+ เดือน เมษา 48 ความเชื่อต้องมาจากจิตใจอย่างแท้จริง +

[Anonymous]

ทุกๆวันเสาร์เราจะมาพบเจ้าที่นี่

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2548 เวลา 19.00-21.00 น.

ตอนบ่ายของวันศุกร์ที่ 8 เมษายน ผมมีความรู้สึกผ่านเข้ามาทางจิตของผมว่า ในวันพรุ่งนี้ผมจะได้พบกับแม่พระและจะได้รับสาสน์จากพระแม่ ค่ำวันนี้ผมได้รับการดลใจให้เลือกหนังสือสวดสายประคำพร้อมกับพระแม่มารีย์ และบทภาวนา พระเมตตาของพระเยซูเจ้าขึ้นมาสวดเป็นพิเศษกว่าทุกวัน พอเริ่มสวดได้เพียงเล็กน้อย พี่สาวของผมก็ยิ้มและชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ผมก็ยิ้มตอบเพราะผมได้เห็นทางจิตถึงภาพของแม่พระฟาติมาสวมมงกุฎสีทองลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือบ้าน ของพวกเรา แม่พระกำลังก้มหน้ามามองพวกเรา ผมมีความสุขใจมากที่ได้เห็นแม่พระเสด็จมาที่บ้านของเราอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่เราสวดอยู่นั้น บางครั้งผมก็เห็นภาพของแม่พระซ้อนขึ้นมาบนรูปปั้นของพระองค์เอง แม่พระได้ร่วมสวดภาวนาและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าพร้อมกับพวกเรา ผมได้รับรู้ว่า คืนนี้แม่พระจะทรงประทานสาสน์แก่ผมอีกครั้งหนึ่ง ผมรีบไปเตรียมเทปเพื่อมาบันทึกสาสน์ของแม่พระ
แล้วเวลานั้นก็มาถึง ผมได้ยินเสียงของแม่พระผ่านเข้ามาทางจิตของผมอย่างชัดเจน ในครั้งนี้ผมเชื่ออย่างสิ้นสุดจิตใจว่า นี่เป็นเสียงของแม่พระไม่ใช่ เสียงที่มาจากจิตใต้สำนึกของผมอีกต่อไป ผมได้เริ่มต้นพูดตามที่แม่พระได้ทรง ตรัสออกมาทันที โดยที่ ไม่ต้องรอให้แม่พระตรัสซ้ำๆกันอีกเลย แม่, น้าสาว และ พี่สาวของผมก็นั่งรอฟังสาสน์ของแม่พระอยู่ในขณะนั้นด้วย และทุกคนก็เชื่อว่านี่เป็นสาสน์ของแม่พระจริงๆ ในขณะที่แม่พระได้ทรงตรัสกับผมนั้น ทุกคนได้เห็นรูปปั้นแม่พระฟาติมาสว่างไสว รูปปั้นดูเหมือนจะมีชีวิตโดยเฉพาะพระเนตรของ แม่พระที่ทรงทอดพระเนตรมาที่พวกเรา สาสน์ของแม่พระมีใจความว่าดังนี้

“ขอบใจลูกมาก ขอบใจในสิ่งทั้งหลายที่ลูกได้ทำให้แม่

พระผู้เป็น เจ้าทรงพอพระทัยเป็นอันมาก พระพรนี้จะส่งไปถึงญาติพี่น้องทั้งหลาย ของลูกด้วย

จงเตรียมจิตใจให้พร้อมสำหรับกิจการในข้างหน้า จงอย่ากลัวต่อความยากลำบาก ที่จะเกิดขึ้น แม่จะอยู่กับลูกเสมอ

คำ เสนอวิงวอนทุกอย่างที่ผ่านทางแม่ โดยเฉพาะในคืนวันเสาร์นี้จะได้รับพรจาก พระผู้เป็นเจ้าเป็นพิเศษ

แม่ยินดียิ่งนักที่เห็นคนที่รักแม่อยู่ 2 คนมาอยู่ต่อหน้าแม่(แม่พระหมายถึงผมและ พี่สาว)

จงสวดภาวนา สวดภาวนาให้มากกว่านี้ เพื่อคนบาปทั้งหลายและบุคคลที่ลูกรักจะได้กลับมาอยู่ในพระหรรษทานของพระองค์

จง จดจำคำของแม่ไว้ ทุกๆวันเสาร์แม่จะมาพบลูกที่นี่

ครอบครัวของลูก ได้รับการเลือกสรรจากพระผู้เป็นเจ้าแล้วให้ทำหน้าที่สวดภาวนา เพื่อช่วยมวลมนุษย์ทั้งหลายให้รอดพ้นจากบาป

จงนำสาสน์นี้ไปแจ้งแก่ คุณพ่อวิจิตร บอกทุกอย่างที่ลูกได้ยิน งานข้างหน้ากำลัง รอลูกอยู่

