Gospel of John

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร มิ.ย. 21, 2005 5:08 am

I just got a big assignment. I have to teach the gospel of John to a new catholic. What I'll do is just to give her the outline and talk about the main points that I know so that she can later study and read by herself.

I know there may be some comments afterwards that I shouldn't do that. Traching a gospel is too hard for me. I accept that ka... But what I'll do is just to teach what I know... and to help this woman as much as I can. What I'll do is not only to help her understand the Bible but to help her to be healed. ..... Her dad is a protestant minister but he left the family since she was 9. Since then, she couldn't go to church because she missed her dad. She just cried everytime she went to church so she just stopped going to church. Now she is 40. .... God brought her to the catholic church. .... But she's got problem with the Bible... In fact, Bible is her dad. .... It's the symbol of her dad. ..... So, she just cannot understand anything in the Bible. ..... It's kinda mental retardation.

I'd like to get any suggestion about this.... Maybe the resources would be helpful for me. ..... What I'll do for the first time is to give her the outline and try to help her see the big picture.... and then I'll focus on the seven signs of Jesus in the gospel. ..... and also link to the catechism. What else can I do? Does anyone here have any interesting teaching strategy? Pictures would also be helpful... but I just don't know the resources.

I need suggestion na ka... please...se.. :-*
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ อังคาร มิ.ย. 21, 2005 5:13 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร มิ.ย. 21, 2005 5:20 am

I also have a slide that tells 'who's John?.... This is just want to introduce her what are frequently mentioned about St. John. Can anyone just check and correct them? or add anything about St. John that is helpful for the beginner?

- He wrote the forth gospel.
- The best loved disciple of Jesus
- He took care of Mother Mary
- He leaned over Jesus at the Last Supper
- The only disciple who was not martyred
- He also received the Revelation.

Thanks ja... :)
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ อังคาร มิ.ย. 21, 2005 5:23 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร มิ.ย. 21, 2005 5:59 am

น้องบัดดี้ น่าจะ ให้ แนะนำ พระคัมภีร์ทั้งเล่ม 73 เล่ม คือ พระคัมภีร์เดิม 39 + 7 ( อธิกธรรม หรือสาระบบรอง ) และไป New Testament 27 เล่ม

-ให้รายละเอียดคร่าวๆแต่ละเล่ม ว่ามีเนื้อหาอย่างไร ซึ่งคงจะใช้เวลา สัก หนึ่งชั่วโมง

-แล้วมาที่ พระคัมภีร์ยอห์น ให้ ความเข้าใจเบื้องต้น ถึง บุคลิกของ ยอห์น และหนังสือที่พระจิตทรงทำให้นิพนธ์ เล่มอื่นๆ ( ๑-๓ ยอห์น และวิวรณ์ )

-ในหนังสือยอห์น จะมีประเด็นสำคัญมากๆหลายประเด็น และที่เราเชื่อว่า เป็น Prophet มาก่อนพระเยซู ทรงมาเพื่อเตรียมทางให้พระเยซู

Outline of Contents

Prologue ( 1.1-18 )
John the Baptist and the first disciples of Jesus ( 1.9-51 )
Jesus' public ministry ( 2.1-12.50 )
The last days in and near Jerusalem (13.1-19.42 )
The resurrection and appearances of the Lord ( 20.1-31 )
Epilogue: another appearance in Galilee ( 21.1-25 )


และคงนำบางบทมาอภิปราย หัวใจสำคัญ

เช่น ในบทที่ ๒ งานสมรสที่หมู่บ้านคานา ในเรื่องนี้ ก็จะเห็นการอัศจรรย์แรก ที่ทรงเปลี่ยนน้ำ เป็นเหล้าองุ่น และเรื่องแม่พระ ที่คาทอลิก วิงวอนผ่านพระนาง ก็นำบทนี้มาเป็นบทหลัก

