5. ศีลมหาสนิท ความรักมหัศจรรย์ ซึ่งน้อยคนรู้จัก
5. ศีลมหาสนิท ความรักมหัศจรรย์ ซึ่งน้อยคนรู้จัก (7 มี.ค. 23)
เมื่อนั้นความรักของเราร้อนแรงเหลือจะควบคุมไว้ จึงได้คิดตั้งศีลมหาสนิท สิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง เมื่อนั้นเรามองเห็นคนจำนวนมากมาเลี้ยงตัวด้วยปังแห่งสวรรค์ แต่ในเวลาเดียวกันเราเห็นความอกตัญญูของผู้ที่ได้ถวายตัวแก่เราจำนวนมาก ซึ่งในจำพวกนั้นมีพระสงฆ์อยู่มิใช่น้อย ใจเราต้องระทมขมขื่นอย่างหนัก เราเห็นความเย็นเฉย การปล่อยตัวจนเคยชิน ต่อไปก็ละเลยและเบื่อหน่ายหนักๆ เข้าก็หมดความไยดี
เราอยู่ในตู้ศีลทุกวันคืน คอยเขามารับเรา มาสนทนากับเราด้วยความวางใจ เราคอยให้มาเล่าความทุกข์สุข การประจญล่อลวง ขอคำแนะนำขอพระหรรษทาน สำหรับตนเองและผู้อื่นซึ่งบางทีมีคนที่อยู่ในความรับผิดชอบ หรือในครอบครัวของเขา กำลังอยู่ในอันตราย หรือห่างเหินจากเราก็เป็นได้... มาเถิด มาเล่าความทุกข์สุขให้เราทราบด้วยความวางใจ เราขอให้ทุกคนช่วยเหลือคนบาป นี่คือสิ่งที่เราหวังจะได้จากมนุษย์ แต่อนิจจาเมื่อพวกเขามารับเรา พวกเขาแทบจะไม่ได้สนทนากับเราเลย เขาปล่อยใจวอกแวก มึนชา คิดถึงแต่การงาน เป็นห่วงครอบครัว มีเรื่องขัดข้องต่างๆ คิดถึงสุขภาพ คิดถึงปัญหาร้อยแปด แต่กับเรา ไม่รู้จักพูดอะไรเลย มีแต่เบื่อหน่าย อยากไปเร็วๆ
โอ้... วิญญาณที่รัก เราเลือก เราเรียก และคอยลูกทั้งวันทั้งคืนด้วยความหวัง แต่ลูกต้อนรับเราดังนี้หรือ? แท้จริงเราคอย ใคร่จะพักผ่อนในวิญญาณของเขา จะได้มีความบรรเทาบ้าง ได้ตระเตรียมพระคุณใหม่ๆ ไว้สำหรับเขา แต่เขาไม่อยากได้ เขาไม่ขออะไรเลย คำแนะนำหรือพละกำลังก็ไม่ขอ ได้แต่บ่น แต่ไม่มาหาเรา ถ้ามาก็มาพอเป็นพิธี หรือมาเพราะความเคยชินหรือเพราะไม่มีบาปหนักเท่านั้น มิได้มาเพราะความรัก ไม่คนใจที่จะสนิทกับเราจริงๆ เราต้องการความรักที่สดชื่น แต่เขาไม่มีจะให้เรา...