จง อย่าลืมสวดภาวนาให้มากยิ่งขึ้น คำสวดภาวนาของพวกลูกทั้งหลายที่ผ่านมายังทางแม่ พระผู้เป็นเจ้าจะสดับฟัง แล้วแต่น้ำพระทัยของพระองค์ที่จะประทานพระพรตามที่พวกลูกขอหรือไม่

ลูก จะมีส่วนให้คนบาปทั้งหลายได้กลับใจ จงเริ่มต้นจากคนในครอบครัวของลูกก่อน ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของแม่เอง

ขอบใจลูกมากที่ลูกปรารถนาดีต่อแม่ มาตลอด พระผู้เป็นเจ้าทรงพอพระทัยที่ลูกได้มาทำงานให้แม่

หลานของ ลูกจะได้รับการดลใจให้กลับมา สวดภาวนาให้เขามากๆ เขาจะกลับมา

น้อง ของลูกอยู่ห่างไกลจากแม่เหลือเกิน เขาจะกลับมาได้ก็ต้องมาจากจิตใจของ เขาเองเท่านั้น”

ผมถามแม่พระในใจว่า มีหนทางใดบ้างที่จะช่วยให้เขาได้กลับใจมาหาแม่พระบ้าง ไหม แม่พระทรงตรัสว่า

“ไม่มีทางเลย นอกจากเขาต้องการกลับมาเองเท่านั้น สวดภาวนาให้เขามากๆ สักวันหนึ่งเขาจะได้พรของพระผู้เป็นเจ้า”

พี่สาวผมถามแม่พระอยู่ในใจว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะช่วยน้องคนนี้ได้ แม่พระทรงตรัสตอบว่า

“ให้ทั้งสองคนทำพลีกรรม”

พี่สาวของผมก็ถามแม่พระอีกว่าจะต้องทำพลีกรรมอย่างไร แม่พระทรงตรัสว่า

“อยู่ที่ลูกทั้งสองคนว่าจะเลือกทำอะไร”

พี่สาวของผมบอกกับผมว่าเราคงต้องทำพลีกรรมอะไรสักอย่างที่ยิ่งใหญ่พอที่จะ ช่วยน้องคนนี้ให้ได้รอด ผมเลยบอกว่าวันพรุ่งนี้เราจะไปร่วมถวายมิซซากับ คุณพ่อวิจิตรอยู่แล้ว ผมจะไปขอคำแนะนำจากท่าน ท่านคงมีข้อแนะนำที่ดีให้แก่เราทั้ง 2 คนได้

[Anonymous]

พลีกรรม และ การบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2548 เวลา 19.00-21.40 น.

ผมกับพี่สาวตั้งใจว่าจะทำพลีกรรมในทุกๆวันเสาร์ถวายแต่แม่พระและพระเยซูเจ้า เพื่อวิงวอนขอพระองค์ให้ดลจิตใจของน้องชายของเราให้กลับใจ วันนี้เป็นวันแรก ที่เราสองคนเริ่มต้นทำเพื่อน้องชายของเรา และเย็นวันนี้เอง น้องชายของผมก็ได้แวะมาเยี่ยมบ้าน ผมจึงหาโอกาสที่จะชักจูงใจเขาด้วยการนำเทปสาสน์ของแม่พระมาเปิดให้เขาฟัง โดยเลือกเฉพาะตอนที่แม่พระกล่าวถึงเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใส่ใจที่จะฟังสัก เท่าไหร่ นั่งฟังได้สักครู่ก็เดินออกไปข้างนอกบ้าน โดยที่เขายังไม่ทันได้ยินว่าแม่พระกล่าวถึงเขาว่าอย่างไร ผมรู้สึกเจ็บในหัวใจมากที่เขาช่างเฉยเมยเสียเหลือเกิน ผมก็ยังไม่ละความพยายาม โดยบอกกับเขาว่าผมมีวีซีดีภาพอัศจรรย์ในดวงอาทิตย์ให้เขาดู เพราะเห็นเขากำลังจะเอาวีซีดีที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่มาลองดูภาพว่าใช้ได้หรือไม่ แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะดูวีซีดีที่ผมเตรียมไว้ ผมรู้สึกแย่มากเหลือเกิน ที่ไม่อาจชักจูงใจเขาได้ พี่สาวผมบอกว่าวันนี้เพิ่งจะเป็นวันแรกที่เราทำพลีกรรมเอง บางทีพวกเราอาจจะยังทำพลีกรรมไม่พอที่จะช่วยเขาในตอนนี้

