค์เสด็จเข้าไปจับมือนาง พยุงให้ลุกขึ้น นางก็หายไข้ และรับใช้ทุกคน เย็นวันนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว มีผู้นำคนป่วยและคนถูกปีศาจสิงมาเฝ้าพระองค์ คนทั้งเมืองมารวมกันที่ประตู พระองค์ทรงรักษาหลายคนที่เป็นโรคต่าง ๆ ให้หาย ทรงขับไล่ปีศาจออกไป แต่ไม่ทรงอนุญาตให้มันพูด เพราะมันรู้จักพระองค์ วันต่อมา พระองค์ทรงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เสด็จออกจากบ้านไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนาที่นั่น ซีโมนและผู้ที่อยู่กับเขาตามหาพระองค์ เมื่อพบแล้ว จึงทูลพระองค์ว่า “ทุกคนกำลังแสวงหาพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราไปที่อื่นกันเถิด ไปตามตำบลใกล้เคียง เพื่อจะได้เทศน์สอนที่นั่นด้วย เพราะเรามาด้วยจุดประสงค์นี้”
คุณพ่อทิม: ประกาศกโยบบ่นครวญครางถึงชีวิตที่สิ้นหวัง ไม่เห็นจะดีขึ้น มีกี่ครั้งที่เราก็บ่นครวญครางถึงชีวิตที่สิ้นหวัง ไม่เห็นจะดีขึ้นเช่นกัน อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต ( ลูกวัดฮาตึง) พระเยซูเจ้าทรงรักษาหลายคน ไม่ใช่ทุกคน อาจเป็นเพราะบางคนไม่มีความเชื่อ บางคนอาจไม่ควรได้รับการรักษา พวกเราทุกคนไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อโลกนี้ ร่างกายเสื่อมโทรม แล้วก็ตาย ไม่เป็นอมตะ มนุษย์ทุกคนต้องตาย หลีกเลี่ยงไม่ได้!
พระเยซูเจ้าทรงเจ็บปวดทรมานสิ้นพระชนมชีพ พระองค์ได้รับการรักษาในชีวิตใหม่ ฟื้นคืนพระชนมชีพ
ในวัดของเรา หลายคนได้รับการรักษาจากพระเยซูเจ้าให้หายจากร้ายถึงตาย: โรคมะเร็งที่หมอบอกตายแน่ โรคร้ายอื่นๆ แต่ทุกคนที่สวดภาวนาขอความช่วยเหลือจากพระองค์ไม่ได้รับการรักษาจากพระองค์ทุกคน บางคน! ถ้าไม่ได้รับการรักษาจากพระองค์ ควรที่เราจะเลิกเชื่อในพระองค์หรือไม่?
คุณพ่อทิมเจ้าวัดอัครเทวดาไมเกิ้ล เมืองโอลิมเปีย ติดกับเมืองเลซี่ของเรา ได้ให้สัมภาษณ์วิทยุโรมันคาทอลิกพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ท่านเป็นโรคเส้นกระตุกร้ายแรง เจ็บปวดทรมานตลอดเวลา ท่านขอพระเยซูเจ้าให้ทรงรักษาท่าน บ่นครวญครางสิ้นหวังในชีวิตที่ไม่เห็นจะดีขึ้น แล้ววันหนึ่ง พระเยซูเจ้าพูดกับหัวใจของท่าน: พ่อกําลังอวยพรลูก
สารของพระเยซูเจ้า จาก "หีบพันธสัญญาใหม่" ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลินา ริวาส ( The Ark of the New Covenant, Catalina Rivas, ARK -77:4)
4) แล้วพ่อก็รักษาความเจ็บป่วยของร่างกาย แต่ที่นี่ พ่อบําบัดความเจ็บป่วย ความอ่อนแอ และความทุกข์ทรมานของวิญญาณ แล้วพ่อก็ให้อิสระแก่คนที่ถูกปีศาจสิง และผู้คนที่ถูกรบกวนโดยปีศาจ ณ ที่นี่ พ่อได้ทํามากกว่านั้นอีกเพราะพ่อป้องกันพวกเขาจากมัน แล้วพ่อชําระล้างคนโรคเรื้อน ณ ที่นี่ พ่อชําระล้างวิญญาณและทําให้พวกเขาสะอาด แล้วพ่อได้เลี้ยงผู้คนจำนวนพันๆ แบบอัศจรรย์ด้วยอาหารเหนือธรรมชาติ ณ ที่นี่ พ่อเลี้ยงทุกคนด้วยพระกายของพ่อ แล้วพ่อได้รักษาผู้คนที่มีอาการตกเลือด วันนี้ พ่อรักษาแผลของพวกเขาจากบาดแผลของวิญญาณ
From "The Ark of the New Covenant" Testimony of Catalina Rivas (ARK - 77:4).
4) Then I cured the illnesses of the body but here I heal the illnesses, the weaknesses and the miseries of the soul. Then I freed the
possessed or those bothered by the devil, here I do more because I protect them from him. Then I cleaned the leper and here I purify the souls and I leave them clean. Then I fed miraculously thousands of men with supernatural food, here I nurture all with My Body. Then I cured those with hemorrhages; today I cure the sores of their spiritual wounds.
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ขององคุณพ่อทิมวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.) และ สารของพระเยซูเจ้า จาก "หีบพันธสัญญาใหม่" ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลิ นาริวาส ( The Ark of the New Covenant, Catalina Rivas, ARK -77:4)
บทอ่านที่หนึ่ง โยบ 7:1-4,6-7
ชีวิตมนุษย์บนแผ่นดินเป็นการถูกเกณฑ์ทหาร ชีวิตของเขาเป็นเหมือนชีวิตของลูกจ้าง ทาสโหยหาเวลาเย็น ลูกจ้างรอคอยค่าจ้างฉันใด แต่ละเดือนในชีวิตของข้าพเจ้าก็ผ่านไปโดยไร้ความหมาย แต่ละคืนก็มีแต่ความทุกข์ฉันนั้น เมื่อนอนลงข้าพเจ้าก็พูดว่า “ข้าพเจ้าจะลุกขึ้นเมื่อไร” แต่กลางคืนก็ยาว และข้าพเจ้าก็พลิกตัวไปมาจนรุ่งเช้า ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงระลึกว่าชีวิตของข้าพเจ้าเป็นเหมือนลมวูบเดียว ตาของข้าพเจ้าจะไม่เห็นอะไรดีอีกเลย
บทอ่านที่สอง 1 โครินธ์ 9: 16-19, 22-23
แต่ในการประกาศข่าวดีข้าพเจ้าไม่รู้สึกภูมิใจแม้แต่น้อย เพราะข้าพเจ้าจำเป็นต้องประกาศอยู่แล้ว หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ เพราะถ้าข้าพเจ้าสมัครใจทำเอง ข้าพเจ้าก็จะได้รับค่าจ้าง แต่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้สมัครใจทำก็หมายความว่า ข้าพเจ้าเพียงแต่ทำงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
18 ข้าพเจ้าจะได้รางวัลใดเล่า รางวัลสำหรับข้าพเจ้าก็คือความภูมิใจที่ข้าพเจ้าประกาศข่าวดีให้โดยไม่ใช้สิทธิต่างๆ จากการประกาศข่าวดีนั้น แม้ว่าข้าพเจ้าเป็นอิสระ ข้าพเจ้าก็ยอมเป็นทาสรับใช้ทุกคน เพื่อเอาชนะใจผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ข้าพเจ้าทำตนเป็นผู้อ่อนแอเพื่อชนะใจผู้อ่อนแอ ข้าพเจ้าเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ใช้ทุกวิถีทางช่วยบางคนให้รอดพ้น ข้าพเจ้าทำทุกอย่างเพราะเห็นแก่ข่าวดี เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนรับพระพรจากข่าวดีนี้ร่วมกับเขาเหล่านั้นด้วย
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 1:29-39
ทันทีที่ออกจากศาลาธรรม พระองค์เสด็จเข้าไปในบ้านของซีโมนและอันดรูว์พร้อมกับยากอบและยอห์น มารดาของภรรยาซีโมนกำลังนอนป่วยเป็นไข้อยู่ เขาจึงทูลพระองค์ให้ทรงทราบทันที พระองค์เสด็จเข้าไปจับมือนาง พยุงให้ลุกขึ้น นางก็หายไข้ และรับใช้ทุกคน เย็นวันนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว มีผู้นำคนป่วยและคนถูกปีศาจสิงมาเฝ้าพระองค์ คนทั้งเมืองมารวมกันที่ประตู พระองค์ทรงรักษาหลายคนที่เป็นโรคต่าง ๆ ให้หาย ทรงขับไล่ปีศาจออกไป แต่ไม่ทรงอนุญาตให้มันพูด เพราะมันรู้จักพระองค์ วันต่อมา พระองค์ทรงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เสด็จออกจากบ้านไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนาที่นั่น ซีโมนและผู้ที่อยู่กับเขาตามหาพระองค์ เมื่อพบแล้ว จึงทูลพระองค์ว่า “ทุกคนกำลังแสวงหาพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราไปที่อื่นกันเถิด ไปตามตำบลใกล้เคียง เพื่อจะได้เทศน์สอนที่นั่นด้วย เพราะเรามาด้วยจุดประสงค์นี้”
คุณพ่อทิม: ประกาศกโยบบ่นครวญครางถึงชีวิตที่สิ้นหวัง ไม่เห็นจะดีขึ้น มีกี่ครั้งที่เราก็บ่นครวญครางถึงชีวิตที่สิ้นหวัง ไม่เห็นจะดีขึ้นเช่นกัน อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต ( ลูกวัดฮาตึง) พระเยซูเจ้าทรงรักษาหลายคน ไม่ใช่ทุกคน อาจเป็นเพราะบางคนไม่มีความเชื่อ บางคนอาจไม่ควรได้รับการรักษา พวกเราทุกคนไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อโลกนี้ ร่างกายเสื่อมโทรม แล้วก็ตาย ไม่เป็นอมตะ มนุษย์ทุกคนต้องตาย หลีกเลี่ยงไม่ได้!
พระเยซูเจ้าทรงเจ็บปวดทรมานสิ้นพระชนมชีพ พระองค์ได้รับการรักษาในชีวิตใหม่ ฟื้นคืนพระชนมชีพ
ในวัดของเรา หลายคนได้รับการรักษาจากพระเยซูเจ้าให้หายจากร้ายถึงตาย: โรคมะเร็งที่หมอบอกตายแน่ โรคร้ายอื่นๆ แต่ทุกคนที่สวดภาวนาขอความช่วยเหลือจากพระองค์ไม่ได้รับการรักษาจากพระองค์ทุกคน บางคน! ถ้าไม่ได้รับการรักษาจากพระองค์ ควรที่เราจะเลิกเชื่อในพระองค์หรือไม่?
คุณพ่อทิมเจ้าวัดอัครเทวดาไมเกิ้ล เมืองโอลิมเปีย ติดกับเมืองเลซี่ของเรา ได้ให้สัมภาษณ์วิทยุโรมันคาทอลิกพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ท่านเป็นโรคเส้นกระตุกร้ายแรง เจ็บปวดทรมานตลอดเวลา ท่านขอพระเยซูเจ้าให้ทรงรักษาท่าน บ่นครวญครางสิ้นหวังในชีวิตที่ไม่เห็นจะดีขึ้น แล้ววันหนึ่ง พระเยซูเจ้าพูดกับหัวใจของท่าน: พ่อกําลังอวยพรลูก
สารของพระเยซูเจ้า จาก "หีบพันธสัญญาใหม่" ประกาศยืนยันของคุณ คาทาลินา ริวาส ( The Ark of the New Covenant, Catalina Rivas, ARK -77:4)
4) แล้วพ่อก็รักษาความเจ็บป่วยของร่างกาย แต่ที่นี่ พ่อบําบัดความเจ็บป่วย ความอ่อนแอ และความทุกข์ทรมานของวิญญาณ แล้วพ่อก็ให้อิสระแก่คนที่ถูกปีศาจสิง และผู้คนที่ถูกรบกวนโดยปีศาจ ณ ที่นี่ พ่อได้ทํามากกว่านั้นอีกเพราะพ่อป้องกันพวกเขาจากมัน แล้วพ่อชําระล้างคนโรคเรื้อน ณ ที่นี่ พ่อชําระล้างวิญญาณและทําให้พวกเขาสะอาด แล้วพ่อได้เลี้ยงผู้คนจำนวนพันๆ แบบอัศจรรย์ด้วยอาหารเหนือธรรมชาติ ณ ที่นี่ พ่อเลี้ยงทุกคนด้วยพระกายของพ่อ แล้วพ่อได้รักษาผู้คนที่มีอาการตกเลือด วันนี้ พ่อรักษาแผลของพวกเขาจากบาดแผลของวิญญาณ
From "The Ark of the New Covenant" Testimony of Catalina Rivas (ARK - 77:4).
4) Then I cured the illnesses of the body but here I heal the illnesses, the weaknesses and the miseries of the soul. Then I freed the
possessed or those bothered by the devil, here I do more because I protect them from him. Then I cleaned the leper and here I purify the souls and I leave them clean. Then I fed miraculously thousands of men with supernatural food, here I nurture all with My Body. Then I cured those with hemorrhages; today I cure the sores of their spiritual wounds.
