ลีโอนาร์โดวาดสตรีศักดิ์สิทธิ์แบบสะท้อนกระจกกับพระเยซูในThe L
ความจริงที่จะทำให้สาวกของแดนบราว์นตกตะลึงพรึงเพริด
เมื่อผมพบว่า ลีโอนาร์โอดาวินชี ได้วาดสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งคริสตศาสนา ในลักษณะการสะท้อนกลับข้างกับพระเยซูเจ้าในThe Last Supper จริงๆ
หลังจากที่ผมศึกษาแง่มุมต่างๆของงานของลีโอนาร์โดมากขึ้น เพื่อให้มีข้อมูลแน่นบั๊กที่สุด ปรากฎว่าเพราะการต้องมองภาพเหล่านี้หลายวัน ผมได้ขนลุกเมื่อพบว่า ลีโอนาร์โด ได้วาดสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งคริสตศาสนาในลักษณะสะท้อนกลับข้างกับพระเยซูเจ้า แต่เสียใจด้วยกับสาวกของ แดน บราว์น มันไม่ใช่นักบุญยอห์น ที่ถูกบิดเบือนว่าเป็น นักบุญมารีย์ มักดาเลนาหรอกนะ
แต่คือพระแม่มารีย์มารดาของพระเยซูเจ้าในภาพ พรหมจารีย์แห่งหินผา ต่างหาก
ดูสิครับแม่ลูกคู่นี้ทำท่าเดียวกัน และหันสลับกันราวกับกระจก
มือของพระแม่ที่ในนิยายบิดเบือนว่าเป็นมือที่ขยุ้มหัวใครอยู่ ถูกพิสูจน์ว่า เป็นมือแห่งการประทานพรเพราะทำท่าเดียวกับมือของพระบุตรของพระนางเป๊ะ
งานนี้ลีโอนาร์โด แก้ข้อกล่าวหาล่วงหน้าเป็นร้อยปีด้วยงานของเขาเองแล้วครับ
และเมื่อเพ่งพิศที่ใบหน้า
ช่างเหมือนกันสมเป็นแม่ลูกกัน การเอียงคอที่เท่าๆกัน การก้มหน้าและหลบตาต่ำแบบเดียวกัน และแม้แต่ทรงผมที่เป็นทรงเดียวกัน
และเมื่อผมลองกลับภาพของพระเยซูก็ตกตะลึงว่า ช่างเหมือนกันราวกับใช้ภาพร่างภาพเดียวกัน
เพียงแต่พระเยซูนั้นเผยพระโอษฐ์เล็กน้อย เพราะในฉากนี้ พระองค์กำลังตรัสถึงผู้ทรยศ
แต่มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ลีโอนาร์โด กำลังใช้ตรรกะที่มาจากพระคัมภีร์ที่ว่า ถ้าแม่คนนี้ให้กำเนิดลูกคนนี้โดยไม่มีผู้ชายคนอื่นมาเกี่ยวข้อง นั่นเท่ากับเนื้อหนังทั้งหมดมาจากแม่ เท่ากับร่างกายของพระองค์มาจากพระมารดา พระองค์ย่อมเป็นเหมือนโคลนนิ่งลักษณะทางกายภาพออกมาตรงๆจากพระแม่มารีย์ คนฉลาดอย่างลีโอนาร์โด ย่อมใช้ตรรกะนี้วาดพระเยซูเจ้าให้เป็นลูกชายที่ถอดพิมพ์แม่ออกมาเลยเป็นแน่
สตรีศักดิสิทธิ์ของคริสตศาสนาในดวงใจของลีโอนาร์โดคือพระแม่มารีย์มารดาของพระเยซูโดยไม่ต้องสงสัย และสตรีคนเดียวกันนี้กลับถูกบดบังและบิดเบือนโดยแดน บราว์น เพื่อยัดเยียดทฤษฏีสมคบคิดของตัวเอง
ทิ้งทวนด้วยภาพที่แดน บราว์น อ้างนักบุญมารีย์ มักดาลา(ที่จริงยอห์น)ว่าเป็น กระจกสะท้อนของพระเยซู เหมือนกันสู้แม่ของพระองค์ไม่ได้สักนิด ซิดซ้ายไปเลยครับ
ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเปิดตาของลูกของพระองค์ให้เห็นความจริง
ปล.ถ้าผมไปแข่งแฟนพันธ์แท้ลีโอนาร์โด ดาวินชี่ กับแดน บราว์น ผมชนะแดน บราว์นแหงๆ
เมื่อผมพบว่า ลีโอนาร์โอดาวินชี ได้วาดสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งคริสตศาสนา ในลักษณะการสะท้อนกลับข้างกับพระเยซูเจ้าในThe Last Supper จริงๆ
หลังจากที่ผมศึกษาแง่มุมต่างๆของงานของลีโอนาร์โดมากขึ้น เพื่อให้มีข้อมูลแน่นบั๊กที่สุด ปรากฎว่าเพราะการต้องมองภาพเหล่านี้หลายวัน ผมได้ขนลุกเมื่อพบว่า ลีโอนาร์โด ได้วาดสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งคริสตศาสนาในลักษณะสะท้อนกลับข้างกับพระเยซูเจ้า แต่เสียใจด้วยกับสาวกของ แดน บราว์น มันไม่ใช่นักบุญยอห์น ที่ถูกบิดเบือนว่าเป็น นักบุญมารีย์ มักดาเลนาหรอกนะ
แต่คือพระแม่มารีย์มารดาของพระเยซูเจ้าในภาพ พรหมจารีย์แห่งหินผา ต่างหาก
ดูสิครับแม่ลูกคู่นี้ทำท่าเดียวกัน และหันสลับกันราวกับกระจก
มือของพระแม่ที่ในนิยายบิดเบือนว่าเป็นมือที่ขยุ้มหัวใครอยู่ ถูกพิสูจน์ว่า เป็นมือแห่งการประทานพรเพราะทำท่าเดียวกับมือของพระบุตรของพระนางเป๊ะ
งานนี้ลีโอนาร์โด แก้ข้อกล่าวหาล่วงหน้าเป็นร้อยปีด้วยงานของเขาเองแล้วครับ
และเมื่อเพ่งพิศที่ใบหน้า
ช่างเหมือนกันสมเป็นแม่ลูกกัน การเอียงคอที่เท่าๆกัน การก้มหน้าและหลบตาต่ำแบบเดียวกัน และแม้แต่ทรงผมที่เป็นทรงเดียวกัน
และเมื่อผมลองกลับภาพของพระเยซูก็ตกตะลึงว่า ช่างเหมือนกันราวกับใช้ภาพร่างภาพเดียวกัน
เพียงแต่พระเยซูนั้นเผยพระโอษฐ์เล็กน้อย เพราะในฉากนี้ พระองค์กำลังตรัสถึงผู้ทรยศ
แต่มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ลีโอนาร์โด กำลังใช้ตรรกะที่มาจากพระคัมภีร์ที่ว่า ถ้าแม่คนนี้ให้กำเนิดลูกคนนี้โดยไม่มีผู้ชายคนอื่นมาเกี่ยวข้อง นั่นเท่ากับเนื้อหนังทั้งหมดมาจากแม่ เท่ากับร่างกายของพระองค์มาจากพระมารดา พระองค์ย่อมเป็นเหมือนโคลนนิ่งลักษณะทางกายภาพออกมาตรงๆจากพระแม่มารีย์ คนฉลาดอย่างลีโอนาร์โด ย่อมใช้ตรรกะนี้วาดพระเยซูเจ้าให้เป็นลูกชายที่ถอดพิมพ์แม่ออกมาเลยเป็นแน่
สตรีศักดิสิทธิ์ของคริสตศาสนาในดวงใจของลีโอนาร์โดคือพระแม่มารีย์มารดาของพระเยซูโดยไม่ต้องสงสัย และสตรีคนเดียวกันนี้กลับถูกบดบังและบิดเบือนโดยแดน บราว์น เพื่อยัดเยียดทฤษฏีสมคบคิดของตัวเอง
ทิ้งทวนด้วยภาพที่แดน บราว์น อ้างนักบุญมารีย์ มักดาลา(ที่จริงยอห์น)ว่าเป็น กระจกสะท้อนของพระเยซู เหมือนกันสู้แม่ของพระองค์ไม่ได้สักนิด ซิดซ้ายไปเลยครับ
ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเปิดตาของลูกของพระองค์ให้เห็นความจริง
ปล.ถ้าผมไปแข่งแฟนพันธ์แท้ลีโอนาร์โด ดาวินชี่ กับแดน บราว์น ผมชนะแดน บราว์นแหงๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ พ.ค. 01, 2006 2:12 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
โหหห สุดยิดครับพี่ปอ นี่ซิเป็นความจริงของแท้แห่งการค้นพบที่น่าตื่นตะลึงกว่าเป็นไหน ๆ
และเป็นอัจฉริยะศิลป์ที่น่าตกตะลึกของ ดาวินชี ที่ซ่อนเอาไว้อย่างแนบเนียนด้วย
ไม่ใช่จากการตีความตามใจชอบของแดน น้ำตาล นั่น
และเป็นอัจฉริยะศิลป์ที่น่าตกตะลึกของ ดาวินชี ที่ซ่อนเอาไว้อย่างแนบเนียนด้วย
ไม่ใช่จากการตีความตามใจชอบของแดน น้ำตาล นั่น
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
เหมือนกานจริงๆด้วย
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
เหอๆ ว่าแต่ผมได้คุยกะคนๆนึง เค้าบอกว่า การที่นางมารี มักดาลา เอาผมของตนเช็ดเท้าพระเยซู เป็นการแสดงถึงความเป็นภรรยา -*- เค้าบอกว่าเป็นประเพณีของคนสมัยนั้น ผมเลยงงว่ามันมีอย่างนี้จิงหรือ อย่างไรใครเรียนวัฒนธรรมหรือทราบข้อมูลชี้แจงทีนะครับ
ขนาดผมเคยดูภาพทั้ง2มาแล้ว ยังนึกไม่ถึงอะพี่
แต่ถ้าเอาไปลงพันทึบ คงมีสาวกแดนน้ำตาล+นายถลอก มาแถอีกแน่ๆ
แต่ถ้าเอาไปลงพันทึบ คงมีสาวกแดนน้ำตาล+นายถลอก มาแถอีกแน่ๆ
ถ้าอย่างนั้น การที่พระเยซูเจ้าล้างเท้าให้สาวก และจุมพิตด้วยนี่ ไม่เป็นสามีกันเลยรึMichaelPaul เขียน: เหอๆ ว่าแต่ผมได้คุยกะคนๆนึง เค้าบอกว่า การที่นางมารี มักดาลา เอาผมของตนเช็ดเท้าพระเยซู เป็นการแสดงถึงความเป็นภรรยา -*- เค้าบอกว่าเป็นประเพณีของคนสมัยนั้น ผมเลยงงว่ามันมีอย่างนี้จิงหรือ อย่างไรใครเรียนวัฒนธรรมหรือทราบข้อมูลชี้แจงทีนะครับ
มันเป็นสัญลักษณ์แห่งการถ่อมตนมากกว่า
คำตอบสั้นๆง่ายๆMichaelPaul เขียน: เหอๆ ว่าแต่ผมได้คุยกะคนๆนึง เค้าบอกว่า การที่นางมารี มักดาลา เอาผมของตนเช็ดเท้าพระเยซู เป็นการแสดงถึงความเป็นภรรยา -*- เค้าบอกว่าเป็นประเพณีของคนสมัยนั้น ผมเลยงงว่ามันมีอย่างนี้จิงหรือ อย่างไรใครเรียนวัฒนธรรมหรือทราบข้อมูลชี้แจงทีนะครับ
การเจิมที่เบธานี คือมารีย์ แห่ง เบธานี ไม่ใช่ มารีย์ ชาว มักดาลา
การที่คำอ้างที่ไม่เกี่ยวอะไรกับมารีย์มักดาลา อันนี้ทำให้เอกคลอนได้ แสดงว่า ต้องกลับไปอ่านพระคัมภีร์อีกรอบแล้วนะ
ยน 11:1
