+ เดือน พค. 48 ลูกคือผู้นำสาสน์ของแม่ +
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 20, 2006 3:55 pm
เจ้าคือผู้นำสาสน์ของเรา
วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2548 เวลา 20.45-21.15น.ค่ำวันนี้พวกเราต่างก็กระจายไปคนละทิศละทาง เมื่อถึงเวลาสวดประจำวันที่พวกเราเคยมานั่งพร้อมกัน วันนี้มีแต่พี่สาวของผมคนเดียวที่เตรียมตัวมาพร้อมแล้ว สำหรับการสวดภาวนา พี่สาวผมมองเห็นผมนอนหลับอยู่ จึงปลุกให้ผมตื่นขึ้นมา และไปตามคนอื่น ๆ มาสวดพร้อมกัน วันนี้ในระหว่างที่กำลังสวดภาวนาอยู่นั้น พวกเราเห็นหน้าแม่พระฟาติมาเศร้ามากเหลือเกิน แม่พระคงจะมีอะไรที่จะบอกกับพวกเราในคืนนี้เป็นแน่ และแล้วผมก็ได้รับสาสน์จากแม่พระดังต่อไปนี้
“ลูกที่รักของแม่ทั้งหลาย วันนี้แม่ได้มาหาพวกลูกตามที่แม่สัญญาแล้ว
สิ่งที่ลูกจะถามแม่ ลูกรู้คำตอบดีแล้วว่ามันคืออะไร
เมื่อวานนี้สิ่งที่ลูกได้ยินคือปัญหาทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายหน้า จงเข้มแข็ง แม่จะอยู่กับลูก จงอดทน จงอย่าตอบโต้ ถ้าลูกเชื่อมั่นในแม่อย่างแท้จริง ลูกจะผ่านพ้นไปได้ สิ่งที่ลูกคิดที่จะกระทำในวันพรุ่งนี้ ขอให้คิดให้รอบคอบก่อนที่ลูกจะทำอะไรลงไป
ลูกจะอยากรู้ไปทำไมว่ามัจจุราชสีแดงคืออะไร? เมื่อวานนี้ลูกได้คำตอบแล้วมิใช่ หรือ? (มันคือจิตชั่วร้ายที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่ผมรู้จัก)
วันนี้แม่มาคอยลูกตั้งนานแล้ว เห็นลูกนอนหลับไหล เมื่อวานนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง? จงแบ่งปันแก่พี่น้องของลูก จงอย่าคิดว่าเราดีแล้ว (เราในที่นี้แม่พระหมายถึงตัวผม) มีคนอื่นอีกมากมายที่เขาได้ทำงานให้แม่หนักกว่าลูก แทบตลอดชีวิตของเขา เขาไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากทำให้แม่ด้วยความรักเท่านั้น
ปัญหาในภายหน้าใกล้เข้ามาแล้ว จงมีสติ วอนขอพระปรีชาญาณจากพระผู้เป็นเจ้า จะทำให้ลูกผ่านพ้นไปได้ เมื่อวานนี้ ในหลาย ๆ เสียงที่ลูกได้ยินคือคำเตือนของแม่ จงมั่นคงในพระผู้เป็นเจ้า อย่าหวั่นไหว พระเมตตาของพระองค์จะทำให้เจ้าปลอดภัย
จงดูตัวอย่างของผู้กลับใจคนใหม่ เขาได้ถวายทั้งชีวิตแด่พระเจ้า แม้ในความทุกข์ เขาก็ยอมรับถ้าเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า จงมีความมั่นคงในจิตใจ จงดูเขาเป็นตัวอย่าง
แม่ขอบอกลูกว่าครอบครัวของลูกอาจจะได้รับผลกระทบอันนี้ จงรักกันเข้าไว้ รักกันให้มาก ๆ อย่าให้มีช่องว่างของความแตกแยก พวกลูกจะพ้นภัย (การเผยแพร่สาสน์ของแม่พระ อาจมีอุปสรรคและส่งผลกระทบถึงครอบครัวของผม)
จงนำบทเรียนที่ลูกได้เรียนรู้เมื่อวานนี้ เขียนออกมาจากหัวใจของลูกเพื่อให้คนอื่นได้เรียนรู้ว่า ความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างสิ้นสุดจิตใจนั้นคืออะไร ถามใจพวกลูกทุกคนดูเองว่าลูกได้ทำอย่างนั้นแล้วหรือยัง? พระองค์เฝ้ามองพวกลูกอยู่ พวกลูกเคยเปิดใจหาพระองค์แล้วหรือยัง? เคยมีเวลาที่จะฟังเสียงของพระองค์หรือยัง?