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทความเสริมศรัทธา จาก"การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก" อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต 25 กุมภาพันธ์ 2024
พระเยซูเจ้าทรงสําแดงพระองค์อย่างรุ่งเรือง
มาระโก 9: 2-10
ต่อมาอีกหกวัน พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นขึ้นไปบนภูเขาสูงตามลำพัง แล้วพระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวเจิดจ้า ขาวผ่องอย่างที่ไม่มีช่างซักฟอกคนใดในโลกทำให้ขาวเช่นนั้นได้ แล้วประกาศกเอลียาห์กับโมเสสแสดงตนสนทนาอยู่กับพระเยซูเจ้า เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริง ๆ เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์” เขาไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรเพราะศิษย์ทั้งสามคนต่างตกใจกลัว ครั้นแล้วเมฆก้อนหนึ่งลอยมาปกคลุมเขาไว้ มีเสียงหนึ่งออกมาจากเมฆก้อนนั้นว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด” ทันใดนั้น ศิษย์ทั้งสามคนเหลียวมองรอบ ๆ ไม่เห็นผู้ใดอยู่กับตนนอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น ขณะที่กำลังลงจากภูเขา พระองค์ตรัสสั่งเขามิให้เล่าเหตุการณ์ที่เห็นให้ผู้ใดฟัง จนกว่าบุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย ศิษย์ทั้งสามคนเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกใครแต่ยังปรึกษากันว่า “จนกว่าจะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย” นี้ หมายความว่าอย่างไร
บทความเสริมศรัทธาจาก"การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก" ประกาศยืนยันของคุณคาทาลินา ริวาส ( From " The Great Crusade of Love" Testimony of Catalina Rivas CL 62:1-5)
1) ในการดำเนินงานของพ่อที่เกี่ยวกับการไถ่กู้ พ่อได้เลือกสองบุคคลที่เป็นตัวแทนของศาสนาอิสราเอลในอดีตและในอนาคตที่จะมาถึง พ่อทําที่เขาทาบอร์ผ่านโมเสสตัวแทนของศาสนาอิสราเอลในอดีตและเอลียาห์ตัวแทนของศาสนาอิสราเอลในอนาคตที่พ่อจะไถ่กู้ด้วยการใช้เขาโดยที่พ่ออยู่ตรงกลางในท่ามกลางความรุ่งโรจน์เหมือนสะพานที่เชื่อมพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่
2) พระบิดาของพ่อทรงต้องการให้สามสานุศิษย์ของพ่ออยู่ในการเปลี่ยนแปลงร่างกายของพ่อ เปโตรเป็นหนึ่งในสาม พระองค์ทรงต้องการให้พวกเขาเป็นพยานและไม่ลืมก่อนหน้าความอัปยศอดสูถึงความรุ่งโรจน์ที่สําแดงออกมาในตัวพ่อ ด้วยเหตุนี้พ่อได้ฝากการระลึกถึงของความทรงศักดิ์สง่างามของพ่อให้กับตัวเองและเป็นการยืนยันถึงภารกิจของพ่อพระเป็นเจ้าในการไถ่กู้
3) ไม่มีใครห้ามพ่อไม่ให้แสดงตัวต่อหน้าประชาชนหรือผู้ชาญฉลาดและบุคคลที่สมควรได้รับ แต่พ่อต้องการกําหนดตัวพ่อให้กับสามบุคคลที่เป็นของพ่อเพราะว่าเหนือสิ่งอื่นใดพ่อต้องทําให้ภารกิจของพ่อสําเร็จผลในสุดยอดของความลับ...เป็นความจำเป็นที่พ่อต้องดําเนินแบบก้าวต่อก้าวและปรับภารกิจของพ่อให้เข้ากับแผนการอันสุขุมปราดเปรื่องของพระบิดาของพ่อที่ทรงต้องการให้ภารกิจนี้ดําเนินไปอย่างเชื่องช้าท่ามกลางมนุษย์
4) การแสดงออกของเปโตรเป็นเช่นการแสดงออกซํ้าของมนุษย์ ถูกดึงเข้าหาแต่อ่อนแอ ลูกไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่พ่อต้องการบอกลูกหรือ ลูกต้องเอาทุกอย่างจากพ่อ ความสว่างและความมืด ลูกต้องไม่เลือกเพราะลูกไม่รู้ว่าพ่อต้องการอะไร
5) ให้สิ่งนี้บอกลูกว่าครูของลูกเป็นห่วงลูกอย่างมากและครูของลูกไม่ได้ทอดทิ้งลูกแม้ว่าดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น...ไม่ต้องสงสัย ทางเดินที่พ่อเสนอให้ลูกนั้นมันลําบากแต่ลูกก็สามารถที่จะเดินได้กับพ่อ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเขาทาบอร์หรือคาวาลี่ อยู่กับพ่อเสมอในความเชื่อในความวางใจและความแน่ใจ
From “The Great Crusade of Love” Testimony of Catalina Rivas (CL 62:1-5)
1) As a continuation of My work of salvation, I chose two creatures to represent the past that is projected into the future. I did it at the Tabor through Moses and Elijah. Moses represented the old Judaism; Elijah the future Judaism, the one I will redeem with Me making use of him and with Me in the middle, amid the splendor, like a bridge of unity between the Old and the New Testament.
2) My Father wanted three of My disciples to be present at My Transfiguration, Peter among them. And He wanted it so that they would be My witnesses and not forget that before the shame, the splendor was manifested in Me. Thus I left the remembrance of majesty to My own, but so that it would serve as confirmation of My Divine work of salvation.
3) Nobody prevented Me from giving My manifestation to the people or other wiser and well deserved persons. But I wanted to limit Myself to only three among Mine, because before anything else, I had to accomplish My mission in the greatest possible secrecy… It was necessary to proceed step by step and adapt My work to the wise design that the Father wanted to slowly carry out among men.
4) Peter’s expressions are the same ones that today are repeated by men, drawn but weak. Can you not understand what it is I wish to tell you? You must take everything from Me, light and darkness; you must not choose because you do not know what I need.
5) Let this show you that your teacher worries a lot about you and that He does not abandon you, even though it might seem so… Without doubt, the road that I propose to you is difficult, but it is possible to walk it with Me. And so, Tabor or Calvary, but always with Me in faith, in trust, and in certainty.
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
พระเยซูเจ้าทรงสําแดงพระองค์อย่างรุ่งเรือง
มาระโก 9: 2-10
ต่อมาอีกหกวัน พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นขึ้นไปบนภูเขาสูงตามลำพัง แล้วพระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวเจิดจ้า ขาวผ่องอย่างที่ไม่มีช่างซักฟอกคนใดในโลกทำให้ขาวเช่นนั้นได้ แล้วประกาศกเอลียาห์กับโมเสสแสดงตนสนทนาอยู่กับพระเยซูเจ้า เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริง ๆ เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์” เขาไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรเพราะศิษย์ทั้งสามคนต่างตกใจกลัว ครั้นแล้วเมฆก้อนหนึ่งลอยมาปกคลุมเขาไว้ มีเสียงหนึ่งออกมาจากเมฆก้อนนั้นว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด” ทันใดนั้น ศิษย์ทั้งสามคนเหลียวมองรอบ ๆ ไม่เห็นผู้ใดอยู่กับตนนอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น ขณะที่กำลังลงจากภูเขา พระองค์ตรัสสั่งเขามิให้เล่าเหตุการณ์ที่เห็นให้ผู้ใดฟัง จนกว่าบุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย ศิษย์ทั้งสามคนเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกใครแต่ยังปรึกษากันว่า “จนกว่าจะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย” นี้ หมายความว่าอย่างไร
บทความเสริมศรัทธาจาก"การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก" ประกาศยืนยันของคุณคาทาลินา ริวาส ( From " The Great Crusade of Love" Testimony of Catalina Rivas CL 62:1-5)
1) ในการดำเนินงานของพ่อที่เกี่ยวกับการไถ่กู้ พ่อได้เลือกสองบุคคลที่เป็นตัวแทนของศาสนาอิสราเอลในอดีตและในอนาคตที่จะมาถึง พ่อทําที่เขาทาบอร์ผ่านโมเสสตัวแทนของศาสนาอิสราเอลในอดีตและเอลียาห์ตัวแทนของศาสนาอิสราเอลในอนาคตที่พ่อจะไถ่กู้ด้วยการใช้เขาโดยที่พ่ออยู่ตรงกลางในท่ามกลางความรุ่งโรจน์เหมือนสะพานที่เชื่อมพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่
2) พระบิดาของพ่อทรงต้องการให้สามสานุศิษย์ของพ่ออยู่ในการเปลี่ยนแปลงร่างกายของพ่อ เปโตรเป็นหนึ่งในสาม พระองค์ทรงต้องการให้พวกเขาเป็นพยานและไม่ลืมก่อนหน้าความอัปยศอดสูถึงความรุ่งโรจน์ที่สําแดงออกมาในตัวพ่อ ด้วยเหตุนี้พ่อได้ฝากการระลึกถึงของความทรงศักดิ์สง่างามของพ่อให้กับตัวเองและเป็นการยืนยันถึงภารกิจของพ่อพระเป็นเจ้าในการไถ่กู้
3) ไม่มีใครห้ามพ่อไม่ให้แสดงตัวต่อหน้าประชาชนหรือผู้ชาญฉลาดและบุคคลที่สมควรได้รับ แต่พ่อต้องการกําหนดตัวพ่อให้กับสามบุคคลที่เป็นของพ่อเพราะว่าเหนือสิ่งอื่นใดพ่อต้องทําให้ภารกิจของพ่อสําเร็จผลในสุดยอดของความลับ...เป็นความจำเป็นที่พ่อต้องดําเนินแบบก้าวต่อก้าวและปรับภารกิจของพ่อให้เข้ากับแผนการอันสุขุมปราดเปรื่องของพระบิดาของพ่อที่ทรงต้องการให้ภารกิจนี้ดําเนินไปอย่างเชื่องช้าท่ามกลางมนุษย์
4) การแสดงออกของเปโตรเป็นเช่นการแสดงออกซํ้าของมนุษย์ ถูกดึงเข้าหาแต่อ่อนแอ ลูกไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่พ่อต้องการบอกลูกหรือ ลูกต้องเอาทุกอย่างจากพ่อ ความสว่างและความมืด ลูกต้องไม่เลือกเพราะลูกไม่รู้ว่าพ่อต้องการอะไร
5) ให้สิ่งนี้บอกลูกว่าครูของลูกเป็นห่วงลูกอย่างมากและครูของลูกไม่ได้ทอดทิ้งลูกแม้ว่าดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น...ไม่ต้องสงสัย ทางเดินที่พ่อเสนอให้ลูกนั้นมันลําบากแต่ลูกก็สามารถที่จะเดินได้กับพ่อ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเขาทาบอร์หรือคาวาลี่ อยู่กับพ่อเสมอในความเชื่อในความวางใจและความแน่ใจ
From “The Great Crusade of Love” Testimony of Catalina Rivas (CL 62:1-5)
1) As a continuation of My work of salvation, I chose two creatures to represent the past that is projected into the future. I did it at the Tabor through Moses and Elijah. Moses represented the old Judaism; Elijah the future Judaism, the one I will redeem with Me making use of him and with Me in the middle, amid the splendor, like a bridge of unity between the Old and the New Testament.
2) My Father wanted three of My disciples to be present at My Transfiguration, Peter among them. And He wanted it so that they would be My witnesses and not forget that before the shame, the splendor was manifested in Me. Thus I left the remembrance of majesty to My own, but so that it would serve as confirmation of My Divine work of salvation.
3) Nobody prevented Me from giving My manifestation to the people or other wiser and well deserved persons. But I wanted to limit Myself to only three among Mine, because before anything else, I had to accomplish My mission in the greatest possible secrecy… It was necessary to proceed step by step and adapt My work to the wise design that the Father wanted to slowly carry out among men.
4) Peter’s expressions are the same ones that today are repeated by men, drawn but weak. Can you not understand what it is I wish to tell you? You must take everything from Me, light and darkness; you must not choose because you do not know what I need.
5) Let this show you that your teacher worries a lot about you and that He does not abandon you, even though it might seem so… Without doubt, the road that I propose to you is difficult, but it is possible to walk it with Me. And so, Tabor or Calvary, but always with Me in faith, in trust, and in certainty.
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
อาทิตย์ที่ 5 ในเทศกาลมหาพรต ( 17 มีนาคม 2024)
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อ ทิมวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง เอเสเคียล 37:12-14
เพราะฉะนั้น จงประกาศพระวาจาและบอกเขาว่า พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ดูซิ ประชากรของเราเอ๋ย เรากำลังจะเปิดหลุมฝังศพของท่านและยกท่านขึ้นมาจากหลุมศพ นำท่านกลับมายังแผ่นดินอิสราเอล ประชากรของเราเอ๋ย ท่านจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์ เมื่อเราเปิดหลุมศพของท่าน และยกท่านขึ้นมาจากหลุมศพ เราจะให้จิตของเราเข้าไปในท่าน และท่านจะมีชีวิต เราจะให้ท่านตั้งหลักแหล่งในแผ่นดินของท่าน แล้วท่านจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์ เราได้พูดและได้ทำแล้ว พระยาห์เวห์ตรัส”
บทอ่านที่สอง โรม 8:8-11
ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติไม่อาจเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้ ส่วนท่านทั้งหลาย ท่านไม่ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ แต่ดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า เพราะพระจิตของพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวท่าน ถ้าผู้ใดไม่มีพระจิตของพระคริสตเจ้าผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ ถ้าพระคริสตเจ้าสถิตอยู่ในท่านแล้ว แม้ร่างกายของท่านตายเพราะบาป จิตของท่านก็มีชีวิตเพราะความชอบธรรม และถ้าพระจิตของพระผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายนั้นสถิตในท่าน พระผู้ทรงบันดาลให้พระคริสตเยซูทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายก็จะทรงบันดาลให้ร่างกายที่ตายได้ของท่านกลับมีชีวิต เดชะพระจิตของพระองค์ ซึ่งสถิตในท่านด้วย
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 11:1-45