กับพระสงฆ์องค์นั้น และองค์อื่นทั่วไปจะให้เราทำอย่างไรอีก? อำนาจยกบาปเราก็ประทานให้ เขาตรัสถ้อยคำของเรา เราก็มาอยู่ในมือของเขา เขาเอาเราใส่ตู้ขังไว้ หรือประทานแก่คนอื่นเรายอมทั้งสิ้น เท่ากับผู้แจกจ่ายตัวเราแก่มนุษย์ เราตั้งให้เป็นผู้ดูแลวิญญาณ มีหน้าที่แนะนำ สั่งสอน เป็นแบบฉบับแห่งความช่วยเหลือ และเดินบนทางกุศลแต่เขาฏิบัติอย่างไรต่อคนที่อยู่ใต้ความดูและของเขา? พระสงฆ์กระทำตามความปรารถนาของคำภาวนาของเราทุกองค์หรือไม่? หน้าที่แห่งความรัก เขาปฏิบัติสมบูรณ์ดีอยู่หรือ? เมื่ออยู่บนพระแท่นพระสงฆ์ได้ถวายวิญญาณที่อยู่ในความรับผิดชอบแก่เราทุกองค์หรือไม่? ได้กระทำการใช้โทษบาปตามควรแก่หน้าที่หรือเปล่า? ได้ขอกำลังและความสามารถเพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือ? เขาทำงานเพื่อความรอดวิญญาณด้วยความร้อนรนหรือไม่? วันนี้เขายอมเสียสละน้ำใจตนเองยิ่งกว่าเมื่อวานนี้ไหม? เขาแสดงความรักต่อเราตามความต้องการของเราหรือ? เราจะมาพักผ่อนในวิญญาณของเขาอย่างในวิญญาณศิษย์ที่รัก หรือผู้เป็นยอดรักได้ไหม?
โอ...น่าอนาถที่จะกล่าวว่า คนในโลกทิ่มแทงมือเท้าและทำหน้าตาของเราเปื้อนหมอง ส่วนบรรดาภคินีและพระสงฆ์ที่เป็นคนรักคนโปรดของเรา กลับฉีกใจเราออกเป็นเสียงๆ และทำลายเสียด้วย... พระสงฆ์เป็นผู้นำพระหรรษทานมาให้คนอื่น ตัวเองกลับอยู่ในฐานะบาปก็มีมาก ส่วนพระสงฆ์ที่ถวายบูชามิสซาในฐานะบาป รับเราในฐานะบาป ดำรงชีวิตในฐานะบาป ตายในฐานะบาป ก็มีไม่น้อย
เมื่อนั้นความรักของเราร้อนแรงเหลือจะควบคุมไว้ จึงได้คิดตั้งศีลมหาสนิท สิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง เมื่อนั้นเรามองเห็นคนจำนวนมากมาเลี้ยงตัวด้วยปังแห่งสวรรค์ แต่ในเวลาเดียวกันเราเห็นความอกตัญญูของผู้ที่ได้ถวายตัวแก่เราจำนวนมาก ซึ่งในจำพวกนั้นมีพระสงฆ์อยู่มิใช่น้อย ใจเราต้องระทมขมขื่นอย่างหนัก เราเห็นความเย็นเฉย การปล่อยตัวจนเคยชิน ต่อไปก็ละเลยและเบื่อหน่ายหนักๆ เข้าก็หมดความไยดี
เราอยู่ในตู้ศีลทุกวันคืน คอยเขามารับเรา มาสนทนากับเราด้วยความวางใจ เราคอยให้มาเล่าความทุกข์สุข การประจญล่อลวง ขอคำแนะนำขอพระหรรษทาน สำหรับตนเองและผู้อื่นซึ่งบางทีมีคนที่อยู่ในความรับผิดชอบ หรือในครอบครัวของเขา กำลังอยู่ในอันตราย หรือห่างเหินจากเราก็เป็นได้... มาเถิด มาเล่าความทุกข์สุขให้เราทราบด้วยความวางใจ เราขอให้ทุกคนช่วยเหลือคนบาป นี่คือสิ่งที่เราหวังจะได้จากมนุษย์ แต่อนิจจาเมื่อพวกเขามารับเรา พวกเขาแทบจะไม่ได้สนทนากับเราเลย เขาปล่อยใจวอกแวก มึนชา คิดถึงแต่การงาน เป็นห่วงครอบครัว มีเรื่องขัดข้องต่างๆ คิดถึงสุขภาพ คิดถึงปัญหาร้อยแปด แต่กับเรา ไม่รู้จักพูดอะไรเลย มีแต่เบื่อหน่าย อยากไปเร็วๆ
โอ้... วิญญาณที่รัก เราเลือก เราเรียก และคอยลูกทั้งวันทั้งคืนด้วยความหวัง แต่ลูกต้อนรับเราดังนี้หรือ? แท้จริงเราคอย ใคร่จะพักผ่อนในวิญญาณของเขา จะได้มีความบรรเทาบ้าง ได้ตระเตรียมพระคุณใหม่ๆ ไว้สำหรับเขา แต่เขาไม่อยากได้ เขาไม่ขออะไรเลย คำแนะนำหรือพละกำลังก็ไม่ขอ ได้แต่บ่น แต่ไม่มาหาเรา ถ้ามาก็มาพอเป็นพิธี หรือมาเพราะความเคยชินหรือเพราะไม่มีบาปหนักเท่านั้น มิได้มาเพราะความรัก ไม่คนใจที่จะสนิทกับเราจริงๆ เราต้องการความรักที่สดชื่น แต่เขาไม่มีจะให้เรา...