แล้วย้ายไปบทที่ ๓ เรื่องนิโคเดมัส หัวใจอยู่ที่ ข้อ ๑๖
บทที่ ๔ ทรงทำพันธกิจ กับผู้หญิง โสเภณี ที่บ่อน้ำ
บทที่ ๘ ทรงทำพันธกิจกับสตรีที่ล่วงปะเวณี
บทที่ ๑๑-๑๒.๘ ทรงทำการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่มากที่ ชุบชีวิตลาซารัส ที่ถูกฝังสี่วันแล้วให้ฟื้นขึ้นมา
บทนี้จะเป็นบทที่สำคัญ เรื่องสัมพันธภาพ เป็นมิตรสหาย กับ สามพี่น้อง ( ดูลูกา ๑๐.๓๘-๔๒ )
บทที่ ๑๓ ทรงล้างเท้าสาวก
บทที่ ๑๔ ทรงประกาศว่าพระองค์เป็นทางไปสู่พระบิดา
บทที่ ๑๕ ทรงประกาศถึงความสำคัญที่เราต้องสนิทกับพระองค์ เพราะพระองค์คือเถาองุ่นแท้

เมื่อมาถึงบทท้ายๆมรณะกรรมของพระเยซู ควรจะไปเปิด พระวรสาร อีก ๓ เล่ม ประกอบค่ะ
ให้ดู DVD เรื่อง The Passion of the Christ ก็น่าจะดี

-ส่วนเรื่องการอัศจรรย์ การรักษาโรค มีมากมาย ให้ยกบางเรื่องมาอภิปรายกัน

ขอพระเจ้าทรงอวยพรค่ะ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร มิ.ย. 21, 2005 12:13 pm

P' Prodpran,

Thank you so much for your suggestion!! I like your outline and the theme that should be discussed. The seven signs I mentioned are

1. Wedding at Cana: Water into Wine (Jn 2:1-11)
2. Jesus heals a Gentile
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร มิ.ย. 21, 2005 12:16 pm

P' Minnie,

Thank you so much ka... :) I'll look at those resources.. :) Well, did you have a hard time when you first read the Bible? How could you overcome that?
minnie

อังคาร มิ.ย. 21, 2005 9:16 pm

Buddy เขียน: P' Minnie,

Thank you so much ka... :) I'll look at those resources.. :) Well, did you have a hard time when you first read the Bible? How could you overcome that?

แฮะๆๆ แรกๆๆเลยค่ะ อ่านพระวารสารทั้งสี่ ไม่มีความรู้มาก่อน
วันเดียวจบ

อ่านพระวารสาร ประมาณสี่รอบค่ะ

สนุกดีค่ะ ไม่น่าเบื่อ เพราะร้อนรนหรือเปล่าไม่รู้

เวลากลุ้มใจหาทางออกไม่ได้
จะอธิฐาน และเปิด มั่วๆๆ หนังสือพระวารสาร

ก็จะเจอทางออก ที่แก้ปัญหาได้

แปลกเหมือนกันน๊ะ


เอาละสิ

คราวนี้อ่าน Holy bible โห

ขึ้นมา พันธสัญญาเก่าก่อน ความเห็นส่วนตัวค่ะ

ยากค่ะ อ่าน อ่านไปต้องคิดไปด้วย ตามด้วย ง่วงนอนค่ะ

ก็ใช้วิธีอ่านให้ได้ทุกวัน วันละหน้า สองหน้าก็ยังดี

แต่ต้องเข้าใจ ที่อ่านด้วย ค่ะ :D

พันธสัญญาเก่า ยากจัง :D
ไม่เข้าใจก็ถามแถวนี้ค่ะ แฮะ แฮะ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ มิ.ย. 22, 2005 9:49 am

P' Minnie,

Thanks a lot for that ka... At first, I was so surprised that she just didn't even open the Bible. As I've seen people in thw webboard, everyone is just appreciating the Bible..... I just understood her that she has got the trauma..... and the Bible is just the symbol of her dad who left her when she was young.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ มิ.ย. 22, 2005 10:02 am

More question ka!!

For the first sign of Jesus at Cana, I've got the following description from New American Bible:

The first sign is the transformation os water into wine at Cana; this represents the replacement of the Jewish ceremonial washings and symbolizes the entire creactive and transforming work of Jesus....

What is Jewish ceremonial washings? ....... Is it important? Or just focus on Mary Intercession for Jn 2:1-11?

Thanks ka...
minnie

พุธ มิ.ย. 22, 2005 10:40 am

More question ka!!

For the first sign of Jesus at Cana, I've got the following description from New American Bible:

The first sign is the transformation os water into wine at Cana; this represents the replacement of the Jewish ceremonial washings and symbolizes the entire creactive and transforming work of Jesus....

What is Jewish ceremonial washings? ....... Is it important?

พิธีล้างของชาวยิว แฮะๆๆไม่ทราบค่ะ เดี๊ยวไปถามพ่ออะ :D

Or just focus on Mary Intercession for Jn 2:1-11?