ค่ำวันนี้ผมเริ่มมานั่งสวดภาวนาแม่พระมหาทุกข์ตามลำพัง เพราะผมทุกข์ใจเหลือเกิน และบทสวดนี้ก็ทำให้ผมได้รับรู้ว่าแม่พระต้องทนทุกข์อย่างใหญ่หลวงที่เห็นพระเยซูเจ้าต้องถูกทรมานและสิ้นพระชนม์ต่อหน้าแม่พระ ความทุกข์ใจของผมเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความทุกข์ของแม่พระ เมื่อแม่, น้า และพี่สาวของ ผมมาพร้อมกันแล้ว พวกเราก็เริ่มต้นสวดด้วยหนังสือบทภาวนาสายประคำพร้อม กับพระแม่มารีย์ พอสวดได้ประมาณทศที่สี่ ผมก็เริ่มต้นมองเห็นด้วยตาของผมเอง ว่ามีเงาลางๆของผ้าคลุมสีขาวซ้อนอยู่เบื้องหลังของรูปปั้นแม่พระฟาติมา และเงานั้นก็เริ่มต้นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนผมสามารถมองเห็นเป็นรูปของแม่พระฟาติมาอีกองค์ หนึ่งสูงกว่าองค์แรกอยู่เบื้องหลังรูปปั้นของแม่พระเอง ต่อมาอึกไม่นานผมก็เริ่ม มองเห็นแม่พระองค์ที่สามเพิ่มขึ้นมาลางๆ อยู่ระหว่างรูปแม่พระทั้งสอง
คราวนี้ ผมเห็นเฉพาะผ้าคลุมและดวงตาของพระองค์เท่านั้น ผมดีใจมากเพราะวันนี้ แม่พระได้ทำตามสัญญาแล้ว เมื่อพวกเราสวดสายประคำ 10 เม็ดสุดท้าย ภาพแม่พระทั้งสามองค์ก็หายไป แต่ผมกลับเริ่มมองเห็นรูปปั้นแม่พระฟาติมากำลัง แยกออกมาจากกันเป็นสององค์อยู่ต่อหน้า รูปที่แยกออกมานั้นผมเห็นได้ชัดเจน เกือบเท่ากับรูปปั้นของแม่พระจริงๆ คืนนี้เราสวดกันจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 20.55น. พี่สาวของผมก็ถามว่า คืนนี้แม่พระจะมาไหม ผมตอบโดยไม่ลังเลใจ เลยว่ามาซิ แล้วผมก็เริ่มต้นไปหยิบเทปมาเตรียมอัดสาสน์ของแม่พระทันที สาสน์ของแม่พระมีดังนี้

“ขอบใจที่ลูกทั้งหลายได้ตั้งใจสวดภาวนาเป็นอย่างดีในวันนี้ แม่มีความยินดี คำวิงวอนของพวกลูกจะได้รับการสดับฟังจากพระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์

แม่ รู้ว่าลูกเจ็บ(เพราะน้องชายเฉยเมยต่อความหวังดีของผม) แต่แม่ขอบอกว่า ทุกครั้งที่แม่เห็นลูกๆของแม่ (หมายถึงมนุษย์ทั้งหลาย) ทำบาปแม่เจ็บมากกว่า

จงให้ความรักและความเมตตาสงสารแก่เขา (น้องชายของผม) สวดภาวนาให้เขา มากกว่านี้ สักวันหนึ่งพระพรของพระผู้เป็นเจ้าคงจะได้ประทานมาสู่เขา

จงอย่าเสียใจไปเลย ขอให้ลูกดูตัวอย่างของพระเยซูเจ้าที่พระองค์มีแต่ความรักให้ แก่มนุษย์ทุกคน ให้ได้แม้กระทั่งชีวิต ให้อภัยแม้กับคนที่ขายพระองค์ จงดำเนิน ตามรอยของพระองค์ไป ชำระจิตใจของลูกให้สะอาด

จงอย่า ละทิ้งการสวดภาวนาทั้งต่อหน้าและลับหลังแม่ สิ่งนี้จะทำให้ลูกได้อยู่ในพระหรรษทานของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์มีความรักที่ยิ่งใหญ่ที่คอยประทานให้ พวกลูก ไม่ต้องกลัวในบาปที่ลูกได้ทำ (กลัวที่จะเผชิญหน้ากับพระผู้เป็นเจ้าเพราะบาปที่ได้ทำ) จงขอโทษพระองค์ อย่างจริงใจ พระองค์พร้อมที่จะให้อภัย

วันอังคารนี้ลูกไม่ต้องเตรี ยมตัวอะไรทั้งนั้น พูดออกมาจากหัวใจของลูก ทุกคนจะเข้าใจ พระจิตเจ้าจะดลใจเจ้าเอง (ผมได้รับเชิญจากคุณพ่อให้ไปพูดถึงประสบ การณ์ที่ผมได้รับจากแม่พระ)