กับพระสงฆ์องค์นั้น และองค์อื่นทั่วไปจะให้เราทำอย่างไรอีก? อำนาจยกบาปเราก็ประทานให้ เขาตรัสถ้อยคำของเรา เราก็มาอยู่ในมือของเขา เขาเอาเราใส่ตู้ขังไว้ หรือประทานแก่คนอื่นเรายอมทั้งสิ้น เท่ากับผู้แจกจ่ายตัวเราแก่มนุษย์ เราตั้งให้เป็นผู้ดูแลวิญญาณ มีหน้าที่แนะนำ สั่งสอน เป็นแบบฉบับแห่งความช่วยเหลือ และเดินบนทางกุศลแต่เขาฏิบัติอย่างไรต่อคนที่อยู่ใต้ความดูและของเขา? พระสงฆ์กระทำตามความปรารถนาของคำภาวนาของเราทุกองค์หรือไม่? หน้าที่แห่งความรัก เขาปฏิบัติสมบูรณ์ดีอยู่หรือ? เมื่ออยู่บนพระแท่นพระสงฆ์ได้ถวายวิญญาณที่อยู่ในความรับผิดชอบแก่เราทุกองค์หรือไม่? ได้กระทำการใช้โทษบาปตามควรแก่หน้าที่หรือเปล่า? ได้ขอกำลังและความสามารถเพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือ? เขาทำงานเพื่อความรอดวิญญาณด้วยความร้อนรนหรือไม่? วันนี้เขายอมเสียสละน้ำใจตนเองยิ่งกว่าเมื่อวานนี้ไหม? เขาแสดงความรักต่อเราตามความต้องการของเราหรือ? เราจะมาพักผ่อนในวิญญาณของเขาอย่างในวิญญาณศิษย์ที่รัก หรือผู้เป็นยอดรักได้ไหม?
โอ...น่าอนาถที่จะกล่าวว่า คนในโลกทิ่มแทงมือเท้าและทำหน้าตาของเราเปื้อนหมอง ส่วนบรรดาภคินีและพระสงฆ์ที่เป็นคนรักคนโปรดของเรา กลับฉีกใจเราออกเป็นเสียงๆ และทำลายเสียด้วย... พระสงฆ์เป็นผู้นำพระหรรษทานมาให้คนอื่น ตัวเองกลับอยู่ในฐานะบาปก็มีมาก ส่วนพระสงฆ์ที่ถวายบูชามิสซาในฐานะบาป รับเราในฐานะบาป ดำรงชีวิตในฐานะบาป ตายในฐานะบาป ก็มีไม่น้อย
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ม.ค. 24, 2009 8:46 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ความทุกข์ใหญ่หลวงของเราในระหว่างอาหารครั้งสุดท้ายนั้นคือเห็น ยูดาส หนึ่งในพวกสิบสองมิได้ถือซื่อสัตย์ และต่อไปภายภาคหน้าคนอื่นจะเอาอย่างยูดาสอีกมาก เราได้ตั้งศีลมหาสนิทเพราะความรัก ความรักเป็นชีวิต เป็นกำลังฝ่ายวิญญาณ เป็นโอสถรักษาความอ่อนแอ เป็นเสบียงในการเดินทางไปสู่นิรันดรภาพ
ในศีลมหาสนิท คนบาปจะพบชีวิต คนเย็นเฉยจะพบความร้อน คนร้อนจะได้พักผ่อน ความปรารถนาจะบังเกิดดอกผล คนครบครันจะติดปีกขึ้นสู่ความครบครันยิ่งวันยิ่งสูง วิญญาณบริสุทธิ์ จะได้ลิ้มรสน้ำผึ้งหวานฉ่ำและอาหารโอชา
ศีลมหาสนิทเป็นที่พำนัก เป็นความรัก และเป็นชีวิตของผู้ถวายตัว ซึ่งเขาจะพบตัวอย่างแห่งการปฏิญาณตน จะพบเครื่องผูกพันอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะมัดตัวกับพระเจ้า อย่างแยกกันมิได้ นักบวชจะเห็นสัญลักษณ์แห่งความยากจน ในแผ่นศีลเล็กๆ กลมๆ ทั้งเกลี้ยงเกลา และไร้น้ำหนัก