ที่เห็นคือ โฟกัส พระแม่มารีย์ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พระแม่มีความสำคัญอย่างไร
แต่เมื่ออ่านพระวารสาร กะดูหนังแล้ว เลยเข้าใจยิ่งขึ้นค่ะ

หลังจากพระเยซู อดอาหาร สี่สิบวัน และลงมาจากเขา ก็มีศิษย์สองคนตามพระองค์มา เค้าเรียกพระองค์ว่ารับบี
ก็ตามพระองค์มาถึงบ้าน พระองค์กลับมาบ้าน นอนสลบไปสองวันสองคืน ตื่นขึ้นมา

แม่พระก็โชว์ของขวัญให้ดู นี้คือของขวัญKing แฮโรด เมื่อลูกเกิด ท่านประธานมาให้ ปุโรหิต ได้ตามดวงดาวมา

พระเยซูก็บอกว่า แม่ยังไม่ถึงเวลา

แม่พระชวนพระเยซูไปงานสมรสหมู่บ้านคานา ศิษย์สองคนแรกที่ตามพระองค์มา ใจจริง เค้าคิดว่าต้องการให้พระองค์ปลดปล่อยอิสระเอล จาก โรม และเห็นพระเยซูรื่นเริงในงานเลี้ยง ทำให้เค้ารู้สึกไม่เชื่อใจว่าตามใครมา

พอดีเหล้าองุ่นหมด แม่พระก็บอกให้พระยซู จัดการให้ และพระเยซูบอกว่า แม่ยังไม่ถึงเวลา
แม่พระบอกว่า ทำซะ ทำให้คนที่ตามลูกมาเค้าเห็น

พระเยซูก็เลยเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น เป็นการสร้างมหัศจรรย์ครั้งแรกค่ะ

อันนี้ดูหนังมอะ :D
Buddy.

พุธ มิ.ย. 22, 2005 11:38 am

หลังจากพระเยซู อดอาหาร สี่สิบวัน และลงมาจากเขา ก็มีศิษย์สองคนตามพระองค์มา เค้าเรียกพระองค์ว่ารับบี
ก็ตามพระองค์มาถึงบ้าน พระองค์กลับมาบ้าน นอนสลบไปสองวันสองคืน ตื่นขึ้นมา

แม่พระก็โชว์ของขวัญให้ดู นี้คือของขวัญKing แฮโรด เมื่อลูกเกิด ท่านประธานมาให้ ปุโรหิต ได้ตามดวงดาวมา

พระเยซูก็บอกว่า แม่ยังไม่ถึงเวลา


Err.. P' Minnie ka.. This is strange na ka... Jesus said .. This is not my time.. to Mother Mary at the wedding at Cana in Galilee... The movie might be exaggerated.. :)

Anyway, thanks a lot for asking this from the priest ka... In fact, I don't understand what it means by 'creative and transforming work of Jesus'.... and how it relates to the Jewish washings.

Thanks again ka... :)
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 22, 2005 12:29 pm

พี่บัดดี้ให้หนูขี่ม้าสามศอกไปบอกพี่พีพี มาตอบต่อฮะ 8)
minnie

พุธ มิ.ย. 22, 2005 5:54 pm

Err.. P' Minnie ka.. This is strange na ka... Jesus said .. This is not my time.. to Mother Mary at the wedding at Cana in Galilee... The movie might be exaggerated..

แง๊ๆๆๆๆ อันนี้ให้ท่านผู้รู้ตอบได้มะค่ะ
แง๊ๆๆๆ พี่มีความรู้น้อยนิด พยายามหัดตอบ
ถ้าตอบผิดก็ไม่เป็นผลดีเลย :(
ขอโทษด้วยค่ะ :D
minnie

พุธ มิ.ย. 22, 2005 5:55 pm

What is Jewish ceremonial washings? ....... Is it important?

In fact, I don't understand what it means by 'creative and transforming work of Jesus'.... and how it relates to the Jewish washings.

