เพื่อนผมมาถามผมว่า
ทำไมโบสถ์คาทอลิก มีรูปปั้นแม่พระไว้เด่นเลย
ทำไมคาทอลิกถึงสวดขอพระแม่มากเลย
เพื่อนผมตั้งข้อสังเกตว่า เวลาชาวคาทอลิกสวดสายประคำนั้น
จะมีบท วันทามารีย์ตั้งหลายเม็ด แต่มีบทอธิษฐานต่อพระเจ้าแค่ไม่กี่เม็ด
"ชาวคาทอลิกนี่นับถือแม่พระมากกว่าพระเจ้าหรือ"
ผมอธิบายเขาไปแล้วนะ เรื่องทำไมถึงสวดขอต่อแม่พระ (ให้ท่านอธิษฐานเพื่อเรา)
ทำไมถึงไหว้รูปปั้นได้ (ไหว้แต่ใจระลึกถึง)
แต่เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
เป็นเพราะเขาเห็นลักษณะการสวดของชาวคาทอลิกต่อพระนางมารีย์มากไปหรือเปล่า
หรือยังไง ผมไม่รู้จะอธิบายให้เขาฟังอย่างไรดี
เชร์วาล
คนอยากให้ช่วย
ขอถามอย่างหนึ่งนะครับ ช่วยตอบด้วย
ผมว่าเรื่องแบบนี้ คนเข้าใจก็เข้าใจ แต่คนไม่เปิดใจก็ไม่เข้าใจ
ถ้ายังไงลองดูบทความนี้นะครับ
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=13&t=5477
เราสวดในพระนามพระเยซุครับ ไม่ได้สวดในพระนามแม่พระ แต่แม่พระจะ "โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป" คือโปรดอธิษฐานเผื่อเรา นั่นเอง ในกรณีจำนวนนั้น เราอิงตามบทสดุดีที่มี150บท และเราถือว่าบทวันทามารีย์ เป็น บทเพลงของทูตสวรรค์+บทเพลงของพระจิต ที่แจ้งรหัสธรรมการบังเกิดของพระเจ้ารับเอากายมาเป็นมนุษย์ ถือเป็นจุดกำเนิดของคริสตชน เป็นหน้าแรกของพระธรรมใหม่ ไม่ใช่บทสรรเสริญแม่พระอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นบทสรรเสริญการบังเกิดของพระเยซูเจ้า และสรรเสริญความครบครันของพระตรีเอกภาพ
คาทอลิกนั้นมีไม้กางเขนเด่นที่สุดในวัดนะครับ ไม่ใช่รูปพระมารดามารีย์ ยิ่งไปกว่านั้น ที่จริงเรามีบทสวดสายประคำพระเยซูคนเดียวแบบล้วนๆด้วย
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=2&t=1331
ส่วนเรื่องรูปปั้นลองดูที่บทความนี้นะครับ
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=13&t=5830
ในความเป็นจริง พระศาสนจักรไม่ได้บังคับว่าต้องสวดวันทามารีย์ หรือต้องสวดสายประคำ สิ่งเหล่านี้คือ กิจศรัทธาที่เสริมเพิ่มเติม ใครอยากทำก็ทำ ไม่อยากทำไม่บาป แต่อย่างใด
แต่ตรงข้ามบทข้าแต่พระบิดานั้น เราบังคับสวดทุกมิซซา(นมัสการ)
