อาทิตย์ที่ 3 ในเทศกาลมหาพรต 23 มีนาคม 2025
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อไบรอัน วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Bryan, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง อพยพ 3:1-8, 13-15
โมเสสเลี้ยงฝูงแพะแกะของเยโธร ผู้เป็นพ่อตาและสมณะแห่งมีเดียน วันหนึ่งเขาต้อนฝูงแพะแกะข้ามถิ่นทุรดารไปถึงโฮเรบภูเขาของพระเจ้า ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์มาปรากฏแก่เขาเป็นเปลวไฟลุกอยู่กลางพุ่มไม้ โมเสสมองดูก็เห็นว่าพุ่มไม้นั้นลุกเป็นไฟ แต่ไม่มอดไหม้ไป จึงคิดว่า “ฉันจะเข้าไปเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้ใกล้ๆ ทำไมพุ่มไม้นั้นไม่มอดไหม้” พระยาห์เวห์ทอดพระเนตรเห็นเขาเข้ามาดูใกล้ๆ จึงตรัสเรียกเขาจากกลางพุ่มไม้ว่า “โมเสส โมเสส” เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่”
พระองค์ตรัสห้ามว่า “อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้ จงถอดรองเท้าเสีย เพราะสถานที่ที่ท่านยืนอยู่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” พระองค์ยังตรัสอีกว่า “เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน เป็นพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ” โมเสสยกมือขึ้นปิดหน้า ไม่กล้ามองดูพระเจ้า พระเจ้าทรงมอบภารกิจให้โมเสส พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เราสังเกตเห็นความทุกข์ยากของประชากรของเราในอียิปต์ เราได้ยินเสียงร้องเพราะความทารุณของนายงาน เรารู้ดีถึงความทุกข์ทรมานของเขา เราลงมาช่วยเขาให้พ้นมือชาวอียิปต์ และนำเขาออกจากประเทศนั้น ไปสู่แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และกว้างใหญ่ ไปยังแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ ไปยังที่อาศัยของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส โมเสสทูลพระเจ้าว่า “เมื่อข้าพเจ้าไปหาชาวอิสราเอลแล้วบอกเขาว่า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านทรงส่งข้าพเจ้ามาหาท่าน” ถ้าเขาถามข้าพเจ้าว่า “พระองค์ทรงพระนามว่าอะไร” ข้าพเจ้าจะตอบเขาอย่างไร พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เราคือเราเป็น” แล้วตรัสต่อไปว่า “ท่านต้องบอกชาวอิสราเอลดังนี้ว่า “เราเป็น” ทรงส่งข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย” พระเจ้าตรัสกับโมเสสอีกว่า ท่านต้องบอกชาวอิสราเอลดังนี้ว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ ทรงส่งข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย นามนี้จะเป็นนามของเราตลอดไป ชนรุ่นต่อ ๆ ไปจะต้องเรียกเราด้วยนามนี้”
บทอ่านที่สอง 1 โครินธ์ 10:1-6, 10-12
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านรู้ว่าบรรพบุรุษทุกคนของเราได้อยู่ใต้เมฆ และทุกคนข้ามทะเลไป ทุกคนรับการล้างในเมฆและในทะเลเข้าร่วมกับโมเสส ทุกคนกินอาหารฝ่ายจิตอย่างเดียวกัน ทุกคนดื่มเครื่องดื่มฝ่ายจิตอย่างเดียวกัน เพราะพวกเขาดื่มน้ำจากศิลาซึ่งติดตามพวกเขาไป ศิลานั้นคือพระคริสตเจ้า แม้กระนั้น พระเจ้าก็มิได้พอพระทัยคนส่วนใหญ่เหล่านั้น พวกเขาล้มตายเกลื่อนกลาดอยู่ในถิ่นทุรกันดาร เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างสำหรับเรา มิให้เราปรารถนาสิ่งชั่วร้ายดังที่เขาปรารถนา ท่านทั้งหลายจงอย่าบ่นดังที่พวกเขาบางคนบ่นแล้วพินาศไปโดยน้ำมือขององค์ผู้ทำลาย เหตุการณ์เหล่านี้บังเกิดขึ้นกับพวกเขาเพื่อเป็นตัวอย่าง และมีบันทึกไว้เพื่อเตือนสติเราซึ่งกำลังเผชิญกับวาระสุดท้ายของยุค ดังนั้น ผู้ที่คิดว่าตนยืนหยัดมั่นคงอยู่ พึงระวังอย่าให้ล้ม
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 13: 1-9
ในเวลานั้น คนบางคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าถึงเรื่องชาวกาลิลีซึ่งถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่เขากำลังถวายเครื่องบูชา พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกัน แล้วคนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิตเล่า ท่านคิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคนอื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกันพระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาเรื่องนี้ว่า “ชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อเทศต้นหนึ่งในสวนองุ่นของตน เขามามองหาผลที่ต้นนั้น แต่ไม่พบ จึงพูดแก่คนสวนว่า “ดูซิ สามปีแล้วที่ฉันมองหาผลจากมะเดื่อเทศต้นนี้แต่ไม่พบ จงโค่นมันเถิด เสียที่เปล่า ๆ” แต่คนสวนตอบว่า “นายครับ ปล่อยมันไว้อีกสักปีหนึ่งเถิด ผมจะพรวนดินรอบต้น ใส่ปุ๋ย ดูซิว่าปีหน้ามันจะออกผลหรือไม่ ถ้าไม่ออกผล ท่านจะโค่นทิ้งเสียก็ได้”
คุณพ่อไบรอัน: การถูกฆ่าในขณะที่กําลังถวายเครื่องบูชา คนสิบแปดคนที่ถูกหอพังทับตายไม่ใช่เป็นการถูกลงโทษเพราะเป็นคนบาป ที่เป็นแนวคิดของผู้คนในสมัยของพระองค์ พระองค์ทรงบอกพวกเราให้ถึงพร้อมตลอดเวลา เมื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น เราจะสามารถรับมือได้ ผิดสถานที่ผิดเวลา!
การดำเนินชีวิตในความเชื่อควรจะผลิตผลให้เราเป็นที่พึ่งได้ในเวลายากลำบาก ไม่ใช่เป็นตัวอย่างที่ผู้คนกล่าวว่า เราไม่ต้องการพวกเขา เพราะเราบอกพวกเขาว่าคุณควรสวดภาวนามากกว่านี้ และนี่ก็คือสาเหตุแห่งความยากลำบากที่คุณกำลังประสบอยู่!
____________________
อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา รวมทั้งบทความเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ( The Great Crusade of Love) ฉบับภาษาอังกฤษ 183 สาร
https://www.loveandmercy.org/Eng-CL-Reg.pdf
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ฉบับภาษาไทย โพสต์ต่อเนื่องจากสารฉบับแรก- สารฉบับสุดท้าย # 183 ( แปลจากฉบับภาษาอังกฤษ The Great Crusade of Love) เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=8&t=20412
ลิ้งค์ รวมสารของพระบิดาที่ทรงมอบให้คุณนิพนธ์ มณีกิจ ผู้นำสารของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ดสนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=2&t=22009
ลิ้งค์ แม่รักลูก เล่มหนึ่ง สอง สาม ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เปิดอ่านป็นหน้าๆ เหมือนอ่านหนังสือ
https://anyflip.com/homepage/tawmz
ลิ้งค์ เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี
viewforum.php?f=8
อ้างอิง ขอบคุณ: bible.usccb.org, thaicatholicbible.com, พระคัมภีร์คาทอลิก kamsornbkk.com, กูเกิ้ล ( ไม่สะกดเป็นภาษาอังกฤษเพราะมีภาษาจีนแทรกแซง)
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา มหาบุรุษอับราฮัมและคุณแม่ซาราห์ศรีภรรยาของท่าน สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
ขอบคุณ: คุณอาเดเลีย เบอร์นาร์ด คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง คุณพ่อบัญชา อภิชาติวรกุล คุณนิพนธ์ มณีกิจ นักบวชชายหญิง ผู้นำฆราวาส ครอบครัวเจ้าของ www.newmana.com ทีมงานทุกคน ผู้เผยแพร่ พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี ประเทศไทย
บทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน มิสซาวันอาทิตย์
อาทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลมหาพรต 30 มีนาคม 2025
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อมาร์ติน วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Martin, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง 1 ซามูเอล 16:1, 6-7, 10-13
พระยาห์เวห์ตรัสแก่ซามูเอลว่า “จงเอาน้ำมันมะกอกเทศบรรจุใส่ขวดเขาสัตว์จนเต็ม และออกเดินทาง เราส่งท่านไปที่เมืองเบธเลเฮม ไปหาเจสซี เพราะเราเลือกบุตรคนหนึ่งของเขาเป็นกษัตริย์ เมื่อเจสซีกับบุตรมาถึง ซามูเอลเห็นเอลีอับ ก็คิดว่า “ผู้ที่อยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ผู้นี้คือผู้ที่จะต้องรับเจิม” แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับซามูเอลว่า “อย่าสนใจมองแต่รูปร่างหน้าตา หรือความสูงของเขา เพราะเราไม่เลือกเขา พระยาห์เวห์ไม่ทรงมองอย่างมนุษย์มอง มนุษย์มองแต่รูปร่างภายนอก แต่พระยาห์เวห์ทรงมองจิตใจ” แล้วเจสซีเรียกอาบีนาดับมาพบซามูเอล ซามูเอลก็ว่า “พระยาห์เวห์ไม่ทรงเลือกคนนี้ด้วย” เจสซีพาชัมมาห์เข้ามา แต่ซามูเอลก็กล่าวว่า “พระยาห์เวห์ไม่ทรงเลือกคนนี้เช่นเดียวกัน” เจสซีพาบุตรทั้งเจ็ดคนมาพบซามูเอลทีละคน แต่ซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “พระยาห์เวห์ไม่ทรงเลือกคนเหล่านี้เลย” ซามูเอลถามเจสซีว่า “บุตรชายของท่านมาหมดแล้วหรือ” เจสซีตอบว่า “ยังมีคนสุดท้องอีกคนหนึ่ง แต่ขณะนี้เขากำลังเลี้ยงแกะอยู่” ซามูเอลสั่งเจสซีว่า “จงส่งคนไปตามเขามาเถิด เราจะไม่นั่งกินอาหารจนกว่าเขาจะมา” เจสซีจึงส่งคนไปตามมา เด็กหนุ่มนั้นมีผมแดง ดวงตางดงาม และรูปร่างดี พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงลุกขึ้น เจิมเขาเถอะ เป็นคนนี้แหละ” ซามูเอลก็เอาขวดเขาสัตว์ที่บรรจุน้ำมันมะกอกเทศมาเจิมดาวิดต่อหน้าบรรดาพี่ชาย พระจิตของพระยาห์เวห์สถิตกับดาวิดตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ส่วนซามูเอลก็ออกเดินทางกลับไปที่เมืองรามาห์
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 5: 8-14
อดีตท่านเคยเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตเช่นบุตรแห่งความสว่างเถิด ผลแห่งความสว่างคือความดี ความชอบธรรมและความจริงทุกประการ จงแสวงหาสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย จงอย่าเกี่ยวข้องกับกิจการแห่งความมืดซึ่งไร้ผล ตรงกันข้าม จงประณามกิจการเหล่านั้น เพราะสิ่งต่างๆ ที่กระทำกันอย่างปิดบังซ่อนเร้นนั้น แม้เพียงพูดถึงก็น่าละอายแล้ว ทุกสิ่งที่ถูกประณามนั้นย่อมปรากฏชัดในความสว่าง และทุกสิ่งที่ปรากฏชัดนั้นคือความสว่าง จึงมีคำกล่าวไว้ว่า “ผู้หลับใหล จงตื่นเถิด จงลุกขึ้นจากบรรดาผู้ตายและพระคริสตเจ้าจะทรงส่องสว่างเหนือท่าน”
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 9:1, 6-9, 13-17,
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินผ่านไป พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ใครทำบาป ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มิใช่ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขาทำบาป แต่เขาเป็นเช่นนี้ก็เพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา” ตราบใดที่ยังเป็นกลางวันอยู่ เราทั้งหลายต้องทำกิจการของผู้ที่ทรงส่งเรามา แต่เมื่อกลางคืนมาถึง ก็ไม่มีใครทำงานได้ ตราบที่เรายังอยู่ในโลก เราเป็นแสงสว่างส่องโลกเมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงถ่มพระเขฬะลงบนพื้นผสมกับดิน ป้ายตาคนตาบอด แล้วตรัสกับเขาว่า “จงไปล้างตาที่สระสิโลอัมเถิด” “สิโอลัม” หมายความว่า “ถูกส่งไป” คนตาบอดจึงไปล้างตา แล้วกลับมา มองเห็น เพื่อนบ้านและคนที่เคยเห็นเขาเป็นขอทานมาก่อน พูดว่า “คนนี้เป็นคนที่เคยนั่งขอทานอยู่มิใช่หรือ”.บางคนพูดว่า “ใช่แล้ว” บางคนพูดว่า “ไม่ใช่ แต่เป็นคนอื่นที่คล้ายคลึงกัน” แต่คนที่เคยตาบอดพูดว่า “ใช่แล้ว เป็นฉันเอง” คนเหล่านั้นจึงถามเขาว่า “ตาของท่านหายบอดได้อย่างไร’” เขาตอบว่า “คนที่ชื่อเยซูทำโคลนป้ายตาของฉัน และบอกฉันว่า “จงไปล้างตาที่สระสิโลอัมเถิด” ฉันจึงไปล้าง พอล้างแล้ว ก็มองเห็น” พวกนั้นถามว่า “เวลานี้คนนั้นอยู่ที่ไหน” เขาตอบว่า”ฉันไม่รู้” คนเหล่านั้นจึงพาคนที่เคยตาบอดไปหาชาวฟาริสี วันที่พระเยซูเจ้าทรงถ่มพระเขฬะผสมดินและทรงรักษาตาของคนตาบอดนั้นเป็นวันสับบาโต ชาวฟาริสีได้ถามเขาอีกว่า “เขามองเห็นได้อย่างไร” เขาจึงตอบว่า “คนนั้นเอาโคลนป้ายตาของฉัน ฉันไปล้างตาแล้วก็มองเห็น”.ชาวฟาริสีบางคนพูดว่า “คนนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาไม่ถือวันสับบาโต” แต่บางคนแย้งว่า “คนบาปจะทำเครื่องหมายอัศจรรย์อย่างนี้ได้อย่างไร” ชาวฟาริสีเหล่านั้นมีความคิดเห็นแตกต่างกัน จึงถามคนที่เคยตาบอดอีกว่า “ท่านล่ะ ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับคนนั้น ที่เขาทำให้ตาของท่านกลับมองเห็น” เขาตอบว่า”คนนั้นเป็นประกาศก” แต่ชาวยิวไม่ยอมเชื่อว่าชายคนนี้เคยตาบอดแล้วกลับมองเห็นจึงเรียกบิดามารดาของเขามา แล้วถามว่า “คนนี้เป็นลูกของท่าน ซึ่งท่านบอกว่าเกิดมาตาบอดใช่หรือไม่ บัดนี้ เขากลับมองเห็นได้อย่างไร” บิดามารดาตอบว่า “เรารู้ว่าคนนี้เป็นลูกของเรา และเกิดมาตาบอด แต่เราไม่รู้ว่า บัดนี้ เขามองเห็นได้อย่างไร หรือใครรักษาตาของเขา เราก็ไม่รู้ ท่านจงถามเขาเองเถิด เขาโตพอจะตอบเองได้แล้ว” บิดามารดาตอบเช่นนี้ก็เพราะกลัวชาวยิว ซึ่งตกลงกันแล้วว่า ใครยอมรับว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้าจะถูกขับออกจากศาลาธรรม บิดามารดาของเขาจึงตอบว่า “เขาโตแล้ว ท่านจงถามเขาเองเถิด” ชาวยิวเรียกคนที่เคยตาบอดมาอีก บอกเขาว่า “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด พวกเรารู้ว่าคนนั้นเป็นคนบาป” คนที่เคยตาบอดแย้งว่า “เขาเป็นคนบาปหรือไม่ ฉันไม่รู้ ฉันรู้อย่างเดียวว่า ฉันเคยตาบอด และบัดนี้มองเห็นแล้ว” พวกนั้นถามอีกว่า “เขาทำอะไรกับท่าน เขารักษาตาของท่านอย่างไร” คนที่เคยตาบอดตอบว่า “ฉันบอกท่านแล้ว แต่ท่านไม่ฟัง ทำไมท่านต้องการฟังอีกเล่า ท่านต้องการเป็นศิษย์ของเขาด้วยกระมัง” พวกนั้นจึงด่าเขาว่า “ท่านสิ เป็นศิษย์ของเขา ส่วนเราเป็นศิษย์ของโมเสส พวกเรารู้ว่า พระเจ้าตรัสกับโมเสส แต่เยซูคนนี้ เราไม่รู้ว่าเขามาจากไหน” คนที่เคยตาบอดจึงพูดว่า “แปลกจริงท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าเขามาจากไหน แต่เขาได้รักษาตาของฉันให้กลับมองเห็น เราทั้งหลายรู้ว่า พระเจ้าไม่ทรงฟังคนบาป แต่ทรงฟังผู้ที่ยำเกรงพระองค์และปฏิบัติตามพระประสงค์เท่านั้น แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีใครรักษาคนตาบอดแต่กำเนิดให้หายได้ ถ้าเขาไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาก็คงจะทำอะไรไม่ได้” คนเหล่านั้นตอบว่า “ท่านเกิดมาในบาปทั้งตัว แล้วยังกล้ามาสั่งสอนพวกเราอีกหรือ” แล้วจึงขับไล่เขาออกไป พระเยซูเจ้าทรงได้ยินว่าชาวฟาริสีขับไล่คนที่ตาบอดออกไป เมื่อทรงพบเขา จึงตรัสถามว่า “ท่านเชื่อในบุตรแห่งมนุษย์หรือ” เขาทูลถามว่า “บุตรแห่งมนุษย์คือใคร พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะได้เชื่อในพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านได้เห็นแล้ว เป็นผู้ที่กำลังพูดอยู่กับท่านนี้แหละ” เขาจึงทูลว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ พระเจ้าข้า” แล้วกราบลงนมัสการพระองค์