อันนี้พี่งงแล้วอะ :D

รอท่านผู้รู้มาตอบเน๊อะ เน๊อะ :D
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 22, 2005 6:58 pm

ยอห์น บทที่ ๒

2:1 วันที่สามมีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาแคว้นกาลิลี และมารดาของพระเยซูก็อยู่ที่นั่น
2:2 พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้รับเชิญไปในงานนั้น
2:3 เมื่อเหล้าองุ่น {เครื่องดื่มที่ชาวปาเลสไตน์ดื่มกันเป็นประจำ แม้ว่าในพระคริสตธรรมคัมภีรไม่บัญญัติห้ามดื่มเหล้าองุ่น แต่ก็มีคำเตือน ไม่ให้ดื่มเหล้าองุ่นจนเกิดความเสียหาย} หมดแล้ว มารดาของพระเยซูทูลพระองค์ว่า "เขาไม่มีเหล้าองุ่น"
2:4 พระเยซูตรัสกับนางว่า "หญิงเอ๋ย ให้เป็นธุระของข้าพเจ้าเถิด เวลาของข้าพเจ้ายังไม่มาถึง"
2:5 มารดาของพระองค์จึงบอกพวกคนใช้ว่า "จงกระทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิด"
2:6 มีโอ่งหินตั้งอยู่ที่นั่นหกใบตามธรรมเนียมการชำระของพวกยิว จุน้ำโอ่งละสี่ห้าถัง
2:7 พระเยซูตรัสสั่งเขาว่า "จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็มเถิด" และเขาก็ตักน้ำเต็มโอ่งเสมอปาก
2:8 แล้วพระองค์ตรัสสั่งเขาว่า "จงตักเอาไปให้เจ้าภาพเถิด" เขาก็เอาไปให้
2:9 เมื่อเจ้าภาพชิมน้ำที่กลายเป็นเหล้าองุ่นแล้ว และไม่รู้ว่ามาจากไหน (แต่คนใช้ที่ตักน้ำนั้นรู้) เจ้าภาพจึงเรียกเจ้าบ่าวมา
2:10 และพูดกับเขาว่า "ใครๆเขาก็เอาเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อได้ดื่มกันมากแล้วจึงเอาที่ไม่สู้ดีมา แต่ท่านเก็บเหล้าองุ่นอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้"
2:11 นี่เป็นการกระทำอันเป็นหมายสำคัญครั้งแรกของพระเยซู ทรงกระทำที่บ้านคานาแคว้นกาลิลี และได้ทรงสำแดงพระสิริของพระองค์ และสาวกของพระองค์ก็ได้วางใจในพระองค์


----------------------------------------------------------------

หมายสำคัญครั้งแรกของพระเยซู (2:1-11)

   การอัศจรรย์ครั้งแรกของพระเยซูในพระกิตติคุณยอห์นเป็นการอัศจรรย์ที่เป็นส่วนตัว คือ พวกสาวก, คนใช้บางคนและมารดาของพระเยซูเท่านั้นที่ได้เห็น ถ้ามัทธิวไม่ได้ถูกเรียกเป็นสาวกคนแรก นี่อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมการอัศจรรย์นี้ไม่ปรากฏในพระกิตติคุณพ้อง ในบรรดาผู้เขียนพระกิตติคุณสี่คน ยอห์นเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นั่น ยอห์นใช้คำว่า หมายสำคัญ (เซเมออน ข้อ 11) เพราะเขาไม่ต้องการให้ผู้อ่านเอาใจจดใจจ่อที่การอัศจรรย์และเพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ การอัศจรรย์เป็นสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจ (เทรัส) และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยฤทธิอำนาจ (ไดนามิส) และเป็นเหตุการณ์แปลก (พาราโดซอส)

   การเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่นเป็นการอัศจรรย์แรกในบรรดาการอัศจรรย์ 35 ประการของพระเยซู (ดูตารางการอัศจรรย์ของพระเยซู, สถานที่, และข้ออ้างอิงในพระกิตติคุณ)

   2:1 คำว่า ในวันที่สาม คงหมายถึงสามวันหลังจากที่พระเยซูเรียกฟิลิปและนาธันเอล (ลำดับของวันได้จากคำว่า วันรุ่งขึ้นใน 1:29, 35, 43) การเดินทางจากเมืองเบธานีใกล้เยรีโคในแคว้นยูเดีย (1:28) ไปถึงเมืองคานาในกาลิลีใช้เวลาประมาณสองวัน เมืองคานาอยู่ใกล้เมืองนาซาเร็ธ แต่เราไม่ทราบสถานที่ตั้งแน่ชัด มารดาของพระเยซูก็อยู่ที่นั่น แต่ยอห์นไม่ได้บันทึกชื่อของเธอ (ดู 2:12; 6:42; 19:25-27) ในพระกิตติคุณของยอห์น เขาไม่เคยบันทึกชื่อของตัวเองและชื่อของมารดาพระเยซูเลย (มารดาของพระเยซูไปอยู่กับยอห์นสาวกที่พระเยซูทรงรัก 19:27)

