จงจำไว้ว่าพวกเจ้าคือลูกทั้งหลายของเรา
หน้าถ้ำแม่พระ วัดพระวิสุทธิวงส์, ลำไทร
วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2548 เวลา 03.30-03.58 น.
วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2548 พวกเราไปถึงลำไทรตั้งแต่ 16.30น. เวลายังมีเหลืออีกมากก่อนที่จะมีการทำนพวารแม่พระนิจจานุเคราะห์ในเวลา 19.00 น. พี่สาวจึงชวนผมไปสวดที่หน้าถ้ำแม่พระก่อนที่จะมืดค่ำ ผมตามไปหลังจากที่พี่สาวผมสวดสายประคำไปได้แล้ว 1 สาย
ในขณะที่ผมเริ่มต้นสวดสายประคำพร้อมกับพี่สาวไปได้สักครู่หนึ่ง ผมได้ยินที่สาวผมบอกว่าแม่พระมาแล้ว ผมตอบกับพี่สาวว่า ผมรู้แล้วเพราะผมเห็นองค์แม่พระวูบวาบอยู่ตลอดเวลาและที่ผนังถ้ำเป็นเหมือน กับภาพสามมิติสามารถมองลึกเข้าไปได้ ผมนึกอยู่ในใจว่าแล้วแต่น้ำพระทัยของแม่ พระที่จะให้ผมได้มีโอกาสได้มองเห็นพระแม่หรือไม่ พอนึกเท่านั้นผมก็มองเห็นองค์พระกุมารทางจิต(เป็นองค์เดียวกับที่แม่พระองค์ อุปถัมภ์ทรงอุ้มอยู่ในพระหัตถ์)
พระองค์ช่างน่ารักเหลือเกิน พระองค์ทรงกำมือเข้าและแบออกหลายครั้ง เหมือนกับเด็กเล็ก ๆ ที่กำลังชวนให้ผมเล่นตามประสาเด็ก ๆ ทำให้ผมรู้สึกว่าวันนี้พวกเราคงโชคดี หลาย ๆ คนคงจะได้เห็นแม่พระในคืนนี้
ก่อนที่จะมืดน้าสาวผมตามมาสวดสมทบด้วยอีก 1 คน ในเวลาใกล้ค่ำเช่นนี้แสงมีไม่พอที่จะมองเห็นบทรำพึง ได้แล้ว แต่พี่สาวผมก็ยังสามารถอ่านได้อย่างสะดวก (ผมมาทราบทีหลังว่าพี่สาว ผมเห็นแสงสว่างส่องลงมาให้อ่านบทรำพึงได้อย่างชัดเจน ไม่รู้เหมือนกันว่าแสงนี้มาจากไหนเพราะยังไม่มีการเปิดไฟที่หน้าถ้ำแต่อย่าง ใด) จนกระทั่งพวกเราได้ยิน เสียงระฆังวัดพวกเราจึงไปเข้าร่วมพีธีมิซซากัน
พีธีมิซซาเลิกประมาณ 20.30 น. พวกเราเริ่มเตรียมหาสถานที่สวดกันในคืนนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาบอกว่าจะมีผมตกอยู่ทั่วไปในระยะสองถึงสามวันนี้ พวกเราจึงเตรียมที่จะสวดกันที่หน้าวัดแทน ในขณะนั้นเองพี่ ๆ อีกหลายท่านได้มาสมทบกับเรา ผมดีใจมากที่สุดเพราะเดือนที่แล้วเราก็ได้สมาชิกมาสวดเพิ่ม 1 คน วันนี้ยังได้พี่ ๆ มาเพิ่มอีก ผมขอในใจกับแม่พระว่าขอให้พี่ ๆ เขาได้ มาหาแม่พระทุก ๆ เดือนจะได้ไหม พี่บอกว่าคืนนี้กลุ่มเยาวชนกลุ่มดังกล่าวก็จะตามมาสมทบด้วยอีกหลายคน ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของป้า ๆ คนจันทน์ว่า “ถ้าพวกเรา ตายกันหมดแล้วจะมีใครมาสวดแทนพวกเราไหม” วันนี้ผมรู้แล้วว่าต้องมีอย่างแน่นอน ขอบคุณแม่พระที่แม่ได้เตรียมหนทางที่จะนำสมาชิกใหม่มาเพิ่มให้กับพวกเรา