ชายคนหนึ่งชื่อลาซารัสกำลังป่วย เขาเป็นชาวเบธานี หมู่บ้านของมารีย์ และมารธาพี่สาว มารีย์คือหญิงที่ใช้น้ำมันหอมชโลมองค์พระผู้เป็นเจ้า ใช้ผมเช็ดพระบาท ลาซารัสที่กำลังป่วยนี้ เป็นพี่ชายของมารีย์ พี่น้องทั้งสองคนจึงส่งคนไปทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า คนที่พระองค์ทรงรักกำลังป่วย” เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบข่าวนี้ ก็ตรัสว่า “โรคนี้มิได้เกิดขึ้นเพื่อความตาย แต่เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า เพราะโรคนี้ พระบุตรของพระเจ้าจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์” พระเยซูเจ้าทรงรักมารธากับน้องสาว และลาซารัส หลังจากทรงทราบว่า ลาซารัสกำลังป่วย พระองค์ยังคงประทับอยู่ที่นั่นอีกสองวัน ต่อจากนั้นพระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “เรากลับไปแคว้นยูเดียกันเถิด” บรรดาศิษย์ทูลว่า “พระอาจารย์ ชาวยิวเพิ่งพยายามเอาหินขว้างพระองค์ แล้วพระองค์ยังจะกลับไปที่นั่นอีกหรือ” พระเยซูเจ้าทรงตอบว่า “วันหนึ่งมีสิบสองชั่วโมงมิใช่หรือ ถ้าใครเดินเวลากลางวันก็ไม่สะดุด เพราะเห็นแสงสว่างของโลกนี้ แต่ถ้าใครเดินเวลากลางคืน ก็สะดุด เพราะเขาไม่มีแสงสว่างเพื่อนำทาง” เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเสริมว่า “ลาซารัสเพื่อนของเรากำลังหลับอยู่ แต่เรากำลังจะไปปลุกให้ตื่น” บรรดาศิษย์จึงทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้าเขาหลับอยู่ เขาก็จะหายจากโรค” พระเยซูเจ้าตรัสถึงความตายของลาซารัส แต่บรรดาศิษย์คิดว่า พระองค์ตรัสถึง “การนอนหลับ” ดังนั้นพระองค์จึงตรัสอย่างชัดเจนว่า “ลาซารัสตายแล้ว เรายินดีสำหรับท่านทั้งหลายที่เราไม่ได้อยู่ที่นั่น เพื่อท่านจะได้เชื่อ เราไปหาเขากันเถิด” โทมัสที่เรียกกันว่าฝาแฝด กล่าวกับศิษย์คนอื่น ๆ ว่า “พวกเราจงไปตายพร้อมกับพระองค์เถิด” เมื่อเสด็จมาถึง พระเยซูเจ้าทรงพบว่าลาซารัสถูกฝังในคูหามาสี่วันแล้วหมู่บ้านเบธานีอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ห่างกันราวสามกิโลเมตร ชาวยิวจำนวนมากมาหามารธาและมารีย์เพื่อปลอบใจนางในการตายของพี่ชาย เมื่อมารธารู้ว่า พระเยซูเจ้ากำลังเสด็จมา นางก็ออกไปรับเสด็จ ส่วนมารีย์ยังคงนั่งอยู่ที่บ้าน มารธาทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย แต่บัดนี้ ดิฉันรู้ดีว่าสิ่งใดที่พระองค์ทรงวอนขอจากพระเจ้า พระเจ้าจะประทานให้” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “พี่ชายของท่านจะกลับคืนชีพ” มารธาทูลว่า “ดิฉันรู้ว่า เขาจะกลับคืนชีพเมื่อมนุษย์ทุกคนจะกลับคืนชีพในวันสุดท้าย” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อเช่นนี้หรือ’ มารธาทูลตอบว่า “เชื่อพระเจ้าข้า ดิฉันเชื่อว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า ที่จะต้องเสด็จมาในโลกนี้” เมื่อมารธาทูลดังนี้แล้ว นางก็ไปเรียกมารีย์น้องสาว กระซิบบอกว่า “พระอาจารย์อยู่ที่นี่ และทรงเรียกน้องด้วย” เมื่อมารีย์ได้ยินดังนั้น ก็รีบลุกขึ้นไปเฝ้าพระองค์ พระเยซูเจ้ายังไม่ได้เสด็จเข้าในหมู่บ้าน แต่ยังประทับอยู่ในที่ที่มารธามาเฝ้า ชาวยิวซึ่งอยู่ที่บ้านกับมารีย์เพื่อปลอบใจนาง เมื่อเห็นนางรีบลุกขึ้นออกไป ก็ตามไปด้วย คิดว่านางคงจะไปร้องไห้ที่คูหาฝังศพ เมื่อมารีย์มาถึงที่ที่พระเยซูเจ้าประทับอยู่ และเห็นพระองค์ ก็กราบพระบาท ทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่ พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นนางกำลังร้องไห้ และชาวยิวที่ตามมาก็ร้องไห้ด้วย พระองค์ทรงสะเทือนพระทัยและเศร้าโศกมาก ตรัสถามว่า “ท่านฝังเขาไว้ที่ไหน” เขาทูลว่า “พระเจ้าข้า เชิญเสด็จมาทอดพระเนตรเถิด” พระเยซูเจ้าทรงกันแสง ชาวยิวจึงพูดว่า “ดูซิ พระองค์ทรงรักเขาเพียงไร” แต่บางคนตั้งข้อสังเกตว่า “พระองค์ทรงรักษาคนตาบอดได้ จะทำให้คนนี้ไม่ตายไม่ได้หรือ” พระเยซูเจ้าทรงสะเทือนพระทัยอีก เสด็จถึงคูหาฝังศพ ซึ่งเป็นโพรงหินมีหินแผ่นหนึ่งปิดอยู่ พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงยกแผ่นหินออก” มารธาน้องสาวของผู้ตายทูลว่า “พระเจ้าข้า ศพมีกลิ่นแล้ว เพราะฝังมาถึงสี่วัน” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เรามิได้บอกท่านหรือว่า ถ้าท่านมีความเชื่อ ท่านจะเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า” คนเหล่านั้นจึงยกแผ่นหินออก พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้นตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ ที่ทรงฟังคำของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทราบดีว่า พระองค์ทรงฟังข้าพเจ้าเสมอ แต่ที่ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อประชาชนที่อยู่รอบข้าพเจ้า เขาจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียงดังว่า “ลาซารัสเอ๋ย จงออกมาเถิด” ผู้ตายก็ออกมา มีผ้าพันมือพันเท้า และผ้าคลุมใบหน้าด้วย พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงเอาผ้าออกและให้เขาไปเถิด” ชาวยิวหลายคนที่มาเยี่ยมมารีย์ และเห็นสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ ก็เชื่อในพระองค์
คุณพ่อทิม มองหน้าลูกวัดประมาณ 300 คนแล้วเอ่ยขึ้นว่า: พระวรสารเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว พวกคุณคงจําได้นะ (ลูกวัดหน้าตาเลิ่กลั่ก มองหน้ากัน) พ่อทิมหัวเราะแล้วยกนิ้วโป้งขึ้น ใช่แล้ว พระองค์ทรงประทานนํ้าทรงชีวิตให้หญิงสาวชาวสะมาเรีย และพระวรสารของอาทิตย์ที่แล้ว พวกคุณคงจําได้เช่นกัน ( ลูกวัดทําหน้าตาบ้องแบ๊ว) พ่อทิมหัวเราะ ชูนิ้วโป้ง ใช่แล้ว พระองค์ทรงรักษาคนตาบอดให้มองเห็นและให้ตาแห่งความเชื่อให้มองเห็นด้วย
ความเชื่อของเราทําให้เราเชื่อว่า พระองค์เสด็จมาในปังและเหล้าองุ่น เปลี่ยนสภาพเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ในพิธีมิสซา
วันนี้พวกเราเห็นพระองค์ในสภาพความเป็นมนุษย์: ทรงสะเทือนใจ โศกเศร้า เมื่อเพื่อนของพระองค์ตาย น้องสาวทั้งสองของเขา
ร้องห่มร้องไห้เสียใจ พลอยทําให้พระองค์สะเทือนใจ โศกเศร้า เช่นกัน
ถ้าเราตายในบาปหนัก เราแยกตัวออกจากพระองค์ ตกนรก และนี่ก็คือเหตุผลว่าทําไมเราต้องไปแก้บาปรับศีลอภัย ถ้าเราตายในพระหรรษทานของพระองค์ เราจะอยู่กับพระองค์ ในสวรรค์ตลอดนิรันดร จงดํารงชีวิตในความเชื่อ ในความเพียรพยายาม!
เบธานี ปัจจุบันเป็นเมืองอัล-อีซารียา หรือ อัล-ไอซาริยา (สถานที่ของลาซารัส) Al-Eizariya or Al-Aizariya ( Place of Lazarus) ในรัฐปาเลสไตน์ เป็นจุดแสวงบุญจุดหนึ่ง
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก, www.google.com, www. wikipedia.org
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อ ทิมวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง เอเสเคียล 37:12-14
เพราะฉะนั้น จงประกาศพระวาจาและบอกเขาว่า พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ดูซิ ประชากรของเราเอ๋ย เรากำลังจะเปิดหลุมฝังศพของท่านและยกท่านขึ้นมาจากหลุมศพ นำท่านกลับมายังแผ่นดินอิสราเอล ประชากรของเราเอ๋ย ท่านจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์ เมื่อเราเปิดหลุมศพของท่าน และยกท่านขึ้นมาจากหลุมศพ เราจะให้จิตของเราเข้าไปในท่าน และท่านจะมีชีวิต เราจะให้ท่านตั้งหลักแหล่งในแผ่นดินของท่าน แล้วท่านจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์ เราได้พูดและได้ทำแล้ว พระยาห์เวห์ตรัส”
บทอ่านที่สอง โรม 8:8-11
ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติไม่อาจเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้ ส่วนท่านทั้งหลาย ท่านไม่ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ แต่ดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า เพราะพระจิตของพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวท่าน ถ้าผู้ใดไม่มีพระจิตของพระคริสตเจ้าผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ ถ้าพระคริสตเจ้าสถิตอยู่ในท่านแล้ว แม้ร่างกายของท่านตายเพราะบาป จิตของท่านก็มีชีวิตเพราะความชอบธรรม และถ้าพระจิตของพระผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายนั้นสถิตในท่าน พระผู้ทรงบันดาลให้พระคริสตเยซูทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายก็จะทรงบันดาลให้ร่างกายที่ตายได้ของท่านกลับมีชีวิต เดชะพระจิตของพระองค์ ซึ่งสถิตในท่านด้วย
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 11:1-45
ชายคนหนึ่งชื่อลาซารัสกำลังป่วย เขาเป็นชาวเบธานี หมู่บ้านของมารีย์ และมารธาพี่สาว มารีย์คือหญิงที่ใช้น้ำมันหอมชโลมองค์พระผู้เป็นเจ้า ใช้ผมเช็ดพระบาท ลาซารัสที่กำลังป่วยนี้ เป็นพี่ชายของมารีย์ พี่น้องทั้งสองคนจึงส่งคนไปทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า คนที่พระองค์ทรงรักกำลังป่วย” เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบข่าวนี้ ก็ตรัสว่า “โรคนี้มิได้เกิดขึ้นเพื่อความตาย แต่เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า เพราะโรคนี้ พระบุตรของพระเจ้าจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์” พระเยซูเจ้าทรงรักมารธากับน้องสาว และลาซารัส หลังจากทรงทราบว่า ลาซารัสกำลังป่วย พระองค์ยังคงประทับอยู่ที่นั่นอีกสองวัน ต่อจากนั้นพระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “เรากลับไปแคว้นยูเดียกันเถิด” บรรดาศิษย์ทูลว่า “พระอาจารย์ ชาวยิวเพิ่งพยายามเอาหินขว้างพระองค์ แล้วพระองค์ยังจะกลับไปที่นั่นอีกหรือ” พระเยซูเจ้าทรงตอบว่า “วันหนึ่งมีสิบสองชั่วโมงมิใช่หรือ ถ้าใครเดินเวลากลางวันก็ไม่สะดุด เพราะเห็นแสงสว่างของโลกนี้ แต่ถ้าใครเดินเวลากลางคืน ก็สะดุด เพราะเขาไม่มีแสงสว่างเพื่อนำทาง” เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเสริมว่า “ลาซารัสเพื่อนของเรากำลังหลับอยู่ แต่เรากำลังจะไปปลุกให้ตื่น” บรรดาศิษย์จึงทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้าเขาหลับอยู่ เขาก็จะหายจากโรค” พระเยซูเจ้าตรัสถึงความตายของลาซารัส แต่บรรดาศิษย์คิดว่า พระองค์ตรัสถึง “การนอนหลับ” ดังนั้นพระองค์จึงตรัสอย่างชัดเจนว่า “ลาซารัสตายแล้ว เรายินดีสำหรับท่านทั้งหลายที่เราไม่ได้อยู่ที่นั่น เพื่อท่านจะได้เชื่อ เราไปหาเขากันเถิด” โทมัสที่เรียกกันว่าฝาแฝด กล่าวกับศิษย์คนอื่น ๆ ว่า “พวกเราจงไปตายพร้อมกับพระองค์เถิด” เมื่อเสด็จมาถึง พระเยซูเจ้าทรงพบว่าลาซารัสถูกฝังในคูหามาสี่วันแล้วหมู่บ้านเบธานีอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ห่างกันราวสามกิโลเมตร ชาวยิวจำนวนมากมาหามารธาและมารีย์เพื่อปลอบใจนางในการตายของพี่ชาย เมื่อมารธารู้ว่า พระเยซูเจ้ากำลังเสด็จมา นางก็ออกไปรับเสด็จ ส่วนมารีย์ยังคงนั่งอยู่ที่บ้าน มารธาทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย แต่บัดนี้ ดิฉันรู้ดีว่าสิ่งใดที่พระองค์ทรงวอนขอจากพระเจ้า พระเจ้าจะประทานให้” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “พี่ชายของท่านจะกลับคืนชีพ” มารธาทูลว่า “ดิฉันรู้ว่า เขาจะกลับคืนชีพเมื่อมนุษย์ทุกคนจะกลับคืนชีพในวันสุดท้าย” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อเช่นนี้หรือ’ มารธาทูลตอบว่า “เชื่อพระเจ้าข้า ดิฉันเชื่อว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า ที่จะต้องเสด็จมาในโลกนี้” เมื่อมารธาทูลดังนี้แล้ว นางก็ไปเรียกมารีย์น้องสาว กระซิบบอกว่า “พระอาจารย์อยู่ที่นี่ และทรงเรียกน้องด้วย” เมื่อมารีย์ได้ยินดังนั้น ก็รีบลุกขึ้นไปเฝ้าพระองค์ พระเยซูเจ้ายังไม่ได้เสด็จเข้าในหมู่บ้าน แต่ยังประทับอยู่ในที่ที่มารธามาเฝ้า ชาวยิวซึ่งอยู่ที่บ้านกับมารีย์เพื่อปลอบใจนาง เมื่อเห็นนางรีบลุกขึ้นออกไป ก็ตามไปด้วย คิดว่านางคงจะไปร้องไห้ที่คูหาฝังศพ เมื่อมารีย์มาถึงที่ที่พระเยซูเจ้าประทับอยู่ และเห็นพระองค์ ก็กราบพระบาท ทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่ พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นนางกำลังร้องไห้ และชาวยิวที่ตามมาก็ร้องไห้ด้วย พระองค์ทรงสะเทือนพระทัยและเศร้าโศกมาก ตรัสถามว่า “ท่านฝังเขาไว้ที่ไหน” เขาทูลว่า “พระเจ้าข้า เชิญเสด็จมาทอดพระเนตรเถิด” พระเยซูเจ้าทรงกันแสง ชาวยิวจึงพูดว่า “ดูซิ พระองค์ทรงรักเขาเพียงไร” แต่บางคนตั้งข้อสังเกตว่า “พระองค์ทรงรักษาคนตาบอดได้ จะทำให้คนนี้ไม่ตายไม่ได้หรือ” พระเยซูเจ้าทรงสะเทือนพระทัยอีก เสด็จถึงคูหาฝังศพ ซึ่งเป็นโพรงหินมีหินแผ่นหนึ่งปิดอยู่ พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงยกแผ่นหินออก” มารธาน้องสาวของผู้ตายทูลว่า “พระเจ้าข้า ศพมีกลิ่นแล้ว เพราะฝังมาถึงสี่วัน” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เรามิได้บอกท่านหรือว่า ถ้าท่านมีความเชื่อ ท่านจะเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า” คนเหล่านั้นจึงยกแผ่นหินออก พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้นตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ ที่ทรงฟังคำของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทราบดีว่า พระองค์ทรงฟังข้าพเจ้าเสมอ แต่ที่ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อประชาชนที่อยู่รอบข้าพเจ้า เขาจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียงดังว่า “ลาซารัสเอ๋ย จงออกมาเถิด” ผู้ตายก็ออกมา มีผ้าพันมือพันเท้า และผ้าคลุมใบหน้าด้วย พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงเอาผ้าออกและให้เขาไปเถิด” ชาวยิวหลายคนที่มาเยี่ยมมารีย์ และเห็นสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ ก็เชื่อในพระองค์
คุณพ่อทิม มองหน้าลูกวัดประมาณ 300 คนแล้วเอ่ยขึ้นว่า: พระวรสารเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว พวกคุณคงจําได้นะ (ลูกวัดหน้าตาเลิ่กลั่ก มองหน้ากัน) พ่อทิมหัวเราะแล้วยกนิ้วโป้งขึ้น ใช่แล้ว พระองค์ทรงประทานนํ้าทรงชีวิตให้หญิงสาวชาวสะมาเรีย และพระวรสารของอาทิตย์ที่แล้ว พวกคุณคงจําได้เช่นกัน ( ลูกวัดทําหน้าตาบ้องแบ๊ว) พ่อทิมหัวเราะ ชูนิ้วโป้ง ใช่แล้ว พระองค์ทรงรักษาคนตาบอดให้มองเห็นและให้ตาแห่งความเชื่อให้มองเห็นด้วย
ความเชื่อของเราทําให้เราเชื่อว่า พระองค์เสด็จมาในปังและเหล้าองุ่น เปลี่ยนสภาพเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ในพิธีมิสซา
วันนี้พวกเราเห็นพระองค์ในสภาพความเป็นมนุษย์: ทรงสะเทือนใจ โศกเศร้า เมื่อเพื่อนของพระองค์ตาย น้องสาวทั้งสองของเขา
ร้องห่มร้องไห้เสียใจ พลอยทําให้พระองค์สะเทือนใจ โศกเศร้า เช่นกัน
ถ้าเราตายในบาปหนัก เราแยกตัวออกจากพระองค์ ตกนรก และนี่ก็คือเหตุผลว่าทําไมเราต้องไปแก้บาปรับศีลอภัย ถ้าเราตายในพระหรรษทานของพระองค์ เราจะอยู่กับพระองค์ ในสวรรค์ตลอดนิรันดร จงดํารงชีวิตในความเชื่อ ในความเพียรพยายาม!
