Grace de GL.Ch. เขียน:
อยากถามพี่น้องคาทอลิกว่าเราเข้าใจถูกไหมในเรื่องเหล่านี้ตามความเชื่อของพี่น้องคาทอลิก
คือตั้งแค่ที่เคยเรียนคริสตศาสตร์(คาทอลิก)มา ในระดับที่ไม่ใช่แค่การสอนคำสอนคริสตชนเชื่อใหม่
เข้าใจว่า..........
1. เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณในไฟชำระ เข้าใจว่าหมายถึงวิญญาณที่เป็นคริสต์ (เชื่อพระเจ้า) ที่รอทำความสะอาดวิญญาณเพื่อไปพบพระเจ้าเท่านั้น
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่ารวมไปถึงแม้กระทั้งคนต่างศาสนาด้วย และเห็นเขาขอมิสซาให้คนต่างศาสนาเพื่อให้พระเจ้าพาเขาไปสวรรค์
คำถาม- วิญญาณที่มีสิทธิอยู่ในไปชำระเพื่อรอทำความสะอาดวิญญาณก่อนไปพบพระเจ้าเฉพาะวิญญาณที่เชื่อพระเจ้า หรือรวมไปถึงผู้ปฏิเสธพระองค์ด้วย
- การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก) ถ้าไม่ได้ทำไมบางวัดยังอนุญาตให้ขอ
2. เกี่ยวกับเรื่องความรอด เข้าใจว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่รอดไปสวรรค์ แต่ความเชื่อยังต้องประกอบไปด้วยการกระทำ
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่าแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้จักและปฏิเสธพระเจ้า ถ้าเป็นคนดีก็รอดได้
คำถาม- คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ (แบบนี้ข่าวดีจะมีค่าอะไร ถ้าคิดว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีและไปสวรรค์ได้)
ค้วยความเคารพนะคะ
(1)เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณในไฟชำระ
ตอบ:แนะนำให้คุณไปอ่านหนังสือของคุณพ่อ ดร.ฟรังซิส ไกส์ นักเทววิทยา ของวิทยาลัยแสงธรรมเป็นฐานก่อนนะ(และคุณพ่อท่านบอกเองว่า นักเทววิทยาทั่วโลกบางคน ก็ยังไม่ได้สรุปเรื่องนี้)
*ในหนังสือนั้นจะกล่าวถึงระบบของยิวด้วยนิดหน่อย ก็ให้ดูบริบทดีดี
(2)การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม
ตอบ:
(1)ถวายมิสซาแก่ผู้ล่วงลับหน้าศพสำหรับบุคคลต่างศาสนา ไม่สามารถกระทำที่บ้านของเขา แม้ว่าเขาจะมีความผูกพันกับศาสนาคริสต์ มาช่วยงานพระศาสนจักรบ่อยๆ แต่บุคคลนั้นยังไม่ได้รับศีลล้างบาป จึงไม่ควรทำ
แต่พระสงฆ์สามารถอุทิศมิสซาให้เขาได้ที่วัดของเรา
(2)เมื่อฝ่ายพุทธเสียชีวิตฝ่ายคาทอลิกสามารถขอมิสซาให้ได้ แต่หากฝ่ายคริสต์เสียชีวิต ฝ่ายพุทธจะนำพระมาสวดให้ก็ได้
(3)สถานที่ของคนต่างศาสนาไม่เหมาะที่จะไปทำพิธีทางการ พิธีมิสซามิใช่กิจกรรมด้านสังคม อย่านำพิธีกรรมไปปะปนกับเรื่องของสังคม ไม่จำเป็นต้องทำมิสซาหน้าศพที่ที่พักศพ ทำมิสซาในวัดก็ได้นอกจากวันปลกศพก็ทำได้ แต่สามารถไปสวดหน้าศพที่วัดพุทธได้
*คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติพิธีบูชาขอบพระคุณสำหรับพระสงฆ์ จาก คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม
(3)แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก)
ตอบ:ไม่ถึงคงไม่ทำครับ ในเมื่อพระศาสนจักร(หลังสังคายนาวาติกัน 2)เปิดกว้างทางพระหรรษทานล้นเหลือมากขึ้น จึงขอ"มิสซา"ได้ ถ้าขอ"มิสซา"ได้ย่อมถึงแน่ๆครับ
(4)เกี่ยวกับเรื่องความรอด เข้าใจว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่รอดไปสวรรค์ แต่ความเชื่อยังต้องประกอบไปด้วยการกระทำ
ตอบ:มารู้จักเรื่องของความเชื่อสักนิดก่อนนะครับ เราดูที่กิจการความเชื่อนั้น
(ซึ่งผมพูดไปบ้างแล้วในกระทู้เก่าๆ)
(1) Credo Deum=พระทรงเป็น(เชื่อว่าทรงมีชีวิต มีตัวตน)
(2) Credo Deo = การยอมรับว่า"พระวาจา"เป็นความจริง(เชื่อว่าจริง)
(3) Credo in Deum = การยอมรับว่าเป็นหนทางรอด(จากบาป) (เชื่อว่าทรงเป็นหนทาง)
*เทียบ ทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต(ยอห์น 14:6)
ตรงนี้มีเอกสารกล่าวไว้ เดี๋ยวจะกล่าวต่อไป
(5)คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ
ตอบ:คำถามนี้หยาบไปครับ ตอบไม่ได้เลย เขาปฏิเสธอย่างไร?
