ครอบครัวบาดหมางกัน เพราะความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน
คือที่บ้านเป็นคนเหนือกัน มีแม่เป็นคนเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกับคุณทักษิณ แล้วพ่อก็อยู่ฝ่ายเดียวกับแม่ ช่วงที่ผ่านมาก็รู้ๆกันอยู่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไร ฝ่ายเสื้อแดงทำประเทศพังไปขนาดไหน แต่ดูเหมือนพ่อแม่ก็ยังเฉยๆ แต่ตัวเราเป็นลูกเขา เราว่าเขาไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ชอบพวกนั้น
แล้วเราเอาเรื่องที่ไม่พอใจทางบ้านไปเล่าให้เฮียฟัง ซึ่งเฮียก็เรียนมามากความคิดความอ่านอะไรก้มีมาก ทั้งเฮียและเราไม่ชอบเสื้อแดง ทุกครั้งที่คุยกะเฮีย เฮียจะชอบเปิดโปงเรื่องไม่ดีของฝ่ายนั้นให้เรารู้ คือเฮียเราอยู่ฝ่ายพธม. เฮียก้อรู้ว่าฝ่ายพธม.เคยทำอะไรไม่ดีไว้ แต่เฮียก็รู้ แต่เค้ารู้ลึกซึ้งมากกว่าที่เรารู้
แล้วเมื่อวานเราไปพูดอะไรที่มันสะกิตต่อมที่รักกลุ่มนั้นของเฮียเข้า เฮียก็ว่าเรา ให้เราเลือกที่จะอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเลย ให้เลือกว่าจะอยู่เหลือง หรือแดง หรือจะอยู่กลุ่มพลังเงียบ ซึ่งเฮียบอกว่าเงียบตลอดกาล บ้านเมืองจะเปนยังไงก้อเงียบ.. แต่เราไม่เลือก .. จะอยู่ในสังคมได้มันต้องเลือกข้างอะไรกันด้วยหรอ เคยบอกกับเฮียว่าถ้าในครอบครัวเป็นอย่างนี้เราก้อไม่อยากอยู่บ้านแล้ว แล้วเฮียยังเป็นอย่างงี้อีกคน เราประชดเฮียว่าอยากสละทางโลกไปเลยดีกว่า ไม่อยากอยู่แล้ว แล้วเฮียก็ไล่เราเหมือนเราไม่ใช่น้องเค้า
แล้วตอนนี้รู้สึกกดดันมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ก็เลยคิดว่าจะอยู่อย่างเฉยๆแล้วกัน จะไม่พูดเรื่องการเมืองกับคนในบ้านอีก จะพยายามปิดหูปิดตา เหมือนเป็นคนบ้าคนหนึ่ง ใครในบ้านอยากจะเป็นอะไรจะทำอะไรก็ช่างเขา
เราควรทำยังไงดี..
แล้วเราเอาเรื่องที่ไม่พอใจทางบ้านไปเล่าให้เฮียฟัง ซึ่งเฮียก็เรียนมามากความคิดความอ่านอะไรก้มีมาก ทั้งเฮียและเราไม่ชอบเสื้อแดง ทุกครั้งที่คุยกะเฮีย เฮียจะชอบเปิดโปงเรื่องไม่ดีของฝ่ายนั้นให้เรารู้ คือเฮียเราอยู่ฝ่ายพธม. เฮียก้อรู้ว่าฝ่ายพธม.เคยทำอะไรไม่ดีไว้ แต่เฮียก็รู้ แต่เค้ารู้ลึกซึ้งมากกว่าที่เรารู้
แล้วเมื่อวานเราไปพูดอะไรที่มันสะกิตต่อมที่รักกลุ่มนั้นของเฮียเข้า เฮียก็ว่าเรา ให้เราเลือกที่จะอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเลย ให้เลือกว่าจะอยู่เหลือง หรือแดง หรือจะอยู่กลุ่มพลังเงียบ ซึ่งเฮียบอกว่าเงียบตลอดกาล บ้านเมืองจะเปนยังไงก้อเงียบ.. แต่เราไม่เลือก .. จะอยู่ในสังคมได้มันต้องเลือกข้างอะไรกันด้วยหรอ เคยบอกกับเฮียว่าถ้าในครอบครัวเป็นอย่างนี้เราก้อไม่อยากอยู่บ้านแล้ว แล้วเฮียยังเป็นอย่างงี้อีกคน เราประชดเฮียว่าอยากสละทางโลกไปเลยดีกว่า ไม่อยากอยู่แล้ว แล้วเฮียก็ไล่เราเหมือนเราไม่ใช่น้องเค้า
แล้วตอนนี้รู้สึกกดดันมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ก็เลยคิดว่าจะอยู่อย่างเฉยๆแล้วกัน จะไม่พูดเรื่องการเมืองกับคนในบ้านอีก จะพยายามปิดหูปิดตา เหมือนเป็นคนบ้าคนหนึ่ง ใครในบ้านอยากจะเป็นอะไรจะทำอะไรก็ช่างเขา
เราควรทำยังไงดี..