เบธานี ปัจจุบันเป็นเมืองอัล-อีซารียา หรือ อัล-ไอซาริยา (สถานที่ของลาซารัส) Al-Eizariya or Al-Aizariya ( Place of Lazarus) ในรัฐปาเลสไตน์ เป็นจุดแสวงบุญจุดหนึ่ง
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก, www.google.com, www. wikipedia.org
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเคลเม้นท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และบทความประกอบเสริมศรัทธา (อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ) ของวันอาทิตย์ใบลาน 24 มีนาคม 2024 ในช่วงเทศกาลมหาพรต จากรายการออกอากาศของเน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) ชื่อ ความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) เป็นรายการสารคดีแห่งความเชื่อของคริสตศาสนา โดยเฉพาะพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก เจ้าเก่า ของเรา มีสี่ตอน มงกุฎหนาม ถ้วยกาลิสศักดิ์สิทธิ์ ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของประเทศบราซิล และนักบุญข้างบ้าน
พระวรสารโดยนักบุญมาระโก: 14:1-15:47
คุณพ่อเคลเม้นท์: เราเริ่มต้นอาทิตย์ศักด์สิทธิ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ด้วยวันอาทิตย์ใบลาน เป็นสัญญลักษณ์แห่งสันติสุขและความถ่อมตัวของพระเยซูเจ้าที่ทรงนั่งบนหลังลา และมันเป็นการแสดงให้เราเห็นว่า วันนี้เราอาจรักผู้อื่น วันหน้าเราอาจเกลียดชังเขา เหมือนชาวเยรูซาเล็มได้ทําต่อพระองค์ เราต้องทําตัวเหมือนพระเยซูเจ้า รักษาความเชื่อแม้กระทั่งจะถูกทำร้ายถึงตายเช่นกัน
ทุกครั้งที่เราทําบาป เราปฏิเสธพระองค์เหมือนชาวยิวที่ตะโกนว่า : เอาเขาไปตรึงกางเขน!
( อ่านจบ: อยากอ่านเน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) รายการความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) อีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
อ้างอิงและขอบคุณ: เน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) รายการความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) ทุกคนที่ปรากฏในรายการ และกูเกิ้ล พระคัมภีร์คาทอลิก
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
พระวรสารโดยนักบุญมาระโก: 14:1-15:47
คุณพ่อเคลเม้นท์: เราเริ่มต้นอาทิตย์ศักด์สิทธิ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ด้วยวันอาทิตย์ใบลาน เป็นสัญญลักษณ์แห่งสันติสุขและความถ่อมตัวของพระเยซูเจ้าที่ทรงนั่งบนหลังลา และมันเป็นการแสดงให้เราเห็นว่า วันนี้เราอาจรักผู้อื่น วันหน้าเราอาจเกลียดชังเขา เหมือนชาวเยรูซาเล็มได้ทําต่อพระองค์ เราต้องทําตัวเหมือนพระเยซูเจ้า รักษาความเชื่อแม้กระทั่งจะถูกทำร้ายถึงตายเช่นกัน
ทุกครั้งที่เราทําบาป เราปฏิเสธพระองค์เหมือนชาวยิวที่ตะโกนว่า : เอาเขาไปตรึงกางเขน!
( อ่านจบ: อยากอ่านเน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) รายการความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) อีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
อ้างอิงและขอบคุณ: เน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) รายการความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) ทุกคนที่ปรากฏในรายการ และกูเกิ้ล พระคัมภีร์คาทอลิก
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อทิม ในวันอาทิตย์สมโภชปัสกา ( Easter Sunday) 31 มีนาคม 2024 ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 20:1-9
เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ ขณะที่ยังมืด มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว นางจึงวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน” เปโตรกับศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติดๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง ศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและมีความเชื่อ เขาทั้งสองคนยังไม่เข้าใจพระคัมภีร์ที่ว่า พระองค์ต้องทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
คุณพ่อทิม: วันนี้เป็นฉลองชัยชนะของพระเยซูเจ้า พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ บังเกิดจากพระแม่มารีย์ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า เป็นการต่อสู้กับศัตรูในอดีตกาล ปีศาจที่มีอํานาจเหนือมนุษย์เพราะบาป ปลดปล่อยให้พวกเราเป็นอิสระ ไถ่กู้พวกเรา สิ้นพระชนม์ ถวายบูชาพระองค์ให้กับพระบิดาเจ้า และทรงฟื้นพระชนมชีพ ชนะความตาย
ในบทภาวนา ข้าพเจ้าเชื่อ...ทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์ และทรงถูกฝังไว้ เสด็จสู่แดนมรณะ แดนมรณะ ภาษาอังกฤษก็คือนรกซึ่งแปลจากภาษากรีกและฮีบรูแบบตรงตัว (born of the Virgin Mary, suffered under Pontius Pilate,
was crucified, died and was buried; he descended into hell; on the third day he rose again from the dead...) พวกเขาเชื่อว่านรกอยู่ใต้โลก คนชั่วถูกลงโทษ คนดีถูกแยกออกและอยู่ในอ้อมอกของมหาบุรุษอับราฮัม เมื่อพระองค์เสด็จไปถึงก็พาพวกเขาขึ้นไปสวรรค์
พวกเราที่ยังมีชีวิต เราต้องมีความเชื่อและความเพียรพยายาม ไม่ตกเป็นทาสของมันอีก เพราะชีวิตเหมือนกับการวิ่งมาราธอนที่ยาว ดังนั้นพระศาสนจักรจึงมีศีลอภัยบาปและศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆคอยช่วยเหลือพวกเราตลอดเวลา
ก่อนจบมิสซา คุณพ่อทิมบอกให้พวกเรานั่งเพราะพี่น้องของเราชาวอเมริกันซามวน ( Samoan) มีของขวัญวันสมโภชปัสกา (อีสเตอร์ Sunday) ให้พวกเรา: พี่น้องชายหญิงลูกหลานชาวอเมริกันซามวนที่เป็นชาวเกาะของมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและตอนใต้อยู่ในการปกครองของสหรัฐอเมริกา ห่างจากเกาะฮาวาย รัฐที่ 50 ของสหรัฐอเมริกา 4,200 กิโลเมตร (ตะวันตกเฉียงใต้) ทุกคนแต่งชุดประจําเชื้อสาย ผู้ชายและผู้หญิงใส่เสื้อผ้ากางเกงกระโปรงสีขาวล้วน ผู้ชายผูกเนคไทสีแดงสดใส เดินขบวนเข้าตรงกลางของวัด ยกเก้าอี้และเชิญคุณพ่อและสังฆานุกรให้นั่งชมแบบใกล้ชิด แล้วแปรขบวน ร้องรําทําเพลงที่หน้าพระแท่นหันหน้าเข้าหาพวกเรา ใช้ภาษาของตัวเอง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จังหวะดนตรีรวดเร็ว คึกคัก ฟังแล้วสดชื่นแม้จะไม่เข้าใจ แต่เมื่อมีเสียงร้อง " พระเจ้าดี" พวกเราก็ตะโกนตอบ "ตลอดเวลา"
เสร็จการแสดงคุณพ่อให้พรจบมิสซาแล้วพูดว่า: ถ้าพวกคุณยังไม่สดชื่นแจ่มใสในวันอีสเตอร์ พวกคุณตอนนี้คงจะสดชื่นแจ่มใสแล้วนะ!
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 20:1-9
เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ ขณะที่ยังมืด มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว นางจึงวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน” เปโตรกับศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติดๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง ศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและมีความเชื่อ เขาทั้งสองคนยังไม่เข้าใจพระคัมภีร์ที่ว่า พระองค์ต้องทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
คุณพ่อทิม: วันนี้เป็นฉลองชัยชนะของพระเยซูเจ้า พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ บังเกิดจากพระแม่มารีย์ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า เป็นการต่อสู้กับศัตรูในอดีตกาล ปีศาจที่มีอํานาจเหนือมนุษย์เพราะบาป ปลดปล่อยให้พวกเราเป็นอิสระ ไถ่กู้พวกเรา สิ้นพระชนม์ ถวายบูชาพระองค์ให้กับพระบิดาเจ้า และทรงฟื้นพระชนมชีพ ชนะความตาย
ในบทภาวนา ข้าพเจ้าเชื่อ...ทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์ และทรงถูกฝังไว้ เสด็จสู่แดนมรณะ แดนมรณะ ภาษาอังกฤษก็คือนรกซึ่งแปลจากภาษากรีกและฮีบรูแบบตรงตัว (born of the Virgin Mary, suffered under Pontius Pilate,
was crucified, died and was buried; he descended into hell; on the third day he rose again from the dead...) พวกเขาเชื่อว่านรกอยู่ใต้โลก คนชั่วถูกลงโทษ คนดีถูกแยกออกและอยู่ในอ้อมอกของมหาบุรุษอับราฮัม เมื่อพระองค์เสด็จไปถึงก็พาพวกเขาขึ้นไปสวรรค์
พวกเราที่ยังมีชีวิต เราต้องมีความเชื่อและความเพียรพยายาม ไม่ตกเป็นทาสของมันอีก เพราะชีวิตเหมือนกับการวิ่งมาราธอนที่ยาว ดังนั้นพระศาสนจักรจึงมีศีลอภัยบาปและศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆคอยช่วยเหลือพวกเราตลอดเวลา
ก่อนจบมิสซา คุณพ่อทิมบอกให้พวกเรานั่งเพราะพี่น้องของเราชาวอเมริกันซามวน ( Samoan) มีของขวัญวันสมโภชปัสกา (อีสเตอร์ Sunday) ให้พวกเรา: พี่น้องชายหญิงลูกหลานชาวอเมริกันซามวนที่เป็นชาวเกาะของมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและตอนใต้อยู่ในการปกครองของสหรัฐอเมริกา ห่างจากเกาะฮาวาย รัฐที่ 50 ของสหรัฐอเมริกา 4,200 กิโลเมตร (ตะวันตกเฉียงใต้) ทุกคนแต่งชุดประจําเชื้อสาย ผู้ชายและผู้หญิงใส่เสื้อผ้ากางเกงกระโปรงสีขาวล้วน ผู้ชายผูกเนคไทสีแดงสดใส เดินขบวนเข้าตรงกลางของวัด ยกเก้าอี้และเชิญคุณพ่อและสังฆานุกรให้นั่งชมแบบใกล้ชิด แล้วแปรขบวน ร้องรําทําเพลงที่หน้าพระแท่นหันหน้าเข้าหาพวกเรา ใช้ภาษาของตัวเอง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จังหวะดนตรีรวดเร็ว คึกคัก ฟังแล้วสดชื่นแม้จะไม่เข้าใจ แต่เมื่อมีเสียงร้อง " พระเจ้าดี" พวกเราก็ตะโกนตอบ "ตลอดเวลา"
เสร็จการแสดงคุณพ่อให้พรจบมิสซาแล้วพูดว่า: ถ้าพวกคุณยังไม่สดชื่นแจ่มใสในวันอีสเตอร์ พวกคุณตอนนี้คงจะสดชื่นแจ่มใสแล้วนะ!
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเจสซี่ เจ้าอาวาสวัดไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ เมืองบิวดา รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่สองของเทศกาลปัสกา/วันฉลองพระเมตตา 7 เมษายน 2024 ( Father Jessie, Santa Cruz Catholic Church and School, Buda, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก: 4:32-35
กลุ่มผู้มีความเชื่อดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม บรรดาอัครสาวกยังคงเป็นพยานยืนยันถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเครื่องหมายอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ และทุกคนได้รับความเคารพนับถืออย่างสูง ในกลุ่มของเขาไม่มีใครขัดสน ผู้ใดมีที่ดินหรือบ้านก็ขายและมอบเงินที่ได้ ให้บรรดาอัครสาวก เพื่อแจกจ่ายให้ผู้มีความเชื่อแต่ละคนตามความต้องการ
บทอ่านที่สอง 1 ยอห์น 5:1-6
ทุกคนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสตเจ้า ย่อมบังเกิดจากพระเจ้า ทุกคนที่รักบิดา ย่อมรักบุตรของเขาด้วย เรารู้ว่าเรารักบรรดาบุตรของพระเจ้า เมื่อเรารักพระเจ้าและปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ ความรักต่อพระเจ้าคือการปฏิบัติตามบทบัญญัติ บทบัญญัติของพระองค์มิใช่ภาระหนัก
เพราะทุกคนที่บังเกิดจากพระเจ้าชนะโลกแล้ว ชัยชนะที่ชนะโลกก็คือความเชื่อของเรา ใครเล่าชนะโลกได้ ถ้ามิใช่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต พระองค์คือ พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์มิได้เสด็จมาโดยน้ำเพียงอย่างเดียว แต่เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต และพระจิตเจ้าทรงเป็นพยานถึงเรื่องนี้ เพราะพระจิตเจ้าทรงเป็นความจริง
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น: 20:19-31
ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” โทมัส ซึ่งเรียกกันว่า “ฝาแฝด” เป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ไม่ได้อยู่กับอัครสาวกคนอื่น ๆ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมา ศิษย์คนอื่นบอกเขาว่า “พวกเราเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” แต่เขาตอบว่า “ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปู และไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด” แปดวันต่อมา บรรดาศิษย์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีก โทมัสก็อยู่กับเขาด้วย พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางทั้ง ๆ ที่ประตูปิดอยู่ ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”
แล้วตรัสกับโทมัสว่า “จงเอานิ้วมาที่นี่ และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยอีกต่อไป แต่จงเชื่อเถิด” โทมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” พระเยซูเจ้ายังทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์อื่นอีกหลายประการให้บรรดาศิษย์เห็น แต่ไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามของพระองค์
คุณพ่อเจสซี่: วันนี้เป็นวันฉลองพระเมตตา ก่อนที่พ่อจะกลับใจเป็นโรมันคาทอลิก พ่อเรียนที่มหาวิทยาลัยในรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts) พ่อเดินไปที่วัดของชาวโปแลนด์ เห็นพวกเขากําลังสวดสายประคําพระเมตตาเป็นภาษาของเขา พ่อไม่เข้าใจ แต่สามารถสัมผัสถึงความศรัทธาและสันติสุขที่แผ่ออกมา พ่ออยากจะเป็นหนึ่งในพวกเขา! ต่อมาเมื่อพ่อไปเรียนในมหาวิทยาลัยของกรุงโรม วัดที่ใกล้กับที่พักของพ่อเป็นวัดพระเมตตามีชาวโปแลนด์เป็นลูกวัด!