หลานของลูกต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เหมือนน้ำที่ซึมในบ่อทราย แม่ (แม่พระ หมายถึงพี่สาวของผม)ต้อง เป็นตัวอย่างให้เขาเห็น จงสวดภาวนาทุกวัน สวดภาวนาให้เขาได้ยิน สักวันหนึ่งเขาจะรู้ว่าแม่(หมายถึงพี่สาวของผมและแม่พระด้วย)รักเขา มากแค่ไหน

สิ่งที่ลูกคิดจะทำในภายหน้าจะมีอุปสรรค์อีกมากมาย จงอย่ากลัว แม่จะอยู่กับลูก มนุษย์ทุกคนมีทั้งส่วนดีและไม่ดี บางคนก็ไม่ชอบที่เห็นคนอื่นเกินหน้าตนเอง จงให้อภัยแก่เขา รักเขาให้มากกว่านี้ ความรักจะช่วยให้เขาเข้าใจเรา (เราในที่นี้แม่พระหมายถึงตัวผมเองและแม่พระ)

สิ่งที่ลูกได้เห็น ในคืนนี้เป็นความต้องการของแม่เอง ลูกๆทุกคนของแม่เมื่ออยู่ในพระหรรษทานก็จะได้เห็นแม่ในหัวใจ แม้จะไม่ได้เห็นด้วยตาเปล่าก็ไม่ต้องเสียใจ

แม่มาในวันนี้ มาตามคำสัญญาที่แม่ได้ให้ไว้ และแม่สัญญาว่าแม่จะมาทุกๆวันเสาร์ เพื่อมาพบกับพวกลูกผู้ที่ยังภักดีในแม่อยู่

คำสวดภาวนาของพวกลูกจะทำ ให้คนบาปได้รอด จงสวดต่อไป และสวดให้มากขึ้นมากขึ้น เพราะขณะนี้โลกนี้มีคนบาปมากมายเหลือเกิน

จงอย่าเสียใจที่ได้เห็นการ เฉยเมยของน้องของลูก สักวันหนึ่งเขาคงได้รับพระพรจากพระผู้เป็นเจ้าให้ได้พบพระองค์ จงอย่าละทิ้งความตั้งใจของลูก”

[Anonymous]

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2548 เวลา 8.00 น.

วันนี้คุณพ่อวิจิตรได้กรุณาโทรศัพท์มาหาผมที่บ้านแต่เช้า ท่านบอกว่าวันนี้ท่านจะเทศน์เกี่ยวกับการทำพลีกรรม เพื่อผมจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ผมขอขอบพระคุณคุณพ่อวิจิตรไว้ ณ. ที่นี้ ท่านได้กรุณาให้ความสว่างทางด้านจิตใจแก่ผมอย่างมากมาย

พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร

หน้าถ้ำแม่พระ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร
วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2548 เวลา 24.00-04.30 น.

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน เมื่อผมเดินทางไปถึงวัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร ก็ใกล้ค่ำ ผมรีบเดินไปที่หน้าถ้ำแม่พระก่อนเพื่อจะถ่ายรูป แต่แสงไม่พอเพราะพระอาทิตย์ได้ตกดินไปแล้ว ผมยืนมองดูรูปปั้นของแม่พระด้วยความเสียดายที่วันนี้ผมไม่มี โอกาสที่จะได้ถ่ายรูปของแม่พระ สักครู่หนึ่งผมก็ได้เห็นแสงสีทองเป็นประกายเหมือนดาวที่คิ้วด้านขวาของแม่พระ ผมก็พยายามเดินมองหาดูที่มาของแสงสะท้อนนั้น แต่ก็ไม่มีอะไรเลยที่สามารถสะท้อนแสงได้ในเวลาค่ำเช่นนั้น อีกสักครู่หนึ่งผมก็ได้เห็นแสงนั้นวูบขึ้นมาอีกประมาณ 5-6 ครั้ง ในแต่ละครั้งห่างกันประมาณ 1 นาที ขณะนั้นยุงค่อนข้างชุมมาก ผมเลยต้องเดินจากมาพร้อมกับความ สงสัยอยู่ว่าแสงนั้นมาได้ยังไง

วันนี้ผมรู้สึกว่าที่วัดมีอะไรที่เปลี่ยนไปเพราะรูปปั้นแม่พระที่หน้าวัดซึ่งเก่าแก่มาก บัดนี้ได้กลายเป็นรูปปั้นใหม่เอี่ยมที่สวยมากมาอยู่แทนที่ ผมเดินเข้าไปดู ใกล้ๆก็ จำได้ว่าเป็นแม่พระองค์เดิม คุณพ่อเจ้าวัดบอกว่าท่านได้ให้ร้านที่ศรีราชาเป็นคน นำไปซ่อม วันนี้ผมโชคดีที่มาตรงกันวันที่ทางวัดได้เชิญแม่พระไปแห่ที่ตลาด พิธีร่วมถวายบูชาในคืนนี้จึงจบลงด้วยการนำดอกกุหลาบไปถวายแด่แม่พระและรับพรจากคุณพ่อเจ้าวัด