คุณพ่อมาร์ติน: สาธุชนบางคนเห็นพ่อในชุดมิสซาสีชมพู กระเซ้าว่าพ่อดูดีกับสีชมพู...มหาพรตเป็นช่วงเวลาของการอดอาหารและพลีกรรม
ซามูเอลเจิมดาวิดอาจเป็นเหตุถูกประหารชีวิตเพราะกษัตริย์ซาอูลได้รับการเจิมและถูกถวายตัวให้พระเจ้าและให้เป็นกษัตริย์แล้ว ดาวิดเป็นลูกชายคนที่แปดของเจสซี ซึ่งปกติแล้วลูกชายคนโตที่สุดควรจะได้ครอบครองอํานาจทรัพย์สินของพ่อหรือรับการเจิมหรือการถูกถวายตัวให้พระเจ้า
พระเยซูเจ้าคือพระคริสต์ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ได้รับการเจิม" หรือ"ผู้ถูกถวายตัวแด่พระเจ้า" และพระองค์คือความสว่าง เมื่อพระองค์ทรงเปิดตาคนตาบอดพระองค์ทรงเจิมเขาด้วยพระเขฬะผสมดิน ทําให้เขามองเห็นและเมื่อเขาเชื่อในพระองค์เขาก็ได้รับความสว่างและได้ถูกถวายตัวให้พระเจ้า
บทอ่านที่สองได้บอกว่าพระเยซูเจ้าคือความสว่าง..จึงมีคำกล่าวไว้ว่า “ผู้หลับใหล จงตื่นเถิด จงลุกขึ้นจากบรรดาผู้ตายและพระคริสตเจ้าจะทรงส่องสว่างเหนือท่าน”
พวกเราเมื่อได้รับศีลล้างบาป เราก็ได้รับการเจิมจากพระเยซูเจ้าและได้ถูกถวายตัวให้พระเจ้าและได้รับความสว่างเช่นกัน
พ่อแม่ของคนตาบอดไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับการถูกรักษาตาของลูกชายให้มองเห็นโดยพระเยซูเจ้าเพราะกลัวชาวฟาริสีที่มีอํานาจขับไล่ไม่ให้เข้าร่วมศาลาธรรม ต่อมาในปีคศ 85 คริสตชนได้ถูกห้ามเข้าศาลาธรรม
พ่อประจําที่ประเทศเกาหลีใต้ 15 ปี ภายใต้การปกครองของพระคาร์ดินัลคิม พระคาร์ดินัลคิมอุทิศดวงตาของท่านให้คนตาบอดเมื่อท่านสิ้นชีพ ทําให้คนตาบอดมองเห็นและได้รับความสว่าง...
____________________
อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา รวมทั้งบทความเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ( The Great Crusade of Love) ฉบับภาษาอังกฤษ 183 สาร
https://www.loveandmercy.org/Eng-CL-Reg.pdf
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ฉบับภาษาไทย โพสต์ต่อเนื่องจากสารฉบับแรก- สารฉบับสุดท้าย # 183 ( แปลจากฉบับภาษาอังกฤษ The Great Crusade of Love) เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=8&t=20412
ลิ้งค์ รวมสารของพระบิดาที่ทรงมอบให้คุณนิพนธ์ มณีกิจ ผู้นำสารของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ดสนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=2&t=22009
ลิ้งค์ แม่รักลูก เล่มหนึ่ง สอง สาม ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เปิดอ่านป็นหน้าๆ เหมือนอ่านหนังสือ
https://anyflip.com/homepage/tawmz
ลิ้งค์ เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี
viewforum.php?f=8
อ้างอิง ขอบคุณ: bible.usccb.org, thaicatholicbible.com, พระคัมภีร์คาทอลิก kamsornbkk.com, กูเกิ้ล ( ไม่สะกดเป็นภาษาอังกฤษเพราะมีภาษาจีนแทรกแซง)
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา มหาบุรุษอับราฮัมและคุณแม่ซาราห์ศรีภรรยาของท่าน สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
ขอบคุณ: คุณอาเดเลีย เบอร์นาร์ด คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง คุณพ่อบัญชา อภิชาติวรกุล คุณนิพนธ์ มณีกิจ นักบวชชายหญิง ผู้นำฆราวาส ครอบครัวเจ้าของ www.newmana.com ทีมงานทุกคน ผู้เผยแพร่ พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี ประเทศไทย
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อมาร์ติน วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Martin, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง 1 ซามูเอล 16:1, 6-7, 10-13
พระยาห์เวห์ตรัสแก่ซามูเอลว่า “จงเอาน้ำมันมะกอกเทศบรรจุใส่ขวดเขาสัตว์จนเต็ม และออกเดินทาง เราส่งท่านไปที่เมืองเบธเลเฮม ไปหาเจสซี เพราะเราเลือกบุตรคนหนึ่งของเขาเป็นกษัตริย์ เมื่อเจสซีกับบุตรมาถึง ซามูเอลเห็นเอลีอับ ก็คิดว่า “ผู้ที่อยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ผู้นี้คือผู้ที่จะต้องรับเจิม” แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับซามูเอลว่า “อย่าสนใจมองแต่รูปร่างหน้าตา หรือความสูงของเขา เพราะเราไม่เลือกเขา พระยาห์เวห์ไม่ทรงมองอย่างมนุษย์มอง มนุษย์มองแต่รูปร่างภายนอก แต่พระยาห์เวห์ทรงมองจิตใจ” แล้วเจสซีเรียกอาบีนาดับมาพบซามูเอล ซามูเอลก็ว่า “พระยาห์เวห์ไม่ทรงเลือกคนนี้ด้วย” เจสซีพาชัมมาห์เข้ามา แต่ซามูเอลก็กล่าวว่า “พระยาห์เวห์ไม่ทรงเลือกคนนี้เช่นเดียวกัน” เจสซีพาบุตรทั้งเจ็ดคนมาพบซามูเอลทีละคน แต่ซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “พระยาห์เวห์ไม่ทรงเลือกคนเหล่านี้เลย” ซามูเอลถามเจสซีว่า “บุตรชายของท่านมาหมดแล้วหรือ” เจสซีตอบว่า “ยังมีคนสุดท้องอีกคนหนึ่ง แต่ขณะนี้เขากำลังเลี้ยงแกะอยู่” ซามูเอลสั่งเจสซีว่า “จงส่งคนไปตามเขามาเถิด เราจะไม่นั่งกินอาหารจนกว่าเขาจะมา” เจสซีจึงส่งคนไปตามมา เด็กหนุ่มนั้นมีผมแดง ดวงตางดงาม และรูปร่างดี พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงลุกขึ้น เจิมเขาเถอะ เป็นคนนี้แหละ” ซามูเอลก็เอาขวดเขาสัตว์ที่บรรจุน้ำมันมะกอกเทศมาเจิมดาวิดต่อหน้าบรรดาพี่ชาย พระจิตของพระยาห์เวห์สถิตกับดาวิดตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ส่วนซามูเอลก็ออกเดินทางกลับไปที่เมืองรามาห์
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 5: 8-14
อดีตท่านเคยเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตเช่นบุตรแห่งความสว่างเถิด ผลแห่งความสว่างคือความดี ความชอบธรรมและความจริงทุกประการ จงแสวงหาสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย จงอย่าเกี่ยวข้องกับกิจการแห่งความมืดซึ่งไร้ผล ตรงกันข้าม จงประณามกิจการเหล่านั้น เพราะสิ่งต่างๆ ที่กระทำกันอย่างปิดบังซ่อนเร้นนั้น แม้เพียงพูดถึงก็น่าละอายแล้ว ทุกสิ่งที่ถูกประณามนั้นย่อมปรากฏชัดในความสว่าง และทุกสิ่งที่ปรากฏชัดนั้นคือความสว่าง จึงมีคำกล่าวไว้ว่า “ผู้หลับใหล จงตื่นเถิด จงลุกขึ้นจากบรรดาผู้ตายและพระคริสตเจ้าจะทรงส่องสว่างเหนือท่าน”
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 9:1, 6-9, 13-17,
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินผ่านไป พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ใครทำบาป ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มิใช่ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขาทำบาป แต่เขาเป็นเช่นนี้ก็เพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา” ตราบใดที่ยังเป็นกลางวันอยู่ เราทั้งหลายต้องทำกิจการของผู้ที่ทรงส่งเรามา แต่เมื่อกลางคืนมาถึง ก็ไม่มีใครทำงานได้ ตราบที่เรายังอยู่ในโลก เราเป็นแสงสว่างส่องโลกเมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงถ่มพระเขฬะลงบนพื้นผสมกับดิน ป้ายตาคนตาบอด แล้วตรัสกับเขาว่า “จงไปล้างตาที่สระสิโลอัมเถิด” “สิโอลัม” หมายความว่า “ถูกส่งไป” คนตาบอดจึงไปล้างตา แล้วกลับมา มองเห็น เพื่อนบ้านและคนที่เคยเห็นเขาเป็นขอทานมาก่อน พูดว่า “คนนี้เป็นคนที่เคยนั่งขอทานอยู่มิใช่หรือ”.บางคนพูดว่า “ใช่แล้ว” บางคนพูดว่า “ไม่ใช่ แต่เป็นคนอื่นที่คล้ายคลึงกัน” แต่คนที่เคยตาบอดพูดว่า “ใช่แล้ว เป็นฉันเอง” คนเหล่านั้นจึงถามเขาว่า “ตาของท่านหายบอดได้อย่างไร’” เขาตอบว่า “คนที่ชื่อเยซูทำโคลนป้ายตาของฉัน และบอกฉันว่า “จงไปล้างตาที่สระสิโลอัมเถิด” ฉันจึงไปล้าง พอล้างแล้ว ก็มองเห็น” พวกนั้นถามว่า “เวลานี้คนนั้นอยู่ที่ไหน” เขาตอบว่า”ฉันไม่รู้” คนเหล่านั้นจึงพาคนที่เคยตาบอดไปหาชาวฟาริสี วันที่พระเยซูเจ้าทรงถ่มพระเขฬะผสมดินและทรงรักษาตาของคนตาบอดนั้นเป็นวันสับบาโต ชาวฟาริสีได้ถามเขาอีกว่า “เขามองเห็นได้อย่างไร” เขาจึงตอบว่า “คนนั้นเอาโคลนป้ายตาของฉัน ฉันไปล้างตาแล้วก็มองเห็น”.ชาวฟาริสีบางคนพูดว่า “คนนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาไม่ถือวันสับบาโต” แต่บางคนแย้งว่า “คนบาปจะทำเครื่องหมายอัศจรรย์อย่างนี้ได้อย่างไร” ชาวฟาริสีเหล่านั้นมีความคิดเห็นแตกต่างกัน จึงถามคนที่เคยตาบอดอีกว่า “ท่านล่ะ ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับคนนั้น ที่เขาทำให้ตาของท่านกลับมองเห็น” เขาตอบว่า”คนนั้นเป็นประกาศก” แต่ชาวยิวไม่ยอมเชื่อว่าชายคนนี้เคยตาบอดแล้วกลับมองเห็นจึงเรียกบิดามารดาของเขามา แล้วถามว่า “คนนี้เป็นลูกของท่าน ซึ่งท่านบอกว่าเกิดมาตาบอดใช่หรือไม่ บัดนี้ เขากลับมองเห็นได้อย่างไร” บิดามารดาตอบว่า “เรารู้ว่าคนนี้เป็นลูกของเรา และเกิดมาตาบอด แต่เราไม่รู้ว่า บัดนี้ เขามองเห็นได้อย่างไร หรือใครรักษาตาของเขา เราก็ไม่รู้ ท่านจงถามเขาเองเถิด เขาโตพอจะตอบเองได้แล้ว” บิดามารดาตอบเช่นนี้ก็เพราะกลัวชาวยิว ซึ่งตกลงกันแล้วว่า ใครยอมรับว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้าจะถูกขับออกจากศาลาธรรม บิดามารดาของเขาจึงตอบว่า “เขาโตแล้ว ท่านจงถามเขาเองเถิด” ชาวยิวเรียกคนที่เคยตาบอดมาอีก บอกเขาว่า “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด พวกเรารู้ว่าคนนั้นเป็นคนบาป” คนที่เคยตาบอดแย้งว่า “เขาเป็นคนบาปหรือไม่ ฉันไม่รู้ ฉันรู้อย่างเดียวว่า ฉันเคยตาบอด และบัดนี้มองเห็นแล้ว” พวกนั้นถามอีกว่า “เขาทำอะไรกับท่าน เขารักษาตาของท่านอย่างไร” คนที่เคยตาบอดตอบว่า “ฉันบอกท่านแล้ว แต่ท่านไม่ฟัง ทำไมท่านต้องการฟังอีกเล่า ท่านต้องการเป็นศิษย์ของเขาด้วยกระมัง” พวกนั้นจึงด่าเขาว่า “ท่านสิ เป็นศิษย์ของเขา ส่วนเราเป็นศิษย์ของโมเสส พวกเรารู้ว่า พระเจ้าตรัสกับโมเสส แต่เยซูคนนี้ เราไม่รู้ว่าเขามาจากไหน” คนที่เคยตาบอดจึงพูดว่า “แปลกจริงท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าเขามาจากไหน แต่เขาได้รักษาตาของฉันให้กลับมองเห็น เราทั้งหลายรู้ว่า พระเจ้าไม่ทรงฟังคนบาป แต่ทรงฟังผู้ที่ยำเกรงพระองค์และปฏิบัติตามพระประสงค์เท่านั้น แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีใครรักษาคนตาบอดแต่กำเนิดให้หายได้ ถ้าเขาไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาก็คงจะทำอะไรไม่ได้” คนเหล่านั้นตอบว่า “ท่านเกิดมาในบาปทั้งตัว แล้วยังกล้ามาสั่งสอนพวกเราอีกหรือ” แล้วจึงขับไล่เขาออกไป พระเยซูเจ้าทรงได้ยินว่าชาวฟาริสีขับไล่คนที่ตาบอดออกไป เมื่อทรงพบเขา จึงตรัสถามว่า “ท่านเชื่อในบุตรแห่งมนุษย์หรือ” เขาทูลถามว่า “บุตรแห่งมนุษย์คือใคร พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะได้เชื่อในพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านได้เห็นแล้ว เป็นผู้ที่กำลังพูดอยู่กับท่านนี้แหละ” เขาจึงทูลว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ พระเจ้าข้า” แล้วกราบลงนมัสการพระองค์
คุณพ่อมาร์ติน: สาธุชนบางคนเห็นพ่อในชุดมิสซาสีชมพู กระเซ้าว่าพ่อดูดีกับสีชมพู...มหาพรตเป็นช่วงเวลาของการอดอาหารและพลีกรรม
ซามูเอลเจิมดาวิดอาจเป็นเหตุถูกประหารชีวิตเพราะกษัตริย์ซาอูลได้รับการเจิมและถูกถวายตัวให้พระเจ้าและให้เป็นกษัตริย์แล้ว ดาวิดเป็นลูกชายคนที่แปดของเจสซี ซึ่งปกติแล้วลูกชายคนโตที่สุดควรจะได้ครอบครองอํานาจทรัพย์สินของพ่อหรือรับการเจิมหรือการถูกถวายตัวให้พระเจ้า
พระเยซูเจ้าคือพระคริสต์ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ได้รับการเจิม" หรือ"ผู้ถูกถวายตัวแด่พระเจ้า" และพระองค์คือความสว่าง เมื่อพระองค์ทรงเปิดตาคนตาบอดพระองค์ทรงเจิมเขาด้วยพระเขฬะผสมดิน ทําให้เขามองเห็นและเมื่อเขาเชื่อในพระองค์เขาก็ได้รับความสว่างและได้ถูกถวายตัวให้พระเจ้า
บทอ่านที่สองได้บอกว่าพระเยซูเจ้าคือความสว่าง..จึงมีคำกล่าวไว้ว่า “ผู้หลับใหล จงตื่นเถิด จงลุกขึ้นจากบรรดาผู้ตายและพระคริสตเจ้าจะทรงส่องสว่างเหนือท่าน”
พวกเราเมื่อได้รับศีลล้างบาป เราก็ได้รับการเจิมจากพระเยซูเจ้าและได้ถูกถวายตัวให้พระเจ้าและได้รับความสว่างเช่นกัน
พ่อแม่ของคนตาบอดไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับการถูกรักษาตาของลูกชายให้มองเห็นโดยพระเยซูเจ้าเพราะกลัวชาวฟาริสีที่มีอํานาจขับไล่ไม่ให้เข้าร่วมศาลาธรรม ต่อมาในปีคศ 85 คริสตชนได้ถูกห้ามเข้าศาลาธรรม
พ่อประจําที่ประเทศเกาหลีใต้ 15 ปี ภายใต้การปกครองของพระคาร์ดินัลคิม พระคาร์ดินัลคิมอุทิศดวงตาของท่านให้คนตาบอดเมื่อท่านสิ้นชีพ ทําให้คนตาบอดมองเห็นและได้รับความสว่าง...