พระเยซูเจ้าทรงบอกกับนักบุญโพสตินาว่าพระองค์ค้นหาคนที่ตํ่าต้อยที่สุดและไม่พบใครที่ตํ่าต้อยที่สุดเหมือนท่าน ดังนั้น พระองค์ต้องการให้ท่านทําให้มวลมนุษยชาติรู้จักพระองค์และพระเมตาของพระองค์ สองสิ่งที่ขาดแคลนก็คือ ความไม่วางใจในพระเมตตาของพระองค์และความไม่แยแส
ผู้ใดที่ยิ่งต่ำต้อยต้องการพระเมตตาของพระองค์ผู้นั้นยิ่งมีสิทธิในการได้รับพระเมตตาของพระองค์
พระเมตตาของพระองค์คืออะไร? คือการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของพระองค์ และเมื่อเราได้รับพระเมตตาของพระองค์แล้ว เราต้องมีการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของเราเช่นกัน
คุณพ่อเจสซี่: พ่อต้องการให้พวกเราทุกคนกล่าวว่า " พระเยซูเจ้า ลูกวางใจในพระองค์" สามครั้ง เริ่มเลย สาธุชนพากันกล่าวสามครั้งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
แล้วท่านก็ทําพิธีโปรดศีลกําลังให้ชายหนุ่มหญิงสาวสองคน เสร็จพิธี ท่านบอกทั้งสองคนให้หันหน้ามองพวกเรา พวกเราตบมือต้อนรับดังลั่นวัด
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก: 4:32-35
กลุ่มผู้มีความเชื่อดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม บรรดาอัครสาวกยังคงเป็นพยานยืนยันถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเครื่องหมายอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ และทุกคนได้รับความเคารพนับถืออย่างสูง ในกลุ่มของเขาไม่มีใครขัดสน ผู้ใดมีที่ดินหรือบ้านก็ขายและมอบเงินที่ได้ ให้บรรดาอัครสาวก เพื่อแจกจ่ายให้ผู้มีความเชื่อแต่ละคนตามความต้องการ
บทอ่านที่สอง 1 ยอห์น 5:1-6
ทุกคนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสตเจ้า ย่อมบังเกิดจากพระเจ้า ทุกคนที่รักบิดา ย่อมรักบุตรของเขาด้วย เรารู้ว่าเรารักบรรดาบุตรของพระเจ้า เมื่อเรารักพระเจ้าและปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ ความรักต่อพระเจ้าคือการปฏิบัติตามบทบัญญัติ บทบัญญัติของพระองค์มิใช่ภาระหนัก
เพราะทุกคนที่บังเกิดจากพระเจ้าชนะโลกแล้ว ชัยชนะที่ชนะโลกก็คือความเชื่อของเรา ใครเล่าชนะโลกได้ ถ้ามิใช่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต พระองค์คือ พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์มิได้เสด็จมาโดยน้ำเพียงอย่างเดียว แต่เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต และพระจิตเจ้าทรงเป็นพยานถึงเรื่องนี้ เพราะพระจิตเจ้าทรงเป็นความจริง
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น: 20:19-31
ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” โทมัส ซึ่งเรียกกันว่า “ฝาแฝด” เป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ไม่ได้อยู่กับอัครสาวกคนอื่น ๆ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมา ศิษย์คนอื่นบอกเขาว่า “พวกเราเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” แต่เขาตอบว่า “ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปู และไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด” แปดวันต่อมา บรรดาศิษย์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีก โทมัสก็อยู่กับเขาด้วย พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางทั้ง ๆ ที่ประตูปิดอยู่ ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”
แล้วตรัสกับโทมัสว่า “จงเอานิ้วมาที่นี่ และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยอีกต่อไป แต่จงเชื่อเถิด” โทมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” พระเยซูเจ้ายังทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์อื่นอีกหลายประการให้บรรดาศิษย์เห็น แต่ไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามของพระองค์
คุณพ่อเจสซี่: วันนี้เป็นวันฉลองพระเมตตา ก่อนที่พ่อจะกลับใจเป็นโรมันคาทอลิก พ่อเรียนที่มหาวิทยาลัยในรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts) พ่อเดินไปที่วัดของชาวโปแลนด์ เห็นพวกเขากําลังสวดสายประคําพระเมตตาเป็นภาษาของเขา พ่อไม่เข้าใจ แต่สามารถสัมผัสถึงความศรัทธาและสันติสุขที่แผ่ออกมา พ่ออยากจะเป็นหนึ่งในพวกเขา! ต่อมาเมื่อพ่อไปเรียนในมหาวิทยาลัยของกรุงโรม วัดที่ใกล้กับที่พักของพ่อเป็นวัดพระเมตตามีชาวโปแลนด์เป็นลูกวัด!
พระเยซูเจ้าทรงบอกกับนักบุญโพสตินาว่าพระองค์ค้นหาคนที่ตํ่าต้อยที่สุดและไม่พบใครที่ตํ่าต้อยที่สุดเหมือนท่าน ดังนั้น พระองค์ต้องการให้ท่านทําให้มวลมนุษยชาติรู้จักพระองค์และพระเมตาของพระองค์ สองสิ่งที่ขาดแคลนก็คือ ความไม่วางใจในพระเมตตาของพระองค์และความไม่แยแส
ผู้ใดที่ยิ่งต่ำต้อยต้องการพระเมตตาของพระองค์ผู้นั้นยิ่งมีสิทธิในการได้รับพระเมตตาของพระองค์
พระเมตตาของพระองค์คืออะไร? คือการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของพระองค์ และเมื่อเราได้รับพระเมตตาของพระองค์แล้ว เราต้องมีการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของเราเช่นกัน
คุณพ่อเจสซี่: พ่อต้องการให้พวกเราทุกคนกล่าวว่า " พระเยซูเจ้า ลูกวางใจในพระองค์" สามครั้ง เริ่มเลย สาธุชนพากันกล่าวสามครั้งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
แล้วท่านก็ทําพิธีโปรดศีลกําลังให้ชายหนุ่มหญิงสาวสองคน เสร็จพิธี ท่านบอกทั้งสองคนให้หันหน้ามองพวกเรา พวกเราตบมือต้อนรับดังลั่นวัด
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
บทเทศน์เด็ดของสังฆานุกรแทรี่ ในวันอาทิตย์ที่สามของเทศกาลปัสกา 14 เมษายน 2024
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณสังฆานุกรแทรี่ แห่งวัดไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ เมืองบิวดา รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่สามของเทศกาลปัสกา 14 เมษายน 2024 ( Deacon Terry, Santa Cruz Catholic Church and School, Buda, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 3:13-15, 17-19
พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราได้ทรงสำแดงอำนาจอันรุ่งเรืองของพระเยซูเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ ท่านทั้งหลายได้มอบพระเยซูเจ้านี้ให้แก่บรรดาผู้ปกครองและได้ปฏิเสธพระองค์ต่อหน้าปีลาต ทั้ง ๆ ที่ปีลาตตัดสินใจจะปล่อยพระองค์อยู่แล้ว ท่านปฏิเสธพระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์และชอบธรรมแต่กลับขอให้ปล่อยฆาตกร ท่านประหารเจ้าชีวิตแต่พระเจ้าทรงบันดาลให้พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เราเป็นพยานได้ในเรื่องนี้ ถึงกระนั้น พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านทำไปเพราะไม่รู้เช่นเดียวกับบรรดาหัวหน้าของท่าน แต่พระเจ้าทรงใช้วิธีนี้เพื่อทำให้ถ้อยคำที่พระองค์ตรัสไว้ล่วงหน้าโดยทางบรรดาประกาศกว่าพระคริสตเจ้าของพระองค์จะต้องทรงรับทรมานนั้นเป็นจริง เพราะฉะนั้นท่านจงเป็นทุกข์กลับใจและหันมาหาพระเจ้าเถิดเพื่อบาปของท่านจะได้รับการอภัย
บทอ่านที่สอง 1ยอห์น 2:1-5a
ลูกที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ถึงท่าน เพื่อท่านจะได้ไม่ทำบาป แต่ถ้าใครทำบาป เรายังมีทนายแก้ต่างให้เฉพาะพระพักตร์ของพระบิดา คือพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงเป็นเครื่องบูชาชดเชยบาปของเรา และไม่เพียงแต่ชดเชยเฉพาะบาปของเราเท่านั้น แต่ชดเชยบาปของมนุษย์ทั้งโลกด้วย ถ้าเราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เรามั่นใจว่าเรารู้จักพระองค์ ผู้ที่พูดว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” แต่ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เขาเป็นคนพูดคำเท็จ และ “ความจริง” ไม่อยู่ในตัวเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ความรักของพระเจ้าในผู้นั้นย่อมสมบูรณ์ โดยวิธีนี้เราจึงรู้ว่า เราอยู่ในพระเจ้า
พระวารสาร โดยนักบุญลูกา 24:35-48
ศิษย์ทั้งสองคนจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทางและเล่าว่าตนจำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง ขณะที่บรรดาศิษย์สนทนากันอยู่นั้น พระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ในหมู่เขา ตรัสว่า ‘สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด’ เขาต่างตกใจกลัว คิดว่าได้เห็นผี แต่พระองค์ตรัสว่า ‘ท่านวุ่นวายใจทำไม เพราะเหตุใดท่านจึงมีความสงสัยในใจ จงดูมือและเท้าของเราซิ เป็นเราเองจริงๆ จงคลำตัวเราดูเถิด ผีไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูกอย่างที่ท่านเห็นว่าเรามี’ ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้เขาดูพระหัตถ์และพระบาท เขายินดีและแปลกใจจนไม่อยากเชื่อ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘ท่านมีอะไรกินบ้าง’ เขาถวายปลาย่างชิ้นหนึ่งแด่พระองค์
พระองค์ทรงรับมาเสวยต่อหน้าเขา หลังจากนั้น พระองค์ตรัสกับเขาว่า ‘นี่คือความหมายของถ้อยคำที่เรากล่าวไว้ขณะที่ยังอยู่กับท่าน ทุกสิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในธรรมบัญญัติของโมเสส บรรดาประกาศกและเพลงสดุดีจะต้องเป็นความจริง’ แล้วพระองค์ทรงทำให้เขาเกิดปัญญาเข้าใจพระคัมภีร์ ตรัสว่า ‘มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามของพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้
สังฆานุกรแทรี่: คุณพ่อองค์หนึ่งของ*โปรเตสแตนต์นิกายอิปิสโคเปิล ( Episcopal priest) สังเกตเห็นพ่อแม่และลูกสาววัยประมาณสามขวบที่เป็นโรคดาว์นซินโดรมนั่งหลังสุดของวัดในพิธีมิสซา พ่อแม่หน้าตาโศกเศร้าแกมอับอาย หลังมิสซา ท่านเชิญทั้งครอบครัวไปนั่งคุยในห้องทํางานของท่าน แล้วบอกว่า คุณทั้งสองคงโศกเศร้าเสียใจและเป็นห่วงว่า อนาคตของลูกสาวจะเป็นอย่างไร จะมีใครช่วยเหลือดูแลเมื่อคุณทั้งสองตายจากไป พ่อขอบอกคุณทั้งสองว่า คุณทั้งสองเป็นผู้มีบุญ ได้รับพระพรของพระเจ้าผ่านลูกสาวผู้นี้ เพราะเธอบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีการเสแสร้ง จริงใจตลอดเวลา และนี่ก็คือพระเทวภาพของพระเจ้า! ลูกสาวของพ่อชื่อซิลเวีย ( Sylvia ) เป็นลูกคนที่สี่ มีโรคดาว์นซินโดรม เสียชีวิตเมื่ออายุสิบขวบ...
มีกษัตริย์องค์หนึ่งทรงต้องการรูปวาดที่มองแล้วสามารถสัมผัสและรู้ทันทีว่านี่คือสันติสุข พวกนักวาดศิลปินจิตรกรทั้งหลายเสนอฝีมือของตัวเองให้พระองค์ทรงเลือก พระองค์ทรงเลือกจนกระทั่งมาถึงสองภาพ ภาพแรกมีทุ่งหญ้าเขียวชะอุ่มรอบทะเลสาบนํ้านิ่งเหมือนกระจกสท้อนท้องฟ้าสีน้ำเงินสดใส ทรงสัมผัสและรู้ทันทีว่านี่คือสันติสุข อีกภาพมีนํ้าตกสายนํ้าเชี่ยวกรากไหลลงกระแทกพื้นแตกกระจาย เหนือนํ้าตกมีเมฆฝนลมแรง พระองค์ทรงฉงน แล้วทอดพระเนตรเห็นรังนกน้อยรังหนึ่งซุกตัวในซอกหินกึ่งกลางนํ้าตก พระองค์ทรงเลือกรูปนี้ เพราะนี่คือสันติสุขที่แท้จริง
พระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า ‘สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด’ พระองค์ไม่ได้ให้ประกันว่าชีวิตของพวกเราจะราบรื่นตลอดเวลา แต่ทรงมอบสันติสุขตลอดเวลาแก่พวกเรา
*โปรเตสแตนต์นิกายอิปิสโคเปิล ( Episcopal priest) แยกตัวออกจากจากนิกายแองกลิกันของสหราชอาณาจักรเมื่อถูกบังคับให้อยู่ใต้สถาบันกษัตริย์ มีพระสังฆราช พระสงฆ์ (เพศชายเพศหญิง แต่งงานได้) มีมิสซาแก้บาปรับศีลเช่นเดียวกับโรมันคาทอลิก ไม่ขึ้นกับโป๊ปของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณสังฆานุกรแทรี่ แห่งวัดไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ เมืองบิวดา รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่สามของเทศกาลปัสกา 14 เมษายน 2024 ( Deacon Terry, Santa Cruz Catholic Church and School, Buda, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 3:13-15, 17-19
พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราได้ทรงสำแดงอำนาจอันรุ่งเรืองของพระเยซูเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ ท่านทั้งหลายได้มอบพระเยซูเจ้านี้ให้แก่บรรดาผู้ปกครองและได้ปฏิเสธพระองค์ต่อหน้าปีลาต ทั้ง ๆ ที่ปีลาตตัดสินใจจะปล่อยพระองค์อยู่แล้ว ท่านปฏิเสธพระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์และชอบธรรมแต่กลับขอให้ปล่อยฆาตกร ท่านประหารเจ้าชีวิตแต่พระเจ้าทรงบันดาลให้พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เราเป็นพยานได้ในเรื่องนี้ ถึงกระนั้น พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านทำไปเพราะไม่รู้เช่นเดียวกับบรรดาหัวหน้าของท่าน แต่พระเจ้าทรงใช้วิธีนี้เพื่อทำให้ถ้อยคำที่พระองค์ตรัสไว้ล่วงหน้าโดยทางบรรดาประกาศกว่าพระคริสตเจ้าของพระองค์จะต้องทรงรับทรมานนั้นเป็นจริง เพราะฉะนั้นท่านจงเป็นทุกข์กลับใจและหันมาหาพระเจ้าเถิดเพื่อบาปของท่านจะได้รับการอภัย
บทอ่านที่สอง 1ยอห์น 2:1-5a
ลูกที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ถึงท่าน เพื่อท่านจะได้ไม่ทำบาป แต่ถ้าใครทำบาป เรายังมีทนายแก้ต่างให้เฉพาะพระพักตร์ของพระบิดา คือพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงเป็นเครื่องบูชาชดเชยบาปของเรา และไม่เพียงแต่ชดเชยเฉพาะบาปของเราเท่านั้น แต่ชดเชยบาปของมนุษย์ทั้งโลกด้วย ถ้าเราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เรามั่นใจว่าเรารู้จักพระองค์ ผู้ที่พูดว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” แต่ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เขาเป็นคนพูดคำเท็จ และ “ความจริง” ไม่อยู่ในตัวเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ความรักของพระเจ้าในผู้นั้นย่อมสมบูรณ์ โดยวิธีนี้เราจึงรู้ว่า เราอยู่ในพระเจ้า
พระวารสาร โดยนักบุญลูกา 24:35-48
ศิษย์ทั้งสองคนจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทางและเล่าว่าตนจำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง ขณะที่บรรดาศิษย์สนทนากันอยู่นั้น พระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ในหมู่เขา ตรัสว่า ‘สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด’ เขาต่างตกใจกลัว คิดว่าได้เห็นผี แต่พระองค์ตรัสว่า ‘ท่านวุ่นวายใจทำไม เพราะเหตุใดท่านจึงมีความสงสัยในใจ จงดูมือและเท้าของเราซิ เป็นเราเองจริงๆ จงคลำตัวเราดูเถิด ผีไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูกอย่างที่ท่านเห็นว่าเรามี’ ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้เขาดูพระหัตถ์และพระบาท เขายินดีและแปลกใจจนไม่อยากเชื่อ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘ท่านมีอะไรกินบ้าง’ เขาถวายปลาย่างชิ้นหนึ่งแด่พระองค์
พระองค์ทรงรับมาเสวยต่อหน้าเขา หลังจากนั้น พระองค์ตรัสกับเขาว่า ‘นี่คือความหมายของถ้อยคำที่เรากล่าวไว้ขณะที่ยังอยู่กับท่าน ทุกสิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในธรรมบัญญัติของโมเสส บรรดาประกาศกและเพลงสดุดีจะต้องเป็นความจริง’ แล้วพระองค์ทรงทำให้เขาเกิดปัญญาเข้าใจพระคัมภีร์ ตรัสว่า ‘มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามของพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้
สังฆานุกรแทรี่: คุณพ่อองค์หนึ่งของ*โปรเตสแตนต์นิกายอิปิสโคเปิล ( Episcopal priest) สังเกตเห็นพ่อแม่และลูกสาววัยประมาณสามขวบที่เป็นโรคดาว์นซินโดรมนั่งหลังสุดของวัดในพิธีมิสซา พ่อแม่หน้าตาโศกเศร้าแกมอับอาย หลังมิสซา ท่านเชิญทั้งครอบครัวไปนั่งคุยในห้องทํางานของท่าน แล้วบอกว่า คุณทั้งสองคงโศกเศร้าเสียใจและเป็นห่วงว่า อนาคตของลูกสาวจะเป็นอย่างไร จะมีใครช่วยเหลือดูแลเมื่อคุณทั้งสองตายจากไป พ่อขอบอกคุณทั้งสองว่า คุณทั้งสองเป็นผู้มีบุญ ได้รับพระพรของพระเจ้าผ่านลูกสาวผู้นี้ เพราะเธอบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีการเสแสร้ง จริงใจตลอดเวลา และนี่ก็คือพระเทวภาพของพระเจ้า! ลูกสาวของพ่อชื่อซิลเวีย ( Sylvia ) เป็นลูกคนที่สี่ มีโรคดาว์นซินโดรม เสียชีวิตเมื่ออายุสิบขวบ...