ความยากจนของนักบวชต้องปราศจากแง่มุมทั้งสิ้น กล่าวคือไม่มีความรักตามธรรมชาติโลกแม้สักเล็กน้อยเจือปนอยู่ จะเป็นความรักในเครื่องใช้ไม้สอย ในหน้าที่การงาน ความรักต่อครอบครัว หรือต่อประเทศชาติ หากพร้อมจะยอมทิ้ง หรือยอมเสียและเปลี่ยนได้เสมอ ความรักไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับทางโลก จิตใจเป็นอิสระ ปราศจากความผูกพันภายใน แต่นั่นหาได้หมายความว่า นักบวชจะต้องเป็นผู้ไร้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นก็หามิได้ หากแต่ว่าเขายิ่งรักยิ่งรู้จักรักษาข้อปฏิญาณความยากาจนอย่างครบครัน สารัตถะแห่งความยากจน คือนักบวชไม่ถือสิ่งใดเป็นกรรมสิทธิ์ โดยมิได้รับอนุญาตหรือความเห็นชอบของผู้ใหญ่ และข้อต่อมาคือไม่มีสิ่งใดเป็นของตัวและไม่รักสิ่งใดๆ แต่ยอมเสียสละทุกอย่าง ทิ้งทุกอย่างตามอาณัติของผู้ใหญ่
แผ่นศีลสีขาว เล็กๆ นั้นคือ แบบอย่างแห่งข้อปฏิญาณความบริสุทธิ์ ใต้รูปปรากฏของปังและเหล้าองุ่น มีพระเป็นเจ้าสถิตอยู่อย่างแท้จริง รูปปรากฏคือเครื่องปิดบังเราซึ่งอยู่ในนั้นทั้งกาย โลหิต วิญญาณ และสภาวะพระเจ้าของเรา ฉะนั้นผู้ใดปฏิญาณตนถวายความบริสุทธิ์แด่พระเป็นเจ้า จะต้องมีความสงบเสงี่ยมเป็นเครื่องปิดบังตัวขนาดที่เห็นได้ว่า ใต้ร่างของมนุษย์มีความบริสุทธิ์ของเทวดาบังลับอยู่ และพึงเข้าใจความหมายถูกต้องดังนี้ วิญญาณที่รับสถาปนาเป็นตำหนักของชุมพาน้อยนิรมลดังกล่าว เป็นเกียรติแก่เรายิ่งกว่าเทวดาในสวรรค์ อย่างจะเทียบกันมิได้ เพราเทวดาไม่มีธรรมชาติอ่อนแอเหมือนมนุษย์เพื่อธำรงความบริสุทธิ์
พระมารดาของเราเป็นมนุษย์รู้ตาย แต่ทรงความบริสุทธิ์ปราศจากความมัวหมอง พวกลูกก็อาจบำเพ็ญตนเยี่ยงพระมารดาของเราได้ พระมารดามิใช่บุคคลที่ไร้ความทุกข์ยาก แต่เป็นพรหมจารีนิรมลทุกขณะตลอดชีพ พระมารดาผู้เดียวเป็นเกียรติแก่เรายิ่งกว่าเทวดาในสวรรค์รวมกัน อนึ่งที่เราลงมารับเอาเนื้อหนังในครรภ์พระมารดา และสถิตอยู่ในนั้น ก็เพราะความบริสุทธิ์ของพระนางนั่นเอง
เหนือกว่านั้นอีก ผู้ใดปฏิญาณความบริสุทธิ์จะมีสภาพคล้ายเราผู้สร้างเขาเท่าที่มนุษย์อาจเป็นได้ ทั้งนี้เพราะในสภาพที่เป็นมนุษย์เราจะมีความทุกข์จากตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่เราดำรงชีวิตปราศจากความมัวหมอง แม้เงาแห่งความมัวหมองเพียงเล็กน้อยก็ไม่มี โดยนัยนี้บุคคลที่ปฏิญาณความบริสุทธิ์ก็เป็นดุจแผ่นศีลขาวสะอาด และเป็นสิริมงคลแด่พระมหิทธานุภาพของพระเป็นเจ้าทุกกาลเวลา