เจอเหมือนกันครับ.... ผมก็ใช้วิธีเงียบ
ตอนนี้การเมืองมันร้อน เพราะต้นสังกัดของทั้งสองฝ่าย พยายามพูดกรอกหูสมาชิกตลอดเวลา ให้ดูเหมือนว่าคนที่คิดไม่เหมือนตัว นั้น ชั่วและเลวและโง่ ขนาดเป็นกลางก็ยังแย่และยังโง่ จะดีและฉลาดได้กรณีเดียวคือต้องคิดเหมือนพวกตัวเอง ซึ่งหลักกการแบบนี้เป็นหลักการพื้นฐานของการล้างสมองในการสร้างม๊อบที่มีคุณสมบัติเป็น "เครื่องมือทางการเมือง"ที่พร้อมตายเพื่อสิ่งที่บรรดาผู้นำม๊อบต้องการได้ ที่ต้องมีความเกลียดชังฝ่ายที่คิดและเชื่อไม่เหมือนตัว แทนการยอมรับว่าประชาธิปไตยแท้จริงคือการที่คนอื่นสามารถคิดต่างกับเราได้
แม้คนที่มีจิตใจเข้มแข็ง มีเหตุมีผลยังไง แต่ถ้าโดนหลอนด้วยสิ่งเหล่านี้ทุกวัน แม้จะไม่กลายเป้นเครื่องมือทางการเมือง แต่ก็สามารถกลายเป็นพาหะ ที่ส่งต่ออุดมการณ์ที่รุนแรงให้คนอื่นได้
เมื่อวันสองวันนี้เพิ่งมีข่าวคู่เขย2คน คนหนึ่งเชียร์เสื้อเหลือง คนหนึ่งเชียร์เสื้อแดง แล้วแทงกันบาดเจ็บสาหัส
ตอนนี้ ต่อให้เราไม่ยุ่งการเมือง การเมืองมันคุกคามเข้ามาหาเราเอง เพราะในบรรดากิเลสตัณหาที่ทำลายล้างโลก "อำนาจ" เป็นตัวที่ล่อลวงมนุษย์ให้สร้างสงครามเสมอมา
อธิษฐานภาวนาให้เกิดสันติภาพในสังคมและในครอบครัวดีกว่าครับ เราทำอะไรไม่ได้มาก ขอพระเจ้าให้แผนงานของมารซาตานมันล้มเหลว เพื่อสันติสุขจะกลับคืนมา
แม้คนที่มีจิตใจเข้มแข็ง มีเหตุมีผลยังไง แต่ถ้าโดนหลอนด้วยสิ่งเหล่านี้ทุกวัน แม้จะไม่กลายเป้นเครื่องมือทางการเมือง แต่ก็สามารถกลายเป็นพาหะ ที่ส่งต่ออุดมการณ์ที่รุนแรงให้คนอื่นได้
เมื่อวันสองวันนี้เพิ่งมีข่าวคู่เขย2คน คนหนึ่งเชียร์เสื้อเหลือง คนหนึ่งเชียร์เสื้อแดง แล้วแทงกันบาดเจ็บสาหัส
ตอนนี้ ต่อให้เราไม่ยุ่งการเมือง การเมืองมันคุกคามเข้ามาหาเราเอง เพราะในบรรดากิเลสตัณหาที่ทำลายล้างโลก "อำนาจ" เป็นตัวที่ล่อลวงมนุษย์ให้สร้างสงครามเสมอมา
อธิษฐานภาวนาให้เกิดสันติภาพในสังคมและในครอบครัวดีกว่าครับ เราทำอะไรไม่ได้มาก ขอพระเจ้าให้แผนงานของมารซาตานมันล้มเหลว เพื่อสันติสุขจะกลับคืนมา
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร เม.ย. 14, 2009 3:38 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ต้องให้เขารู้ว่า ครอบครัวคืออะไร
ลองหา หนังสือ สี่แผ่นดิน ของ มรว.คึกฤทธิ์ ให้เขาอ่านสิ
เผื่อจะช่วยเตือนสติเขาได้บ้าง
แม่พลอย รักลูก เสมอ ไม่มีเรื่องการเมืองเลย
แม้ลูกจะทะเลาะกันอยู่คนละขั้วก็ตาม
เพราะครอบครัวเป็นเรื่องของความรัก ไม่ใชความคิดเห็นทางการเมือง
ลองหา หนังสือ สี่แผ่นดิน ของ มรว.คึกฤทธิ์ ให้เขาอ่านสิ
เผื่อจะช่วยเตือนสติเขาได้บ้าง
แม่พลอย รักลูก เสมอ ไม่มีเรื่องการเมืองเลย
แม้ลูกจะทะเลาะกันอยู่คนละขั้วก็ตาม
เพราะครอบครัวเป็นเรื่องของความรัก ไม่ใชความคิดเห็นทางการเมือง
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ใช่ผมก็เสื้อแดง แม่เหลือง