____________________
อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา รวมทั้งบทความเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ( The Great Crusade of Love) ฉบับภาษาอังกฤษ 183 สาร
https://www.loveandmercy.org/Eng-CL-Reg.pdf
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ฉบับภาษาไทย โพสต์ต่อเนื่องจากสารฉบับแรก- สารฉบับสุดท้าย # 183 ( แปลจากฉบับภาษาอังกฤษ The Great Crusade of Love) เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=8&t=20412
ลิ้งค์ รวมสารของพระบิดาที่ทรงมอบให้คุณนิพนธ์ มณีกิจ ผู้นำสารของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ดสนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=2&t=22009
ลิ้งค์ แม่รักลูก เล่มหนึ่ง สอง สาม ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เปิดอ่านป็นหน้าๆ เหมือนอ่านหนังสือ
https://anyflip.com/homepage/tawmz
ลิ้งค์ เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี
viewforum.php?f=8
อ้างอิง ขอบคุณ: bible.usccb.org, thaicatholicbible.com, พระคัมภีร์คาทอลิก kamsornbkk.com, กูเกิ้ล ( ไม่สะกดเป็นภาษาอังกฤษเพราะมีภาษาจีนแทรกแซง)
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา มหาบุรุษอับราฮัมและคุณแม่ซาราห์ศรีภรรยาของท่าน สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
ขอบคุณ: คุณอาเดเลีย เบอร์นาร์ด คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง คุณพ่อบัญชา อภิชาติวรกุล คุณนิพนธ์ มณีกิจ นักบวชชายหญิง ผู้นำฆราวาส ครอบครัวเจ้าของ www.newmana.com ทีมงานทุกคน ผู้เผยแพร่ พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี ประเทศไทย
อาทิตย์ที่ 5 ในเทศกาลมหาพรต 6 เมษายน 2025
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ วิลเลี่ยม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father William, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 43:16-21
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ พระองค์ผู้ทรงเบิกทางในทะเล ทรงสร้างทางเดินในน้ำเชี่ยว พระองค์ทรงนำรถศึกและม้า ทรงนำกองทัพและนักรบที่กล้าหาญออกมา เขาเหล่านั้นล้มลงแล้วลุกขึ้นไม่ได้อีกเลย เขามอดดับเหมือนไส้ตะเกียงและสูญหาย พระองค์ตรัสว่า “อย่าจดจำเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีกต่อไป ดูเถิด เรากำลังจะทำสิ่งใหม่ โดยแท้จริง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว ท่านไม่รู้ดอกหรือ เราจะเบิกทางในถิ่นทุรกันดาร เราจะทำให้เกิดแม่น้ำขึ้นในที่แห้งแล้ง แม้กระทั่งสัตว์ป่าก็จะถวายเกียรติแก่เรา คือหมาในและนกกระจอกเทศ เพราะเราให้น้ำในถิ่นทุรกันดาร และให้แม่น้ำในที่แห้งแล้ง เพื่อประชากรที่เราเลือกสรรจะได้มีน้ำดื่ม ประชากรที่เราสร้างไว้สำหรับเราจะร้องสรรเสริญเรา”
บทอ่านที่สอง ฟิลิปปี 3:8-14
นับแต่บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีกเมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงยอมสูญเสียทุกสิ่ง ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งเป็นปฏิกูล เพื่อจะได้องค์พระคริสตเจ้ามาเป็นกำไร และอยู่ในพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีความชอบธรรมที่มาจากธรรมบัญญัติ แต่มีความชอบธรรมเพราะความเชื่อในพระคริสตเจ้า เป็นความชอบธรรมซึ่งพระเจ้าประทานให้ผู้มีความเชื่อ ข้าพเจ้าต้องการรู้จักพระองค์ รู้จักฤทธานุภาพของการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ต้องการมีส่วนร่วมในพระทรมานของพระองค์โดยมีสภาพเหมือนพระองค์ในความตาย จะได้บรรลุถึงการกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายด้วย ข้าพเจ้ายังไม่บรรลุเป้าหมายหรือยังทำไม่สำเร็จ ข้าพเจ้ายังมุ่งหน้าวิ่งต่อไป เพื่อจะช่วงชิงรางวัลให้ได้ ดังที่พระคริสตเยซูทรงช่วงชิงข้าพเจ้าไว้ได้แล้ว พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่คิดว่า ข้าพเจ้าชนะแล้ว ข้าพเจ้าทำเพียงอย่างเดียวคือ ลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง มุ่งสู่เบื้องหน้าอย่างสุดกำลัง ข้าพเจ้ากำลังวิ่งเข้าสู่เส้นชัยไปหารางวัลที่พระเจ้าทรงเรียกจากสวรรค์ให้ข้าพเจ้าเข้าไปรับในพระคริสตเยซู
พระวรสาร ยอห์น 8:1-11
พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
คุณพ่อวิลเลี่ยม: เมื่อมหาพรตสิ้นสุดลง เราจะได้รับรู้ถึงพระหรรษทานของพระเป็นเจ้าที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา
บทอ่านที่หนึ่งบอกให้เรารู้ว่าพระเป็นเจ้าทรงช่วยและไม่ให้เราจมอยู่ในอดีต แต่อยู่ในปัจจุบันและมีความหวังในอนาคตกับพระองค์ จงน้อมรับการไถ่กู้
บทอ่านที่สองบอกให้เราอย่าจมอยู่ในอดีต แต่รุดหน้า อย่าให้ความเชื่อชงักแต่จงมุ่งมั่น
พระวรสารบอกเราว่าฝูงชนเรียกร้องความยุติธรรมตามธรรมบัญญัติของโมเสสด้วยการทุ่มหินผู้หญิงคนนั้นจนตาย แต่กฎหมายของอาณาจักรโรมันห้ามฆ่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโรมัน...
พระเยซูเจ้าทรงเขียนอะไรบนพื้นดิน? บาปของพวกเขาแต่ละบาปแต่ละคน? หรือการลงโทษที่พวกเขาแต่ละคนจะได้รับจากการตัดสินใจอันนี้ของพวกเขาที่ลากผู้หญิงคนนี้มาประจานให้อับอายขายหน้าและทําลายเธอ?
พระเยซูเจ้าคือพระผู้ไถ่และพระเมตตา
เราตัดสินและลงโทษ พระองค์ไม่ตัดสินและลงโทษ บอกเราว่า อย่าทําบาปอีก...
มหาพรตไม่ใช่เพียงการมองอดีตแต่เป็นการมองอนาคตด้วย
____________________
อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา รวมทั้งบทความเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ( The Great Crusade of Love) ฉบับภาษาอังกฤษ 183 สาร
https://www.loveandmercy.org/Eng-CL-Reg.pdf
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ฉบับภาษาไทย โพสต์ต่อเนื่องจากสารฉบับแรก- สารฉบับสุดท้าย # 183 ( แปลจากฉบับภาษาอังกฤษ The Great Crusade of Love) เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=8&t=20412
ลิ้งค์ รวมสารของพระบิดาที่ทรงมอบให้คุณนิพนธ์ มณีกิจ ผู้นำสารของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ดสนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=2&t=22009
ลิ้งค์ แม่รักลูก เล่มหนึ่ง สอง สาม ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เปิดอ่านป็นหน้าๆ เหมือนอ่านหนังสือ
https://anyflip.com/homepage/tawmz
ลิ้งค์ เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี
viewforum.php?f=8
อ้างอิง ขอบคุณ: bible.usccb.org, thaicatholicbible.com, พระคัมภีร์คาทอลิก kamsornbkk.com, กูเกิ้ล ( ไม่สะกดเป็นภาษาอังกฤษเพราะมีภาษาจีนแทรกแซง)
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา มหาบุรุษอับราฮัมและคุณแม่ซาราห์ศรีภรรยาของท่าน สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
ขอบคุณ: คุณอาเดเลีย เบอร์นาร์ด คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง คุณพ่อบัญชา อภิชาติวรกุล คุณนิพนธ์ มณีกิจ นักบวชชายหญิง ผู้นำฆราวาส ครอบครัวเจ้าของ www.newmana.com ทีมงานทุกคน ผู้เผยแพร่ พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี ประเทศไทย
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ วิลเลี่ยม วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father William, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 43:16-21
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ พระองค์ผู้ทรงเบิกทางในทะเล ทรงสร้างทางเดินในน้ำเชี่ยว พระองค์ทรงนำรถศึกและม้า ทรงนำกองทัพและนักรบที่กล้าหาญออกมา เขาเหล่านั้นล้มลงแล้วลุกขึ้นไม่ได้อีกเลย เขามอดดับเหมือนไส้ตะเกียงและสูญหาย พระองค์ตรัสว่า “อย่าจดจำเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีกต่อไป ดูเถิด เรากำลังจะทำสิ่งใหม่ โดยแท้จริง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว ท่านไม่รู้ดอกหรือ เราจะเบิกทางในถิ่นทุรกันดาร เราจะทำให้เกิดแม่น้ำขึ้นในที่แห้งแล้ง แม้กระทั่งสัตว์ป่าก็จะถวายเกียรติแก่เรา คือหมาในและนกกระจอกเทศ เพราะเราให้น้ำในถิ่นทุรกันดาร และให้แม่น้ำในที่แห้งแล้ง เพื่อประชากรที่เราเลือกสรรจะได้มีน้ำดื่ม ประชากรที่เราสร้างไว้สำหรับเราจะร้องสรรเสริญเรา”
บทอ่านที่สอง ฟิลิปปี 3:8-14
นับแต่บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีกเมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงยอมสูญเสียทุกสิ่ง ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งเป็นปฏิกูล เพื่อจะได้องค์พระคริสตเจ้ามาเป็นกำไร และอยู่ในพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีความชอบธรรมที่มาจากธรรมบัญญัติ แต่มีความชอบธรรมเพราะความเชื่อในพระคริสตเจ้า เป็นความชอบธรรมซึ่งพระเจ้าประทานให้ผู้มีความเชื่อ ข้าพเจ้าต้องการรู้จักพระองค์ รู้จักฤทธานุภาพของการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ต้องการมีส่วนร่วมในพระทรมานของพระองค์โดยมีสภาพเหมือนพระองค์ในความตาย จะได้บรรลุถึงการกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายด้วย ข้าพเจ้ายังไม่บรรลุเป้าหมายหรือยังทำไม่สำเร็จ ข้าพเจ้ายังมุ่งหน้าวิ่งต่อไป เพื่อจะช่วงชิงรางวัลให้ได้ ดังที่พระคริสตเยซูทรงช่วงชิงข้าพเจ้าไว้ได้แล้ว พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่คิดว่า ข้าพเจ้าชนะแล้ว ข้าพเจ้าทำเพียงอย่างเดียวคือ ลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง มุ่งสู่เบื้องหน้าอย่างสุดกำลัง ข้าพเจ้ากำลังวิ่งเข้าสู่เส้นชัยไปหารางวัลที่พระเจ้าทรงเรียกจากสวรรค์ให้ข้าพเจ้าเข้าไปรับในพระคริสตเยซู
พระวรสาร ยอห์น 8:1-11
พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
คุณพ่อวิลเลี่ยม: เมื่อมหาพรตสิ้นสุดลง เราจะได้รับรู้ถึงพระหรรษทานของพระเป็นเจ้าที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา
บทอ่านที่หนึ่งบอกให้เรารู้ว่าพระเป็นเจ้าทรงช่วยและไม่ให้เราจมอยู่ในอดีต แต่อยู่ในปัจจุบันและมีความหวังในอนาคตกับพระองค์ จงน้อมรับการไถ่กู้
บทอ่านที่สองบอกให้เราอย่าจมอยู่ในอดีต แต่รุดหน้า อย่าให้ความเชื่อชงักแต่จงมุ่งมั่น
พระวรสารบอกเราว่าฝูงชนเรียกร้องความยุติธรรมตามธรรมบัญญัติของโมเสสด้วยการทุ่มหินผู้หญิงคนนั้นจนตาย แต่กฎหมายของอาณาจักรโรมันห้ามฆ่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโรมัน...