นักบวชจะพบตัวอย่างความนอบน้อมเชื่อฟังในศีลมหาสนิท ซึ่งในนั้นความยิ่งใหญ่รวมทั้งพระฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้ายอมอยู่ใต้อำนาจของผู้อื่นเหมือนปราศจากตัวตน เพราะในศีลมหาสนิทเราเป็นชีวิตของวิญญาณ เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูมนุษย์ เรามิได้เป็นนายอีกต่อไป การจะไปจะอยู่ มีบริวาร หรือไม่มี ก็สุดแล้วแต่เรา พระดำริ ปรีชาญาณ พระเดชานุภาพ อิสรภาพ ทุกอย่างสูญสิ้น ใต้แผ่นปัง เป็นเครื่องผูกมัดเรา และเป็นม่านปิดบังเรา โดยนัยเดียวกันข้อปฏิญาณตัวความนอบน้อมเชื่อฟังของนักบวช เป็นสายโซ่ผูกมัดตัวทั้งเป็นมานปิดบังตัวดุจว่านักบวชไม่มีตัวเป็นของตัว น้ำใจหรือความเห็นก็ดี การเลือกหรืออิสรภาพก็ดี นักบวชไม่มีเป็นของตัว มีแต่น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าซึ่งปรากฏออกมาโดยทางผู้ใหญ่เท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในศีลมหาสนิท คนบาปจะพบชีวิต คนเย็นเฉยจะพบความร้อน คนร้อนจะได้พักผ่อน ความปรารถนาจะบังเกิดดอกผล คนครบครันจะติดปีกขึ้นสู่ความครบครันยิ่งวันยิ่งสูง วิญญาณบริสุทธิ์ จะได้ลิ้มรสน้ำผึ้งหวานฉ่ำและอาหารโอชา
ศีลมหาสนิทเป็นที่พำนัก เป็นความรัก และเป็นชีวิตของผู้ถวายตัว ซึ่งเขาจะพบตัวอย่างแห่งการปฏิญาณตน จะพบเครื่องผูกพันอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะมัดตัวกับพระเจ้า อย่างแยกกันมิได้ นักบวชจะเห็นสัญลักษณ์แห่งความยากจน ในแผ่นศีลเล็กๆ กลมๆ ทั้งเกลี้ยงเกลา และไร้น้ำหนัก
ความยากจนของนักบวชต้องปราศจากแง่มุมทั้งสิ้น กล่าวคือไม่มีความรักตามธรรมชาติโลกแม้สักเล็กน้อยเจือปนอยู่ จะเป็นความรักในเครื่องใช้ไม้สอย ในหน้าที่การงาน ความรักต่อครอบครัว หรือต่อประเทศชาติ หากพร้อมจะยอมทิ้ง หรือยอมเสียและเปลี่ยนได้เสมอ ความรักไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับทางโลก จิตใจเป็นอิสระ ปราศจากความผูกพันภายใน แต่นั่นหาได้หมายความว่า นักบวชจะต้องเป็นผู้ไร้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นก็หามิได้ หากแต่ว่าเขายิ่งรักยิ่งรู้จักรักษาข้อปฏิญาณความยากาจนอย่างครบครัน สารัตถะแห่งความยากจน คือนักบวชไม่ถือสิ่งใดเป็นกรรมสิทธิ์ โดยมิได้รับอนุญาตหรือความเห็นชอบของผู้ใหญ่ และข้อต่อมาคือไม่มีสิ่งใดเป็นของตัวและไม่รักสิ่งใดๆ แต่ยอมเสียสละทุกอย่าง ทิ้งทุกอย่างตามอาณัติของผู้ใหญ่