มีกษัตริย์องค์หนึ่งทรงต้องการรูปวาดที่มองแล้วสามารถสัมผัสและรู้ทันทีว่านี่คือสันติสุข พวกนักวาดศิลปินจิตรกรทั้งหลายเสนอฝีมือของตัวเองให้พระองค์ทรงเลือก พระองค์ทรงเลือกจนกระทั่งมาถึงสองภาพ ภาพแรกมีทุ่งหญ้าเขียวชะอุ่มรอบทะเลสาบนํ้านิ่งเหมือนกระจกสท้อนท้องฟ้าสีน้ำเงินสดใส ทรงสัมผัสและรู้ทันทีว่านี่คือสันติสุข อีกภาพมีนํ้าตกสายนํ้าเชี่ยวกรากไหลลงกระแทกพื้นแตกกระจาย เหนือนํ้าตกมีเมฆฝนลมแรง พระองค์ทรงฉงน แล้วทอดพระเนตรเห็นรังนกน้อยรังหนึ่งซุกตัวในซอกหินกึ่งกลางนํ้าตก พระองค์ทรงเลือกรูปนี้ เพราะนี่คือสันติสุขที่แท้จริง
พระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า ‘สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด’ พระองค์ไม่ได้ให้ประกันว่าชีวิตของพวกเราจะราบรื่นตลอดเวลา แต่ทรงมอบสันติสุขตลอดเวลาแก่พวกเรา
*โปรเตสแตนต์นิกายอิปิสโคเปิล ( Episcopal priest) แยกตัวออกจากจากนิกายแองกลิกันของสหราชอาณาจักรเมื่อถูกบังคับให้อยู่ใต้สถาบันกษัตริย์ มีพระสังฆราช พระสงฆ์ (เพศชายเพศหญิง แต่งงานได้) มีมิสซาแก้บาปรับศีลเช่นเดียวกับโรมันคาทอลิก ไม่ขึ้นกับโป๊ปของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
อาทิตย์ที่ 6 ในเทศกาลอีสเตอร์ 5 พฤษภาคม 2024 บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อราโมส
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อราโมส วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Ramos, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง: กิจการอัครสาวก 10:25-26, 34-35, 44-48
เมื่อเปโตรเข้าไปในบ้าน โครเนลิอัสออกมาต้อนรับ กราบเท้าของเปโตรด้วยความเคารพ แต่เปโตรพยุงเขาให้ลุกขึ้น พูดว่า “ลุกขึ้นเถิด ข้าพเจ้าก็เป็นมนุษย์เหมือนท่าน” เปโตรเริ่มพูดว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้าไม่ทรงลำเอียง ทุกคนที่ยำเกรงพระองค์และปฏิบัติความชอบธรรม ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใด ย่อมเป็นที่พอพระทัยของพระองค์ ต่างศาสนากลุ่มแรกรับศีลล้างบาป ขณะที่เปโตรกำลังพูด พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือทุกคนที่กำลังฟังพระวาจา ชาวยิวผู้มีความเชื่อที่มากับเปโตรประหลาดใจที่คนต่างศาสนาได้รับพระพรของพระจิตเจ้าด้วย เพราะชาวยิวเหล่านี้ได้ยินคนต่างศาสนาพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ และสรรเสริญพระเจ้า เปโตรพูดว่า “ใครเล่าจะห้ามมิให้คนเหล่านี้รับศีลล้างบาปด้วยน้ำ ในเมื่อเขาได้รับพระจิตเจ้าเหมือนกับพวกเราแล้ว” เปโตรจึงสั่งให้คนเหล่านั้นรับศีลล้างบาปเดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า หลังจากนั้นเขาทั้งหลายขอให้เปโตรพักอยู่กับเขาอีกสองสามวัน
บทอ่านที่สอง: 1 ยน 4: 7-10
ท่านที่รักทั้งหลาย เราจงรักกัน เพราะความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่มีความรัก ย่อมบังเกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระองค์ ผู้ไม่มีความรัก ย่อมไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก ความรักของพระเจ้าปรากฏให้เราเห็นดังนี้ คือ พระเจ้าทรงส่งพระบุตรพระองค์เดียวมาในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยทางพระบุตรนั้น ความรักอยู่ที่ว่าพระเจ้าทรงรักเรา และทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อชดเชยบาปของเรา มิใช่อยู่ที่เรารักพระเจ้า
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น: 15: 9-17
พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด
ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเรา ถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหาย เพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
คุณพ่อราโมส: ทําไมพวกคุณมาร่วมมิสซา? ทําไมพ่อเป็นพระสงฆ์? ทําไมสังฆานุกรเรย์เป็นสังฆานุกร? คําตอบก็คือ " ความรัก"
ความรักมีองค์ประกอบสามอย่าง 1) ความสามารถในการเสียสละ: พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนมชีพเพื่อเรา 2) ความรักไม่มีการรังเกียจเดียดฉันท์ รักทุกคน: ไม่ว่าจะเพราะเชื้อชาติ ศาสนา และฐานะของสังคม 3) การกระทําของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่: ให้ทาน ให้เครื่องนุ่งห่ม เยี่ยมคนป่วย เยี่ยมคนติดคุก ฯลฯ
มีชายหนุ่มคนหนึ่งโทรศัพท์บอกกับคนรักว่า เขารักเธอมากถึงขนาดจะโค่นล้มภูเขาให้เรียบเป็นทางจะได้สามารถมาหาเธอได้ และเขาจะย้ายแม่นํ้าที่ไหลเขี่ยวกรากเพื่อที่จะได้สามารถมาหาเธอ แฟนสาวตอบกลับว่า ไม่ต้องทําถึงขนาดนั้นหรอก วันสุดสัปดาห์นี้ถ้ามีเวลา มาที่บ้านช่วยปัดกวาดทําความสะอาดให้ด้วย หนุ่มสวนกลับว่า ผมเกลียดคนที่ฉวยโอกาส!
ลูกวัดเกือบสามร้อยคนหัวเราะเสียงดังสนั่นลั่นวัด...
เราต้องรักกันและกันเหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงบอก เราต้องรัก เห็นอกเห็นใจ เมตตา และให้ความยุติธรรม แก่ทุกคน
การบ้านที่ต้องเอาไปรําพึง: พระองค์ทําความดีอะไรให้เราบ้าง เราจะทําอะไรเป็นการตอบสนองความดีของพระองค์
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อราโมส วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Ramos, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง: กิจการอัครสาวก 10:25-26, 34-35, 44-48
เมื่อเปโตรเข้าไปในบ้าน โครเนลิอัสออกมาต้อนรับ กราบเท้าของเปโตรด้วยความเคารพ แต่เปโตรพยุงเขาให้ลุกขึ้น พูดว่า “ลุกขึ้นเถิด ข้าพเจ้าก็เป็นมนุษย์เหมือนท่าน” เปโตรเริ่มพูดว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้าไม่ทรงลำเอียง ทุกคนที่ยำเกรงพระองค์และปฏิบัติความชอบธรรม ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใด ย่อมเป็นที่พอพระทัยของพระองค์ ต่างศาสนากลุ่มแรกรับศีลล้างบาป ขณะที่เปโตรกำลังพูด พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือทุกคนที่กำลังฟังพระวาจา ชาวยิวผู้มีความเชื่อที่มากับเปโตรประหลาดใจที่คนต่างศาสนาได้รับพระพรของพระจิตเจ้าด้วย เพราะชาวยิวเหล่านี้ได้ยินคนต่างศาสนาพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ และสรรเสริญพระเจ้า เปโตรพูดว่า “ใครเล่าจะห้ามมิให้คนเหล่านี้รับศีลล้างบาปด้วยน้ำ ในเมื่อเขาได้รับพระจิตเจ้าเหมือนกับพวกเราแล้ว” เปโตรจึงสั่งให้คนเหล่านั้นรับศีลล้างบาปเดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า หลังจากนั้นเขาทั้งหลายขอให้เปโตรพักอยู่กับเขาอีกสองสามวัน
บทอ่านที่สอง: 1 ยน 4: 7-10
ท่านที่รักทั้งหลาย เราจงรักกัน เพราะความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่มีความรัก ย่อมบังเกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระองค์ ผู้ไม่มีความรัก ย่อมไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก ความรักของพระเจ้าปรากฏให้เราเห็นดังนี้ คือ พระเจ้าทรงส่งพระบุตรพระองค์เดียวมาในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยทางพระบุตรนั้น ความรักอยู่ที่ว่าพระเจ้าทรงรักเรา และทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อชดเชยบาปของเรา มิใช่อยู่ที่เรารักพระเจ้า
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น: 15: 9-17
พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด
ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเรา ถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหาย เพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
คุณพ่อราโมส: ทําไมพวกคุณมาร่วมมิสซา? ทําไมพ่อเป็นพระสงฆ์? ทําไมสังฆานุกรเรย์เป็นสังฆานุกร? คําตอบก็คือ " ความรัก"
ความรักมีองค์ประกอบสามอย่าง 1) ความสามารถในการเสียสละ: พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนมชีพเพื่อเรา 2) ความรักไม่มีการรังเกียจเดียดฉันท์ รักทุกคน: ไม่ว่าจะเพราะเชื้อชาติ ศาสนา และฐานะของสังคม 3) การกระทําของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่: ให้ทาน ให้เครื่องนุ่งห่ม เยี่ยมคนป่วย เยี่ยมคนติดคุก ฯลฯ
มีชายหนุ่มคนหนึ่งโทรศัพท์บอกกับคนรักว่า เขารักเธอมากถึงขนาดจะโค่นล้มภูเขาให้เรียบเป็นทางจะได้สามารถมาหาเธอได้ และเขาจะย้ายแม่นํ้าที่ไหลเขี่ยวกรากเพื่อที่จะได้สามารถมาหาเธอ แฟนสาวตอบกลับว่า ไม่ต้องทําถึงขนาดนั้นหรอก วันสุดสัปดาห์นี้ถ้ามีเวลา มาที่บ้านช่วยปัดกวาดทําความสะอาดให้ด้วย หนุ่มสวนกลับว่า ผมเกลียดคนที่ฉวยโอกาส!
ลูกวัดเกือบสามร้อยคนหัวเราะเสียงดังสนั่นลั่นวัด...