คืนนี้พี่สาวของผมไม่ได้มาด้วยแต่ก็ได้ไปสวดภาวนาที่บ้านแม่ของผมเหมือนเดิม ในเวลาประมาณ 20.00-21.30น. พี่สาวผมเห็นแม่พระฟาติมาเหมือนกับจะ ลอยออกมาจากตู้พระแล้วก็ลอยกลับเข้าไปยังที่เดิม ในขณะที่ข้างๆกันนั้นมีรูปปั้นของแม่พระเมืองลูร์ด พี่สาวผมเห็นชายผ้าคลุมของพระองค์พริ้วไสว และดูเหมือนว่าแม่พระจะเคลื่อนไหวได้ แต่พี่สาวผมไม่ได้ยินเสียงจากแม่พระแต่อย่างใด ที่ผมต้องเขียนถึงเรื่องนี้เพราะผมอยากให้ทุกท่านได้รู้ว่าแม่พระรักษาสัญญาเสมอว่าที่ใดมีการสวดสายประคำแม่พระจะอยู่ที่นั่น

ที่หน้าถ้ำแม่พระผมได้นำบทภาวนาที่แม่พระได้มอบไว้ให้แก่อาเดเรียเมื่อวันที่ 29 พ.ค.2531 มาแจกแก่พวกเราทุกคนที่นี่ เพราะผมไม่แน่ใจว่าจะมีใครเคยสวดบทภาวนาของแม่พระนี้หรือไม่ ผมต้องขอขอบบุคคลผู้มีน้ำใจท่านหนึ่งีไว้ ณ ที่นี้ ที่ได้ คัดลอกเรื่อง การประจักษ์ของแม่พระในประเทศไทยมาจากหนังสืออิสระ ปีที่11 ฉบับที่2 มาลงไว้ทางอินเตอร์เนต ทำให้ผมได้บทสวดนี้มาดังนี้

บทภาวนาของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจ เพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร

บทภาวนาที่แม่พระมอบให้แก่อาเดเรีย
ที่วัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร เมื่อวันที่ 29 พ.ค 2531

แม่พระสัญญาว่า ทุกครั้งที่มีการสวดสายประคำ แม่พระจะมาประทับอยู่ที่นี่ แม่พระมาประจักษ์ที่นี่เพื่อ
1.เพื่อสอนเราว่าให้เรารักพระเยซูเจ้าเสมอๆ ไม่มีใครรักพระเยซูเจ้าได้ดี เท่าแม่ และแบบอย่างอันสุภาพของแม่
2.เพื่อเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา หากเราไม่ละทิ้งสิ่งที่เลวร้าย
3.เพื่อช่วยวิญญาณเรา และวิญญาณที่อยู่ในไฟชำระ
4.เพื่อให้เรานบนอบต่อพระศาสนจักร และผู้มีหน้าที่อภิบาลสัตบุรุษทุกคน
5.เพื่อแสดงให้เห็นถึงพระอาณาจักร สวรรค์ และให้ความหวังแก่เรา


บทภาวนาของ พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร

ข้าแต่พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจสุดที่รักของลูก พระแม่ทรงวอนขอเพื่อความยุติธรรมอันแท้จริง สำหรับมนุษยชาติทั้งครบ ลูกกราบทูลเกล้าถวายกิจการทั้งหมดที่ลูกจะกระทำในวันนี้แด่พระแม่ ลูกขอถวายการงาน การพักผ่อน ความคิด และการภาวนา ความสุขและความทุกข์ทั้งหมดแด่พระแม่

ลูกหวังว่า โดยผ่านทางพระแม่แล้ว พระเจ้าผู้ทรงสรรพฤทธิ์ จะทรงบันดาลให้ความพยายาม และการกระทำต่างๆ ของลูกศักดิ์สิทธิ์ไป ลูกขอมอบทั้งหมดไว้ในพระหัตถ์ของพระแม่ด้วยใจรัก

ลูกขอรับพระพรแห่งการให้อภัย สำหรับตัวลูกเองและพี่น้องด้วย ลูกมอบตัวลูกทั้งครบให้แด่พระแม่ ลูกขอให้พระแม่โปรดแนะนำลูก เพื่อว่าพระแม่จะได้เพิ่มเติมพระพรต่างๆ ที่หลั่งไหลมาจากพระแม่ให้แก่ลูก นำความรักและแสงสว่าง ความหวัง และพระสัญญา มาสู่โลกที่ยังจมอยู่ในความมืดนี้