   2:2-3 งานเลี้ยงสมรสของคนตะวันออกมักจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน หลังจากงานเลี้ยง เจ้าบ่าวก็จะพาเจ้าสาวไปบ้านของเขาหรือบ้านของพ่อเขาก่อนที่จะอยู่กินกันอย่างสมบูรณ์ เมื่อเหล้าองุ่นหมด มารีย์หันไปหาพระเยซูโดยหวังว่าพระองค์จะแก้ปัญหาได้ มารีย์คิดว่าพระเยซูจะกระทำการอัศจรรย์หรือ? ถ้าเราพิจารณาจากข้อ 11 มารีย์คงไม่ได้คิดเช่นนั้น มารีย์ยังไม่เคยเห็นลูกชายของเธอกระทำการอัศจรรย์เลย

   2:4-5 คำว่า หญิงเอ๋ย หมายถึงมารดาของพระองค์ ผู้อ่านในสมัยปัจจุบันคงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพระเยซูจึงใช้คำนี้ แท้จริงคำนี้แสดงถึงความสภาพอ่อนน้อมและเมตตา (ดู 19:26) อย่างไรก็ตาม คำว่า ให้เป็นธุระของข้าพเจ้าเถิด ในภาษาอังกฤษใช้คำที่มีความหมายว่า ทำไมจึงให้ข้าพเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง คำนี้แปลมาจากคำสำนวนภาษากรีกที่หมายถึงการเข้าสู่ความสัมพันธ์ หรืออาณาจักรอื่นที่ไม่ใช่ของเรา มารใช้คำนี้เมื่อมันเผชิญหน้ากับพระเยซู (ท่านมายุ่งกับเราทำไม มก. 1:24 พระองค์มายุ่งกับข้าพระองค์ทำไม มก. 5:7)

มารีย์ต้องเรียนรู้บทเรียนที่เจ็บปวด (ดู ลก. 2:35) นั่นคือพระเยซูต้องกระทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าพระบิดา และเวลาที่จะสำแดงพระหัตถ์ของพระบิดายังมาไม่ถึง เวลาของข้าพเจ้ายังไม่มาถึง หรือคำที่คล้ายกันนี้ในยอห์น (2:4; 7:6, 8, 30; 8:20) ต่อมายอห์นบันทึกถึงสามครั้งว่าเวลาของพระองค์มาถึงแล้ว (12:23; 13:1; 17:1)

การตอบสนองของมารีย์ที่พูดกับคนใช้ว่าจงกระทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิดแสดงให้เห็นถึงการยอมจำนนต่อลูกชายของเธอ แม้ว่ามารีย์จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่เธอก็เชื่อวางใจ

   2:6-8 น้ำในโอ่งหินหกใบ (ใบละ 20-30 แกลลอน) มีไว้สำหรับพิธีชำระก่อนและหลังอาหาร (ดู มธ. 15:1-2) ความตรงกันข้ามระหว่างระเบียบพิธีเก่ากับวิธีใหม่เป็นสิ่งที่ยอห์นเน้นในที่นี้ (ดู ยน. 4:13; 7:38-39)

   บางทีโอ่งน้ำอาจจะอยู่ข้างนอก เจ้าภาพคือผู้ที่รับผิดชอบงานเลี้ยงจึงไม่รู้ว่าเขาดื่มน้ำจากโอ่งน้ำที่ใส่น้ำชำระสำหรับพวกยิวแล้ว การทำเช่นนี้เรื่องที่พวกเขาไม่นึกไม่คิด เมื่อคนใช้เทน้ำออกจากโอ่งน้ำชำระ น้ำนั้นก็กลายเป็นเหล้าองุ่น

   2:9-10 เมื่อเจ้าภาพชิมน้ำที่กลายเป็นเหล้าองุ่นแล้ว เขาพบว่าเหล้าองุ่นนี้ดีกว่าเหล้าองุ่นที่พวกเขาดื่มกันซึ่งตรงกันข้ามกับประเพณีที่พวกเขากระทำคือเสริฟเหล้าองุ่นที่ดีที่สุดก่อนแล้วจึงเสริฟเหล้าองุ่นที่มีคุณภาพรองลงมาภายหลัง เจ้าภาพยืนยันว่าเหล้าองุ่นที่เสริฟหลังสุดนี้เป็นเหล้าองุ่นที่ดีที่สุด ความสำคัญของการอัศจรรย์นี้อยู่ที่ว่าความเชื่อคริสเตียนเหนือกว่าลัทธิยูดา พระเจ้าทรงเก็บของขวัญที่ดีที่สุดคืพระบุตรของพระองค์จนถึงบัดนี้