แต่ตอนนี้ไม่พูดเรื่องการเมืองเเล้วครับ
เบื่อครับ
แต่ตอนนี้ไม่พูดเรื่องการเมืองเเล้วครับ
เบื่อครับ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เมื่อวันก่อนมีคนถามว่าอยู่ฝ่ายไหน
ผมตอบ "อยู่ฝ่ายในหลวง"
ผมตอบ "อยู่ฝ่ายในหลวง"
-
- โพสต์: 111
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 31, 2009 7:53 am
- ที่อยู่: วันจันทร์-เสาร์ อยูใกล้วัดอัสสัมชัญ
ถ้าคุยเรื่องการเมืองแล้วไม่สนุก ก็ไม่ต้องคุยก็ได้นะครับ
เงียบกับอีกฝ่ายก็ให้เงียบแบบเนียนๆ ละกันครับ อาศัยยิ้มๆ อือๆ อืมๆ ไปถ้าเขาพูดขึ้นมา
ผมอยากเชื้อเชิญให้ทุกคนคิดว่า การสวดภาวนาเพื่อสันติภาพในประเทศไทย และในโลกนี้
ไม่ใช่เป็น "แค่เรื่องที่เราพอจะทำได้"
แต่มันเป็นสิทธิพิเศษของเรา ที่สามารถใช้การภาวนา วิงวอนขอพระ ให้ช่วยเหลือเราได้
ผมเชื่อมั่นในคำภาวนาของพวกเราทุกคน เชื่อมั่นว่าพระองค์เมตตาเราเสมอ
เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา+สมอง
เค้าบอกว่า ถ้าเรารับข้อมูลอะไรซ้ำๆ กันเกิน 21 วัน (หรือบางเล่มบอก 30 วัน) เราจะเชื่อถือข้อมูลนั้น
ลงในจิตใต้สำนึกว่ามันเป็นเรื่องจริง
ลองคิดดูเล่นๆ นะครับว่า รักใครชอบใครเนี่ย ฟังกันมาแล้วมากกว่า 21 วันมั้ย เหอๆๆๆๆ
เพราะฉะนั้น เถียงไปก็ป่วยการครับ ไม่มีประโยชน์ถ้าเราต้องการเป็นฝ่ายถูก หรือ ชนะ
แล้วที่บ้านต้องร้อนเป็นไฟ
ถ้าเราสงบเย็น คนอื่นในที่สุดก็จะสงบเย็นตามเรามากขึ้นครับ
เงียบกับอีกฝ่ายก็ให้เงียบแบบเนียนๆ ละกันครับ อาศัยยิ้มๆ อือๆ อืมๆ ไปถ้าเขาพูดขึ้นมา
ผมอยากเชื้อเชิญให้ทุกคนคิดว่า การสวดภาวนาเพื่อสันติภาพในประเทศไทย และในโลกนี้
ไม่ใช่เป็น "แค่เรื่องที่เราพอจะทำได้"
แต่มันเป็นสิทธิพิเศษของเรา ที่สามารถใช้การภาวนา วิงวอนขอพระ ให้ช่วยเหลือเราได้
ผมเชื่อมั่นในคำภาวนาของพวกเราทุกคน เชื่อมั่นว่าพระองค์เมตตาเราเสมอ
เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา+สมอง
เค้าบอกว่า ถ้าเรารับข้อมูลอะไรซ้ำๆ กันเกิน 21 วัน (หรือบางเล่มบอก 30 วัน) เราจะเชื่อถือข้อมูลนั้น
ลงในจิตใต้สำนึกว่ามันเป็นเรื่องจริง
ลองคิดดูเล่นๆ นะครับว่า รักใครชอบใครเนี่ย ฟังกันมาแล้วมากกว่า 21 วันมั้ย เหอๆๆๆๆ
เพราะฉะนั้น เถียงไปก็ป่วยการครับ ไม่มีประโยชน์ถ้าเราต้องการเป็นฝ่ายถูก หรือ ชนะ
แล้วที่บ้านต้องร้อนเป็นไฟ
ถ้าเราสงบเย็น คนอื่นในที่สุดก็จะสงบเย็นตามเรามากขึ้นครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ทำป้ายว่า "บ้านนี้ไม่คุยเรื่องการเมือง"
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ถึงคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น
ศึกษาให้มาก อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ และกลับไปอ่านหนังสือเก่าๆ ประมาณ 30+ ปีก่อนบ้าง เพราะสงครามครั้งนี้บ่มเพาะมานานขนาดนั้นแล้ว แม้แต่โฆษกต่างประเทศ (international spokesman)ของกลุ่มๆหนึ่ง (ขอสงวนว่ากลุ่มไหน) ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวต่างประเทศเอง