ลูกสวดขอให้กับพวก คนจนๆ คนที่หลงหายไป คนที่หมดหวัง คนที่สิ้นหวัง ไม่มีกำลังใจ ลูกสวดให้กับผู้ที่แสวงหาสันติภาพ และความสงบสุข ขอให้พวกเขาได้พบพระแม่ ได้รับการรักษาจากพระหัตถ์ของพระแม่ด้วยเทอญ อาแมน

แปลโดย คุณพ่อ วิจิตร ลิขิตธรรม
จากหนังสืออิสระ ปีที่11 ฉบับที่ 2 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2531



คืนนี้อากาศร้อนมากไม่มีลมเลย ยุงก็ชุมมากเหลือเกิน แต่ไม่มีใครบ่นสักคน พวกเรายังคงนั่งสวดกัน ตามปกติเพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือมาหาแม่พระอันเป็นที่รักยิ่งของพวก เรา คืนนี้ผมไม่คอยสบาย เลยต้องขอตัวไปนอนตั้งแต่ 22.00น. มาตื่นอีกทีก็ประมาณเที่ยงคืนแล้ว จึงรีบไปสวดต่อที่หน้าถ้ำแม่พระเพราะผมเห็นด้วยจิตว่าแม่พระฟาติมาได้ปราก ฎซ้อนอยู่ในรูปปั้นของแม่พระเมืองลูร์ดที่ในถ้ำนี้ ผมไม่ได้บอกใครเพียงแต่ผมขอให้ทุกคนสวดบทภาวนาของแม่พระ ซึ่งพระองค์ได้บอกกับอาเดเรียว่า พระองค์คือผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร แล้วสวดตามด้วยบทข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า และวันทาพระราชินี ผมได้ยินหลายคนบอกว่าคืนนี้เห็นแม่พระองค์ใหญ่เหลือเกิน สูงเกือบถึงเพดานถ้ำ บางคนก็บอกว่าเห็นแม่พระขยับปาก และสวดตามพวกเรา เวลาประมาณ 03.00น. พวกเราก็พักหลังจากที่ได้สวดติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ นานพอสมควร ตอนนี้ต่างคนต่างก็หาเรื่องมาคุยกันเพื่อแก้ง่วงนอน

ผมนอนมามากพอแล้วจึงยังคงสวดสายประคำอย่างเงียบๆ ตามลำพังและในขณะนั้นเองผมก็ได้รับรู้ว่าแม่พระพร้อมที่จะประทานสาสน์แล้ว แต่ผมไม่มีสมาธิพอที่จะรับสาสน์ของแม่พระได้ จึงขอร้องให้พวกเราเงียบเสียงลงสัก 10 นาที ถ้าเป็นพระประสงค์ของแม่พระที่จะประทานสาสน์แก่พวกเราแล้ว ผมจะได้ถ่ายทอดออกมาให้พวกเราให้ได้ยินทั่วกัน และเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แม่พระได้ทรงตรัสกับพวกเราดังนี้

“ขอบ ใจพวกลูกทั้งหลายที่ได้มาในวันนี้ แม่ได้เห็นความพยายามของพวกลูกทำสืบต่อกันเป็นระยะเวลานาน

ขอบใจที่ วันนี้ได้นำบทสวดภาวนาของแม่นำกลับขึ้นมาสวดกันอีกครั้งหนึ่ง

ถ้า พวกลูกอยู่ในพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า ลูกก็คงมองเห็นแม่ในจิตใจของ ลูกอยู่แล้ว

ขอบใจที่ลูกมาหาแม่ด้วยความเชื่อมั่นอย่างแท้จริง แม่ไม่ต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากความเชื่อที่มาจากหัวใจของพวกลูกเท่านั้น
แม่ มารอลูกอยู่นานแล้ว (แม่พระหมายถึงรอผู้ที่เปิดจิตใจรับฟังเสียงของแม่พระ) หาโอกาสที่จะ ติดต่อกับพวกลูก แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงแม่ มีแต่ลูกผู้นี้ที่พยายามเปิดใจหาแม่ พยายามฟังเสียงของแม่ (แม่พระหมายถึงผม) บางครั้งเขาก็คิดว่าเป็นเสียงที่ล่องลอยมาในอากาศ เป็นเสียงที่เขาคิดขึ้นมาเอง แต่แม่ขอบอกว่า แม่เองเป็นผู้ที่พูดให้เขาได้ยิน

จงมีเมตตาต่อเพื่อนพี่น้องของลูก จงให้ความรักและความเห็นใจแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน และตกอยู่ในบาปทั้งหลาย

จงนำบทสวดของแม่ที่ลูกทั้งหลายได้ไปใน วันนี้ สวดภาวนาเพื่อขอให้เขาทั้งหลาย ได้รับการช่วยเหลือจากแม่ นานมาแล้ว ที่แม่ไม่ได้ยินเสียงสวดภาวนาบทนี้เลย ขอบใจลูกมาก แม่ปีติเหลือเกินที่บทสวดภาวนาของแม่กลับดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