ถ้าลูกมีความตั้งใจจริง ลูกจะได้ยินเสียงของพระองค์ในหัวใจของลูก ความรักที่ไม่มีขอบเขต ความรักที่ต้องการเห็นลูกทั้งหลายผู้ซึ่งเป็นสิ่งสร้างของพระองค์ได้กลับมาอยู่ในพระหรรษทานของพระองค์
(ผมได้เรียนรู้ว่า ผู้ที่ยึดมั่นและรักในแม่พระ, พระเยซูเจ้า และพระบิดาเจ้าอย่างแท้จริงนั้น ในกิจการแต่ละวันเขาไม่ต้องการที่จะทำในสิ่งใด ๆ ที่ทำให้พระองค์ต้องเสียพระทัย ยอมรับในทุก ๆ สิ่งถ้าเป็นพระประสงค์ของพระองค์แล้ว เขายินดีที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระองค์เสมอ แม้ในขณะที่เขาตกอยู่ในความทุกข์ยากอย่างถึงที่สุด ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือเขาได้แล้ว แต่เขาก็วางใจในพระองค์ รำพึงวิงวอนขอความช่วยเหลืออย่างซื่อตรงและสิ้นสุดจิตใจ เหมือนกับลูกที่พูดกับพ่อแม่ของตน เขาย่อมได้รับพระพรของพระองค์และได้พบแต่สันติสุขในจิตใจ)
แม่เศร้าใจยิ่งนัก ในบรรดาญาติพี่น้องของลูก มีบางคนที่ยังไม่รู้จักเปิดใจหาพระเจ้า จงสวดภาวนาให้เขาให้มากกว่านี้ แม่จะช่วยเสนอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ให้เขาได้รับพระหรรษทานของพระองค์
สิ่งที่ลูกได้สัญญาไว้ว่าลูกจะทำพลีกรรม จงอย่าลืมสัญญานี้ การกระทำของลูกและพี่สาวของลูกจะดึงเขากลับมา
(ผมและพี่สาวตั้งใจทำพลีกรรมเพื่อช่วยให้บุคคลในครอบครัวของเรา ขอให้เขาได้รับการดลใจให้กลับมาหาพระเป็นเจ้า)
แม่ได้ยินเสียงคำภาวนาของพี่สาวของลูก จงพยายามต่อไป แม้ว่าเขาจะหัวแข็ง สักปานใด แต่ไม่มีใครเอาชนะพระผู้เป็นเจ้าไปได้ จงพยายามต่อไป
(พี่สาวของผม เริ่มร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ)
แม่ให้สัญญาว่า คำภาวนาทุกครั้งที่ลูกได้ภาวนา แม่ได้วิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าแล้ว พระองค์กำลังดูกิจการทั้งหลายที่ลูกได้ทำ ลูกมีความมุ่งมั่นเพียงใด
ลูกไม่ได้เป็นวาสสุลา ไม่ต้องกลัว ลูกคือผู้นำสาสน์ของแม่
(ผมน้ำตาไหลเมื่อแม่พระพูดถึงเรื่องนี้ เพราะจิตใจผมเริ่มหวั่นไหวเนื่องจากสาสน์ที่ ผมได้รับบางส่วนในครั้งที่แล้ว เหมือนกับที่พระเยซูเจ้าพูดกับวาสสุลา ไรเด้น ผู้ซึ่งเป็นผู้บันทึกสาสน์ของพระเยซูเจ้า ท่านผู้อ่านสามารถหาอ่านได้จากหนังสือชื่อ “ชีวิตแท้ในพระเจ้า” ทำให้ผมคิดเอาเองว่าผมไปจำข้อความเหล่านั้นมาหรือเปล่า และผมได้บอกกับแม่พระว่า ผมไม่ต้องการเป็นเหมือนกับวาสสุลา แต่ต้องการเป็นตัวของผมเอง)
แม่น้อยใจที่เมื่อวานนี้ลูกไม่กล้าพูด ในขณะที่แม่กำลังจะพูดต่อหน้าคนทั้งหลาย”
ผมร้องไห้เสียใจและได้แต่บอกกับพระองค์ว่า“ลูกขอโทษ”
ในวันนั้นผมกับพี่สาวได้ไปที่บ้านพี่คนหนึ่งเพื่อไปหาแม่พระฟาติมาแห่ง บ้านซ่งแย้ เพราะก่อนหน้านี้ 1 วัน เราได้สวดภาวนาร่วมกันที่บ้านที่ตรอกจันทร์ ทั้งพี่สาวและผมได้เห็นพร้อมกันว่าแม่พระแห่งบ้านซ่งแย้ได้มาหาพวกเราถึงที่บ้าน แม่พระบอกว่า
“วันนี้ลูกมาเยี่ยมแม่ไม่ได้ แม่ก็มาหาลูกที่นี่”
ผมกับพี่สาวจึงได้ ชวนกันไปหาแม่พระอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอบคุณแม่พระที่ได้ทรงพระเมตตามาหาพวกเราถึงที่บ้าน หลังจากที่สวดภาวนากันเสร็จแล้ว ก็ได้มีการแบ่งปันถึงประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับพระพรจากแม่พระ ในขณะนั้นเองผมรับรู้ว่า แม่พระกำลังจะให้ผมบอกกับคนทั้งหลายว่า ผมเป็นผู้นำสาสน์ของพระแม่ แม่พระบอกกับผมถึง 3 ครั้ง แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะขัดจังหวะการสนทนา และไม่กล้าพอที่จะพูดตามพระประสงค์ของแม่พระได้ นี่คือการทดลองใจของแม่พระว่า ผมจะกล้าพอที่จะทำตามน้ำพระทัยของแม่พระหรือไม่ เพราะในสถานที่นั้นมีแต่คนที่มีความเชื่อในแม่พระทั้งนั้น แต่ผมช่างอ่อนแอเสียจริง ๆ