การเมืองเป็นเรื่องของการใช้มวลชนเป็นเครื่องมือ ใครได้มวลชนคนนั้นชนะ
มวลชน ก็คือ มวล ที่มีไว้ชนกับคนอื่น โดยคนเอามวลไปชน ไม่ต้องชนเองให้เมื่อย
ประโยชน์ของการมี 2 ฝ่ายคือ ต้องดุลอำนาจกัน ต้องเอาใจประชาชนอยู่เสมอ ถ้าไม่เอาใจ เดี๋ยว"ฝ่ายตรงข้าม"จะได้คะแนนไป ประชาชนจึงได้ประโยชน์ แต่ในทางกลับกัน เมื่อใดที่เกมนี้ไม่เล่นอย่างสุภาพบุรุษ (แบบในประเทศเจริญแล้วหลายๆประเทศ) จะเกิดการ"หลอก"ประชาชนโดยไม่อายฟ้าดิน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะรู้ทันกันหรือเปล่า ว่าตัวเองกำลังใช้งานนักการเมือง หรือนักการเมืองกำลังหลอกใช้ประชาชน
วิธีการหลอกใช้ประชาชน หรือการดึงมวลชนมีมากมาย ลองศึกษาดู แล้วเทียบกับยุทธวิธีของคนบางกลุ่มก็จะเห็นเอง เพราะเวลาผ่านมานาน แต่ยุทธวิธียังไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก เท่านั้นก็จะทราบว่าใครใช้ยุทธวิธีใด (ดูให้หมดทุกกลุ่มก็จะเห็น เพราะไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด ก็มียุทธวิธีในการ"ควบคุมมวลชน"ทั้งสิ้น จึงมาได้ถึงวันนี้) และเมื่อมองเห็นแล้ว ว่าแต่ละกลุ่มใช้วิธีอะไร จากนี้ไป จะได้รู้ว่า"อารมณ์ร่วม"ของเรา บางครั้งมันไม่ได้เกิดจากความคิดของเราเอง แต่เป็นคนอื่น"บรรจุใส่สมอง"ให้เรา จะได้ไม่รู้สึกโกรธแค้นกัน อยากทำร้ายกัน เพราะเรามองข้ามอารมณ์ได้
สิ่งต่อไปก็คือ ดูจุดมุ่งหมายของแต่ละกลุ่ม ว่าใครทำเพื่ออะไร นั่นต่างหากคือเหตุผลของการต่อสู้ของแต่ละกลุ่ม เมื่อเราเห็นเหตุผลในการต่อสู้แล้ว เราจะได้ตัดสินใจเองว่า ต้องการจะเป็นเครื่องมือให้กลุ่มใดบรรลุถึงเป้าหมายของเขาหรือไม่ หรือจะอยู่เฉยๆดีกว่า อันนี้แล้วแต่ว่าใครคิดอย่างไร เป็นสิทธิ์ในการเลือกของทุกคน
แต่ใครจะมองเห็นอะไรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า คุณศึกษาให้มากพอหรือยัง และคุณเปิดใจฟัง"ความจริง"บ้างหรือยัง ในการยุทธ บางครั้งสิ่งที่เราเห็นคือสิ่งที่คนอื่นต้องการให้เราเห็น สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เป็นจริงไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งเดียวกัน
เมื่อวานนี้มีผู้ใหญ่ที่รู้จักท่านหนึ่งกลับมาจากการไปเที่ยวเกาหลี คุยกันเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามีใครตายอะไรจริงหรือไม่ ผู้ใหญ่ท่านนั้นบอกว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ต้องฟังจากทั้ง 2 ฝ่ายแล้วพิจารณาอีกที
นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน หรือไม่มีฝ่ายเลยก็ตาม
อย่าเชื่อคนอื่น และอย่าให้ตัวเองตกเป็นเครื่องมือของใคร
เรื่องบางเรื่องเด็กรุ่นใหม่อาจจะมองไม่เห็น เพราะไม่ได้เติบโตขึ้นมากับภัยคุกคามบางอย่าง แต่รุ่นๆเจ๊ฟิมนี่ไม่แน่..
