อาทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลมหาพรต: ประวัติศาสตร์โลกในพระคัมภีร์ไบเบิล

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

จันทร์ มี.ค. 11, 2024 12:40 pm

อาทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลมหาพรต ( 10 มีนาคม 2024)

บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อ เคลเมนท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)

บทอ่านที่หนึ่ง 2 พงศาวดาร 36:14-16,19-23
บรรดา​หัวหน้า​ชาว​ยูดาห์ สมณะ และ​ประชากร​ทำ​บาป​มาก​ยิ่ง ๆขึ้น ตาม​แบบอย่าง​ความ​ชั่ว​ร้าย​ของ​บรรดา​ชน​ต่างชาติ ทำ​ให้​พระ​วิหาร​ที่​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ทำ​ให้​ศักดิ์สิทธิ์​เป็น​ของ​พระองค์​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​นั้น​เป็น​มลทิน พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้าของ​บรรพ​บุรุษ​ทรง​ส่ง​ผู้​ถือ​สาร​ของ​พระองค์​มา​เตือน​เขา​ทั้งหลาย​อย่าง​ต่อเนื่อง เพราะ​ทรง​พระ​เมตตา​ต่อ​ประชากร​และ​ต่อ​ที่​ประทับ​ของ​พระองค์ แต่​เขา​เหล่านั้น​เยาะ​เย้ย​ผู้​ถือ​สาร​ของ​พระ​เจ้า ดู​หมิ่น​พระ​วาจา และ​หัวเราะ​เยาะ​บรรดา​ประกาศก จนกระทั่ง​พระ​ยาห์​เวห์​กริ้ว​ประชากร​ของ​พระองค์​อย่าง​ยิ่ง ไม่​มี​ทางแก้ไข พระ​ยาห์​เวห์​จึง​ทรง​บันดาล​ให้​กษัตริย์​ของ​ชาว​เคล​เดีย​ยก​ทัพ​มา​โจมตี​เขา​ทั้งหลาย ฆ่า​ฟัน​ชาย​ฉกรรจ์​แม้​ใน​พระ​วิหาร​ซึ่ง​เป็น​สถานที่​ศักดิ์สิทธิ์ ไม่​ปรานี​ผู้ใด​เลย ไม่​ว่า​คน​หนุ่ม คน​สาว คน​แก่​หรือ​คน​แก่​หง่อม พระองค์​ทรง​มอบ​ทุก​คน​ไว้​ใน​อำนาจ​ของ​กษัตริย์​ชาว​เคล​เดีย กษัตริย์​ชาว​เคล​เดีย​ทรง​ยึด​เครื่องใช้​ทุก​อย่าง​ทั้ง​ใหญ่​เล็ก​ใน​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า ทรง​ยึด​ทรัพย์​สมบัติ​ใน​พระ​วิหาร​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ ทรัพย์​สมบัติ​ของ​กษัตริย์​และ​ข้า​ราช​บริพาร นำ​ทุก​สิ่ง​ไป​กรุง​บาบิโลน พระองค์​ทรง​เผา​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า ทรง​ทำลาย​กำแพง​กรุง​เยรูซาเล็ม จุด​ไฟ​เผา​อาคาร​บ้านเรือน​ทั้งหมด และ​ทำลาย​สิ่งของ​ที่​มี​ค่า​ทั้งหลาย พระองค์​ทรง​กวาด​ต้อน​ทุก​คน​ที่​รอด​ชีวิต​ไม่​ถูก​ฆ่า​ไป​เป็น​เชลย​ที่​กรุง​บา​บิ​โลน เขา​เหล่านี้​ได้​เป็น​ทาส​รับ​ใช้​พระองค์​และ​พระ​ราชวงศ์​จนกระทั่ง​อาณาจักร​เปอร์เซีย​ขึ้น​มี​อำนาจ​ปกครอง​แทน และ​ดังนี้​พระ​วาจา​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​ที่​ประกาศก​เยเรมีย์​ประกาศ​ไว้​จึง​เป็น​ความ​จริง​ว่า แผ่นดิน​จะ​ร้าง​อยู่​เป็น​เวลา​เจ็ด​สิบ​ปี​เพื่อ​ชดเชย​การ​หยุด​พัก​ใน​ปี​ที่​เจ็ด​ที่​เขา​ไม่ได้​ปฏิบัติ​มา​หลาย​ครั้ง
ปี​แรก​ใน​รัชกาล​กษัตริย์​ไซรัส​แห่ง​เปอร์เซีย พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​บันดาล​ให้​พระ​วาจา​ที่​ตรัส​โดย​ประกาศก​เยเรมีย์​เป็น​ความ​จริง จึง​ทรง​ดล​ใจ​กษัตริย์​ไซรัส​แห่ง​เปอร์เซีย​ให้​ทรง​ประกาศ​ไป​ทั่ว​พระ​ราชอาณาจักร และ​มี​พระ​ราช​สาสน์​เป็น​ลาย​ลักษณ์​อักษร​ด้วย​ว่า “กษัตริย์​ไซรัส​แห่ง​เปอร์เซีย​ตรัส​ว่า ‘พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้า​แห่ง​สวรรค์​ได้​ประทาน​อาณาจักร​ทั้งหลาย​บน​แผ่นดิน​แก่​เรา และ​พระองค์​ทรง​บัญชา​ให้​เรา​สร้าง​พระ​วิหาร​ถวาย​พระองค์​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​ใน​แคว้น​ยูดาห์ ขอ​พระ​ยาห์​เวห์​สถิต​กับ​ทุก​คน​ที่​เป็น​ประชากร​ของ​พระองค์ และ​ให้​เขา​กลับ​ขึ้น​ไป​เถิด’”