พวกพี่ ๆ เขาตั้งใจจะมาหาแม่พระจึงไปสวดกันที่หน้าถ้ำ ผมจึงบอกแก่บรรดาป้า ๆ ทั้งหลายว่า ผมขอไปร่วมสวดกับพี่ ๆ เขาก่อน ถ้าฝนตกแล้วจะย้ายกลับมาสวดที่หน้าวัดตามความตั้งใจแรกที่คิดกันเอาไว้ แต่ดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจที่ไม่มีเมฆฝนเลย ผมคิดในใจว่าเราคงได้อยู่หน้าถ้ำจนถึงเช้าเป็นแน่
พวกเราเริ่มต้นสวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์พร้อมกัน แล้วจึงสวดตามด้วยบท นพวารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจ ที่คุณพ่อวิจิตรท่านได้กรุณาเรียบเรียงให้เป็น พิเศษสำหรับการสวดที่หน้าถ้ำแห่งนี้ เราสวดกันอยู่นานพอสมควรผมก็ได้เห็น น้อง ๆ กลุ่มเยาวชนกลุ่มดังกล่าว และคุณแม่ของน้องทั้งสองมาร่วมสวดกับพวกเรา ผมมีความสุขมากจึงมีแรงสวดต่อได้จนยันสว่าง
ผมสวดอยู่ที่ด้านหลังเพราะต้องอาศัยแสงไฟเพื่อก่อนำสวด เนื่องจากด้านหน้าถ้ำ ไฟคงจะเสียจึงค่อนข้างมืดพอสมควร ผมเห็นพี่ ๆ ที่มาเริ่มพูดกันอยู่ข้างหน้า ผมไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แต่ก็เชื่อว่าพี่ ๆ เขาคงได้เห็นอัศจรรย์บาง อย่างเป็นแน่ (ผมมาทราบทีหลังว่าพี่ ๆ เขาเห็นใบหน้าของแม่พระเปลี่ยนไปเป็นองค์พระเยซูเจ้าทรงมงกุฎหนาม, พระบิดา และเห็นที่ผนังถ้ำลึกเข้าไปเป็นเหมือนกับมองเห็นภาพสามมิติ ผมต้องขออภัยที่ลืมถามพี่ ๆ เขาอย่างละเอียด เลยมีข้อ มูลมาได้เพียงเท่านี้)
จนใกล้เวลาเที่ยงคืนก็มีกลุ่มเยาวชนฯอีก 3 คนตามมาสมทบสวดเพิ่ม แม่พระคงดีใจที่เห็นมีสมาชิกใหม่มาสวดกันเพิ่มขึ้นถึงขนาดนี้ พวกน้อง ๆ ตั้งใจจะอยู่รอรับสาสน์จากแม่พระในเวลาตีสาม ผมเห็นแล้วอดดีใจแทนน้อง ๆ ไม่ได้ที่พวกเขาอายุยังน้อย แต่ได้เลือกที่จะอยู่ในศีลในพรของพระ พวกเขาโชคดีกว่าผมที่กว่าจะได้กลับใจมาหาแม่พระก็เกือบสายไปแล้ว
เวลาผ่านไปเร็วมาก ผมไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงนอนเลย และแล้วเวลาที่พวกเราเฝ้ารอก็มาถึง เมื่อแม่พระได้ทรงตรัสกับผมว่า
“แม่ พร้อมที่จะให้สาสน์แล้ว เครื่องมือที่ลูกนำมาอัดเสียงแม่นั้นพร้อมแล้วหรือยัง”