เป็นความจริงว่า เวลาเราไปเรียน แล้วมีกิจกรรมพิเศษ สมมุติว่าตีเทนนิส แล้วนักเรียนหลายคนชอบตีเทนนิส มีเด็กไปได้แชมป์เทนนิสหลายคน เวลามีคนมาเยี่ยมโรงเรียน เห็นเด็กเยอะแยะตีเทนนิสทุกวันๆ ก็คิดว่าโรงเรียนนี้ส่งเสริมด้านเทนนิส แต่ที่จริง เด็กทุกคนมาเรียนหนังสือ แต่มีบางคนเท่านั้นแหละที่ตีเทนนิส โรงเรียนนี้สอนวิชาการแหละครับไม่ได้สอนแต่กีฬา แต่เวลาคนนึกถึงโรงเรียนนี้ก็อาจมีหลายคนที่คิดถึง เทนนิส ก่อนเป็นอันดับแรก เหมือนที่คนต่างชาติคิดถึงเมืองไทยก็คิดถึงช้าง ทั้งที่เราไม่ได้ขี่ช้างเป็นพาหนะไปทำงานไปเรียนกันทุกคนซะหน่อย ถ้ามาสัมผัสจริงๆ ไม่ใช่มองแต่ภายนอกจะเข้าใจครับ แต่คนมองฉาบฉวยภายนอกจะไม่เข้าใจและเข้าใจผิดๆ
ถ้ายังไงลองดูบทความนี้นะครับ
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=13&t=5477
เราสวดในพระนามพระเยซุครับ ไม่ได้สวดในพระนามแม่พระ แต่แม่พระจะ "โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป" คือโปรดอธิษฐานเผื่อเรา นั่นเอง ในกรณีจำนวนนั้น เราอิงตามบทสดุดีที่มี150บท และเราถือว่าบทวันทามารีย์ เป็น บทเพลงของทูตสวรรค์+บทเพลงของพระจิต ที่แจ้งรหัสธรรมการบังเกิดของพระเจ้ารับเอากายมาเป็นมนุษย์ ถือเป็นจุดกำเนิดของคริสตชน เป็นหน้าแรกของพระธรรมใหม่ ไม่ใช่บทสรรเสริญแม่พระอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นบทสรรเสริญการบังเกิดของพระเยซูเจ้า และสรรเสริญความครบครันของพระตรีเอกภาพ
คาทอลิกนั้นมีไม้กางเขนเด่นที่สุดในวัดนะครับ ไม่ใช่รูปพระมารดามารีย์ ยิ่งไปกว่านั้น ที่จริงเรามีบทสวดสายประคำพระเยซูคนเดียวแบบล้วนๆด้วย
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=2&t=1331
ส่วนเรื่องรูปปั้นลองดูที่บทความนี้นะครับ
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=13&t=5830
ในความเป็นจริง พระศาสนจักรไม่ได้บังคับว่าต้องสวดวันทามารีย์ หรือต้องสวดสายประคำ สิ่งเหล่านี้คือ กิจศรัทธาที่เสริมเพิ่มเติม ใครอยากทำก็ทำ ไม่อยากทำไม่บาป แต่อย่างใด
แต่ตรงข้ามบทข้าแต่พระบิดานั้น เราบังคับสวดทุกมิซซา(นมัสการ)
เป็นความจริงว่า เวลาเราไปเรียน แล้วมีกิจกรรมพิเศษ สมมุติว่าตีเทนนิส แล้วนักเรียนหลายคนชอบตีเทนนิส มีเด็กไปได้แชมป์เทนนิสหลายคน เวลามีคนมาเยี่ยมโรงเรียน เห็นเด็กเยอะแยะตีเทนนิสทุกวันๆ ก็คิดว่าโรงเรียนนี้ส่งเสริมด้านเทนนิส แต่ที่จริง เด็กทุกคนมาเรียนหนังสือ แต่มีบางคนเท่านั้นแหละที่ตีเทนนิส โรงเรียนนี้สอนวิชาการแหละครับไม่ได้สอนแต่กีฬา แต่เวลาคนนึกถึงโรงเรียนนี้ก็อาจมีหลายคนที่คิดถึง เทนนิส ก่อนเป็นอันดับแรก เหมือนที่คนต่างชาติคิดถึงเมืองไทยก็คิดถึงช้าง ทั้งที่เราไม่ได้ขี่ช้างเป็นพาหนะไปทำงานไปเรียนกันทุกคนซะหน่อย ถ้ามาสัมผัสจริงๆ ไม่ใช่มองแต่ภายนอกจะเข้าใจครับ แต่คนมองฉาบฉวยภายนอกจะไม่เข้าใจและเข้าใจผิดๆ