ชีวิตนิรันดรต่างกับวิญญาณเป็นอมตะหรือไม่

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 10, 2011 2:39 pm

พอดีมีคนถามผมว่า มีพระคัมภีร์ตอนใดบ้างที่บอกว่า วิญญาณของมนุย์ไม่รู้ตาย มีจุดเริ่มต้นแต่ไม่มีจุดสิ้นสุด ในคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกบอกไว้ว่า

366พระศาสนจักรสั่งสอนว่า วิญญาณอันเป็นจิตแต่ละวิญญาณ ได้รับการสร้างขึ้นมาอย่างฉับพลันทันใดโดยพระเจ้า วิญญาณไม่ได้ "ผลิต" ขึ้นมาโดยผู้เป็นบิดามารดา พระศาสนจักรยังสอนเราดัวยว่าวิญญาณเป็นอมตะ วิญญาณไม่ตายเมื่อแยกออกจากกายแล้ว ยามที่มนุษย์สิ้นชีวิต และจะรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับกายใหม่เมื่อฟื้นคืนชีพในวาระสุดท้าย (เทียบ Humani generis, DS 3896; Paul VI)

ก็ไม่เห็นจะมีการอ้างข้อความใด ๆ จากพระคัมภีร์ที่ว่าวิญญาณเป็นอมตะ หรือว่าเป็นการตีความของพระศาสนจักรเอง ส่วนคำว่า "ชีวิตนิรันดร" เป็นคำสอนที่พบได้พระคัมภีร์ โดยเฉพาะในภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาจะประทานชีวิตนิรันดรสำหรับผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า อ้าง ยน 17: 2-3 , 1 ยน 5:11-12 เป็นต้น
ผมคิดว่าชีวิตนิรันดรต่างกับความเชื่อว่าวิญญาณเป็นอมตะ เพราะ "ชีวิตนิรันดร" เป็นของประทานจากพระเจ้า ส่วน "วิญญาณเป็นอมตะ" เป็นสภาพที่เป็นอยู่แล้วตั้งแต่แรก ก็เลยทำให้มีคริสเตียนบางกลุ่มที่ยึดแต่พระคัมภีร์อย่างเดียว เชื่อว่า วิญญาณของมนุษย์โดยทั่ว ๆ ไปไม่เป็นอมตะ

เราจะมีข้อความใดจากพระคัมภีร์ที่จะยืนยันว่า "วิญญาณมนุษย์เป็นอมตะ" บ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
salvation7
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 522
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 10, 2011 4:02 pm

“เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร” (ข้อ 15)
“เชื่อในพระองค์” มีความหมายอย่างน้อย 3 ประการคือ
1. เชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นดังที่พระเยซูเจ้าบอกเรา นั่นคือ พระองค์ทรงรักเรา ห่วงใยเรา และปรารถนาจะให้อภัยเรา
ความเชื่อเช่นนี้ไม่ใช่ชาวยิวจะยอมรับได้ง่าย ๆ เพราะพวกเขามองพระเจ้าเป็นผู้ตราบทบัญญัติที่พร้อมจะลงโทษทุกคนที่ล่วงละเมิด เป็นผู้ที่เรียกร้องของถวายและเครื่องบูชามากมายจากมนุษย์ เป็นผู้พิพากษาที่จ้องจับผิดมนุษย์ ฯลฯ
และเพื่อจะบอกว่าพระเจ้าคือ “บิดา” ที่เฝ้ารอบุตรผู้หลงผิดให้กลับบ้าน พระองค์ต้องยืนยันสิ่งนี้ด้วยชีวิตของพระองค์เองบนไม้กางเขน
ดังนี้ เราจะเป็นคริสตชนไม่ได้เลยหากเราไม่เชื่อด้วยสิ้นสุดจิตใจว่า “พระเจ้ารักเรา”

2. เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ด้วยความสัมพันธ์ใกล้ชิดฉัน “พ่อลูก” นี้เอง พระองค์จึงล่วงรู้ความคิดและจิตใจของพระเจ้า และสามารถบอกความจริงทุกประการเกี่ยวกับพระเจ้าแก่เราได้
3. เชื่อฟังและนบนอบพระเยซูเจ้า เพราะทุกสิ่งที่พระองค์ตรัสล้วนเป็นความจริง เราจึงต้องเดิมพันชีวิตนิรันดรของเราด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งสอนทุกประการของพระองค์อย่างไม่มีเงื่อนไข
ทั้งหมดนี้คือ “ความเชื่อ” ที่จะนำเราไปสู่ “ชีวิตนิรันดร” !


อ่านเพิ่มเติมที่....
http://www.salvation.in.th/03marygrace/ ... 14-21.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 10, 2011 5:44 pm

ผมว่าเรื่องราวอุปมา เศรษฐีลาซารัสก็ดี
การที่กษัตริย์ซาอูลพยายามให้หมอผีติดต่อประกาศกซามูเอลที่ตายไปแล้ว
ฯลฯ

ตลอดจนพระคัมภีร์ข้อต่างๆที่อธิบายว่านรกเป็น "ไฟไม่รู้ดับ"

ค่อนข้างเป็นที่ปรากฎชัดนะครับว่า วิญญาณผู้ตาย จะต้องในการพิพากษาประมวลพร้อม
ในวันสิ้นพิภพอยู่แล้วหนิครับ

__________________________
ล่าสุดที่มาที่ไปของคำถามแล้ว


อยากบอกพี่เพชรว่า อย่าใส่ใจนายSURAWISHมากเลยครับ

ตานี่ไม่ใช่คริสตชน โบสถ์อะไรก็ไม่ได้ไป
มีแต่พยายามความรู้รอบโต๊ะคอมเอาโน่นนี่มาชนกัน
แสดงความเห็นอะไรแปลกๆ จนคนพันทิปต่างทราบกันดีครับ
ตอบกลับโพส