   2:11 ยอห์นอธิบายถึงความสำคัญของการอัศจรรย์นี้ว่าเป็นการสำแดงพระสิริของพระเยซู พระเยซูกระทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับโมเสสซึ่งเปลี่ยนน้ำเป็นเลือดอันเป็นสัญลักษณ์ของการพิพากษาของพระเจ้า (อพย. 7:14-24) พระเยซูนำความชื่นชมยินดีมาสู่มนุษย์ การอัศจรรย์ครั้งแรกของพระเยซูเล็งให้เห็นถึงความชื่นชมยินดีที่พระองค์จะนำมาให้โดยทางพระวิญญาณ หมายสำคัญนี้ชี้ให้เห็นว่าพระเยซูเป็นพระวาทะในสภาพของเนื้อหนังผู้ทรงเป็นพระผู้สร้างที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ แต่ละปีการเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่นต้องกระบวนการทางการเกษตรและการหมัก ที่นี่พระองค์ย่นกระบวนการนั้นเป็นช่วงเวลาในพริบตา เหล้าองุ่นอย่างดี 120 แกลลอนเป็นของขวัญสำหรับคู่บ่าวสาว การอัศจรรย์ครั้งแรกเป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งชี้ให้เห็นถึงพันธกิจแห่งการเปลี่ยนแปลงที่พระเยซูจะกระทำในโลก (ดู 2 คร. 5:17)

สาวกของพระองค์ก็ได้วางใจในพระองค์ ความเชื่อครั้งแรกนี้จะถูกทดสอบและพัฒนาขึ้นโดยการสำแดงของพระวาทะคือพระเยซูที่ทำให้พวกเขารู้จักพระองค์มากขึ้นในตอนนี้พวกเขาไม่เข้าใจเรื่องการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นของพระองค์ (ยน. 20:8-9) แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขายังไม่รู้ว่าพระองค์มฤทธานุภาพเพียงใด

( จาก The Bible Knowledge Commentary )
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 22, 2005 7:02 pm

ศาสนาใหม่ของพระเยซู   

ในบทที่ 1 ยอห์นได้แนะนำว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า ผู้ทรงทำให้พันธสัญญาเดิมสำเร็จ (*5.1) ต่อมาในตอนแรกของหกตอนที่ยอห์นแสดงถึงเรื่องพระเยซูทรงเป็นใคร และเรื่องชีวิตนิรันดร์ที่พระองค์ทรงนำมานี้ ท่านเน้นว่าศาสนาใหม่ที่พระเยซูทรงนำมายิ่งใหญ่กว่าศาสนาเก่าคือศาสนายิวอย่างมาก โดยแทนที่ความไม่เพียงพอของศาสนายิวนั้น พระเยซูทรงประทานการบังเกิดใหม่ให้สามารถเข้าสู่ชีวิตใหม่ และการนมัสการแบบใหม่ของแผ่นดินของพระเจ้า

1 หมายสำคัญครั้งแรก ทรงเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น (2:1-12)

   คำว่า
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 22, 2005 7:08 pm

หมายสำคัญและบทสนทนา (Signs and Discourses)

หมายสำคัญ (Signs)

   พระกิตติคุณยอห์น การอัศจรรย์บางส่วนใช้คำว่า
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ มิ.ย. 22, 2005 10:59 pm

minnie เขียน: Err.. P' Minnie ka.. This is strange na ka... Jesus said .. This is not my time.. to Mother Mary at the wedding at Cana in Galilee... The movie might be exaggerated..

แง๊ๆๆๆๆ อันนี้ให้ท่านผู้รู้ตอบได้มะค่ะ
แง๊ๆๆๆ พี่มีความรู้น้อยนิด พยายามหัดตอบ
ถ้าตอบผิดก็ไม่เป็นผลดีเลย :(
ขอโทษด้วยค่ะ :D
Oh... no problem ka.. P' Minnie.. :) In fact, I really appreciate that you reply me... :) I am so stressful rcently... I really need someone to talk to and I'm glad you talk to me... :)
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ มิ.ย. 22, 2005 11:01 pm

P' Prodpran,

Thank you very much for your information ka.... I'm sorry if you had answered this but I just didn't see it... I'd like to know about what is the jewish washing related to the transforming work of Jesus. .. Is this transforming work of Jesus related to 'Transubstantiation'? Or it's simply just ... Jesus can transform us?