ปฏิเสธว่าไม่ใช่หนทางของเขา หรือ ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง หรือ ปฏิเสธแบบอคติ หรือ ปฏิเสธด้วยเพราะเหตุอื่นๆ
แต่อย่างที่ผมกล่าวไป(และ/หรือ ดูกระทู้คุณ Ignatius ประกอบ)
"สำหรับบุคคลอื่น ๆ ที่อยู่ในเงาในภาพแห่งการแสวงหาพระเป็นเจ้าที่เขาไม่รู้จัก, พระเป็นเจ้าเองก็ทรงไม่ห่างจากคนพวกนี้ เพราะว่าพระองค์ประทานให้ทุก ๆ คนมีชีวิต, มีความดลบันดาลใจและมีสารพัด (เทียบ กิจการ. 17,25-28) และพระผู้กอบกู้ทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์ทุกคนเอาตัวรอด (เทียบ 1ทิโมธี2,4)แต่บางครั้งคนเหล่านี้ไม่รู้ถึงพระวรสารของพระคริสตเจ้า, ไม่รู้ถึงพระศาสนจักรของพระองค์ จึงไม่มีความผิด,
ถึงกระนั้นเขาก็แสวงหาพระเป็นเจ้า[ของเขา]ด้วยใจอันสุจริต และน้ำพระทัยของพระองค์ที่เขาทราบโดยการบอกกล่าวของมโนธรรมและภายใต้อิทธิพลของพระหรรษทาน เขาพยายามสนองตามนั้นด้วยกิจการของตนตามวัฒนธรรมของตน, เขาก็อาจบรรลุถึงความรอดตลอดนิรันดร์ ทั้งพระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้าก็ไม่เพิกเฉยต่อคนเหล่านั้น พระองค์ประทานความช่วยเหลืออันจำเป็นสำหรับความรอดแก่พวกเหล่านั้นเพราะพวกเขาไม่มีความผิด,"
*หมายเหตุ.แท้จริง ขึ้นกับพระวินิจฉัยของพระเป็นเจ้าเป็นพระราชอำนาจซึ่งเราไม่มีสิทธิละเมิดแต่ทว่าคำว่าอาจถึงความรอดได้ และ พระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้าก็ไม่เพิกเฉยต่อคนเหล่านั้น เป็นสิ่งแสดงให้เห็นพระเมตตาล้นเหลือครับ
พระศาสนจักรและสมาชิกในพระศาสนจักรเป็นผู้รับใช้โลกครับ เรารับใช้มนุษย์ผู้มีบาปนั่นล่ะ ผู้ปฏิเสธพระองค์นั่นล่ะ เราหยิบยื่นความรอดให้ผู้ที่ไม่รู้จักแสวงหาน้ำพระทัย เราหนุนใจผู้ที่มีมโนธรรมและทำกิจการสารพัดภายใต้อิทธิพลของพระหรรษทาน เช่น ศาสนาที่ดีอื่นๆ (เพราะถ้าเขาเข้าใจความจริงแท้ๆจะคุยกันรู้เรื่องครับ เทียบ เอกสารการเสวนากับศาสนาอื่น) ขอให้คาทอลิกย้อนกลับไปคิดถึงความสำคัญของพิธีล้างเท้าครับ ท่านจะเข้าใจมากขึ้นในจุดของ"เราคือผู้รับใช้" เราไม่ได้มองว่าเรารอดมั้ย(ขึ้นกับน้ำพระทัย แต่แน่ๆล่ะ เราคงรอด) เรามองข้ามจุดนั้นไปแล้วครับ เมื่อเราเกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิต เราคือผู้รับใช้พระเจ้า และทำกิจการสารพัดที่สนองงานพระองค์
ขออภัยที่มาตอบช้า