หลายคนอาจจะสงสัยอยู่ในใจว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ขอบอกว่า แม่ดูพวกลูกอยู่นานแล้ว จงกลับไปรื้อฟื้นความตั้งใจจริงของลูก สิ่งที่ลูกได้สัญญาไว้แต่ลูกได้หลงลืมไป จงทำพลีกรรมสำหรับสิ่งที่ลูกได้หลงลืมไป (วันนั้นผมก็ลืมทำพลีกรรมเพื่อน้องชายของผมด้วยเช่นกัน)
วันนี้เรา ขอบอกพวกลูกว่า อาณาจักรสวรรค์เปิดต้อนรับพวกลูกทุกคน ถ้าลูกมีความเชื่อและตั้งใจจริงที่จะเดินตามเรามาอย่างแท้จริง เราจะอยู่กับพวกเจ้าในทุกๆหนทุกๆแห่ง

อย่าประหลาดใจเลยนี่เป็นคำพูด ของแม่เอง จากนี้ต่อไปพวกลูกจะได้ยินเสียงแม่ทุกครั้งที่มาหาแม่ที่นี่ (ทุกวันเสาร์สิ้นเดือน โดยผ่านทางผมซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารของแม่พระ) สักวันหนึ่งจะมีคนอีกหลายๆคนที่ดำเนินตามรอยพวกลูก จงอย่าเสียใจไปเลย (ในขณะนี้ยังไม่มีใครมาร่วมสวดกับพวกเราเพิ่มแต่อย่างใด)

ขอบใจ ลูกมากที่มีความรักภักดีต่อแม่มาตลอด พระผู้เป็นเจ้าทรงพอพระทัยอย่างยิ่งที่เห็นการสวดภาวนา การชุมนุมของพวกเจ้า ณ. ที่นี้ จงตั้งใจสวดภาวนาเป็นพิเศษแก่ผู้ที่ได้รับเลือกสรรค์องค์ใหม่ พระสันตะปาปาของลูก ท่านจะเป็นผู้นำทางแก่เจ้าทั้งหลาย

ขอให้สวด ภาวนาให้มากๆ โลกนี้กำลังลุกเป็นไฟด้วยบาป จิตใจมนุษย์คิดแต่ในเรื่องของตนเองเท่านั้น พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้ตนเองพึงพอใจโดยไม่นึกถึงผลร้ายที่ตามมา ขอให้สวดภาวนาให้เขาเหล่านั้นได้ระลึกว่า แม่เฝ้ามองดูเขาอยู่
อยาก ให้เขารู้จักว่า รักที่แท้จริงคืออะไร ไม่ใช่รักตนเอง รักโดยยอมพลีแม้กระทั่งชีวิตเพื่อเห็นคนที่เรารักเป็นสุข แม่รู้ว่า หลายคนประหลาดใจ ไม่เป็นไร สักวันหนึ่งลูกจะได้ยินเสียงของแม่ด้วยจิตของลูกเอง”

[Anonymous]

การถูกประจญและคำสอนของแม่

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2548 เวลา 21.00 -21.30น.

ค่ำวันนี้พวกเราเริ่มสวดกันตั้งแต่ 19.30น. พอสวดไปได้สักหน่อยผมก็ได้ยินเสียงลมพายุมาแรงมาก คิดว่าฝนคงจะตกใหญ่อีกในไม่ช้า แต่ผมคิดผิดเพราะต่อมาอีกไม่นานผมก็เริ่มถูกรบกวนอย่างมากมายจากสิ่งที่มองไม่เห็น ผมได้ยินเสียงคำด่าหยาบคายและคำลามกต่างๆกรอกใส่หูผมอยู่ตลอดเวลาที่ผมสวดสายประคำอยู่นั้น ผมก็พูดอยู่ในใจกับเสียงเหล่านั้นว่าไปให้พ้นสักทีจะได้ไหม แต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล ผมจึงขอให้พวกเราทุกคนร่วมกันสวดบทภาวนาของอัครเทวดามีคาแอล พวกเราต้องสวดกันถึง 3 ครั้ง เสียงเหล่านั้นจึงค่อยๆ จางหายไป น้าสาวผมบอกว่าคืนนี้แม่พระฟาติมาสวยเหลือเกิน โดยเฉพาะในเวลาที่แม่พระทรงประทานสาสน์แก่ผม มีแสงสีทองส่องสว่างไปทั่วรูปปั้นของพระแม่ แม่พระเหมือนจะมีชีวิต ได้ทรงทอดพระเนตรดูที่พวกเราด้วยความอ่อนโยนมีเมตตากรุณา แต่เมื่อแม่พระได้หยุดประทานสาสน์แล้ว แสงสีทองนั้นก็หายไปและแม่พระ ก็กลับมาเป็นรูปปั้นธรรมดาอีกครั้งหนึ่ง แม่พระได้ทรงประทานสาสน์ไว้ดังนี้