เราต้องรักกันและกันเหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงบอก เราต้องรัก เห็นอกเห็นใจ เมตตา และให้ความยุติธรรม แก่ทุกคน
การบ้านที่ต้องเอาไปรําพึง: พระองค์ทําความดีอะไรให้เราบ้าง เราจะทําอะไรเป็นการตอบสนองความดีของพระองค์
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
อาทิตย์ที่ 7 ในเทศกาลอีสเตอร์ 12 พฤษภาคม 2024 บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อทิม
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก: 1:1-11
เธโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรก ข้าพเจ้าเล่าถึงทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำและทรงสั่งสอน เริ่มตั้งแต่ต้น จนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ทรงได้รับการยกขึ้นสวรรค์ หลังจากที่ทรงแนะนำสั่งสอนบรรดาอัครสาวกที่ทรงเลือกสรรโดยทางพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกเหล่านั้น และทรงพิสูจน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ว่าหลังจากทรงรับทุกข์ทรมานแล้ว พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ตลอดเวลาสี่สิบวันที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์แก่เขาทั้งหลาย ทรงกล่าวถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า ขณะที่ทรงร่วมโต๊ะกับเขา พระองค์ทรงกำชับว่า “อย่าออกจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว้ ดังที่ท่านได้ยินจากเรา
ยอห์นทำพิธีล้างด้วยน้ำ แต่ภายในไม่กี่วัน ท่านจะได้รับพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า ผู้ที่มาชุมนุมกับพระเยซูเจ้า ทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งในเวลานี้หรือ” พระองค์ตรัสตอบว่า “ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้วันเวลาที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยอำนาจของพระองค์ แต่พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เมฆบังพระองค์จากสายตาของเขา เขายังคงจ้องมองท้องฟ้าขณะที่พระองค์ทรงจากไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมเสื้อขาวปรากฏกับเขา กล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ท่านทั้งหลายยืนแหงนมองท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเยซูเจ้าพระองค์นี้ที่เสด็จสู่สวรรค์ จะเสด็จกลับมาเช่นเดียวกับที่ท่านทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงจากไปสู่สวรรค์”
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 1:17-23
ขอพระเจ้าแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ประทานพระพรแห่งปรีชาญาณและการเปิดเผยให้แก่ท่านเดชะพระจิตเจ้าเพื่อท่านจะได้รู้ซึ้งถึงพระองค์ยิ่ง ๆ ขึ้น
ขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้น เพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใด และความรุ่งเรืองที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเป็นมรดกนั้นบริบูรณ์เพียงใด อีกทั้งรู้ด้วยว่า พระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อเราผู้มีความเชื่อนั้นล้ำเลิศเพียงใด พระอานุภาพและพละกำลังนี้ พระองค์ทรงแสดงในองค์พระคริสตเจ้า เมื่อทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย และให้ประทับเบื้องขวาของพระองค์ในสวรรค์ เหนือเทพนิกรเจ้า เทพนิกรอำนาจ เทพนิกรฤทธิ์ เทพนิกรนายและเหนือนามทั้งปวงที่อาจเรียกขานได้ทั้งในยุคนี้และในยุคหน้า พระเจ้าทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้พระบาทของพระคริสตเจ้า และทรงแต่งตั้งพระคริสตเจ้าไว้เหนือสรรพสิ่ง ให้ทรงเป็นศีรษะของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระวรกายของพระองค์ เป็นความบริบูรณ์ของพระผู้ทรงอยู่ในทุกสิ่งและทรงกระทำให้ทุกสิ่งบริบูรณ์
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว: 16: 15-20
พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร”
ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านเป็นศิลาและบนศิลานี้ เราจะสร้างพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” แล้วพระองค์ทรงกำชับบรรดาศิษย์มิให้บอกใครว่า พระองค์คือพระคริสตเจ้า
คุณพ่อทิม: อัครสาวกคงรู้สึกเป็นสุขที่ได้เห็นพระเยซูเจ้าทรงเทศนาสั่งสอนและบําบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมทั้งทรงสั่งให้คนตายฟื้นคืนชีพ และก็ได้เห็นพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ และพระองค์จะเสด็จกลับมาพาพวกเราขึ้นสวรรค์เช่นกัน
พวกเราต้องประกาศข่าวดีเช่นกัน เลิกมองมือถือ ดูทีวีจอใหญ่ หรือดู*พายุสุริยะ มีงานต้องทําอีกมากมาย อย่าขี้เกียจ พระเป็นเจ้าไม่ต้องการสูญเสียวิญญาณแม้แต่ดวงเดียวเพราะความขี้เกียจในการแพร่ธรรมและการสวดภาวนาของพวกเรา
การประกาศข่าวดีแพร่ธรรมไม่ใช่แต่เป็นภารกิจของพระสงฆ์และนักบวชเท่านั้น มันเป็นภารกิจของพวกเราฆราวาสทุกคนเช่นกัน
พระศาสนจักรของเราเจริญเติบโตมาทุกชั่วคน...เลิกจ้องมองได้แล้ว...ทําตัวให้ยุ่งกับภารกิจแพร่ธรรม!
*พายุสุริยะสามารถมองเห็นได้ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เที่ยงคืนจนค่อนรุ่งของวันศุกร์ที่ 10-ถึงวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก: 1:1-11
เธโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรก ข้าพเจ้าเล่าถึงทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำและทรงสั่งสอน เริ่มตั้งแต่ต้น จนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ทรงได้รับการยกขึ้นสวรรค์ หลังจากที่ทรงแนะนำสั่งสอนบรรดาอัครสาวกที่ทรงเลือกสรรโดยทางพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกเหล่านั้น และทรงพิสูจน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ว่าหลังจากทรงรับทุกข์ทรมานแล้ว พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ตลอดเวลาสี่สิบวันที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์แก่เขาทั้งหลาย ทรงกล่าวถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า ขณะที่ทรงร่วมโต๊ะกับเขา พระองค์ทรงกำชับว่า “อย่าออกจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว้ ดังที่ท่านได้ยินจากเรา
ยอห์นทำพิธีล้างด้วยน้ำ แต่ภายในไม่กี่วัน ท่านจะได้รับพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า ผู้ที่มาชุมนุมกับพระเยซูเจ้า ทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งในเวลานี้หรือ” พระองค์ตรัสตอบว่า “ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้วันเวลาที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยอำนาจของพระองค์ แต่พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เมฆบังพระองค์จากสายตาของเขา เขายังคงจ้องมองท้องฟ้าขณะที่พระองค์ทรงจากไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมเสื้อขาวปรากฏกับเขา กล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ท่านทั้งหลายยืนแหงนมองท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเยซูเจ้าพระองค์นี้ที่เสด็จสู่สวรรค์ จะเสด็จกลับมาเช่นเดียวกับที่ท่านทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงจากไปสู่สวรรค์”
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 1:17-23
ขอพระเจ้าแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ประทานพระพรแห่งปรีชาญาณและการเปิดเผยให้แก่ท่านเดชะพระจิตเจ้าเพื่อท่านจะได้รู้ซึ้งถึงพระองค์ยิ่ง ๆ ขึ้น
ขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้น เพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใด และความรุ่งเรืองที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเป็นมรดกนั้นบริบูรณ์เพียงใด อีกทั้งรู้ด้วยว่า พระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อเราผู้มีความเชื่อนั้นล้ำเลิศเพียงใด พระอานุภาพและพละกำลังนี้ พระองค์ทรงแสดงในองค์พระคริสตเจ้า เมื่อทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย และให้ประทับเบื้องขวาของพระองค์ในสวรรค์ เหนือเทพนิกรเจ้า เทพนิกรอำนาจ เทพนิกรฤทธิ์ เทพนิกรนายและเหนือนามทั้งปวงที่อาจเรียกขานได้ทั้งในยุคนี้และในยุคหน้า พระเจ้าทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้พระบาทของพระคริสตเจ้า และทรงแต่งตั้งพระคริสตเจ้าไว้เหนือสรรพสิ่ง ให้ทรงเป็นศีรษะของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระวรกายของพระองค์ เป็นความบริบูรณ์ของพระผู้ทรงอยู่ในทุกสิ่งและทรงกระทำให้ทุกสิ่งบริบูรณ์
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว: 16: 15-20
พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร”
ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านเป็นศิลาและบนศิลานี้ เราจะสร้างพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” แล้วพระองค์ทรงกำชับบรรดาศิษย์มิให้บอกใครว่า พระองค์คือพระคริสตเจ้า
คุณพ่อทิม: อัครสาวกคงรู้สึกเป็นสุขที่ได้เห็นพระเยซูเจ้าทรงเทศนาสั่งสอนและบําบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมทั้งทรงสั่งให้คนตายฟื้นคืนชีพ และก็ได้เห็นพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ และพระองค์จะเสด็จกลับมาพาพวกเราขึ้นสวรรค์เช่นกัน
พวกเราต้องประกาศข่าวดีเช่นกัน เลิกมองมือถือ ดูทีวีจอใหญ่ หรือดู*พายุสุริยะ มีงานต้องทําอีกมากมาย อย่าขี้เกียจ พระเป็นเจ้าไม่ต้องการสูญเสียวิญญาณแม้แต่ดวงเดียวเพราะความขี้เกียจในการแพร่ธรรมและการสวดภาวนาของพวกเรา
การประกาศข่าวดีแพร่ธรรมไม่ใช่แต่เป็นภารกิจของพระสงฆ์และนักบวชเท่านั้น มันเป็นภารกิจของพวกเราฆราวาสทุกคนเช่นกัน
พระศาสนจักรของเราเจริญเติบโตมาทุกชั่วคน...เลิกจ้องมองได้แล้ว...ทําตัวให้ยุ่งกับภารกิจแพร่ธรรม!
*พายุสุริยะสามารถมองเห็นได้ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เที่ยงคืนจนค่อนรุ่งของวันศุกร์ที่ 10-ถึงวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
สมโภชพระจิตเจ้า 19 พฤษภาคม 2024 บทเทศน์เด็ดของสังฆานุกรแทรี่
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของสังฆานุกรแทรี่ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Deacon, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 2:1-11
เมื่อวันเปนเตกอสเตมาถึง บรรดาศิษย์ทุกคนมาชุมนุมในสถานที่เดียวกัน ทันใดนั้นมีเสียงจากฟ้าเหมือนเสียงลมพัดแรงกล้า ทุกคนที่อยู่ในบ้านได้ยิน เขาเห็นเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้นแยกไปอยู่เหนือศีรษะของเขาแต่ละคน ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม และเริ่มพูดภาษาอื่น ๆ ตามที่พระจิตเจ้าประทานให้พูด ขณะนั้นที่กรุงเยรูซาเล็มมีชาวยิวผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้ามาจากทุกชาติทั่วโลก เมื่อประชาชนได้ยินเสียงนี้ จึงมาชุมนุมกันจำนวนมาก รู้สึกฉงนสนเท่ห์เพราะแต่ละคนได้ยินคนเหล่านี้พูดภาษาของตน และประหลาดใจอย่างยิ่ง กล่าวว่า “ทุกคนที่กำลังพูดอยู่นี้เป็นชาวกาลิลีมิใช่หรือ แล้วทำไมเราแต่ละคนจึงได้ยินเขาพูดภาษาท้องถิ่นของเราเล่า เราชาวปาร์เธีย ชาวมีเดีย และชาวเอลาม บางคนอาศัยอยู่ในเขตเมโสโปเตเมีย แคว้นยูเดีย แคว้นคัปปาโดเซีย แคว้นปอนทัสและแคว้นเอเซีย แคว้นฟรีเจียและแคว้นปัมฟีเลีย บางคนมาจากอียิปต์และเขตของประเทศลิเบียรอบ ๆ เมืองไซรีน บางคนมาจากกรุงโรม ทั้งชาวยิวและผู้กลับใจเข้านับถือลัทธิยิวบางคนเป็นชาวเกาะครีตและชาวอาหรับพวกเราได้ยินคนเหล่านี้ประกาศกิจการอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเป็นภาษาของเรา”
บทอ่านที่สอง กาลาเทีย:5:16-25
บัดนี้ ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลายว่า จงดำเนินตามพระจิตเจ้า และอย่าตอบสนองความปรารถนาตามธรรมชาติ เพราะธรรมชาติมนุษย์มีความปรารถนาตรงกันข้ามกับพระจิตเจ้า และพระจิตเจ้าก็ทรงปรารถนาตรงกันข้ามกับธรรมชาติมนุษย์ สองสิ่งนี้ขัดแย้งกัน ท่านทำสิ่งที่ท่านอยากทำไม่ได้ ถ้าท่านมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ ท่านก็ไม่อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติ กิจการของธรรมชาติมนุษย์นั้นปรากฏชัดแจ้ง คือ การผิดประเวณี ความลามกโสมม การปล่อยตัวตามราคตัณหา การกราบไหว้รูปเคารพ การใช้เวทมนตร์คาถา การเป็นศัตรูกัน การทะเลาะวิวาท ความอิจฉาริษยา ความโกรธเคือง การแก่งแย่งชิงดี การแตกแยก การแบ่งพรรคแบ่งพวก
การเมามาย การสำมะเลเทเมา และอีกหลายประการในทำนองเดียวกันนี้ ข้าพเจ้าขอเตือนท่านทั้งหลายอีกครั้งหนึ่งดังที่เคยเตือนมาแล้วว่า ผู้ที่ประพฤติตนเช่นนี้จะไม่ได้อาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก ส่วนผลของพระจิตเจ้าก็คือความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง เรื่องเหล่านี้ไม่มีธรรมบัญญัติใดห้ามไว้เลย ผู้ที่เป็นของพระคริสตเยซู ก็ตรึงธรรมชาติของตนพร้อมกับกิเลสตัณหาไว้กับไม้กางเขนแล้ว ถ้าเรามีชีวิตเดชะพระจิตเจ้าแล้ว เราจงดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้าด้วย
พระวรสารโดยนักบุญยอห์น 15:26-27,16:12-15
เมื่อพระผู้ช่วยเหลือซึ่งเราจะส่งมาจากพระบิดา จะเสด็จมา คือพระจิตแห่งความจริง ผู้ทรงเนื่องมาจากพระบิดาพระองค์จะทรงเป็นพยานให้เรา ท่านทั้งหลายก็จะเป็นพยานให้เราด้วย เพราะท่านอยู่กับเรามาตั้งแต่แรกแล้ว เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอกท่าน แต่บัดนี้ท่านยังรับไว้ไม่ได้ เมื่อพระจิตแห่งความจริงเสด็จมา พระองค์จะทรงนำท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล พระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เอง แต่จะตรัสทุกสิ่งที่ทรงได้ฟังมา และจะทรงแจ้งให้ท่านรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น.พระองค์จะทรงให้เราได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ เพราะพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงได้รับจากเรา ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้นก็เป็นของเราด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า พระจิตเจ้าจะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงรับจากเรา
สังฆานุกรแทรี่: ทุกคนจงพูดตามผม " รูอาค์" ( Ruach= Breath of God/ Spirit of God = ลมปราณของพระเจ้า/ พระจิตเจ้าของพระเจ้า)
ลูกวัด: เปล่งเสียงตามดังสนั่นหวั่นไหว
สังฆานุกรแทรี่: วันนี้เป็นวันเกิดของพระศาสนจักรของเรา สิ่งที่ดีกว่าเค้กวันเกิดก็คือการประทับอยู่ของพระเจ้ากับเรา
วันนี้เป็นวันสมโภชพระจิตเจ้าพระคุณ/พระพรของพระองค์มีดังนี้: ปรีชาญาณ สติปัญญา ความคิดอ่าน พละกำลัง ความรู้ ความศรัทธา ความยําเกรงพระเจ้า
ผลของพระจิตเจ้ามีดังนี้: ความอ่อนโยน ความใจดี ความชื่นชม การรู้จักควบคุมตนเอง ความรัก ความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความอดทน ความสงบ
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของสังฆานุกรแทรี่ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Deacon, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 2:1-11