เพลงสดุดี 137:1,2,3,4,5,6
พวกเรา​นั่ง​และ​ร่ำไห้​อยู่​ริม​ฝั่ง​น้ำ​แห่ง​บา​บิ​โลน และ​ระลึก​ถึง​ศิ​โยน พวกเรา​แขวน​พิณ​ใหญ่​ของ​เราไว้​บน​ต้น​หลิวในแผ่นดินนั้น ที่นั่น ผู้​กวาดต้อน​เรา​มา​ยัง​ถิ่น​เนรเทศ​ชวน​เรา​ให้​ร้องเพลง ผู้​กดขี่​เราสั่ง​เรา​ให้​ร้องเพลง​ยินดี พูด​ว่า “จง​ร้องเพลง​แห่ง​ศิ​โยน​ให้​เรา​ฟัง​เถิด” พวกเรา​จะ​ร้องเพลง​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​บน​ผืน​ดิน​ของ​ชน​ต่าง​ด้าวได้​อย่างไร กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม​เอ๋ย ถ้า​ข้า​ลืม​เจ้าก็ขอให้มือขวา​ของ​ข้า​จง​ลีบเถิด ลิ้น​ของ​ข้า​จง​ติด​เพดานปาก หาก​ข้า​ไม่​ระลึก​ถึง​เจ้า หาก​ข้า​ไม่​คิด​ว่า​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม เป็น​ความ​ยินดี​สูงสุด​ของ​ข้า

เอเฟซัส 2:4-10
แต่​พระ​เจ้า​ทรง​เปี่ยม​ด้วย​พระ​เมตตา ทรง​สำแดง​ความ​รัก​ยิ่งใหญ่​ต่อ​เรา เมื่อ​เรา​ตาย​ไป​แล้วเพราะ​การ​ล่วงละเมิด พระ​องค์​ก็​ทรง​บันดาล​ให้​เรา​กลับ​มี​ชีวิต​กับ​พระ​คริสต​เจ้า ท่าน​ได้​รับ​ความ​รอด​พ้น​ก็​เพราะ​พระ​หรรษ​ทาน พระ​เจ้า​โปรด​ให้​เรา​กลับคืน​ชีพ​พร้อมกับ​พระ​คริสต​เยซู โปรด​ให้​เรา​มี​ที่นั่ง​ใน​สวรรค์​พร้อมกับ​พระ​คริสต​เจ้า เพื่อ​จะ​ทรง​แสดง​พระ​หรรษ​ทาน​อัน​อุดม​เหลือล้น​ของ​พระ​องค์​แก่​มนุษย์​ทุก​ยุค​สมัย​ใน​อนาคต โดย​ทรง​พระ​กรุณา​ต่อ​เรา​ใน​พระ​คริสต​เยซู ท่าน​ได้​รับ​ความ​รอด​พ้น​เพราะ​พระ​หรรษ​ทาน​อาศัย​ความ​เชื่อ ความ​รอด​พ้น​นี้​มิได้​มา​จาก​ท่าน แต่​เป็น​ของ​ประ​ทาน​จาก​พระ​เจ้า มิได้​มา​จาก​การ​กระทำ​ใด ๆ ของ​ท่าน เพื่อ​มิ​ให้​ใคร​โอ้อวด​ตน​ได้ เรา​เป็น​ผลงาน​ของ​พระ​องค์ ถูก​สร้าง​มา​ใน​พระ​คริสต​เยซู​เพื่อให้​ประกอบ​กิจการ​ดี ซึ่ง​พระ​เจ้า​ทรง​กำหนด​ล่วง​หน้า​ให้​เรา​ปฏิบัติ

พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 3:14-21
​โมเสส​ยก​รูป​งู​ขึ้น​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร​ฉันใด​บุตร​แห่ง​มนุษย์ก็​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ขึ้น​ฉันนั้น เพื่อ​ทุก​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​องค์จะ​มี​ชีวิต​นิรันดร พระ​เจ้า​ทรง​รัก​โลก​อย่าง​มาก​จึง​ประ​ทาน​พระ​บุตร​เพียง​พระ​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์​เพื่อ​ทุก​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​บุตร​จะ​ไม่​พินาศ​แต่​จะ​มี​ชีวิต​นิรันดร เพราะ​พระ​เจ้า​ทรง​ส่ง​พระ​บุตร​มา​ใน​โลก​นี้​มิใช่​เพื่อ​ตัดสิน​ลงโทษ​โลก​แต่​เพื่อ​โลก​จะ​ได้​รับ​ความ​รอด​พ้น​เดชะ​พระ​บุตร​นั้น ผู้​ที่​มี​ความ​เชื่อ ใน​พระ​บุตร​จะ​ไม่​ถูก​ตัดสิน​ลงโทษ​แต่​ผู้​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​ก็​ถูก​ตัดสิน​ลงโทษ​อยู่​แล้ว​เพราะ​เขา​มิได้​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​บุตร​เพียง​พระ​องค์​เดียว​ของ​พระ​เจ้า ประเด็น​ของ​การ​ตัดสิน​ลงโทษ​ก็​คือ​ความ​สว่าง​เข้า​มา​ใน​โลก​นี้​แล้วแต่​มนุษย์​รัก​ความ​มืด​มาก​กว่า​รัก​ความ​สว่าง เพราะ​การ​กระทำ​ของ​เขา​นั้น​ชั่วร้าย ทุก​คน​ที่​ทำ​ความ​ชั่ว​ย่อม​เกลียด​ความ​สว่าง และ​ไม่​เข้า​ใกล้​ความ​สว่าง​เกรง​ว่า​การ​กระทำ​ของ​ตน​จะ​ปรากฏชัด​แจ้ง แต่​ผู้​ที่​ปฏิบัติ​ตาม​ความ​จริงย่อม​เข้า​ใกล้​ความ​สว่าง​เพื่อให้​เห็นชัด​ว่า​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​ได้​ทำ​โดย​พึ่ง​พระ​เจ้า”

คุณพ่อเคลเมนท์: พระเยซูเจ้าคือความสว่างและพระองค์ต้องการให้เราเป็นความสว่างแก่โลกเช่นกัน พระองค์ทรงยกโทษให้เราทันทีเมื่อเรากราบขออภัยพระองค์ พระองค์ทรงต้องการให้เรามีชีวิตที่ดี พระองค์ทรงต้องการให้เรานําความสว่างไปให้ผู้ที่ไม่เชื่อพระองค์ ไม่รู้จักพระองค์

นักบุญออกัสตินได้พูดว่า: พระเจ้าทรงรักเราแต่ละคนเหมือนกับว่าเราเป็นมนุษย์ผู้เดียวที่พระองค์ทรงสร้าง

คุณพ่อ: พระเจ้าดี
ลูกวัดตอบสนั่นหวั่นไหว: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเจ้าดี

บทอ่านแรกและบทสดุดีเป็นแรงบันดาลใจให้วงดนตรี โบนี่ เอ็ม จากประเทศเยอรมนีตะวันตก ยุค ดิสโก้ ทศวรรษ 70-80 แต่งเพลง "ริมฝั่งแม่น้ำแห่งบาบิโลน" เป็นเพลงฮิต ดังทั่วโลก เนื้อเพลงคล้ายบทสดุดี คนเขียนต้องเป็นคริสตชนที่มีความรู้เรื่องพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นอย่างดี ( Boney M., "Rivers of Babylon")