“ขอบใจลูกมากที่ยังคอยเฝ้าแม่อยู่ วันนี้ลูกถูกรบกวนมากใช่ไหม? จงนึกถึงแม่ทุกครั้งที่ลูกถูกประจญ จงอย่าฟังเสียงชั่วร้ายในจิตใจของลูก ถ้าลูกไม่ใส่ใจกับมัน ลูกก็จะไม่ได้ยินเสียงของมัน

เรามีความ ยินดียิ่งนักที่วันนี้ลูกได้ไปหาแม่ที่บ้านของครอบครัวผู้มีบุญ ไม่ใช่เป็นการบังเอิญ เราต้องการให้ลูกไปพบ เหตุการณ์ในภายหน้า ลูกจะต้องร่วมงานกับเขา (แม่พระหมายถึงลูกชายของเจ้าของบ้าน)

ขอบใจที่ทำทุกสิ่งให้แม่ด้วยความรัก ชีวิตของลูกจะอยู่ในความดูแลของแม่เสมอ จงเริ่มต้นที่ตัวลูกก่อน ชำระจิตใจให้บริสุทธื์ แล้วค่อยแผ่ความรักความเมตตานั้น ไปยังพี่น้องของลูก เขาจะได้รับพระพรของพระผู้เป็นเจ้าให้กลับมาหาพระองค์ จาก การกระทำของลูกเอง

งานของลูกเริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นแล้วใช่ ไหม? ในทุก ๆ ครั้งจะมีอุปสรรค์ แต่ลูกก็จะเรียนรู้ที่จะแก้ไขทำให้ดีขึ้น ๆ ทุก ๆ วัน

วันนี้แม่ ขอบอกว่า คำสวดภาวนาของพวกลูกทั้งหลายที่ขอต่อแม่ แม่ได้เสนอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าแล้ว สุดแต่น้ำพระทัยของพระองค์ที่จะประทานความเมตตามาให้ตามคำขอของพวกลูก

จง มั่นคงในสื่งที่ลูกกำลังกระทำอยู่ จงเดินหน้าต่อไป นี่เพิ่งเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น

ญาติพี่น้องทั้งหลายของลูกก็จะได้ รับพระพรอันนี้ให้กลับมาอยู่ในพระหรรษทาน ของพระองค์ ความศรัทธาจะแผ่ไปทั่วบ้านนี้ จากบ้านนี้จะแผ่ไปสู่บ้านอื่น

ในแต่ ละวันขอให้คิดแต่ว่า วันนี้ลูกจะตั้งใจทำความดี แผ่เมตตาให้คนอื่น ให้ความรักแก่เขา สวดภาวนาให้แก่เขา และเขาทั้งหลายจะได้รับพระพรอันนี้ให้กลับมาอยู่ร่วมกันในสถานที่อัน ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเมื่อวันที่เขาถูกตัดสิน (จากพระผู้เป็นเจ้า)

จงตั้งใจทำต่อไป ลูกเดินมาถูกทางแล้ว สิ่งที่ลูกกำลังทำอยู่ พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยยิ่งนัก อย่าลืมคำสัญญาของลูกที่บอกว่า จะช่วยงานแม่จนตลอดชีวิตจงอย่าลืมคำๆนี้

จงบอกญาติพี่น้องของลูกให้ สวดภาวนาให้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่อยู่ห่างไกล จงเตือนให้เขาสวดภาวนา สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายรอบตัวเขากำลังใกล้เข้ามา ๆ (แม่พระหมายถึงความเสื่อมทางด้านศีลธรรม) การอยู่ในพระหรรษทานเท่านั้น ที่จะช่วยให้เขาได้รอด จงบอกลูกหลานทุกคนตามที่แม่พูดนี้

จงให้อภัยแก่ญาติพี่น้องของลูก ผู้ใดก็ตามที่ทำให้ลูกไม่พอใจ หรือเสียใจ จงให้อภัยแก่เขา สวดให้เขาเพื่อเขาจะได้กลับมาเป็นลูกของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง

แม่ ขอบอกลูกว่า แม่รักลูกและครอบครัวของลูกมาก เพราะหัวใจของลูกทุกคนได้เปิดหาแม่ มีน้อยคนนักที่จะคิดอย่างนี้ในโลกปัจจุบัน

จงจำคำของแม่ไว้ แม่รักพวกลูกทุกคน แม่จะอยู่กับพวกลูกทุกคนตลอดไป”

[Buddy]

This message motivates me so much to pray for the conversion of my family.... especially my brother... :)

[Buddy]

My prayer had been answered!!! My borther just moved to the new place which is very close to the church!! And he said to me that he'll go to the church sometime just to donate some money....

Pray for your family as Mother Mary said!! She'll really help us!!