ที่แน่ๆ ต้องคิดถึงความมั่นคงของประเทศชาติด้วย อย่างไรเสีย เราควรรักคนไทยด้วยกัน และคำนึงถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้มากเข้าไว้
ขอให้ทุกคนโชคดี และอย่าตกเป็นเครื่องมือของใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เว้นแต่เข้าใจจุดมุ่งหมายและต้องการเป็นเครื่องมือให้พวกเขาจริงๆ อย่าลืมว่า นักการเมืองเมื่อได้ประโยชน์แล้ว เราก็เป็นแค่เศษขยะ แต่พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนๆเราต่างหาก ที่จะอยู่เคียงข้างเราไปตลอด อย่าแตกแยกกันเองเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มเลย
ขอพระเจ้าคุ้มครอง
การเมืองเป็นเรื่องของการใช้มวลชนเป็นเครื่องมือ ใครได้มวลชนคนนั้นชนะ
มวลชน ก็คือ มวล ที่มีไว้ชนกับคนอื่น โดยคนเอามวลไปชน ไม่ต้องชนเองให้เมื่อย
ประโยชน์ของการมี 2 ฝ่ายคือ ต้องดุลอำนาจกัน ต้องเอาใจประชาชนอยู่เสมอ ถ้าไม่เอาใจ เดี๋ยว"ฝ่ายตรงข้าม"จะได้คะแนนไป ประชาชนจึงได้ประโยชน์ แต่ในทางกลับกัน เมื่อใดที่เกมนี้ไม่เล่นอย่างสุภาพบุรุษ (แบบในประเทศเจริญแล้วหลายๆประเทศ) จะเกิดการ"หลอก"ประชาชนโดยไม่อายฟ้าดิน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะรู้ทันกันหรือเปล่า ว่าตัวเองกำลังใช้งานนักการเมือง หรือนักการเมืองกำลังหลอกใช้ประชาชน
วิธีการหลอกใช้ประชาชน หรือการดึงมวลชนมีมากมาย ลองศึกษาดู แล้วเทียบกับยุทธวิธีของคนบางกลุ่มก็จะเห็นเอง เพราะเวลาผ่านมานาน แต่ยุทธวิธียังไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก เท่านั้นก็จะทราบว่าใครใช้ยุทธวิธีใด (ดูให้หมดทุกกลุ่มก็จะเห็น เพราะไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด ก็มียุทธวิธีในการ"ควบคุมมวลชน"ทั้งสิ้น จึงมาได้ถึงวันนี้) และเมื่อมองเห็นแล้ว ว่าแต่ละกลุ่มใช้วิธีอะไร จากนี้ไป จะได้รู้ว่า"อารมณ์ร่วม"ของเรา บางครั้งมันไม่ได้เกิดจากความคิดของเราเอง แต่เป็นคนอื่น"บรรจุใส่สมอง"ให้เรา จะได้ไม่รู้สึกโกรธแค้นกัน อยากทำร้ายกัน เพราะเรามองข้ามอารมณ์ได้
สิ่งต่อไปก็คือ ดูจุดมุ่งหมายของแต่ละกลุ่ม ว่าใครทำเพื่ออะไร นั่นต่างหากคือเหตุผลของการต่อสู้ของแต่ละกลุ่ม เมื่อเราเห็นเหตุผลในการต่อสู้แล้ว เราจะได้ตัดสินใจเองว่า ต้องการจะเป็นเครื่องมือให้กลุ่มใดบรรลุถึงเป้าหมายของเขาหรือไม่ หรือจะอยู่เฉยๆดีกว่า อันนี้แล้วแต่ว่าใครคิดอย่างไร เป็นสิทธิ์ในการเลือกของทุกคน
แต่ใครจะมองเห็นอะไรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า คุณศึกษาให้มากพอหรือยัง และคุณเปิดใจฟัง"ความจริง"บ้างหรือยัง ในการยุทธ บางครั้งสิ่งที่เราเห็นคือสิ่งที่คนอื่นต้องการให้เราเห็น สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เป็นจริงไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งเดียวกัน
เมื่อวานนี้มีผู้ใหญ่ที่รู้จักท่านหนึ่งกลับมาจากการไปเที่ยวเกาหลี คุยกันเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามีใครตายอะไรจริงหรือไม่ ผู้ใหญ่ท่านนั้นบอกว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ต้องฟังจากทั้ง 2 ฝ่ายแล้วพิจารณาอีกที
นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน หรือไม่มีฝ่ายเลยก็ตาม
อย่าเชื่อคนอื่น และอย่าให้ตัวเองตกเป็นเครื่องมือของใคร
เรื่องบางเรื่องเด็กรุ่นใหม่อาจจะมองไม่เห็น เพราะไม่ได้เติบโตขึ้นมากับภัยคุกคามบางอย่าง แต่รุ่นๆเจ๊ฟิมนี่ไม่แน่..