แผ่นศีลสีขาว เล็กๆ นั้นคือ แบบอย่างแห่งข้อปฏิญาณความบริสุทธิ์ ใต้รูปปรากฏของปังและเหล้าองุ่น มีพระเป็นเจ้าสถิตอยู่อย่างแท้จริง รูปปรากฏคือเครื่องปิดบังเราซึ่งอยู่ในนั้นทั้งกาย โลหิต วิญญาณ และสภาวะพระเจ้าของเรา ฉะนั้นผู้ใดปฏิญาณตนถวายความบริสุทธิ์แด่พระเป็นเจ้า จะต้องมีความสงบเสงี่ยมเป็นเครื่องปิดบังตัวขนาดที่เห็นได้ว่า ใต้ร่างของมนุษย์มีความบริสุทธิ์ของเทวดาบังลับอยู่ และพึงเข้าใจความหมายถูกต้องดังนี้ วิญญาณที่รับสถาปนาเป็นตำหนักของชุมพาน้อยนิรมลดังกล่าว เป็นเกียรติแก่เรายิ่งกว่าเทวดาในสวรรค์ อย่างจะเทียบกันมิได้ เพราเทวดาไม่มีธรรมชาติอ่อนแอเหมือนมนุษย์เพื่อธำรงความบริสุทธิ์
พระมารดาของเราเป็นมนุษย์รู้ตาย แต่ทรงความบริสุทธิ์ปราศจากความมัวหมอง พวกลูกก็อาจบำเพ็ญตนเยี่ยงพระมารดาของเราได้ พระมารดามิใช่บุคคลที่ไร้ความทุกข์ยาก แต่เป็นพรหมจารีนิรมลทุกขณะตลอดชีพ พระมารดาผู้เดียวเป็นเกียรติแก่เรายิ่งกว่าเทวดาในสวรรค์รวมกัน อนึ่งที่เราลงมารับเอาเนื้อหนังในครรภ์พระมารดา และสถิตอยู่ในนั้น ก็เพราะความบริสุทธิ์ของพระนางนั่นเอง
เหนือกว่านั้นอีก ผู้ใดปฏิญาณความบริสุทธิ์จะมีสภาพคล้ายเราผู้สร้างเขาเท่าที่มนุษย์อาจเป็นได้ ทั้งนี้เพราะในสภาพที่เป็นมนุษย์เราจะมีความทุกข์จากตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่เราดำรงชีวิตปราศจากความมัวหมอง แม้เงาแห่งความมัวหมองเพียงเล็กน้อยก็ไม่มี โดยนัยนี้บุคคลที่ปฏิญาณความบริสุทธิ์ก็เป็นดุจแผ่นศีลขาวสะอาด และเป็นสิริมงคลแด่พระมหิทธานุภาพของพระเป็นเจ้าทุกกาลเวลา
นักบวชจะพบตัวอย่างความนอบน้อมเชื่อฟังในศีลมหาสนิท ซึ่งในนั้นความยิ่งใหญ่รวมทั้งพระฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้ายอมอยู่ใต้อำนาจของผู้อื่นเหมือนปราศจากตัวตน เพราะในศีลมหาสนิทเราเป็นชีวิตของวิญญาณ เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูมนุษย์ เรามิได้เป็นนายอีกต่อไป การจะไปจะอยู่ มีบริวาร หรือไม่มี ก็สุดแล้วแต่เรา พระดำริ ปรีชาญาณ พระเดชานุภาพ อิสรภาพ ทุกอย่างสูญสิ้น ใต้แผ่นปัง เป็นเครื่องผูกมัดเรา และเป็นม่านปิดบังเรา โดยนัยเดียวกันข้อปฏิญาณตัวความนอบน้อมเชื่อฟังของนักบวช เป็นสายโซ่ผูกมัดตัวทั้งเป็นมานปิดบังตัวดุจว่านักบวชไม่มีตัวเป็นของตัว น้ำใจหรือความเห็นก็ดี