Thank you so much ka... :)
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ มิ.ย. 22, 2005 11:18 pm

[quote]
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2005 12:33 am

เรื่องการตีความเรื่องมารีย์ ของ คริสตังและคริสเตียนจะแตกต่างกันค่ะ เป็นที่รู้ๆ อยู่

---------------------------------------------------------------------

พี่จะสรุป การล้างเท้า ธรรมเนียมของยิว และของพระเยซู

ดูในยอห์น ๑๓ .๑-๑๗ ประกอบค่ะ

-การล้างเท้าให้สาวกของพระเยซู เป็นการกระทำที่ถ่อมพระทัยอย่างยิ่ง

-เพราะปกติเป็นหน้าที่ของทาส ที่มีตำแหน่งต่ำที่สุด

-ดังนั้นการล้างเท้าจึงเป็นแบบอย่างที่อัศจรรย์สำหรับพวกเรา

-ประเด็นสำคัญในบทนี้ไม่ใช่อยู่ที่การถ่อมใจแค่นั้น กุญแจไข ความหมาย คือ "พระองค์ทรงรักสาวกจนถึงที่สุด" ความรักถึงที่สุดของพระองค์ต่อสาวกนั้น ไม่ได้อยู่ที่การล้างเท้าให้ แต่อยู่
ที่ยอมวายพระชนม์ บนไม้กางเขนเพื่อพวกเขา

-ชาวยิวมีประเพณีการล้างเท้าปกติ ชาวยิว ทำกับแขกเมื่อเขามาถึงบ้าน

- แต่การกระทำของพระเยซูไม่ได้ไปตามประเพณี เพราะว่าล้างเกิดขึ้น หลังจากเริ่มรับประทานอาหารแล้ว

-พระเยซูทรงมีพระประสงค์ของการล้างเท้ามีความหมายสำคัญกว่าการเป็นแบบอย่างที่ดี โดยทรงยืนยันว่า สาวกต้องยอมรับการปรนนิบัติ เพื่อได้รับความรอด ( ข้อ ๘ )

- พระเยซูทรงชี้ให้เห็นถึงการมรณกรรมของพระองค์จะเกิดขึ้นภายในหนึ่งวัน และทรงอธิบายให้พวกเขารู้ความหมายของมรณกรรมนั้น บนไม้กางเขนพระเยซูทรงอยมรับสภาพทาส และทรงถ่อมพระองค์ จนถึงมรณา ( ฟิลิปปี ๒.๖-๘ )

สรุป การล้างเท้าให้สาวก ก็เป็นคำอุปมา มีความหมายที่เล็งถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์
โดยเน้นว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ เพื่อประโยชน์ของสาวก เพราะพระองค์ทรงรักพวกเขา ( รม.๕.๘ )

การล้างเท้าของพระเยซู เขียนไว้ที่ ๑ ยอห์น ๑.๑๗

" พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า ก็ชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น "
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2005 3:10 am

ยน 2:1-12 งานสมรสที่หมู่บ้านคานา

รูปภาพ

2 (1)สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น (2)พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย (3)เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2005 3:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2005 3:48 am

เรื่องการล้างเท้าในพระวรสารนักบุญยอห์นโดยคณะกรรมการพระคัมภีร์ครับ :D

http://www.catholic.or.th/homily/goodne ... di011.html
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2005 5:22 pm

ขอบคุณฮับ พี่โฮลี่ *thx *no1
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ot@
~@
โพสต์: 989
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2005 6:54 pm

ขอย้ำ กันความเข้าใจผิด เผื่อว่าใครขึ้เกียจอ่านบทความยาวๆของพี่โฮลี ;D

แม่พระไม่ได้สั่งพระเยซูว่า "ทำซะ ให้คนที่ตามมาได้เห็น" แต่เมื่อโดนปฏิเสธแม่กล่าวกับคนรับใช้ที่อยู่นั้นว่า"จงทำตามที่ท่านสั่งเถิด"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2005 6:55 pm