ที่แน่ๆ ต้องคิดถึงความมั่นคงของประเทศชาติด้วย อย่างไรเสีย เราควรรักคนไทยด้วยกัน และคำนึงถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้มากเข้าไว้
ขอให้ทุกคนโชคดี และอย่าตกเป็นเครื่องมือของใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เว้นแต่เข้าใจจุดมุ่งหมายและต้องการเป็นเครื่องมือให้พวกเขาจริงๆ อย่าลืมว่า นักการเมืองเมื่อได้ประโยชน์แล้ว เราก็เป็นแค่เศษขยะ แต่พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนๆเราต่างหาก ที่จะอยู่เคียงข้างเราไปตลอด อย่าแตกแยกกันเองเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มเลย
ขอพระเจ้าคุ้มครอง
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เห็นพี่พลายแก้ว กลับไปที่ ยุค 60s อ่านแล้วเครียด คร้าบP เขียน: ศึกษาให้มาก อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ และกลับไปอ่านหนังสือเก่าๆ ประมาณ 30+ ปีก่อนบ้าง เพราะสงครามครั้งนี้บ่มเพาะมานานขนาดนั้นแล้ว แม้แต่โฆษกต่างประเทศ (international spokesman)ของกลุ่มๆหนึ่ง (ขอสงวนว่ากลุ่มไหน) ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวต่างประเทศเอง
ที่พี่ P ว่าน่ะ หาได้ที่ไหนคร้าบ
วิธีการ สงกรานต์ เลือด นั้น เป็นวิธีเดียวกับ ที่นายพลพต ผู้นำเขมรแดง ใช้ กองทัพ ประชาชน ตี/บุกเมือง เมื่อ ปี 1975
วิธีนี่แหละ ทำให้เขมรแตก~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
แค่อยากให้เด็กรุ่นใหม่กลับไปศึกษาประวัติศาสตร์การเมือง ความมั่นคงของชาติ ฯลฯ ในยุค 30 ปีก่อน จะมองเห็นภาพได้ชัดขึ้นเล็กน้อยJeab Agape เขียน: ที่พี่ P ว่าน่ะ หาได้ที่ไหนคร้าบ
ยิ่งถ้าอ่านเกี่ยวกับสงครามจิตวิทยา การล้างสมอง ยุทธวิธีการแทรกซึม ฯลฯ จะเห็นภาพชัดขึ้น
ลองเช็คห้องสมุดของมหาวิทยาลัยต่างๆก็ได้ มักจะเก็บหนังสือเก่าๆไว้
เป็นเราๆก็เดินหนีนะ เดี๋ยวนี้บ้านไม่น่าอยู่เหมือนแต่ก่อนอ่ะ เมื่อก่อนนะเรายังนอนเล่นกะพ่อกะแม่ ดูข่า ดูละครกันอยู่เลย แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ แม่หันไปดูแต่ข่าวม็อปเครียดๆ แล้วแม่ก็ด่ามันในทีวี รู้รึเปล่า พวกนั้นเค้าไม่ได้ยินหรอก ที่ได้ยินคือหนูกับพ่อ ตอนนี้หนูรู้แล้วแหละว่าการเมืองทำให้ครอบครัวเราไม่เหมือนเดิม และมันก็คงไม่ผิดใช่ไหมที่หนูจะไม่ชอบกลุ่มคนที่เป็นสาเหตุให้แม่หนูเป็นอย่างนี้
ความจริงเราต้องเลือกฝ่ายนะครับ เช่น ควรจะเลือกอยู่ฝ่ายดี ไม่ควรอยู่ฝ่ายชั่ว แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าฝ่ายไหนดีไหนชั่วกันแน่ ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับทั้ง2ฝ่าย ผมก็เป็น1ในนั้น ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนโกหก ฝ่ายไหนเลว ก็เลยไม่อยู่ทั้ง2ฝ่ายเลย แบบนี้ไปอยู่ฝ่ายพระเจ้าดีกว่า ไม่ต้องไปกังวลว่าจะหลงไป
เซงกับการเมืองจริงๆ
เซงกับการเมืองจริงๆ
เห็นด้วยที่สุด เราต้องเลือกฝ่ายดี เพราะหากเกิดความขัดแย้งกันที่ใดแล้วเราหลบ หลีก เลี่ยง เพียงเพื่อไม่ต้องขัดแย้ง ความชั่วจะเป็นฝ่ายชนะtaiyo เขียน: ความจริงเราต้องเลือกฝ่ายนะครับ เช่น ควรจะเลือกอยู่ฝ่ายดี ไม่ควรอยู่ฝ่ายชั่ว
"The only thing necessary for the triumph of evil, is for good men to do nothing."