ประวัติศาสตร์โลกในพระคัมภีร์ไบเบิล: *กษัตริย์ชาวเคลเดียยก​ทัพ​มา​โจมตี​กรุงเยรูซาเล็มฆ่า​ฟัน​ชาย​ฉกรรจ์​แม้​ใน​พระ​วิหาร​ซึ่ง​เป็น​สถานที่​ศักดิ์สิทธิ์ ไม่​ปรานี​ผู้ใด​เลย ไม่​ว่า​คน​หนุ่ม คน​สาว คน​แก่​หรือ​คน​แก่​หง่อม พระองค์​ทรง​มอบ​ทุก​คน​ไว้​ใน​อำนาจ​ของ​กษัตริย์​ชาว​เคล​เดีย กษัตริย์​ชาว​เคล​เดีย​ทรง​ยึด​เครื่องใช้​ทุก​อย่าง​ทั้ง​ใหญ่​เล็ก​ใน​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า ทรง​ยึด​ทรัพย์​สมบัติ​ใน​พระ​วิหาร​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ ทรัพย์​สมบัติ​ของ​กษัตริย์​และ​ข้า​ราช​บริพาร นำ​ทุก​สิ่ง​ไป​กรุง​บาบิโลน พระองค์​ทรง​เผา​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า ทรง​ทำลาย​กำแพง​กรุง​เยรูซาเล็ม จุด​ไฟ​เผา​อาคาร​บ้านเรือน​ทั้งหมด และ​ทำลาย​สิ่งของ​ที่​มี​ค่า​ทั้งหลาย พระองค์​ทรง​กวาด​ต้อน​ทุก​คน​ที่​รอด​ชีวิต​ไม่​ถูก​ฆ่า​ไป​เป็น​เชลย​ที่​กรุง​บา​บิ​โลน เขา​เหล่านี้​ได้​เป็น​ทาส​รับ​ใช้​พระองค์​และ​พระ​ราชวงศ์​จนกระทั่ง​อาณาจักร​เปอร์เซีย​ขึ้น​มี​อำนาจ​ปกครอง​แทน และ​ดังนี้​พระ​วาจา​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​ที่​ประกาศก​เยเรมีย์​ประกาศ​ไว้​จึง​เป็น​ความ​จริง​ว่า แผ่นดิน​จะ​ร้าง​อยู่​เป็น​เวลา​เจ็ด​สิบ​ปี​เพื่อ​ชดเชย​การ​หยุด​พัก​ใน​ปี​ที่​เจ็ด​ที่​เขา​ไม่ได้​ปฏิบัติ​มา​หลาย​ครั้ง ปี​แรก​ใน​รัชกาล​กษัตริย์​ไซรัส​แห่ง​เปอร์เซีย พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​บันดาล​ให้​พระ​วาจา​ที่​ตรัส​โดย​ประกาศก​เยเรมีย์​เป็น​ความ​จริง จึง​ทรง​ดล​ใจ​กษัตริย์​ไซรัส​แห่ง​เปอร์เซีย​ให้​ทรง​ประกาศ​ไป​ทั่ว​พระ​ราชอาณาจักร และ​มี​พระ​ราช​สาสน์​เป็น​ลาย​ลักษณ์​อักษร​ด้วย​ว่า “*กษัตริย์​ไซรัส​แห่ง​เปอร์เซีย​ตรัส​ว่า ‘พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้า​แห่ง​สวรรค์​ได้​ประทาน​อาณาจักร​ทั้งหลาย​บน​แผ่นดิน​แก่​เรา และ​พระองค์​ทรง​บัญชา​ให้​เรา​สร้าง​พระ​วิหาร​ถวาย​พระองค์​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​ใน​แคว้น​ยูดาห์ ขอ​พระ​ยาห์​เวห์​สถิต​กับ​ทุก​คน​ที่​เป็น​ประชากร​ของ​พระองค์ และ​ให้​เขา​กลับ​ขึ้น​ไป​เถิด’”

*626 ก่อนคริสต์กาล เมืองหลวงคือบาบิโลน ซึ่งปัจจุบันใกล้เมือง อัล- ฮิลลา 89 กิโลเมตรใต้เมืองแบกแดด ประเทศอิรัก ( Al- Hillah, Baghdad, Iraq) แล้วเป็นมืองขึ้นของกษัตริย์ไซรัสมหาราช ของอาณาจักรเปอร์เซีย