พระเยซูเจ้าทรงเขียนอะไรบนพื้นดิน? บาปของพวกเขาแต่ละบาปแต่ละคน? หรือการลงโทษที่พวกเขาแต่ละคนจะได้รับจากการตัดสินใจอันนี้ของพวกเขาที่ลากผู้หญิงคนนี้มาประจานให้อับอายขายหน้าและทําลายเธอ?
พระเยซูเจ้าคือพระผู้ไถ่และพระเมตตา
เราตัดสินและลงโทษ พระองค์ไม่ตัดสินและลงโทษ บอกเราว่า อย่าทําบาปอีก...
มหาพรตไม่ใช่เพียงการมองอดีตแต่เป็นการมองอนาคตด้วย
____________________
อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา รวมทั้งบทความเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ( The Great Crusade of Love) ฉบับภาษาอังกฤษ 183 สาร
https://www.loveandmercy.org/Eng-CL-Reg.pdf
ลิ้งค์ การรณรงค์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ฉบับภาษาไทย โพสต์ต่อเนื่องจากสารฉบับแรก- สารฉบับสุดท้าย # 183 ( แปลจากฉบับภาษาอังกฤษ The Great Crusade of Love) เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=8&t=20412
ลิ้งค์ รวมสารของพระบิดาที่ทรงมอบให้คุณนิพนธ์ มณีกิจ ผู้นำสารของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจฯ และ เวปบอร์ดสนทนาธรรม สามัคคีธรรม
viewtopic.php?f=2&t=22009
ลิ้งค์ แม่รักลูก เล่มหนึ่ง สอง สาม ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เปิดอ่านป็นหน้าๆ เหมือนอ่านหนังสือ
https://anyflip.com/homepage/tawmz
ลิ้งค์ เวปบอร์ด พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี
viewforum.php?f=8
อ้างอิง ขอบคุณ: bible.usccb.org, thaicatholicbible.com, พระคัมภีร์คาทอลิก kamsornbkk.com, กูเกิ้ล ( ไม่สะกดเป็นภาษาอังกฤษเพราะมีภาษาจีนแทรกแซง)
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา มหาบุรุษอับราฮัมและคุณแม่ซาราห์ศรีภรรยาของท่าน สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
ขอบคุณ: คุณอาเดเลีย เบอร์นาร์ด คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง คุณพ่อบัญชา อภิชาติวรกุล คุณนิพนธ์ มณีกิจ นักบวชชายหญิง ผู้นำฆราวาส ครอบครัวเจ้าของ www.newmana.com ทีมงานทุกคน ผู้เผยแพร่ พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี ประเทศไทย
อาทิตย์ที่สี่ในเทศกาลอิสเตอร์ 11 พฤษภาคม 2025
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเฟอร์นันโด วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส ( Father Fernando, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 13:14, 43-50
เปาโลและเพื่อนร่วมทางแล่นเรือจากเมืองเปาโลและบารนาบัสมาถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสีเดีย เมื่อการประชุมเลิกแล้ว ชาวยิวและผู้ที่กลับใจมาเลื่อมใสศาสนายิวหลายคน เดินตามเปาโลและบารนาบัส ทั้งสองคนจึงสนทนากับเขาต่อไปและตักเตือนให้ มั่นคงอยู่ในพระหรรษทานของพระเจ้า วันสับบาโตต่อมา ชาวเมืองเกือบทั้งหมดมาชุมนุมฟังพระวาจาของพระเจ้า เมื่อชาวยิวเห็นประชาชนมากมายเช่นนี้ ก็เกิดความอิจฉาอย่างมาก จึงคัดค้านคำพูดของเปาโลและด่าว่าเขา เปาโลและบารนาบัสตอบเขาอย่างกล้าหาญว่า “จำเป็นที่เราจะต้องประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้ท่านฟังก่อนผู้อื่น แต่เมื่อท่านปฏิเสธไม่ยอมรับและไม่คิดว่าตนเหมาะสมจะรับชีวิตนิรันดร เราจึงหันไปหาคนต่างศาสนา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้ามีพระบัญชาแก่เราดังนี้ว่า “เราแต่งตั้งท่านให้เป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ เพื่อท่านจะได้นำความรอดพ้นไปจนสุดปลายแผ่นดิน” เมื่อคนต่างศาสนาได้ยินดังนี้ ก็มีความยินดีและสรรเสริญพระวาจาของพระเจ้า และทุกคนที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้สำหรับชีวิตนิรันดร ก็มีความเชื่อ พระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าแผ่ไปทั่วแคว้นนั้น แต่ชาวยิวยุยงบรรดาสตรีชั้นสูงที่เลื่อมใสในศาสนายิวและบรรดาผู้นำของเมืองให้เบียดเบียนเปาโลและบารนาบัส และขับไล่ทั้งสองคนออกไปจากดินแดนของตน
บทอ่านที่สอง วิวรณ์ 7:9,14-17
หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประชาชนมากมายเหลือคณานับจากทุกชาติ ทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษากำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม ร้องสรรเสริญเสียงดังว่า “ความรอดพ้นเป็นของพระเจ้าของเรา ผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ และเป็นของลูกแกะ” ทูตสวรรค์ทั้งหลายที่ยืนอยู่รอบพระบัลลังก์ รอบผู้อาวุโส และรอบผู้มีชีวิตทั้งสี่ตน ต่างกราบลงหน้าพระบัลลังก์ ศีรษะจรดพื้น นมัสการพระเจ้าว่า อาเมน คำถวายพระพร พระสิริรุ่งโรจน์ พระปรีชาญาณ คำขอบพระคุณ พระเกียรติยศ พระอานุภาพและพระพลานุภาพ เป็นของพระเจ้าของเราตลอดนิรันดร อาเมน ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามข้าพเจ้าว่า “คนที่สวมเสื้อขาวเหล่านี้เป็นใคร และมาจากไหน” ข้าพเจ้าตอบว่า “นายขอรับ ท่านก็รู้อยู่แล้ว” เขาจึงบอกข้าพเจ้าว่า “คนเหล่านี้คือผู้ที่มาจากการเบียดเบียนครั้งใหญ่ เขาซักเสื้อของเขาจนขาวในพระโลหิตของลูกแกะ ดังนั้น เขาจึงอยู่หน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้า จะรับใช้พระองค์ทั้งกลางวันกลางคืนในพระวิหารของพระองค์ พระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์จะทรงพำนักอยู่กับเขา เขาทั้งหลายจะไม่หิวหรือกระหายอีกเลย แสงแดดหรือความร้อนจะไม่แผดเผาเขาอีก เพราะลูกแกะที่ทรงยืนอยู่กลางพระบัลลังก์ จะทรงเลี้ยงดูเขา จะทรงนำเขาไปยังธารน้ำพุแห่งชีวิต และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเขา”
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 10:27-30
แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมัน และมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่านั้น และมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะเหล่านี้ให้เรา ทรงยิ่งใหญ่กว่าทุกคน และไม่มีใครแย่งชิงไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาได้ เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน
คุณพ่อเฟอร์นันโด: เมื่อวันพฤหัสที่ 8 พฤษภาคม 2025 อาทิตย์ที่แล้ว พวกเราโรมันคาทอลิกมีพระสันตปะปาองค์ใหม่ ลีโอที่ 14 พระองค์ทรงสืบทอดตําแหน่งจากนักบุญเปโตร เป็นโป๊ปองค์ที่ 267 ของพระศาสนาจักรของเราที่พระเยซูเจ้าพระเป็นเจ้าพระผู้ไถ่ทรงก่อตั้งเมื่อ 2,000 กว่าปีที่ผ่านมาและปัจจุบันมีประชากร 1.4 พันล้านคนทั่วโลก
พ่อได้ดูการถ่ายทอดทีวีของฝูงชนมหาศาลจํานวนแสนที่ไปยืนคอยดูควันสีขาวจากปล่องไฟเป็นสัญญาณว่าพวกเรามีโป๊ปองค์ใหม่สืบต่อโป๊ปฟรานซิสที่ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2025 (หลังวันอาทิตย์อิสเตอร์) พ่อเห็นคนทุกเชื้อชาติทั่วโลกที่เป็นคาทอลิก พระสงฆ์ ซิสเตอร์ ชาวบ้าน ชายหญิง เด็กวัยรุ่น ปะปนกัน ทุกคนเปล่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจที่เห็นควันสีขาวพวยพุ่งออกจากปล่องไฟ
พวกเขาไม่ได้เชียร์ให้พระคาร์ดินัลของประเทศเขาได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา พวกเขาเชียร์ที่พวกเราคาทอลิกได้มีโป๊ป พ่อคนใหม่ที่จะดูแลพวกเราด้านจิตวิญญานสืบต่อจากโป๊ปฟรานซิส
พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกเป็นสากลจักรวาลหนึ่งเดียวในโลกที่ยืนหยัดมั่นคงตลอดมากว่า 2,000 ปี
ทุกคนจงมองดูรูปภาพหลังพระแท่นกลางของเรา: รูปวาดของนักบุญ 6 องค์ที่เป็นตัวแทนของทุกเชื้อชาติของโลกเด่นสดุดตาเตือนใจเราว่าพระศาสนจักรของเราเป็นสากลจักรวาลในความเชื่อหนึ่งเดียวกัน
นี่ก็คือการชิมรสของสวรรค์ที่ไม่มีเพียงแต่เชื้อชาติใดเชื้อชาติเดียวเท่านั้น
หน้าที่สําคัญอันดับหนึ่งของพระสงฆ์ ไม่ใช่เป็นเจ้าอาวาสวัดหรือทํามิสซาแต่เป็นการประกาศพระวาจาของพระเจ้า!
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเฟอร์นันโด วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส ( Father Fernando, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 13:14, 43-50
เปาโลและเพื่อนร่วมทางแล่นเรือจากเมืองเปาโลและบารนาบัสมาถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสีเดีย เมื่อการประชุมเลิกแล้ว ชาวยิวและผู้ที่กลับใจมาเลื่อมใสศาสนายิวหลายคน เดินตามเปาโลและบารนาบัส ทั้งสองคนจึงสนทนากับเขาต่อไปและตักเตือนให้ มั่นคงอยู่ในพระหรรษทานของพระเจ้า วันสับบาโตต่อมา ชาวเมืองเกือบทั้งหมดมาชุมนุมฟังพระวาจาของพระเจ้า เมื่อชาวยิวเห็นประชาชนมากมายเช่นนี้ ก็เกิดความอิจฉาอย่างมาก จึงคัดค้านคำพูดของเปาโลและด่าว่าเขา เปาโลและบารนาบัสตอบเขาอย่างกล้าหาญว่า “จำเป็นที่เราจะต้องประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้ท่านฟังก่อนผู้อื่น แต่เมื่อท่านปฏิเสธไม่ยอมรับและไม่คิดว่าตนเหมาะสมจะรับชีวิตนิรันดร เราจึงหันไปหาคนต่างศาสนา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้ามีพระบัญชาแก่เราดังนี้ว่า “เราแต่งตั้งท่านให้เป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ เพื่อท่านจะได้นำความรอดพ้นไปจนสุดปลายแผ่นดิน” เมื่อคนต่างศาสนาได้ยินดังนี้ ก็มีความยินดีและสรรเสริญพระวาจาของพระเจ้า และทุกคนที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้สำหรับชีวิตนิรันดร ก็มีความเชื่อ พระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าแผ่ไปทั่วแคว้นนั้น แต่ชาวยิวยุยงบรรดาสตรีชั้นสูงที่เลื่อมใสในศาสนายิวและบรรดาผู้นำของเมืองให้เบียดเบียนเปาโลและบารนาบัส และขับไล่ทั้งสองคนออกไปจากดินแดนของตน
บทอ่านที่สอง วิวรณ์ 7:9,14-17
หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประชาชนมากมายเหลือคณานับจากทุกชาติ ทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษากำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม ร้องสรรเสริญเสียงดังว่า “ความรอดพ้นเป็นของพระเจ้าของเรา ผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ และเป็นของลูกแกะ” ทูตสวรรค์ทั้งหลายที่ยืนอยู่รอบพระบัลลังก์ รอบผู้อาวุโส และรอบผู้มีชีวิตทั้งสี่ตน ต่างกราบลงหน้าพระบัลลังก์ ศีรษะจรดพื้น นมัสการพระเจ้าว่า อาเมน คำถวายพระพร พระสิริรุ่งโรจน์ พระปรีชาญาณ คำขอบพระคุณ พระเกียรติยศ พระอานุภาพและพระพลานุภาพ เป็นของพระเจ้าของเราตลอดนิรันดร อาเมน ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามข้าพเจ้าว่า “คนที่สวมเสื้อขาวเหล่านี้เป็นใคร และมาจากไหน” ข้าพเจ้าตอบว่า “นายขอรับ ท่านก็รู้อยู่แล้ว” เขาจึงบอกข้าพเจ้าว่า “คนเหล่านี้คือผู้ที่มาจากการเบียดเบียนครั้งใหญ่ เขาซักเสื้อของเขาจนขาวในพระโลหิตของลูกแกะ ดังนั้น เขาจึงอยู่หน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้า จะรับใช้พระองค์ทั้งกลางวันกลางคืนในพระวิหารของพระองค์ พระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์จะทรงพำนักอยู่กับเขา เขาทั้งหลายจะไม่หิวหรือกระหายอีกเลย แสงแดดหรือความร้อนจะไม่แผดเผาเขาอีก เพราะลูกแกะที่ทรงยืนอยู่กลางพระบัลลังก์ จะทรงเลี้ยงดูเขา จะทรงนำเขาไปยังธารน้ำพุแห่งชีวิต และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเขา”
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 10:27-30
แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมัน และมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่านั้น และมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะเหล่านี้ให้เรา ทรงยิ่งใหญ่กว่าทุกคน และไม่มีใครแย่งชิงไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาได้ เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน
คุณพ่อเฟอร์นันโด: เมื่อวันพฤหัสที่ 8 พฤษภาคม 2025 อาทิตย์ที่แล้ว พวกเราโรมันคาทอลิกมีพระสันตปะปาองค์ใหม่ ลีโอที่ 14 พระองค์ทรงสืบทอดตําแหน่งจากนักบุญเปโตร เป็นโป๊ปองค์ที่ 267 ของพระศาสนาจักรของเราที่พระเยซูเจ้าพระเป็นเจ้าพระผู้ไถ่ทรงก่อตั้งเมื่อ 2,000 กว่าปีที่ผ่านมาและปัจจุบันมีประชากร 1.4 พันล้านคนทั่วโลก
พ่อได้ดูการถ่ายทอดทีวีของฝูงชนมหาศาลจํานวนแสนที่ไปยืนคอยดูควันสีขาวจากปล่องไฟเป็นสัญญาณว่าพวกเรามีโป๊ปองค์ใหม่สืบต่อโป๊ปฟรานซิสที่ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2025 (หลังวันอาทิตย์อิสเตอร์) พ่อเห็นคนทุกเชื้อชาติทั่วโลกที่เป็นคาทอลิก พระสงฆ์ ซิสเตอร์ ชาวบ้าน ชายหญิง เด็กวัยรุ่น ปะปนกัน ทุกคนเปล่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจที่เห็นควันสีขาวพวยพุ่งออกจากปล่องไฟ
พวกเขาไม่ได้เชียร์ให้พระคาร์ดินัลของประเทศเขาได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา พวกเขาเชียร์ที่พวกเราคาทอลิกได้มีโป๊ป พ่อคนใหม่ที่จะดูแลพวกเราด้านจิตวิญญานสืบต่อจากโป๊ปฟรานซิส
พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกเป็นสากลจักรวาลหนึ่งเดียวในโลกที่ยืนหยัดมั่นคงตลอดมากว่า 2,000 ปี
ทุกคนจงมองดูรูปภาพหลังพระแท่นกลางของเรา: รูปวาดของนักบุญ 6 องค์ที่เป็นตัวแทนของทุกเชื้อชาติของโลกเด่นสดุดตาเตือนใจเราว่าพระศาสนจักรของเราเป็นสากลจักรวาลในความเชื่อหนึ่งเดียวกัน
นี่ก็คือการชิมรสของสวรรค์ที่ไม่มีเพียงแต่เชื้อชาติใดเชื้อชาติเดียวเท่านั้น
หน้าที่สําคัญอันดับหนึ่งของพระสงฆ์ ไม่ใช่เป็นเจ้าอาวาสวัดหรือทํามิสซาแต่เป็นการประกาศพระวาจาของพระเจ้า!