ผมไม่คอยแน่ใจสักเท่าไหร่ว่าจะอัดเสียงได้หรือไม่ เพราะไม่ค่อยได้ใช้เลยขอให้น้องคนหนึ่งช่วยจดบันทึกสาสน์ของแม่พระให้ที เผื่อว่าผมจะอัดเสียงไม่ติด แม่พระถามผมอีกว่า
“แม่พร้อมแล้ว ลูกล่ะพร้อมแล้วหรือยัง”
ผมจึงเริ่มทำการบันทึกเสียงทันที แม่พระได้ทรงตรัสกับพวกเราดังนี้
“ลูกที่รักทั้งหลายแม่ขอขอบใจลูก ที่พวกลูกมีน้ำใจมาร่วมการสวดภาวนา ณ ที่นี้ เพื่อถวายเกียรติแด่แม่ เพื่อขออภัยบาปแด่ชาวโลกทั้งมวล วันนี้แม่ปีติยิ่งนักที่ได้เห็นมีสมาชิกมาเพิ่มขึ้น พวกเขามาโดยไม่มีใครบังคับ พวกเขามาโดยไม่ได้หวังที่จะพบสิ่งอัศจรรย์ใด ๆ แต่พวกเขามาด้วยความรักที่มีต่อแม่ แม่ขอบใจพวกลูกทั้งหลายยิ่งนัก
ใน ช่วงตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่ได้เฝ้ามองดูพวกลูกทั้งหลายในการดำเนินชีวิตในกิจการแต่ละวันที่ลูกได้ ทำ แม่เห็นทุกสิ่ง ถึงแม้ว่าในบางครั้งลูกได้พลาดพลั้งไป จะด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อลูกได้มาหาแม่ ณ ที่นี้ มาเสนอ วิงวอนต่อแม่ ณ ที่นี้ แม่จะนำสิ่งที่พวกลูกวิงวอนขอนั้น นำเสนอต่อพระผู้เป็นเจ้า ในสวรรค์ในสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกได้ทำผิดพลาดไป ถ้าลูกมีความเสียใจอย่างแท้จริง และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำมันอีก ลูกก็จะได้รับการอภัยจากพระบิดาเจ้าในสรวงสวรรค์
เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นและที่ได้เกิดขึ้นในส่วนต่าง ๆ ของโลกนี้ ก็เป็นผลจากบาปของมนุษย์ที่พวกเขายินดีที่จะกระทำมัน ทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่ามันจะมีผลร้ายขึ้นภายหลัง แม่หวังว่าพวกลูกยังคงจำได้ถึงคำที่แม่มาเตือนลูกให้สวดภาวนา และทำพลีกรรมเพื่อขออภัยโทษแทนพวกพ้องของลูก แม่ยังยืนยันคำนั้นอยู่ การสวดภาวนา การทำพลีกรรม ยังไม่สามารถที่จะหยุดยั้งคนใจบาปได้ แม่ได้เคยบอกว่า พระบิดาเจ้าให้มาแจ้งว่า เหตุการณ์ทั้งหลายนั้นกำลังจะจบสิ้นแล้ว มันจะจบสิ้นแต่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น คนที่ใจบาปทั้งหลายก็จะเริ่มทำในสิ่งที่ชั่วร้ายอีกเหมือนเดิม
แม่ จึงขอบอกแก่ลูกทั้งหลายว่า วันนี้ไม่ใช่เป็นการบังเอิญที่พวกลูกทั้งหลายได้มา รวมตัวอยู่ ณ ที่นี้ แม่ต้องการให้ลูกได้รับรู้ถึงในสิ่งที่แม่บอก ถ้าลูกมีความเชื่อจงนำสาสน์นี้ไปบอกแก่พี่น้องทั้งหลายของเจ้าเถิด
ความ สงบสุขจะมีอีกเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แม่เศร้าใจเหลือเกินที่มีคนเพียงไม่กี่คนเข้าใจและยินดีปฏิบัติตามน้ำพระทัย ของพระเป็นเจ้า
สิ่งมัวเมาในโลกนี้มีมากเหลือเกิน แม่เป็นทุกข์ใจที่เห็นลูก ๆ ของแม่กำลังหลงทาง ขอให้พวกลูกทั้งหลายจงนำความเชื่อและความศรัทธา ช่วยกันตักเตือนผู้ที่หลงทางเหล่านั้นให้กลับมาอยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระ บิดาเจ้า
พวกลูกแต่ละคนยังโชคดีที่ฟังเสียงเตือนในจิตใจของลูก ความรักของพระบิดาเจ้านั้นยิ่งใหญ่ยิ่งนัก แม้เพียงลูกคนหนึ่งของพระองค์วิงวอนและร้องขอพระองค์ก็จะสดับฟัง และไม่ลงโทษทัณฑ์แก่บุคคลที่เขาวิงวอนขอ
แม่ขอบใจในความมีน้ำใจอัน ดีของพวกลูก ถ้าปราศจากบุคคลเยี่ยงลูกแล้ว โลกนี้ก็มิอาจอยู่ได้อย่างสันติสุข
จงอย่าคิดว่าสิ่งที่แม่บอกลูก เป็นภาระอันใหญ่หลวงสำหรับพวกลูกทุกคนที่จะต้องแบก พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยให้ใครต้องทำในสิ่งที่เกินความสามารถ
ขอให้ ลูกภูมิใจเถิดพวกลูกแต่ละคน ได้รับการเลือกสรรค์ให้ทำหน้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้โลกนี้ดำรงอยู่ได้อย่างสันติสุข พระบุตรสุดที่รักของแม่ บัดนี้ได้มาอยู่ต่อหน้าพวกลูกทั้งหลายแล้ว พระองค์ต้องการฟังความต้องการส่วนตัวของลูกแต่ละคน จงทูลขอพระองค์จากจิตใจที่แท้จริงของลูกทั้งหลายเถิด พระองค์กำลังสดับฟังอยู่”
ผมบอกให้ทุกคนเสนอความต้องการส่วนตัวของแต่ละคน และขอพระพรจากพระเยซูเจ้า ผมได้สัมผัสถึงพลังแห่งความเมตตาและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ผมจำได้ไม่หมดว่าผมขออะไรพระองค์บ้าง นึกอะไรได้ก็บอกกับพระองค์ไปจนหมดสิ้น แต่ที่จำได้แน่ ๆ ก็คือพระองค์ได้ทรงเมตตาให้พระพรแก่พวกเราทุกคนอยู่นานพอสมควร แล้วพระองค์ก็เริ่มตรัสกับผมว่า
“ในทุก ๆ ครั้งที่มีการร่วมใจกันสวดภาวนา ฤทธิ์กุศลนี้จะสามารถบรรเทาได้ทุก ๆ สิ่ง คนเจ็บป่วยก็จะได้รับความบรรเทา สิ่งที่เลวร้ายในชีวิตก็จะได้รับการช่วยเหลือ จงอย่าลืมพลังแห่งความศรัทธาและมั่นคงต่อพระบิดาเจ้าในสรวงสวรรค์เถิด
โดย ปกติแล้วลูกจะไม่ได้ยินเสียงของเรา ( พระองค์หมายถึงผม)