**กษัตริย์ไซรัสมหาราช ของอาณาจักรเปอร์เซีย ( King Cyrus, The Great of Persia) 559-530 ก่อนคริสต์กาล

กรุงเยรูซาเล็ม/ Jerusalem = นครแห่งสันติภาพ / City of Peace

ศิโยน/ Zion = เขาที่ตั้งกรุงเยรูซาเล็ม= นิยมเรียกว่ากรุงเยรูซาเล็ม

ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน ( Rivers of Babylon) โดย วงดนตรี โบนี่ เอ็ม ( Boney M.)

https://youtu.be/jSxQJUv1e8k?si=fK79eh_-unUREXYc

ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน เรานั่งที่นั่น
ใช่แล้ว เราร้องไห้เมื่อเรารําลึกถึงศิโยน
ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน เรานั่งที่นั่น
ใช่แล้ว เราร้องไห้เมื่อเรารําลึกถึงศิโยน

ที่ผู้ชั่วร้ายลากเราไปอยู่ในการคุมขัง
ต้องการให้เราร้องเพลง
เราจะร้องเพลงได้อย่างไรในดินแดนแปลก
ที่ผู้ชั่วร้ายลากเราไปอยู่ในการคุมขัง
ต้องการให้เราร้องเพลง
เราจะร้องเพลงได้อย่างไรในดินแดนแปลก

เย เย เย เย เย

ที่ผู้ชั่วร้ายลากเราไปอยู่ในการคุมขัง
ต้องการให้เราร้องเพลง
เราจะร้องเพลงได้อย่างไรในดินแดนแปลก
ที่ผู้ชั่วร้ายลากเราไปอยู่ในการคุมขัง
ต้องการให้เราร้องเพลง
เราจะร้องเพลงได้อย่างไรในดินแดนแปลก

ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน เรานั่งที่นั่น
ใช่แล้ว เราร้องไห้เมื่อเรารําลึกถึงศิโยน
ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน เรานั่งที่นั่น
ใช่แล้ว เราร้องไห้เมื่อเรารําลึกถึงศิโยน

ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน ( นํ้าตาดําของบาบิโลน)
ที่นั่นเรานั่ง (ท่านต้องร้องเพลง)
ใช่แล้ว เราร้องไห้ ( ร้องเพลงแห่งความรัก)
เมื่อเรารําลึกถึงศิโยน ( เย เย เย เย เย)

ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน ( หยาบกระด้างแห่งบาบิโลน)
ที่นั่นเรานั่ง ( ท่านได้ยินเสียงคนร้องไห้)
ใช่แล้ว เราร้องไห้ ( พวกเขาต้องการพระเจ้าของเขา)
เมื่อเรารําลึกถึงศิโยน (โอ มีพลัง)
ริมฝั่งแม่น้ำบาบิโลน ( โอ เย เย) นั่นเรานั่งลง (เย เย)

By the rivers of Babylon, there we sat down
Yeah, we wept, when we remembered Zion
By the rivers of Babylon, there we sat down
Yeah, we wept, when we remembered Zion

There the wicked
Carried us away in captivity
Required from us a song
Now how shall we sing the Lord's song in a strange land?

There the wicked
Carried us away in captivity
Requiring of us a song
Now how shall we sing the Lord's song in a strange land?

Yeah, yeah, yeah, yeah, yeah

Let the words of our mouth and the meditation of our heart
Be acceptable in thy sight here tonight
Let the words of our mouth and the meditation of our hearts
Be acceptable in thy sight here tonight

By the rivers of Babylon, there we sat down
Yeah, we wept, when we remembered Zion
By the rivers of Babylon, there we sat down
Yeah, we wept, when we remembered Zion

By the rivers of Babylon (dark tears of Babylon)
There we sat down (you got to sing a song)
Yeah, we wept (sing a song of love)
When we remembered Zion (yeah, yeah, yeah, yeah, yeah)

By the rivers of Babylon (rough bits of Babylon)
There we sat down (you hear the people cry)
Yeah, we wept (they need their God)
When we remembered Zion (ooh, have the power)

By the rivers of Babylon (oh yeah yeah), there we sat down (yeah, yeah)

Source: LyricFind

Songwriters: Brent Gayford Dowe / Frank Farian / George Reyam / James Agustus Mcnaughton

Rivers of Babylon lyrics © Sony/ATV Music Publishing LLC, TuneCore Inc., Universal Music Publishing Group

ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com

กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน

( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ตอบกลับโพส