มีความผิดอาไรบ้างที่จะ
ไม่ได้รับการให้อภัยจากพระเป็นเจ้า
แล้วนอกนั้นทั้งหมดคือให้อภัยได้
ใช่หรือไม่
การตัดสินความผิด
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
เคยตอบไปแล้วนิดหน่อยและ Copy มาให้
(หนังสือคำสอน)
1441พระเจ้าเท่านั้นทรงอภัยบาป (เทียบ มก.2:7) เนื่องจากพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงกล่าวถึงพระองค์เองว่า "บุตรแห่งมนุษย์มีอำนาจอภัยบาปได้บนแผ่นดินนี้" (มก.2:10) และทรงใช้อำนาจนี้ของพระเจ้า "บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว" (มก.2:5; ลก.7:48) ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงประทานอำนาจเช่นนั้นให้มนุษย์ เพื่อให้ใช้ในนามของพระองค์ (เทียบ ยน.20:21-23)
1449สูตรการยกบาปที่ใช้อยู่ในพระศาสนจักรลาติน แสดงองค์ประกอบสำคัญของศีลศักดิ์สิทธิ์นี้คือ พระบิดาผู้ทรงพระเมตตากรุณาทรงเป็นแหล่งท่อธารแห่งการอภัยบาปทุกชนิด พระองค์ทรงทำให้การคืนดีของคนบาปเป็นจริงโดยทางปัสกาของพระบุตรของพระองค์ และพระพรของพระจิตเจ้าโดยทางการสวดอธิษฐานและหน้าที่ศาสนบริกรของพระศาสนจักร
จึงไม่มีคำว่า"อภัยไม่ได้" แต่ควรเป็น"อภัยให้ความอ่อนแอ(ต่อบาป)ของตัวเองไม่ได้"(จึงต้องใช้โทษบาป)
ไม่ได้รับการอภัยจากพระเจ้าจึงไม่มี แต่อาจจะมีการ"สั่งสอน"แรงๆ
เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์แห่งความรักครับ
ที่พูดไม่ได้ชี้ช่องว่า ทำบาปเยอะๆแล้วพระเจ้าจะอภัยหมด
กรุณาระลึกถึงไฟชำระด้วย
(หนังสือคำสอน)
1441พระเจ้าเท่านั้นทรงอภัยบาป (เทียบ มก.2:7) เนื่องจากพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงกล่าวถึงพระองค์เองว่า "บุตรแห่งมนุษย์มีอำนาจอภัยบาปได้บนแผ่นดินนี้" (มก.2:10) และทรงใช้อำนาจนี้ของพระเจ้า "บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว" (มก.2:5; ลก.7:48) ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงประทานอำนาจเช่นนั้นให้มนุษย์ เพื่อให้ใช้ในนามของพระองค์ (เทียบ ยน.20:21-23)
1449สูตรการยกบาปที่ใช้อยู่ในพระศาสนจักรลาติน แสดงองค์ประกอบสำคัญของศีลศักดิ์สิทธิ์นี้คือ พระบิดาผู้ทรงพระเมตตากรุณาทรงเป็นแหล่งท่อธารแห่งการอภัยบาปทุกชนิด พระองค์ทรงทำให้การคืนดีของคนบาปเป็นจริงโดยทางปัสกาของพระบุตรของพระองค์ และพระพรของพระจิตเจ้าโดยทางการสวดอธิษฐานและหน้าที่ศาสนบริกรของพระศาสนจักร
จึงไม่มีคำว่า"อภัยไม่ได้" แต่ควรเป็น"อภัยให้ความอ่อนแอ(ต่อบาป)ของตัวเองไม่ได้"(จึงต้องใช้โทษบาป)
ไม่ได้รับการอภัยจากพระเจ้าจึงไม่มี แต่อาจจะมีการ"สั่งสอน"แรงๆ
เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์แห่งความรักครับ
ที่พูดไม่ได้ชี้ช่องว่า ทำบาปเยอะๆแล้วพระเจ้าจะอภัยหมด
กรุณาระลึกถึงไฟชำระด้วย
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ไม่มีบาปใดที่พระองค์อภัยให้ไม่ได้หรอกครับ
ความผิดที่มนุษย์มองว่าเลวทรามร้ายแรงชั่วช้าสามานสิ้นคิดจิตวิปลาส(พอเหอะ
)
ก็ยังเป็นเรื่องเล็กน้อยของพระเจ้า
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมรับการอภัยหรือเปล่า
ความผิดที่มนุษย์มองว่าเลวทรามร้ายแรงชั่วช้าสามานสิ้นคิดจิตวิปลาส(พอเหอะ