การเลือกหรืออิสรภาพก็ดี นักบวชไม่มีเป็นของตัว มีแต่น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าซึ่งปรากฏออกมาโดยทางผู้ใหญ่เท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความยากจนกับความนบนอบมันเกี่ยวข้องผูกพันกันแบบนี้นี่เองความยากจนของนักบวชต้องปราศจากแง่มุมทั้งสิ้น กล่าวคือไม่มีความรักตามธรรมชาติโลกแม้สักเล็กน้อยเจือปนอยู่ จะเป็นความรักในเครื่องใช้ไม้สอย ในหน้าที่การงาน ความรักต่อครอบครัว หรือต่อประเทศชาติ หากพร้อมจะยอมทิ้ง หรือยอมเสียและเปลี่ยนได้เสมอ ความรักไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับทางโลก จิตใจเป็นอิสระ ปราศจากความผูกพันภายใน แต่นั่นหาได้หมายความว่า นักบวชจะต้องเป็นผู้ไร้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นก็หามิได้ หากแต่ว่าเขายิ่งรักยิ่งรู้จักรักษาข้อปฏิญาณความยากาจนอย่างครบครัน สารัตถะแห่งความยากจน คือนักบวชไม่ถือสิ่งใดเป็นกรรมสิทธิ์ โดยมิได้รับอนุญาตหรือความเห็นชอบของผู้ใหญ่ และข้อต่อมาคือไม่มีสิ่งใดเป็นของตัวและไม่รักสิ่งใดๆ แต่ยอมเสียสละทุกอย่าง ทิ้งทุกอย่างตามอาณัติของผู้ใหญ่
พวกเขาแทบจะไม่ได้สนทนากับเราเลย เขาปล่อยใจวอกแวก มึนชา คิดถึงแต่การงาน เป็นห่วงครอบครัว มีเรื่องขัดข้องต่างๆ คิดถึงสุขภาพ คิดถึงปัญหาร้อยแปด แต่กับเรา ไม่รู้จักพูดอะไรเลย มีแต่เบื่อหน่าย อยากไปเร็วๆ
โอ้... วิญญาณที่รัก เราเลือก เราเรียก และคอยลูกทั้งวันทั้งคืนด้วยความหวัง แต่ลูกต้อนรับเราดังนี้หรือ? แท้จริงเราคอย ใคร่จะพักผ่อนในวิญญาณของเขา จะได้มีความบรรเทาบ้าง ได้ตระเตรียมพระคุณใหม่ๆ ไว้สำหรับเขา แต่เขาไม่อยากได้ เขาไม่ขออะไรเลย คำแนะนำหรือพละกำลังก็ไม่ขอ ได้แต่บ่น แต่ไม่มาหาเรา ถ้ามาก็มาพอเป็นพิธี หรือมาเพราะความเคยชินหรือเพราะไม่มีบาปหนักเท่านั้น มิได้มาเพราะความรัก ไม่คนใจที่จะสนิทกับเราจริงๆ เราต้องการความรักที่สดชื่น แต่เขาไม่มีจะให้เรา...
ชอบตรงนี้มากเลยครับแล้วก็ตรงนี้ด้วยครับพระมารดาของเราเป็นมนุษย์รู้ตาย แต่ทรงความบริสุทธิ์ปราศจากความมัวหมอง พวกลูกก็อาจบำเพ็ญตนเยี่ยงพระมารดาของเราได้ พระมารดามิใช่บุคคลที่ไร้ความทุกข์ยาก แต่เป็นพรหมจารีนิรมลทุกขณะตลอดชีพ พระมารดาผู้เดียวเป็นเกียรติแก่เรายิ่งกว่าเทวดาในสวรรค์รวมกัน อนึ่งที่เราลงมารับเอาเนื้อหนังในครรภ์พระมารดา และสถิตอยู่ในนั้น ก็เพราะความบริสุทธิ์ของพระนางนั่นเอง
ชอบมากครับ ตรงนั้น อาแมน อัลเลลูยา