-Edmund Burke
เพียงแต่ในการเลือกฝ่ายดี เราต้องพึ่งพระเจ้าเข้าไว้ เนื่องจากในเรื่องบางเรื่อง มันบอกยากว่าใครเป็นใคร คนไหนดีคนไหนชั่ว และในสถานการณ์ที่มีแต่การหลอกลวง ตบตา เราต้องระวังการถูกหลอกใช้ และต้องระวังไม่ให้เกิดความเกลียดชัง แตกแยก ในหมู่เราเอง เพราะถ้าเราแตกแยกกันเอง ท้ายที่สุดเราก็แพ้
ขอบคุณสำหรับความเห็นและความปรารถนาดีจากทุกคนนะคะ ตอนนี้สถานการณ์เงียบสงบ ทุกสิ่งก็กลับสู่สภาวะปกติ แต่เหตุการณ์รุนแรงมันจะเกิดขึ้นเมื่อไรอีกก็ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดไปแล้วล่ะค่ะ จะได้จำเป็นบทเรียนไว้ แล้วใครที่เคยว่าอะไรไม่ดีกับเรา ตอนนี้ก็ไม่ถือโทษโกรธกันแล้ว เช่นพ่อและแม่ ส่วนพี่ชาย(ในนาม)ตอนนี้เขาหายไปจากชีวิตแล้ว เพราะเรื่องเล็กๆแค่นี้ ซึ่งเราอาจจะเป็นต้นเหตุ ก็ภาวนาและนึกถึงเขาตลอด อยากให้เขามีความสุขกับอนาคตของเขาไปแล้วกัน
ขอบคุณสิ่งดีๆจากทุกๆคนนะคะ
ขอบคุณสิ่งดีๆจากทุกๆคนนะคะ
เหตุที่น้องประสบก็เคยเกิดกับผมครับ คือผมเป็น พธม. มาตั้งแต่สมัยขับไล่ อดีตนายกที่ไม่มีที่นอน มาจนถึงปัจจุบัน เข้าร่วมเหตุการสำคัญหลายครั้ง รอดจากระเบิดที่ตกใกล้ๆมาแล้วแบบหวุดหวิด ฮ่าๆๆ อันนี้ไม่เกี่ยวครับเล่าให้ฟัง
ผมว่าถ้าน้องมีจุดยืนอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วล่ะก็จงยึดมันไว้ครับและใช้สติอย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ ผมเองเวลาคนในบ้านพูดเรื่องการเมืองผมจะนิ่งเฉย เวลามีคนถามความเห็นผมจะบอกไปว่า ผมมีจุดยืนของผมและขอความกรุณาอย่าพูดเรื่องการเมืองกับผมพราะในบ้านหน้าที่ของผมก็คือสมาชิกครอบครัวไม่ใช่ศัตรูไม่ใช่สีไหนทั้งสิ้น เช่นกันเมือผมอยู่ในบอร์ดนี้ผมก็เป็นมิตรกับทุกๆท่านไม่ว่าจะสีใหน เพราะเราต่างดำรงค์อยู่ในความเชื่อเดียวกันคือพระเจ้า
อย่าวที่บอกครับใช้สติบังคับจิตใจอย่าอารมณ์มาบังคับพูดคุยด้วยเหตุและผลทำข้อตกลงกันในครอบครัว ประเทศเราเสรีทางความคิดไม่มีใครมาบังคับคุณให้ชอบหรือเกียจใครได้ สำคัญอยู่ที่แสดงบทบาทของตนเองออกมาให้ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นเองครับ