ก็ยังเป็นเรื่องเล็กน้อยของพระเจ้า
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมรับการอภัยหรือเปล่า
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
someone เขียน: มีความผิดอาไรบ้างที่จะ
ไม่ได้รับการให้อภัยจากพระเป็นเจ้า
แล้วนอกนั้นทั้งหมดคือให้อภัยได้
ใช่หรือไม่

เรื่องบาปผิดต่อพระจิตที่มีปรากฏในพระคัมภีร์ มัทธิว 12.31 นั้นก่อนที่จะตัดสินอะไรลงไปเราต้องมองไปที่เหตุการณ์และเวลาที่พระเยซูเจ้าตรัสในตอนนั้นก่อน พระเยซูเจ้าทำอัศจรรย์มากมาย พวกฟาริสีก็ไม่ยอมรับแถมบอกว่าพระองค์ทำอัศจรรย์เพราะไปเอาอำนาจของเบเอลเซบุล(หัวหน้าผี)มาใช้ ทั้งๆที่ในพระคัมภีร์เก่าของอิสยาห์เองก็เคยกล่าวไว้ถึงการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าและพระองค์จะทำงานตามอำนาจของพระจิต (อสย.35.5-6) พวกชาวยิวรู้เรื่องพระคัมภีร์ดีและรู้ถึงการทำนายแต่ไม่ยอมรับ (เหมือนคนสมัยนี้ทุกคนนั่นแหล่ะที่คิดว่าตัวเองถูกต้องที่สุดพอคนอื่นอ้างในสิ่งที่จริงก็เชื่อยาก..รวมทั้งเราคริสตชนทุกวันนี้ด้วย คนที่จะรอดคือคนที่ตั้งใจแสวงหาความจริง)
เมื่อพบกับการไม่ยอมรับเช่นนี้พระเยซูเจ้าก็มีอารมณ์โกรธเหมือนกันและบอกว่าบาปไม่ยอมรับพระจิตนั้นไม่มีใครยกโทษให้ได้ พูดตามภาษาชาวบ้านคือ ทำผิดต่อข้าฯ ข้าฯ อภัยได้แต่ทำผิดไม่ยอมรับในงานของพระจิตนั้นไม่มีใครยกบาปนี้ได้หรอก..อะไรพรรค์นี้
เมื่อมองในมุมนี้พวกฟาริซีคือคนที่ได้รับบาปเพราะไม่ยอมรับพระเยซูเจ้าและสิ่งที่พระองค์กระทำ แต่ถ้าถามต่อไปว่าแล้วพระจิตเจ้ายังคงทำงานอยู่ในปัจจุบันนี้ คนที่ไม่ยอมรับพระจิตและทำบาปผิดต่อพระองค์ล่ะ บาปยกได้หรือไม่? เช่นเดียวกับนักพระคัมภีร์อีกหลายคน พ่อคิดว่าก่อนอื่นหมดคำพูดของพระองค์หมายถึงเวลาที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ คือการไม่ยอมรับพระองค์ พวกยิวเหล่านั้นทำบาปผิดชัดเจน แต่กระนั้นก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าชาวยิวพวกนั้นเสียใจไม่เป็น คนที่กลับใจทุกคนล้วนได้รับพระพรและอภัยได้เสมอ
อ้าว..แล้วที่พระองค์บอกว่าไม่มีใครยกบาปนี้ได้นั่นหมายถึงอะไรล่ะ? พ่อคิดว่าพระองค์หมายถึงคนที่ไม่ยอมรับงานของพระทั้งๆที่รู้ดีและเข้าใจดีแต่ตั้งใจปฏิเสธพระองค์ (เพราะหมั่นไส้เหมือนที่ที่ฟาริซีไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า)นั่นล่ะคือคนที่พระองค์ไหนก็ยกบาปให้ไม่ได้เพราะเขาไม่ยอมรับการยกบาปเอง ประการต่อมา การปฏิเสธไม่ยอมรับและผิดต่อพระจิตยังคงมีในปัจจุบันหรือไม่? พ่อคิดว่ามีน่ะ แต่เรื่องการยกบาปนั้น บาปไหนๆก็ยกได้ทั้งนั้นล่ะตราบใดที่หัวใจของเขากลับใจจริงๆ เพราะพระหรรษทานมีไว้สำหรับความรอดของทุกคนที่มีหัวใจถ่อมตนและหันกลับไปหาพระองค์ (อฟซ.2.8-9) ที่อธิบายมานี้พอจะทำให้กระจ่างหรือเปล่าไม่ทราบ

-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
แจ่มแจ้งครับ:+: seraphim :+: เขียน:someone เขียน: มีความผิดอาไรบ้างที่จะ
ไม่ได้รับการให้อภัยจากพระเป็นเจ้า
แล้วนอกนั้นทั้งหมดคือให้อภัยได้
ใช่หรือไม่
บาปผิดต่อพระจิต