Ot@ เขียน: ขอย้ำ กันความเข้าใจผิด เผื่อว่าใครขึ้เกียจอ่านบทความยาวๆของพี่โฮลี ;D

แม่พระไม่ได้สั่งพระเยซูว่า "ทำซะ ให้คนที่ตามมาได้เห็น" แต่เมื่อโดนปฏิเสธแม่กล่าวกับคนรับใช้ที่อยู่นั้นว่า"จงทำตามที่ท่านสั่งเถิด"
สั้นไปไม่ได้ช่วยซักเท่าไหร่เลย :D
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 12:52 am

P' Prodpran,

Thank you so much ka... But I'm sorry that I still don't understand... I mean what I said 'this can replace the washing ceremony' was from the footnote of John 2:1-11. You know, it's not in chapter 13. .... Well, I don't have the bible with me right now.. but I'll take a look at it later ka.. ANyway, my bible is New American Bible.

K. Holy,

Thank you so much ka... especially for all the pictures. My student is a visual type of person. She doesn't understand by reading but can understand well when she sees pictures. .... I taught her yesterday.... but I'm not sure she appreciate this much. She felt it a rebuke too with the word 'Woman'... but I was trying to explain to her just that it wasthe mother-son relationship rather than a rebuke... Anyway, I didn't tell her exactly what it means by 'woman'... I'll tell her more next time I teach her ka.
minnie

ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 5:43 pm

เมื่อเช้าเข้าใจผิดกันนิดหน่อย

จ๋งจั๋ย พี่เบลอ เพิ่งตื่นค่ะ

ขอโทษน้อง OT คุณ Holy ด้วยค่ะ

ขอบพระคุณ น้องจิง สาวน้อยผู้น่ารีกอีกแล้ว :D
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:54 pm

Buddy เขียน: P' Prodpran,

Thank you so much ka... But I'm sorry that I still don't understand... I mean what I said 'this can replace the washing ceremony' was from the footnote of John 2:1-11. You know, it's not in chapter 13. .... Well, I don't have the bible with me right now.. but I'll take a look at it later ka.. ANyway, my bible is New American Bible.
<<<:ถ้าน้องบัดดี้หมายถึงข้อ ๖ "มีโอ่งหินตั้งอยู่ที่นั่นหกใบตามธรรมเนียมการชำระของพวกยิว"

ที่ พี่ตอบใน บทที่ 13 โยงไปถึง ธรรมเนียมการล้างเท้าของชาว ยิว และการล้างเท้าของพระเยซูคริสต์ ความหมายต่างกัน ความหมายของยิว ง่ายๆคือ ชำระจากสิ่งสกปรก ( ขี้ดิน ขี้ทราย ) เพราะการเดินทาง และผู้ที่ทำหน้าที่นี้คือทาส
แต่พระเยซู ทรงถ่อมพระทัย ชำระ แก่สาวก เพราะรักพวกเขาจนถึงที่สุด นั่นคือเล็งถึงการตาย บนไม้กางเขน พระโลหิต ชำระสาวก ให้เป็นผู้ชอบธรรม ไถ่ สาวกให้รอด พ้นจากความบาป

ในข้อ หกบทที่ ๒ เรื่องโอ่ง ๖ ใบ ที่ใช้ในธรรมเนียม การชำระของชาวยิว เป็นเรื่องปกติของเขา เมื่อมีงานฉลอง ก็มีโอ่ง
หกใบ ซึ่งแต่ละใบบรรจุน้ำใบละ ๒๐-๓๐ แกลลอน เพื่อไว้ชำระแขกจำนวนมาก จากการศึกษา ถ้ามีงานฉลอง เขาจะชำระ โดย ใช้น้ำราดที่มือ ของแขกที่มาร่วมงาน

------------------- เรื่องธรรมเนียมการชำระนี้ ไม่ เกี่ยว กับสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำหมายสำคัญ หรืออัศจรรย์ ครั้งแรกในงานสมรสที่บ้านคานา โดยตรง เพียงแต่ทรงใช้ภาชนะ ทั้งหมด ที่เจ้าภาพมีอยู่ ซึ่งจำนวนโอ่ง หก ใบ ก็มีน้ำ มหาศาลแล้ว ( ๓๐ คูณ ๖ = ๑๘๐ แกลลอน นั่นหมายความ เหล้าองุ่นที่พระองค์ เปลี่ยนจากน้ำธรรมดา
ตอบกลับโพส