ชายคนหนึ่งชื่อลาซารัสกำลังป่วย เขาเป็นชาวเบธานี หมู่บ้านของมารีย์ และมารธาพี่สาว มารีย์คือหญิงที่ใช้น้ำมันหอมชโลมองค์พระผู้เป็นเจ้า ใช้ผมเช็ดพระบาท ลาซารัสที่กำลังป่วยนี้เป็นพี่ชายของมารีย์
ยน 12:1 การเจิมที่เบธานี
หกวันก่อนฉลองปัสกาพระเยซูเจ้าเสด็จไปที่หมู่บ้านเบธานี ตำบลที่อยู่ของลาซารัสที่พระองค์ทรงทำให้กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย ผู้คนที่นั่นจัดงานเลี้ยงเป็นเกียรติแด่พระองค์ มารธาคอยรับใช้ ขณะที่ลาซารัสเป็นคนหนึ่งที่ร่วมโต๊ะกับพระองค์ด้วย มารีย์ใช้น้ำมันหอมสมุนไพรบริสุทธิ์ราคาแพงหนักหนึ่งปอนด์ชโลมพระบาทของพระเยซูเจ้า และใช้ผมเช็ดพระบาท กลิ่นน้ำมันหอมอบอวลไปทั่วบ้าน
--------------------------
มารีย์ ชาวมักดาลา กับมารีย์ชาวเบธานี ไม่ใช่คนเดียวกัน
ทั้ง2ถูก ตั้งเป็นนักบุญหญิง โดยมีวันฉลองระลึกถึงคนละวันกัน
วันระลึกถึง ท่านคือ 22 กรกฏาคม
นักบุญ มารีย์ มักดาลา
มารีย์ เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ที่เมืองมักดาลา ในแคว้นกาลิลีได้เข้ามารับใช้พระเยซูคริสตเจ้าหลังจากที่พระองค์ได้ทรงรักษา เธอให้หายจากโรคปีศาจสิงแล้ว ( ลก 8:2 ) เธอได้มีส่วนในการปลงพระศพของพระเยซูเจ้า และเป็นคนแรกที่ได้พบพระคริสตเจ้าหลังจากเสด็จกลับคืนชีพ
( ยน 20:11-18 ) ไม่มีเหตุผลและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวว่ามาเรีย ชาวมักดาลาเป็นหญิงคนเดียวกันกับหญิงคนบาปคนนั้น ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงประทานอภัยโทษให้ในบ้านของซีมอนฟาริสี ( ลก 7. 36-50 ) หรือกับ “มารีย์” น้องสาวของลาซารัสและมาร์ธาเลย พระศาสนจักรตะวันออกได้เคารพให้เกียรติหญิงทั้งสามนี้โดยแยกกันต่างหาก
พิธีกรรม ใหม่ของพระศาสนจักรได้พยายามชี้แสดงให้เห็นว่า “นักบุญ มารีย์ ชาวมักดาลา” เป็นผู้โชคดีคนแรกที่ได้เป็นประจักษ์พยานถึงการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า แก่บรรดาพี่น้องและเป็นพระเยซูเจ้าเองที่ได้ส่งเธอไปบอกเรื่องนี้แก่บรรดา พี่น้องของพระองค์ด้วย ( บรรดาอัครธรรมทูต )
ลก 7. 36-50 ) หรือกับ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ พ.ค. 01, 2006 10:38 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ไอ่ตัวผมไม่ได้สั่นครอนหรอกครับ แต่อยากจะเอาข้อมูลไปตอกหน้าเค้าว่า "ไอ่ประเพณีการที่ผู้หญิงเอาผมไปเช็ดเท้าผู้ชาย เป็นการแสดงความเป็นสามีภรรยากันมันไม่จริง"