เรื่องบาปผิดต่อพระจิตที่มีปรากฏในพระคัมภีร์ มัทธิว 12.31 นั้นก่อนที่จะตัดสินอะไรลงไปเราต้องมองไปที่เหตุการณ์และเวลาที่พระเยซูเจ้าตรัสในตอนนั้นก่อน พระเยซูเจ้าทำอัศจรรย์มากมาย พวกฟาริสีก็ไม่ยอมรับแถมบอกว่าพระองค์ทำอัศจรรย์เพราะไปเอาอำนาจของเบเอลเซบุล(หัวหน้าผี)มาใช้ ทั้งๆที่ในพระคัมภีร์เก่าของอิสยาห์เองก็เคยกล่าวไว้ถึงการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าและพระองค์จะทำงานตามอำนาจของพระจิต (อสย.35.5-6) พวกชาวยิวรู้เรื่องพระคัมภีร์ดีและรู้ถึงการทำนายแต่ไม่ยอมรับ (เหมือนคนสมัยนี้ทุกคนนั่นแหล่ะที่คิดว่าตัวเองถูกต้องที่สุดพอคนอื่นอ้างในสิ่งที่จริงก็เชื่อยาก..รวมทั้งเราคริสตชนทุกวันนี้ด้วย คนที่จะรอดคือคนที่ตั้งใจแสวงหาความจริง)
เมื่อพบกับการไม่ยอมรับเช่นนี้พระเยซูเจ้าก็มีอารมณ์โกรธเหมือนกันและบอกว่าบาปไม่ยอมรับพระจิตนั้นไม่มีใครยกโทษให้ได้ พูดตามภาษาชาวบ้านคือ ทำผิดต่อข้าฯ ข้าฯ อภัยได้แต่ทำผิดไม่ยอมรับในงานของพระจิตนั้นไม่มีใครยกบาปนี้ได้หรอก..อะไรพรรค์นี้
เมื่อมองในมุมนี้พวกฟาริซีคือคนที่ได้รับบาปเพราะไม่ยอมรับพระเยซูเจ้าและสิ่งที่พระองค์กระทำ แต่ถ้าถามต่อไปว่าแล้วพระจิตเจ้ายังคงทำงานอยู่ในปัจจุบันนี้ คนที่ไม่ยอมรับพระจิตและทำบาปผิดต่อพระองค์ล่ะ บาปยกได้หรือไม่? เช่นเดียวกับนักพระคัมภีร์อีกหลายคน พ่อคิดว่าก่อนอื่นหมดคำพูดของพระองค์หมายถึงเวลาที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ คือการไม่ยอมรับพระองค์ พวกยิวเหล่านั้นทำบาปผิดชัดเจน แต่กระนั้นก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าชาวยิวพวกนั้นเสียใจไม่เป็น คนที่กลับใจทุกคนล้วนได้รับพระพรและอภัยได้เสมอ
อ้าว..แล้วที่พระองค์บอกว่าไม่มีใครยกบาปนี้ได้นั่นหมายถึงอะไรล่ะ? พ่อคิดว่าพระองค์หมายถึงคนที่ไม่ยอมรับงานของพระทั้งๆที่รู้ดีและเข้าใจดีแต่ตั้งใจปฏิเสธพระองค์ (เพราะหมั่นไส้เหมือนที่ที่ฟาริซีไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า)นั่นล่ะคือคนที่พระองค์ไหนก็ยกบาปให้ไม่ได้เพราะเขาไม่ยอมรับการยกบาปเอง ประการต่อมา การปฏิเสธไม่ยอมรับและผิดต่อพระจิตยังคงมีในปัจจุบันหรือไม่? พ่อคิดว่ามีน่ะ แต่เรื่องการยกบาปนั้น บาปไหนๆก็ยกได้ทั้งนั้นล่ะตราบใดที่หัวใจของเขากลับใจจริงๆ เพราะพระหรรษทานมีไว้สำหรับความรอดของทุกคนที่มีหัวใจถ่อมตนและหันกลับไปหาพระองค์ (อฟซ.2.8-9) ที่อธิบายมานี้พอจะทำให้กระจ่างหรือเปล่าไม่ทราบ
คัดลอกมาจากคำตอบพ่อไพบูลย์ อุดมเดช จ้า
พ่อคิดว่าพระองค์หมายถึงคนที่ไม่ยอมรับงานของพระทั้งๆที่รู้ดีและเข้าใจดีแต่ตั้งใจปฏิเสธพระองค์ (เพราะหมั่นไส้เหมือนที่ที่ฟาริซีไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า)นั่นล่ะคือคนที่พระองค์ไหนก็ยกบาปให้ไม่ได้เพราะเขาไม่ยอมรับการยกบาปเอง ประการต่อมา การปฏิเสธไม่ยอมรับและผิดต่อพระจิตยังคงมีในปัจจุบันหรือไม่? พ่อคิดว่ามีน่ะ แต่เรื่องการยกบาปนั้น บาปไหนๆก็ยกได้ทั้งนั้นล่ะตราบใดที่หัวใจของเขากลับใจจริงๆ เพราะพระหรรษทานมีไว้สำหรับความรอดของทุกคนที่มีหัวใจถ่อมตนและหันกลับไปหาพระองค์ (อฟซ.2.8-9)
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
ทุกอย่างสำหรับพระเจ้า ให้อภัยเราได้ทั้งหมด ถ้าเราตั้งใตจริงว่าจะไม่กลับไปทำบาปอีก!!!