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940
สมโภชพระเยซูคริสตเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2025
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของสังฆานุกร รอย บริซีโน่ วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส ( Deacon Roy Briceno, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 1:1-11
เธโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรก ข้าพเจ้าเล่าถึงทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำและทรงสั่งสอน เริ่มตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ทรงได้รับการยกขึ้นสวรรค์ หลังจากที่ทรงแนะนำสั่งสอนบรรดาอัครสาวกที่ทรงเลือกสรรโดยทางพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกเหล่านั้น และทรงพิสูจน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ว่าหลังจากทรงรับทุกข์ทรมานแล้ว พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ตลอดเวลาสี่สิบวันที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์แก่เขาทั้งหลาย ทรงกล่าวถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า ขณะที่ทรงร่วมโต๊ะกับเขา พระองค์ทรงกำชับว่า “อย่าออกจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว้ ดังที่ท่านได้ยินจากเรา
ยอห์นทำพิธีล้างด้วยน้ำ แต่ภายในไม่กี่วัน ท่านจะได้รับพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า ผู้ที่มาชุมนุมกับพระเยซูเจ้า ทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งในเวลานี้หรือ” พระองค์ตรัสตอบว่า “ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้วันเวลาที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยอำนาจของพระองค์ แต่พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เมฆบังพระองค์จากสายตาของเขา เขายังคงจ้องมองท้องฟ้าขณะที่พระองค์ทรงจากไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมเสื้อขาวปรากฏกับเขา กล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ท่านทั้งหลายยืนแหงนมองท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเยซูเจ้าพระองค์นี้ที่เสด็จสู่สวรรค์ จะเสด็จกลับมาเช่นเดียวกับที่ท่านทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงจากไปสู่สวรรค์”
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 1:17-23
ขอพระเจ้าแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ประทานพระพรแห่งปรีชาญาณและการเปิดเผยให้แก่ท่านเดชะพระจิตเจ้าเพื่อท่านจะได้รู้ซึ้งถึงพระองค์ยิ่ง ๆ ขึ้น
ขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้น เพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใด และความรุ่งเรืองที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเป็นมรดกนั้นบริบูรณ์เพียงใด อีกทั้งรู้ด้วยว่า พระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อเราผู้มีความเชื่อนั้นล้ำเลิศเพียงใด พระอานุภาพและพละกำลังนี้ พระองค์ทรงแสดงในองค์พระคริสตเจ้า เมื่อทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย และให้ประทับเบื้องขวาของพระองค์ในสวรรค์ เหนือเทพนิกรเจ้า เทพนิกรอำนาจ เทพนิกรฤทธิ์ เทพนิกรนายและเหนือนามทั้งปวงที่อาจเรียกขานได้ทั้งในยุคนี้และในยุคหน้า พระเจ้าทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้พระบาทของพระคริสตเจ้า และทรงแต่งตั้งพระคริสตเจ้าไว้เหนือสรรพสิ่ง ให้ทรงเป็นศีรษะของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระวรกายของพระองค์ เป็นความบริบูรณ์ของพระผู้ทรงอยู่ในทุกสิ่งและทรงกระทำให้ทุกสิ่งบริบูรณ์
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 24:46-53
ตรัสว่า ‘มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามของพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้ ‘บัดนี้ เรากำลังจะส่งพระผู้ที่พระบิดาทรงสัญญาไว้มาเหนือท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้นท่านจงคอยอยู่ในกรุงจนกว่าท่านจะได้รับพระอานุภาพจากเบื้องบน’ พระองค์ทรงนำบรรดาศิษย์ออกไปใกล้หมู่บ้านเบธานี ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพระพร และขณะที่ทรงอวยพระพรนั้น พระองค์ทรงแยกไปจากเขา และทรงถูกนำขึ้นสู่สวรรค์ บรรดาศิษย์กราบนมัสการพระองค์ แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็มด้วยความยินดียิ่ง เขาอยู่ในพระวิหารตลอดเวลา ถวายพระพรแด่พระเจ้า
สังฆานุกร รอย: วันนี้เราให้เกียรตินักเรียนนักศึกษาที่จบจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยด้วยการให้นั่งแถวหน้าของวัด เปิดโอกาสให้แนะนำตัว แล้วคุณพ่อจะให้พรพิเศษที่พวกเราพ่อแม่ญาติมิตรพี่น้องจะมีส่วนร่วมใจให้พรด้วย นักเรียนนักศึกษาเรียนจบเป็นการเคลื่อนตัวสูงขึ้น แต่คงจะไม่สูงจนถึงกับไปสวรรค์ทันทีเลยนะ ( สาธุชนฮาลั่นสนั่นวัด)
พระเยซูเจ้าทรงทําภารกิจของพระองค์เสร็จสิ้นแล้ว นั่นคือการทําให้ผู้คนรู้จักพระเจ้า บัดนี้เหล่าอัครสาวกต้องเริ่มภารกิจที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้ ทําให้ผู้คนรู้จักพระเจ้า ไม่ใช่แต่วาจาเท่านั้นแต่รวมทั้งการวางตัวของพวกท่าน และพวกเราก็ต้องทําตามเช่นกัน เราต้องห่อหุ้มตัวในพระจิตเจ้า
ทูตสวรรค์บอกอัครสาวกอย่ารั้งรอเฉยเมย ให้เริ่มทํางานได้แล้ว เราก็ต้องไม่รั้งรอเฉยเมยให้เริ่มทํางานได้แล้วเช่นกัน เราต้องดํารงชีพในพระเยซูคริสตเจ้า ตายในพระเยซูคริสตเจ้า จะได้ไปสู่สวรรค์ร่วมกับพระเจ้า
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของสังฆานุกร รอย บริซีโน่ วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส ( Deacon Roy Briceno, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 1:1-11
เธโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรก ข้าพเจ้าเล่าถึงทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำและทรงสั่งสอน เริ่มตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ทรงได้รับการยกขึ้นสวรรค์ หลังจากที่ทรงแนะนำสั่งสอนบรรดาอัครสาวกที่ทรงเลือกสรรโดยทางพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกเหล่านั้น และทรงพิสูจน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ว่าหลังจากทรงรับทุกข์ทรมานแล้ว พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ตลอดเวลาสี่สิบวันที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์แก่เขาทั้งหลาย ทรงกล่าวถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า ขณะที่ทรงร่วมโต๊ะกับเขา พระองค์ทรงกำชับว่า “อย่าออกจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว้ ดังที่ท่านได้ยินจากเรา
ยอห์นทำพิธีล้างด้วยน้ำ แต่ภายในไม่กี่วัน ท่านจะได้รับพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า ผู้ที่มาชุมนุมกับพระเยซูเจ้า ทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งในเวลานี้หรือ” พระองค์ตรัสตอบว่า “ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้วันเวลาที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยอำนาจของพระองค์ แต่พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เมฆบังพระองค์จากสายตาของเขา เขายังคงจ้องมองท้องฟ้าขณะที่พระองค์ทรงจากไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมเสื้อขาวปรากฏกับเขา กล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ท่านทั้งหลายยืนแหงนมองท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเยซูเจ้าพระองค์นี้ที่เสด็จสู่สวรรค์ จะเสด็จกลับมาเช่นเดียวกับที่ท่านทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงจากไปสู่สวรรค์”
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 1:17-23
ขอพระเจ้าแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ประทานพระพรแห่งปรีชาญาณและการเปิดเผยให้แก่ท่านเดชะพระจิตเจ้าเพื่อท่านจะได้รู้ซึ้งถึงพระองค์ยิ่ง ๆ ขึ้น
ขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้น เพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใด และความรุ่งเรืองที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเป็นมรดกนั้นบริบูรณ์เพียงใด อีกทั้งรู้ด้วยว่า พระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อเราผู้มีความเชื่อนั้นล้ำเลิศเพียงใด พระอานุภาพและพละกำลังนี้ พระองค์ทรงแสดงในองค์พระคริสตเจ้า เมื่อทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย และให้ประทับเบื้องขวาของพระองค์ในสวรรค์ เหนือเทพนิกรเจ้า เทพนิกรอำนาจ เทพนิกรฤทธิ์ เทพนิกรนายและเหนือนามทั้งปวงที่อาจเรียกขานได้ทั้งในยุคนี้และในยุคหน้า พระเจ้าทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้พระบาทของพระคริสตเจ้า และทรงแต่งตั้งพระคริสตเจ้าไว้เหนือสรรพสิ่ง ให้ทรงเป็นศีรษะของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระวรกายของพระองค์ เป็นความบริบูรณ์ของพระผู้ทรงอยู่ในทุกสิ่งและทรงกระทำให้ทุกสิ่งบริบูรณ์
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 24:46-53
ตรัสว่า ‘มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามของพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้ ‘บัดนี้ เรากำลังจะส่งพระผู้ที่พระบิดาทรงสัญญาไว้มาเหนือท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้นท่านจงคอยอยู่ในกรุงจนกว่าท่านจะได้รับพระอานุภาพจากเบื้องบน’ พระองค์ทรงนำบรรดาศิษย์ออกไปใกล้หมู่บ้านเบธานี ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพระพร และขณะที่ทรงอวยพระพรนั้น พระองค์ทรงแยกไปจากเขา และทรงถูกนำขึ้นสู่สวรรค์ บรรดาศิษย์กราบนมัสการพระองค์ แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็มด้วยความยินดียิ่ง เขาอยู่ในพระวิหารตลอดเวลา ถวายพระพรแด่พระเจ้า
สังฆานุกร รอย: วันนี้เราให้เกียรตินักเรียนนักศึกษาที่จบจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยด้วยการให้นั่งแถวหน้าของวัด เปิดโอกาสให้แนะนำตัว แล้วคุณพ่อจะให้พรพิเศษที่พวกเราพ่อแม่ญาติมิตรพี่น้องจะมีส่วนร่วมใจให้พรด้วย นักเรียนนักศึกษาเรียนจบเป็นการเคลื่อนตัวสูงขึ้น แต่คงจะไม่สูงจนถึงกับไปสวรรค์ทันทีเลยนะ ( สาธุชนฮาลั่นสนั่นวัด)
พระเยซูเจ้าทรงทําภารกิจของพระองค์เสร็จสิ้นแล้ว นั่นคือการทําให้ผู้คนรู้จักพระเจ้า บัดนี้เหล่าอัครสาวกต้องเริ่มภารกิจที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้ ทําให้ผู้คนรู้จักพระเจ้า ไม่ใช่แต่วาจาเท่านั้นแต่รวมทั้งการวางตัวของพวกท่าน และพวกเราก็ต้องทําตามเช่นกัน เราต้องห่อหุ้มตัวในพระจิตเจ้า
ทูตสวรรค์บอกอัครสาวกอย่ารั้งรอเฉยเมย ให้เริ่มทํางานได้แล้ว เราก็ต้องไม่รั้งรอเฉยเมยให้เริ่มทํางานได้แล้วเช่นกัน เราต้องดํารงชีพในพระเยซูคริสตเจ้า ตายในพระเยซูคริสตเจ้า จะได้ไปสู่สวรรค์ร่วมกับพระเจ้า
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940
อาทิตย์ที่ 14 ในเทศกาลธรรมดา 6 กรกฎาคม 2025
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ โยแซฟ Father Joseph วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง 66: 10-14
ท่านทั้งหลายจงยินดีกับกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายที่รักกรุงเยรูซาเล็ม จงชื่นชมกับกรุงนี้เถิด ท่านทั้งหลายที่เคยไว้ทุกข์ให้กรุงเยรูซาเล็ม จงร่วมยินดีกับกรุงนี้ด้วยความชื่นบานเถิด ท่านจะได้รับการปลอบโยนอย่างเต็มเปี่ยมจากกรุงเยรูซาเล็ม ทารกมีความยินดีเมื่อดูดนมจากทรวงอกของมารดาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะมีความยินดีจากความอุดมสมบูรณ์ของกรุงนี้ฉันนั้น เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ “ดูซิ เราจะบันดาลให้สันติสุขหลั่งไหลมาสู่กรุงนี้เหมือนแม่น้ำ จะนำความมั่งคั่งของนานาชาติมายังกรุงนี้เหมือนสายน้ำที่กำลังล้นฝั่ง กรุงนี้จะอุ้มท่านทั้งหลายไว้ ให้ท่านดูดนม และหยอกล้อท่านบนตัก มารดาปลอบโยนบุตรฉันใด เราก็จะปลอบโยนท่านทั้งหลายฉันนั้น ท่านจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายจะเห็น และใจของท่านจะโลดเต้นยินดี กระดูกของท่านจะสดชื่นขึ้นเหมือนหญ้าอ่อน พระยาห์เวห์จะทรงแสดงพระอานุภาพ
บทอ่านที่สอง กาลาเทีย 6:14-18
ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่โอ้อวดสิ่งใดนอกจากเรื่องไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อาศัยไม้กางเขนนี้ โลกถูกตรึงตายไปจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ถูกตรึงตายไปจากโลกแล้ว ดังนั้น การเข้าสุหนัตหรือการไม่เข้าสุหนัตจึงไม่มีความสำคัญแต่ประการใด สิ่งที่สำคัญก็คือการเป็นสิ่งสร้างใหม่ สันติและพระเมตตาจงมีแก่ทุกคนที่ปฏิบัติตามกฎข้อนี้ และแก่ประชากรแท้จริงของพระเจ้า นับแต่บัดนี้ อย่าให้ใครมารบกวนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ามีรอยประทับตราของพระเยซูเจ้าอยู่ในร่างกายของข้าพเจ้าแล้ว พี่น้อง ขอให้พระหรรษทานของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา สถิตอยู่ในจิตใจของท่านทั้งหลายเทอญ อาเมน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:1-12,17-20
ต่อจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน และทรงส่งเขาล่วงหน้าพระองค์ เป็นคู่ ๆ ไปทุกตำบลทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ข้าวที่จะเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด จงไปเถิด เราส่งท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า อย่านำถุงเงิน ย่ามหรือรองเท้าไปด้วย อย่าเสียเวลาทักทายผู้ใดตามทาง เมื่อท่านเข้าบ้านใด จงกล่าวก่อนว่า “สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด” ถ้ามีผู้สมควรจะรับสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา มิฉะนั้น สันติสุขของท่านจะกลับมาอยู่กับท่านอีก จงพักอาศัยในบ้านนั้น กินและดื่มของที่เขาจะนำมาให้ เพราะว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเข้าบ้านนี้ออกบ้านโน้น เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาต้อนรับท่าน จงกินของที่เขาจะนำมาตั้งให้ จงรักษาผู้เจ็บป่วยในเมืองนั้นและบอกเขาว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว” แต่ถ้าท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาไม่ต้อนรับ ก็จงออกไปกลางลานสาธารณะ และกล่าวว่า “แม้แต่ฝุ่นจากเมืองของท่านที่ติดเท้าของเรา เราจะสลัดทิ้งไว้ปรักปรำท่าน จงรู้เถิดว่า พระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว” เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในวันพิพากษา ชาวเมืองโสดมจะรับโทษเบากว่าชาวเมืองนั้น ศิษย์ทั้งเจ็ดสิบสองคนกลับมาด้วยความชื่นชมยินดี ทูลว่า “พระเจ้าข้า แม้แต่ปีศาจก็ยังอ่อนน้อมต่อเราเดชะพระนามของพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ จงฟังเถิด เราให้อำนาจแก่ท่านที่จะเหยียบงูและแมงป่อง มีอำนาจเหนือกำลังทุกอย่างของศัตรู ไม่มีอะไรจะทำร้ายท่านได้ อย่าชื่นชมยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อท่าน แต่จงชื่นชมยินดีมากกว่าที่ชื่อของท่านจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว”
คุณพ่อโยแซฟ: พระวรสารวันนี้สอดคล้องเหมาะเจาะกับภารกิจของวัดเราข้อที่สาม: ดํารงชีพเพื่อพระองค์ ( ข้อหนึ่ง= มีส่วนร่วมกับชุมชน ข้อสอง=พบพระเยซูคริสตเจ้า สาม=และดํารงชีพเพื่อพระองค์)
พวกเราต้องเป็นเหมือนศิษย์ 72 คนเช่นกัน หลังพิธีมิสซา เราต้องประกาศข่าวดี ถ้าข่าวดียังอยู่ในวัด มันก็ไม่มีประโยชน์
เราต้องประกาศข่าวดีด้วยสิ่งที่เรามี: เวลา ความสามารถพิเศษ และ ทรัพย์สิน
เพราะพวกเราให้ เราถึงมีวัดของเรา มีพระสงฆ์ นักบวช ถ้าเราไม่ให้ เราไม่มีวัดของเรา ไม่มีพระสงฆ์ ไม่มีนักบวช
มีกี่ครั้งที่เราประกาศ " พระคริสตเจ้า" เมื่อวานพ่อพบคริสตชนต่างนิกายที่ลานจอดรถย่านการค้าแห่งหนึ่ง เขาถามพ่อว่า " คุณรู้จักพระคริสตเจ้าหรือไม่?" พ่อตอบ " ผมรู้จักพระองค์เพราะผมเป็นคุณพ่อของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก" ( ลูกวัดร่วมสามร้อยหัวเราะก้องวัดเพราะแต่ละคนก็เคยเจออย่างน้อยสามสี่ครั้งเช่นกัน) พ่อชวนเขามาวัดเรา มาทําความรู้จักกับพวกเราโรมันคาทอลิก
พวกเราต้องมีความสนิทสนมกับคุณพ่อและนักบวชของเรา เชิญท่านให้มีส่วนร่วมในชีวิตเพราะพระเยซูเจ้าทรงบอกว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน...
ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวพันกับพระศาสนจักรของเรา: 3= พระตรีเอกภาพ ( พระบิดา พระบุตรและพระจิต) 7= พระเจ้าทรงสร้างทุกสรรพสิ่งและทรงพักในวันที่เจ็ด 12= 12 เผ่าของชาวอิสราเอล 72= ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วยโมเสส
( เยรูซาเล็ม=เมืองแห่งสันติสุข โสดม= เมืองในปฐมกาล ที่เต็มไปด้วยบาปถูกพระเจ้าทําลายด้วยกํามะถันและไฟร่วงลงมาจากฟ้า)
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ โยแซฟ Father Joseph วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง 66: 10-14
ท่านทั้งหลายจงยินดีกับกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายที่รักกรุงเยรูซาเล็ม จงชื่นชมกับกรุงนี้เถิด ท่านทั้งหลายที่เคยไว้ทุกข์ให้กรุงเยรูซาเล็ม จงร่วมยินดีกับกรุงนี้ด้วยความชื่นบานเถิด ท่านจะได้รับการปลอบโยนอย่างเต็มเปี่ยมจากกรุงเยรูซาเล็ม ทารกมีความยินดีเมื่อดูดนมจากทรวงอกของมารดาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะมีความยินดีจากความอุดมสมบูรณ์ของกรุงนี้ฉันนั้น เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ “ดูซิ เราจะบันดาลให้สันติสุขหลั่งไหลมาสู่กรุงนี้เหมือนแม่น้ำ จะนำความมั่งคั่งของนานาชาติมายังกรุงนี้เหมือนสายน้ำที่กำลังล้นฝั่ง กรุงนี้จะอุ้มท่านทั้งหลายไว้ ให้ท่านดูดนม และหยอกล้อท่านบนตัก มารดาปลอบโยนบุตรฉันใด เราก็จะปลอบโยนท่านทั้งหลายฉันนั้น ท่านจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายจะเห็น และใจของท่านจะโลดเต้นยินดี กระดูกของท่านจะสดชื่นขึ้นเหมือนหญ้าอ่อน พระยาห์เวห์จะทรงแสดงพระอานุภาพ
บทอ่านที่สอง กาลาเทีย 6:14-18
ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่โอ้อวดสิ่งใดนอกจากเรื่องไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อาศัยไม้กางเขนนี้ โลกถูกตรึงตายไปจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ถูกตรึงตายไปจากโลกแล้ว ดังนั้น การเข้าสุหนัตหรือการไม่เข้าสุหนัตจึงไม่มีความสำคัญแต่ประการใด สิ่งที่สำคัญก็คือการเป็นสิ่งสร้างใหม่ สันติและพระเมตตาจงมีแก่ทุกคนที่ปฏิบัติตามกฎข้อนี้ และแก่ประชากรแท้จริงของพระเจ้า นับแต่บัดนี้ อย่าให้ใครมารบกวนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ามีรอยประทับตราของพระเยซูเจ้าอยู่ในร่างกายของข้าพเจ้าแล้ว พี่น้อง ขอให้พระหรรษทานของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา สถิตอยู่ในจิตใจของท่านทั้งหลายเทอญ อาเมน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:1-12,17-20
ต่อจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน และทรงส่งเขาล่วงหน้าพระองค์ เป็นคู่ ๆ ไปทุกตำบลทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ข้าวที่จะเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด จงไปเถิด เราส่งท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า อย่านำถุงเงิน ย่ามหรือรองเท้าไปด้วย อย่าเสียเวลาทักทายผู้ใดตามทาง เมื่อท่านเข้าบ้านใด จงกล่าวก่อนว่า “สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด” ถ้ามีผู้สมควรจะรับสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา มิฉะนั้น สันติสุขของท่านจะกลับมาอยู่กับท่านอีก จงพักอาศัยในบ้านนั้น กินและดื่มของที่เขาจะนำมาให้ เพราะว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเข้าบ้านนี้ออกบ้านโน้น เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาต้อนรับท่าน จงกินของที่เขาจะนำมาตั้งให้ จงรักษาผู้เจ็บป่วยในเมืองนั้นและบอกเขาว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว” แต่ถ้าท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาไม่ต้อนรับ ก็จงออกไปกลางลานสาธารณะ และกล่าวว่า “แม้แต่ฝุ่นจากเมืองของท่านที่ติดเท้าของเรา เราจะสลัดทิ้งไว้ปรักปรำท่าน จงรู้เถิดว่า พระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว” เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในวันพิพากษา ชาวเมืองโสดมจะรับโทษเบากว่าชาวเมืองนั้น ศิษย์ทั้งเจ็ดสิบสองคนกลับมาด้วยความชื่นชมยินดี ทูลว่า “พระเจ้าข้า แม้แต่ปีศาจก็ยังอ่อนน้อมต่อเราเดชะพระนามของพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ จงฟังเถิด เราให้อำนาจแก่ท่านที่จะเหยียบงูและแมงป่อง มีอำนาจเหนือกำลังทุกอย่างของศัตรู ไม่มีอะไรจะทำร้ายท่านได้ อย่าชื่นชมยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อท่าน แต่จงชื่นชมยินดีมากกว่าที่ชื่อของท่านจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว”
คุณพ่อโยแซฟ: พระวรสารวันนี้สอดคล้องเหมาะเจาะกับภารกิจของวัดเราข้อที่สาม: ดํารงชีพเพื่อพระองค์ ( ข้อหนึ่ง= มีส่วนร่วมกับชุมชน ข้อสอง=พบพระเยซูคริสตเจ้า สาม=และดํารงชีพเพื่อพระองค์)
พวกเราต้องเป็นเหมือนศิษย์ 72 คนเช่นกัน หลังพิธีมิสซา เราต้องประกาศข่าวดี ถ้าข่าวดียังอยู่ในวัด มันก็ไม่มีประโยชน์
เราต้องประกาศข่าวดีด้วยสิ่งที่เรามี: เวลา ความสามารถพิเศษ และ ทรัพย์สิน
เพราะพวกเราให้ เราถึงมีวัดของเรา มีพระสงฆ์ นักบวช ถ้าเราไม่ให้ เราไม่มีวัดของเรา ไม่มีพระสงฆ์ ไม่มีนักบวช
มีกี่ครั้งที่เราประกาศ " พระคริสตเจ้า" เมื่อวานพ่อพบคริสตชนต่างนิกายที่ลานจอดรถย่านการค้าแห่งหนึ่ง เขาถามพ่อว่า " คุณรู้จักพระคริสตเจ้าหรือไม่?" พ่อตอบ " ผมรู้จักพระองค์เพราะผมเป็นคุณพ่อของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก" ( ลูกวัดร่วมสามร้อยหัวเราะก้องวัดเพราะแต่ละคนก็เคยเจออย่างน้อยสามสี่ครั้งเช่นกัน) พ่อชวนเขามาวัดเรา มาทําความรู้จักกับพวกเราโรมันคาทอลิก
พวกเราต้องมีความสนิทสนมกับคุณพ่อและนักบวชของเรา เชิญท่านให้มีส่วนร่วมในชีวิตเพราะพระเยซูเจ้าทรงบอกว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน...
ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวพันกับพระศาสนจักรของเรา: 3= พระตรีเอกภาพ ( พระบิดา พระบุตรและพระจิต) 7= พระเจ้าทรงสร้างทุกสรรพสิ่งและทรงพักในวันที่เจ็ด 12= 12 เผ่าของชาวอิสราเอล 72= ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วยโมเสส
( เยรูซาเล็ม=เมืองแห่งสันติสุข โสดม= เมืองในปฐมกาล ที่เต็มไปด้วยบาปถูกพระเจ้าทําลายด้วยกํามะถันและไฟร่วงลงมาจากฟ้า)
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
อาทิตย์ที่ 15 ในเทศกาลธรรมดา 13 กรกฎาคม 2025
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ โยแซฟ Father Joseph วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 30: 10-14
แต่ท่านจะต้องเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อกำหนดที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติเล่มนี้ ท่านจะต้องกลับใจมาหา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสุดจิตใจและสุดวิญญาณ บทบัญญัติที่ข้าพเจ้าสั่งท่านในวันนี้ ไม่ยากเกินไปหรืออยู่ไกลสุดเอื้อม ไม่ได้อยู่สูงบนฟ้าจนต้องถามว่า “ใครจะขึ้นไปเอาลงมาให้เราฟังและปฏิบัติตามได้เล่า” บทบัญญัติเหล่านี้ไม่ได้อยู่โพ้นทะเล จนต้องถามว่า “ใครจะข้ามทะเลไปเอามาให้เราได้ฟังและปฏิบัติตามได้เล่า พระวาจานี้อยู่ใกล้กับท่านมาก คืออยู่ในปากและในใจของท่าน เพื่อท่านจะนำไปปฏิบัติได้”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 1:15-20
พระองค์ทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่เรามองไม่เห็น ทรงเป็นบุตรคนแรกในบรรดาสิ่งสร้างทั้งปวง เพราะสรรพสิ่งทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน ทั้งที่แลเห็นได้และไม่อาจแลเห็นได้ เทพนิกรบัลลังก์ เทพนิกรนาย เทพนิกรเจ้าและเทพนิกรอำนาจ ล้วนถูกสร้างโดยพระองค์ทั้งสิ้น ทุกสิ่งถูกเนรมิตขึ้นโดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่ง และสรรพสิ่งดำรงอยู่เป็นระเบียบในพระองค์ พระองค์ทรงเป็นศีรษะของร่างกาย คือพระศาสนจักร พระองค์ทรงเป็นปฐมเหตุ ทรงเป็นบุคคลแรกในบรรดาผู้ตายที่กลับคืนชีพ ทั้งนี้เพื่อพระองค์จะได้ทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง เพราะพระเจ้าพอพระทัยให้ความบริบูรณ์ทั้งปวงอยู่ในพระคริสตเจ้า และให้สรรพสิ่งคืนดีกับพระเจ้าโดยทางพระคริสตเจ้า ผู้โปรดให้ทุกสิ่งมีสันติ ด้วยพระโลหิตที่ทรงหลั่งบนไม้กางเขนของพระองค์ ทั้งสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในสวรรค์
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:25-37
ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต” ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้อง จึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่ง เดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
คุณพ่อโยแซฟ: โมเสส พูดว่า ธรรมบัญญัติไม่ได้อยู่บนฟ้าหรืออยู่โพ้นทะเล แต่อยู่ใกล้ตัวเรา อยู่ในปากและใจของเรา...จงทําเถอะ...จงรักพระเจ้าแล้วเราจะมีชีวิต จงทําเหมือนชาวสะมาเรียผู้นั้น...จงทําเถอะ แล้วเราจะมีชีวิต
พ่อไปหาหมอตรวจสุขภาพประจําปี ปีแล้วปีเล่า หมอบอกทุกปีว่า โคเลสตอรอล/ ไขมัน ในเลือดสูง ต้องออกกําลังกาย จงทําเถอะ...แต่พ่อเลือกที่จะไม่ทํา ด้วยการแก้ตัวและมีสิ่งที่ทําให้วอกแวก
พระเป็นเจ้าทรงให้นํ้าใจอิสระและการให้เหตุผลแก่เราทุกคน...พ่อเลือกที่จะไม่ทําตามนํ้าพระทัยของพระองค์...พระองค์ทรงบอกพ่อว่า พ่อจบกับลูกแล้ว ( จบไม่ใช่ว่าทิ้งขว้าง แต่จบที่ได้ทรงบอกทุกสิ่งทุกอย่างให้พ่อแต่พ่อเลือกที่จะไม่ทํา) พระองค์บอกพ่อว่า ถ้าลูกทําเมื่อไหร่ พ่อพร้อมที่จะช่วย...จงยอมสยบตัวเราให้พระองค์แล้วเราจะมีชีวิต
ในประเทศสหรัฐอเมริกาของเรา เรามีสิ่งอํานวยความสะดวกมากมายในชีวิต แม้กระทั่งวัด... พวกเราที่เมืองคายร์มีวัดสามแห่งในระยะขับรถ 15 นาทีถึงในเมืองข้างเคียง ในบางประเทศ วัดห่างไกลแบบต้องเดินสามชั่วโมง มีคุณพ่อทํามิสซาหนึ่งครั้งต่อเดือน เรามีระบบและองค์กรของสังคมที่ให้ความช่วยเหลือผู้ตกภัย...เราเลยเลือกที่จะไม่ทํา
แต่พระเยซูเจ้าทรงเลือกที่จะทํา...พระองค์ทรงสิ้นพระชนมชีพบนไม้กางเขนเพื่อเรา...เราต้องสวดภาวนาขอให้พระองค์ทรงช่วยให้เราทําเถอะ!
( ระยะทางระหว่างเมืองเยรูซาเล็มและเมืองเยรีโค : 38 กิโลเมตร/ เดิน 7 ชั่วโมง 34 นาที/ ขับรถ 38 นาที)
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ โยแซฟ Father Joseph วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 30: 10-14
แต่ท่านจะต้องเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อกำหนดที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติเล่มนี้ ท่านจะต้องกลับใจมาหา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสุดจิตใจและสุดวิญญาณ บทบัญญัติที่ข้าพเจ้าสั่งท่านในวันนี้ ไม่ยากเกินไปหรืออยู่ไกลสุดเอื้อม ไม่ได้อยู่สูงบนฟ้าจนต้องถามว่า “ใครจะขึ้นไปเอาลงมาให้เราฟังและปฏิบัติตามได้เล่า” บทบัญญัติเหล่านี้ไม่ได้อยู่โพ้นทะเล จนต้องถามว่า “ใครจะข้ามทะเลไปเอามาให้เราได้ฟังและปฏิบัติตามได้เล่า พระวาจานี้อยู่ใกล้กับท่านมาก คืออยู่ในปากและในใจของท่าน เพื่อท่านจะนำไปปฏิบัติได้”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 1:15-20
พระองค์ทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่เรามองไม่เห็น ทรงเป็นบุตรคนแรกในบรรดาสิ่งสร้างทั้งปวง เพราะสรรพสิ่งทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน ทั้งที่แลเห็นได้และไม่อาจแลเห็นได้ เทพนิกรบัลลังก์ เทพนิกรนาย เทพนิกรเจ้าและเทพนิกรอำนาจ ล้วนถูกสร้างโดยพระองค์ทั้งสิ้น ทุกสิ่งถูกเนรมิตขึ้นโดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่ง และสรรพสิ่งดำรงอยู่เป็นระเบียบในพระองค์ พระองค์ทรงเป็นศีรษะของร่างกาย คือพระศาสนจักร พระองค์ทรงเป็นปฐมเหตุ ทรงเป็นบุคคลแรกในบรรดาผู้ตายที่กลับคืนชีพ ทั้งนี้เพื่อพระองค์จะได้ทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง เพราะพระเจ้าพอพระทัยให้ความบริบูรณ์ทั้งปวงอยู่ในพระคริสตเจ้า และให้สรรพสิ่งคืนดีกับพระเจ้าโดยทางพระคริสตเจ้า ผู้โปรดให้ทุกสิ่งมีสันติ ด้วยพระโลหิตที่ทรงหลั่งบนไม้กางเขนของพระองค์ ทั้งสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในสวรรค์
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:25-37
ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต” ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้อง จึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่ง เดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
คุณพ่อโยแซฟ: โมเสส พูดว่า ธรรมบัญญัติไม่ได้อยู่บนฟ้าหรืออยู่โพ้นทะเล แต่อยู่ใกล้ตัวเรา อยู่ในปากและใจของเรา...จงทําเถอะ...จงรักพระเจ้าแล้วเราจะมีชีวิต จงทําเหมือนชาวสะมาเรียผู้นั้น...จงทําเถอะ แล้วเราจะมีชีวิต
พ่อไปหาหมอตรวจสุขภาพประจําปี ปีแล้วปีเล่า หมอบอกทุกปีว่า โคเลสตอรอล/ ไขมัน ในเลือดสูง ต้องออกกําลังกาย จงทําเถอะ...แต่พ่อเลือกที่จะไม่ทํา ด้วยการแก้ตัวและมีสิ่งที่ทําให้วอกแวก
พระเป็นเจ้าทรงให้นํ้าใจอิสระและการให้เหตุผลแก่เราทุกคน...พ่อเลือกที่จะไม่ทําตามนํ้าพระทัยของพระองค์...พระองค์ทรงบอกพ่อว่า พ่อจบกับลูกแล้ว ( จบไม่ใช่ว่าทิ้งขว้าง แต่จบที่ได้ทรงบอกทุกสิ่งทุกอย่างให้พ่อแต่พ่อเลือกที่จะไม่ทํา) พระองค์บอกพ่อว่า ถ้าลูกทําเมื่อไหร่ พ่อพร้อมที่จะช่วย...จงยอมสยบตัวเราให้พระองค์แล้วเราจะมีชีวิต
ในประเทศสหรัฐอเมริกาของเรา เรามีสิ่งอํานวยความสะดวกมากมายในชีวิต แม้กระทั่งวัด... พวกเราที่เมืองคายร์มีวัดสามแห่งในระยะขับรถ 15 นาทีถึงในเมืองข้างเคียง ในบางประเทศ วัดห่างไกลแบบต้องเดินสามชั่วโมง มีคุณพ่อทํามิสซาหนึ่งครั้งต่อเดือน เรามีระบบและองค์กรของสังคมที่ให้ความช่วยเหลือผู้ตกภัย...เราเลยเลือกที่จะไม่ทํา
แต่พระเยซูเจ้าทรงเลือกที่จะทํา...พระองค์ทรงสิ้นพระชนมชีพบนไม้กางเขนเพื่อเรา...เราต้องสวดภาวนาขอให้พระองค์ทรงช่วยให้เราทําเถอะ!
( ระยะทางระหว่างเมืองเยรูซาเล็มและเมืองเยรีโค : 38 กิโลเมตร/ เดิน 7 ชั่วโมง 34 นาที/ ขับรถ 38 นาที)
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
อาทิตย์ที่ 16 ในเทศกาลธรรมดา 20 กรกฎาคม 2025
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ โยแซฟ Father Joseph วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง ปฐมกาล 18:1-10
พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระองค์แก่อับราฮัมที่หมู่ต้นโอ๊คของ*มัมเร ขณะนั้นเป็นเวลาแดดร้อนจัด อับราฮัมกำลังนั่งอยู่ที่ประตูกระโจม เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นชายสามคนยืนอยู่ใกล้ตน ทันทีที่เห็น อับราฮัมก็วิ่งจากประตูกระโจมไปต้อนรับและกราบลงที่พื้นดิน เขาพูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าท่านโปรดปรานข้าพเจ้า โปรดอย่าผ่านผู้รับใช้ของท่านไปเลย ข้าพเจ้าจะให้เขาเอาน้ำมาล้างเท้าให้ท่าน เชิญท่านพักใต้ต้นไม้นี้เถิด ขอให้ข้าพเจ้าไปนำอาหารมาให้ท่านสักเล็กน้อย ท่านจะได้สดชื่น มีกำลังเดินทางต่อไป ท่านมาถึงบ้านข้าพเจ้าแล้ว ขอให้ข้าพเจ้ารับใช้ท่านเถิด” เขาทั้งสามจึงตอบว่า “จงทำตามที่ท่านพูดนั้นเถิด” อับราฮัมรีบเข้าไปในกระโจมของนางซาราห์ และบอกว่า “เร็วเข้า ไปเอาแป้งละเอียดมานวดและทำขนมปังสำหรับแขกสามคนเถิด” แล้วอับราฮัมวิ่งไปที่ฝูงสัตว์ นำลูกโคอ้วนพีตัวหนึ่งให้ผู้รับใช้ฆ่า และรีบปรุงเป็นอาหาร เขาเอานมข้นเปรี้ยว น้ำนมสดและเนื้อลูกโคที่เตรียมแล้วมาวางต่อหน้าคนทั้งสาม และยืนอยู่ใต้ต้นไม้คอยรับใช้ ขณะที่คนทั้งสามกำลังกินอาหาร เขาเหล่านั้นถามว่า “นางซาราห์ภรรยาของท่านอยู่ที่ไหน” อับราฮัมตอบว่า “นางอยู่ในกระโจม” คนหนึ่งจึงพูดว่า “ปีหน้า เราจะกลับมาหาท่านอีกอย่างแน่นอน นางซาราห์ภรรยาของท่านจะมีบุตรชายคนหนึ่ง”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 1:24-28
บัดนี้ข้าพเจ้ายินดีที่ได้รับทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายของข้าพเจ้า เพื่อพระกายของพระองค์คือพระศาสนจักร ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้พระศาสนจักรนี้ตามภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้ เพื่อจะได้ประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ท่านอย่างสมบูรณ์ นั่นคือธรรมล้ำลึกที่ซ่อนอยู่ตลอดทุกยุคสมัย บัดนี้ธรรมล้ำลึกปรากฏชัดแจ้งแก่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แล้ว พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะแสดงให้เขาเหล่านั้นรู้ว่า ธรรมล้ำลึกนี้ได้นำพระสิริรุ่งโรจน์ล้นเหลือมาให้คนต่างศาสนา นั่นคือการที่พระคริสตเจ้าทรงดำรงอยู่ในท่าน ทรงเป็นความหวังเพื่อให้ท่านได้รับความรุ่งเรือง เราประกาศถึงพระคริสตเจ้าพระองค์นี้ โดยเตือนและสอนทุกคนให้มีความรู้ทุกอย่างเพื่อให้แต่ละคนดีพร้อมเดชะพระคริสตเจ้า
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:38-42
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์เสด็จเข้าไปใน**หมู่บ้านแห่งหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งชื่อมารธารับเสด็จพระองค์ที่บ้าน นางมีน้องสาวชื่อมารีย์ซึ่งนั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า คอยฟังพระวาจาของพระองค์ มารธากำลังยุ่งอยู่กับการปรนนิบัติรับใช้จึงเข้ามาทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวปล่อยดิฉันคนเดียวให้ปรนนิบัติรับใช้ ขอพระองค์บอกเขาให้มาช่วยดิฉันบ้าง” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “มารธา มารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”
คุณพ่อโยแซฟ: พระเป็นเจ้าทรงบอกอับราฮัมว่าซาราห์จะมีบุตรชายแม้ว่าทั้งสองจะมีอายุชราและซาราห์ไม่สามารถจะมีบุตรได้แล้ว ทรงกระทําให้คําสัญญาของพระองค์ที่มีต่ออับราฮัมให้เป็นจริงว่าลูกหลานของท่าน (และลูกหลานในความเชื่อของท่าน) จะมากมายเหมือนดาวในท้องฟ้าที่มากมายนับไม่ถ้วน
พระเป็นเจ้าคือของขวัญแห่งชีวิต จงวางใจในพระองค์
พระศาสนาจักรโรมันคาทอลิกของเราห้ามสามีภรรยาใช้เครื่องคุมกําเนิดทุกประเภท บอกให้เราทําตามวงจรของร่างกายของภรรยาในรอบเดือนที่พร้อมและไม่พร้อมในการตั้งครรภ์ ควบคุมและสะกดกลั้นการมีเพศสัมพันธ์ และถ้ายังไม่พร้อมจะมีลูกเพราะพึ่งแต่งงานและอาชีพการงานยังไม่เข้าที่เข้าทางก็จงสวดภาวนาและเชิญพระเป็นเจ้าให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
(ก่อนจบมิสซา คุณพ่อเชิญหญิงสาวที่มีลูกสาวสองคนมาพูดเรื่องการตัดสินใจชะลอจะมีลูกเมื่อพึ่งแต่งงานเพราะยังไม่พร้อมด้านการงานและการเงิน เธอกับสามีสวดภาวนาขอพระเป็นเจ้าประทานความสว่าง และสามีภรรยาตัดสินใจไม่ใช้ยาคุมกําเนิดแต่ทําตามวงจรของร่างกายของภรรยาในรอบเดือนที่พร้อมและไม่พร้อมในการตั้งครรภ์ ควบคุมและสะกดกลั้นการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อพร้อมเธอก็ตั้งครรภ์และพระเป็นเจ้าประทานลูกสาวน่ารักให้สองคนสมปรารถนา...พวกเราพ่อคนแม่คนร่วมสามร้อยตบมือลั่นสนั่นวัด!)
*มัมเร ( Mamre) ปัจจุบันอยู่ในเวสแบ็งค์ เขตปกครองของปาเลสไตน์
** เบธานี ( Bethany) ปัจจุบันคือเมืองอัล-อีซาริซา ( Al- Eizariza= สถานที่ของลาซาลัส)
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ โยแซฟ Father Joseph วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง ปฐมกาล 18:1-10
พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระองค์แก่อับราฮัมที่หมู่ต้นโอ๊คของ*มัมเร ขณะนั้นเป็นเวลาแดดร้อนจัด อับราฮัมกำลังนั่งอยู่ที่ประตูกระโจม เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นชายสามคนยืนอยู่ใกล้ตน ทันทีที่เห็น อับราฮัมก็วิ่งจากประตูกระโจมไปต้อนรับและกราบลงที่พื้นดิน เขาพูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าท่านโปรดปรานข้าพเจ้า โปรดอย่าผ่านผู้รับใช้ของท่านไปเลย ข้าพเจ้าจะให้เขาเอาน้ำมาล้างเท้าให้ท่าน เชิญท่านพักใต้ต้นไม้นี้เถิด ขอให้ข้าพเจ้าไปนำอาหารมาให้ท่านสักเล็กน้อย ท่านจะได้สดชื่น มีกำลังเดินทางต่อไป ท่านมาถึงบ้านข้าพเจ้าแล้ว ขอให้ข้าพเจ้ารับใช้ท่านเถิด” เขาทั้งสามจึงตอบว่า “จงทำตามที่ท่านพูดนั้นเถิด” อับราฮัมรีบเข้าไปในกระโจมของนางซาราห์ และบอกว่า “เร็วเข้า ไปเอาแป้งละเอียดมานวดและทำขนมปังสำหรับแขกสามคนเถิด” แล้วอับราฮัมวิ่งไปที่ฝูงสัตว์ นำลูกโคอ้วนพีตัวหนึ่งให้ผู้รับใช้ฆ่า และรีบปรุงเป็นอาหาร เขาเอานมข้นเปรี้ยว น้ำนมสดและเนื้อลูกโคที่เตรียมแล้วมาวางต่อหน้าคนทั้งสาม และยืนอยู่ใต้ต้นไม้คอยรับใช้ ขณะที่คนทั้งสามกำลังกินอาหาร เขาเหล่านั้นถามว่า “นางซาราห์ภรรยาของท่านอยู่ที่ไหน” อับราฮัมตอบว่า “นางอยู่ในกระโจม” คนหนึ่งจึงพูดว่า “ปีหน้า เราจะกลับมาหาท่านอีกอย่างแน่นอน นางซาราห์ภรรยาของท่านจะมีบุตรชายคนหนึ่ง”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 1:24-28
บัดนี้ข้าพเจ้ายินดีที่ได้รับทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายของข้าพเจ้า เพื่อพระกายของพระองค์คือพระศาสนจักร ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้พระศาสนจักรนี้ตามภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้ เพื่อจะได้ประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ท่านอย่างสมบูรณ์ นั่นคือธรรมล้ำลึกที่ซ่อนอยู่ตลอดทุกยุคสมัย บัดนี้ธรรมล้ำลึกปรากฏชัดแจ้งแก่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แล้ว พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะแสดงให้เขาเหล่านั้นรู้ว่า ธรรมล้ำลึกนี้ได้นำพระสิริรุ่งโรจน์ล้นเหลือมาให้คนต่างศาสนา นั่นคือการที่พระคริสตเจ้าทรงดำรงอยู่ในท่าน ทรงเป็นความหวังเพื่อให้ท่านได้รับความรุ่งเรือง เราประกาศถึงพระคริสตเจ้าพระองค์นี้ โดยเตือนและสอนทุกคนให้มีความรู้ทุกอย่างเพื่อให้แต่ละคนดีพร้อมเดชะพระคริสตเจ้า
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:38-42
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์เสด็จเข้าไปใน**หมู่บ้านแห่งหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งชื่อมารธารับเสด็จพระองค์ที่บ้าน นางมีน้องสาวชื่อมารีย์ซึ่งนั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า คอยฟังพระวาจาของพระองค์ มารธากำลังยุ่งอยู่กับการปรนนิบัติรับใช้จึงเข้ามาทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวปล่อยดิฉันคนเดียวให้ปรนนิบัติรับใช้ ขอพระองค์บอกเขาให้มาช่วยดิฉันบ้าง” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “มารธา มารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”
คุณพ่อโยแซฟ: พระเป็นเจ้าทรงบอกอับราฮัมว่าซาราห์จะมีบุตรชายแม้ว่าทั้งสองจะมีอายุชราและซาราห์ไม่สามารถจะมีบุตรได้แล้ว ทรงกระทําให้คําสัญญาของพระองค์ที่มีต่ออับราฮัมให้เป็นจริงว่าลูกหลานของท่าน (และลูกหลานในความเชื่อของท่าน) จะมากมายเหมือนดาวในท้องฟ้าที่มากมายนับไม่ถ้วน
พระเป็นเจ้าคือของขวัญแห่งชีวิต จงวางใจในพระองค์
พระศาสนาจักรโรมันคาทอลิกของเราห้ามสามีภรรยาใช้เครื่องคุมกําเนิดทุกประเภท บอกให้เราทําตามวงจรของร่างกายของภรรยาในรอบเดือนที่พร้อมและไม่พร้อมในการตั้งครรภ์ ควบคุมและสะกดกลั้นการมีเพศสัมพันธ์ และถ้ายังไม่พร้อมจะมีลูกเพราะพึ่งแต่งงานและอาชีพการงานยังไม่เข้าที่เข้าทางก็จงสวดภาวนาและเชิญพระเป็นเจ้าให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
(ก่อนจบมิสซา คุณพ่อเชิญหญิงสาวที่มีลูกสาวสองคนมาพูดเรื่องการตัดสินใจชะลอจะมีลูกเมื่อพึ่งแต่งงานเพราะยังไม่พร้อมด้านการงานและการเงิน เธอกับสามีสวดภาวนาขอพระเป็นเจ้าประทานความสว่าง และสามีภรรยาตัดสินใจไม่ใช้ยาคุมกําเนิดแต่ทําตามวงจรของร่างกายของภรรยาในรอบเดือนที่พร้อมและไม่พร้อมในการตั้งครรภ์ ควบคุมและสะกดกลั้นการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อพร้อมเธอก็ตั้งครรภ์และพระเป็นเจ้าประทานลูกสาวน่ารักให้สองคนสมปรารถนา...พวกเราพ่อคนแม่คนร่วมสามร้อยตบมือลั่นสนั่นวัด!)
*มัมเร ( Mamre) ปัจจุบันอยู่ในเวสแบ็งค์ เขตปกครองของปาเลสไตน์
** เบธานี ( Bethany) ปัจจุบันคือเมืองอัล-อีซาริซา ( Al- Eizariza= สถานที่ของลาซาลัส)
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
อาทิตย์ที่ 17 ในเทศกาลธรรมดา 27 กรกฎาคม 2025
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของสังฆานุกร รอน วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Deacon Ron, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง ปฐมกาล 18:20-32
พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เสียงกล่าวโทษเมืองโสโดมและโกโมราห์นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก เราจะลงไปดูว่าเป็นจริงตามเสียงกล่าวโทษทั้งหมดนี้หรือไม่ เราอยากรู้” ชายเหล่านั้นจึงออกจากที่นั่นเดินตรงไปยังเมืองโสดม แต่อับราฮัมยังยืนเฝ้าพระยาห์เวห์อยู่ อับราฮัมเข้ามาใกล้ทูลถามว่า “พระองค์จะทรงทำลายผู้ชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรมเทียวหรือ ถ้ามีคนชอบธรรมอยู่ห้าสิบคนในเมืองนั้น พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นหรือ พระองค์จะไม่ทรงอภัยเมืองนั้นเพราะเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ที่นั่นหรือ ขอพระองค์อย่าทรงคิดที่จะกระทำเช่นนั้นเลย อย่าทรงคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม อย่าทรงกระทำกับคนชอบธรรมเช่นเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงกระทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้ทรงพิพากษาตัดสินโลกจะไม่ทรงกระทำสิ่งที่ถูกต้องหรือ” พระยาห์เวห์ตรัสตอบว่า “ถ้าเราพบคนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองโสดม เราจะให้อภัยเมืองนั้น เพราะเห็นแก่เขา” อับราฮัมทูลอีกว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นเพียงฝุ่นผงและขี้เถ้า ถ้าในห้าสิบคนนั้นขาดไปห้าคน พระองค์ยังจะทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะขาดไปห้าคนหรือ” พระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบคนชอบธรรมสี่สิบห้าคนที่นั่น” อับราฮัมทูลพระองค์อีกว่า “ถ้าทรงพบเพียงสี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย เพราะเห็นแก่สี่สิบคน” อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสามสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบสามสิบคน” อับราฮัมทูลว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงยี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่ยี่สิบคน” อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย “ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่สิบคน”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 2:12-14
เมื่อรับศีลล้างบาป ท่านทั้งหลายถูกฝังพร้อมกับพระคริสตเจ้าและกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ด้วยความเชื่อในพระเดชานุภาพของพระเจ้า ผู้ทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย ในอดีตท่านตายแล้วเพราะการล่วงละเมิดและไม่ได้เข้าสุหนัตทางกาย แต่พระเจ้าโปรดให้ท่านมีชีวิตพร้อมกับพระคริสตเจ้า โดยทรงให้อภัยการล่วงละเมิดทั้งหลายของเรา พระองค์ทรงยกเลิกหนี้สินที่เรามีต่อบทบัญญัติซึ่งกล่าวหาเรา โดยทรงยกหนี้สินนั้นไปจากเรา และตรึงไว้กับไม้กางเขน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 11:1-13
วันหนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อทรงอธิษฐานจบแล้ว ศิษย์คนหนึ่งทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า โปรดสอนเราให้อธิษฐานภาวนาเหมือนกับที่ยอห์นสอนศิษย์ของเขาเถิด” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐานภาวนา จงพูดว่า “ข้าแต่พระบิดา พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ พระอาณาจักรจงมาถึง โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายทุกวัน โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย เหมือนข้าพเจ้าทั้งหลายให้อภัยแก่ผู้อื่น โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายไม่ให้แพ้การประจญ” พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “สมมติว่าท่านคนหนึ่งมีเพื่อนและไปพบเพื่อนนั้นตอนเที่ยงคืนกล่าวว่า “เพื่อนเอ๋ย ให้ฉันขอยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด
เพราะเพื่อนของฉันเพิ่งเดินทางมาถึงบ้านของฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้เขากิน” สมมติว่าเพื่อนคนนั้นตอบจากในบ้านว่า “อย่ารบกวนฉันเลย ประตูปิดแล้ว ลูกๆ กับฉันก็เข้านอนแล้ว ฉันลุกขึ้นให้สิ่งใดท่านไม่ได้หรอก” เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนนั้นไม่ลุกขึ้นให้ขนมปังเพราะเป็นเพื่อนกัน เขาก็จะลุกขึ้นมาให้สิ่งที่เพื่อนต้องการเพราะถูกรบเร้า เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน เพราะคนที่ขอย่อมได้รับ คนที่แสวงหาย่อมพบ คนที่เคาะประตูย่อมมีผู้เปิดประตูให้ ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ ถ้าลูกขอไข่ จะให้แมงป่องหรือ แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดี ๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”
สังฆานุกร รอน: ขอแล้วจะได้รับ หาแล้วจะพบ เคาะแล้วประตูจะเปิดให้ การสวดภาวนาคือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า พระเจ้าประทับอยู่กับเรา บางครั้งจินตนาการของเราวิ่งเตลิดเปิดเปิง การสวดภาวนาเป็นเหมือนสมอที่ยึดตรึงเราให้นิ่ง
เวลาสวดภาวนาเราต้องมีสติรู้ว่าเรากําลังพูดอะไร พระเจ้าประทานความรักให้เรา ทําให้เรารักผู้อื่น ความรักคือพระเจ้า จงสวดภาวนาให้ศัตรูของเรา จงสวดภาวนาในความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
สุดยอดของการสวดภาวนาคือการร่วมมิสซา จงมีส่วนร่วมกับคุณพ่อและทุกคนที่มาร่วม รวมทั้งการขานรับ และร้องเพลง
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของสังฆานุกร รอน วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Deacon Ron, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง ปฐมกาล 18:20-32
พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เสียงกล่าวโทษเมืองโสโดมและโกโมราห์นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก เราจะลงไปดูว่าเป็นจริงตามเสียงกล่าวโทษทั้งหมดนี้หรือไม่ เราอยากรู้” ชายเหล่านั้นจึงออกจากที่นั่นเดินตรงไปยังเมืองโสดม แต่อับราฮัมยังยืนเฝ้าพระยาห์เวห์อยู่ อับราฮัมเข้ามาใกล้ทูลถามว่า “พระองค์จะทรงทำลายผู้ชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรมเทียวหรือ ถ้ามีคนชอบธรรมอยู่ห้าสิบคนในเมืองนั้น พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นหรือ พระองค์จะไม่ทรงอภัยเมืองนั้นเพราะเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ที่นั่นหรือ ขอพระองค์อย่าทรงคิดที่จะกระทำเช่นนั้นเลย อย่าทรงคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม อย่าทรงกระทำกับคนชอบธรรมเช่นเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงกระทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้ทรงพิพากษาตัดสินโลกจะไม่ทรงกระทำสิ่งที่ถูกต้องหรือ” พระยาห์เวห์ตรัสตอบว่า “ถ้าเราพบคนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองโสดม เราจะให้อภัยเมืองนั้น เพราะเห็นแก่เขา” อับราฮัมทูลอีกว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นเพียงฝุ่นผงและขี้เถ้า ถ้าในห้าสิบคนนั้นขาดไปห้าคน พระองค์ยังจะทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะขาดไปห้าคนหรือ” พระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบคนชอบธรรมสี่สิบห้าคนที่นั่น” อับราฮัมทูลพระองค์อีกว่า “ถ้าทรงพบเพียงสี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย เพราะเห็นแก่สี่สิบคน” อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสามสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบสามสิบคน” อับราฮัมทูลว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงยี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่ยี่สิบคน” อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย “ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่สิบคน”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 2:12-14
เมื่อรับศีลล้างบาป ท่านทั้งหลายถูกฝังพร้อมกับพระคริสตเจ้าและกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ด้วยความเชื่อในพระเดชานุภาพของพระเจ้า ผู้ทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย ในอดีตท่านตายแล้วเพราะการล่วงละเมิดและไม่ได้เข้าสุหนัตทางกาย แต่พระเจ้าโปรดให้ท่านมีชีวิตพร้อมกับพระคริสตเจ้า โดยทรงให้อภัยการล่วงละเมิดทั้งหลายของเรา พระองค์ทรงยกเลิกหนี้สินที่เรามีต่อบทบัญญัติซึ่งกล่าวหาเรา โดยทรงยกหนี้สินนั้นไปจากเรา และตรึงไว้กับไม้กางเขน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 11:1-13
วันหนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อทรงอธิษฐานจบแล้ว ศิษย์คนหนึ่งทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า โปรดสอนเราให้อธิษฐานภาวนาเหมือนกับที่ยอห์นสอนศิษย์ของเขาเถิด” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐานภาวนา จงพูดว่า “ข้าแต่พระบิดา พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ พระอาณาจักรจงมาถึง โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายทุกวัน โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย เหมือนข้าพเจ้าทั้งหลายให้อภัยแก่ผู้อื่น โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายไม่ให้แพ้การประจญ” พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “สมมติว่าท่านคนหนึ่งมีเพื่อนและไปพบเพื่อนนั้นตอนเที่ยงคืนกล่าวว่า “เพื่อนเอ๋ย ให้ฉันขอยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด
เพราะเพื่อนของฉันเพิ่งเดินทางมาถึงบ้านของฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้เขากิน” สมมติว่าเพื่อนคนนั้นตอบจากในบ้านว่า “อย่ารบกวนฉันเลย ประตูปิดแล้ว ลูกๆ กับฉันก็เข้านอนแล้ว ฉันลุกขึ้นให้สิ่งใดท่านไม่ได้หรอก” เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนนั้นไม่ลุกขึ้นให้ขนมปังเพราะเป็นเพื่อนกัน เขาก็จะลุกขึ้นมาให้สิ่งที่เพื่อนต้องการเพราะถูกรบเร้า เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน เพราะคนที่ขอย่อมได้รับ คนที่แสวงหาย่อมพบ คนที่เคาะประตูย่อมมีผู้เปิดประตูให้ ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ ถ้าลูกขอไข่ จะให้แมงป่องหรือ แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดี ๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”
สังฆานุกร รอน: ขอแล้วจะได้รับ หาแล้วจะพบ เคาะแล้วประตูจะเปิดให้ การสวดภาวนาคือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า พระเจ้าประทับอยู่กับเรา บางครั้งจินตนาการของเราวิ่งเตลิดเปิดเปิง การสวดภาวนาเป็นเหมือนสมอที่ยึดตรึงเราให้นิ่ง
เวลาสวดภาวนาเราต้องมีสติรู้ว่าเรากําลังพูดอะไร พระเจ้าประทานความรักให้เรา ทําให้เรารักผู้อื่น ความรักคือพระเจ้า จงสวดภาวนาให้ศัตรูของเรา จงสวดภาวนาในความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
สุดยอดของการสวดภาวนาคือการร่วมมิสซา จงมีส่วนร่วมกับคุณพ่อและทุกคนที่มาร่วม รวมทั้งการขานรับ และร้องเพลง
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.