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
อัลเลลูยา อัลเลลูยา อัลเลลูยา
น่าอัศจรรย์มากครับมือของพระแม่ที่ในนิยายบิดเบือนว่าเป็นมือที่ขยุ้มหัวใครอยู่ ถูกพิสูจน์ว่า เป็นมือแห่งการประทานพรเพราะทำท่าเดียวกับมือของพระบุตรของพระนางเป๊ะ
เป็นไปได้แบบไม่น่าเชื่อ
เป็นไปได้แบบไม่น่าเชื่อ
พระเจ้าอาจกำลังซ้อนแผนมารก็ได้
แต่ก็เหมือนกว่า มารีย์ มักดาเลนาปลอมมากมายนะครับดูดี เขียน: หน้าผากไม่เหมือน คิ้วก็ไม่เหมือน
ที่สำคัญ คิ้วนั้น พระเยซูเจ้าคิ้วทรงเศร้า เพราะกำลังตรัสถึงผู้ทรยศ
และหน้าผากที่มากกว่าของพระแม่ เป้นลักษณะสัดส่วนใบหน้าของผู้หญิงที่หน้าส่วนบนมีสัดส่วนที่มากกว่าเมื่อเทียบกับหน้าของผู้ชาย สิ่งนี้ยิ่งยืนยันว่า คนข้างๆพระเยซูนั้นถึงหน้าจะหวานแต่เป็นสัดส่วนใบหน้าผู้ชายแน่นอนเช่นกัน
ดูภาพนี้ เห็นชัดๆว่า ใบหน้าผู้ชายมีสัดส่วนใบหน้าด้านบนเล็กกว่าผู้หญิง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่าเหมือนมาก ๆ เลยคับ
สุดยอดค่ะ อืมม น่าจัดแข่งแฟนพันธ์แท้นะ ^^
-
- โพสต์: 39
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 3:48 pm
- ที่อยู่: 168m2khaoyai chaam phetchaburi
- ติดต่อ:
ยูดาส เป็นคนทรยศจริงเหรอ จนป่านนี้ก็ยังโดนไม่เลิก ถ้ายูดาสไม่ทำงานนี้ใครจะทำ นี่คือเพื่อนที่รักพระองค์เเน่นอน
เรื่องของพระบิดา พระบุตร และพระจิต ก็มีความหมายสอคคล้องกัน
เหมือนความรัก ความดี และพลังธรรมชาติ เป็นนามธรรม ซึ่งดำรงอยู่ในหลายสถานะ
และมีอยู่ในสรรพสิ่ง และในสิ่งสารพัดที่มองเห็นได้ และมองเห็นไม่ได้ เหมือน
น้ำ ไอน้ำ และก้อนเมฆ แต่ ลีโอนาร์โด ชอบตีความตามทัศนะคติของตนซะมากกว่า
เหมือนความรัก ความดี และพลังธรรมชาติ เป็นนามธรรม ซึ่งดำรงอยู่ในหลายสถานะ
และมีอยู่ในสรรพสิ่ง และในสิ่งสารพัดที่มองเห็นได้ และมองเห็นไม่ได้ เหมือน
น้ำ ไอน้ำ และก้อนเมฆ แต่ ลีโอนาร์โด ชอบตีความตามทัศนะคติของตนซะมากกว่า
เมจิพี่รู้แล้วว่าเมจิต้องการอะไร เมจิต้องการให้ชื่อของเมจิขึ้นอยู่ทุกโพสของทุกหัวข้อใช่มั้ย
ได้... พี่จะไม่ให้ชื่อพี่ขึ้นทุกหัวข้อแล้ว เมจิอยากได้สถิตินี้เอาไปเลย ทำตามที่เมจิพอใจหรือเป็นสุข
เมจิจะเอาอะไรอีกไหมเดี๋ยวพี่จะให้ บ้าน,พ่อแม่,พี่น้อง,คอมฯ,มือถือ ฯลฯ..... บอกมา -_-''
ได้... พี่จะไม่ให้ชื่อพี่ขึ้นทุกหัวข้อแล้ว เมจิอยากได้สถิตินี้เอาไปเลย ทำตามที่เมจิพอใจหรือเป็นสุข
เมจิจะเอาอะไรอีกไหมเดี๋ยวพี่จะให้ บ้าน,พ่อแม่,พี่น้อง,คอมฯ,มือถือ ฯลฯ..... บอกมา -_-''