แต่ วันนี้เราต้องการให้ลูกรู้ว่า เราเฝ้าดูการกระทำของลูกโดยตลอดเช่นกัน มีหลายครั้งที่ลูกกำลังจะเดินออกนอกทางที่เรากำหนดไว้ แต่ลูกยังกลับตัวทันและฟังเสียงในจิตใจของลูก จงจำไว้ว่าพวกลูกคือลูกทั้งหลายของเรา เราจะไม่มีวันทิ้งขว้างผู้ใดผู้หนึ่งเป็นอันขาด ขอเพียงแต่ลูกระลึกถึงเราบ้าง อย่าให้เราต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกเลย”
ผมได้ยินพระองค์พูดถึงตอนนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เสียใจที่ทำให้พระองค์ต้องผิดหวังและทำให้พระองค์ต้องเจ็บปวดทรมาน นึกถึงบทที่จะสวดต่อไปไม่ออก ได้แต่ร้องไห้และเสียใจที่ผมไม่เข้มแข็งพอ ไม่สมกับที่พระองค์ได้ทรงพระกรุณาดึงผมมาจากที่ ๆ ต่ำต้อยเมื่อสามปีที่แล้ว ผมขอขอบคุณแม่พระที่ไม่เคยทอดทิ้งผม แม้ว่าผมจะเป็นคนบาป และขอบคุณพระเยซูเจ้าที่พระองค์ได้เสด็จมาอยู่ท่ามกลางพวกเราในคืนวันนี้ ผมจะไม่มีวันลืมความกรุณาของพระองค์ในครั้งนี้เลย
ณ เวลาที่ผมพิมพ์สาสน์ของแม่พระอยู่นี้ ทำให้ผมนึกถึงบทเพลงสรรเสริญแม่พระ และองค์พระเยซูคริสตเจ้าดังนี้
ใคร รักเท่าแม่ (หนังสือปรารถนา หน้า 217)
1. แม่รักลูกยิ่งสิ่งใด ลูกวอนขออะไรแม่ให้ดังปรารถนา
ชีวิตแม่พลีได้ทุกเวลา ใครเล่าหนารักเราเท่าแม่รักเอย
2. โอ้แม่มารีย์ยอดสตรีเหนือใครทั้งปวง พระแม่ทรงเป็นห่วงเหล่าพวกลูกที่อ่อนแอ
แม้มีศัตรูร้ายจู่โจมคอยรังแก แม่ผันแปรโอ้พระแม่คอยช่วยเรา
3. โอ้แม่มารีย์ราชินีของชาวคริสตัง พระแม่เป็นพลังหนุนนำให้ลูกทำดี
จึงขอสรรเสริญเทิดเทินพระแม่มารีย์ ลูกยินดีฉลองพระนามในวันนี้เอย
4. แม่ขอให้ลูกอย่าทำความชั่ว บาปเมามัวอย่าได้กลัวสู้มัน
อย่าหนีจงสู้สุดชีวัน แม่เป็นประกันบาปมันจะพ่ายแพ้เอย
พักพิงในพระเจ้า (หนังสือปรารถนาหน้า 412)
1. ดั่งทะเลเจอมรสุมแปรปรวน ทุุกคนมีชีวิตเป็นเช่นนั้น
ยามทุกข์เจียนตายดั่งคลื่นและลมซัดพา ขาดคนคุ้มครองป้องกันพักพิง
2. แต่อย่าลืมพระองค์เฝ้ามองเราอยู่ พร้อมจะเชิดชูใจที่อ่อนแรงระอา
จงหันคืนสู่พระพักตร์ที่แสนเมตตา มอบชีวาให้พระเจ้านำพา
3. พักพิงในพระเจ้า พักพิงในพระองค์ พระทรงเป็นศิลามั่นคง
พระองค์เป็นพระเจ้า พระองค์เป็นพลัง โปรดเป็นโล่เป็นกำบังที่เข้มแข็ง
ต่อไปนี้ฉันจะไม่ ต่อสู้เพียงลำพัง หตุพระองค์ผู้กอบเกียรติชัย
ในความตายความบาปโปรดเดินเคียงข้างฉัน
ขอแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจสุดที่รักของลูก และองค์พระเยซูคริสตเจ้า โปรดรับคำวิงวอนของพวกลูกทั้งหลาย และทรงพระกรุณาช่วยโลกนี้ให้พ้นภัยด้วยเทอญ