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi




( จากหนังสือทำวัตรเล่ม 2 เทศกาลมหาพรต และเทศกาลปัสกา )
บทอ่านจากจดหมายนักบุญมักซีมัส อธิการ
น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า คือ ให้เราทุกคนได้รับความรอด และไม่มีอะไรพอพระทัยพระองค์ เท่ากับการที่เรากลับมาหาพระองค์ด้วยการกลับใจอย่างแท้จริง ผู้ประกาศความจริง และบรรดาศาสนบริกรแห่งพระหรรษทานของพระเป็นเจ้าได้กล่าวถึงเรื่องนี้แต่เริ่มแรก และกล่าวย้ำตลอดมาทุกยุคทุกสมัย พระประสงค์ของพระเป็นเจ้าที่จะให้เราได้รับความรอด เป็นเครื่องหมายประการแรกและเด่นกว่าหมด ซึ่งแสดงถึงพระทัยดีอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรงแสดงว่าไม่มีอะไรใกล้ชิดดวงพระทัยพระเป็นเจ้า เท่ากับพระวจนาตถ์ของพระเป็นเจ้าพระบิดาทรงถ่อมองค์ลงสุดจะพรรณนา เจริญพระชนม์ชีพในเนื้อหนังท่ามกลางเรา ทรงทำงานทรงทนทุกข์ ทรงสอนทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อเราจะได้คืนดีกับพระบิดาเจ้า เมื่อเราเป็นศัตรูกับพระองค์ เพื่อทรงนำเรากลับสู่ชีวิตแห่งพระพร ซึ่งเราถูกกำจัดไปแล้ว พระองค์ทรงรักษาโรคทางร่างกายด้วยการอัศจรรย์ ทรงปลดปล่อยเราให้พ้นจากบาป แม้จะมากมายและหนักเพียงไรก็ตาม โดยรับทรมาน รับความตายและรับบาปทั้งหมดไว้ในพระองค์เอง เหมือนกับว่าพระองค์ต้องรับผิดชอบในบาปฉันนั้น ทั้งๆที่พระองค์ไม่ทรงต่างพร้อมด้วยบาปแม้แต่น้อย พระองค์ยังได้ทรงสอนเราด้วยวิธีต่างๆ ให้เราตั้งใจถือตามแบบอย่างของพระองค์ ในความเมตตากรุณาและรักกันและกันอย่างแท้จริง
พระคริสตเจ้าได้ประกาศว่า พระองค์เสด็จมาเรียกคนบาปให้กลับใจให้โทษบาปมิใช่เสด็จมาเพื่อผู้ชอบธรรม เพราะว่าผู้ที่มีสุขภาพดีไม่ต้องการหมอ แต่เป็นคนป่วยที่พระองค์ถูกใช้มาเพื่อแกะที่หายไปจากชาติอิสราเอล พระองค์ยังได้ทรงกล่าวเป็นปริศนาในคำเปรียบเทียบเรื่องเหรียญเงิน พระองค์ตรัสว่า จุดมุ่งหมายในการเสด็จมาก็เพื่อจะได้ทำให้รูปภาพของพระมหากษัตริย์ ที่มัวหมองเต็มไปด้วยความสกปรกของบาปกลับแจ่มชัดขึ้น พระองค์ตรัสว่า