เมื่อวันเปนเตกอสเตมาถึง บรรดาศิษย์ทุกคนมาชุมนุมในสถานที่เดียวกัน ทันใดนั้นมีเสียงจากฟ้าเหมือนเสียงลมพัดแรงกล้า ทุกคนที่อยู่ในบ้านได้ยิน เขาเห็นเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้นแยกไปอยู่เหนือศีรษะของเขาแต่ละคน ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม และเริ่มพูดภาษาอื่น ๆ ตามที่พระจิตเจ้าประทานให้พูด ขณะนั้นที่กรุงเยรูซาเล็มมีชาวยิวผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้ามาจากทุกชาติทั่วโลก เมื่อประชาชนได้ยินเสียงนี้ จึงมาชุมนุมกันจำนวนมาก รู้สึกฉงนสนเท่ห์เพราะแต่ละคนได้ยินคนเหล่านี้พูดภาษาของตน และประหลาดใจอย่างยิ่ง กล่าวว่า “ทุกคนที่กำลังพูดอยู่นี้เป็นชาวกาลิลีมิใช่หรือ แล้วทำไมเราแต่ละคนจึงได้ยินเขาพูดภาษาท้องถิ่นของเราเล่า เราชาวปาร์เธีย ชาวมีเดีย และชาวเอลาม บางคนอาศัยอยู่ในเขตเมโสโปเตเมีย แคว้นยูเดีย แคว้นคัปปาโดเซีย แคว้นปอนทัสและแคว้นเอเซีย แคว้นฟรีเจียและแคว้นปัมฟีเลีย บางคนมาจากอียิปต์และเขตของประเทศลิเบียรอบ ๆ เมืองไซรีน บางคนมาจากกรุงโรม ทั้งชาวยิวและผู้กลับใจเข้านับถือลัทธิยิวบางคนเป็นชาวเกาะครีตและชาวอาหรับพวกเราได้ยินคนเหล่านี้ประกาศกิจการอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเป็นภาษาของเรา”
บทอ่านที่สอง กาลาเทีย:5:16-25
บัดนี้ ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลายว่า จงดำเนินตามพระจิตเจ้า และอย่าตอบสนองความปรารถนาตามธรรมชาติ เพราะธรรมชาติมนุษย์มีความปรารถนาตรงกันข้ามกับพระจิตเจ้า และพระจิตเจ้าก็ทรงปรารถนาตรงกันข้ามกับธรรมชาติมนุษย์ สองสิ่งนี้ขัดแย้งกัน ท่านทำสิ่งที่ท่านอยากทำไม่ได้ ถ้าท่านมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ ท่านก็ไม่อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติ กิจการของธรรมชาติมนุษย์นั้นปรากฏชัดแจ้ง คือ การผิดประเวณี ความลามกโสมม การปล่อยตัวตามราคตัณหา การกราบไหว้รูปเคารพ การใช้เวทมนตร์คาถา การเป็นศัตรูกัน การทะเลาะวิวาท ความอิจฉาริษยา ความโกรธเคือง การแก่งแย่งชิงดี การแตกแยก การแบ่งพรรคแบ่งพวก
การเมามาย การสำมะเลเทเมา และอีกหลายประการในทำนองเดียวกันนี้ ข้าพเจ้าขอเตือนท่านทั้งหลายอีกครั้งหนึ่งดังที่เคยเตือนมาแล้วว่า ผู้ที่ประพฤติตนเช่นนี้จะไม่ได้อาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก ส่วนผลของพระจิตเจ้าก็คือความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง เรื่องเหล่านี้ไม่มีธรรมบัญญัติใดห้ามไว้เลย ผู้ที่เป็นของพระคริสตเยซู ก็ตรึงธรรมชาติของตนพร้อมกับกิเลสตัณหาไว้กับไม้กางเขนแล้ว ถ้าเรามีชีวิตเดชะพระจิตเจ้าแล้ว เราจงดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้าด้วย
พระวรสารโดยนักบุญยอห์น 15:26-27,16:12-15
เมื่อพระผู้ช่วยเหลือซึ่งเราจะส่งมาจากพระบิดา จะเสด็จมา คือพระจิตแห่งความจริง ผู้ทรงเนื่องมาจากพระบิดาพระองค์จะทรงเป็นพยานให้เรา ท่านทั้งหลายก็จะเป็นพยานให้เราด้วย เพราะท่านอยู่กับเรามาตั้งแต่แรกแล้ว เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอกท่าน แต่บัดนี้ท่านยังรับไว้ไม่ได้ เมื่อพระจิตแห่งความจริงเสด็จมา พระองค์จะทรงนำท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล พระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เอง แต่จะตรัสทุกสิ่งที่ทรงได้ฟังมา และจะทรงแจ้งให้ท่านรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น.พระองค์จะทรงให้เราได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ เพราะพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงได้รับจากเรา ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้นก็เป็นของเราด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า พระจิตเจ้าจะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงรับจากเรา
สังฆานุกรแทรี่: ทุกคนจงพูดตามผม " รูอาค์" ( Ruach= Breath of God/ Spirit of God = ลมปราณของพระเจ้า/ พระจิตเจ้าของพระเจ้า)
ลูกวัด: เปล่งเสียงตามดังสนั่นหวั่นไหว
สังฆานุกรแทรี่: วันนี้เป็นวันเกิดของพระศาสนจักรของเรา สิ่งที่ดีกว่าเค้กวันเกิดก็คือการประทับอยู่ของพระเจ้ากับเรา
วันนี้เป็นวันสมโภชพระจิตเจ้าพระคุณ/พระพรของพระองค์มีดังนี้: ปรีชาญาณ สติปัญญา ความคิดอ่าน พละกำลัง ความรู้ ความศรัทธา ความยําเกรงพระเจ้า
ผลของพระจิตเจ้ามีดังนี้: ความอ่อนโยน ความใจดี ความชื่นชม การรู้จักควบคุมตนเอง ความรัก ความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความอดทน ความสงบ
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
สมโภชพระตรีเอกภาพ วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2024
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
วันนี้มีการทําพิธีล้างบาปของเด็กสาวน่ารักวัยขวบกว่า " เพเนโลป/ Penelope " โดยคุณพ่อทิม ที่หน้าประตูทางเข้าวัด ก่อนพิธีมิสซา ข้อสัญญาเรียกร้องของพระศาสนจักรที่พวกเราโรมันคาทอลิกต้องทําตาม: เป็นสงฆ์ เป็นประกาศก เป็นกษัตริย์ ดังที่พระเยซูเจ้า พระบุตร พระผู้ไถ่ ของเราทรงเป็น
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 4:32-34, 39-40
จงดูอดีตก่อนที่ท่านทั้งหลายจะเกิด ตั้งแต่วันที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ไว้บนแผ่นดิน จงตรวจตราจากปลายหนึ่งถึงอีกปลายหนึ่งของโลกว่ามีอะไรยิ่งใหญ่เท่านี้เคยเกิดขึ้นหรือไม่ มีใครเคยได้ยินเรื่องใดที่เหมือนเรื่องนี้หรือไม่ เคยมีประชากรใดบ้างที่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสจากกองไฟดังที่ท่านได้ยินและมีชีวิตรอดได้ หรือเคยมีพระเจ้าองค์ใดบ้างที่ทรงกล้าเลือกชนชาติหนึ่งออกจากอีกชนชาติหนึ่ง ทรงใช้วิธีการต่าง ๆ คือ เครื่องหมายอัศจรรย์ ปาฏิหาริย์และสงคราม ทรงใช้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระอานุภาพอันยิ่งใหญ่บันดาลให้ทุกคนหวาดกลัว ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงกระทำในอียิปต์ต่อหน้าท่าน ดังนั้นในวันนี้ จงรู้และจำใส่ใจว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า ทั้งในสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่าง และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก ท่านจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและบทบัญญัติของพระองค์ที่ข้าพเจ้ามอบให้ท่านในวันนี้ แล้วท่านกับลูกหลานที่จะตามมาในภายหลังจะอยู่อย่างมีความสุข จะอยู่เป็นเวลานานในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน ทรงมอบให้เป็นของท่านตลอดไป
บทอ่านที่สอง โรม 8:14-17
ทุกคนที่มีพระจิตของพระเจ้าเป็นผู้นำย่อมเป็นบุตรของพระเจ้า ท่านทั้งหลายไม่ได้รับจิตการเป็นทาสซึ่งมีแต่ความหวาดกลัวอีก แต่ได้รับจิตการเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งทำให้เราร้องออกมาว่า “อับบา พระบิดาเจ้าข้า” พระจิตเจ้าทรงเป็นพยานยืนยันร่วมกับจิตของเราว่า เราเป็นบุตรของพระเจ้า เมื่อเราเป็นบุตร เราก็เป็นทายาทด้วย เป็นทายาทของพระเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระคริสตเจ้า ถ้าเรารับการทรมานร่วมกับพระองค์ เราก็จะรับพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระองค์ด้วย
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 28:16-20
บรรดาศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนได้ไปยังแคว้นกาลิลี ถึงภูเขาที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดไว้ เมื่อเขาเห็นพระองค์ ก็กราบนมัสการ แต่บางคนยังสงสัยอยู่ พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า “พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ”
คุณพ่อทิม: วันนี้เป็นวันฉลองพระตรีเอกภาพ แก่นของความเชื่อที่ลึกลับสําคัญสุดของเรา เราเชื่อว่าพระตรีเอกภาพ มีสามพระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิตเจ้า สามพระองค์องค์เดียว เราต้องสวดภาวนามากๆเพื่อที่จะได้เข้าใจความเชื่อสุดลึกลับของเรานี้
ความเชื่อในพระตรีเอกภาพสุดลึกลับนี้ได้ถูกเปิดเผยในพระธรรมเก่า ( ปฐมกาล) และ ในพระวรสารของวันนี้
หลักความเชื่อของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก: พระบิดาองค์ประธาน ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งเพื่อพระบุตร/พระวจนาตถ์ ในพระองค์ ผ่านพระองค์ร่วมกับพระองค์และหนึ่งเดียวกับพระจิตเจ้า/ พระลมปราณของพระองค์ (ปฐมกาล: ...แผ่นดินยังเป็นที่ร้างไร้รูปร่าง ความมืดมิดปกคลุมอยู่เหนือทะเลลึก และลมพายุแรงกล้าพัดอยู่เหนือน้ำ พระเจ้าตรัสว่า “จงมีความสว่าง” และความสว่างก็อุบัติขึ้น...เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน บนแผ่นดินยังไม่มีพุ่มไม้และตามทุ่งนาหญ้ายังไม่ได้งอกขึ้นเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้ายังไม่ได้ทรงทำให้ฝนตกบนแผ่นดิน และยังไม่มีมนุษย์ใช้แผ่นดินเป็นที่เพาะปลูก แต่มีน้ำขึ้นมาจากแผ่นดิน เพื่อรดหน้าดินทั้งหมด พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเอาฝุ่นจากพื้นดินมาปั้นมนุษย์และทรงเป่าลมแห่งชีวิตเข้าในจมูกของเขา มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต...)
ในพระวรสารของวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า "...ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน" พระองค์ใช้ทรงใช้เอกพจน์ เมื่อเอ่ยพระนามของพระตรีเอกภาพ ไม่ใช่พหูพจน์ (Then Jesus approached and said to them, "...Go, therefore, and make disciples of all nations baptizing them in the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit, teaching them to observe all that I have commanded you..."
เราต้องสวดภาวนามากๆเพื่อที่จะได้เข้าใจความเชื่อสุดลึกลับของเรานี้
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Tim, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
วันนี้มีการทําพิธีล้างบาปของเด็กสาวน่ารักวัยขวบกว่า " เพเนโลป/ Penelope " โดยคุณพ่อทิม ที่หน้าประตูทางเข้าวัด ก่อนพิธีมิสซา ข้อสัญญาเรียกร้องของพระศาสนจักรที่พวกเราโรมันคาทอลิกต้องทําตาม: เป็นสงฆ์ เป็นประกาศก เป็นกษัตริย์ ดังที่พระเยซูเจ้า พระบุตร พระผู้ไถ่ ของเราทรงเป็น
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 4:32-34, 39-40
จงดูอดีตก่อนที่ท่านทั้งหลายจะเกิด ตั้งแต่วันที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ไว้บนแผ่นดิน จงตรวจตราจากปลายหนึ่งถึงอีกปลายหนึ่งของโลกว่ามีอะไรยิ่งใหญ่เท่านี้เคยเกิดขึ้นหรือไม่ มีใครเคยได้ยินเรื่องใดที่เหมือนเรื่องนี้หรือไม่ เคยมีประชากรใดบ้างที่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสจากกองไฟดังที่ท่านได้ยินและมีชีวิตรอดได้ หรือเคยมีพระเจ้าองค์ใดบ้างที่ทรงกล้าเลือกชนชาติหนึ่งออกจากอีกชนชาติหนึ่ง ทรงใช้วิธีการต่าง ๆ คือ เครื่องหมายอัศจรรย์ ปาฏิหาริย์และสงคราม ทรงใช้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระอานุภาพอันยิ่งใหญ่บันดาลให้ทุกคนหวาดกลัว ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงกระทำในอียิปต์ต่อหน้าท่าน ดังนั้นในวันนี้ จงรู้และจำใส่ใจว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า ทั้งในสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่าง และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก ท่านจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและบทบัญญัติของพระองค์ที่ข้าพเจ้ามอบให้ท่านในวันนี้ แล้วท่านกับลูกหลานที่จะตามมาในภายหลังจะอยู่อย่างมีความสุข จะอยู่เป็นเวลานานในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน ทรงมอบให้เป็นของท่านตลอดไป
บทอ่านที่สอง โรม 8:14-17
ทุกคนที่มีพระจิตของพระเจ้าเป็นผู้นำย่อมเป็นบุตรของพระเจ้า ท่านทั้งหลายไม่ได้รับจิตการเป็นทาสซึ่งมีแต่ความหวาดกลัวอีก แต่ได้รับจิตการเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งทำให้เราร้องออกมาว่า “อับบา พระบิดาเจ้าข้า” พระจิตเจ้าทรงเป็นพยานยืนยันร่วมกับจิตของเราว่า เราเป็นบุตรของพระเจ้า เมื่อเราเป็นบุตร เราก็เป็นทายาทด้วย เป็นทายาทของพระเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระคริสตเจ้า ถ้าเรารับการทรมานร่วมกับพระองค์ เราก็จะรับพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระองค์ด้วย
พระวรสาร โดยนักบุญมัทธิว 28:16-20
บรรดาศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนได้ไปยังแคว้นกาลิลี ถึงภูเขาที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดไว้ เมื่อเขาเห็นพระองค์ ก็กราบนมัสการ แต่บางคนยังสงสัยอยู่ พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า “พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ”
คุณพ่อทิม: วันนี้เป็นวันฉลองพระตรีเอกภาพ แก่นของความเชื่อที่ลึกลับสําคัญสุดของเรา เราเชื่อว่าพระตรีเอกภาพ มีสามพระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิตเจ้า สามพระองค์องค์เดียว เราต้องสวดภาวนามากๆเพื่อที่จะได้เข้าใจความเชื่อสุดลึกลับของเรานี้
ความเชื่อในพระตรีเอกภาพสุดลึกลับนี้ได้ถูกเปิดเผยในพระธรรมเก่า ( ปฐมกาล) และ ในพระวรสารของวันนี้
หลักความเชื่อของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก: พระบิดาองค์ประธาน ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งเพื่อพระบุตร/พระวจนาตถ์ ในพระองค์ ผ่านพระองค์ร่วมกับพระองค์และหนึ่งเดียวกับพระจิตเจ้า/ พระลมปราณของพระองค์ (ปฐมกาล: ...แผ่นดินยังเป็นที่ร้างไร้รูปร่าง ความมืดมิดปกคลุมอยู่เหนือทะเลลึก และลมพายุแรงกล้าพัดอยู่เหนือน้ำ พระเจ้าตรัสว่า “จงมีความสว่าง” และความสว่างก็อุบัติขึ้น...เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน บนแผ่นดินยังไม่มีพุ่มไม้และตามทุ่งนาหญ้ายังไม่ได้งอกขึ้นเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้ายังไม่ได้ทรงทำให้ฝนตกบนแผ่นดิน และยังไม่มีมนุษย์ใช้แผ่นดินเป็นที่เพาะปลูก แต่มีน้ำขึ้นมาจากแผ่นดิน เพื่อรดหน้าดินทั้งหมด พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเอาฝุ่นจากพื้นดินมาปั้นมนุษย์และทรงเป่าลมแห่งชีวิตเข้าในจมูกของเขา มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต...)
ในพระวรสารของวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า "...ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน" พระองค์ใช้ทรงใช้เอกพจน์ เมื่อเอ่ยพระนามของพระตรีเอกภาพ ไม่ใช่พหูพจน์ (Then Jesus approached and said to them, "...Go, therefore, and make disciples of all nations baptizing them in the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit, teaching them to observe all that I have commanded you..."
เราต้องสวดภาวนามากๆเพื่อที่จะได้เข้าใจความเชื่อสุดลึกลับของเรานี้
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน