หน้า 1 จากทั้งหมด 1
					
				+ เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 03, 2009 11:24 pm
				โดย ~@Little lamb@~
				พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป?
 วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2009  เวลา 05:10-06:10 น.
        
      “ลูกที่รักทั้งหลาย  ความตายได้บอกอะไรแก่ลูกบ้าง  วันนี้ลูกหลายๆคนคงจะไปร่วมพิธี
บูชามิสซารำลึกถึงญาติพี่น้องและมิตรสหายผู้ล่วงลับของลูก  ลูกเคยถามตนเองบ้างไหมว่าความตาย
ของบุคคลเหล่านั้นได้สอนอะไรแก่ลูกบ้าง  สักวันหนึ่งลูกเองก็จะต้องตายเช่นกัน  ลูกได้เตรียมพร้อม
ไว้เพื่อการนี้ดีพอแล้วหรือยัง  เหตุว่าไม่มีทางล่วงรู้ได้ว่าเมื่อใดคือวันสุดท้ายของลูก  อายุไม่ใช่ข้อจำกัด
เสมอไป  ถึงแม้ลูกจะอายุน้อยหากถึงเวลาของลูก  ทุกสิ่งก็จะเป็นไปดั่งนั้น  ด้วยเหตุนี้ลูกทั้งหลายจึง
ไม่ควรตั้งตนอยู่ในความประมาท  ลูกได้เตรียมพร้อมสำหรับการกลับคืนสู่บ้านแท้ของลูกไว้เพียงใด
               แล้วเทศกาลมหาพรตนี้เล่ามีความหมายอะไรแก่ชีวิตคริสตชนของลูกบ้าง  ลูกได้เตรียมตัว
ไว้เป็นอย่างดีในทุกๆวันแล้วหรือยัง  จงอย่ายึดติดกับคำว่าพรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป  หากลูกรอแต่วันพรุ่งนี้  
แล้ววันนี้ของลูกเล่า  ลูกจะปล่อยให้สูญเปล่าไปวันๆเท่านั้นหรอกหรือ
               แม่เห็นหลายคนหยิบกระบอกใส่เงินมาจากวัด ลูกได้เข้าใจความหมายของกิจการนี้ดีแล้วหรือยัง  
ยังมีลูกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้หยิบกลับไปที่บ้าน  บางคนก็นำกลับไปที่บ้านแล้วแต่ไปตั้งไว้เฉยๆ  
แม่มองเห็นแต่ความว่างเปล่าในนั้น  กิจการทั้งหลายในชีวิตประจำวันของลูกคงไม่มีที่ว่างพอสำหรับ
กิจการแห่งความ รัก การเสียสละและการแบ่งปันแล้วกระมัง  นี่แหละภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้น  
แม่คงไม่ต้องบอกลูกกระมังว่าเกิดขึ้น ณ ที่ใด
               ลูกที่รักทั้งหลาย  กิจการของสวรรค์นั้นต้องเกิดจากความสมัครใจของลูกเอง  ไม่มีผู้ใดบังคับลูกได้  
แม่เฝ้ามองลูกๆมาโดยตลอดและเพียรเฝ้าส่งข่าวให้ลูกอย่างสม่ำเสมอ  ลูกคงไม่รู้หรอกว่าคำว่าพรุ่งนี้
ของลูกทำให้แม่นี้ต้องเศร้าใจเพียงใด
               ขอสันติสุขจงเป็นของลูกที่รักเสมอ จากแม่ มารดาผู้เห็นอกเห็นใจของลูกๆทุกคน” 
                                                         ************ 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 03, 2009 11:24 pm
				โดย ~@Little lamb@~
				ความเฉยชาของมนุษย์
8 มีนาคม 2009  เวลา 00:30-01:38 น.
“เปโตรน้อย นานแล้วซินะที่แม่ไม่ได้เรียกลูกด้วยชื่อนี้  วันนี้แม่เห็นความตั้งใจอันดีของลูกมาโดยตลอด  
ลูกทำงานให้แม่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รักษาสุขภาพบ้างนะลูก  แม่ยังไม่อยากเห็นลูกล้มเจ็บลงไปอีกครั้ง 
วันนี้ลูกคงสัมผัสได้ ด้วยตนเองอีกครั้ง  การอ่านทบทวนสารของแม่ที่ผ่านมา  มีหลายเรื่องที่สะดุดใจลูก  
แม่เห็นน้ำตาของลูกไหลออกมาโดยที่ลูกเองไม่สามารถห้ามไว้ได้  ลูกรักไม่ใช่แต่ลูกแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้นหรอกนะ  
บางครั้งแม่นี้ก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาของแม่ไว้ได้เหมือนกัน  ความหลงลืมและบาปความผิดทั้งหลายของมนุษย์นี่แหละ
ที่ทำให้แม่ต้องเสียน้ำตา มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
เปโตรน้อย  วันนี้แม่จึงใช้ลูกนี่แหละเป็นสื่อสารของแม่ไปยังลูกๆที่รักทั้งหลายของแม่  แม่มีความอึดอัดใจเป็นบ้าง
เหมือนกันนะลูก  แม่เป็นเพียงมนุษย์ผู้ต่ำต้อยที่ได้รับพระเมตตาจากพระบิดาเจ้าสวรรค์  แม่ไม่ใช่พระเจ้าอย่างที่หลายๆคน
กำลังสำคัญแม่ผิดไป ด้วยความเป็นมนุษย์ของแม่นี่แหละทำให้แม่ได้รับอนุญาตจากพระบิดาเจ้าสวรรค์ ลงมาสื่อสารกับลูกๆได้  
สิ่งที่แม่หนักใจมากที่สุดก็คือ ความชินชาในบาปและความแห้งแล้งในดวงใจของลูกๆนั่นแหละ  ลูกอาจจะบอกว่า  
แม่พูดอะไร ลูกไม่เข้าใจ ตอนนี้ลูกก็เป็นคนดี ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่นา  แล้วเหตุใดแม่ถึงได้กล่าวเช่นนี้อีก
ลูกจำได้หรือไม่ว่าเมื่อปลายเดือนที่แล้วเราได้คุยกันถึงเรื่องอะไรกันไว้บ้าง  ลูกลองทบทวนและพิจาณาไตร่ตรองดูเองเถิด  
ความตั้งใจของลูกตอนนี้เหลือกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว  แทนที่ลูกจะได้ใช้ช่วงเวลานี้สำรวมและสำรวจมโนธรรมของลูกให้มากขึ้น  
แต่ผลกลับเป็นเช่นใดเล่า  ลูกที่รักทั้งหลาย  ทีแรกลูกก็ทำประหนึ่งว่าเชื่อฟังดี  แต่มา ณ บัดนี้  เหตุไฉนลูกจึงได้
วางเฉยมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆเสียอีก  ลูกรัก  ลูกเคยสำรวจตนเองบ้างไหมว่า เกิดอะไรขึ้นในชีวิตของลูกขณะนี้  
จงอย่าโทษสิ่งใดเลยลูกรัก  ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของลูกเองต่างหาก  หากลูกไม่อนุญาต หากใจลูกไม่ยินดี  
ผลงานของปีศาจไม่สามารถเข้ามามีอิทธิพลเหนือลูกได้หรอก  จงตรองให้จงหนักเถิดว่า  ลูกได้พยายามอย่างเต็มที่
แล้วหรือยัง  เลิกคิดได้แล้วนะว่าสิ่งที่ลูกคิด สิ่งที่ลูกได้ละเลย หรือสิ่งที่ลูกได้ทำนั้นไม่มีผู้ใดรู้เห็น  แม่อยากให้ลูกสำรวจ
มโนธรรมในแต่ละวัน  อย่างน้อยก็ก่อนนอนเพื่อลูกจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของลูก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่ลูก
เดินออกไปรับศีล ลูกได้พิจาณาอย่างถี่ถ้วนแล้วหรือยัง  หากลูกไม่ได้ชำระมลทินของลูกเป็นอย่างดี ลูกไม่ได้สำนึกอย่างแท้จริง 
ความเฉยชาของลูกมันสอนลูกว่าไม่เป็นไร  ไม่มีใครเขาถือสากันแล้วในยุคนี้  สิ่งที่ลูกทำนี้ไม่เป็นบาปหรอก  
ใครๆเขาก็ทำเยี่ยงนี้กันทั้งนั้น  แม่รู้สึกว่าอะไรที่คนส่วนใหญ่ทำร่วมกันนั้น คือความถูกต้อง ชอบธรรมและกลายเป็น
แม่แบบบรรทัดฐานสำหรับลูกๆเสียแล้ว
นี่แหละคือ ความอึดอัดใจของแม่  แม่รู้ แม่เข้าใจ และแม่ให้โอกาส   แต่จะมีลูกสักกี่คนที่ตระหนักและเข้าใจถึง
ความไว้วางใจที่แม่มีต่อลูกที่รักทั้งหลาย  ลูกลองตรองดูเอาบ้างเถิด  หากความรัก ความปรารถนาดีของลูก
ไม่ได้รับการตอบสนอง  การวางเฉยโดยไม่ได้กระทำสิ่งใด  ลูกคิดว่าผู้ที่ปฏิบัติเช่นนี้ต่อลูกนั้นฟังเสียงของลูก
บ้างหรือเปล่า แม่สื่อสารกับลูกด้วยวิธีการเยี่ยงมนุษย์เช่นนี้แล้ว  แม่หวังว่าลูกคงจักเข้าใจนะว่า  
แม่นี้รักลูกมากเพียงใด  จากแม่ของลูก  มารดาผู้เห็นอกเห็นใจของลูกๆทุกคน”
************ 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 03, 2009 11:24 pm
				โดย ~@Little lamb@~
				 คำขอบคุณหายไปไหน?
             วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2009  เวลา 02:25-03:130 น.
“เปโตรน้อย  แม่ขอบใจที่ลูกลุกขึ้นมาในทันใดที่แม่เรียกลูก  สองสามวันที่ผ่านมานี้ลูกได้เป็นตัวแทนครอบครัวของลูก
ไปร่วมสวดภาวนารำลึก ถึงผู้ตายโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ด้วยความรู้สึกของลูกบอกว่า  สักวันก็คงจะถึงเวลาของแม่
ของลูกเช่นกัน  แม่รู้ว่าลูกมีความตั้งใจดีที่จะทำกิจการหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อช่วยบรรเทา ความเศร้าโศกของบุคคล
ในครอบครัวของผู้ตาย  แต่ด้วยโอกาสไม่เหมาะสม  และลูกไม่ต้องการแสดงตัวให้เป็นที่สะดุดแก่คนทั้งหลาย  
ลูกจึงได้นิ่งอยู่ในความสงบ  เป็นการชอบแล้ว 
จงให้การเยียวยา เฉพาะผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น  ไม่ใช่ทำด้วยน้ำใจของลูกที่มีจิตสงสาร  
ลูกต้องดูที่ความจำเป็นในขณะนั้นด้วย  ลูกอาจรู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจ  แต่พระพรนี้ไม่ใช่ของลูก  ลูกจึงไม่สามารถ
ใช้ตามอำเภอใจของลูกเองได้  หากลูกตระหนักใจได้ดั่งนี้ ลูกจะเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่ลูกจะต้องให้การช่วยเหลือด้วยวิธีนี้  
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ  จิตใจของผู้รับการช่วยเหลือจะต้องเปิด  ต้องร้องหา  มีความตั้งใจจริงที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง 
และรักษาคำมั่นสัญญาอย่างเคร่งครัด  เพื่อเป็นการขอบคุณในน้ำพระทัยดีของพระบิดาเจ้าสวรรค์ที่ทรงเมตตาแก่เขาด้วย
หลายคนไม่ได้ศรัทธาแต่ต้องการเฉพาะความบรรเทา  เมื่อได้รับความช่วยเหลือแล้วก็กลับไปใช้ชีวิตเช่นดั่งเดิม  
เปรียบเสมือนดั่งคนโรคเรื้อนที่ไม่ได้หันกลับมาขอบคุณความรักที่พระองค์ได้ มอบให้แต่อย่างใด
เหตุที่แม่ต้องกล่าวนำเช่นนี้  มนุษย์มักจะหลงลืมขอบคุณไปเสียทุกครั้ง  เมื่อได้รับการช่วยเหลือ   
เมื่อได้รับการบรรเทาแล้ว  ก็ไม่ได้สำนึกในพระพรที่ได้รับ  การขอบคุณนั้นลูกไม่ได้เสียอะไรเลย  
แต่ลูกจะได้สิ่งที่มีคุณค่ากับจิตใจของลูกกลับมาอย่างมากมาย  แต่ลูกก็ประหยัดที่จะกล่าวคำขอบคุณนี้
ในแต่ละวันลูกได้รับพระพร แห่งความรักของพระบิดาเจ้าสวรรค์อย่างมากมาย ในรูปแบบที่แตกต่างกัน  
แต่มีสักกี่ครั้งที่ลูกได้ตระหนักและไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณในน้ำพระทัยดี ของพระองค์จากความรู้สึกอันแท้จริงของลูก  
ช่วงเทศกาลมหาพรตนึ้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ลูกจะได้พิจารณาทบทวนในสิ่งที่ลูก ได้หลงลืมไป 
ขอสันติสุขจงเป็นของลูกที่รักทั้งหลาย จากแม่ของลูก มารดาผู้เห็นอกเห็นใจของลูกๆทุกคน” 
 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 03, 2009 11:24 pm
				โดย ~@Little lamb@~
				จงกลับใจเสียเถิด
วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2009  เวลา 01:25-03:25 น.
“เปโตรน้อย แม่ขอบใจที่ลูกได้พยายามแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการภาวนาจากหัวใจของลูก  บทเพลงต่างๆ
ที่ลูกได้ขับร้องเมื่อวานนี้เข้าถึงจิตใจของทุกๆคนที่ได้ยิน  เป็นการชอบแล้วลูกรัก ด้วยความจริงใจของลูก 
ทุกคนที่ได้สัมผัส  จิตใจที่แข็งกระด้างก็จะอ่อนโยนลงได้  ลูกไม่จำต้องเชิญชวน  ไม่จำต้องประกาศโฆษณา  
ด้วยการเป็นตัวของลูกเองนี่แหละ  ปราศจากการเสแสร้ง ทุกคนจะเข้าใจถึงสันติสุขแห่งการภาวนาด้วยตัว
ของเขาเอง นี่แหละสิ่งที่แม่ได้เพียรพร่ำสอนลูกมาโดยตลอด ลูกได้แสดงให้เห็นแล้วว่า  ลูกสามารถทำให้
มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้  ด้วยการนำไปปฏิบัติอย่างแท้จริง  ลูกไม่ได้ปล่อยให้คำสอนของแม่จบลงอยู่แค่สาร
ที่ลูกได้บันทึกเท่านั้น  แต่ลูกกำลังเป็นคำสอนที่มีชีวิตของแม่  ให้ผู้คนทั้งหลายได้ประจักษ์  ความสมถะ
และเรียบง่ายในตัวของลูกจะเป็นตัวอย่างให้ผู้คนได้เห็นเอง
จริงอยู่ความเป็นมนุษย์ในตัวตนของลูกยังมีอยู่มาก  แต่ลูกก็รู้จักเลือก  รู้จักบังคับให้อยู่ในวินัยได้  
ลูกไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจกับข้ออ้างเยี่ยงมนุษย์ทั้งหลาย  ว่าลูกเป็นผู้อ่อนแอและเลือกทำตามอิสระแห่งน้ำใจตนเอง  
ขอบใจมากเปโตรน้อย  เมื่อถึงคราวจำเป็น  ลูกก็เป็นหลักศิลาได้เหมือนกัน
วันนี้แม่จึง อยากฝากบอกไปยังลูกที่รักทั้งหลายของแม่ว่า  สำหรับลูกๆของแม่แล้ว   แม่ดูเฉพาะปัจจุบันของลูกเท่านั้น  
ลูกได้ตั้งใจทำอะไร  สิ่งที่ผ่านมาแล้วในอดีตได้จบสิ้นไปแล้ว  ลูกไม่สามารถแก้ไขหรือย้อนหลังกลับคืนไปได้อีก  
แต่ปัจจุบันของลูกต่างหากที่จะส่งผลไปถึงอนาคตข้างหน้าของลูก  วันนี้ลูกได้เตรียมปัจจุบันของลูกเป็น
อย่างดีแล้วหรือยัง  จงอย่าอ้างความอ่อนแอกับแม่อีก  ด้วยว่าในเวลาที่ลูกได้ตัดสินใจเลือกทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
ตามน้ำใจตนเองนั้น  ลูกมีพละกำลัง  มีความกล้าหาญ  เด็ดเดี่ยวและยอมรับในผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำ
ของลูกไว้ล่วงหน้าแล้ว  ณ เวลาเช่นนั้นลูกคิดว่าลูกอ่อนแอหรือ
เทศกาลมหาพรตนี้  หากลูกยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงตนเอง ยังคงประพฤติปฏิบัติตนเหมือนเช่นทุกๆวันที่ผ่านมาของลูก  
ลูกก็ไม่ได้เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของการนี้แต่อย่างใด  ลูกไม่จำต้องไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นหรอกลูก  
เปรียบเทียบกับตัวของลูกเองนั่นแหละว่า  วันนี้ลูกได้ทำกิจสิ่งใดบ้างที่แตกต่างไปจากเมื่อวานนี้  ชั่วโมงนี้ลูก
ได้ทำกิจสิ่งใดบ้างที่พัฒนาจิตวิญญาณของลูกไปในทางที่ดีขึ้น  และวินาทีนี้ลูกเลือกที่จะทำกิจสิ่งใด
แม่รู้ว่าหลายคนตั้งใจว่าใน เทศกาลมหาพรตนี้จะทำกิจศรัทธาเป็นพิเศษ  ลูกตั้งความหวังไว้สูงดั่งเช่นนักบุญพึงปฏิบัติ  
แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆแล้วลูกก็ไม่สามารถกระทำได้  และกล่าวอ้างว่า  ลูกเป็นคนบาป  ลูกอ่อนแอ  ลูกขอโทษ  
แม่เข้าใจถึงความรู้สึกนี้ดีนะลูก  แม่ไม่ได้ขอให้ลูกบังคับตนเองดั่งเช่นท่านนักบุญทั้งหลาย  ลูกยังไม่รู้จักความรัก
ของพระบิดาเจ้าสวรรค์อย่างแท้จริง  ลูกจึงยังไม่รู้ว่าทำไมท่านนักบุญทั้งหลายถึงได้เสียสละและยอมละทิ้งน้ำใจ 
แห่งตนเองได้มากมายถึงเพียงนั้น  แม่ขอแต่เพียงให้ลูกรู้จักตนเองอย่างถ่องแท้  ทำความเข้าใจกับกำลัง
และความสามารถของตนเองให้จงดี  และเลือกทำในสิ่งที่เป็นไปได้ในชีวิตจริงของลูกในวันนี้ก็เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับแม่
ในแต่ละวันของลูก  ลูกมีเวลามากมาย  ลูกได้บริหารเวลาของลูกอย่างไรบ้าง  ลูกได้ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไปแล้วกี่ชั่วโมง  
ลูกได้ใช้เวลาเพื่อความบันเทิงไปแล้วกี่ชั่วโมง  ลูกได้หมกมุ่นอยู่กับการพูดถึงผู้อื่นในทางไม่เหมาะสมอย่างสนุกสนานไปแล้วกี่ชั่วโมง  
กว่าลูกจะมีเวลาคิดถึงกิจศรัทธาที่ลูกคิดว่าลูกจะทำ  ลูกก็บอกกับแม่ว่า  ลูกไม่มีเวลาเลยวันนี้  แม้กระทั่งการสวดภาวนา  
ลูกก็ได้แต่คิดก่อนที่ลูกจะหลับไป  เมื่อลูกรู้สึกตัวขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น  ลูกก็รีบร้อนที่จะออกไปปฏิบัติภารกิจประจำวันของลูก  
โดยไม่มีเวลาที่จะขอบคุณในน้ำพระทัยดีของพระบิดาเจ้าสวรรค์ที่ทรงเมตตาให้ลูก มีชีวิตอยู่ในวันนี้เพื่อกล่าวสรรเสริญพระองค์  
และแบ่งปันความรักที่พระองค์ได้มอบให้แก่ลูกนี้ไปยังเพื่อนพี่น้องทั้งหลาย
หากลูกยังไม่ได้ทำกิจสิ่งใดที่เป็นประโยชน์แก่จิตวิญญาณของลูกในเทศกาลมหาพรตนี้  จงตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลนี้เถิด  
แม่รู้ว่าลูกทำได้  จงอย่างผัดวันประกันพรุ่งอีกเลย  ลูกเป็นผู้เลือกเองนะที่จะทำหรือไม่ทำกิจศรัทธาใดๆ  ดังนั้นการที่ลูก
จะบอกว่าไม่มีเวลานั้น  ลูกเองต่างหากที่เลือกปฏิบัติและไม่ทำกิจการใดๆที่ลูกไม่พึงประสงค์
จงทำความเข้าใจกับเทศกาลมหาพรตนี้ให้ถ่องแท้เถิดลูกที่รักทั้งหลาย  ลูกจะได้ประโยชน์อย่างมากมาย
แก่จิตวิญญาณของลูก  แม่มองเห็นลูกๆหลายคนเดินไปรับศีลด้วยจิตใจที่แข็งกระด้าง  ลูกยังไม่ได้ชำระมลทิน
ในจิตใจของลูกด้วยซ้ำไป  การรับศีลมหาสนิทสงวนไว้สำหรับลูกๆที่ได้เตรียมตัวเตรียมจิตใจมาแล้วเป็น อย่างดีเท่านั้น  
ลูกอายผู้อื่นหรือที่วันนี้ลูกไม่ได้ออกไปรับศีล  แต่ลูกกลับไม่อายพระบุตรสุดที่รักของแม่เมื่อลูกได้เชื้อเชิญ
ให้พระองค์เข้า มาประทับในพระวิหารอันรกร้างของลูก  การสำรวจมโนธรรมในการพิจาณาบาปของลูกใน
แต่ละวันนั้นหายไปไหน  บาปเล็กๆน้อยๆในแต่ละวันทำให้ลูกชินชาและไม่รู้สึกว่าเป็นบาปอีกต่อไปแล้วไม่ใช่หรือ 
ลูกๆของแม่หลายคนจึงไม่มีอะไรที่จะเข้าไปสารภาพบาปต่อพระสงฆ์  แม้แต่กิจใช้โทษบาปของลูกเองนั้น  
ลูกก็ยังลืมเพราะไม่ได้ใส่ใจและรีบที่จะออกจากที่บาปให้เร็วทีสุด  เพราะอายคนที่รออยู่ข้างหลัง  ลูกที่รักทั้งหลาย  
นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้  และลูกกำลังคุ้นเคยเป็นอย่างดี  หากลูกไม่คิดที่จะแก้ไขเสียแต่บัดนี้  
ลูกจะเผชิญหน้าเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ได้อย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง
จงกลับใจเสียเถิด  แล้วสันติสุขจะบังเกิดขึ้นในดวงใจของลูกที่รักทั้งหลาย  
จากแม่ของลูก มารดาผู้เห็นอกเห็นใจของลูกๆทุกคน” 
                                                   ************ 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 03, 2009 11:25 pm
				โดย ~@Little lamb@~
				 บทส่งท้ายของแม่รักลูกเล่มที่สอง
หน้าถ้ำแม่พระ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร
วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2009  เวลา 15:55-16:00 น.
“ลูก ที่รักทั้งหลาย แม่ขอขอบใจในความอุตสาหะของลูกๆที่ได้ตั้งใจสวดภาวนาอยู่ต่อหน้าแม่ในขณะนี้  
แม่ได้เห็นน้ำใจอันดีของลูกๆทุกคน  ถึงแม้อากาศค่อนข้างร้อนแต่ลูกๆทั้งหลายจะได้รับความบรรเทา  
ลูกคงไม่ได้คาดหวังที่จะได้รับความสะดวกสบายไม่ใช่หรือ  ความบรรเทาที่ว่านี้จะเกิดขึ้นในจิตใจของลูกๆนั่นเอง  
ขอบใจที่เลือกสวดมหาทุกข์ 7 ประการ  และส่งใจร่วมทุกข์กับแม่ด้วย  คำเสนอวิงวอนทั้งหลายที่ลูกได้วิงวอนผ่าน
สายประคำนี้  แม่จะอวยพรให้ลูกๆเป็นพิเศษ  แม่ขอบใจทุกๆคนขอให้ลูกอยู่ในสันติสุขและ ความรักของพระบิดา
เจ้าสวรรค์ตลอดไป จากแม่ของลูก มารดาผู้เห็นอกเห็นใจของลูกๆ ทุกคน” 
  วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2009  เวลา 03:00-03:30 น.
“ลูกที่รักทั้งหลาย  ความปิติยินดีทั้งหลายจะไม่อาจเกิดขึ้นได้เลยหากกิจการทั้งหลายของลูก 
ในวันนี้นั้นปราศจากหัวใจอันแท้จริงของลูก
แม่นี้ได้อยู่กับลูกมาโดยตลอด  และรู้จักลูกๆดีมากกว่าที่ลูกรู้จักตนเองเสียอีก แต่แม่ไม่เคยกล่าวอ้างหรือโอ้อวดแต่อย่างใด 
แม่จึงอยากขอให้ลูกที่รักทั้งหลายจงมีจิตใจที่บริสุทธิ์ เพื่อว่าลูกจะได้เปิดรับแต่ในสิ่งที่ดี  หากลูกจะดูแม่ไว้เป็นแบบอย่าง  
และนำไปปฏิบัติตาม ชีวิตของลูกทั้งหลายจะประสบแต่สันติสุข
วันนี้แม่คอยอยู่กับลูก ร่วมใจไปกับลูกในการสวดภาวนาของลูกๆทุกคน  หากวันนี้ลูกได้ เปิดจิตใจของลูกอย่างแท้จริง  
คำภาวนาทั้งหลายในค่ำคืนนี้นั้น  แม่ขอน้อมรับเอาไว้ด้วย ความเบิกบานในดวงใจ  สิ่งที่แม่ต้องการเห็นในตัวลูกๆก็คือ
ความจริงใจ  ด้วยหัวใจอันแท้จริงของลูกนี่แหละจักเป็นเครื่องจรรโลงโลกนี้ให้สงบสุขและ บังเกิดสันติภาพขึ้นได้
วันนี้ลูกๆของแม่ได้พยายามอยู่ในการสวดภาวนา อย่างมีวินัยมาโดยตลอด  ถึงแม้ในเวลานี้  ลูกๆจะไม่ได้ใช้เวลา
อันมีค่าเพื่อส่งจิตใจมาถึงแม่  มาพูดคุยกับแม่  มาปรึกษากับแม่ แม่ไม่ตำหนิลูกหรอก   เพราะลูกไม่รู้ว่าเวลานี้
ลูกควรจะทำอะไรนั่นเอง  เวลาแห่งพระหรรษทาน  ช่วงเวลาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ พระบิดาเจ้าสวรรค์ไม่ได้ทรงอนุญาต
ให้เกิดขึ้นบ่อยนัก  แต่เมื่อลูกไม่รู้ก็น่าเสียดายยิ่งนัก
 
แม่นี้รักลูกหนักหนา  สารนี้จะเป็นสารสุดท้ายแห่งเดือนนี้  เป็นสารที่แม่ตั้งใจให้เป็นบทสรุปที่สวยงามของหนังสือแม่รักลูกเล่มที่สอง
ลูกที่รักทั้งหลาย  แม่ขอฝากโอกาสนี้  เตือนให้ลูกๆรำลึกอยู่เสมอว่า  เวลาแห่งสวรรค์นั้นมีค่ามากมายนัก  
ขอให้ลูกจงรู้จักใช้เวลาอันมีค่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเถิด หากลูกอุทิศช่วงเวลานี้เพื่อสำรวจจิตวิญญาณของลูกเอง 
หรือสวดภาวนาเพื่อผู้อื่นแล้ว ลูกว่าจะทำให้เวลานี้มีค่ามากกว่าไหมลูก
ความรักที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงมีต่อมนุษย์ทุกคนนั้น  ขอให้ลูกพยายามทำความเข้าใจ  พยายามเปิดจิตใจเข้าสัมผัสเถิด  
แล้วลูกจะรู้ว่าความรักอย่างเช่นมนุษย์ทั้งหลายนั้น  ไม่ใช่ความรักอย่างแท้จริง แต่เป็นความรักเพื่อสนองความต้องการ
ของตนเองเท่านั้น จงรู้เท่าทันน้ำใจตนเองเถิด  เพื่อว่าลูกจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของจิตชั่วร้ายทั้งหลายที่คอยหลอกล่อ 
ลูกๆของแม่ให้หลงทางอยู่เสมอ  จงจำไว้เถิดลูกที่รักทั้งหลาย  หนทางของพระบิดาเจ้าสวรรค์นั้นลูกๆจะมีแต่ความสงบ
และสันติสุขในจิตใจ  จงระมัดระวังการหลอกล่อของจิตชั่วร้ายให้จงดีเถิด  เพราะบางครั้งพวกมันก็แอบอ้างนำพระนาม
ของพระองค์ทำให้ลูกๆไขว้เขวได้เช่นกัน  จงถามหาความจริงจากพระองค์เถิดแล้วลูกๆจะได้สัมผัสกับสันติสุขอย่างแท้จริง 
จากแม่  มารดาผู้เห็นอกเห็นใจของลูกๆทุกคน”
 “ขอให้ลูกๆทุกคนจงจำไว้เถิดว่า  ในทุกถ้อยคำที่ลูกได้สวดภาวนานั้น  แม่จะร่วมภาวนากับลูกเสมอ”
                                    ************ 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 9:35 pm
				โดย Zion
				ขอบพระคุณแม่พระครับ
			 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 10:31 pm
				โดย Zion
				~@Little lamb@~ เขียน:
ความเฉยชาของลูกมันสอนลูกว่าไม่เป็นไร  ไม่มีใครเขาถือสากันแล้วในยุคนี้  สิ่งที่ลูกทำนี้ไม่เป็นบาปหรอก  
ใครๆเขาก็ทำเยี่ยงนี้กันทั้งนั้น  แม่รู้สึกว่าอะไรที่คนส่วนใหญ่ทำร่วมกันนั้น คือความถูกต้อง ชอบธรรมและกลายเป็น
แม่แบบบรรทัดฐานสำหรับลูกๆเสียแล้ว
โดนได้อีก........ 
 
ขอบพระคุณพระเป็นเจ้า อาศัยพระแม่มารี และเปโตรน้อย 

 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 17, 2009 4:22 am
				โดย Holy
				ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน:
~@Little lamb@~ เขียน:
ความเฉยชาของลูกมันสอนลูกว่าไม่เป็นไร  ไม่มีใครเขาถือสากันแล้วในยุคนี้  สิ่งที่ลูกทำนี้ไม่เป็นบาปหรอก  
ใครๆเขาก็ทำเยี่ยงนี้กันทั้งนั้น  แม่รู้สึกว่าอะไรที่คนส่วนใหญ่ทำร่วมกันนั้น คือความถูกต้อง ชอบธรรมและกลายเป็น
แม่แบบบรรทัดฐานสำหรับลูกๆเสียแล้ว
โดนได้อีก........ 
 
ขอบพระคุณพระเป็นเจ้า อาศัยพระแม่มารี และเปโตรน้อย 
 
 
แม่ประทานสารมาวันที่8 
อีกสัปดาห์ต่อมา พระสันตะปาปาก็พูดเรื่องนี้
พระสันตะปาปาสั่งสงฆ์สอนสัตบุรุษแยกแยะบาปให้เป็น
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!5587.entry
แม่คือผู้ที่พระจิตเจ้าประทับอยู่อย่างเต็มเปี่ยมโดยแท้จริง
 
			
					
				Re: + เดือนมี.ค. 52 พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายเกินไป? +
				โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 04, 2009 3:09 am
				โดย ~@Little lamb@~
				สารสุดท้ายของเดือนนี้มาแล้วค่ะ