ผมว่าถ้าน้องมีจุดยืนอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วล่ะก็จงยึดมันไว้ครับและใช้สติอย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ ผมเองเวลาคนในบ้านพูดเรื่องการเมืองผมจะนิ่งเฉย เวลามีคนถามความเห็นผมจะบอกไปว่า ผมมีจุดยืนของผมและขอความกรุณาอย่าพูดเรื่องการเมืองกับผมพราะในบ้านหน้าที่ของผมก็คือสมาชิกครอบครัวไม่ใช่ศัตรูไม่ใช่สีไหนทั้งสิ้น เช่นกันเมือผมอยู่ในบอร์ดนี้ผมก็เป็นมิตรกับทุกๆท่านไม่ว่าจะสีใหน เพราะเราต่างดำรงค์อยู่ในความเชื่อเดียวกันคือพระเจ้า
อย่าวที่บอกครับใช้สติบังคับจิตใจอย่าอารมณ์มาบังคับพูดคุยด้วยเหตุและผลทำข้อตกลงกันในครอบครัว ประเทศเราเสรีทางความคิดไม่มีใครมาบังคับคุณให้ชอบหรือเกียจใครได้ สำคัญอยู่ที่แสดงบทบาทของตนเองออกมาให้ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นเองครับ
เสือกอีกแล้วตู ขอแสดงความเห้นนิดหน่อยได้ใหม ความจริงคือเราเปลี่ยนโลกไม่ได้ ไม่ว่าใครจะเป้นรัฐบาล ย่อมมีการคอรัปชัั่น ท่านสูงส่งมากมายหรือ??ถึงจะเปลี่ยนโลกได้ เพราะท่านเป็นเสื้อเหลืองเหลืองหรือถึงประเทศจะสะอาด หรือเสื้อแดงดี โลกก็ยังเป็นโลก มีแต่คนเขลาเท่านั้นที่คิดว่าจะเปลี่ยนโลกได้ ระบอบประชาธิปไตย์หรือ มองตัวเองก่อนดีใหมว่าเข้าใจสิ่งเหล่านี้สักเท่าใหร่กัน ความจริงข้อนี้มันเสียดแทงท่านใหม? ท่านเรียกร้องอิสระภาพของท่านเอง แต่ท่านกลับยึดอิสระภาพของคนอื่นมาแล้วบอกว่านี่คือความชอบธรรม??ใช่ใหม??
สุขกันเถอะเรา เศร้าไปทำไม
วัยรุ่นเซง....การเมืองการบ้านการค้านการประท้วงการรัฐประหารการการปราบปรามประชาชนด้วยปืนการปิดบังว่าไม่มีใครตายจากการยิง....เซงวุ้ย
ตูจะย้ายประเทศอยู่ดีใหม?? เหอๆ ฝ่ายใหนดี?? ฝ่ายใหนชั่ว?? มองกันเองทั้งนั้นจริงเป่าวะชักสับสน?? นี่ละการเมืองล้วนๆ
ตูจะย้ายประเทศอยู่ดีใหม?? เหอๆ ฝ่ายใหนดี?? ฝ่ายใหนชั่ว?? มองกันเองทั้งนั้นจริงเป่าวะชักสับสน?? นี่ละการเมืองล้วนๆ
การเมืองไม่ใช่สิ่งที่สะอาด ท่านจะเลือกฝ่ายเลือกข้างไปทำมัย?? ใครเป็นรัฐบาลก็ไม่ทำให้ประเทศไทยสูงขึ้นหรอก ประเทศจะสูงถ้าทุกคนในประเทศร่วมใจกัน พัตนาตัวเองก่อนดีใหม?? อยู่ฝ่ายที่ถูกซิ ใครถูกหรือ?? ทักษิณซิถูกแน่นอน ไม่ใช่ต้องป๋าเปรมถูกซิ ปันหาโง่เง่าคนเขลาก็คิดไปว่าใครถูก ความจริงคืออย่าวางใจในเนื้อหนัง ท่านเคยได้ยินใช่ใหม?ผมไม่อ้างเพระคัมภีร์เพราะผมอ่านเพื่อให้รู้ความจริงไม่ได้อ่านเพื่อจดจำ
ถ้าท่านเข้าใจประเทศก็จะสูงเองจริงใหม??
ถ้าท่านเข้าใจประเทศก็จะสูงเองจริงใหม??